ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 984 อัจฉริยะสะท้านโลก

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 984 อัจฉริยะสะท้านโลก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจจิตใจของจางซู่เหรินในตอนนี้

เขาจามขวานใส่อย่างดุร้าย เกือบจะโค่นต้นจักรพรรดิสูงเทียมฟ้านั้นได้!

จางซู่เหรินเดือดดาลจนแทบกระอักเลือด ตอนนี้ได้แต่กัดฟันไว้

เขาพลันออกแรง อาศัยการระเบิดครู่สั้นๆ กระแทกตราประทับตะวันออกไปครู่หนึ่ง

จากนั้นก็ไขว้สองมือ กระบวนท่าเปลี่ยนแปลง หยุดโจมตี เปลี่ยนเป็นป้องกันอย่างสุดกำลัง

ตอนนี้รูปทรงของต้นจักรพรรดิที่ค้ำฟ้ายันดินอยู่เริ่มเป็นจริงมากขึ้น มันส่องแสงวิเศษพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ขณะนี้ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายเหมือนกับกลายเป็นต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า

ปฐพีอานิสงส์ปรากฏใต้เท้า ครอบคลุมเขามหาวิญญาณ เชื่อมต่อกับฟ้าดิน รองรับฟ้าบรรจุทุกสรรพสิ่ง

คลื่นบุญบารมีวนเวียนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไหลเวียนไม่หยุดยั้ง คงอยู่ชั่วกาลนาน

แสงม่วงบารมีสาดแสงบนกิ่งใบ ปราณขาวกุศลซ่อนลอยอ้อยอิ่งระหว่างกิ่งใบที่หนาแน่น เหมือนมีเหมือนไม่มี

พลังป้องกันของจางซู่เหรินเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

ฝ่ามือเทพต้นจักรพรรดิของเขาละทิ้งการโจมตี เปลี่ยนมาป้องกันอย่างสุดกำลัง ซึ่งเดิมทีเป็นกระบวนท่าป้องกันอันดับหนึ่งของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์

ตอนนี้ยังมีสี่จริยะหนุนนำร่าง แสดงออกถึงระดับสูงสุดที่พลังป้องกันของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายตรงของเนินต้นจักรพรรดิจะไปถึงได้

เยี่ยนจ้าวเกอจามขวานเข้าไป ทว่าต้นจักรพรรดิมั่นคงไม่สั่นไหว!

‘ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย’ ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอทอประกาย เขาเก็บขวานย้อนเอกภพ ทว่าในมือกลับเพิ่มของที่เหมือนกับกระบี่สั้นและตราประทับขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

จางซู่เหรินเห็นดังนั้นก็เดือดดาลจนหัวเราะออกมา ‘อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอีกแล้วหรือ’

เป็นตรากระบี่กาลเวลา

เยี่ยนจ้าวเกอมือถือตรากระบี่กาลเวลา ใช้มันแทนกระบี่ แทงวิชาสังหารมังกรเขียวใส่จางซู่เหรินอีกรอบ

ตรากระบี่กระทบถูกต้นจักรพรรดิที่เกิดจากจางซู่เหริน ประกายกระบี่ที่น่าสะพรึงสาดแสงระยิบระยับ ต้นไม้สูงเสียฟ้าพลันสั่นสะเทือน

ผิวของลำต้นที่เปล่งแสงสว่างถึงกับปรากฏร่องรอยแห้งเหี่ยว

ปฐพีอานิสงส์ลอยขึ้นมาจากด้านล่าง เหมือนกับส่งสารอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมา ทำให้ร่องรอยแห้งเหี่ยวบนลำต้นค่อยๆ มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แต่หลังจากนั้นติดๆ กัน มันก็แห้งเหี่ยวอีกครั้งเพราะการโจมตีจากประกายกระบี่

ทั้งสองฝ่ายค่อยๆ ปรากฏสภาพยื้อยัน

เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน ทว่าจางซู่เหรินกลับเคร่งเครียด เพราะตราประทับตะวันที่ก่อนหน้านี้ถูกเขากระแทกออกไป กลับร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง!

ดวงอาทิตย์สีทองพุ่งลงด้านล่าง เป้าหมายก็คือต้นจักรพรรดิที่ยื่นสูงเข้าไปในหมู่เมฆ

ตำนานหงส์เพลิงพักบนต้นจักรพรรดิ ทุกคนล้วนรู้จักดี

ทว่าในตอนนี้กลับเหมือนมีอีกาทองอาทิตย์ตัวหนึ่งโฉบลงมาจากฟ้า พุ่งใส่ต้นจักรพรรดิต้นนั้น

ไม่ว่าหงส์เพลิงจะยินดีหรือไม่ และไม่ว่าต้นจักรพรรดิจะยินดีหรือไม่

ถึงแม้ว่าทั่วทั้งต้นจักรพรรดิจะมีเปลวเพลิงไหลเวียน ไม่เพียงแต่ไม่กริ่งเกรงไฟ กระทั้งตัวมันยังก่อกำเนิดไฟ

กระนั้นในตอนนี้กิ่งใบต้นจักรพรรดิที่มีชีวิตชีวาก็เกิดสภาวะแห้งเหี่ยวอย่างเลือนราง เพราะการเผาไหม้ของดวงอาทิตย์อันลุกโชน กิ่งใบต้นจักรพรรดิที่มีชีวิตชีวาก็เกิดสภาวะแห้งเหี่ยวอย่างเลือนราง!

หยวนเสี่ยนเฉิงสะกดอารมณ์ต่อไปไม่ไหว ร่างกลายเป็นหงส์เพลิง มาถึงด้านบนสุดของต้นจักรพรรดิ

หงส์เพลิงเริ่มขับไล่อีกาทองที่หมายจะยึดรังหงส์ของตัวเอง ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด

หยวนเสี่ยนเฉิงเขวี้ยงพัดห้าหงส์เพลิงของตัวเองไปยังกิ่งใบ มอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นนี้ให้จางซู่เหรินยืมใช้ชั่วคราว

จางซู่เหรินกลับไม่ได้ใช้ ตอนนี้เขาได้แต่ป้องกันสุดกำลัง หากรับพัดห้าหงส์เพลิงไว้ ก็ได้แต่ถูกกระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดใส่เปล่าๆ

ผู้อาวุโสแห่งเนินต้นจักรพรรดิผู้นี้สงบจิตใจลง ตั้งใจป้องกันสภาวะโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ พร้อมกับสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอไปด้วย

หลังจากผ่านการต่อสู้กับนักพรตตงเฉวียน จ้าวเจิน และหยวนเสี่ยนเฉิงมา และประมือกับเขาจางซู่เหรินอีกครั้ง

แม้นว่าจะเป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายซึ่งมีระดับเท่ากับเขาคนอื่น ต่อให้ไม่หมดแรง ก็ต้องสิ้นเปลืองกำลังไปไม่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเป็นปรกติ แต่การหายใจกลับหนักหน่วง เห็นร่องรอยชัดเจนขึ้น

ปราณหยินหยางสองสายเป็นสีขาวดำ ถูกเขาดูดกลืนไม่หยุดยั้ง

ทว่าการหายใจของเยี่ยนจ้าวเกอนี้ ต่อให้จะประมือกับผู้ทรงอำนาจที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าอย่างจางซู่เหริน ก็ไม่ปั่นป่วนแต่ประการใด ยังคงรักษาจังหวะที่สงบนิ่งหนักแน่นไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

แสงสีชาด ขาว เขียว แดง ดำห้าสีเปล่งแสงระหว่างช่องท้องของเขา อีกทั้งยังหมุนวนไม่หยุด

บนหน้าผากยังมีลวดลายไท่จี๋บัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหาย หมุนวนไม่หยุดเช่นกัน

จางซู่เหรินเห็นดังนั้น ในใจตื่นตระหนกกว่าเดิม ‘มิน่าถึงได้มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้! คนหนุ่มผู้นี้ครอบครองวรยุทธ์มากน้อยขนาดไหนกันแน่?’

“อาจารย์อาจาง เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้อย่างน้อยบรรลุคัมภีร์พลิกฟ้า หนึ่งในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด และคัมภีร์นภาหยินหยางกับคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตซึ่งอยู่ในหกคัมภีร์หลังกำเนิด ซึ่งเป็นการสืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์”

หยวนเสี่ยนเฉิงมองออกว่าอาจารย์อาของตนคิดจะสู้ยืดเยื้อกับเยี่ยนจ้าวเกอ จึงรีบร้อนกล่าวเตือน

จางซู่เหรินว่า “ข้าทราบแล้ว นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคัมภีร์นภากาลเวลา อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับยอดเขาอัศจรรย์หรือไม่ เขายังใช้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด หนึ่งในห้ากำเนิดแรกเริ่มจากสายเอกพิสุทธิ์ได้ด้วย!”

“เด็กน้อยผู้นี้ปีนี้เพิ่งมีอายุเท่าไร?” จางซู่เหรินพูดพลางสูดหายใจเย็นเยียบ

วรยุทธ์ที่เหนือกว่าระดับสูงสุด หลักการที่แฝงอยู่ยิ่งลี้ลับน่าอัศจรรย์ คิดจะฝึกฝนให้สู้ถึงระดับหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์จำเป็นต้องใช้ความพยายามไม่น้อย

คัมภีร์พลิกฟ้า คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาฝึกฝน ส่วนใหญ่เกรงว่าจะต้องใช้ความพยายามทั้งชีวิต

แน่นอนว่าเวลาที่ต้องใช้ ก็มากพอจะสร้างจอมยุทธ์ระดับสุดยอดได้คนหนึ่ง

วรยุทธ์จำนวนมากเหล่านี้รวมอยู่ในคนเดียวกัน ที่คนหนุ่มตรงหน้ามีพลังที่น่าพรั่นพรึงขนาดนี้ได้ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกประหลาดให้แก่ผู้คนถึงเพียงนั้น

พูดง่ายแต่ทำยาก

ทำได้อย่างไร…นี่ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อมากกว่า

ยังไม่เอ่ยถึงว่าจางซู่เหรินผจญภยันอันตรายอยู่ในโลกซ้อนโลกมาหลายปี แม้จะเป็นหยวนเสี่ยนเฉิง ในกลุ่มจอมยุทธ์ระดับเดียวกันก็ยังถือว่าอายุน้อยยิ่ง แต่ว่าในแนวคิดเรื่องเวลาของคนจำนวนมาก ก็ถือว่ามีชื่อเสียงมานานปี

อัจฉริยะบุคคลแต่ละรูปแบบล้วนเคยเห็นมานับไม่ถ้วน ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้านี้ยังคงทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกเหมือนทัศนคติถูกโค่นล้ม

เหตุใดแม้แต่เขตตะวันอาคเนย์ที่เป็นศัตรูยังชื่นชมพลังของหยวนเสี่ยนเฉิง

สืบเนื่องจากไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไร เขาก็เป็นคนเพียงคนเดียวของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ ที่พลังฝึกปรือยังไม่เลื่อนถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย แต่ก็ครอบครองสี่จริยะในเวลาเดียวกัน

เรื่องนี้ได้ปูเส้นทางที่มุ่งสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าให้แก่หยวนเสี่ยนเฉิง ขอแค่สั่งสมมากพอ ย่อมคว้าระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายได้สิบส่วน และสร้างความมั่นใจได้อีกเก้าส่วน

อีกทั้งยังมีความหวังว่าจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขในหมู่คนเหมือนจวงเซิน อาจารย์ของเขา

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิคนอื่นไม่คิดจะเป็นเหมือนเขาหรือ

ย่อมคิด ทว่า…ทำไม่ได้

ก่อนจะเรียนวิ่ง ได้แต่ก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างหนักแน่นทีละก้าว

หยวนเสี่ยนเฉิงมากพรสวรรค์ แต่ก็เป็นเพราะวาสนา จึงค่อยอยู่เหนือกว่าหลักเหตุผล เดินมาถึงระดับนี้ในวันนี้ได้

ทว่าเมื่อเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว กลับห่างชั้นจนถึงขั้นที่สร้างความตกตะลึงให้แก่จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิ

อย่าว่าแต่เยี่ยนจ้าวเกออายุน้อยกว่าหยวนเสี่ยนเฉิงมากเกินไป แม้ทั้งสองจะมีอายุเท่ากัน ก็มีความแตกต่างมากเกินไปอยู่ดี

“คัมภีร์พลิกฟ้า…ถึงกับมีคัมภีร์พลิกฟ้า หนึ่งในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด เมื่อเป็นเช่นนี้ ความยิ่งใหญ่ของญาณจริงแท้ของเขาย่อมสุดที่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงจะเทียบเคียงได้” จางซู่เหรินรู้สึกฝาดขมในปาก “คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด ฝึกวรยุทธ์ของสายหยกพิสุทธิ์และเอกพิสุทธิ์ร่วมกันหรือ เช่นนั้นความเร็วในการฟื้นพลังของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าเสียอีก”

“ถ้าหากยังฝึกฝนคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตอีก เช่นนั้นก็เพิ่มการสั่งสมและการฟื้นฟูญาณจริงแท้ให้เขาอีกขั้นหนึ่ง”

ผู้อาวุโสเนินต้นจักรพรรดิใช้สายตามองดูสัตว์ประหลาดมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ยังไม่แน่ว่าผู้ใดจะเหนื่อยตายก่อน

………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 984 อัจฉริยะสะท้านโลก

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 984 อัจฉริยะสะท้านโลก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจจิตใจของจางซู่เหรินในตอนนี้

เขาจามขวานใส่อย่างดุร้าย เกือบจะโค่นต้นจักรพรรดิสูงเทียมฟ้านั้นได้!

จางซู่เหรินเดือดดาลจนแทบกระอักเลือด ตอนนี้ได้แต่กัดฟันไว้

เขาพลันออกแรง อาศัยการระเบิดครู่สั้นๆ กระแทกตราประทับตะวันออกไปครู่หนึ่ง

จากนั้นก็ไขว้สองมือ กระบวนท่าเปลี่ยนแปลง หยุดโจมตี เปลี่ยนเป็นป้องกันอย่างสุดกำลัง

ตอนนี้รูปทรงของต้นจักรพรรดิที่ค้ำฟ้ายันดินอยู่เริ่มเป็นจริงมากขึ้น มันส่องแสงวิเศษพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ขณะนี้ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายเหมือนกับกลายเป็นต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า

ปฐพีอานิสงส์ปรากฏใต้เท้า ครอบคลุมเขามหาวิญญาณ เชื่อมต่อกับฟ้าดิน รองรับฟ้าบรรจุทุกสรรพสิ่ง

คลื่นบุญบารมีวนเวียนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไหลเวียนไม่หยุดยั้ง คงอยู่ชั่วกาลนาน

แสงม่วงบารมีสาดแสงบนกิ่งใบ ปราณขาวกุศลซ่อนลอยอ้อยอิ่งระหว่างกิ่งใบที่หนาแน่น เหมือนมีเหมือนไม่มี

พลังป้องกันของจางซู่เหรินเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด

ฝ่ามือเทพต้นจักรพรรดิของเขาละทิ้งการโจมตี เปลี่ยนมาป้องกันอย่างสุดกำลัง ซึ่งเดิมทีเป็นกระบวนท่าป้องกันอันดับหนึ่งของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์

ตอนนี้ยังมีสี่จริยะหนุนนำร่าง แสดงออกถึงระดับสูงสุดที่พลังป้องกันของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายตรงของเนินต้นจักรพรรดิจะไปถึงได้

เยี่ยนจ้าวเกอจามขวานเข้าไป ทว่าต้นจักรพรรดิมั่นคงไม่สั่นไหว!

‘ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย’ ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอทอประกาย เขาเก็บขวานย้อนเอกภพ ทว่าในมือกลับเพิ่มของที่เหมือนกับกระบี่สั้นและตราประทับขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

จางซู่เหรินเห็นดังนั้นก็เดือดดาลจนหัวเราะออกมา ‘อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอีกแล้วหรือ’

เป็นตรากระบี่กาลเวลา

เยี่ยนจ้าวเกอมือถือตรากระบี่กาลเวลา ใช้มันแทนกระบี่ แทงวิชาสังหารมังกรเขียวใส่จางซู่เหรินอีกรอบ

ตรากระบี่กระทบถูกต้นจักรพรรดิที่เกิดจากจางซู่เหริน ประกายกระบี่ที่น่าสะพรึงสาดแสงระยิบระยับ ต้นไม้สูงเสียฟ้าพลันสั่นสะเทือน

ผิวของลำต้นที่เปล่งแสงสว่างถึงกับปรากฏร่องรอยแห้งเหี่ยว

ปฐพีอานิสงส์ลอยขึ้นมาจากด้านล่าง เหมือนกับส่งสารอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมา ทำให้ร่องรอยแห้งเหี่ยวบนลำต้นค่อยๆ มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แต่หลังจากนั้นติดๆ กัน มันก็แห้งเหี่ยวอีกครั้งเพราะการโจมตีจากประกายกระบี่

ทั้งสองฝ่ายค่อยๆ ปรากฏสภาพยื้อยัน

เยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน ทว่าจางซู่เหรินกลับเคร่งเครียด เพราะตราประทับตะวันที่ก่อนหน้านี้ถูกเขากระแทกออกไป กลับร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง!

ดวงอาทิตย์สีทองพุ่งลงด้านล่าง เป้าหมายก็คือต้นจักรพรรดิที่ยื่นสูงเข้าไปในหมู่เมฆ

ตำนานหงส์เพลิงพักบนต้นจักรพรรดิ ทุกคนล้วนรู้จักดี

ทว่าในตอนนี้กลับเหมือนมีอีกาทองอาทิตย์ตัวหนึ่งโฉบลงมาจากฟ้า พุ่งใส่ต้นจักรพรรดิต้นนั้น

ไม่ว่าหงส์เพลิงจะยินดีหรือไม่ และไม่ว่าต้นจักรพรรดิจะยินดีหรือไม่

ถึงแม้ว่าทั่วทั้งต้นจักรพรรดิจะมีเปลวเพลิงไหลเวียน ไม่เพียงแต่ไม่กริ่งเกรงไฟ กระทั้งตัวมันยังก่อกำเนิดไฟ

กระนั้นในตอนนี้กิ่งใบต้นจักรพรรดิที่มีชีวิตชีวาก็เกิดสภาวะแห้งเหี่ยวอย่างเลือนราง เพราะการเผาไหม้ของดวงอาทิตย์อันลุกโชน กิ่งใบต้นจักรพรรดิที่มีชีวิตชีวาก็เกิดสภาวะแห้งเหี่ยวอย่างเลือนราง!

หยวนเสี่ยนเฉิงสะกดอารมณ์ต่อไปไม่ไหว ร่างกลายเป็นหงส์เพลิง มาถึงด้านบนสุดของต้นจักรพรรดิ

หงส์เพลิงเริ่มขับไล่อีกาทองที่หมายจะยึดรังหงส์ของตัวเอง ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด

หยวนเสี่ยนเฉิงเขวี้ยงพัดห้าหงส์เพลิงของตัวเองไปยังกิ่งใบ มอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นนี้ให้จางซู่เหรินยืมใช้ชั่วคราว

จางซู่เหรินกลับไม่ได้ใช้ ตอนนี้เขาได้แต่ป้องกันสุดกำลัง หากรับพัดห้าหงส์เพลิงไว้ ก็ได้แต่ถูกกระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดใส่เปล่าๆ

ผู้อาวุโสแห่งเนินต้นจักรพรรดิผู้นี้สงบจิตใจลง ตั้งใจป้องกันสภาวะโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ พร้อมกับสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอไปด้วย

หลังจากผ่านการต่อสู้กับนักพรตตงเฉวียน จ้าวเจิน และหยวนเสี่ยนเฉิงมา และประมือกับเขาจางซู่เหรินอีกครั้ง

แม้นว่าจะเป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายซึ่งมีระดับเท่ากับเขาคนอื่น ต่อให้ไม่หมดแรง ก็ต้องสิ้นเปลืองกำลังไปไม่น้อย

เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเป็นปรกติ แต่การหายใจกลับหนักหน่วง เห็นร่องรอยชัดเจนขึ้น

ปราณหยินหยางสองสายเป็นสีขาวดำ ถูกเขาดูดกลืนไม่หยุดยั้ง

ทว่าการหายใจของเยี่ยนจ้าวเกอนี้ ต่อให้จะประมือกับผู้ทรงอำนาจที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าอย่างจางซู่เหริน ก็ไม่ปั่นป่วนแต่ประการใด ยังคงรักษาจังหวะที่สงบนิ่งหนักแน่นไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

แสงสีชาด ขาว เขียว แดง ดำห้าสีเปล่งแสงระหว่างช่องท้องของเขา อีกทั้งยังหมุนวนไม่หยุด

บนหน้าผากยังมีลวดลายไท่จี๋บัดเดี๋ยวปรากฏบัดเดี๋ยวสูญหาย หมุนวนไม่หยุดเช่นกัน

จางซู่เหรินเห็นดังนั้น ในใจตื่นตระหนกกว่าเดิม ‘มิน่าถึงได้มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้! คนหนุ่มผู้นี้ครอบครองวรยุทธ์มากน้อยขนาดไหนกันแน่?’

“อาจารย์อาจาง เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้อย่างน้อยบรรลุคัมภีร์พลิกฟ้า หนึ่งในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด และคัมภีร์นภาหยินหยางกับคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตซึ่งอยู่ในหกคัมภีร์หลังกำเนิด ซึ่งเป็นการสืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์”

หยวนเสี่ยนเฉิงมองออกว่าอาจารย์อาของตนคิดจะสู้ยืดเยื้อกับเยี่ยนจ้าวเกอ จึงรีบร้อนกล่าวเตือน

จางซู่เหรินว่า “ข้าทราบแล้ว นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคัมภีร์นภากาลเวลา อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับยอดเขาอัศจรรย์หรือไม่ เขายังใช้ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด หนึ่งในห้ากำเนิดแรกเริ่มจากสายเอกพิสุทธิ์ได้ด้วย!”

“เด็กน้อยผู้นี้ปีนี้เพิ่งมีอายุเท่าไร?” จางซู่เหรินพูดพลางสูดหายใจเย็นเยียบ

วรยุทธ์ที่เหนือกว่าระดับสูงสุด หลักการที่แฝงอยู่ยิ่งลี้ลับน่าอัศจรรย์ คิดจะฝึกฝนให้สู้ถึงระดับหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์จำเป็นต้องใช้ความพยายามไม่น้อย

คัมภีร์พลิกฟ้า คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาฝึกฝน ส่วนใหญ่เกรงว่าจะต้องใช้ความพยายามทั้งชีวิต

แน่นอนว่าเวลาที่ต้องใช้ ก็มากพอจะสร้างจอมยุทธ์ระดับสุดยอดได้คนหนึ่ง

วรยุทธ์จำนวนมากเหล่านี้รวมอยู่ในคนเดียวกัน ที่คนหนุ่มตรงหน้ามีพลังที่น่าพรั่นพรึงขนาดนี้ได้ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกประหลาดให้แก่ผู้คนถึงเพียงนั้น

พูดง่ายแต่ทำยาก

ทำได้อย่างไร…นี่ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อมากกว่า

ยังไม่เอ่ยถึงว่าจางซู่เหรินผจญภยันอันตรายอยู่ในโลกซ้อนโลกมาหลายปี แม้จะเป็นหยวนเสี่ยนเฉิง ในกลุ่มจอมยุทธ์ระดับเดียวกันก็ยังถือว่าอายุน้อยยิ่ง แต่ว่าในแนวคิดเรื่องเวลาของคนจำนวนมาก ก็ถือว่ามีชื่อเสียงมานานปี

อัจฉริยะบุคคลแต่ละรูปแบบล้วนเคยเห็นมานับไม่ถ้วน ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้านี้ยังคงทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกเหมือนทัศนคติถูกโค่นล้ม

เหตุใดแม้แต่เขตตะวันอาคเนย์ที่เป็นศัตรูยังชื่นชมพลังของหยวนเสี่ยนเฉิง

สืบเนื่องจากไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไร เขาก็เป็นคนเพียงคนเดียวของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ ที่พลังฝึกปรือยังไม่เลื่อนถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย แต่ก็ครอบครองสี่จริยะในเวลาเดียวกัน

เรื่องนี้ได้ปูเส้นทางที่มุ่งสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าให้แก่หยวนเสี่ยนเฉิง ขอแค่สั่งสมมากพอ ย่อมคว้าระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายได้สิบส่วน และสร้างความมั่นใจได้อีกเก้าส่วน

อีกทั้งยังมีความหวังว่าจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งประมุขในหมู่คนเหมือนจวงเซิน อาจารย์ของเขา

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิคนอื่นไม่คิดจะเป็นเหมือนเขาหรือ

ย่อมคิด ทว่า…ทำไม่ได้

ก่อนจะเรียนวิ่ง ได้แต่ก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างหนักแน่นทีละก้าว

หยวนเสี่ยนเฉิงมากพรสวรรค์ แต่ก็เป็นเพราะวาสนา จึงค่อยอยู่เหนือกว่าหลักเหตุผล เดินมาถึงระดับนี้ในวันนี้ได้

ทว่าเมื่อเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว กลับห่างชั้นจนถึงขั้นที่สร้างความตกตะลึงให้แก่จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิ

อย่าว่าแต่เยี่ยนจ้าวเกออายุน้อยกว่าหยวนเสี่ยนเฉิงมากเกินไป แม้ทั้งสองจะมีอายุเท่ากัน ก็มีความแตกต่างมากเกินไปอยู่ดี

“คัมภีร์พลิกฟ้า…ถึงกับมีคัมภีร์พลิกฟ้า หนึ่งในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด เมื่อเป็นเช่นนี้ ความยิ่งใหญ่ของญาณจริงแท้ของเขาย่อมสุดที่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงจะเทียบเคียงได้” จางซู่เหรินรู้สึกฝาดขมในปาก “คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด ฝึกวรยุทธ์ของสายหยกพิสุทธิ์และเอกพิสุทธิ์ร่วมกันหรือ เช่นนั้นความเร็วในการฟื้นพลังของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าเสียอีก”

“ถ้าหากยังฝึกฝนคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตอีก เช่นนั้นก็เพิ่มการสั่งสมและการฟื้นฟูญาณจริงแท้ให้เขาอีกขั้นหนึ่ง”

ผู้อาวุโสเนินต้นจักรพรรดิใช้สายตามองดูสัตว์ประหลาดมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ยังไม่แน่ว่าผู้ใดจะเหนื่อยตายก่อน

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+