สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค 80 ผู้บุกรุกแห่งชั้นใต้ดิน

Now you are reading สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค Chapter 80 ผู้บุกรุกแห่งชั้นใต้ดิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ ภายใต้ชั้นใต้ดินของสถาบัน…อเล็กเซียได้แต่นอนอุดอู้อยู่ภายในห้องลับของตนพร้อมกับเหล่าปีศาจที่รับหน้าที่เป็นปราการสุดท้ายที่คอยปกป้องเธอ

เพราะไม่ได้เจอกับออคโตเลยในช่วงนี้ ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นไม่น้อย แต่ก็ต้องบอกว่าสภาพจิตใจของเธอดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

ผิวพรรณของเธอเริ่มมีน้ำมีนวล ความงดงามที่สูญเสียไปก็ค่อยๆฟื้นฟูกลับมาบ้าง

นี่เป็นเพราะข้อความจากนกสตีลที่ดิแอสส่งมา

“โปรดวางใจขอรับท่านอเล็กเซีย แผนการของออคโตบรรลุผลและสามารถหลอกล่อเซนต์ให้ออกห่างจากสถาบันได้สำเร็จแล้วขอรับ”

ดูเหมือนว่าแผนการณ์ดึงเซนต์ออกห่างจากสถาบันของออคโตจะดำเนินไปได้ด้วยดี

ออคโตควบคุมนักเรียนที่มีความริษยาและเกลียดชังในตัวเอลริสให้มารับหน้าที่เป็นแม่มดตัวปลอม

เอลริสที่เข้าใจว่าเธอคนนั้นเป็นแม่มดตัวจริงจึงไล่ตามเธอออกจากสถาบันไป

มาจนถึงตอนนี้ เอลิซาเบธที่รับหน้าที่เป็นแม่มดตัวปลอมน่าจะโดนเอลริสปราบไปเรียบร้อยแล้ว

การที่ออคโตไม่ได้ติดต่อมาเลย ก็คงเป็นเพราะว่ามันถูกกำจัดไปพร้อมกับแม่มดตัวปลอมแล้ว

นี่เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวด เนื่องจากออคโตเองก็เป็นบริวารที่ซื่อสัตย์ต่อเธอมาตลอดตั้งแต่เปลี่ยนกลายเป็นแม่มด แต่นี่ก็ทำให้เธอโล่งใจเช่นกัน

การที่เซนต์เอลริสละสายตาออกจากสถาบันแห่งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

ถึงอย่างนั้น โอกาสที่ความจะแตกก็ยังมีอยู่ไม่น้อย

เพื่อการนั้น อเล็กเซียจึงคิดที่จะใช้นักเรียนบางคนที่ใกล้ชิดกับเอลริสเป็นหมาก

เหมือนกับเหตุการณ์ในอีเวนต์ฟาร่า เธอจะใช้เจ้าพวกนี้เป็นตัวประกันในกรณีที่ถูกเอลริสพบเข้า

ความคิดเยี่ยมไปเลย อเล็กเซียพึงพอใจในตนเองมาก เธอรีบเอาแผนนี้ไปเสนอดิแอสทันที และนักเรียนเหล่านั้นก็จะถูกส่งมายังชั้นใต้ดินแห่งนี้ภายในวันนี้

ใช้ข้ออ้างว่าเป็นการฝึกพิเศษ

บอกว่าเป้นการฝึกต่อสู้กับปีศาจในสถานที่คับแคบ และส่งนักเรียนมายังพื้นที่ใต้ดินซึ่งมีเพียงอาจารย์ไม่กี่คนที่มีสิทธิ์เข้า

รวมแล้วจะมีตัวประกันเข้ามาเก้าคนรวมถึงอาจารย์ผู้คุม เป็นกลุ่มที่ใหญ่พอสมควร แต่แค่นี้ไม่คณามืออเล็กเซียเลย

ตัวประกันน่ะ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งดี

ถ้ามีอยู่แค่คนหรือสองคนล่ะก็ อเล็กเซียก็จำเป็นที่จะต้องทะนุถนอมพวกมันอย่างดี

ตัวประกันเป้นทั้งโล่และสัมภาระสำหรับเธอ และยังเป็นเครื่องยืดชีวิตเธอด้วย

ถ้ามีตัวประกันน้อยคน ก็จะไม่สามารถใช้งานพวกมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และถ้าเสียพวกมันไป ก็จะทำให้แต้มต่อของเธอหายไปด้วย

แต่ถ้ามีตัวประกันหลายคนล่ะก็…ถ้าพวกมันขัดขืนก็แค่ฆ่าหนึ่งในนั้นเพื่อเป็นตัวอย่าง และจะสามารถหาตัวแทนในแต่ละสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น

นี่จะต้องทำให้เอลริสลังเลอย่างแน่นอน

ไม่ น่าจะยิ่งกว่านั้นอีก คนซื่อๆอย่างเธอจะยอมฆ่าตัวตายเพื่อใช้ชีวิตตัวเองแลกกับตัวประกันก็ไม่แปลก

แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ง่ายอย่างนั้น

นักเรียนแปดคนที่ถูกส่งมาล้วนเป็นเหล่าผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกจับตา ความสามารถของพวกมันน่าจะพอตัวอยู่

ถึงอย่างนั้น ทางฝั่งนี้มีทั้งปีศาจที่แข็งแกร่งถึงสี่ตัว และยังมีตัวอเล็กเซียเองด้วย

ถึงจะมามากกว่านี้ ก็ไม่ต่างจากแมลงที่ตกลงมาบนใยแมงมุม ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก

อเล็กเซียยังไม่รู้ตัว

ว่าการที่มาอาศัยอยู่ใต้ดินของสถาบันเช่นนี้ เธอเองนั่นล่ะที่กลายเป็นแมลงติดใยแมงมุม

.

“เหห ไม่รู้เลยนะว่ามีชั้นใต้ดินแบบนี้ด้วยน่ะ”

จอรชห์นพูดด้วยน้ำเสียงมีชีวิตชีวาฟร้อมมองไปรอบๆ

จริงๆแล้วในใจนี่เขากระวนกระวายพอตัวเลย แต่จะแสดงออกมาไม่ได้

บทบาทของพวกเขาคือการแสดงเป็นนักเรียนผู้”ไม่รู้อิโหน่อิเหน่”ที่”ถูกล่อเข้ามาติดกับดัก”

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือการห้ามไม่ให้แม่มดรู้สึกตัวว่าพวกเขาคือสายของเอลริส

ทันใดที่แม่มดรู้ตัวว่าเอลริสทราบที่อยู่ของเธอแล้ว ก็จะหนีไปในทันที

พวกเขาจะต้องสู้เพื่อให้เธอใช้พลังเวทย์หมดไปถึงระดับหนึ่งโดยที่ห้ามไม่ให้แม่มดสังเกตถึงความผิดปกติ นี่คือบทบาทของปาร์ตี้นี้

พวกเขาเดินลึกเข้าไปอีก มาจนถึงส่วนที่กว้างที่สุดของชั้นใต้ดิน

ที่นั่นมีหญิงสาวในชุดสีดำรออยู่ ข้างกายของเธอคือปีศาจสี่ตน

เสื้อคลุมของเธอปิดผมยาวสีเงินเอาไว้ไม่มิด เดรสของเธอเป็นสีดำสนิท

แก้มของเธอซูบผอม รอบตาคล้ำสีเข้ม

ริมฝีปากกลายเป็นสีม่วง รูปลักษณ์ของเธอนั้นตรงกับที่จินตนาการถึงแม่มดไว้เลย

ร่างกายของเธอปกคลุมด้วยหมอกสีดำ

ความทรงจำจากอดีตไหลเข้ามาในหัวของเวอร์เนล จิตใจของเขาปกคลุมไปด้วยความโกรธ

ข้างกายของเธอคือไวเวิร์น มิโนทอร์ ฮิปโปกริฟ และออโธรอส …แต่ละตัวนั้นทรงพลังพอที่จะต่อกรกับอัศวินได้หลายคนพร้อมกัน

ไวเวิร์นคือปีศาจที่มีหัวเป็นมังกร ขาเหมือนนกอินทรี ปีกค้างคาว หางเป็นหัวของงู มันสามารถบินได้แม้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ และก็สามารถพ่นไฟออกมาจากทางปากได้

ปีศาจสายพันธุ์นี้มีประวัติการรับใช้แม่มดมาตั้งแต่ยุคอดีต และเป็นหนึ่งในปีศาจชนิดแรกๆที่เดินทางไปจนถึงฟุกุเทนได้สำเร็จ

มิโนทอร์คือปีศาจวัวที่ยืนด้วยสองขา ตัวสูงกว่าสามเมตร ในมือถือขวานขาดใหญ่ ดวงตาของมันจับจ้องมายังเวอร์เนลพร้อมหายใจอย่างแรง

การที่มันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์ได้ขนาดนี้เป็นสัญญาณที่ว่ามันเใกล้ข้าถึงระดับของมหามารเป็นที่เรียบร้อย แต่เนื่องจากสติปัญญาที่ไม่เพียงพอจึงขึ้นไม่ถึงระดับนั้น

ฮิปโปกริฟมีช่วงหน้าเป็นอินทรีและช่วงหลังเป็นม้า มันกินเนื้อมนุษย์และเนื้อม้าเป็นอาหาร

มันใกล้เคียงกับกริฟฟอน แต่ไม่ดุร้ายเท่า

ส่วนออโธรอสเป็นปีศาจสุนัขสองหัวที่มีหางเป็นงู

ไม่รู้ทำไมปีศาจที่หางเป็นงูถึงมีเยอะเหลือเกิน

ถึงปีศาจเหล่านี้จะเทียบกับมังกรหรือมหามารไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ศัตรูที่จะดูถูกได้เลย

แต่การที่ปีศาจระดับนี้ถูกตั้งไว้เป็นปราการด่านสุดท้ายของแม่มด ก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าฝ่ายนั้นขาดกำลังพลแค่ไหน

“คะ ใครน่ะ?!”

เวอร์เนลทำทีเป็นหวาดกลัวพร้อมตะโกนออกมา

พวกเขาจะต้องทำเหมือนว่าเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาที่มาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้เข้าโดยบังเอิญ

ต้องทำแบบนี้เพื่อให้เธอลดความระวังตัวลง

“อะ อะไรกันเนี่ย…?”

“อาจารย์คะ! นี่มันหมายความว่ายังไง?!!”

เอเทอร์น่าก้าวถอยหลัง ส่วนฟิโอร่าก็หันไปตะโกนใส่ซัปเปิ้ล

ส่วนซัปเปิ้ลก็จะเป็นอาจารย์หน้าโง่ที่ถูกดิแอสหลอกใช้ และพานักเรียนมาเสี่ยงอันตราย

เขาแสดงความตกใจออกมาอย่างออกนอกหน้า

“กะ กระผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ทำไมถึงมีปีศาจในที่แบบนี้? ละ แล้ว…ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร…”

แม่มดถูกการแสดงของซัปเปิ้ลหลอกเข้าให้ เธอก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมหัวเราะ

พวกเวอร์เนลก้าวถอยหลัง ส่วนซัปเปิ้ลก็ส่งเสียง”ฮี้!”ออกมา

“อย่ากลัวไปเลย เหล่าลูกแกะหลงทางเอ๋ย…ถ้าไม่ขัดขืนก็ไม่ต้องใช้กำลังกันหรอกนะ”

“พลังเวทย์นั้น…อย่าบอกนะว่า…แม่มด…?!”

แมรี่พูดออกมาอย่างแผ่วเบา ส่งผลให้แม่มดที่ได้ยินยิ้มเข้าไปอีก

“ข้าไม่อยู่ที่นี่แล้ว! ข้าจะกลับบ้าน!”

“ต้องรีบไปบอกท่านเอลริสให้เร็วที่สุด!”

ครั๊นช์ไบท์และไอน่าทำทีเหมือนจะหนี

เป็นไปตามแผนเลย

ถ้าจู่ๆก็ทำท่าจะเข้าสู้กับแม่มดเลย จะทำให้เธอสงสัยเอาได้

เพราะแบบนั้นจึงต้องทำทีเหมือนต้องการจะหนีก่อน

เป็นจิตวิทยาพื้นฐาน ต้องการที่จะไล่ตามคนที่หนี และพยายามที่จะหนีเมื่อถูกไล่

“โอ๊ะโอ๋…อย่าคิดล่ะว่าจะหนีไปได้น่ะ”

รูปปั้นสองตัวที่อยู่ใกล้ทางเข้าจู่ๆก็ลุกขึ้นมาบังทางเอาไว้

เพิ่มบาเรียที่กางปิดเข้าไปอีก

“จะให้หนีจากแม่มดไปง่ายๆแบบนั้นคงไม่ได้หรอกนะ”

ในขณะที่พูดแบบนั้น แม่มดก็แสยะยิ้ม

…แผนการสำเร็จได้ด้วยดี เท่านี้แม่มดก็จะคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่า และไม่คิดที่จะหนีไป

เธอจะคิดว่าตัวเองคือผู้ล่า ทั้งที่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย

ยิ่งกว่านั้น แม่มดยังกลัวว่าเรื่องของที่นี่จะไปถึงหูของเอลริส

จึงจะปล่อยให้ปาร์ตี้ของเวอร์เนลหนีไปไม่ได้เป็นอันขาด

ในตอนนี้ เธอไม่มีตัวเลือกที่จะหนีอยู่ในหัวเลย

การเตรียมการขั้นแรกเสร็จสิ้น

พวกเวอร์เนลในตอนนี้คือหมาจนตรอก ถ้าอย่างนั้นก็มีเพียงตัวเลือกเดียวที่เหลือ

“หึ…คนที่ติดกับน่ะ-“

อัลเฟรียเกือบจะพูดอะไรที่ทำให้เสียแผนออกมาแล้ว ดีที่ได้เอเทอร์น่าและฟิโอร่าตบหัวหยุดไว้ก่อน

ยัยนี่จะทำท่าเหมือนมีชัยทำด๋อยอะไร?

เกือบงานหยาบแล้วเห็นมั้ยเนี่ย

“มะ ไม่มีทางให้หนีแล้ว…มีแต่ต้องสู้เท่านั้น!”

“ใช่! พวกเราเองก็เป็นอัศวินฝึกหัดนะ!”

“ทำได้แน่…ต้องทำได้แน่!”

“ไม่ไหว! ยังไงก็สู้ไม่ได้หรอก!”

เวอร์เนล จอห์น และครั๊นช์ไบท์หยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมจะต่อสู้ ในขณะที่ไอน่าร้องด้วยความสิ้นหวัง

ทางหนีเดียวที่มีก็โดนปิดไปแล้ว หมาจนตรอกก็ไม่มีทางอื่นนอกจากสู้กลับจนตาย…นี่คือสิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำให้แม่มดคิด

รอยยิ้มของเธอบ่งบอกว่ายังไงพวกเขาก็จบกันแค่นี้แล้ว

ความรู้สึกเหนือกว่านั้นบางครั้งก็ทำให้การตัดสินใจของผู้คนทื่อลง

บางอย่างที่ดูผิดปกติก็จะถูกมองข้ามไปได้ง่ายกว่ายามปกติ

ความคิดที่ว่า”ตัวชั้นนั้นเหนือกว่าทุกคนที่นี่”เป็นสิ่งที่นำไปสู่ความผิดพลาด นั่นคือปลายทางของความเย่อหยิ่ง

“ไปกันเถอะ ทุกคน”

เวอร์เนลหันไปตะโกนใส่คนอื่นๆ ปาร์ตี้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

อย่างแรกที่ต้องทำเลยคือการกำจัดพวกปีศาจออกไปก่อน

กลุ่มแรกจะทำหน้าที่หลอกล่อแม่มดเอาไว้ ส่วนอีกกลุ่มจะทำหน้าที่ปราบพวกปีศาจ

เวอร์เนล แมรี่ และซัปเปิ้ลจะรับหน้าที่เป็นตัวล่อ ในขณะที่เอเทอร์น่าและอัลเฟรียจะจัดการไวเวิร์นและมิโนทอร์

ที่จัดทีมแบบนี้ก็เพื่อให้สามารถจัดการพวกปีศาจทีละตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุด

ทั้งเอเทอร์น่าและอัลเฟรียสามารถต่อกรกับปีศาจได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆอยู่แล้ว

ส่วนปีศาจอีกสองตัวจะถูกไอน่า จอห์น ฟิโอร่า และครั๊นช์ไบท์ล่อเอาไว้ พอเอเทอร์น่าและอัลเฟรียเสร็จงานทางนั้นแล้วก็จะตามมาสมทบทางนี้ทันที ทำให้โค่นปีศาจสี่ตนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากนั้นทั้งปาร์ตี้ก็จะเข้ารุมกินโต๊ะแม่มด เพื่อให้เธอใช้พลังเวทย์ให้สิ้นเปลืองที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าแม่มดเริ่มต้องใช้บาเรียกันไว้เมื่อไหร่ก็ถือว่าภารกิจสำเร็จ

พลังของเวทมนตร์นั้นขึ้นอยู่กับพลังเวทย์ที่ใส่ลงไป

ถ้าเซนต์สองคนโจมตีใส่พร้อมกัน ทางแม่มดก็จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์มากยิ่งกว่านั้นถึงจะกันเอาไว้ได้

และถ้าทำเช่นนั้น เธอก็จะไม่มีพลังเวทย์หลงเหลือพอสำหรับการเทเลพอร์ต…นี่คือแผนที่เอลริสวางเอาไว้

ณ ที่นี่ ในตอนนี้ ทุกๆอย่างจะต้องจบลงในยุคสมัยนี้

เพื่อสิ่งนั้นแล้ว พวกเวอร์เนลจึงเข้าต่อกรกับแม่มด

_______________

สอบเสร็จแล้วจ้า

เพื่อเป็นการชดเชย เดี๋ยวอาทิตย์นี้ลงห้าวันติด วันละตอน เอาให้จบช่วงสู้กับแม่มดเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด