ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ 4: 1 กลับมาปัจจุบัน

Now you are reading ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ Chapter 4: 1 กลับมาปัจจุบัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1 กลับมาปัจจุบัน

 

ภาพความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนจางหายไปหมดสิ้นกลับคืนสู่ห้วงเวลาปรกติอีกครั้ง ชายหนุ่มถอนหายใจไม่คิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะมีวันแบบนี้ด้วย วันที่ตัวเองต้องหวนกลับไปนึกถึงประสบการณ์ขมขื่น

 

…‘จิตใจอ่อนไหวเหมือนกับผู้หญิงไม่มีผิด’

 

“…” ทราเวียร์เผยรอยยิ้มเหงาหงอยพร้อมเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า 

 

มองทะเลก้อนเมฆก้อนกลมเคลื่อนตัวไปตามกระแสลมอบอุ่น ช่างอิสระ ไร้ข้อผูกมัด เพียงแค่เหลือบตามองก็ทำให้จิตใจเขาโปร่งใสไร้ร่องรอยขุ่นมัวหมองจากภาพความทรงจำในอดีต ใครจะไปคิดว่าหลังจากผ่านพ้นประสบการณ์ขมขื่นเมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์เหล่านั้นจะกลับมาอีกครั้ง

 

แน่นอนว่าไม่ได้กลับมาในรูปแบบพบเจอเข้ากับตัวเอง

 

“ได้โปรดเป็นแฟนกับฉันด้วยค่ะ!” 

 

“…” ชายหนุ่มหน้าหล่อนิ่งค้างไปในทันที ต่อหน้าหญิงสาวแสนสวยที่กำลังก้มหน้าก้มตาปกปิดใบหน้าเขินอายสุดชีวิต ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหนูทุกสัดส่วนล้วนแสดงออกชัดเจนเลยว่ากำลังจมอยู่กับความสุขสันต์

 

ทั้งยังลุ้นระทึกไม่มีที่สิ้นสุด

 

“ร้อนแรงเป็นบ้า”

 

“น่าอิจฉา”

 

“หนุ่มหล่อกับสาวสวยช่างเป็นอะไรที่ลงตัวเหลือเกิน” หลายคนหัวเราะสนุกสนานให้กับคู่รักที่กำลังจะเกิดใหม่ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ประสบพบเจอเข้ากับตัวเองแต่ความหวังยังไงก็ยังดีกว่าความสิ้นหวังเป็นไหน ๆ 

 

น่าเสียดายที่ชายหนุ่มสวมแว่นผู้ยืนอยู่วงนอกกลับครุ่นคิดไปในทิศทางแตกต่างจากใครคนอื่น

 

“ไม่ไหวหรอก”

 

“หมายความว่ายังไง?”

 

“ดูเอาเองละกัน”

 

“…นิ” คนที่เถียงไม่พอใจทราเวียร์ในตอนแรก สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนมหาศาลเนื่องจากเจ้าตัวเองก็สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มหน้าหล่อไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดสารภาพหญิงสาว แต่กำลังอดกลั้นบางสิ่งอย่างสีหน้าย่ำแย่กะทันหันหากมองให้ลึกก็จะเห็นร่องรอยขมขื่นเกินกว่าร่างกายเล็กน้อยจะแบกรับเอาไว้ได้

 

ทราเวียร์เพียงจ้องมองเฉยชาผิดกับคนข้างกายเขาที่คิดเข้าไปแทรกกลาง

 

“ถ้าคิดเข้าไปยุ่งเลิกเถอะ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอก”

 

“แต่—”

 

“อย่างที่ได้พูดไป นอกจากไม่ช่วยให้ใครมีความสุข ยังจะทำให้สถานการณ์มันยุ่งยากกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว ช่วงเวลานี้นายต้องปล่อยให้พวกเขาทั้งสองคนเป็นตัวกำหนดสถานการณ์เอง” ทราเวียร์ยังทำตัวร้อนไม่รู้ร้อน ยังเมินเฉยต่อทุกสิ่งอย่างไม่คิดเข้าไปยุ่งเกี่ยว “ไม่งั้นทุกอย่างจะไม่มีวันจบ จะไม่มีความหมายอีกต่อไป”

 

และด้วยเพราะไอ้ท่วงท่าไม่ทุกข์เนี่ยแหละ ทำให้ใครคนอื่นที่พบเห็นต่างไม่ชอบใจกันทั้งนั้น

 

“พูดเหมือนรู้ดี!”

 

“ถ้าไม่อยากจะช่วยก็หุบปากไปเลย”

 

“น่าขยะแขยงเป็นบ้า”

 

“…” เขาเพียงเหลือบมองก่อนยิ้มเบาบางให้เป็นสัญญาณบอกกล่าวให้อีกฝ่ายลงมือตามใจชอบได้เลย ยังไงเขาเพียงคนจดจ้องมอง คนเฝ้าดูจุดกำเนิดห้วงสิ้นหวังแห่งใหม่เท่านั้น

 

ไม่ได้เป็นคนดีคนเด่นเข้าไปช่วยเหลือเป็นพ่อพระชอบเข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งสอง

 

“ก็ได้อยากจะทำอะไรก็เชิญเลยเต็มที่ ยังไงโลกใบนี้ มันก็ไม่เคยขาดแคลนคนสิ้นหวังอยู่แล้ว มีให้เห็นเยอะแยะเต็มไปหมดเยอะยิ่งกว่ามดแมลงในท่อระบายน้ำซะอีก” ดวงตาทราเวียร์แฝงเร้นไปด้วยอารมณ์ลี้ลับนับไม่ถ้วน “และคนสิ้นหวังเหล่านั้นก็ไม่เคยขาดแคลนความหวังจอมปลอม”

 

ไม่ใช่เพียงคนข้างกายทราเวียร์ที่รู้สึกไม่ชอบใจต้องการเข้าไปช่วยเหลือไม่ทำให้การสารภาพครั้งนี้ต้องล้มเหลว ยังมีคนอีกมากมายทั้งผู้มีประสบการณ์โดยตรง ผู้มีสายตายอดเยี่ยมเล็งเห็นทิศทางแปลกประหลาดที่ชายหนุ่มหน้าหล่อต้องการนำพาหญิงสาวแสนสวยเดินเข้าไป

 

ต่างฝ่ายต่างต้องการพยายามเข้าช่วยเหลือ

 

“จะเข้าหยุดตอนไหนดีวะ ไม่สิ จะต้องเริ่มจากตรงไหนดีเนี่ย”

 

“ทำไมบรรยากาศมันแปลก ๆ”

 

“ดูหน้าพ่อหนุ่มคนนั้นสิ”

 

“…” หลายคนขมวดคิ้วสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น ทราเวียร์นอกจากนิ่งเงียบไม่คิดพูดจากับใครหน้าไหนยังคงจดจ้องมองสถานการณ์ไม่คิดปล่อยผ่าน เขาอยากเห็นเหลือเกินว่าคนผู้หนึ่งเมื่อพังทลายจากความรักมันจะออกมาเป็นสภาพแบบไหน จะออกมาเป็นแบบเดียวกับตน

 

หรือว่าหนักหน่วงยิ่งกว่าสิ้นหวังในความรักจนกระทั่งชีวิตนี้ก็ทิ้งได้โดยไม่คิดเสียดาย

 

“ทำไมถึงเงียบไปละ” หญิงสาวแสนสวยถามขึ้นหลังจากเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน

 

“ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะโดนสารภาพรัก” ชายหนุ่มหล่อถอนหายใจ “มันเลยค่อนข้างประหม่าเล็กน้อยน่ะ”

 

“…” หล่อนยิ้มรวบรวมความกล้าทั้งหมดเอ่ยความในใจไม่มีกักเก็บ

 

“ฉันอยากให้นายรู้เอาไว้ว่าฉันรักนายแค่ไหน ฉันไม่อยากเป็นฝ่ายรอคอยอีกต่อไปแล้ว รอบตัวนายมีผู้หญิงเยอะแยะเป็นสาวสวย เป็นสาวฉลาด หากว่า หากว่าฉันไม่ทำอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราว” ภาพหญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาพัวพันคนที่ตนรักมันช่างบาดตาบาดจิตจนแทบอดทนอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นโอกาสเธอต้องระบายอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดให้เขาได้รับรู้ว่าตนรักเขามากแค่ไหน

 

ชายหนุ่มหล่อยังคงรับฟังต่อไปไม่มีขัดขวาง

 

“คุณก็เลยเริ่มสารภาพรักสินะ”

 

“..” หล่อนพยักหน้าแน่วแน่ “ใช่ ฉันเลือกสารภาพกับนาย ถ้าฉันยังคงชักช้าแบบนี้ต่อไป มัวแต่เขินอายไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา เกรงว่าฉันคงต้องเสียนายไป เสียนายให้กับคนพวกนั้น”

 

ทุกสิ่งอย่างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งแต่มันก็เป็นเพียงคลื่นลมสงบก่อนพายุโหมกระหน่ำเข้ามาทดแทน

 

“…” แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากสารภาพรัก แต่มันก็นานมากพอทำให้หญิงสาวแสนสวยอึดอัดหัวใจเหลือเกินสัญชาตญาณของหล่อนกำลังร้องเตือนเมื่อเห็นสีหน้าชายหนุ่มคนที่ตนหลงรัก

 

เริ่มแสดงสีหน้าแปลกประหลาดต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“…ขอโทษครับ ผมขอโทษจริง ๆ” 

 

“…”

 

“นายปฏิเสธ”

 

“…ครับ”

 

“…” ไม่ใช่เพียงแค่หญิงสาวแสนสวยตื่นตระหนกตกใจ กลุ่มคนเฝ้ามองทั้งหลายยังตื่นตระหนกตกใจไม่แพ้กันทุกสิ่งอย่างดำเนินมาปรกติไม่มีอะไรผิดพลาดกลับมาสะดุดส่วนท้าย

 

ช่างเป็นอะไรที่ยากจะยอมรับ

 

“ถึงจะไม่ได้โดนกับตัวเอง แต่มันก็สร้างผลกระทบให้ฉันไม่น้อย” มือซ้ายสัมผัสหน้าอกข้างซ้าย สัมผัสหัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเงียบเหงา หัวใจที่ตายด้านไร้ซึ่งความรู้สึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความรัก

 

ทราเวียร์ถอนหายใจเฝ้ามองฉากตรงหน้า

 

“ให้ตายสิ ต่อให้หัวใจด้านชาไปแล้วแต่ก็ยังมีบาดแผลให้ขุดคุ้ยขึ้นมาเล่นงานสินะ” 

 

“ทำไมละ” เธอกำหมัดตัวเองแน่น

 

“…” นิ่งเงียบไม่ต้องการตอบ แม้จะเตรียมใจอยู่ก่อนแล้วว่าความรักมันไม่มีทางสมหวังกันทุกคน แม้ว่าจะมีโอกาสน้อยนิดหรือว่ามากกว่าครึ่งเธอก็เตรียมใจโดนปฏิเสธอยู่แล้ว แต่พอมาโดนเข้ากับตัว โดนเข้าจริง ๆ ถึงได้รับรู้ว่าไอ้ที่เตรียมใจทั้งหมดมามันช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน

 

หล่อนกัดปากร้องตะโกนถามกลับไป

 

“นาย!”

 

“นาย” ชายก็ยังนิ่งเงียบเหมือนเดิม

 

ท่าทีอึดอัดไม่ต้องการตอบรับคำสารภาพรักของชายหนุ่ม ทำเอาหญิงสาวผู้เฝ้ารอโอกาสมาเนิ่นนานเค้นความกล้าทั้งหมดเพื่อวันนี้โดยเฉพาะต้องใจสลาย หล่อนกัดปากตัวเองแน่นนิ้วมือทั้งสิบชักเกร็งไปหมดยังไม่รวมหัวใจที่แทบหยุดเต้นเจ็บปวดไปถึงขั้ววิญญาณ

 

กระทั่งคำถามยังเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน

 

“…ไม่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ?”

 

“…” ทำไมถึงยังเงียบได้ไม่คิดพูดอะไรโต้ตอบกลับมาเอาแต่เบี่ยงหน้าหลบ

 

ปัง!

 

มือปัดแก้วในมืออีกฝ่ายหลุดกระแทกลงพื้น

 

“ถ้าเงียบแบบนี้แล้วฉันจะเข้าใจเหรอ! พูดออกมาสิ ฉันอยากให้นายพูด ถ้านายเอาแต่เงียบฉันไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่านายต้องการพูดอะไรออกมา คิดอะไรอยู่ในใจ” น้ำเสียงหล่อนมันช่างบาดหัวจิตหัวใจผู้รับฟังเหลือเกิน

 

“พูดออกมาเถอะ อย่าเงียบแล้วปล่อยให้ฉันต้องคิดคนเดียว”

 

“มันทรมานนะ”

 

“…” หลายต่อหลายคนต้องสะกดใจตัวเองไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเกินควร เกิดยื่นมือเข้าไปยุ่งยากเกินจำเป็นนอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายยังจะทำให้สถานการณ์มันยิ่งวุ่นวายกว่าเดิม

 

เพราะฉะนั้นมีเพียงรอคอยอย่างอดทนอดกลั้นคอยให้กำลังใจทั้งสองอยู่ห่าง ๆ เท่านั้นในตอนนี้

 

“…” ชายหนุ่มกัดปากตัวเองกล่าวเบาบางน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“…อยากครับ”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ 4: 1 กลับมาปัจจุบัน

Now you are reading ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ Chapter 4: 1 กลับมาปัจจุบัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1 กลับมาปัจจุบัน

 

ภาพความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนจางหายไปหมดสิ้นกลับคืนสู่ห้วงเวลาปรกติอีกครั้ง ชายหนุ่มถอนหายใจไม่คิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะมีวันแบบนี้ด้วย วันที่ตัวเองต้องหวนกลับไปนึกถึงประสบการณ์ขมขื่น

 

…‘จิตใจอ่อนไหวเหมือนกับผู้หญิงไม่มีผิด’

 

“…” ทราเวียร์เผยรอยยิ้มเหงาหงอยพร้อมเงยหน้าขึ้นท้องฟ้า 

 

มองทะเลก้อนเมฆก้อนกลมเคลื่อนตัวไปตามกระแสลมอบอุ่น ช่างอิสระ ไร้ข้อผูกมัด เพียงแค่เหลือบตามองก็ทำให้จิตใจเขาโปร่งใสไร้ร่องรอยขุ่นมัวหมองจากภาพความทรงจำในอดีต ใครจะไปคิดว่าหลังจากผ่านพ้นประสบการณ์ขมขื่นเมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์เหล่านั้นจะกลับมาอีกครั้ง

 

แน่นอนว่าไม่ได้กลับมาในรูปแบบพบเจอเข้ากับตัวเอง

 

“ได้โปรดเป็นแฟนกับฉันด้วยค่ะ!” 

 

“…” ชายหนุ่มหน้าหล่อนิ่งค้างไปในทันที ต่อหน้าหญิงสาวแสนสวยที่กำลังก้มหน้าก้มตาปกปิดใบหน้าเขินอายสุดชีวิต ใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหนูทุกสัดส่วนล้วนแสดงออกชัดเจนเลยว่ากำลังจมอยู่กับความสุขสันต์

 

ทั้งยังลุ้นระทึกไม่มีที่สิ้นสุด

 

“ร้อนแรงเป็นบ้า”

 

“น่าอิจฉา”

 

“หนุ่มหล่อกับสาวสวยช่างเป็นอะไรที่ลงตัวเหลือเกิน” หลายคนหัวเราะสนุกสนานให้กับคู่รักที่กำลังจะเกิดใหม่ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ประสบพบเจอเข้ากับตัวเองแต่ความหวังยังไงก็ยังดีกว่าความสิ้นหวังเป็นไหน ๆ 

 

น่าเสียดายที่ชายหนุ่มสวมแว่นผู้ยืนอยู่วงนอกกลับครุ่นคิดไปในทิศทางแตกต่างจากใครคนอื่น

 

“ไม่ไหวหรอก”

 

“หมายความว่ายังไง?”

 

“ดูเอาเองละกัน”

 

“…นิ” คนที่เถียงไม่พอใจทราเวียร์ในตอนแรก สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนมหาศาลเนื่องจากเจ้าตัวเองก็สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มหน้าหล่อไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดสารภาพหญิงสาว แต่กำลังอดกลั้นบางสิ่งอย่างสีหน้าย่ำแย่กะทันหันหากมองให้ลึกก็จะเห็นร่องรอยขมขื่นเกินกว่าร่างกายเล็กน้อยจะแบกรับเอาไว้ได้

 

ทราเวียร์เพียงจ้องมองเฉยชาผิดกับคนข้างกายเขาที่คิดเข้าไปแทรกกลาง

 

“ถ้าคิดเข้าไปยุ่งเลิกเถอะ มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอก”

 

“แต่—”

 

“อย่างที่ได้พูดไป นอกจากไม่ช่วยให้ใครมีความสุข ยังจะทำให้สถานการณ์มันยุ่งยากกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว ช่วงเวลานี้นายต้องปล่อยให้พวกเขาทั้งสองคนเป็นตัวกำหนดสถานการณ์เอง” ทราเวียร์ยังทำตัวร้อนไม่รู้ร้อน ยังเมินเฉยต่อทุกสิ่งอย่างไม่คิดเข้าไปยุ่งเกี่ยว “ไม่งั้นทุกอย่างจะไม่มีวันจบ จะไม่มีความหมายอีกต่อไป”

 

และด้วยเพราะไอ้ท่วงท่าไม่ทุกข์เนี่ยแหละ ทำให้ใครคนอื่นที่พบเห็นต่างไม่ชอบใจกันทั้งนั้น

 

“พูดเหมือนรู้ดี!”

 

“ถ้าไม่อยากจะช่วยก็หุบปากไปเลย”

 

“น่าขยะแขยงเป็นบ้า”

 

“…” เขาเพียงเหลือบมองก่อนยิ้มเบาบางให้เป็นสัญญาณบอกกล่าวให้อีกฝ่ายลงมือตามใจชอบได้เลย ยังไงเขาเพียงคนจดจ้องมอง คนเฝ้าดูจุดกำเนิดห้วงสิ้นหวังแห่งใหม่เท่านั้น

 

ไม่ได้เป็นคนดีคนเด่นเข้าไปช่วยเหลือเป็นพ่อพระชอบเข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งสอง

 

“ก็ได้อยากจะทำอะไรก็เชิญเลยเต็มที่ ยังไงโลกใบนี้ มันก็ไม่เคยขาดแคลนคนสิ้นหวังอยู่แล้ว มีให้เห็นเยอะแยะเต็มไปหมดเยอะยิ่งกว่ามดแมลงในท่อระบายน้ำซะอีก” ดวงตาทราเวียร์แฝงเร้นไปด้วยอารมณ์ลี้ลับนับไม่ถ้วน “และคนสิ้นหวังเหล่านั้นก็ไม่เคยขาดแคลนความหวังจอมปลอม”

 

ไม่ใช่เพียงคนข้างกายทราเวียร์ที่รู้สึกไม่ชอบใจต้องการเข้าไปช่วยเหลือไม่ทำให้การสารภาพครั้งนี้ต้องล้มเหลว ยังมีคนอีกมากมายทั้งผู้มีประสบการณ์โดยตรง ผู้มีสายตายอดเยี่ยมเล็งเห็นทิศทางแปลกประหลาดที่ชายหนุ่มหน้าหล่อต้องการนำพาหญิงสาวแสนสวยเดินเข้าไป

 

ต่างฝ่ายต่างต้องการพยายามเข้าช่วยเหลือ

 

“จะเข้าหยุดตอนไหนดีวะ ไม่สิ จะต้องเริ่มจากตรงไหนดีเนี่ย”

 

“ทำไมบรรยากาศมันแปลก ๆ”

 

“ดูหน้าพ่อหนุ่มคนนั้นสิ”

 

“…” หลายคนขมวดคิ้วสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้น ทราเวียร์นอกจากนิ่งเงียบไม่คิดพูดจากับใครหน้าไหนยังคงจดจ้องมองสถานการณ์ไม่คิดปล่อยผ่าน เขาอยากเห็นเหลือเกินว่าคนผู้หนึ่งเมื่อพังทลายจากความรักมันจะออกมาเป็นสภาพแบบไหน จะออกมาเป็นแบบเดียวกับตน

 

หรือว่าหนักหน่วงยิ่งกว่าสิ้นหวังในความรักจนกระทั่งชีวิตนี้ก็ทิ้งได้โดยไม่คิดเสียดาย

 

“ทำไมถึงเงียบไปละ” หญิงสาวแสนสวยถามขึ้นหลังจากเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน

 

“ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะโดนสารภาพรัก” ชายหนุ่มหล่อถอนหายใจ “มันเลยค่อนข้างประหม่าเล็กน้อยน่ะ”

 

“…” หล่อนยิ้มรวบรวมความกล้าทั้งหมดเอ่ยความในใจไม่มีกักเก็บ

 

“ฉันอยากให้นายรู้เอาไว้ว่าฉันรักนายแค่ไหน ฉันไม่อยากเป็นฝ่ายรอคอยอีกต่อไปแล้ว รอบตัวนายมีผู้หญิงเยอะแยะเป็นสาวสวย เป็นสาวฉลาด หากว่า หากว่าฉันไม่ทำอะไรให้มันเป็นเรื่องเป็นราว” ภาพหญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาพัวพันคนที่ตนรักมันช่างบาดตาบาดจิตจนแทบอดทนอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นโอกาสเธอต้องระบายอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดให้เขาได้รับรู้ว่าตนรักเขามากแค่ไหน

 

ชายหนุ่มหล่อยังคงรับฟังต่อไปไม่มีขัดขวาง

 

“คุณก็เลยเริ่มสารภาพรักสินะ”

 

“..” หล่อนพยักหน้าแน่วแน่ “ใช่ ฉันเลือกสารภาพกับนาย ถ้าฉันยังคงชักช้าแบบนี้ต่อไป มัวแต่เขินอายไม่กล้าพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา เกรงว่าฉันคงต้องเสียนายไป เสียนายให้กับคนพวกนั้น”

 

ทุกสิ่งอย่างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งแต่มันก็เป็นเพียงคลื่นลมสงบก่อนพายุโหมกระหน่ำเข้ามาทดแทน

 

“…” แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากสารภาพรัก แต่มันก็นานมากพอทำให้หญิงสาวแสนสวยอึดอัดหัวใจเหลือเกินสัญชาตญาณของหล่อนกำลังร้องเตือนเมื่อเห็นสีหน้าชายหนุ่มคนที่ตนหลงรัก

 

เริ่มแสดงสีหน้าแปลกประหลาดต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“…ขอโทษครับ ผมขอโทษจริง ๆ” 

 

“…”

 

“นายปฏิเสธ”

 

“…ครับ”

 

“…” ไม่ใช่เพียงแค่หญิงสาวแสนสวยตื่นตระหนกตกใจ กลุ่มคนเฝ้ามองทั้งหลายยังตื่นตระหนกตกใจไม่แพ้กันทุกสิ่งอย่างดำเนินมาปรกติไม่มีอะไรผิดพลาดกลับมาสะดุดส่วนท้าย

 

ช่างเป็นอะไรที่ยากจะยอมรับ

 

“ถึงจะไม่ได้โดนกับตัวเอง แต่มันก็สร้างผลกระทบให้ฉันไม่น้อย” มือซ้ายสัมผัสหน้าอกข้างซ้าย สัมผัสหัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเงียบเหงา หัวใจที่ตายด้านไร้ซึ่งความรู้สึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความรัก

 

ทราเวียร์ถอนหายใจเฝ้ามองฉากตรงหน้า

 

“ให้ตายสิ ต่อให้หัวใจด้านชาไปแล้วแต่ก็ยังมีบาดแผลให้ขุดคุ้ยขึ้นมาเล่นงานสินะ” 

 

“ทำไมละ” เธอกำหมัดตัวเองแน่น

 

“…” นิ่งเงียบไม่ต้องการตอบ แม้จะเตรียมใจอยู่ก่อนแล้วว่าความรักมันไม่มีทางสมหวังกันทุกคน แม้ว่าจะมีโอกาสน้อยนิดหรือว่ามากกว่าครึ่งเธอก็เตรียมใจโดนปฏิเสธอยู่แล้ว แต่พอมาโดนเข้ากับตัว โดนเข้าจริง ๆ ถึงได้รับรู้ว่าไอ้ที่เตรียมใจทั้งหมดมามันช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน

 

หล่อนกัดปากร้องตะโกนถามกลับไป

 

“นาย!”

 

“นาย” ชายก็ยังนิ่งเงียบเหมือนเดิม

 

ท่าทีอึดอัดไม่ต้องการตอบรับคำสารภาพรักของชายหนุ่ม ทำเอาหญิงสาวผู้เฝ้ารอโอกาสมาเนิ่นนานเค้นความกล้าทั้งหมดเพื่อวันนี้โดยเฉพาะต้องใจสลาย หล่อนกัดปากตัวเองแน่นนิ้วมือทั้งสิบชักเกร็งไปหมดยังไม่รวมหัวใจที่แทบหยุดเต้นเจ็บปวดไปถึงขั้ววิญญาณ

 

กระทั่งคำถามยังเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน

 

“…ไม่อยากอยู่ด้วยกันเหรอ?”

 

“…” ทำไมถึงยังเงียบได้ไม่คิดพูดอะไรโต้ตอบกลับมาเอาแต่เบี่ยงหน้าหลบ

 

ปัง!

 

มือปัดแก้วในมืออีกฝ่ายหลุดกระแทกลงพื้น

 

“ถ้าเงียบแบบนี้แล้วฉันจะเข้าใจเหรอ! พูดออกมาสิ ฉันอยากให้นายพูด ถ้านายเอาแต่เงียบฉันไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่านายต้องการพูดอะไรออกมา คิดอะไรอยู่ในใจ” น้ำเสียงหล่อนมันช่างบาดหัวจิตหัวใจผู้รับฟังเหลือเกิน

 

“พูดออกมาเถอะ อย่าเงียบแล้วปล่อยให้ฉันต้องคิดคนเดียว”

 

“มันทรมานนะ”

 

“…” หลายต่อหลายคนต้องสะกดใจตัวเองไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเกินควร เกิดยื่นมือเข้าไปยุ่งยากเกินจำเป็นนอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายยังจะทำให้สถานการณ์มันยิ่งวุ่นวายกว่าเดิม

 

เพราะฉะนั้นมีเพียงรอคอยอย่างอดทนอดกลั้นคอยให้กำลังใจทั้งสองอยู่ห่าง ๆ เท่านั้นในตอนนี้

 

“…” ชายหนุ่มกัดปากตัวเองกล่าวเบาบางน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“…อยากครับ”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+