เส้นทางแห่งโชคชะตา 74 ภารกิจทหารรับจ้างครั้งแรก (2)

Now you are reading เส้นทางแห่งโชคชะตา Chapter 74 ภารกิจทหารรับจ้างครั้งแรก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย dual cultivation : ร่วมเรียงเคียงเซียน

 

DC บทที่ 98: ห้องสวีทแห่งศลิษา (4)

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่ซูหยางนั่งฝึกวิชาอยู่เงียบๆ อย่างไรก็ตามมีเสียงรบกวนความสงบด้านหลังเขาเป็นบางครั้ง

 

เสียงหอบหายใจค่อนข้างหนักของหลลี่เฟินสามารถได้ ยินเป็นระยะแต่ไม่ใช่เสียงที่คล้ายกับความพึงใจ แต่กลับเป็นเสียงที่คล้ายกับเธอเหน็ดเหนื่อยขุ่นเคือง

 

“เจ้าทำเสร็จหรือยัง นี่ก็เป็นชั่วโมงแล้วตั้งแต่เจ้าเริ่ม แต่พวกเราก็ยังคงอยู่ที่นี่ ทั้งที่ก่อนนี้เจ้าดูค่อนข้างอยากออกไปข้างนอก” ซูหยางกล่าว เสียงที่เขากล่าวขึ้นกระทันทันสร้างความตกใจให้กับหลูลี่เฟินที่กำลังมุ่งมั่นอยู่กับตัวเอง จนเธอลืมเรื่องตัวตนของเขาไปสิ้น

 

“หุบปาก ข้ามเคยทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ แล้วเจ้าล่ะ สิ่งที่เจ้าทำก็เพียงนั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อไรที่เจ้าจะปลดเปลื้องตัวเองบ้าง มันไร้ความหมายถ้าข้ามีเพียงข้าที่ทำอยู่ฝ่ายเดียว” เธอตะโกนตอบ

 

“เจ้าคิดหรือว่าข้าจะทำอะไรที่น่าละอายอย่างเช่นช่วยตัวเอง เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร ข้าสามารถหลั่งได้โดยมิต้องแตะต้องตัวเอง” ซูหยางกล่าวด้วยเสียงโอ้อวด สร้างความมึนงงให้กับหลูลี่เฟิน

 

นั่นเป็นสิ่งที่สามารถโอ้อวดได้ด้วย

 

แม้ว่าการช่วยตัวเองไม่ได้ถือเป็นเรื่องน่าอายของคนหลายคนที่ทำอยู่เป็นประจำ แต่คำกล่าวเช่นนั้นใช้ไม่ได้สาหรับซูหยางผู้ที่ไม่เคยโลมไล้ตัวเองมาก่อน เพราะว่าไม่มีความจำเป็นสำหรับเขาที่จะทำเช่นนั้น ในเมื่อเขาสามารถหาใครบางคนมาทำให้กับเขาได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กระดิกนิ้ว

 

หลูลี่เฟินหยุดช่วยตัวเองและดึงมือออกมาจากชุดชั้นในเธอจ้องมองดูซูหยางด้วยท่าทางแปลกประหลาด

 

“เจ้าสามารถปลดปล่อยตัวเองโดยมิต้องสัมผัสได้จริง เรี่องนั้นเป็นได้ด้วยรี” เธอถามเขาด้วยสายตาสงสัย รู้สึกเหมือนตัวเองเหลวไหลอยู่บ้างสำหรับการถามคำถามแปลกๆเช่นนั้น

 

“ถ้าข้ามสามารถทำอะไรที่ง่ายดายเช่นการควบคุมปราณหยาง ข้าจักเรียกตัวเองว่าเป็นชายได้อยู่” ซูหยางกล่าวขณะที่ส่ายหน้า คิดว่านั่นเป็นธรรมดาที่เขาสามารถทำเช่นนั้นได้

 

“จริง เช่นนั้นทำไมเจ้ามิกล่าวเสียแต่แรก เราคงออกไปจากที่แห่งนี้ได้แล้ว ถ้าเจ้าบอกข้าก่อนที่ข้าจักเริ่มทำอะไรเช่นนี้”

 

ซูหยางหัวเราะกับคำของเธอ เขากล่าวว่า “เจ้าคิดว่าความสามารถเช่นนั้นสามารถเรียนรู้ได้จากการบอกเล่าร์ ต่อให้ข้าอบรมเจ้าไปสักร้อยปีโดยตรง เจ้าก็ยังคงมิสามารถเข้าใจได้”

 

เขาต้องใช้เวลาหลายพันปีสร้างสมประสบการณ์เพื่อที่จะเชี่ยวชาญในวิชานี้ แต่เด็กหญิงคนนี้ผู้ที่มีอายุยังไม่ถึงยี่สิบปีกลับคิดว่าเธอสามารถเรียนมันได้เช่นกัน ช่างน่าหัวเราะ

 

หลลี่เฟินขมวดคิ้วกับถ้อยคำของเขา รู้สึกยิ่งจนหนทาง “เช่นนั้นข้าควรทำอย่างไรดี ข้าได้พยายามปลดปล่อยปราณหยินในชั่วโมงที่ผ่านมาโดยปราศจากผลลัพธ์ จะมีก็แต่ความเจ็บในตอนนี้” เธอกล่าวขณะที่ชี้ไปยังพื้นที่เฉพาะของเธอ

 

ซูหยางมองเธอด้วยหน้าตาท่าทางแปลกๆ “กระทั่งผู้คนที่มีอายุน้อยกว่าเจ้าครึ่งหนึ่งยังสามารถช่วยตัวเองโดยมิต้องมีอะไรช่วย แต่เจ้ากลับไม่สามารถทำอะไรง่ายๆเช่นการช่วยตัวเองช่างบริสุทธิ์เสียจริง”

 

“หุบปาก มิได้เหมือนเจ้าผู้ฝึกการเล้าโลม ข้าเป็นผู้ฝึกวิชาทั่วไป มิจำเป็นต้องมีความรู้เช่นนั้นในชีวิต”

 

“สามีในอนาคตของเข้าต้องเสียใจ รู้ไหม”

 

“เชี่ย เจ้าช่างน่ารังเกียจจริงๆ” เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ

 

ซูหยางสายหน้า ตรงเข้าไปหาเธอ “เราคงมิสามารถออกไปจากที่แห่งนี้หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เอาเป็นว่าข้าช่วยเจ้าปลดปล่อยปราณหยางดีไหม” เขากล่าวกับเธอด้วยเสียงเรียบเฉย

 

“เจ้าต้องการอะไรนะ ออกไปให้ห่างข้า เจ้าคนลามก ข้าจักฆ่าเจ้าถ้าเจ้ากล้ามาแตะต้องตัวข้า” หลูลี่เฟินถอยไปที่ผนังเมื่อสังเกตเห็นซูหยางเดินตรงมาหาเธอ

 

“ข้าดูเหมือนคนที่ใช้กำลังข่มเหงคนอื่นจริงงั้นรี ข้าเพียงเสนอการบริการให้เจ้า ซึ่งเจ้าสามารถช่วยตนเองได้ ข้ามแตะต้องเจ้าในบริเวณที่เจ้าไม่ต้องการ” เขากล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงใจ

 

หลูลี่เฟินจ้องมองเขาเงียบๆ

 

หลังจากนั้นชั่วขณะ เธออ้าปากถาม “เจ้าจักทำอะไรกับข้าพูดมาตรงๆ”

 

“นวดหลังเพื่อผ่อนคลายตัวเจ้า เพิ่มความไวให้กับการสัมผัส” เขากล่าว

 

“นวดหลัง เท่านั้น จริง”

 

“เจ้าลืมไปแล้วรีว่าที่นี่คือที่ไหน พวกเราอยู่ในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย สถานที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป มิเช่นนั้นคงไม่มีแขกมากมายดังเช่นเจ้าที่นี่วันนี้ ยิ่งมิต้องพูดถึงว่ายังมีเจ้าแม่นกายรออยู่ด้านนอก ถ้าข้า ศิษย์ในของนิกายนี้ ทำอะไรที่ผิดศีล ธรรมดังเช่นการใช้กำลังข่มเหงแขก ใครจักต้องการมาที่นี่เพื่อใช้บริการอีก ข้ามิได้โง่จนกระทั่งเสี่ยงกับชีวิตทั้งชีวิต หรือทำลายชื่อเสียงที่ได้มาอย่างยากเย็นของนิกายข้าไปพร้อมกันเพียงเพื่อเด็กหญิงตัวเล็กๆเช่นเจ้า” ซูหยางส่ายหน้าด้วยท่าทางหดหู เหมือนว่าเขาถูกลบหลู่เมื่อเธอไม่ไว้วางใจเขา

 

เมื่อหลูลี่เฟินมองเห็นท่าทางของเขา เธอพลันระลึกขึ้นได้ว่าเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองมากเกินไปตลอดช่วงเวลานี้ เขาพูดถูก ถ้าเหล่าศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยเชื่อถือไม่ได้เช่นนั้นทำไมจึงมีแขกมากมายที่นี่ในวันนี้

 

“ข้าขออภัยที่สงสัยเจ้า… กระทั่งข้ายังมาที่นี่ในฐานะแขก…” เธอขอโทษด้วยเสียงเบา “ข้าเดาว่าคงเป็นเพราะว่าข้ายังคงโกรธแค้นตระกูลข้าที่ส่งข้ามาที่นี่…”

 

ท่าทางเศร้าโศกบนใบหน้าซูหยางพลันหายไปในทันทีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาแทนที่ “ข้ายินดียอมรับคำขอโทษถ้าเจ้านอนลงบนเตียงและอนุญาตให้ข้านวดหลัง” เขากล่าว

 

แม้ว่าหลูลี่เฟินยังคงรู้สึกลังเล เธอก็พยักหน้ารับ และค่อยกระเถิบเข้ามายังเตียง

 

ครั้นเมื่อเธอนอนคว่ำลงบนเตียง ซูหยางค่อยเลื่อนมือของเขาไปยังร่างแบบบางของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด