ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] 103

Now you are reading ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] Chapter 103 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103

“ทำไมเล่า ?” ชิวเจิ้นถามอย่างสงสัย

มูฉิงกล่าว “ยังเร็วเกินไปที่จะใช้น้ำมันเดือด ได้โปรดรอก่อนเถอะ”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้ เราหยุดมันไม่ได้แน่ พวกมันขึ้นมากันเร็วเกินไป”

มูฉิงยิ้มอย่างแผ่วเบา “ไม่ช้าเกินไปหรอก” เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจ เขาจึงเดินเข้าไปกระซิบบอก “ท่านชิวอาจจะไม่รู้ก็ได้ แต่ข้านั้นมีประสบการณ์ในด้านนี้มากกว่าท่าน ดังนั้นได้โปรดเชื่อข้าเถอะ”

ชิวเจิ้นจ้องมองอีกฝ่าย

มูฉิงกล่าวต่อ “ตอนนี้พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ ถ้าพวกมันเข้ามาได้ละก็ พวกเราไม่รอดแน่”

สิ่งที่เขาพูดออกมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริงทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประสบการณ์ที่เขาเคยต่อสู้กับพวกมอร์ฟีสมาก่อน

ชิวเจิ้นเงยหน้าขึ้น มองเข้าไปยังดวงตาของอีกฝ่าย พร้อมกับมอบธงคำสั่งให้ “หวังว่าการตัดสินใจของเจ้าถูกต้อง ข้าจะยังไม่ใช้มันตามที่เจ้าร้องขอ !”

มูฉิงประหลาดใจที่ชิวเจิ้นยอมรับฟังคำของเขา

“เจ้าจะรออะไรอยู่อีก ?” ชิวเจิ้นถาม

มูฉิงได้สติ เขาไม่ลังเลอีกต่อไป รีบกล่าวขึ้นว่า “ขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวข้าท่านชิว !” เขานั้นวาดฝันว่าอยากจะเป็นคนออกคำสั่งมาเนิ่นนานแล้ว แต่ใครมันจะไปคิดเล่า ว่ามันจะเป็นวันนี้

มูฉิงโบกมือ หันไปเรียกคนอื่นมา “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป จงปกป้องน้ำมันเดือดเอาไว้สุดชีวิต”

“ขอรับ !” ในมือของมูฉิงคือธงคำสั่ง ดังนั้นเขาคือผู้บัญชาการ พวกทหารจึงรีบทำตามทันที

นอกจากพวกแม่ทัพแล้ว ทหารเกือบทุกนายของพวกมอร์ฟีสต่างก็อยู่ในสนามรบทั้งนั้น บันไดถูกตั้งขึ้น และพลทหารนับหมื่นนายก็กำลังไต่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกเฟิงต่างก็ใช้อาวุธเพื่อขัดขวางคนเหล่านั้นเท่าที่ทำได้

อย่างไรก็ตาม มันไม่มีอะไรหยุดยั้งการรุกรานของมอร์ฟีสได้เลย ไม่นานนักพวกมันก็เต็มกำแพงไปหมด ทว่ายังไม่ทันที่พวกมันจะขึ้นมาได้ หอกจากทางด้านบนก็ได้เหวี่ยงเข้าใส่พวกมอร์ฟีสจนล้มตายกันไปมาก และไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่ขึ้นมาบนกำแพงได้ พวกมันเหล่านั้นก็จะโดนหอกแทงเข้าใส่อย่างโหดร้ายและร่วงลงไปนับไม่ถ้วน

ภายใต้กลยุทธ์พลีชีพแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเฟิงเริ่มเสียเปรียบไปทีละน้อย

คราแรกนั้น พวกเฟิงที่เอาแต่ตั้งรับก็ยังพอที่จะได้เปรียบอยู่บ้าง แต่เมื่อพวกมันขึ้นมาได้ สถานการณ์ก็เริ่มพลิกผันไป เพราะการปะทะกันซึ่ง ๆ หน้านั้น พวกเฟิงเทียบกับมอร์ฟีสไม่ติดเลย ทหารมอร์ฟีส 1 นายสามารถล้มพวกเฟิงได้เกือบ 5 คน

ชิวเจิ้นที่อยู่บนหอคอยมองเห็นทุกอย่าง เขากระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ถ้าเกิดว่าพวกมันไม่ขึ้นมาบนกำแพงเมืองก็ยังพอใช้อาวุธต่าง ๆ ยื้อเอาไว้ได้ แต่ถ้ามันขึ้นมาเมื่อไหร่ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทันที

เด็กหนุ่มทุบกำแพง หันไปจ้องมองมูฉิงอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าต้องการให้พวกเราตาย…”

แต่ก่อนที่จะพูดจบ อีกฝ่ายก็พลันโบกธงขึ้น

เมื่อเห็นธงคำสั่ง ทหารเฟิงก็ยกหม้อน้ำมันเดือดขึ้นมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปที่กำแพงเมืองแล้วเทมันลงไป

สำหรับพวกมอร์ฟีสบางส่วนที่ขึ้นมาได้แล้วก็ถือว่าดีไป แต่พวกที่กำลังปีนขึ้นมาอยู่นั้น พวกเขาต่างก็ถูกน้ำมันเดือดราดเข้าใส่จนผิวพองกัดกินเข้าไปถึงเนื้อ

พวกมอร์ฟีสที่โดนของร้อนลวกจนเห็นกระดูก พากันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุดออกมา

ทว่ามันยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะหลังจากที่น้ำมันถูกเทลงไปแล้ว มูฉิงก็โบกธงอีกครั้งและตะโกนออกไปว่า “จุดไฟได้ !”

พวกเฟิงทำตามคำสั่งด้วยการจุดไฟขึ้นที่ลูกธนู

ด้วยวิธีนี้ จึงทำให้กำแพงเมืองกลายเป็นทะเลเพลิงพร้อมกับเสียงกรีดร้อง

พวกมอร์ฟีสที่โดนล้อมไปด้วยไฟพากันแตกตื่น ได้แต่กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ร่างถูกเปลวไฟคลอก ทำให้พวกเฟิงที่อยู่บนกำแพงเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง

แม่ทัพมอร์ฟีสที่ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ ก็ถึงกับตกตะลึงและรีบสั่งให้พวกทหารถอยออกมา

เมื่อได้ยินคำสั่ง พวกทหารมอร์ฟีสก็รีบถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พวกที่หนีไม่ทันถูกไฟเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง

ส่วนพวกทหารที่ขึ้นมาได้ พวกเขาก็กลายเป็นทหารโดดเดี่ยวเดียวดาย จากการที่คิดว่าจะได้เป็นคนเปิดประตูสู่ชัยชนะให้กับกองทัพ กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเข้ามาสู่ความตายเสียเอง

ด้านหลังมีทะเลเพลิง ด้านหน้ามีกองทหารเฟิง ไม่ว่าจะทางไหนก็หนีไม่รอด มือที่กำอาวุธอยู่สั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ดวงตาของทหารมอร์ฟีสพวกนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ซึ่งสวนทางกลับพวกเฟิงที่ในขณะนี้มีกำลังใจล้นปรี่

การรอคอยให้พวกมอร์ฟีสขึ้นมานั้น ก็เพื่อให้เป็นไปตามแผนนี้ มูฉิงต้องการตัดกองทัพบางส่วนของศัตรูให้แยกจากกัน โดยคาดหวังถึงผลลัพธ์สูงสุด และมันก็เป็นไปที่เขาตามคาด เพลิงที่โหมกระหน่ำคร่าชีวิตฝ่ายตรงข้ามไปมาก รวมไปถึงทำลายขวัญและกำลังใจพวกมันด้วย

มูฉิงหันกลับมาบอกกับเหล่าทหารด้านหลัง “ส่งคำสั่งไป จับเป็นให้มากที่สุด ใครขัดขืนให้ฆ่าทิ้ง !”

“ขอรับ !” ด้วยคำสั่งนี้ พวกแม่ทัพที่ได้ยินก็ถึงกับตะลึงในความสามารถของมูฉิง

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาจึงมองไปยังชิวเจิ้นและยิ้มแห้ง ๆ “ข้าเพิ่งทำให้นายท่านตะลึงสินะ”

ไม่ว่าจะฟังยังไงนี่ก็เป็นการเยาะเย้ยอีกฝ่ายชัด ๆ

ชิวเจิ้นที่ได้สติก็มองอีกฝ่ายทันที แม้จะไม่ค่อยชอบหน้า แต่ก็คงต้องยอมรับจริง ๆ ว่าความสามารถของมูฉิงนั้นนับได้ว่าเก่งกาจ ชายคนนี้สามารถคงสติไว้ได้แม้ว่าจะมีภัยเข้าใกล้

ดังนั้นถึงจะได้ยินแบบนั้น หากแต่ชิวเจิ้นก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด อย่างน้อยก็เบื้องหน้าละนะ “ต้องยอมรับจริง ๆ บอกได้เลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นการต่อสู้แบบนี้ มันทำให้ข้าประหลาดใจไม่น้อยเลย” สายตาของเด็กหนุ่มจ้องไปยังธงคำสั่งในมือของอีกฝ่าย กำหมัดแน่น

ตอนนี้พวกมอร์ฟีสพากันถอยทัพ อีกทั้งบันไดก็พังยับเยินไปแล้ว ทำให้การโจมตีต่อเป็นเรื่องที่ยากมาก มันจึงควรเป็นมูฉิงที่คืนธงให้ชิวเจิ้นได้แล้ว แต่เขากลับคิดว่าการถือมันไว้ย่อมอุ่นใจกว่า

มูฉิงแอบหัวเราะ หันมองไปยังด้านนอกเมือง ก่อนจะพูดว่า “พวกมันเสียหายยับเยินก็จริง แต่ครั้งต่อไป พวกมันจะมากันเป็นทัพใหญ่อย่างแน่นอน”

ชิวเจิ้นขมวดคิ้ว “ถ้างั้นจะให้ทำเช่นไร ? พวกเรายังสามารถใช้ลูกไม้เดิม ๆ ได้อีกหรือ ?”

มูฉิงส่ายหัว “พวกมันรับทราบถึงความร้ายกาจของกลเม็ดในครั้งนี้แล้ว ถ้าใช้อีกเกรงว่าคงจะให้ผลที่น้อยลง ตอนนี้พวกเราคงได้แต่คาดหวังว่าท่านถังจะทำภารกิจให้สำเร็จเสียก่อนที่การโจมตีครั้งถัดไปจะมาถึง”

ชิวเจิ้นใจสั่น “เจ้าคิดว่าพวกมันจะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ ?”

“อีกไม่นานแน่นอน แล้วครานี้พวกมันจะมาพร้อมกับผู้ฝึกยุทธ์ด้วย !”

ชิวเจิ้นใจหาย ถ้าเกิดว่าพวกมันล้อมกำแพงเอาไว้ทั้ง 4 ทิศ นั่นคงทำให้การป้องกันยากขึ้นเป็นเท่าตัว แล้วไหนจะโอกาสที่กำแพงเมืองจะถูกทำลายอีก ดังนั้นหลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของมูฉิง ชิวเจิ้นก็เริ่มมีสีหน้าที่ตึงเครียดขึ้นมาทันที

ด้วยกำลังทหารตอนนี้ ไม่อาจต้านทานไว้ได้นานแน่

อีกด้านหนึ่ง หลังจากมูฉิงสั่งให้ทหารจับพวกมอร์ฟีสมัดเอาไว้ คนพวกนั้นก็ถูกจับไปไว้ที่กำแพงเมืองในฐานะเชลยศึกในทันที

การบุกครั้งแรกกลายเป็นหายนะ พวกมอร์ฟีสสูญเสียไปมาก แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกมันกลับไม่คิดยอม กลับเริ่มทำการรวบรวมกองทัพใหม่อีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานครั้งถัดไป…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด