Midterm Fantasy 140

Now you are reading Midterm Fantasy Chapter 140 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
รอเดี๋ยวนะแพท ผมกำลังพาคนไปช่วยแล้ว

“สัญญาณโทรศัพท์หายไปไหนหมดเนี่ย”  รอนบ่นพลางมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตน เมื่อครู่นี้ที่คุยกับแพทอยู่ จู่ๆสัญญาณทั้งหมดก็ตัดขาดไป โทรศัพท์ของเขาเองนั้นสัญญาณก็ขึ้นๆลงๆระหว่างขีดเดียวกับไม่มีขีด

ตอนนี้รอนนั่งรออยู่ในโกดังเก็บของของเขา ก่อนหน้านี้ก็มีสายจากหลิวลี่จงเข้ามา แต่รอนคุยกับหัวหน้าแก๊งค์รุ่งโรจน์คนนั้นได้เพียงแค่ไม่กี่ประโยค สัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไปและไม่กลับมาอีกเลย

“เมื่อกี้เหมือนคุณหลิวลี่จงจะบอกว่า ส่งคุณหยางเทียนกับคุณหวังลินมาแล้ว แต่สัญญาณมันขาดไปซะก่อนนี่สิเลยไม่ทันได้บอกต่อว่าเรารอในโกดังแล้ว” รอนคิด “ถ้ามัวรอคุยทางโทรศัพท์ไม่ได้เรื่องแน่ ตั้งส่งอีเมล์ไว้ก่อนแล้วกัน”

อีเมล์ถูกพิมพ์ขึ้น รอนระบุไปอีกครั้งว่าตอนนี้เขารออยู่ในโกดังริมท่าน้ำจุดนัดพบเดิม ถ้ามาถึงแล้วให้เรียกด้วย และอีกฝ่ายน่าจะมีปืน หลังจากพิมพ์เสร็จรอนก็กดส่งไว้ ถ้ามีสัญญาณขึ้นมาสักแวบนึงเครื่องก็ส่งให้เอง

นี่นับว่ายังดีที่ว่าทางลับที่ใช้หนีออกจากบ้านของแพทมาเปิดที่ริมแม่น้ำตรงโกดังที่รอนใช้ประจำอยู่พอดี เขาเลยสามารถมาเตรียมตัวรอได้อย่างสะดวก เด็กหนุ่มจัดการเตรียมอาวุธที่คิดว่าจะต้องใช้ในคืนนี้ มีดสั้น หอกสั้น ถูกแพ็คใส่ย่ามเอาไว้ ฝาท่อน้ำเหล็กแข็งที่ถูกดัดแปลงเป็นโล่กันกระสุนก็ถูกเอาออกมาเช็คความเรียบร้อยของมือจับ

และที่สำคัญที่สุด คือปืนสั้น

ปืนพกสั้นที่เขาแอบเก็บไว้ 2 กระบอกหลังจากการต่อสู้กับสามสาว ตอนนี้วางอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว

รอนไม่มีความรู้เรื่องปืนสักเท่าไหร่ แถมปืนนี้เขาก็ไม่รู้จัก รู้เพียงแต่ว่ากระสุนนี้เป็นกระสุน 9มม. ตัวหนังสือที่อยู่บนปืนถูกขูดออกไปจนหมดเหลือเพียงสัญลักษณ์รูปดาวที่ด้ามจับที่ทาสีม่วงไว้เท่านั้น ดูเหมือนแก็งค์เมษาจะนำเข้าอาวุธมาแบบผิดกฎหมายสินะ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ พวกคนที่ไปล้อมบ้านแพทอยู่ก็คงมีปืนพวกนี้เหมือนกัน

รอนพลิกซ้ายพลิกขวาดูปืนทั้งสองกระบอกก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะเหมือนเดิม น่าเสียดายอยู่อย่างที่รอนไม่มีพลังเวทในตัวเองและระเบิดเวทย์มนตร์ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์สามมิติไม่สามารถใช้แกนมอนสเตอร์เป็นตัวกระตุ้นได้ ไม่งั้นรอนคงพกเอาไปใช้ด้วยแล้ว

ครืนนนน

แรงสั่นสะเทือนบางอย่างสั่นไหวมาจากใต้พื้นดิน รอนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะความรู้สึกนี้มันคล้ายกับระเบิดเวทมนตร์ที่เขาให้แพทลองใช้ที่โลกโน้นเลย

บ้านของแพทอยู่ถัดจากโกดังนี่ไปแค่ 3 ซอย หรือว่าที่สัญญาณหายไปเมื่อครู่นี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว

“โทรศัพท์ยังใช้ไม่ได้แฮะ เอาไงดี จะออกไปติดต่อผู้กองเฌอมาลย์กับตำรวจก่อน หรือจะรอคนของแก็งค์รุ่งโรจน์ดี”

เด็กหนุ่มลังเลอยู่เพราะถ้าออกไปหาโทรศัพท์ล่ะก็ เกิดคุณหยางเทียนกับหวังหลินแล้วไม่เจอจะยิ่งสับสนไปกันใหญ่

รอนตัดสินใจรออีก 10 นาที เมื่อยังไม่มีใครเข้ามาเขาเลยตัดสินใจว่างั้นคงต้องออกไปตามตำรวจก่อน เขาเตรียมเก็บของ

บรืนๆ บรืนๆ

“เสียงรถ คุณหยางเทียนมาแล้ว”

รอนรีบเก็บของ คว้าถุงอาวุธ เหน็บปืน หยิบโล่ฝาท่อ และม้วนเวท จากนั้นก็เปิดประตูโกดังออกไป ประตูค่อยๆเลื่อนออกเผยให้เห็นรถบัสที่จอดอยู่ 2 คัน ชายฉกรรจ์ร่วมร้อยคนกำลังลงจากรถอย่างเป็นระเบียบ

“ทุกคนตรวจเช็คอาวุธให้เรียบร้อย เช็คความเรียบร้อยของเสื้อกันกระสุน ไฟฉายด้วย”

“กลุ่มที่สี่ กระจายกำลังป้องกันพื้นที่ กลุ่มที่สองและสาม คุ้มกันปากทางท่อระบายน้ำ” ชายคนนึงร้องสั่งการ “ตอนนี้ลูกพี่พากลุ่มที่ 1 เข้าไปสำรวจในท่อระบายน้ำอยู่ จะให้ผิดพลาดไม่ได้”

รอนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ดูเหมือนคุณหยางเทียนและคุณหวังหลินจะล่วงหน้าเข้าไปด้วยตัวเองแล้ว แพทรู้จักหน้าตาสองคนนั้น ไม่น่ามีปัญหาอะไร

“เฮ้ย เฝ้าตรงไหนดีวะ”

“ขึ้นหลังคาโกดังน่าจะดี แต่ว่าบันไดโกดังอยู่ไหนเนี่ย”

ชายฉกรรจ์กลุ่มที่ 4 กว่า 30 คนล้อมวงกันอย่างงงๆ เพราะไม่มีใครเคยมาที่นี่มาก่อน

“ปุ่มดึงบันไดขึ้นหลังคาอยู่ที่เสาต้นนั้นครับ” รอนร้องบอก “กลุ่มที่ 4 แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่มย่อย พื้นที่นี้มีทางเข้าออกทางเดียว ให้แต่ละกลุ่มขึ้นไปที่หลังคาของโกดังหมายเลข 4 12 23 36 ที่อยู่ตรงปากทาง เมื่อขึ้นไปแล้วให้ไปตั้งกำลังอยู่ใกล้หลอดไฟ แสงไฟที่สว่างจะทำให้คนที่บุกเข้ามาเล็งพวกเราได้ไม่สะดวก”

ทุกคนมองรอนอย่างงงงัน เด็กหนุ่มใส่หน้ากากสีดำนี่มันคือใครกัน ออกมาก็สั่งกันแบบนี้

แต่รอนไม่สนใจ เขาหันไปหาคนที่ดูเป็นหัวหน้าที่สุด

“นั่น นายชื่ออะไร”

“ชวลิต”

“ให้กลุ่มที่ 3 กระจายอยู่ตรงท่าน้ำ นอกจากที่โป๊ะแล้วตรงท่าน้ำมีบันไดอีก 2 จุด ให้คนเฝ้าไว้ ป้องกันฝ่ายตรงข้ามแอบเอาเรือมาจอดแล้วบุกขึ้นมา”

ชวลิตมองไปที่เด็กหนุ่มหน้ากากดำอย่างสงสัยว่าเป็นใคร มองสำรวจทั่วตัว สะพายหอก เหน็บมีด ถือฝาท่อน้ำ เสียบปืนพกด้ามสีม่วงไว้ที่เอว

อ๊ะ จริงสินะ

“เฮียๆ มันเป็นใคร จู่ๆก็ออกมาสั่งพวกเรา”

“หุบปากน่า” ชวลิตเขกหัวลูกน้องไป รอนพยักหน้าเบาๆแล้วถามต่อ

“คุณชวลิต แล้วลูกพี่หัวหน้าทีมพวกนายล่ะ”

“เข้าไปในเส้นทางลับแล้วครับ”

“งั้นกลุ่มที่ 2 เตรียมไปกับผม เราจะเข้าไปสมทบ”​รอนสั่งการ “ตอนนี้ทางด้านโน้นน่าจะหนักเอาเรื่องอยู่ ดูเหมือนอีกฝ่ายเตรียมตัวไว้มากกว่าที่พวกเราคิด”

“ครับ” ชวลิตรับคำ จากนั้นก็สั่งคนที่อยู่ตรงนั้นให้แยกย้ายกันไปทำตามที่รอนสั่ง

ปังปัง ปังปัง

เสียงปืนดังมาจากโกดัง

“ทุกคนเร่งฝีเท้าเข้า เราต้องรีบคุมพื้นที่ทางออกให้ได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้ามา” รอนสั่ง

รอเดี๋ยวนะแพท ผมกำลังพาคนไปช่วยแล้ว

เหล่าชายฉกรรจ์30กว่าคนเดินตามรอนไป มีบางคนทำหน้าสงสัย

“เฮียชวลิต นั่นมันใครกัน”  มือปืนหน้าเด็กถาม

“เอ็งน่ะไม่รู้อะไร ดูด้ามปืนนั่นซะก่อน” เฮียชวลิตบอก “ปืน9มม.ไทป์92 ด้ามสีม่วง มีแต่มือปืนระดับกลางของแก๊งค์เท่านั้นที่จะได้ใช้ปืนแบบนี้ แกไม่ได้จำที่สอนไว้ตอนเข้ากลุ่มรึไง”

“อ๊าห์ จริงด้วย” มือปืนเด็กใหม่ร้องอย่างสยองกาย นี่มันลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท โชคดีจริงๆที่มันไม่ได้ไปเผลอแสดงความสงสัยล่วงเกินต่อหน้าคนๆนั้น ไม่งั้นตอนนี้มันอาจจะตายโดยไม่รู้ตัวไปแล้วก็ได้

แล้วทุกคนก็เดินตามรอนไปเงียบๆ

ตื้ดๆ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รอนหยิบมือถือมาดู เมล์ที่ส่งไปหาคุณหลิวลี่จงถูกตอบกลับมาพอดี

“หืม คุณหลิวเขียนอะไรมา” รอนค่อยๆอ่าน

[หยางเทียนและหวังหลินกำลังเดินทางไป แต่ว่าเจอรถของอีกฝ่ายดักสังเกตการณ์อยู่ ต้องกระจายคนแทรกซึมเข้าไป อาจจะไปถึงช้าสักนิด]

ตู๊ดๆๆๆ  หน้าจอขึ้นเป็นชื่อของหลิวลี่จง รอนเลยหยุดอ่านเมล์และรีบรับสาย

“คุณรอน ตอนนี้อยู่ไหนแล้วครับ”

“ผมอยู่ที่โกดังครับ” รอนตอบ “แต่ไม่ต้องห่วงแล้วครับ ผมเจอคนอื่นๆแล้ว กำลังจะไปหาคุณหยางเทียน เห็นว่าล่วงหน้าเข้าไปในอุโมงค์แล้ว”

“เห เหรอครับ แปลกจริง เมื่อครู่หวังหลินเพิ่งโทรมา บอกว่ากำลังปะทะกับอีกฝ่ายอยู่”

“หา ปะทะกันในอุโมงค์เหรอครับ” รอนร้องออกมาอย่างตกใจ “งั้นผมต้องรีบแล้ว คุณหลิวบอกหวังหลินได้เลยว่าตอนนี้ผมกำลังพาคนอื่นๆเตรียมเข้าอุโมงค์แล้ว จะตามไปช่วยเดี๋ยวนี้”

“ไม่ใช่นะครับ ตอนนี้หยางเทียนกับหวังหลินยังติดอยู่ข้างนอกโกดังเข้าไปไม่ได้เลย คุณรอนยังไม่ได้อ่านเมล์ผมเหรอครับ”

“ห๊ะ คุณหยางเทียนยังอยู่ข้างนอกเหรอครับ”

รอนร้องเสียงดังออกมาจนทุกคนหยุดเดิน เด็กหนุ่มรีบเลื่อนมือถือดูข้อความ ขณะที่ชวลิตที่ได้ยินชื่อของหยางเทียนยืนตะลึงสะท้านนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงค่อยๆถามออกไป

“ดะ เดี๋ยวก่อนนะ ปืนนั่นคุณได้มาจากไหน”

“ก็ที่สู้กับมือปืนสามสาวของแก๊งค์เมษาตอนนั้นไงครับ ผมยึดมาจากผู้หญิงคนหัวหน้า”

รอนตอบแล้วรีบเลื่อนดูอีเมล์สุดท้ายที่หลิวลี่จงส่งมา

[หยางเทียนติดต่อคุณรอนไม่ได้ ฝากผมบอกว่า เขาเข้าไปที่โกดังไม่ได้ มือปืนของแก็งค์เมษายกกันมาสองคันรถบัส ถ้าคุณรอนอยู่ที่โกดังแล้วอย่าออกมาเด็ดขาด อันตรายมาก”]

เอิ่ม…

รอนค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ เอ่ยปากถามชวลิต

“คุณชวลิตอยู่แก็งค์อะไรครับ”

“ผมอยู่แก๊งค์เมษา” ชวลิตตอบ “แล้วคุณ …​คุณ …​อยู่แก๊งค์อะไร”

รอนเอื้อมมือไปตบที่หน้าอก ม้วนเวทมนตร์ที่พกไว้เรืองแสงออกมา

“<Might>”

“เอ๊ะ? อ๊ากกกกก”

หอกสั้นพุ่งเสียบเข้าที่ไหล่ของชวลิตจนล้มลง จากนั้นหอกสั้นอีก 3 เล่มก็ถูกขว้างเสียบแขนขาของมือปืนที่รวมกลุ่มกันอยู่จนล้มกันไปตามๆกัน

“พวกเรา หน้ากากดำซุ่มโจมตี หน้ากากดำซุ่มโจมตี จัดการมันเร็วเข้า”​

แล้วการต่อสู้อันดุเดือดก็เริ่มต้นขึ้น
รออีกเดี๋ยวนะแพท

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด