The King of Warบทที่ 1510 ความทะเยอทะยานของตระกูลหลี่

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1510 ความทะเยอทะยานของตระกูลหลี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่นาน ภาพชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง มาถึงห้องของหลี่จ้งแล้ว

หลี่จ้งมองอีกฝ่ายแบบหน้าตาไร้ความรู้สึก พูดจานิ่งๆ “องค์ชายใหญ่มาหาผมที่ตระกูลหลี่ มีธุระอะไรเหรอครับ?”

ผู้มาเยือนก็คือองค์ชายใหญ่ของราชวงศ์ซ่านกวน ซ่านกวนจื่อจื้อ

หลี่จ้งไม่มีความหมายอยากให้ซ่านกวนจื่อจื้อนั่งลง บนใบหน้า ยังมีความเย็นชาระดับหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ากำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจของตนเองที่มีต่อราชวงศ์ซ่านกวน

ซ่านกวนจื่อจื้อไม่ได้โกรธ หัวเราะบอกว่า “เหล่าจู่หลี่ ผมรู้ว่า เพราะเรื่องของซ่านกวนโหรวนังแพศยาคนนั้นกับหยางเฉิน ทำให้ท่านโกรธมาก แต่ที่ผมมาตอนนี้ ก็คือนำคำขอโทษของท่านพ่อผม มาหาท่านนะครับ”

“เหอะ!”

หลี่จ้งทำเสียงฮึดฮัดอย่างแรง และไม่ได้พูดจา รอคำพูดต่อไปของซ่านกวนจื่อจื้อ

ซ่านกวนจื่อจื้อกระแอมเบาๆ จากนั้นพูดแบบจริงจัง “ซ่านกวนโหรวนังแพศยาคนนี้ แอบไปมีความสัมพันธ์กับหยางเฉิน ลับหลังท่านพ่อผมครับ ความจริงคือกำลังต่อต้านท่านพ่อผม เพราะเรื่องนี้ ท่านพ่อผมเลยเพิกถอนตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์ของหล่อนแล้วครับ และกักบริเวณหล่อนไว้ในคฤหาสน์ราชวงศ์แล้ว”

“ท่านพ่อผมบอกว่า ขอเพียงเหล่าจู่หลี่ไม่อภัยให้หนึ่งวัน ก็ไม่ปล่อยนังแพศยาคนนั้นออกไปหนึ่งวันครับ”

เวลานี้หลี่เจียงสงพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก “องค์ชายใหญ่ พวกเราไม่สนใจฟังคุณพูดเรื่องราชวงศ์ของพวกคุณหรอก อีกอย่าง ซ่านกวนโหรวนอนกับใคร นั่นเป็นอิสระของหล่อน ในเมื่อหล่อนยังไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลหลี่ของพวกเรา งั้นเรื่องสกปรกของหล่อน ก็ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพวกเราตระกูลหลี่”

เห็นได้ชัดหลี่จ้งหมายความว่าเช่นนี้ และไม่ได้พูดจา แม้กระทั่งขี้เกียจไปมองซ่านกวนจื่อจื้อ นั่งบนตำแหน่งของตนเองโดยตรง หลับตาพักผ่อน

ในใจซ่านกวนจื่อจื้อมีความโกรธ แต่ก็เข้าใจว่าที่นี่คือตระกูลหลี่ หลี่จ้งที่เขากำลังเผชิญหน้า ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง อยากฆ่าเขา นั่นง่ายดายเหมือนกับเหยียบมดตัวหนึ่งตาย

“เมื่อสักครู่ไม่ใช่องค์ชายใหญ่ให้คนมาบอกว่า เรื่องที่อยากพูด เกี่ยวข้องกับหยางเฉินเหรอ? คำพูดไร้สาระมากไปก็ไม่ต้องพูดแล้ว พูดประเด็นหลักมาตรงๆ ดีกว่า!”

หลี่เจียงสงพูดขึ้นกะทันหัน ไม่ไว้หน้าซ่านกวนจื่อจื้อสักนิด

ซ่านกวนจื่อจื้ออดกลั้นความโกรธในใจไว้ เอ่ยปากบอกว่า “เสด็จพ่อของผมให้ผมมาบอกเรื่องหนึ่งกับเหล่าจู่หลี่ หยางเฉินไม่ได้ครอบครองความสามารถที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพ วิถีบู๊ของเขาโดนทำลายจริง เพียงแค่เขายังรักษาร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ไว้เท่านั้น ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด ขอเพียงระวังหน่อย หยางเฉินก็สังหารอีกฝ่ายได้ยากมากครับ”

พูดจบ เขาหมุนตัวแล้วจากไป ไม่ได้พูดเรื่องเหลวไหลอีกสักประโยคเดียว

คนของตระกูลหลี่ หลังจากรับรู้ข้อมูลนี้ แต่ละคนล้วนทำหน้าตกใจ

หลี่จ้งนั่งอยู่ตำแหน่งผู้นำ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้ว ในลูกตามีความแหลมคมแวบผ่าน

หลี่เจียงสงมองหลี่จ้งที่ตำแหน่งผู้นำ เอ่ยปากบอกว่า “ท่านพ่อครับ ดูแล้วเหมือนกับที่พวกเราคิดไว้ วิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายแล้วจริงๆ เพียงรักษาร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ไว้เท่านั้น”

เมื่อสักครู่ ผู้อาวุโสตระกูลลหลี่คนนั้นที่ก่อนหน้านี้พาหลี่เป่าจุ้นไปรับเจ้าสาว เพิ่งพูดการคาดเดาของตนเองไป ผลปรากฏว่าเพิ่งพูดจบ ซ่านกวนจื่อจื้อก็มาแล้ว คาดไม่ถึงพูดเรื่องนี้เช่นกัน

หลี่จ้งไม่พูดอะไร ดวงตาที่แหลมคมคู่นั้น ในชั่วพริบตาตกอยู่บนตัวของผู้อาวุโสตระกูลหลี่คนนั้น ในสายตายังมีแรงอาฆาตระดับหนึ่ง

ผู้อาวุโสตระกูลหลี่เดิมเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่ง เกิดความรู้สึกต่อแรงอาฆาตได้แจ่มชัดมาก ชั่วขณะนั้นร้อนใจแล้ว “เหล่าจู่ ท่านคงไม่สงสัยว่า ผมเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซ่านกวนมั้งครับ?”

พูดคำนี้ออกมา คนอื่นๆ จึงมองทางผู้อาวุโสตระกูลหลี่ด้วยท่าทางตกใจ

หลี่เจียงสงเห็นแบบนี้ รีบบอกว่า “ท่านพ่อ น้องชายไม่อาจเป็นหมากที่ราชวงศ์ซ่านกวนแอบแฝงไว้ที่ตระกูลหลี่ของพวกเราเด็ดขาดครับ เขาติดตามอยู่ข้างตัวผมมาตั้งแต่เด็ก จุดนี้ผมยังมีความมั่นใจมากครับ”

ผู้อาวุโสตระกูลหลี่คือลูกพี่ลูกน้องของหลี่เจียงสง ชื่อหลี่เจียงหัว อายุน้อยกว่าหลี่เจียงสงเพียงสองปี แต่ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ยังใกล้ชิดอย่างมาก

เพียงแต่ หลี่เจียงหัวเพิ่งวิเคราะห์ว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินอาจจะเสียหายหมด ผลปรากฏว่าซ่านกวนจื่อจื้อก็รีบเข้ามาทันใด และพูดเรื่องที่วิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายเรื่องนี้เช่นกัน

นี่ทำให้หลี่จ้งสงสัย หลี่เจียงหัวคุกเข่าลงพื้นโดยตรง พูดแบบหน้าตาหวาดกลัวเต็มที่ “เหล่าจู่ครับ ผมขอสาบานต่อท่านว่า ผมกับราชวงศ์ซ่านกวน ไม่ได้ไปมาหาสู่ส่วนตัวใดๆ เด็ดขาดครับ ท่านได้โปรดเชื่อผมด้วย!”

หลี่จ้งพูดจาหน้าตาไร้อารมณ์ “ไม่ใช่ฉันอยากสงสัยนาย แต่ว่าจัดการหยางเฉินเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะนำหายนะใหญ่หลวงมาให้ตระกูลหลี่ ฉันต้องระวังเอาไว้”

หลี่เจียงหัวตาแดงก่ำพูดว่า “อย่างนั้นเหล่าจู่อยากจะทำอย่างไรครับ ถึงจะยอมเชื่อว่าผมไม่ได้หลอกท่าน?”

เวลานี้หลี่เจียงสงรีบพูดโน้มน้าวว่า “ท่านพ่อครับ เจียงหัวกับราชวงศ์ซ่านกวนต้องไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแน่ครับ”

หลังจากหลี่จ้งเงียบงันครู่หนึ่ง เอ่ยปากบอก “กักบริเวณเขาไว้ก่อน ยึดอุปกรณ์สื่อสารทุกอย่างของเขามา รอตรวจสอบเรื่องราวจนกระจ่าง ค่อยคืนอิสรภาพให้เขา”

หลี่เจียงสงรู้ว่า ไม่ว่าเขาพูดอะไรไป ล้วนไม่มีประโยชน์ แต่ดีที่หลี่จ้งไม่ได้อยากฆ่าหลี่เจียงหัวทิ้งทันที เพียงแค่กักบริเวณเอาไว้ชั่วคราว

ไม่นาน หลี่เจียงหัวถูกคนพอออกไปแล้ว หลี่จ้งไล่คนอื่นๆ ออกไปอีก เหลือเพียงหลี่เจียงสงไว้คนเดียว

“แกคิดว่า กษัตริย์ซ่านกวนส่งซ่านกวนจื่อจื้อมาหาฉัน และยังฝากมาบอกสถานการณ์ตอนนี้ของหยางเฉินด้วย หมายความว่าอะไร?” หลี่จ้งถามขึ้น

หลี่เจียงสงตอบ “ผมคิดว่า ราชวงศ์ซ่านกวนคงไม่แน่ใจเหมือนกันว่า วิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายหมดจริงหรือเปล่า น่าจะเป็นเพียงการคาดเดา เหมือนกับการคาดเดาของหลี่เจียงหัวครับ”

“กษัตริย์ซ่านกวนส่งซ่านกวนจื่อจื้อมาหาท่าน และบอกวิถีบู๊ของหยางเฉินโดนทำลาย แต่ยังครอบครองร่างกายผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์เรื่องนี้ บางทีคงอยากจะยืมมือของพวกเรา มาลองเชิงหยางเฉินครับ”

“โดยเฉพาะต่อให้พวกเรารู้ว่า นี่คือราชวงศ์ซ่านกวนกำลังยืมมือของพวกเราลองเชิงหยางเฉิน พวกเราก็ไม่มีทางปฏิเสธ เพราะตอนนี้ทุกอย่างพิสูจน์ชัดแจ้งแล้ว ความเป็นไปได้ที่วิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายชัดเจนมาก ส่วนแต่ละวันที่พวกเราเสียเปล่าไป ก็เท่ากับให้ความหวังในการฟื้นตัวแก่หยางเฉินวันหนึ่ง”

“ราชวงศ์ซ่านกวนไม่ได้ทำอะไรต่อหยางเฉิน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความสัมพันธ์ของหยางเฉินกับซ่านกวนโหรวขั้นนี้อยู่ ต่อให้ราชวงศ์กักบริเวณหยางเฉิน หลังจากหยางเฉินฟื้นตัว ก็คงไม่ทำอะไรต่อราชวงศ์”

“แต่ว่าพวกเราตระกูลหลี่ไม่เหมือนกันครับ ทรยศหยางเฉินแล้ว ยังพยายามจะฆ่าหยางเฉินอีก แม้กระทั่งยังอยากใช้คนข้างกายของหยางเฉินมาข่มขู่เขา”

“แค่เรื่องพวกนี้ หยางเฉินคงไม่ปล่อยพวกเราตระกูลหลี่ไปแน่ครับ”

ฟังคำพูดของหลี่เจียงสง หลี่จ้งพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นถามว่า “ผู้หญิงที่ชื่อว่าเฝิงเสียวหว่านคนนั้น ยังไม่มีเบาะแสอะไรเหรอ?”

หลี่เจียงสงส่ายหน้า เอ่ยปากตอบ “บางที น่าจะออกไปจากเมืองซ่านกวนแล้วครับ”

ตั้งแต่ครั้งก่อนที่พวกเขาคิดจะควบคุมตัวอ้ายหลินและเฝิงเสียวหว่านมาข่มขู่หยางเฉิน พวกเขาได้แอบตามร่องรอยของเฝิงเสียวหว่านมาโดยตลอด แต่ว่าเฝิงเสียวหว่านกลับเหมือนหายลับไปจากโลกนี้ ไม่เจอตัวแล้ว

หลี่จ้งขมวดคิ้วขึ้นมา ถ้าพวกเขาสามารถควบคุมเฝิงเสียวหว่านไว้ในมือได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรับขนาดตอนนี้แล้ว

หลังเงียบงันครู่หนึ่ง ในสายตาเขามีความคมกริบแวบผ่าน “แกพูดมาไม่ผิด แต่ละวันที่พวกเราเสียเวลาไป โอกาสที่หยางเฉินจะฟื้นสู่จุดสูงสุดยิ่งมากขึ้น ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นตอนนี้ แกก็พาคนไปราชวงศ์ซ่านกวนสักเที่ยว เอาตัวหยางเฉินกลับมาให้ฉัน”

หลี่เจียงสงตะลึงครู่หนึ่ง ถึงได้สติกลับมา พูดอย่างตกใจ “ท่านพ่อครับ เมื่อสักครู่ผมแค่วิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้เท่านั้นเอง แต่ว่าการวิเคราะห์ ไม่ได้แปลว่าคือความจริง ถ้าเกิดวิถีบู๊ของหยางเฉินไม่ได้ถูกทำลายล่ะครับ?”

“อีกอย่าง ราชวงศ์เพียงแค่ส่งซ่านกวนจื่อจื้อแอบมาติดต่อพวกเรา ถ้าพวกเราไปเอาตัวคนที่ราชวงศ์อย่างใช้อำนาจบาตรใหญ่ ก่อนหน้าที่ราชวงศ์ซ่านกวนยืนยันไม่ได้ว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายจริงหรือไม่ จะมอบตัวหยางเฉินให้พวกเราเหรอครับ?”

หลี่จ้งหัวเราะเยาะ จากนั้นบอกว่า “ออกมาเถอะ!”

หลังเขาเพิ่งพูดจบลง ภาพชายมีอายุคนหนึ่ง เดินออกมาจากผ้าม่านด้านหลังของหลี่จ้งในทันใด

ตอนที่หลี่เจียงสงมองเห็นคนนี้ ท่าทางอึ้งทึ่ง ตั้งนาน ถึงพูดแบบตื่นตกใจ “คุณคือพี่หลี่เจียงไห่!”

หลี่เจียงไห่หัวเราะเล็กน้อย “น้องชาย ไม่เจอกันนานเลย!”

หลี่เจียงไห่ ห้าสิบปีก่อน ผู้แข็งแกร่งทั้งเก้าแห่งตระกูลหลีที่หายตัวไปด้วยกันกับหลี่จ้ง ไม่ว่าอย่างไรหลี่เจียงสงคงนึกไม่ถึง ผ่านมาห้าสิบปี หลี่เจียงไห่จะปรากฏตัวขึ้น

เวลานี้ ทั่วทั้งตัวของหลี่เจียงไห่ ล้วนแพร่กระจายลักษณะพลังวิถีบู๊อันน่าสยองขวัญที่สุดส่วนหนึ่ง ไกลเกินกว่ากึ่งแดนเหนือมนุษย์ของหลี่เจียงสง จากจุดนี้เห็นได้ชัดว่า หลี่เจียงไห่ ปัจจุบันนี้ก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *