ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]บทที่ 582 ข้าช่วยเจ้าไม่ได้นะ

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] Chapter บทที่ 582 ข้าช่วยเจ้าไม่ได้นะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 582 ข้าช่วยเจ้าไม่ได้นะ

บทที่ 582 ข้าช่วยเจ้าไม่ได้นะ

ความทรงจำสุดท้ายของเหยาเอ้อหลางคือตนเองกำลังอยู่บนถนนสายหนึ่ง จากนั้นก็ถูกใครบางคนตีศีรษะจนสลบ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็กลับมาอยู่ในจวนเหยาแล้ว

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย หรือว่าหลังจากโดนตีหัวจนสลบแล้วคนผู้นั้นได้นำตัวเขาไปโยนทิ้งไว้ข้างทาง จากนั้นก็มีคนหวังดีเห็นเขาจึงพาเขากลับมาส่งในจวนเหยา?

“เจ้ายังกล้าถามอีกหรือ?” เหยาเฉานึกถึงเรื่องนี้ก็พลันเดือดดาล คิดว่าเหยาเอ้อหลางคงยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตัวเอง

“ข้าไปขอร้องให้สหายคนสนิทของข้าช่วยตามหาเจ้า คุณชายรองจากตระกูลใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปเห็นเจ้าหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่บนถนนพอดี เมื่อมั่นใจว่าเจ้าคือคนที่อยู่ในป้ายประกาศ เขาจึงแอบตามเจ้าไป หลังจากตีหัวเจ้าจนสลบแล้ว ก็พาเจ้ามาส่งจวนเหยา”

“อะไรนะ? คนที่พาข้ากลับมาส่งเป็นผู้ชายหรอกหรือ?” เหยาเอ้อหลางเคยคิดว่ามันมีความเป็นไปได้อย่างมาก แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้ชาย

เขาหนีออกจากบ้านด้วยความยากลำบาก แต่ผู้ชายคนนี้พาเขากลับมาส่งโดยไม่บอกไม่กล่าว ครานี้นับว่าเราสองคนเป็นผู้พยาบาทกันแล้ว รอเขาดีขึ้น เขาจะต้องไปตามหาคุณชายรองของใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปแน่นอน ไปดูให้แน่ชัดว่าเขาเป็นคนอย่างไร

“ผู้ชายแล้วอย่างไร? คุณชายรองของใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปคนนั้นมีความเฉียบแหลมในด้านวรรณกรรม แม้แต่ทักษะด้านบู๊ก็ไม่เป็นสองรองใคร เจ้าอย่าหาเหาใส่หัวดีกว่า มิเช่นนั้นข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้”

ทุกคนต่างคาดหวังให้ลูกชายของตัวเองมุมานะทั้งนั้น เหยาเฉาก็เช่นกัน

แต่แม้ว่าความพยายามในแต่ละวันของเหยาเอ้อหลางจะมากมาย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลยแม้แต่เรื่องเดียว แค่เขาเห็นอีกฝ่ายหนีไป เหยาเฉาก็ปวดหัวแทบจะระเบิดแล้ว

“ก็แค่บุรุษคนเดียว มีอะไรต้องกลัว”

ในใจของเหยาเอ้อหลางคิดว่าคุณชายรองอะไรนั้นถือโอกาสตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว ถ้าเขาตั้งตัวได้ไฉนเลยจะให้เขาตีหัวจนสลบโดยง่าย

ก็แค่ความโชคดีเท่านั้น ในสายตาของผู้เป็นพ่อกลับโอ้อวดเกินจริง

“นายท่าน ใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปและคุณชายรองมาแล้วขอรับ” ขณะที่เหยาเฉาและเหยาเอ้อหลางกับคุยกัน ข้ารับใช้ขุนนางคนหนึ่งก็เข้ามารายงาน

“รีบเชิญพวกเขาเข้ามานั่ง เราจะออกไปเดี๋ยวนี้”

“ขอรับ” หลังจากข้ารับใช้ผู้นั้นได้ยินก็ไปจัดการทันที ส่วนเหยาเฉายังคงมองเหยาเอ้อหลางอย่างไม่สบอารมณ์

“ยังไม่รีบลุกขึ้นอีก เขาพาเจ้ากลับมาส่ง เราก็ควรจะไปขอบคุณเขา”

“รู้แล้วขอรับ วุ่นวายยิ่งนัก” แม้ว่าภายนอกจะขัดแย้งกับอาวุโสของตน แต่ถึงกระนั้นก็มีศักดิ์เป็นถึงเจ้ากรมเมือง นับว่าเข้าใจความสัมพันธ์ของการไปมาหาสู่กัน

แม้ว่าศีรษะจะยังปวดอยู่บ้าง แต่ส่วนอื่นกลับไม่เป็นปัญหา ดูท่าคุณชายรองของใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปคนนั้นจะยั้งมือไว้บ้าง

เขาลุกขึ้นมาด้วยสติที่ยังไม่สมบูรณ์ จากนั้นก็เดินตามเหยาเฉาเข้าไปในห้องรับแขก กระทั่งเห็นใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปและคุณชายรองผู้หนึ่งนั่งรออยู่ในห้อง

ในใจของเหยาเอ้อหลางก่อเกิดความเคียดแค้นกับคุณชายรองผู้นั้นไปแล้ว ย่อมให้ความสำคัญเป็นธรรมดา

“เดิมทีข้าตั้งใจจะพาเอ้อหลางไปขอบคุณที่จวนของเจ้า แต่กลับต้องรบกวนเจ้ามาเยือนถึงที่” เหยาเฉากล่าวกับใต้เท้าหลิวฝ่ายตรวจการทั่วไปด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งใจ

“ไม่รบกวนหรอก น้องชายข้ามุทะลุเองจึงทำให้คุณชายเหยาสลบไป ความจริงก็ไม่ได้เกินไป แต่ข้ามาในวันนี้ก็ตั้งใจจะพาน้องข้ามาชดใช้ความผิด” ครั้นใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปพูดจบ ก็มองไปทางชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกาย

“คุณชายเหยา เรื่องเมื่อวานข้าบุ่มบ่ามเกินไป ได้โปรดคุณชายเหยาอภัยให้ด้วย”

“คุณชายหลิวก็เกรงใจเกินไป ข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจนักหรอก” เดิมทีเขาอยากจะคิดบัญชีเสียด้วยซ้ำ แต่ครั้นได้รับการขอโทษผ่านคุณชายหลิว ต่อให้อยากทำสิ่งใดก็คงทำสิ่งใดโดยไร้เหตุผลไม่ได้

เหยาเฉาเห็นสีหน้าของลูกชายตัวเองก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดสิ่งใด จึงได้ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่ตั้งใจ

“ท่านผู้นี้คือคุณชายเหยาเอ้อหลางสินะ รูปงามไม่ธรรมดายิ่งนัก” ใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปเห็นว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงัดจึงได้พูดออกไป

“ถูกต้อง ลูกชายจอมซน สุดจะเหลือทนจริง ๆ” เหยาเฉาแสดงท่าทีกับเหยาเอ้อหลางแตกต่างจากทั้งสองคนโดยสิ้นเชิง ถึงกระนั้นก็ต่างเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงศาล ย่อมเข้าใจกฎเกณฑ์การไปมาหาสู่อย่างแน่นอน

“ใต้เท้าเหยาก็อย่าพูดเช่นนี้สิ ข้าชื่นชมคุณชายเหยาจากใจจริง”

ใต้เท้าฝ่ายตรวจการทั่วไปเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นอย่างดี แต่น้องชายของตนผู้ซึ่งเติบโตมาภายใต้การเลี้ยงดูของตนมาโดยตลอด จนบางครั้งก็อาจจะทำเรื่องที่เกินเลย จนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้

เหยาเฉาคือใคร? นั่นคือเฒ่าเจ้าเล่ห์แห่งราชสำนักเชียวนะ ถ้าไปล่วงเกินเขา ตระกูลของตนก็อาจจะไม่ได้อยู่อย่างผาสุกก็เป็นได้

ดังนั้นหลังจากที่รู้ว่าน้องชายของตัวเองตีหัวเหยาเอ้อหลางจนสลบ เขาถึงต้องวิงวอนให้อีกฝ่ายมาเยี่ยมเยือนตระกูลเหยาด้วยกัน เพื่อกล่าวขอโทษ

แต่น้องชายของเขาเหมือนจะมีบางอย่างในใจกับเหยาเอ้อหลางคนนี้ แม้แต่เสียงทักทายอีกฝ่ายก็ไม่มี แค่มองเหยาเอ้อหลางอย่างตรงไปตรงมา เหมือนกับมีบางอย่างพูดไม่ได้ก็มิปาน

“ขอบคุณสำหรับคำชมของใต้เท้าหลิว ข้ารู้สึกละอายแก่ใจจริง ๆ เอ้อหลาง ในเมื่อคุณชายหลิวมาถึงนี่แล้ว เจ้าพาคุณชายหลิวไปเดินเล่นในสวนดอกไม้เถอะ”

“ขอรับ” เดิมทีเหยาเอ้อหลางจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นสายตาของเหยาเฉา ก็ทำได้แค่ตอบรับอย่างจำใจ

คุณชายหลิวได้ยินเหยาเอ้อหลางตอบตกลง นัยน์ตาก็เปล่งประกายทันใด เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงจริง ๆ แม้ว่าจะถูกบีบบังคับแต่เขาก็ดีใจ

“คุณชายหลิว เชิญ”

กล่าวจบ เหยาเอ้อหลางก็พาคุณชายหลิวจากไป ส่วนใต้เท้าหลิว ครั้นเห็นท่าทางดีใจของน้องชายตัวเองก็ไม่พูดสิ่งใด แค่พยักหน้าตกลง ให้เขาไปเดินเล่น

“เมื่อวานเหตุใดคุณชายหลิวถึงจำข้าได้”

เหยาเอ้อหลางคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ถึงอย่างไรคนที่ปิดประกาศนั้นก็ไม่มีทางวาดภาพเหมือนกับตัวเขาแน่นอน เหตุใดคุณชายหลิวผู้นี้ถึงจำเขาได้อย่างแม่นยำ หรือว่าตีหัวเขาทั้ง ๆ ที่ยังไม่แน่ใจ?

“แม้ว่าคุณชายเหยาจะเดินเตร่อยู่บนถนน แต่ก็ไม่ว่าอย่างไรเสื้อผ้าที่สวมใส่รวมทั้งถุงเงินก็ไม่ใช่สิ่งของที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้ ปกติแล้วทางตอนใต้ของเมืองมักจะมีพวกอันธพาลปะปนอยู่ในตลาด ยากมากที่จะพวกขุนนางชั้นสูงจะหลงเข้ามาที่นี่ แต่ถ้าคุณชายเหยาคิดหนี ก็คงเลือกสถานที่ที่พวกขุนนางชั้นสูงจะไม่ค่อยไป แบบนี้ถึงจะหลบเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นจำได้ ดังนั้นข้าถึงได้กล้าคาดเดาว่านั่นคือคุณชายเหยา”

“แค่นี่เจ้าก็แน่ใจแล้ว?”

“ไม่แน่นอน ความจริงแล้วข้ามักจะติดตามพี่ใหญ่เสมอเลยได้เรียนรู้วิธีการอ่านใจคน แม้จะบอกว่าไม่เต็มสิบก็เถอะ แต่ก็มีถึงแปดส่วนเลยทีเดียว ส่วนคุณชายเหยาหลังจากเห็นการประกาศนั้นก็เคลื่อนไหวเสียใหญ่โต นั่นจึงทำให้ข้ามั่นใจมากขึ้น”

เหยาเอ้อหลางไม่คิดว่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ ถ้ารู้เร็วกว่านี้เมื่อวานเขาไม่ไปที่คึกคักแห่งนั้นเสียดีกว่า

“เช่นนั้นเมื่อวานที่ข้ารู้สึกเหมือนมีคนเดินตามหลัง เมื่อหันไปมองกลับไม่มีใคร เจ้าทำได้อย่างไร?”

“ท่านพี่เคยสอนข้า ท่านพี่บอกว่าข้าจะไม่ปลอดภัยหากอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง ต้องเรียนรู้การซ่อนร่องรอยของตัวเอง ความจริงแล้วเมื่อวานข้าเดินตามหลังคุณชายเหยาไปตลอดทาง แต่มักจะซ่อนตัวในโรงน้ำชา ต้นไม้ และปะปนอยู่ในเมือง ดังนั้นถ้าคุณชายเหยาจะมองไม่เห็นก็เป็นปกติ”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ดูท่าเหยาเอ้อหลางจะมีแต่บุรุษรุมล้อมนะคะ ดวงสมพงษ์กับบุรุษเหรอเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด