Bannou “Murazukuri” Cheat de Otegaru Slow Life ~Mura desu ga Nani ka?~ 8: ลูกบ้านคนที่สอง

Now you are reading Bannou “Murazukuri” Cheat de Otegaru Slow Life ~Mura desu ga Nani ka?~ Chapter 8: ลูกบ้านคนที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

chapter 8

 

“แสดงให้ฉันเห็น?”

 

 

เซเลนถามผมขณะที่เธอสงสัยว่าผมกำลังพูดถึงอะไร

 

ผมจึงตัดสินใจสร้างโกดังเพื่อจะได้อธิบายได้ง่ายขึ้น เราไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสร้างโกดังในตอนนี้ เเต่ไม่ช้าไม่เร็วยังไงก็ต้องสร้างอยู่ดี

 

 

<< 20 คะแนนหมู่บ้านจะถูกใช้เพื่อสร้างโกดัง *{ใช่}||{ไม่}>>

 

 

 

ทันทีหลังจากที่ผมเลือกใช่ โกดังที่ทำจากดินก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา

 

 

 

“……ฮะ?”

 

 

 

เธออ้าปากกว้างเเละตกตะลึง

 

 

 

“นี่คือสิ่งที่พรสวรรค์ของผม [ อาคารหมู่บ้าน ]  สามารถสร้างสิ่งที่ผมต้องการได้ในทันทีเเต่แน่นอนว่ามันไม่สามารถสร้างทุกสิ่งได้ อันที่จริงตอนนี้ผม สามารถเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกได้เพียง 10 ชนิดเท่านั้น”

 

 

 

นอกจากนี้ เนื่องจากคะเเนนของแต่ละรายการ ผมจึงสร้างได้จำนวนจำกัดเท่านั้น

 

 

 

“รอเดี๋ยวสิ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องพรสวรรค์ ที่ทำแบบนี้นั้นมาก่อน! คงไม่ใช่ว่าไร่ตรงนั้นก็….”

 

“ใช่ พรสวรรค์ของผมเอง”

 

“ไม่น่าล่ะ การที่จะเตรียมไร่สร้างโกดังในระยะเวลาอันสั้น คิดอีกกี่ทีก็เป็นไปไม่ได้”

 

 

 

เมื่อเซเลนเข้าใจสถานการณ์ คำพูดก็ผุดขึ้นที่ตรงหน้าของผมอีกครั้ง

 

 

 

<<ทำให้เธอเป็นชาวบ้าน? *{ใช่} || {ไม่}>>

 

 

 

ไม่ ไม่ ไม่มีทางที่ เซเลนจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เรียบง่ายเช่นนี้!

 

ผมย้อนคิดในใจเมื่อตัดสินใจจะไม่สนใจต่อข้อความนั้น

 

 

“แต่เธอแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะเลิกหมั้นกับราอูล? ผมคิดว่าตระกูลอัลเบล์ ก็คงอยู่ไม่สุขเเน่”

 

 

เมื่อเทียบกับตระกูลอัลเบล์ ตระกูลเคาน์วัซเลอต้า ก็ถือว่าขาดเเคลนกำลังรบ

 

ดังนั้น หากตระกูลเคาน์วัซเลอต้ายกเลิกข้อตกลงนี้เพียงฝ่ายเดียว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ครอบครัวอัลเบิล์จะตอบโต้ด้วยการส่งกำลังทหารเข้ามา

 

 

 

“ต่อให้เป็นตระกูล อัลเบล์ ก็ไม่ว่างพอที่จะมาเเค้นเคืองวัซเลอต้าจริงไหม ยิ่งไปกว่านั้นหากไปสร้างศัตรูเพิ่มก็มีเเววจะโดนข้าศึกล้อมหมดทุกทิศทางไง”  

 

ตระกูลอัลเบล์อาจมีอำนาจ แต่เนื่องจากอาณาเขตที่กว้างใหญ่ จึงมีเพื่อนบ้านที่เป็นศัตรูมากมายที่ต้องกังวล กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลเคาน์วัซเลอต้า ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลอัลเบล์ จะไปทำส่งครามด้วย

 

เซเลน เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์ 2 อย่าง นอกจาก [ ดาบคู่ ] ซึ่งเป็นพรสวรรค์ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ด้วยดาบสองเล่ม เธอยังมี [มนตร์ฟ้า] เวทมนตร์น้ำและน้ำแข็ง

 

อันที่จริง เนื่องจากเธอมีส่วนร่วมในสนามรบ เธอจึงได้รับสมญานามว่า: [เจ้าหญิงใบมีดเเข็ง]

 

 

“สุดท้ายก็โดนกำหนดให้ถูกส่งตัวไปเป็นเจ้าสาวอยู่ดี โชคดีบังเอิญน้องชายได้รับพรสวรรค์ที่เเข็งเเกร่ง ตราบใดที่น้องฉันยังอยู่ที่นั่น เดี๋ยวพวกเขาก็จัดการได้หล่ะ”

 

(ถ้าจำไม่ผิดน้องชายของเธอก็อายุประมาณผม)

 

“อย่างไรก็ตาม การอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ดูแย่นัก”

 

“ฮะ? คงไม่ได้วางเเผนที่จะอยู่ที่นี้หรอกนะ”

 

“ใช่? ฉันไม่มีที่ให้กลับเเล้วด้วยสิ ถึงมีที่ให้กลับก็ไม่อยากกลับไป”  

 

<<ตอนนี้เซเลนเป็นชาวบ้านแล้ว>>

 

 

 

หืม? เธอกลายเป็นชาวบ้านด้วยตัวเธอเอง?!! ทั้งที่ไม่ได้กดเลือก {ใช่} เลยเเท้ๆ

 

 

 

เมื่อผมตรวจสอบ มันบอกจริง ๆ ว่าตอนนี้ผมมีชาวบ้านสองคน

 

จำนวนคะแนนที่ผมได้รับในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็น 12 คะแนนเช่นกัน

 

ที่สำคัญกว่านั้นคือ…

 

 

 

“ไม่คิดจะคิดใหม่เหรอ? แม้จะเป็นพรสวรรค์ผมก็ตาม ความจริงก็ยังคงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนา เรายังไม่มีบ้านเรือนที่ดี และการเก็บเกี่ยวก็ไม่ได้เยอะ ในขณะเดียวกันด้วยพลังของธอ ก็ยังสามารถหาที่พักที่ดีได้กว่านี้”

 

“จะบอกว่าไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ ลุค?”

 

“เปล่า ไม่ใช่เเบบนั้น….”

 

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างเซเลนถามในขณะที่มองมิเลียอย่างเฉียบขาด

 

ที่แปลกไปกว่านั้นมิเลียตอบกลับด้วยใบหน้าที่เฉียบคมของเธอเอง

 

 

 

ทำไมสองคนนี้ถึงจ้องตากันเขม็งล่ะ นี่ควรจะเป็นการพบกันครั้งแรกไม่ใช่เหรอ…?

 

 

 

“พูดตามตรง นี่ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับลูกสาวของตระกูลสูงศักดิ์หรอกนะเเละก็พวกเราไม่มีแม้แต่เตียงหรือห้องอาบน้ำที่นี่ค่ะ”

 

“ก็เหมือนกับในสนามรบเลย ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฉัน นอกจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามอนสเตอร์ตัวอื่นโจมตีเหมือนอย่างก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอีก? ไม่เห็นด้วยเหรอว่าต้องใช้กำลังของฉัน? หรือคุณกำลังบอกว่าคุณมีพลังมากพอที่จะปกป้องลุค?”

 

 

 

ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่อันตรายเมื่อมิลเลียและเซเลนคุยกัน

 

(เฮ้ ทำไมสองคนนี้ถึงขัดแย้งกันอย่างงี้น๊าา…?)

 

 

 

“เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญทำตามใจชอบได้เลยค่ะ เเต่สำหรับที่นี่ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดสูงส่งขนาดไหนก็ไร้ความหมายค่ะ ดิฉันเป็นชาวบ้านคนแรก คุณคือคนที่สอง ดังนั้นดิฉันจะเป็นคนที่เหนือกว่าระหว่างเรา”

 

“โอ้ สรุปคือคุณกำลังพูดว่านั่นคือสิ่งเดียวที่คุณมีข้อได้เปรียบเหนือฉัน?”

 

“ก็ไม่เชิง. ดิฉันสามารถเปรียบเทียบหน้าอกของเราได้ แต่ถึงอย่างนั่นดิฉันก็คิดว่ามันเล็กเกินไป”

 

“เรียกใครว่าหน้าอกเล็ก!?”

 

“ดิฉันเคยพูดคำว่า ‘หน้าอกแบน’ เมื่อไหร่”

 

“เงียบไปเลย! ฉันโตแล้วนะรู้ไหม!”

 

“ขอบอกไว้ก่อนว่า ตอนดิฉันอายุ สิบห้าก็ใหญ่กว่าสามเท่าของที่อวดอะค่ะ”

 

“…! ฉะ-ฉันเพิ่งเริ่มโต อีกหน่อยก็เเซงกลับได้!!”

 

 

เซเลนน้ำตาคลอและตะโกนอย่างนั้น

 

 

…สำหรับผม ผมแค่มองไปทางอื่น ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ผมเลยแอบหนีไปอย่างลับๆ

 

====

ขอเเจ้งการเปลี่ยนคำพูด

ตระกูล อัลเบอร์ต เปลี่ยนเป็น อัลเบล์  

โรงเก็บของ เปลี่ยนเป็น โกดัง

**อิงตามคนเเปลมังงะครับ เพื่อให้อ่านเเล้วไม่สับสนกัน

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารการเเปลได้ที่ FB: องค์หญิงผู้ชื่นชอบน้ำตาล

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Bannou “Murazukuri” Cheat de Otegaru Slow Life ~Mura desu ga Nani ka?~ 8: ลูกบ้านคนที่สอง

Now you are reading Bannou “Murazukuri” Cheat de Otegaru Slow Life ~Mura desu ga Nani ka?~ Chapter 8: ลูกบ้านคนที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

chapter 8

 

“แสดงให้ฉันเห็น?”

 

 

เซเลนถามผมขณะที่เธอสงสัยว่าผมกำลังพูดถึงอะไร

 

ผมจึงตัดสินใจสร้างโกดังเพื่อจะได้อธิบายได้ง่ายขึ้น เราไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสร้างโกดังในตอนนี้ เเต่ไม่ช้าไม่เร็วยังไงก็ต้องสร้างอยู่ดี

 

 

<< 20 คะแนนหมู่บ้านจะถูกใช้เพื่อสร้างโกดัง *{ใช่}||{ไม่}>>

 

 

 

ทันทีหลังจากที่ผมเลือกใช่ โกดังที่ทำจากดินก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา

 

 

 

“……ฮะ?”

 

 

 

เธออ้าปากกว้างเเละตกตะลึง

 

 

 

“นี่คือสิ่งที่พรสวรรค์ของผม [ อาคารหมู่บ้าน ]  สามารถสร้างสิ่งที่ผมต้องการได้ในทันทีเเต่แน่นอนว่ามันไม่สามารถสร้างทุกสิ่งได้ อันที่จริงตอนนี้ผม สามารถเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกได้เพียง 10 ชนิดเท่านั้น”

 

 

 

นอกจากนี้ เนื่องจากคะเเนนของแต่ละรายการ ผมจึงสร้างได้จำนวนจำกัดเท่านั้น

 

 

 

“รอเดี๋ยวสิ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องพรสวรรค์ ที่ทำแบบนี้นั้นมาก่อน! คงไม่ใช่ว่าไร่ตรงนั้นก็….”

 

“ใช่ พรสวรรค์ของผมเอง”

 

“ไม่น่าล่ะ การที่จะเตรียมไร่สร้างโกดังในระยะเวลาอันสั้น คิดอีกกี่ทีก็เป็นไปไม่ได้”

 

 

 

เมื่อเซเลนเข้าใจสถานการณ์ คำพูดก็ผุดขึ้นที่ตรงหน้าของผมอีกครั้ง

 

 

 

<<ทำให้เธอเป็นชาวบ้าน? *{ใช่} || {ไม่}>>

 

 

 

ไม่ ไม่ ไม่มีทางที่ เซเลนจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เรียบง่ายเช่นนี้!

 

ผมย้อนคิดในใจเมื่อตัดสินใจจะไม่สนใจต่อข้อความนั้น

 

 

“แต่เธอแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะเลิกหมั้นกับราอูล? ผมคิดว่าตระกูลอัลเบล์ ก็คงอยู่ไม่สุขเเน่”

 

 

เมื่อเทียบกับตระกูลอัลเบล์ ตระกูลเคาน์วัซเลอต้า ก็ถือว่าขาดเเคลนกำลังรบ

 

ดังนั้น หากตระกูลเคาน์วัซเลอต้ายกเลิกข้อตกลงนี้เพียงฝ่ายเดียว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ครอบครัวอัลเบิล์จะตอบโต้ด้วยการส่งกำลังทหารเข้ามา

 

 

 

“ต่อให้เป็นตระกูล อัลเบล์ ก็ไม่ว่างพอที่จะมาเเค้นเคืองวัซเลอต้าจริงไหม ยิ่งไปกว่านั้นหากไปสร้างศัตรูเพิ่มก็มีเเววจะโดนข้าศึกล้อมหมดทุกทิศทางไง”  

 

ตระกูลอัลเบล์อาจมีอำนาจ แต่เนื่องจากอาณาเขตที่กว้างใหญ่ จึงมีเพื่อนบ้านที่เป็นศัตรูมากมายที่ต้องกังวล กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลเคาน์วัซเลอต้า ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลอัลเบล์ จะไปทำส่งครามด้วย

 

เซเลน เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์ 2 อย่าง นอกจาก [ ดาบคู่ ] ซึ่งเป็นพรสวรรค์ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ด้วยดาบสองเล่ม เธอยังมี [มนตร์ฟ้า] เวทมนตร์น้ำและน้ำแข็ง

 

อันที่จริง เนื่องจากเธอมีส่วนร่วมในสนามรบ เธอจึงได้รับสมญานามว่า: [เจ้าหญิงใบมีดเเข็ง]

 

 

“สุดท้ายก็โดนกำหนดให้ถูกส่งตัวไปเป็นเจ้าสาวอยู่ดี โชคดีบังเอิญน้องชายได้รับพรสวรรค์ที่เเข็งเเกร่ง ตราบใดที่น้องฉันยังอยู่ที่นั่น เดี๋ยวพวกเขาก็จัดการได้หล่ะ”

 

(ถ้าจำไม่ผิดน้องชายของเธอก็อายุประมาณผม)

 

“อย่างไรก็ตาม การอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ดูแย่นัก”

 

“ฮะ? คงไม่ได้วางเเผนที่จะอยู่ที่นี้หรอกนะ”

 

“ใช่? ฉันไม่มีที่ให้กลับเเล้วด้วยสิ ถึงมีที่ให้กลับก็ไม่อยากกลับไป”  

 

<<ตอนนี้เซเลนเป็นชาวบ้านแล้ว>>

 

 

 

หืม? เธอกลายเป็นชาวบ้านด้วยตัวเธอเอง?!! ทั้งที่ไม่ได้กดเลือก {ใช่} เลยเเท้ๆ

 

 

 

เมื่อผมตรวจสอบ มันบอกจริง ๆ ว่าตอนนี้ผมมีชาวบ้านสองคน

 

จำนวนคะแนนที่ผมได้รับในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็น 12 คะแนนเช่นกัน

 

ที่สำคัญกว่านั้นคือ…

 

 

 

“ไม่คิดจะคิดใหม่เหรอ? แม้จะเป็นพรสวรรค์ผมก็ตาม ความจริงก็ยังคงเป็นที่รกร้างว่างเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนา เรายังไม่มีบ้านเรือนที่ดี และการเก็บเกี่ยวก็ไม่ได้เยอะ ในขณะเดียวกันด้วยพลังของธอ ก็ยังสามารถหาที่พักที่ดีได้กว่านี้”

 

“จะบอกว่าไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ ลุค?”

 

“เปล่า ไม่ใช่เเบบนั้น….”

 

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างเซเลนถามในขณะที่มองมิเลียอย่างเฉียบขาด

 

ที่แปลกไปกว่านั้นมิเลียตอบกลับด้วยใบหน้าที่เฉียบคมของเธอเอง

 

 

 

ทำไมสองคนนี้ถึงจ้องตากันเขม็งล่ะ นี่ควรจะเป็นการพบกันครั้งแรกไม่ใช่เหรอ…?

 

 

 

“พูดตามตรง นี่ไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับลูกสาวของตระกูลสูงศักดิ์หรอกนะเเละก็พวกเราไม่มีแม้แต่เตียงหรือห้องอาบน้ำที่นี่ค่ะ”

 

“ก็เหมือนกับในสนามรบเลย ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับฉัน นอกจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามอนสเตอร์ตัวอื่นโจมตีเหมือนอย่างก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอีก? ไม่เห็นด้วยเหรอว่าต้องใช้กำลังของฉัน? หรือคุณกำลังบอกว่าคุณมีพลังมากพอที่จะปกป้องลุค?”

 

 

 

ฉันรู้สึกถึงบรรยากาศที่อันตรายเมื่อมิลเลียและเซเลนคุยกัน

 

(เฮ้ ทำไมสองคนนี้ถึงขัดแย้งกันอย่างงี้น๊าา…?)

 

 

 

“เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญทำตามใจชอบได้เลยค่ะ เเต่สำหรับที่นี่ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดสูงส่งขนาดไหนก็ไร้ความหมายค่ะ ดิฉันเป็นชาวบ้านคนแรก คุณคือคนที่สอง ดังนั้นดิฉันจะเป็นคนที่เหนือกว่าระหว่างเรา”

 

“โอ้ สรุปคือคุณกำลังพูดว่านั่นคือสิ่งเดียวที่คุณมีข้อได้เปรียบเหนือฉัน?”

 

“ก็ไม่เชิง. ดิฉันสามารถเปรียบเทียบหน้าอกของเราได้ แต่ถึงอย่างนั่นดิฉันก็คิดว่ามันเล็กเกินไป”

 

“เรียกใครว่าหน้าอกเล็ก!?”

 

“ดิฉันเคยพูดคำว่า ‘หน้าอกแบน’ เมื่อไหร่”

 

“เงียบไปเลย! ฉันโตแล้วนะรู้ไหม!”

 

“ขอบอกไว้ก่อนว่า ตอนดิฉันอายุ สิบห้าก็ใหญ่กว่าสามเท่าของที่อวดอะค่ะ”

 

“…! ฉะ-ฉันเพิ่งเริ่มโต อีกหน่อยก็เเซงกลับได้!!”

 

 

เซเลนน้ำตาคลอและตะโกนอย่างนั้น

 

 

…สำหรับผม ผมแค่มองไปทางอื่น ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ผมเลยแอบหนีไปอย่างลับๆ

 

====

ขอเเจ้งการเปลี่ยนคำพูด

ตระกูล อัลเบอร์ต เปลี่ยนเป็น อัลเบล์  

โรงเก็บของ เปลี่ยนเป็น โกดัง

**อิงตามคนเเปลมังงะครับ เพื่อให้อ่านเเล้วไม่สับสนกัน

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารการเเปลได้ที่ FB: องค์หญิงผู้ชื่นชอบน้ำตาล

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+