ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ 3: บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก

Now you are reading ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ Chapter 3: บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก

 

เมื่อเข้าสู่กระบวนการสุดท้ายชายหนุ่มก็เริ่มแผนการตัวเองทันที เปิดฉากสารภาพรักกับหล่อน สารภาพความในใจออกไปทั้งหมดไม่มีกักเก็บหวังเพียงว่าโชคชะตาจะเข้าข้างมอบบทเพลงแห่งชัยชนะมาให้

 

“ชอบครับ ชอบมาตลอด” ทราเวียร์หน้าแดงเป็นที่สุด

 

เขาเอ่ยไปแล้วเรียบร้อย เอ่ยถ้อยคำปรกติธรรมดาเพียงไม่กี่คำที่ใครบางคนตลอดชั่วชีวิตนี้ไม่อาจหยิบยกออกมาพูดได้ หรือต่อให้เปิดปากพูดใช่ว่าจะสมความปรารถนาดั่งใจหวัง

 

เหมือนกับเขาคนที่ต้องผิดหวังเพราะคำว่า “รัก”

 

“…” รอยยิ้มคู่สนทนาแข็งค้างตื่นตระหนกตกใจเป็นที่สุด

 

“รักเธอ~ ฉันยังคงรอยคอยเธออยู่เสมอ~” บทเพลงยังดำเนินต่อด้วยเสียงร้องขับขานหวานชื่นประดุจเพลงจากสรวงสวรรค์อวยพรให้ทั้งสองหลงรักกันไปตลอดชั่วชีวิตไม่มีแยกจากกันตลอดกาล

 

ตามมาด้วยเสียงปรบมือดังสะนั่นไปทั่วทั้งห้อง

 

“ยินดีด้วย”

 

“ยินดีด้วยค่ะ”

 

“พระเจ้าช่วยอิจฉาเป็นบ้าเลย”

 

“นั้นสินะ อยากได้แบบนี้บ้างจัง” ทุกคนต่างหยิบยื่นไมตรีให้ไม่ขาดสาย ต่างร้องยินดีอวยพรไปตามแบบฉบับของตัวเองไม่มีคำสบถอารมณ์เสียหรือว่าคำสาปส่ง เว้นคนผู้หนึ่งให้อารมณ์แตกต่างจากผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง

 

หญิงสาวนิ่งเงียบไม่คิดพูดจาคล้ายหัวสมองหยุดนิ่งครุ่นคิดอะไรไม่ออก

 

“…” ร่องรอยยินดีสมควรปรากฏบนใบหน้าหญิงสาวหายลับไปจากสายตา ราวกับทุกสิ่งอย่างที่เขาพานพบเป็นเพียงปราสาททรายขาวเมื่อโดนคลื่นทะเลพัดพาก็หอบเอาทุกสิ่งอย่างกลับไป

 

ไม่หลงเหลืออะไรให้นอกจากความเจ็บปวดและความว่างเปล่าไร้ชีวิต

 

“นายสารภาพกับฉัน?”

 

“…ครับ”

 

“นาย” เธอกดข้อมือตัวเองแน่นใต้โต๊ะ 

 

ร้อยล้านคำพูดมากมายจุกอยู่ในอกมันพูดออกมาไม่ได้ สำหรับหญิงสาวแล้วนี่เป็นสถานการณ์ไม่คาดฝัน สถานการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ดันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ไม่อาจหักห้าม ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้

 

…‘ทำไมนายต้องสารภาพกับฉันด้วย!’

 

“…”

 

“…ขอโทษ”

 

“…” สักขีพยานแห่งรักทั้งหลายต่างนิ่งเงียบไปในทันที เพลงบรรเลงเองก็สะดุ้งลงก่อนจะกลับมาบรรเลงใหม่อีกครั้ง แน่นอนว่าผู้คนมากมายไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขาสนใจชายหนุ่มหญิงสาวคู่หน้ามากกว่า

 

สนใจว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะดำเนินไปยังทิศทางไหน

 

“นิ—” ทราเวียร์อ้าปากค้างคิดกล่าวต่อก็โดนอีกฝ่ายแทรกเสียก่อน

 

“…ฉันน่ะ ไม่ได้คิดกับนายแบบนั้นหรอกนะ เวียร์” หญิงสาวตอบเสียงเจือปนไปด้วยความเศร้าโศก หล่อนไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ดำเนินมาหลายปี ต้องจบลงด้วยการเป็นคนแปลกหน้า

 

แต่อะไรที่มันต้องเกิดก็ต้องเกิดไม่อาจเข้าไปหยุดยั้งได้

 

“ไม่ได้คิดกับผม?”

 

“แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร?”

 

“…” อารมณ์ต้องการอยากรู้อยากเห็นในตอนแรกแปรเปลี่ยนหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือร่องรอยหยอกล้อไปตามอารมณ์ทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา กระทั่งรอยยิ้มแจ่มใสคอยมอบความกล้าหาญให้กับทราเวียร์

 

ยังหม่นหมองเจือปนไปด้วยประกายดำสิ้นหวัง

 

“บางที นายอาจคิดไปเองคนเดียว”

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

“…นิ นี่” ทราเวียร์กุมหน้าอกตัวเองแน่น

 

“…” หล่อนกัดปากตัวเองแน่นจนแทบเรียกเลือด ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงขั้ววิญญาณ ภาพชายหนุ่มมือสั่นสะท้านพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา พยายามทำตัวให้ปรกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

น่าเสียดายมันล้มเหลวไม่เป็นท่า

 

“…ทำไม?” น้ำเสียงแหบแห้งเกือบพังทลาย

 

“…” หล่อนนิ่งเงียบหลบหน้าไม่คิดตอบ ไม่ว่าทราเวียร์จะพยายามถามมากมายเพียงใด พยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนขนาดไหน เธอก็ยังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิมคล้ายไม่ต้องการพูดคุยอีกเป็นครั้งที่สอง

 

จนเขาหงุดหงิดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

 

ปัง!

 

ทราเวียร์กำหมัดตัวเองทุบโต๊ะ

 

“ฉันถาม!” เชิงเทียนสั่นไหวนเกือบล้มลง 

 

“ใจเย็นน้องชาย!”

 

“อย่าทำอะไรเกินเลย!”

 

ฝ่ามือขาวเนียนปิดกั้นไม่ให้ใครคนอื่นเข้ามา

 

“…” หล่อนส่ายหน้าไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนเข้ามายุ่งวุ่นวายกับสถานการณ์เบื้องหน้า นี่เป็นเรื่องระหว่างเธอกับเขา ก็ต้องจบลงด้วยเธอกับเขาเท่านั้น ห้ามใครคนอื่นโดยเฉพาะคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว

 

ทราเวียร์เมินเฉยทุกสิ่งอย่างมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่อยู่ในหัวสมองว่างเปล่า

 

“ขอร้องละ” นั้นคือเหตุผลปฏิเสธทำไมหล่อนถึงได้ปฏิเสธเขา

 

“ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงปฏิเสธฉัน?”

 

“…” รอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าหล่อนอีกครั้ง “เหตุผลมีเยอะแยะมากมายถ้านายอยากฟัง” 

 

“พูดมาเถอะฉันรับได้หมดแหละ”

 

“ได้ถ้านายอยากฟัง” เธอพยักหน้ากล่าวต่อ 

 

“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายที่นายจะเค้นเอาความกล้าของนายออกมา เพื่อสารภาพรักกับฉัน”

 

“แต่เชื่อเถอะ พวกเราทั้งสองคนไม่เหมาะสมกันหรอก ต่อให้ฉันยอมรับคำสารภาพรักของนาย ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีแค่เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ความสุข คำยินดี คงไม่โผล่เข้ามาทักทายนาย—” แม้ว่าช่วงหลังประโยคหล่อนคิดเบี่ยงเบนให้มันเป็นเรื่องตลกคิดสร้างบรรยากาศผ่อนคลายกลับกลายเป็นว่าทำให้คนผู้หนึ่งตวาดขึ้นมาแทน

 

ทราเวียร์กำหมัดตัวเองแน่นรู้สึกแน่นหน้าอกไปหมด

 

“ไม่จริง! มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ฉันน่ะ ฉัน”

 

“จริงหรือว่าไม่จริง ไม่ใช่นายเป็นคนกำหนด”

 

“แล้วใครเป็นคนกำหนด?!”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉันคนนี้” คำปฏิเสธของหล่อนดูยังไงมันก็เป็นเพียงข้ออ้างหลอกเด็ก ข้ออ้างง่ายดายง่ายต่อการมองออกถึงเส้นสนกลใน ถึงจะมองออกแต่ความจริงที่ว่าหล่อนปฏิเสธก็ยังไม่มีเปลี่ยนแปลงอยู่ดี

 

ทราเวียร์กัดปากตัวเองสับสนจนเริ่มทำอะไรไม่ถูก

 

“…”

 

บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาลพวยพุ่งกดให้ทุกคนรอบกายมีอารมณ์ร่วม ทั้งที่วันนี้สมควรกลายเป็นวันยอดเยี่ยมที่สุดของชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง กลับพลิกผันชนิดที่ว่ากลับหัวเป็นหางกลับหางเป็นหัว 

 

เปลี่ยนจากฝันดีหวานชื่นกลายเป็นฝันร้ายชั่วนิรันดร์

 

“…เศร้าวะ ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอแบบนี้เข้าสักวัน แต่พอเจอเข้าจริง แม่งอึดอัดเป็นบ้าเลย”

 

“เห็นด้วย”

 

“จบงานนี้คงต้องพักงานกันยาว” ขณะคนไม่ประสบพบเจอโดยตรงยังมีขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่โดนเข้าโดยตรงความเจ็บมันคงไม่พ้นต้องมากเป็นสิบเท่าหรือร้อยเท่า

 

มากจนจินตนาการไม่ออกบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

 

“…” หญิงสาวเบื้องหน้าทราเวียร์ยังเผยรอยยิ้มไม่จางหายเพียงแต่ว่ารอยยิ้มนี้มันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะเศร้าโศกก็ไม่เศร้าโศกเสียทีเดียว สภาพแปรปรวนจนยากจะหาความเป็นจริงจากหล่อน

 

เธอถอนหายใจไม่คิดรั้งอยู่ต่อไป

 

“ถ้านายไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ฉันขอตัวกลับนะ”

 

“หรือว่าผมเคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้”

 

“ไม่สิเป็นผม เป็นผมไม่ได้เหรอหรือว่าผมดีไม่พอ” ทราเวียร์ยังคงดึงดันไม่เลิกรา 

 

ต่อให้มันต้องจบลงด้วยล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องเศร้าหมองโดนกระทบกระเทือนจิตใจจนแตกสลาย เขาก็ยังคงดึงดันต่อไปอย่างน้อยที่สุดก็ได้พยายาม ได้ลองทุกวิธีทาง ได้ทำสิ่งที่ตนอยากทำ 

 

ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปโดยเปล่าประโยชน์

 

“เปล่าเลย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นาย”

 

“นายน่ะดีพออยู่แล้ว เป็นฉันต่างหากที่ดีไม่พอ”

 

“…ไม่จิรง—” ชายหนุ่มยังไม่ทันได้กล่าวต่อก็โดนกล่าวดักเอาไว้เรียบร้อย 

 

“หยุดเถอะ นายก็รู้ว่าต่อให้พูดมากกว่านี้มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี ฉันไม่ได้รักนาย นายสารภาพรักไม่สำเร็จ เรื่องราวทั้งหมดมันก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรยากเย็น” ถ้อยคำรุนแรงกระทบกระแทกหัวใจ ไม่สิต้องบอกว่าทุบทำลายไม่ปล่อยให้มีโอกาสพลิกหวนคืนกลับมาก็ยังได้ด้วยซ้ำ

 

ราวกับดวงวิญญาณหลุดออกจากร่าง

 

“…” ทราเวียร์นิ่งค้างไปเลย

 

…‘ขอโทษ เป็นไปได้ฉันเองก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้กับนายหรอกนะ’

 

“…” หล่อนเผยรอยยิ้มกลบเกลื่อนปิดกั้นอารมณ์ทุกสิ่งอย่าง “วันนี้ขอบคุณมาก ขอบคุณที่นายสละเวลามาเลี้ยงข้าวฉัน ยอมจ่ายเกือบหมื่นเพื่อมื้อสุดพิเศษมื้อนี้”

 

“พูดตามตรงฉันรู้สึกดีใจนะที่ได้มาเจอหน้านายอีกครั้ง เหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยก่อน สมัยที่พวกเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน เวลาเจอหน้าก็ต้องมาเจอกันจุดอับสายตา เพราะไม่มีใครเขาชอบขี้หน้าพวกเราสองคน พวกเราผ่านพ้นเรื่องราวมามากมาย” น้ำเสียงอ่อนโยนช่างปลอบประโลมหัวใจ ฝ่ามืออ่อนนุ่มเสมือนยาใจชั้นยอดในขณะเดียวกันมันก็คือคมมีดหอมหวานไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

 

คว้าจับเข้าที่มือทราเวียร์

 

“ไม่ว่าจะหนักหนาขนาดไหน พวกเราก็ผ่านพ้นมาได้ตลอด”

 

“…”

 

“ครั้งนี้นายก็ต้องผ่านไปให้ได้ ฉันรู้อยู่แล้วว่านายน่ะไม่มีทางล้มเพียงเพราะเรื่องแค่นี้หรอก” หญิงสาวหลับตาแน่นไม่ต้องการมองเขาอีกเป็นครั้งที่สองเกรงว่าหากมองต่อไป

 

บางสิ่งอย่างที่อดกลั้นมาตลอดคงไม่พ้นต้องพังทลาย

 

“…ไปก่อนนะ” พริบตาที่หล่อนก้าวเท้าลุกจากโต๊ะเดินออกไปจากร้าน เสมือนกับว่าไม่ได้เดินออกไปจากร้านอย่างเดียว มันหนักหน่วงกว่านั้นราวกับหายไปท่ามกลางแม่น้ำกาลเวลา ห่างกันสุดขอบฟ้า ห่างกันสุดขอบโลก

 

ไม่อาจพบเจอหน้ากันได้อีกตลอดกาล

 

“คุณลูกค้าค่ะ”

 

“…” ทราเวียร์เงยหน้ามองก็เห็นพนักงานสาว 

 

“เป็นอะไรรึเปล่าคะ? อยากให้ฉันช่วยอะไรไหม?” สายตาเป็นห่วงเป็นใยคือความรู้สึกแท้จริงที่แสดงให้เห็นชัดเจน ไม่ใช่สิ่งเสริมเติมแต่งตามหน้าที่ พนักงานสาวไม่รู้ว่าพึ่งเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายตรงหน้า แต่สภาพจิตใจแตกสลายเฉกเช่นนี้ย่อมต้องไม่ใช่เรื่องดีหากปล่อยให้อยู่คนเดียวต่อไป

 

ปากอ้าหุบหลายต่อหลายครั้ง

 

“…” พยายามพูดระบายความในใจหรือโต้ตอบกลับไป ทำไม่ได้ ในหัวสมองเขามันว่างเปล่าไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีคำกล่าวอะไรออกมานอกเหนือจากน้ำตาสองสายอาบไปทั่วทั้งใบหน้า

 

เป็นสิ่งสะท้อนความในใจทั้งหมด

 

“คุณคะ?!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ 3: บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก

Now you are reading ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ Chapter 3: บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทนำ ส่งท้ายด้วยคำสารภาพรัก

 

เมื่อเข้าสู่กระบวนการสุดท้ายชายหนุ่มก็เริ่มแผนการตัวเองทันที เปิดฉากสารภาพรักกับหล่อน สารภาพความในใจออกไปทั้งหมดไม่มีกักเก็บหวังเพียงว่าโชคชะตาจะเข้าข้างมอบบทเพลงแห่งชัยชนะมาให้

 

“ชอบครับ ชอบมาตลอด” ทราเวียร์หน้าแดงเป็นที่สุด

 

เขาเอ่ยไปแล้วเรียบร้อย เอ่ยถ้อยคำปรกติธรรมดาเพียงไม่กี่คำที่ใครบางคนตลอดชั่วชีวิตนี้ไม่อาจหยิบยกออกมาพูดได้ หรือต่อให้เปิดปากพูดใช่ว่าจะสมความปรารถนาดั่งใจหวัง

 

เหมือนกับเขาคนที่ต้องผิดหวังเพราะคำว่า “รัก”

 

“…” รอยยิ้มคู่สนทนาแข็งค้างตื่นตระหนกตกใจเป็นที่สุด

 

“รักเธอ~ ฉันยังคงรอยคอยเธออยู่เสมอ~” บทเพลงยังดำเนินต่อด้วยเสียงร้องขับขานหวานชื่นประดุจเพลงจากสรวงสวรรค์อวยพรให้ทั้งสองหลงรักกันไปตลอดชั่วชีวิตไม่มีแยกจากกันตลอดกาล

 

ตามมาด้วยเสียงปรบมือดังสะนั่นไปทั่วทั้งห้อง

 

“ยินดีด้วย”

 

“ยินดีด้วยค่ะ”

 

“พระเจ้าช่วยอิจฉาเป็นบ้าเลย”

 

“นั้นสินะ อยากได้แบบนี้บ้างจัง” ทุกคนต่างหยิบยื่นไมตรีให้ไม่ขาดสาย ต่างร้องยินดีอวยพรไปตามแบบฉบับของตัวเองไม่มีคำสบถอารมณ์เสียหรือว่าคำสาปส่ง เว้นคนผู้หนึ่งให้อารมณ์แตกต่างจากผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง

 

หญิงสาวนิ่งเงียบไม่คิดพูดจาคล้ายหัวสมองหยุดนิ่งครุ่นคิดอะไรไม่ออก

 

“…” ร่องรอยยินดีสมควรปรากฏบนใบหน้าหญิงสาวหายลับไปจากสายตา ราวกับทุกสิ่งอย่างที่เขาพานพบเป็นเพียงปราสาททรายขาวเมื่อโดนคลื่นทะเลพัดพาก็หอบเอาทุกสิ่งอย่างกลับไป

 

ไม่หลงเหลืออะไรให้นอกจากความเจ็บปวดและความว่างเปล่าไร้ชีวิต

 

“นายสารภาพกับฉัน?”

 

“…ครับ”

 

“นาย” เธอกดข้อมือตัวเองแน่นใต้โต๊ะ 

 

ร้อยล้านคำพูดมากมายจุกอยู่ในอกมันพูดออกมาไม่ได้ สำหรับหญิงสาวแล้วนี่เป็นสถานการณ์ไม่คาดฝัน สถานการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ดันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ไม่อาจหักห้าม ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้

 

…‘ทำไมนายต้องสารภาพกับฉันด้วย!’

 

“…”

 

“…ขอโทษ”

 

“…” สักขีพยานแห่งรักทั้งหลายต่างนิ่งเงียบไปในทันที เพลงบรรเลงเองก็สะดุ้งลงก่อนจะกลับมาบรรเลงใหม่อีกครั้ง แน่นอนว่าผู้คนมากมายไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขาสนใจชายหนุ่มหญิงสาวคู่หน้ามากกว่า

 

สนใจว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะดำเนินไปยังทิศทางไหน

 

“นิ—” ทราเวียร์อ้าปากค้างคิดกล่าวต่อก็โดนอีกฝ่ายแทรกเสียก่อน

 

“…ฉันน่ะ ไม่ได้คิดกับนายแบบนั้นหรอกนะ เวียร์” หญิงสาวตอบเสียงเจือปนไปด้วยความเศร้าโศก หล่อนไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ดำเนินมาหลายปี ต้องจบลงด้วยการเป็นคนแปลกหน้า

 

แต่อะไรที่มันต้องเกิดก็ต้องเกิดไม่อาจเข้าไปหยุดยั้งได้

 

“ไม่ได้คิดกับผม?”

 

“แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร?”

 

“…” อารมณ์ต้องการอยากรู้อยากเห็นในตอนแรกแปรเปลี่ยนหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือร่องรอยหยอกล้อไปตามอารมณ์ทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา กระทั่งรอยยิ้มแจ่มใสคอยมอบความกล้าหาญให้กับทราเวียร์

 

ยังหม่นหมองเจือปนไปด้วยประกายดำสิ้นหวัง

 

“บางที นายอาจคิดไปเองคนเดียว”

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

“…นิ นี่” ทราเวียร์กุมหน้าอกตัวเองแน่น

 

“…” หล่อนกัดปากตัวเองแน่นจนแทบเรียกเลือด ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงขั้ววิญญาณ ภาพชายหนุ่มมือสั่นสะท้านพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา พยายามทำตัวให้ปรกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

น่าเสียดายมันล้มเหลวไม่เป็นท่า

 

“…ทำไม?” น้ำเสียงแหบแห้งเกือบพังทลาย

 

“…” หล่อนนิ่งเงียบหลบหน้าไม่คิดตอบ ไม่ว่าทราเวียร์จะพยายามถามมากมายเพียงใด พยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนขนาดไหน เธอก็ยังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิมคล้ายไม่ต้องการพูดคุยอีกเป็นครั้งที่สอง

 

จนเขาหงุดหงิดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

 

ปัง!

 

ทราเวียร์กำหมัดตัวเองทุบโต๊ะ

 

“ฉันถาม!” เชิงเทียนสั่นไหวนเกือบล้มลง 

 

“ใจเย็นน้องชาย!”

 

“อย่าทำอะไรเกินเลย!”

 

ฝ่ามือขาวเนียนปิดกั้นไม่ให้ใครคนอื่นเข้ามา

 

“…” หล่อนส่ายหน้าไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนเข้ามายุ่งวุ่นวายกับสถานการณ์เบื้องหน้า นี่เป็นเรื่องระหว่างเธอกับเขา ก็ต้องจบลงด้วยเธอกับเขาเท่านั้น ห้ามใครคนอื่นโดยเฉพาะคนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยว

 

ทราเวียร์เมินเฉยทุกสิ่งอย่างมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่อยู่ในหัวสมองว่างเปล่า

 

“ขอร้องละ” นั้นคือเหตุผลปฏิเสธทำไมหล่อนถึงได้ปฏิเสธเขา

 

“ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงปฏิเสธฉัน?”

 

“…” รอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าหล่อนอีกครั้ง “เหตุผลมีเยอะแยะมากมายถ้านายอยากฟัง” 

 

“พูดมาเถอะฉันรับได้หมดแหละ”

 

“ได้ถ้านายอยากฟัง” เธอพยักหน้ากล่าวต่อ 

 

“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายที่นายจะเค้นเอาความกล้าของนายออกมา เพื่อสารภาพรักกับฉัน”

 

“แต่เชื่อเถอะ พวกเราทั้งสองคนไม่เหมาะสมกันหรอก ต่อให้ฉันยอมรับคำสารภาพรักของนาย ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีแค่เจ็บปวดทุกข์ทรมาน ความสุข คำยินดี คงไม่โผล่เข้ามาทักทายนาย—” แม้ว่าช่วงหลังประโยคหล่อนคิดเบี่ยงเบนให้มันเป็นเรื่องตลกคิดสร้างบรรยากาศผ่อนคลายกลับกลายเป็นว่าทำให้คนผู้หนึ่งตวาดขึ้นมาแทน

 

ทราเวียร์กำหมัดตัวเองแน่นรู้สึกแน่นหน้าอกไปหมด

 

“ไม่จริง! มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ฉันน่ะ ฉัน”

 

“จริงหรือว่าไม่จริง ไม่ใช่นายเป็นคนกำหนด”

 

“แล้วใครเป็นคนกำหนด?!”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ฉันคนนี้” คำปฏิเสธของหล่อนดูยังไงมันก็เป็นเพียงข้ออ้างหลอกเด็ก ข้ออ้างง่ายดายง่ายต่อการมองออกถึงเส้นสนกลใน ถึงจะมองออกแต่ความจริงที่ว่าหล่อนปฏิเสธก็ยังไม่มีเปลี่ยนแปลงอยู่ดี

 

ทราเวียร์กัดปากตัวเองสับสนจนเริ่มทำอะไรไม่ถูก

 

“…”

 

บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาลพวยพุ่งกดให้ทุกคนรอบกายมีอารมณ์ร่วม ทั้งที่วันนี้สมควรกลายเป็นวันยอดเยี่ยมที่สุดของชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง กลับพลิกผันชนิดที่ว่ากลับหัวเป็นหางกลับหางเป็นหัว 

 

เปลี่ยนจากฝันดีหวานชื่นกลายเป็นฝันร้ายชั่วนิรันดร์

 

“…เศร้าวะ ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอแบบนี้เข้าสักวัน แต่พอเจอเข้าจริง แม่งอึดอัดเป็นบ้าเลย”

 

“เห็นด้วย”

 

“จบงานนี้คงต้องพักงานกันยาว” ขณะคนไม่ประสบพบเจอโดยตรงยังมีขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่โดนเข้าโดยตรงความเจ็บมันคงไม่พ้นต้องมากเป็นสิบเท่าหรือร้อยเท่า

 

มากจนจินตนาการไม่ออกบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

 

“…” หญิงสาวเบื้องหน้าทราเวียร์ยังเผยรอยยิ้มไม่จางหายเพียงแต่ว่ารอยยิ้มนี้มันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะเศร้าโศกก็ไม่เศร้าโศกเสียทีเดียว สภาพแปรปรวนจนยากจะหาความเป็นจริงจากหล่อน

 

เธอถอนหายใจไม่คิดรั้งอยู่ต่อไป

 

“ถ้านายไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ฉันขอตัวกลับนะ”

 

“หรือว่าผมเคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้”

 

“ไม่สิเป็นผม เป็นผมไม่ได้เหรอหรือว่าผมดีไม่พอ” ทราเวียร์ยังคงดึงดันไม่เลิกรา 

 

ต่อให้มันต้องจบลงด้วยล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องเศร้าหมองโดนกระทบกระเทือนจิตใจจนแตกสลาย เขาก็ยังคงดึงดันต่อไปอย่างน้อยที่สุดก็ได้พยายาม ได้ลองทุกวิธีทาง ได้ทำสิ่งที่ตนอยากทำ 

 

ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปโดยเปล่าประโยชน์

 

“เปล่าเลย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นาย”

 

“นายน่ะดีพออยู่แล้ว เป็นฉันต่างหากที่ดีไม่พอ”

 

“…ไม่จิรง—” ชายหนุ่มยังไม่ทันได้กล่าวต่อก็โดนกล่าวดักเอาไว้เรียบร้อย 

 

“หยุดเถอะ นายก็รู้ว่าต่อให้พูดมากกว่านี้มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี ฉันไม่ได้รักนาย นายสารภาพรักไม่สำเร็จ เรื่องราวทั้งหมดมันก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรยากเย็น” ถ้อยคำรุนแรงกระทบกระแทกหัวใจ ไม่สิต้องบอกว่าทุบทำลายไม่ปล่อยให้มีโอกาสพลิกหวนคืนกลับมาก็ยังได้ด้วยซ้ำ

 

ราวกับดวงวิญญาณหลุดออกจากร่าง

 

“…” ทราเวียร์นิ่งค้างไปเลย

 

…‘ขอโทษ เป็นไปได้ฉันเองก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้กับนายหรอกนะ’

 

“…” หล่อนเผยรอยยิ้มกลบเกลื่อนปิดกั้นอารมณ์ทุกสิ่งอย่าง “วันนี้ขอบคุณมาก ขอบคุณที่นายสละเวลามาเลี้ยงข้าวฉัน ยอมจ่ายเกือบหมื่นเพื่อมื้อสุดพิเศษมื้อนี้”

 

“พูดตามตรงฉันรู้สึกดีใจนะที่ได้มาเจอหน้านายอีกครั้ง เหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยก่อน สมัยที่พวกเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน เวลาเจอหน้าก็ต้องมาเจอกันจุดอับสายตา เพราะไม่มีใครเขาชอบขี้หน้าพวกเราสองคน พวกเราผ่านพ้นเรื่องราวมามากมาย” น้ำเสียงอ่อนโยนช่างปลอบประโลมหัวใจ ฝ่ามืออ่อนนุ่มเสมือนยาใจชั้นยอดในขณะเดียวกันมันก็คือคมมีดหอมหวานไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

 

คว้าจับเข้าที่มือทราเวียร์

 

“ไม่ว่าจะหนักหนาขนาดไหน พวกเราก็ผ่านพ้นมาได้ตลอด”

 

“…”

 

“ครั้งนี้นายก็ต้องผ่านไปให้ได้ ฉันรู้อยู่แล้วว่านายน่ะไม่มีทางล้มเพียงเพราะเรื่องแค่นี้หรอก” หญิงสาวหลับตาแน่นไม่ต้องการมองเขาอีกเป็นครั้งที่สองเกรงว่าหากมองต่อไป

 

บางสิ่งอย่างที่อดกลั้นมาตลอดคงไม่พ้นต้องพังทลาย

 

“…ไปก่อนนะ” พริบตาที่หล่อนก้าวเท้าลุกจากโต๊ะเดินออกไปจากร้าน เสมือนกับว่าไม่ได้เดินออกไปจากร้านอย่างเดียว มันหนักหน่วงกว่านั้นราวกับหายไปท่ามกลางแม่น้ำกาลเวลา ห่างกันสุดขอบฟ้า ห่างกันสุดขอบโลก

 

ไม่อาจพบเจอหน้ากันได้อีกตลอดกาล

 

“คุณลูกค้าค่ะ”

 

“…” ทราเวียร์เงยหน้ามองก็เห็นพนักงานสาว 

 

“เป็นอะไรรึเปล่าคะ? อยากให้ฉันช่วยอะไรไหม?” สายตาเป็นห่วงเป็นใยคือความรู้สึกแท้จริงที่แสดงให้เห็นชัดเจน ไม่ใช่สิ่งเสริมเติมแต่งตามหน้าที่ พนักงานสาวไม่รู้ว่าพึ่งเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายตรงหน้า แต่สภาพจิตใจแตกสลายเฉกเช่นนี้ย่อมต้องไม่ใช่เรื่องดีหากปล่อยให้อยู่คนเดียวต่อไป

 

ปากอ้าหุบหลายต่อหลายครั้ง

 

“…” พยายามพูดระบายความในใจหรือโต้ตอบกลับไป ทำไม่ได้ ในหัวสมองเขามันว่างเปล่าไปหมด สุดท้ายก็ไม่มีคำกล่าวอะไรออกมานอกเหนือจากน้ำตาสองสายอาบไปทั่วทั้งใบหน้า

 

เป็นสิ่งสะท้อนความในใจทั้งหมด

 

“คุณคะ?!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+