Midterm Fantasy 131

Now you are reading Midterm Fantasy Chapter 131 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ครอบครัวอบอุ่น

“เข้าใจแล้วครับ  วันนั้นผมจะเตรียมตัวให้พร้อมครับ ถ้าติดต่อมาเมื่อไหร่ก็จะเดินทางไปทันที” วิทวัสตอบไปในโทรศัพท์ก่อนจะวางสายไป

“ว่าไงบ้างครับนายท่าน”

“ทางนั้นตอบตกลงแล้ว เอาล่ะบัว นายไปเตรียมเงินสดให้พร้อม”

“ครับนายท่าน จะให้เตรียมปืนกับเสื้อกันกระสุนไหมครับ”

“ไม่ต้อง ถ้าพกไปด้วยพวกนั้นมันจะระแวงเอาได้ อย่าลืมสิว่าตอนนี้มันมองชั้นเป็นแค่เจ้าของกิจการธรรมดา ถ้าไม่มีอาวุธติดตัวไปเลยพวกมันต้องไม่ทันระวังตัวแน่ๆ”

“ครับ งั้นผมจะไปเตรียมเงิน กับไรเฟิลซุ่มยิง เผื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้เข้าไปช่วยได้”

“ไม่ต้องนายบัว นายอยู่ที่นี่ไม่ต้องตามไปด้วย”

“แต่ว่ามันอันตรายนะครับ”

“ฮ่าๆ นายลืมไปแล้วเรอะว่าชั้นเป็นใคร แล้วตอนที่เราสู้กันเมื่อครั้งนั้นใครเป็นฝ่ายชนะ”

ลุงบัวเอามือเกาศีรษะอย่างอายๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อแรกรู้จักกันนั้นตนพ่ายแพ้ให้กับชายตรงหน้านี้ไปอย่างหมดรูปขนาดไหนก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะมาเป็นลูกน้องคนสนิทในปัจจุบัน

“ถึงแม้จะไม่มีศิลานักปราชญ์ที่จะดูว่าพลังเวทมีแค่ไหน แต่ชั้นก็ยังจำความรู้สึกนี้ได้ ความรู้สึกที่พลังเวทในกายมีเต็มเปี่ยม พลังเวทขนาดนี้น่ะเหลือเฟือสำหรับแก็งค์นักเลงแบบนี้อยู่แล้ว” คุณวิทวัสบอก “อ้า จริงสิ แล้วช่วงนี้ลูกแพทมีท่าทีสงสัยอะไรบ้างไหม”

“ไม่ครับ คุณหนูไม่สงสัยอะไรเลย ผมบอกไปว่าตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ นายท่านเลยอยากให้คุณหนูเก็บตัวสักหน่อย” ลุงบัวบอก “ยังไงช่วงนี้คุณท่านทั้งสองมาอยู่ที่นี่ คุณหนูเลยรีบกลับมาหาคุณตาคุณยายของเธอทุกวันไม่มีปัญหาอะไรครับ”

คุณวิทวัสพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“นายบัวจำเอาไว้ ในวันนัดหมาย นายจะต้องไปรับลูกแพทพากลับบ้านตามปกติ ชั้นจะสั่งคุณท่านทั้งสองให้อยู่แต่ที่บ้านไม่ไปไหน พอลูกแพทกลับถึงบ้าน ให้คนรับใช้ทั้งหมดออกจากบ้านไปก่อนแล้วไปหลบในห้องนิรภัยใต้ถุนบ้าน”

“วันนั้นจะให้ผมไปรับคุณหนูก่อนเวลาหรือให้คุณหนูลาโรงเรียนไหมครับ”

“ไม่จำเป็น ถ้าทำแบบนั้นพวกมันอาจจะสงสัยเอาได้ ทำตัวตามปกตินั่นแหละ”

หลังจากสั่งการแล้ววิทวัสก็ออกจากห้องทำงานไปด้านนอก ที่ห้องรับแขกนั้นชายหญิงสูงวัยสองคนกำลังนั่งเล่นนั่งคุยกับแพทอยู่

“ทุกคนคุยอะไรกันอยู่เหรอน่าสนุกเชียว” วิทวัสถาม

“หนูกำลังบอกคุณตาคุณยายเรื่องเรียนอยู่ค่ะ” เด็กสาวอวด “ที่ตอนนั้นเคยคุยกันไว้ว่าจะเป็นหมอแล้วทุกคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้หนูจะทำได้แล้ว”

“ฮ่าๆ ดีแล้วๆ เป็นหมอเหมือนกับแม่” คุณวิทวัสพูดออกไปก่อนจะนึกขึ้นมาได้ แต่ช้าไปเสียแล้วเพราะใบหน้าที่ยิ้มแย้มของแพทเปลี่ยนเป็นหน้าเศร้าๆ

“เวลาแบบนี้ แทนที่พวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน” เด็กสาวส่ายศีรษะแล้วก้มหน้าลง คุณตาคุณยายที่นั่งข้างๆช่วยกันโอ๋และส่งสายตาดุมาที่วิทวัสเบาๆ พ่อของแพทถอนหายใจและเหลือบมองไปที่รูปครอบครัวที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างผนังห้อง รูปถ่ายสามคนพ่อแม่ลูกที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อน

“เอาน่าแพท ยังไงตอนนี้ตากับยายก็มาแล้วอย่าเศร้าไปเลย เดี๋ยวไม่สวยนะ”

“แหมคุณยายพูดเป็นหลอกเด็กไปได้ ตอนนี้หนูจะขึ้นม.ปลายแล้วนะคะ”

สองยายหลานหยอกกันไปมา ขณะที่วิทวัสกับชายชรามองหน้ากัน

“คุณพ่อครับ เชิญทางนี้หน่อยครับ”

ชายชราลุกเดินไปหาวิทวัส ทั้งคู่เดินไปคุยกันเงียบๆที่หน้าโต๊ะวางรูปถ่าย ชายชรามองรูปถ่ายครอบครัวที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่ตอนที่แพทยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ

“รูปครอบครัวนี่ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนสินะ”

“ครับ ตอนที่อารย่าเตรียมพาแพทที่เพิ่งขึ้นป.2ไปโรงเรียน จะว่าไป เป็นรูปครอบครัวรูปเดียวที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้า”

ชายทั้งสองมองหน้ากัน

“คุณพ่อครับ อีกสามวันผมจะไปที่ฐานที่มั่นหลักของแก็งค์เมษา วันนั้นผมอยากให้คุณพ่อกับคุณแม่มาอยู่ที่นี่”

“แก็งค์เมษา ฐานที่มั่นหลัก นี่เธอคิดจะทำอะไรกันวิทวัส”

“คุณพ่อก็รู้ว่าที่ครอบครัวของเราต้องอยู่กันเป็นแบบนี้เพราะอะไร ที่คุณอารยาต้องตายไปก็เพราะพวกมัน” วิทวัสบอก “ที่ผ่านมาพวกเราที่พยายามอยู่กันอย่างสุขสงบ แต่พวกมันกลับพยายามเข้ามาระรานพวกเราอยู่ตลอด คุณพ่อเองก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดีนี่ครับ ว่าแก็งค์เมษาพยายามเข้ามายึดห้างทองของเรามาตลอด”

“เรื่องนั้น… พ่อเข้าใจดี แต่ว่ามันเสี่ยงเกินไป” ตอนนี้เธอไม่มีพลังเวทแล้วนี่​

“แต่ก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ”​วิทวัสดึงสร้อยคอออกมา ผลึกสีแดงห้อยแขวนอยู่ที่สายสร้อยนั้น

“นี่มัน! ผลึกที่เธอกับอารย่าเคยใช้เพิ่มพลังเวท นี่เธอกลับไปโลกโน้นมาเหรอครับ” ชายชราร้องขึ้น

“เปล่าหรอกครับคุณพ่อ ผมไม่ได้กลับไปที่นั่นเจ้าผลึกนี้ผมได้มาด้วยวิธีอื่น” วิทวัสยิ้มแห้งๆบอกกับพ่อตา “ถึงจะผ่านมาจะสามสิบปีแล้ว แต่ด้วยจุดสุดท้ายที่ผมใช้ย้อนกลับมา อีกฝ่ายคงเตรียมพร้อมต้อนรับการกลับไปของผมอยู่แน่ๆ”

“ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ อย่าลืมว่าตอนนี้นายไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วแต่ว่ามีคนข้างหลังรออยู่”

“ครับคุณพ่อ”  วิทวัสบอก “เรื่องนี้ผมรอโอกาสมานานแล้ว ครั้งนี้ถือโอกาสที่มันยังไม่รู้ตัวรีบจัดการสาขาใหญ่ในประเทศแบบถอนรากถอนโคนซะไม่ให้สาขาหลักของมันทันรู้ตัว ต่อจากนี้ไปพวกมันก็จะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกเราหลงเหลืออยู่อีก ครอบครัวของเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขเสียที”

วิทวัสหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วก็มองไปที่ภาพขาวดำของภรรยาที่ตั้งอยู่ข้างๆ

โดยไม่รู้ตัวเลยว่าด้วยความเข้าใจผิดของทุกฝ่าย ทำให้ขณะนี้เขากำลังจะก้าวเข้าสู่กับดักที่ถูกวางรอเอาไว้แล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด