ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 966 บทเรียนที่สองของเยี่ยนจ้าวเกอ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 966 บทเรียนที่สองของเยี่ยนจ้าวเกอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดูจากทิศทางที่มา จุดหมายของจอมยุทธ์เหล่านั้นก็คือทางพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเซี่ยกวง

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างออกไปไกลมาก ทว่าเซี่ยกวงกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว เพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ชัดเจน

“พวกเขา…” เซี่ยกวงรู้สึกได้ว่ามีความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นในห้วงสมอง แต่คว้าไว้ไม่ทัน

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเรียบเฉย “ผู้นำกลุ่มเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย พลังฝึกปรือเช่นนี้สมควรไม่ได้มาหาข้า นั่นหมายความว่าเป็นท่านแล้ว”

“มาหาข้า…” เซี่ยกวงคล้ายนึกอะไรขึ้นได้

ชายหนุ่มถามออกไปทันทีว่า “ก่อนหน้านี้ท่านไปมีเรื่องกับใครที่อยู่แถวนี้กระมัง หลังจากเกิดเรื่องแล้ว เมื่อไว้ชีวิตคน ย่อมต้องเปิดเผยร่องรอยของท่าน”

“หา?!” เซี่ยกวงได้ยินก็อึ้งไป

หลังจากเขาได้สติ ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง “ข้า…”

เยี่ยนจ้าวเกอตบศีรษะของพ่านพ่าน

พ่านพ่านหาวครั้งหนึ่ง ก่อนจะยืดสี่ขาอย่างเกียจคร้าน แล้วเดินไปหาจอมยุทธ์ที่มุ่งหน้ามาเหล่านั้น

เมื่อปล่อยพ่านพ่านไปจัดการแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่สนใจอีก ยังคงมองเซี่ยกวง “มีจริงๆ ด้วยกระมัง”

“ตอนนั้นข้าคิดหาวิธีรักษาอาการบาดเจ็บ ฟังว่าแถวนี้มีหอธารกระจ่าง ที่แห่งนั้นมีโอสถรักษาอาการบาดเจ็บชนิดหนึ่งชื่อโอสถประทีปวิสุทธิ์ เดิมทีข้าต้องการไปขอยาเท่านั้น” เซี่ยกวงอธิบาย “แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ”

เยี่ยนจ้าวเกอถาม “พวกท่านสู้กันหรือ”

เซี่ยกวงพยักหน้า

“เช่นนั้นข้าเดาว่าท่านชนะอีกฝ่ายได้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ไฉนท่านจึงทราบ?” เซี่ยกวงประหลาดใจเล็กน้อย

“บางทีท่านอาจเคยได้ยินมาก่อน แต่ยังไม่เข้าใจนักว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขตเพลิงทักษิณกับเขตตะวันอาคเนย์เลวร้ายถึงขีดสุดแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอว่า

“สำเนียงของท่านบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นคนของเขตตะวันอาคเนย์ คนที่อยู่ในขุมกำลังท้องถิ่นของเขตเพลิงทักษิณพอฟังก็ทราบทันทีว่าท่านมาจากตะวันออกเฉียงใต้”

พอได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเช่นนี้ เซี่ยกวงก็พลันเข้าใจ “มิน่าเล่า…”

“คนที่พบว่าท่านเป็นคนจากตะวันออกเฉียงใต้ ต่อให้ไม่มีความแค้นกับท่าน อีกฝ่ายก็อาจจะลงมือสังหารท่าน หากไม่ลงมือก็แล้วไป แต่ถ้าลงมือขึ้นมาแล้ว ย่อมไม่มีทางแค่แลกเปลี่ยนกระบวนแน่” เยี่ยนจ้าวเกอพูดต่อ “ท่านสามารถจากมาด้วยดี พลังเหนือกว่าอีกฝ่ายแน่นอน”

เซี่ยกวงขมริมฝีปาก “ข้าไม่อยากแย่งชิง”

“อืม” เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ว่าอะไร เพียงกล่าวอย่างง่ายๆ “ท่านแข็งแกร่งกว่าสำนักนั้น พวกเขาทำอะไรท่านไม่ได้ ย่อมติดต่อจอมยุทธ์ทิศใต้คนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ให้มารุมไล่ล่าท่าน”

เซี่ยกวงมองกลุ่มจอมยุทธ์ที่ถูกพ่านพ่านขวางไว้ เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว “คนเหล่านี้เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหอธารกระจ่างนั่น”

บนใบหน้าเขาปรากฏโทสะ “เสียทีที่ก่อนหน้านี้ข้าลงมือด้วยความปราณี!”

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “เช่นนั้นแล้วอย่างไร พวกเขาไม่ทราบความเป็นมาของท่าน และไม่แน่ว่าจะรู้ว่าท่านไม่คิดจะเอาเรื่องพวกเขา ไม่ทราบว่าหลังจากท่านไปแล้วจะยกพวกมาหรือไม่ ท่านยังเป็นคนของตะวันออกเฉียงใต้ การฆ่าท่านสำหรับพวกเขาไม่ถือว่าผิดอะไร บางทีอาจได้รับคำชมจากบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในทิศใต้ด้วยซ้ำ”

“หากรู้เช่นนี้แต่แรก…” เซี่ยกวงโกรธจนร่างสั่น ในดวงตาที่เหลือข้างเดียวปรากฏความอำหิต

เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ท่านไม่ทราบความเป็นปรปักษ์ที่เขตเพลิงทักษิณมีต่อจอมยุทธ์ตะวันออกเฉียงใต้นัก ดังนั้นที่ท่านทำตามความคิดท่าน ก็ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิ”

“แต่พึงทราบว่า เดิมทีท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ครั้งนี้เกิดร่องรอยถูกเปิดเผย บางทีอาจมีศัตรูไม่ต่ำกว่าหนึ่งกลุ่มมาหาไม่หยุดหย่อน ฉวยโอกาสซ้ำเติมท่าน”

“บทเรียนแรกที่ข้าจะมอบให้แก่ท่านก็คือ ในตอนที่ท่านตกอยู่ในอันตราย จำเป็นต้องระวังตัวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะท่านยังไม่ทราบว่าใครจะกลายเป็นศัตรูของท่านในทันที”

เซี่ยกวงขมริมฝีปากไม่กล่าววาจา ในดวงตาที่เหลืออยู่สาดประกายดุร้าย

“ท่านจะไปคิดบัญชีกับหอธารกระจ่างนั่นหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอมอง ด้วยรู้ว่าเซี่ยกวงคิดอะไรอยู่

“ใช่” เซี่ยกวงไม่ปฏิเสธ แถมยังตอบอย่างตรงไปตรงมาอีกด้วย

ทั้งสองฝ่ายไม่มีความแค้น เขาไม่ชอบใช้แข็งแกร่งข่มอ่อนแอ

แต่ว่าการติดต่อให้จอมยุทธ์คนอื่นมารุมสังหารตนของอีกฝ่าย ได้ทำให้ถังระเบิดอย่างเซี่ยกวงปะทุขึ้นมาแล้ว

ความขุ่นเคืองในตอนนี้ของเขา นอกจากความคับแค้นแล้ว ยังมีบางส่วนเกิดขึ้นเพราะโทสะจากความอับอาย

เพิ่งจะได้รับคำอนุญาตจากเยี่ยนจ้าวเกอ มีโอาสกราบเป็นศิษย์ของเขากว่างเฉิง ยังไม่ได้เข้าสำนักอย่างเป็นทางการก็สร้างปัญหาขึ้นแล้ว

ยามนี้เมื่ออยู่ใกล้ เซี่ยกวงก็พอจะแยกแยะระดับพลังฝึกปรือของศัตรูออกอย่างคร่าวๆ

จอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณที่นำกลุ่มเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นรวมรูประยะท้าย

ทว่านอกจากเขาแล้ว ยังมียอดฝีมืออีกหลายคน

ทั้งหมดล้วนเป็นจอมยุทธ์ในเขตเพลิงทักษิณ จากสำนักที่ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่บริเวณเขายาวเหยียด ใกล้ๆ หอธารกระจ่าง

คนนำกลุ่มผู้นี้เป็นผู้อาวุโสของขุมกำลังใหญ่นี้

คนกลุ่มนี้ไล่ล่าเซี่ยกวงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าหากกลุ้มรุมโจมตี เขาจะต้องต้านไม่ไหวแน่ แม้นว่าคิดจะหนีเอาชีวิตรอด ก็มีความหวังเพียงน้อยนิด

ตอนนี้พวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่ข้างตัว ความปลอดภัยย่อมไม่เป็นปัญหา แต่กลับทำให้เซี่ยกวงอับอาย

ประสบภัยร้ายถึงขั้นที่ตกต่ำที่สุดของชีวิต นอกจากเป้าหมายที่สูงส่งที่สุดในชีวิตคือการแก้แค้นกลุ่มคนที่เหนือกว่าตัวเองโดยสิ้นเชิงให้แก่ครอบครัวแล้ว ในเรื่องอื่นๆ เซี่ยกวงขณะที่เป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีของตัวเองมากที่สุด ทว่าก็เป็นคนที่รู้สึกต่ำต้อยต่อตัวเองมากที่สุดเช่นกัน

ไกลออกไป พ่านพ่านกำลังพิสูจน์การคาดเดาก่อนหน้าของเซี่ยกวง

ในฐานะพาหนะของเยี่ยนจ้าวเกอ มันตรงไปตรงมายิ่ง จัดการจอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณกลุ่มนั้นอย่างไม่เปลืองแรง เหมือนกับเด็ดใบไผ่หลายใบจากกิ่งไผ่ลงมา แล้วโยนเข้าปากอย่างสบายๆ

นี่ทำให้เซี่ยกวงมองดูจนตาค้าง และสร้างความงุนงงให้แก่จอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณเหล่านั้น

พ่านพ่านเหลือคนไว้คนหนึ่ง จับกลับมาสอบสวน เขามาหาเซี่ยกวงตามข่าวที่ได้จากหอธารกระจ่างอย่างที่คิดไว้

อีกทั้งผู้ไล่ตามยังไม่ได้มีแค่นี้ แต่แบ่งเป็นหลายกลุ่ม กระจายกันค้นหาไปคนละทาง

กลุ่มของพวกเขาเจอร่องรอยของเซี่ยกวงพอดี จึงติดตามมา

“อาจารย์เยี่ยน…คุณชายเยี่ยน รบกวนท่านรอสักพัก ข้าจะกลับไปครู่เดียว” เซี่ยกวงกัดฟัน บ่ายหน้าจะเดินกลับไป

เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “ไม่ได้ฟังเขาหรือ? คนอย่างเช่นพวกเขามีไม่ต่ำกว่าหนึ่งกลุ่ม ต่างกระจายกันค้นหา ตอนนี้ท่านกลับไปหอธารกระจ่าง หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ประเสริฐ ถ้าหากว่าพบเจอคนที่ไล่ล่าท่านกลางทาง ท่านไม่เท่ากับเป็นแกะเข้าปากเสือหรือไร”

“แค้นของท่านยังไม่ได้ชำระ หรือจะยินยอมเสี่ยงอันตรายพาคนของหอธารกระจ่างไปตายพร้อมกัน”

เซียกวงได้ยินดังนั้น ฝีเท้าพลันหยุดลง

เยี่ยนจ้าวเกอมองเขา “บทเรียนที่สอง หลายครั้งโทสะเป็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างหนึ่ง พวกเราไม่จำเป็นต้องปฏิเสธพลังเช่นนี้ และต้องรู้จักใช้มัน แต่ก่อนหน้านั้น อย่าให้เพลิงโทสะครอบงำจิตใจ นั่นรังแต่จะทำให้ท่านตายเร็วขึ้นเท่านั้น”

ถ้าหากว่าถูกคนอื่นสั่งสองเช่นนี้ มาตรแม้นว่าอีกฝ่ายจะพูดมีเหตุผล เซี่ยกวงก็ใช่ว่าจะฟังเข้าหู

แต่ว่าตอนนี้เขาค่อยๆ สงบลงแล้ว

เขาย่อมไม่รบเร้าให้เยี่ยนจ้าวเกอพาเขากลับไปคิดบัญชีกับหอธารกระจ่าง

“พวกมันรอดตัวไป” เซี่ยกวงกล่าวอย่างเคียดแค้น

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดจอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณที่จับเป็นเชลยคนนั้นตายในฝ่ามือเดียว “ท่านในเมื่อตั้งใจตามหาครอบครัว เช่นนั้นพวกเรารีบกลับเขตหยางเทียนตะวันออกให้เร็วที่สุดจะดีกว่า”

เซี่ยกวงตั้งสติ “พวกเราจะกลับไปอย่างไร”

ตอนนี้เขารู้แล้วว่า สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและเขาที่มาจากตะวันออกเฉียงใต้ เขตเพลิงทักษิณล้วนเต็มไปด้วยศัตรู

………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 966 บทเรียนที่สองของเยี่ยนจ้าวเกอ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 966 บทเรียนที่สองของเยี่ยนจ้าวเกอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยนจ้าวเกอมองเซี่ยกวง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สามารถอันใด”

“ข้า…” เซี่ยกวงอ้ำอึ้ง พูดไม่ออก “ข้า…”

ชายหนุ่มมองเซี่ยกวงอย่างสนอกสนใจ “ท่านคิดจะแก้แค้น จะยึดติดกับการแก้แค้นด้วยตัวเอง ไม่อาศัยคนอื่นหรือพลังจากภายนอก หรือว่าขอแค่แก้แค้นได้ ก็ยินดียืมพลังจากที่อื่น”

ครั้งนี้เซี่ยกวงไม่ได้ลังเล “สามารถแก้แค้นด้วยนตัวเองได้ย่อมประเสริฐที่สุด แต่ว่าสามารถแก้แค้นได้จึงสำคัญที่สุด”

เขาเว้นครู่หนึ่ง ก่อนจะลดเสียงกล่าวว่า “ตระกูลข้าประสบเภทภัย ในตอนนั้นบนยอดเขาสดับอัสนี ทั้งตระกูลถูกโจรสุนัขเขาสามขาสังหารหมดสิ้น แต่ไม่ได้มีแค่ข้าที่รอดชีวิต”

“อ้อ?” เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะนี่เป็นเรื่องที่เขาไม่รู้

เซี่ยกวงอธิบาย “ข้ามีพี่ชายคนหนึ่งและพี่สาวอีกคนหนึ่ง พวกเขาออกเดินทางไปก่อนหน้า ตอนที่เกิดเรื่อง พวกเขาไม่ได้อยู่บนยอดเขาสดับอัสนี”

ขณะที่พูด บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏความกังวล “หากพวกเขาได้รับข่าวของตระกูล จะต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุดแน่ แต่ว่าต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่อาจบอกได้”

“ข้าไม่หวังให้มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ถ้าหากทำลายเขาสามขาได้โดยเร็วที่สุด ต่อให้ไม่ได้แก้แค้นด้วยตัวเองก็ไม่เป็นไร”

เซี่ยกวงกวาดมองดาบอีกาทองผลาญฟ้าและธงวิญญาณ กล่าวอย่างขื่นขมว่า “ตอนแรกข้าคิดว่าเขาสามขาถูกคุณชายเยี่ยนเล่นงานจนสาหัส พลังลดลงมา ขุมกำลังอื่นๆ บนที่ราบสูงยอดขจีบางทีอาจกลายเป็นฝูงหมาป่ารุมทึ้งพยัคฆ์ป่วยตัวนั้น ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็มีโอกาสแล้ว”

ปกติเซี่ยกวงชอบเก็บตัว คิดอ่านไม่ลึกซึ้ง ทว่าก็นิสัยตรงไปตรงมานัก

แต่ว่าคนในตระกูลเวลาพูดคุยกับเขา ก็จะบอกเล่าถึงการต่อสู้ของขุมกำลังระดับสุดยอดในเทือกเขาเสียงระรัวเป็นประจำ

ก่อนหน้านี้เซี่ยกวงไม่สนใจเรื่องนี้ จึงปล่อยผ่านไป ถือว่าฟังเรื่องเล่า

กระนั้นถึงตอนนี้ เขากลับต้องกดดันให้ตัวเองทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้

เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จนัก แต่ว่าเรื่องที่เป็นพื้นฐานที่สุดก็ยังเข้าใจได้

ถ้าในขุมกำลังระดับสุดยอดบนเทือกเขาเสียงระรัวมีสำนักหนึ่งต้องพบเจอกับภัยพิบัติจนเสียหายสาหัส เช่นนั้นคนอื่นๆ จะต้องกรูกันเข้าไปรุมเหยียบย่ำแน่นอน

หลักการเดียวกันเดิมทีใช้ได้กับเขาสามขาและขุมกำลังระดับสุดยอดในที่ราบสูงยอดขจีทั้งสิ้น

แต่พอได้ยินจากเยี่ยนจ้าวเกอว่าประมุขทิศบนมีความสัมพันธ์กับเขาสามขา เซี่ยกวงก็รู้แล้วว่าเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ไม่มีใครรู้ได้ว่าประมุขทิศบนจะบันดาลโทสะเพราะเขาสามขาหรือไม่

ในสถานการณ์เช่นนี้ การลอบกดดันย่อมต้องมี แต่การถมหินลงบ่อรีบร้อนสังหารในที่แจ้งก็ใช่ว่าจะมีคนยินยอมทำ

เมื่อเป็นเช่นนี้ เซี่ยกวงก็ยากจะจับปลาตอนน้ำขุ่นแล้ว

เขาคิดจะแก้แค้น นอกจากตนจะต้องมุมานาะเพิ่มพลังของตัวเองแล้ว ก็ได้หวังอย่างอื่นแทน

ถ้าหากกราบเข้าเป็นศิษย์ของขุมกำลังที่แข็งแกร่งได้ นั่นย่อมมีความหวังเพิ่มขึ้นมา

แต่ผู้ใดจะยินยอมล่วงเกินเขาสามขา ล่วงเกินประมุขทิศบน เพื่อลูกศิษย์ที่เพิ่งเข้าสำนักใหม่เล่า

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ถ้าหากท่านคิดหาที่พึ่ง ข้าสามารถแนะนำท่านกับคนของยอดเขาอัศจรรย์ได้ แต่ว่ายอดเขาอัศจรรย์จะรับท่านหรือไม่ก็ยังไม่แน่”

“ยอดเขาอัศจรรย์…” เซี่ยกวงลังเลอยู่บ้าง

อาหู่ที่อยู่ด้านข้างกล่าวเสริม “ยอดเขาอัศจรรย์แห่งเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลาง เป็นสำนักของจักรพรรดิแพรงาม หนึ่งในสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ”

เซี่ยกวงตกใจอ้าปากกว้าง

เยี่ยนจ้าวเกอพูดสืบต่อเหมือนไม่มีเรื่องราวใด “นอกจากยอดเขาอัศจรรย์แล้ว ตำหนักขุยสายฟ้าบนเขานภาเขียวในเขตสารทอิสานก็เป็นสำนักของประมุขอิสานเช่นกัน ข้าสามารถแนะนำให้ท่านได้”

“แต่ข้าแค่ช่วยให้ท่านเข้าหาได้ กลับไม่อาจรับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะรับท่าน จะกราบเป็นศิษย์ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองแล้ว”

“ข้าเคยได้ยินวรยุทธ์ของตระกูลเซี่ยมาก่อน จัดเป็นธาตุสายฟ้า ถ้าหากท่านมีพรสวรรค์ ความเป็นไปได้ที่ตำหนักขุยสายฟ้าจะเลือกท่านก็สูงขึ้น”

เซี่ยกวงได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว หัวสมองของเขาก็พลันมึนงง ตาลายไปหมดอยู่ชั่วขณะ

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเส้นสายของเยี่ยนจ้าวเกอถึงกับแผ่ขยายออกไปนอกเขตตะวันอาคเนย์แล้ว อีกทั้งคนที่เขาคบหาล้วนไม่ธรรมดาทั้งสิ้น

“เมื่อครู่ท่านบอกว่า ท่านคิดจะกลับเขตตะวันอาคเนย์เพื่อตามหาครอบครัวใช่หรือไม่ ถือเป็นธรรมชาติของมนุษย์” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ถ้าเป็นเขตตะวันอาคเนย์ ที่อื่นไม่อาจบอก แต่เขากว่างเฉิงของข้ารับท่านไว้ได้ ขอแค่ท่านผ่านการทดสอบเข้าสำนักของเราก็ใช้ได้”

เซี่ยกวงตกใจ “ข้า…ข้าทำได้หรือ”

เยี่ยนจ้าวเกอเอียงศีรษะเล็กน้อย “ไหนเลยจะทำไม่ได้ เมื่อครู่ข้าบอกแล้วว่า ถ้าหากประมุขทิศบนต้องการหาเรื่องเพราะเขาสามขา ก่อนอื่นเขาจะต้องหาเรื่องข้าก่อน”

“ข้าจะไม่แพร่พรายความลับแน่นอน!” เซี่ยกวงรีบร้อนกล่าว

ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชี้ดาบอีกาทองผลาญฟ้ากับธงวิญญาณ “ข้าเชื่อท่าน กระนั้นของเหล่านี้อยู่ในมือข้า หากชั่วคราวก็ไม่เป็นไร แต่หากผ่านไปนานเข้า อีกฝ่ายใช่ว่าจะสัมผัสไม่ได้”

“แน่นอนว่านอกจากเขากว่างเฉิงของข้าแล้ว ถ้าจะหาดูในเขตตะวันอาคเนย์ เขาโถงทองสำนักของประมุขอาคเนย์ ข้าเองก็คุ้นเคยยิ่ง กระนั้นก็เหมือนกับยอดเขาอัศจรรย์และตำหนักขุยสายฟ้า ข้าแค่แนะนำให้ท่านได้ แต่ไม่แน่ว่าจะรับท่าเข้าสำนัก…”

ไม่รอเยี่ยนจ้าวเกอพูดจบ เซี่ยกวงก็เอ่ยว่า “ไม่ ข้ายินดีเข้าเป็นศิษย์ของเขากว่างเฉิง ขอแค่เขากว่างเฉิงยอมรับข้า ไม่ว่าจะการทดสอบอะไร ข้าจะรับทั้งสิ้น!”

การตัดบทคนอื่นถือเป็นการเสียมารยาทยิ่งนัก

แต่ว่าขณะที่เซี่ยกวงเอ่ย กลับโน้มตัวจรดพื้น จริงใจถึงขีดสุด บนใบหน้าเต็มไปด้วยความแตกตื่นยินดี

“อ้อ?” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ประมุขอาคเนย์อาจจะสู้ประมุขทิศบนไม่ได้ แต่ถูกจัดอยู่ในประมุขทั้งสิบเหมือนกัน ยังมีหน้ามากกว่าเขากว่างเฉิงของข้าเสียอีก ท่านกลัวว่าเขาโถงทองจะไม่รับท่านหรือ”

เซี่ยกวงตอบอย่างแน่วแน่ “ไม่ ต่อให้เขาโถงทองยอมรับข้า ข้าก็คิดจะเป็นศิษย์ของเขากว่างเฉิงอยู่ดี”

เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่สบตากัน

สำหรับเซี่ยกวงผู้นี้ พวกเขาตอนนี้มีความเข้าใจในขั้นต้น และเข้าใจความคิดของเขาออกคร่าวๆ แล้ว

มิพักเอ่ยว่าจะต้านทานแรงกดดันจากประมุขทิศบนได้หรือไม่ แต่ว่าเขากว่างเฉิงจะต้องเหนือกว่าเขาสามขาอย่างแน่นอน

สำนักมีพลังไม่ธรรมดา ต่อให้ไม่ลงมือต่อสู้กับเขาสามขาเอง เซี่ยกวงได้รับการชี้แนะอยู่ด้านใน ย่อมรุดหน้าเร็วกว่าจอมยุทธ์พเนจรคนอื่น นับว่ามีหวังให้เขาลงมือแก้แค้นด้วยตัวเองมากขึ้น

เขากว่างเฉิงมีเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้มีพระคุณของเขา

และเขากว่างเฉิงก็มีศัตรูร่วมกันกับเขา

เรื่องนี้ทำให้เซี่ยกวงเกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งอย่างรุนแรงยิ่ง

และความรู้สึกเป็นหนึ่งชนิดนี้ สำหรับเซี่ยกวงที่ครอบครัวตายต่อหน้า ผ่านการล้างตระกูลมา จึงดึงดูดเขาเหลือเกิน

ถ้าหากว่าเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็น บางทีอาจชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย

แต่ว่าเทียบกับเซี่ยกวงแล้ว ความเอนเอียงในด้านความรู้สึกต่างหาก ถึงส่งผลต่อปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจ

เขาเดิมทีอยากกราบเป็นศิษย์ของเขากว่างเฉิง เพียงกลัวแต่ว่าอีกฝ่ายจะไม่รับ

ตอนนี้ในเมื่อเขากว่างเฉิงยินดีรับเขาเข้าสำนัก เซี่ยกวงจึงลิงโลดเป็นอย่างยิ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอมองเซี่ยกวง พลันยิ้มเล็กน้อย “ถ้าท่านเข้าสำนักได้ จะกราบใครเป็นสำนักยังไม่อาจบอก แต่ตอนนี้ข้าจะขอข้ามเขียงทำแทนพ่อครัว มอบบทเรียนหนึ่งให้แก่ท่าน”

เซี่ยกวงพลันสับสน

ชายหนุ่มมองไปยังท้องฟ้าไกลออกไป เซี่ยกวงมองตามสายตาของเขาไปเช่นกัน ครู่ต่อมาก็เห็นที่นั่นพลันมีแสงสว่างปรากฏ เป็นภาพที่ยอดฝีมือด้านวรยุทธ์เคลื่อนไปมาระหว่างฟ้าดิน

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+