เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ 275 ไม่ยอมเชื่อ

Now you are reading เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ Chapter 275 ไม่ยอมเชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่275 ไม่ยอมเชื่อ

“ดังนั้นก็คือ เธอให้โอกาสคุณชายเย่อีกครั้ง รอเขาให้คำตอบที่น่าพอใจใช่ไหม?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของเสิ่นเฉียวก็จางลงเล็กน้อย “เรื่องนี้ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว จะเป็นคำตอบที่น่าพอใจรึเปล่าก็ยังไม่มีใครรู้เลย”

“เธอก็อย่าเป็นกังวลไปเลย ในเมื่อเขาบอกให้เธอเชื่อใจเขาแล้ว งั้นเธอก็ให้เวลาเขาหน่อย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้เสี่ยวเหยียนกะพริบตาจากนั้นเริ่มวิเคราะห์ด้วยสัญชาตญาณของเธอ

“เธอดูนะ ก่อนหน้านี้ฉันบอกว่าหานเส่โยวเป็นพวกแอ๊บแบ๊ว ถูกเผงเลยใช่ไหม? ดังนั้นฉันบอกว่าเย่โม่เซินรักเธอจริง ๆ งั้นเขาก็ต้องรักเธอด้วยใจจริง”

เสิ่นเฉียว: “…”

เป็นอีกครั้งที่เธอได้ยินเสี่ยวโยวพูดว่าหานเส่โยวเป็นพวกแอ๊บแบ๊ว เสิ่นเฉียวยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เธอขมวดคิ้วและคิดจะพูดบางอย่าง เสี่ยวเหยียนกลับแย่งเธอพูด: “เธออย่าพูดแก้ต่างกับฉันเลย เธอทำเรื่องถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอยังจะมาพูดแก้ตัวให้เธออีก งั้นต่อไปฉันจะไม่ช่วยเธอแล้วนะ”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ เสิ่นเฉียวจึงอดไม่ได้ที่ถอนหายใจและพูดขึ้นเบา ๆ: “ที่จริง…เรื่องจริงเป็นยังไงก็ยังไม่กระจ่าง”

“จะสนใจความจริงทำไม ทำไปแล้วก็คือทำไปแล้ว หล่อนใส่ต่างหูคู่ที่คุณชายเย่ซื้อใช่รึเปล่า? ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่สามารถล้างความผิดให้ตัวเองได้ เฉียวเฉียว เธอต้องตาสว่างหน่อยนะ อย่าเอาอดีตมาเป็นข้ออ้างล้างความผิดให้หล่อน เป็นไปได้ว่าเมื่อก่อนพวกเธอสนิทกันมาก แต่ฉันจะพูดตรง ๆ กับเธอสักอย่าง คนเราไม่มีใครเปลี่ยนไปชั่วข้ามคืนหรอกนะ เป็นไปได้ว่าหล่อนตีสนิทเธอเพราะมีจุดมุ่งหมายอื่นตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้”

เสิ่นเฉียว: “ตีสนิทฉันเพราะมีจุดมุ่งหมายอื่นตั้งแต่แรกเหรอ?”

“ใช่! พวกเธอรู้จักกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย งั้นตัวเธอก็ต้องมีอะไรที่เป็นประโยชน์ที่ใช้งานได้แน่”

สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตัวเธอกับของที่มีประโยชน์ใช้งานได้?

เสิ่นเฉียวคิดอยู่นานและส่ายหน้าด้วยความกังวล “ตัวฉันไม่เคยมีของมีค่าอะไรนะ ที่เธอพูดฟังดูไม่น่าเป็นไปได้”

“ตัวเธอรู้สึกว่ามันไม่มีค่าคงเพราะเธอไม่รู้ตัว แต่หล่อนรู้ ก็เหมือนกับการที่เธอแต่งงานกับคุณชายเย่ครั้งนี้ หล่อนก็คิดจะแย่งคุณชายเย่ไปจากเธอไง เฉียวเฉียว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอชอบต่างหูคู่นั้นมาก เธอจะรู้ไหมว่าหายเส่โยวทำเรื่องพวกนี้ลับหลังเธอ? เป็นไปได้ว่า…หล่อนแย่งของ ๆ เธอที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าไปแล้วมากมาย เพียงแต่เธอไม่รู้ตัวเท่านั้น”

เสิ่นเฉียว: “…”

“เธอนี่เข้าข่ายทฤษฎีสมคบคิดเกินไปแล้ว บางทีเธออาจจะแค่ชอบเย่โม่เซินเท่านั้น ก็เลยไม่มีทางเลือก——”

“เธอนี่น่ารำคาญจริง ๆ! เธอคิดจะปลอบใจตัวเองไปถึงเมื่อไหร่? หล่อนทำกับเธอถึงขนาดนี้แล้วยังคิดจะปกป้องหล่อน? เสิ่นเฉียว ให้ฉันตบบ้องหูเธอสักทีไหมจะได้ตื่น? หรือจะรอให้หล่อนแย่งทุกอย่างของเธอไปก่อน เธอถึงจะตื่น?”

เสิ่นเฉียวมองเธอเงียบ ๆ เสี่ยงเหยียนแก้มตุ่ยเพราะว่ารู้สึกโกรธแทนเธออย่างเห็นได้ชัด

ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง และเสิ่นเฉียวก็ลดสายตาลงและเธอก็ไม่มีชีวิตชีวา

“แต่ว่า เธอจะให้ฉันเชื่อได้ยังไง? เพื่อนรักที่ฉันคบมานานจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง? ที่ผ่านมาเธอก็คอยช่วยฉันอยู่ตลอด”

รวมทั้งเรื่องที่เธอหาชายแปลกหน้าในคืนฝนตกแทนเธอ ก็เป็นหานเส่โยวที่ทำแทนเธอเสมอ

ยิ่งกว่านั้นเธอมักจะเป็นคนวางแผนทำอะไรแทนเธอ หานเส่โยวทำแม้กระทั่งผลักเธอสู่อ้อมอกของเย่หลิ่นหานเพราะอยากเห็นเธอมีความสุข ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมเชื่อว่าหล่อนจะจงใจทำแบบนั้นได้

เสี่ยวเหยียนเงียบไป

เธอนั่งลงข้าง ๆ เสิ่นเฉียว ในฉันพลันเธอก็เกิดความเข้าใจจิตใจของเสิ่นเฉียว

ใช่สินะ เป็นเพื่อนพี่น้องกันมาหลายปี จู่ ๆ จะมาบอกว่าเพื่อนรักหักหลังเป็นใครก็คงทำใจเชื่อไม่ได้ง่าย ๆ

นอกเสียจาก เธอจะได้ยินคำสารภาพจากปากของหานเส่โยว

แต่ผู้หญิงคนนั้นมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะขนาดนั้น จะให้เธอยอมรับคงเป็นไปไม่ได้แน่

เมื่อคิดถึงจุดนี้เสี่ยวเหยียนจึงถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าเธอใจไม่ดี แต่บางครั้งสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอาจจะไม่ใช่ความจริง แต่กลับมีสาเหตุอื่น หานเส่โยวทำอย่างนี้อธิบายถึงปัญหามากมาย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง เธอก็ต้องยอมรับมัน วันนี้ฉันมาเพื่อดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง ในเมื่อตอนนี้เธอสบายดี งั้นฉันก็ควรกลับได้แล้ว”

ได้ยินว่าเธอจะไปเสิ่นเฉียวก็รีบลุกขึ้น “เธอจะกลับแล้วเหรอ? ฉันยังอยากให้เธออยู่ทานข้าวด้วยกันก่อน”

เสี่ยวเหยียนยิ้มเล็กน้อย “เธอคิดว่าฉันไม่อยากอยู่กินข้าวกับเธอเหรอ? แต่ฉันต้องกลับไปทำงานรึเปล่ายะ? ใครจะไปเหมือนเธอ! ฮือ ๆ ฉันยังหาพ่อบุญทุ่มไม่ได้ งานเลี้ยงครบรอบครั้งก่อนฉันก็ไม่ได้เจอคนดี ๆ เพราะเธอนั่นแหละ! ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยเธอ ฉันคงจะได้ถ้วยรางวัลแล้ว จากนั้นภายใต้แสงสปอตไลท์ ผู้ชายดี ๆ ก็จะสามารถมองเห็นฉันได้ ไม่แน่นะ…ป่านนี้แม่คงจะกำลังมีความรักอยู่ก็ได้เนอะ?”

เสิ่นเฉียวได้ยินแล้วจึงพูดขึ้น: “สงสัยสมองจะมีปัญหาหนัก”

“ช่างเธอเถอะ ฉันไปก่อนนะ เอาไว้วันหลังฉันจะมาเยี่ยมเธออีก”

หลังจากเสี่ยวเหยียนกลับไป เสิ่นเฉียวที่อยู่คนเดียวก็เข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง

เธอไม่เชื่อจริง ๆ ว่าหานเส่โยวจะเข้ามาตีสนิทตัวเธอด้วยจุดประสงค์แอบแฝง แม้แต่หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เธอก็ยังคิด ถ้าหากว่าพวกเขามีใจให้กันเธอจะเป็นคนไปเอง

แต่คิดไม่ถึงว่า…

เสิ่นเฉียวลดสายตาลงและรู้สึกว่าความคิดเธอจะล่องลอยกลับสู่อดีต

*

เมื่อเย่โม่เซินกลับมาทั้งบ้านก็ว่างเปล่า เหล่าสาวใช้กำลังเก็บของบนโต๊ะ และต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยอะไรกันบางอย่าง

โดยปกติในเวลานี้ เสิ่นเฉียวมักจะอยู่คุยเล่นกับพวกเธออย่างยิ้มแย้ม

พอเย่โม่เซินเข้าประตูมา ก็เห็นได้ว่าวันนี้กลับไม่มีเสิ่นเฉียวอยู่

“คุณชาย คุณกลับมาแล้วเหรอคะ” จูหยุน เดินเข้าไปทำความเคารพและกล่าวทักทาย

เมื่อไม่เห็นตัวเสิ่นเฉียว ในใจของเย่โม่เซินก็เกิดเคว้งเขาเม้มริมฝีปากและมองเธอแววตาสงสัย

จูหยุน รู้ว่าเขาต้องการถามอะไร จึงได้อธิบายขึ้น “ดูเหมือนวันนี้คุณนายน้อยจะไม่ค่อยอยากอาหารค่ะ ดังนั้นจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว คุณชาย วันนี้คุณนายดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะคะ”

เมื่อได้ยินเย่โม่เซินก็ต้องขมวดคิ้ว ไม่ใช่ว่าให้เสี่ยวเหยียนมาเยี่ยมเธอแล้วเหรอ? ทำไมกลับอารมณ์ไม่ดีล่ะ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่โม่เซินก็พยักหน้า: “ฉันเข้าใจแล้ว พวกเธอออกไปก่อนเถอะ”

“ค่ะ”

เย่โม่เซินเข้าไปในห้อง ทั้งห้องมืดสนิท เขาขมวดคิ้วและควานหาสวิตช์ไฟ เมื่อเปิดไฟแล้วก็พบว่าในห้องไม่มีใครสักคน

ทั้งห้องว่างเปล่าราวกับทั้งเดิมทีห้องนี้ไม่มีใครอยู่

วินาทีนั้น มีเพียงความคิดเดียวที่โผล่เข้ามาในหัวของเย่โม่เซิน

นั่นก็คือ…เสิ่นเฉียวหนีไปแล้ว

ทันใดนั้น จู่ ๆ ลมหายใจของเย่โม่เซินก็เปลี่ยนไป เส้นเลือดปูดโปนเต็มหน้าผาก เขาหมุนวีลแชร์ออกจากห้องไปด้วยความโมโห

ยัยผู้หญิงคนนี้สมควรตายจริง ๆ จู่ ๆ ก็คิดจะหนี เธอคิดว่าตัวเองจะหนีพ้นรึไง?

ถึงแม้เย่โม่เซินจะใช้วีลแชร์ แต่เขาก็เร็วมากเพียงแป๊บเดียวเท่านั้นก็ไม่เห็นตัวเขาแล้ว

เขารีบไปหาเสิ่นเฉียวและออกไปอย่างโมโห โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่พื้นไม้กระดานริมหาด เสิ่นเฉียวนั่งกอดเข่าเงียบ ๆ มองดูทะเลผืนใหญ่ในช่วงหัวค่ำอยู่ตรงนั้น

ผืนทะเลภายใต้แสงจันทร์สวยกว่าทะเลตอนกลางวันเสียอีก พระจันทร์ที่สาดแสงกระทบน้ำทะเล ให้ความรู้สึกถึงคนไกล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด