เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ 457 ผมจะปกป้องคุณอย่างดี

Now you are reading เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ Chapter 457 ผมจะปกป้องคุณอย่างดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 457 ผมจะปกป้องคุณอย่างดี

“โอ๊ะ” มีคนส่งเสียงแหลมออกมา แต่ไม่ใช่ หานมู่จื่อ แต่เป็นคนที่กำลังดึงแขนเสี่ยวเหยียนอย่างเลิงเยาเยา

ทันใดนั้นทุกคนต่างก็พากันหันมามอง หานมู่จื่อ สีหน้าเปลี่ยนทันที เธอหันหน้าไปหาเย่โม่เซินแล้วพูดเบาๆ ว่า “ปล่อยฉันลงนะ คุณทำอะไรเนี่ย”

เย่โม่เซินขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เท้าเปล่ามันเย็นหรือไง ผมอุ้มคุณออกไปเอง”

หานมู่จื่อ:“ไม่ต้องอุ้มฉัน ฉันเดินไปเองได้ ปล่อยฉันลงนะ!”

แต่ทว่าเย่โม่เซินไม่แม้แต่จะให้โอกาสเธอได้ขัดขืน เขาอุ้มเธอเดินออกไปข้างนอก แม้กระทั่งสายตาบนเวทีก็ยังมองลงมาที่พวกเขา หานมู่จื่อ ขัดขืนอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ หญิงสาวตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยสภาพที่ผมของเธอยุ่งเหยิงไปหมด เธอถือโอกาสยื่นมือไปดึงปกเสื้อของเขามาปิดหน้าตัวเองเอาไว้

ที่นี่มีสื่อเยอะมาก ถ้าเกิดโดนถ่ายภาพขึ้นมาต้องยุ่งแน่ๆ

แต่ว่าเย่โม่เซินไม่กลัว แค่เธอปิดหน้าเอาไว้ ทุกคนก็แค่พูดว่าเย่โม่เซินอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งไม่เกี่ยวกับ หานมู่จื่อ

วิธีการของเธอไม่ได้ทำให้เย่โม่เซินไม่พอใจ กลับกันการที่เธอแอบอิงเขา แถมยังเป็นฝ่ายเริ่มใกล้ชิดเขา มันทำให้ความสุขก่อตัวขึ้นในใจเขา ริมฝีปากบางยกยิ้มจากนั้นก็ก้าวเดินไปข้างหน้า

เลิงเยาเยากับเสี่ยวเหยียนยืนอึ้งอยู่ประมาณห้าวินาทีถึงจะเรียกสติกลับมาได้ จากนั้นทั้งสองก็รีบเดินตามเขาออกไป

สื่อที่อยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมา

“นั่นคือคนที่ร่ำรวยที่อยู่ในวงการธุรกิจ โอ้พระเจ้า เย่โม่เซินของบริษัทตระกูลเย่แห่งเมืองเป่ย”

“เขาอุ้มใครน่ะ รีบถ่ายรูปเร็ว!”

ไฟสปอตไลต์สว่างขึ้น จากนั้นก็ส่องลงมาที่พวกเขาทั้งสองคน คนที่เดินตามมาข้างหลังอย่างเลิงเยาเยาและเสี่ยวเหยียนรีบเอามือปิดหน้าตามสัญชาตญาณ แต่พวกเธอทั้งสองก็นึกขึ้นมาได้ว่า คนที่พวกเขาถ่ายคือเย่โม่เซินกับ หานมู่จื่อ ไม่ใช่พวกเธอสักหน่อย

เมื่อคิดได้ดังนั้นพวกเธอก็เอามือลง

ขนาด หานมู่จื่อ ก้มหน้าอยู่ในอ้อมกอดของเย่โม่เซิน แต่ทว่าเธอก็รู้สึกได้ว่ามีกล้องจำนวนมากกำลังถ่ายมาที่พวกเขาอย่างไม่หยุด เธอพูดอะไรไม่ออก เกร็งไปทั้งตัว สื่อและนักข่าวพวกนี้ช่างอยากรู้อยากเห็นจริงๆ

ไม่นึกเลยว่าเสน่ห์ของเย่โม่เซินจะเป็นที่น่าจับตากว่าดาราและเครื่องเพชรพวกนั้นงั้นเหรอ ไม่ไปถ่ายพวกนั้น แต่กลับมาถ่ายเย่โม่เซินเนี่ยนะ

“หึ”

ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ หน้าอกของเย่โม่เซินก็ขยับ จากนั้นจึงมีเสียงดังมาจากเหนือศีรษะของเธอ

“ไม่ต้องกลัว ผมจะปกป้องคุณอย่างดี”

หานมู่จื่อ:“……”

เหอ เหอ

คุณไม่อุ้มฉันก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก!

แต่ว่าตอนนี้เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ ขี่บนหลังเสือแล้วลงยาก รอให้ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ

ราวกับว่าเย่โม่เซินจะทำให้เธอลำบากใจอย่างไรอย่างนั้น เขาเดินไม่เร็ว แถมยังโดนพวกสื่อล้อมไว้พักใหญ่

“คุณทำอะไรน่ะ รีบเดินสิ” หานมู่จื่อ รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก บวกกับกระโปรงที่เธอสวมในวันนี้ มันจัดท่าทางยากมาก เธอกลัวว่าตัวเองจะตายเสียก่อน

เย่โม่เซินมองไปยังพวกสื่อที่อยู่ข้างหน้า แล้วก็นึกถึงคนที่กำลังร้อนรนอยู่ในอ้อมอก รังสีเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากตัวเขา ชายหนุ่มปรายสายตาอันเยือกเย็นไปยังคนกลุ่มนั้น

“หลีกไป”

คนกลุ่มนั้นได้ยินเย่โม่เซินพูดดังนั้น ก็รีบมองหน้ากันไปมา จากนั้นต่างก็พากันถอยหลังแบบไม่รู้ตัว

เขาไม่ไว้หน้าพวกสื่อนั้นแม้แต่น้อย อีกทั้งเขาก็ไม่แคร์ด้วยว่าสื่อและนักข่าวพวกนั้นจะพูดถึงเขายังไง ใจแข็ง ไร้อารมณ์ ไม่มีเหตุผล สำหรับเย่โม่เซินแล้ว คำวิจารณ์ของคนพวกนี้มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย

นอกเสียแต่ว่าถ้าใครไม่อยากมีชีวิตอยู่ แล้วไปเขียนข่าวเกี่ยวกับเขาในด้านลบ

ชายคนนี้ไม่เพียงแต่จะใจแข็งไร้อารมณ์ แต่ใครก็ห้ามมายั่วโมโหเขา นอกจากคนที่ไม่อยากอยู่ในเมืองเป่ยอีก

ดังนั้นทุกคนจึงหลีกทางให้เขาโดยอัตโนมัติ แถมยังไม่มีใครกล้าตามเข้าไปอีกด้วย

เลิงเยาเยากับเสี่ยวเหยียนทำตัวเหมือนหางแล้วเดินตามออกไป

เมื่อมาถึงทางเดิน หานมู่จื่อ ยังไม่กล้าโผล่หน้าออกมา เธอซุกอยู่ในสูทของเขาจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว เสียงหัวเราะของเย่โม่เซินดังอยู่เหนือศีรษะของเธอ

“ไม่มีคนแล้ว ออกมาสูดอากาศเถอะ”

หานมู่จื่อ ส่งเสียงหึออกมา เธอไม่ได้สนใจเขา

เธอไม่เชื่อคำพูดของคนคนนี้ ถ้าเอาหน้าโผล่ออกมาแล้วโดนนักข่าวถ่ายจะทำยังไงล่ะ

เมื่อผ่านไปสักพัก หานมู่จื่อ ได้ยินว่ารอบๆ ไม่มีเสียงอะไรแล้ว เธอจึงค่อยๆ โผล่หัวออกมาแล้วมองไปรอบๆ เมื่อพบว่าไม่มีใครจริงๆ เธอจึงพรูลมหายใจออกมา

“โอเค ไม่มีคนแล้ว คุณปล่อยฉันลงเถอะ”

หานมู่จื่อเงยหน้ามองเย่โม่เซินแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมา

เย่โม่เซินเหลือบมองเธอแล้วพูดว่า “ผมพูดตอนไหนว่าจะปล่อยคุณลงไป”

หานมู่จื่อ:“???”

“รองเท้าคุณพังแล้ว ผมจะพาคุณไปซื้อคู่ใหม่”

หานมู่จื่อ:“ไม่ต้องหรอก ฉันไปซื้อเองได้”

เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงลานจอดรถ เย่โม่เซินอุ้มเธอเดินไปถึงหน้ารถของตัวเอง จากนั้นก็หันกลับไปมองเลิงเยาเยากับเสี่ยวเหยียนแวบหนึ่ง

เสี่ยวเหยียนกับเลิงเยาเยากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังเขามาตลอด อีกอย่าง หานมู่จื่อ ก็อยู่ในมือเขา พวกเธอไปไหนไม่ได้หรอก เมื่อโดนเย่โม่เซินมอง ทั้งสองคนก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาที่ด้านหลัง

“พวกเธอสองคน…” เย่โม่เซินหรี่ตาลงแล้วขยับปากพูด “กลับไปก่อนเถอะ”

“แต่ว่า…” เสี่ยวเหยียนมอง หานมู่จื่อ ด้วยความลังเล เมื่อเห็นว่าเธอกำลังขัดขืนอยู่ในอ้อมอกของเย่โม่เซิน เธอทำได้เพียงพูดอย่างกล้ำกลืนฝืนทนว่า “คุณเย่โม่เซิน คุณปล่อยมู่จื่อลงเถอะ เดี๋ยวพวกเราขึ้นรถก็ไม่ต้องสวมรองเท้าแล้ว เราจะตรงกลับบ้านเลย”

“หืม” เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้น รังสีความเย็นชาที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มเย็นยะเยือก

เสี่ยวเหยียนหดคอเข้าไป เธอเห็นสภาพของ หานมู่จื่อ ก็พูดต่อ “มู่จื่อไม่เต็มใจไปกับคุณ ใช่ไหม อีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ชายหญิงที่โสดกันทั้งคู่อยู่ด้วยกันคงไม่ค่อยดี วันนี้นักข่าวก็เยอะด้วย ถ้าโดนถ่ายรูปขึ้นมาพวกเราแย่แน่”

หานมู่จื่อ มองเย่โม่เซิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า

“ได้ยินหรือยัง รีบปล่อยฉันลงได้แล้ว”

เย่โม่เซินมองหน้าเธอเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แต่ตอนที่เขากำลังจะพูด หานมู่จื่อ ก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันจะบล็อกวีแชทคุณ”

เย่โม่เซิน : “……”

“จะปล่อยไม่ปล่อย” ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เธอจะขู่เขาบ้าง

เย่โม่เซินไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เหมือนกับว่าเขากลัวว่าเธอจะบล็อกวีแชทเขาจริงๆ อย่างไรอย่างนั้น

ภายใต้การจ้องมองของเธอ ไม่นึกว่าเขาจะค่อยๆ วางเธอลง

เมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นอันเย็นเฉียบ หานมู่จื่อ ก็สั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้

มันเย็นมากจริงๆ

“ห้ามบล็อกผม” เขาพูดขอร้องด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก

ในตอนนี้เย่โม่เซินเหมือนกับพวกนักเลงที่กำลังโมโห หานมู่จื่อ คร้านที่จะไปสนใจเขา เธอหมุนตัวเดินออกไปทันที

แต่ทว่าข้อมือของเธอถูกดึงเอาไว้ ทำให้ฝีเท้าของเธอชะงักลง เธอขมวดคิ้วแล้วหันกลับมา “ปล่อยนะ!”

“ได้ยินสิ่งที่ผมพูดไหม” เย่โม่เซินขมวดคิ้วมองเธอด้วยสีหน้าตึงเครียดและจริงจัง

ราวกับว่าถ้าไม่ยอมตอบตกลงเขาจะไม่ยอมให้เธอไปอย่างไรอย่างนั้น หานมู่จื่อ รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอด เธอหมดความอดทนแล้วจริงๆ

“ฉันรู้แล้ว ฉันรับรอง สาบานเลยว่าจะไม่บล็อกคุณ โอเคหรือยัง ฉันไปได้หรือยัง”

เย่โม่เซินปล่อยมือเธอ “ไปเถอะ เดินทางปลอดภัย”

คำพูดของเขาทำให้เธอคิดว่าเขาจะกลับใจเป็นคนใหม่ไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าคนเย็นชาแบบเขาจะพูดอะไรที่ดูเหมือนใส่ใจคนอื่นแบบนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด