The King of Warบทที่ 2008 บริสุทธิ์ใจอย่างยิ่ง

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 2008 บริสุทธิ์ใจอย่างยิ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The king of War บทที่ 2008 บริสุทธิ์ใจอย่างยิ่ง
จนกระทั่งถึงวินาทีนี้ ลี่เฉินก็เข้าใจสักทีว่าหยางเฉินมีศักยภาพรับมือกับเจียงจ้านและไป๋หลี่เย่ได้พร้อมกันจริง ๆ

สีหน้าของไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านขาวซีดถึงขีดสุด พวกเขาใช้วิชาลับไปแล้ว แม้ศักยภาพยังบรรลุไม่ถึงแดนนภา แต่ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้การเสริมพลังจากวิชาลับ ศักยภาพของพวกเขาเข้าใกล้ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว

ต่อให้เป็นผู้แข็งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแท้จริง จากการที่พวกเขาร่วมมือกัน ก็สามารถโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย ๆ เช่นกัน เหมือนดั่งวิถีบู๊ของลี่เฉินที่บรรลุถึงแดนนภาแล้ว ก็ถูกพวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกันโค่นล้ม

แต่ทว่าวินาทีนี้กลับมีชายหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 30 ปี ปรากฏ เขายังไม่ได้ลงมือ เพียงออร่าบู๊ที่ปะทุออกมาจากตัว ก็ทำให้พวกเขาแบกรับแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่อย่างไร้ขีดจำกัดไม่ได้แล้ว

ไป๋หลี่เย่เอ่ยปากพูดอย่างกะทันหัน: “หยางเฉิน เจ้าอย่าเข้าใจผิดไปเอง! หากได้เข้าร่วมราชวงศ์ไป๋หลี่ นั่นเป็นเกียรติของเจ้าเชียวนะ และราชวงศ์ไป๋หลี่ที่สง่าผ่าเผย ก็มิใช่ราชวงศ์ที่เจ้าจะมีสิทธิ์ประกาศสงครามได้เช่นกัน”

เจียงจ้านก็พูดเช่นกันว่า: “หยางเฉิน กองกำลังในโลกบู๊โบราณไม่ได้จัดการง่ายอย่างที่เจ้าคิด ข้ายอมรับว่าศักยภาพของเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ผู้ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเจียงกลับไม่ได้มีเพียงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดพิจารณาดี ๆ การเข้าร่วมตระกูลเจียง มีเพียงจะส่งผลดีไร้ซึ่งผลร้ายต่อเจ้า!”

หยางเฉินหัวเราะเยาะ: “พวกเจ้าคิดว่าตระกูลของพวกเจ้าทั้งสอง มีสิทธิ์ให้ข้าเข้าร่วมหรือ? ในเมื่อข้าประกาศสงครามกับตระกูลทั้งสองของพวกเจ้า ย่อมมีการตัดสินใจแล้ว หากพวกเจ้าไสหัวไปบัดนี้ ยังมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ ถ้าหากอยากนำตัวเฝิงเสียวหว่านไป พวกเจ้าก็อยู่ในโลกมนุษย์ตลอดชีวิตเถอะ!”

ออร่าบู๊ที่อยู่บนตัวเขาแผ่กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งยอดเมฆาล้วนอยู่ในเขตแดนของเขา

ฆฆไม่สามารถต้านทานพลังอำนาจอันน่าเกรงขามในเขตแดนของหยางเฉิน ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสและเป็นลมคาที่ไปแล้ว

สีหน้าของไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านต่างตึงเครียด พวกเขาก็กำลังพิจารณาอยู่เช่นกันว่าจะทำอย่างไรกันแน่

ศักยภาพของหยางเฉินแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วแดนบูโดของเขาก็ยังไม่บรรลุถึงแดนนภา มีเพียงเนื้อหนังฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์ ส่วนพวกเขาทั้งสองคนนั้นใช้วิชาลับไปแล้ว หากร่วมมือกันต่อสู้กับหยางเฉิน ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสชนะเสมอไป

ในขณะที่ใบหน้าของไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านเปี่ยมล้นไปด้วยความกังวลและลังเลใจอยู่นั้น เฝิงเสียวหว่านก็มองไปทางลี่เฉินที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลใจแล้วถาม: “คุณปู่ลี่ พี่หยางจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ลี่เฉินอมยิ้ม: “วางใจเถิด สองคนนี้ยังทำอะไรพี่หยางของเจ้ามิได้หรอก เจ้าคอยดูอย่างสบายใจได้เลย ใช้เวลาไม่นาน เราก็จะพาเจ้าออกไปจากที่แห่งนี้เอง”

ถึงแม้ลี่เฉินจะพูดเช่นนี้แล้ว แต่หน้าตาของเฝิงเสียวหว่านก็ยังดูโศกเศร้าอยู่ดี

นางทราบอยู่ว่าไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านต่างมาจากโลกบู๊โบราณ และทราบเช่นกันว่าศักยภาพของพวกเขาแข็งแกร่งมาก ในส่วนของเรื่องที่ว่าหยางเฉินแข็งแกร่งถึงขั้นใดกันแน่นั้น นางไม่ทราบจริง ๆ

เหนือนภายอดเมฆาในวินาทีนี้ มีเมฆครึ้มกลิ้งม้วนไปมา สายฟ้าผ่าผ่านขอบฟ้าไปอย่างต่อเนื่อง เหมือนกำลังจะฉีกท้องฟ้าผืนนี้ให้ขาดยังไงอย่างนั้น

ลี่เฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาแท้จริง เมื่อครู่ในขณะที่ต่อสู้กับไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านอยู่นั้น สร้างความเสียหายให้กับม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณและโลกมนุษย์อย่างรุนแรง

บัดนี้ก็มีผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าแดนนภาอย่างหยางเฉินปรากฏอีกคนหนึ่ง หากทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีความเป็นไปได้สูงมากที่ม่านพลังจะฉีกขาด

มีรอยร้าวม่านพลังหนึ่งจุดปรากฏในภูเขามารแล้ว หากมีรอยร้าวม่านพลังปรากฏที่นี่อีก ผลลัพธ์ที่ตามมาจะรุนแรงมาก ๆ

แต่เห็นได้ชัดเจนเลยว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อโลกบู๊โบราณเท่านั้น สำหรับโลกมนุษย์แล้ว การที่ม่านพลังเสียหายนั้น จะทำให้ความเร็วในการฝึกตนของนักบูโดในโลกมนุษย์พุ่งรวด คนจำนวนมากต้องมีความสุขมาก ๆ แน่

จู่ ๆ หยางเฉินก็ยกมือขึ้นมา มองนาฬิกาบนข้อมือรอบหนึ่ง: “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งนาทีสุดท้าย เลือกระหว่างไสหัวไป หรือให้ข้าฆ่าพวกเจ้า!”

ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านก็ต่างรู้สึกกดดันขึ้นมากกว่าเดิม

ทั้งสองคนสบตากันครั้งหนึ่ง ต่างมองเห็นรังสีแห่งความตึงเครียดที่อยู่ในแววตาของกันและกัน

พวกเขาก็กังวลใจเช่นกัน หากร่วมมือต่อสู้กับหยางเฉินแล้วข่มหยางเฉินได้ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ถ้าหากข่มเขาไม่ได้ พวกเขาไม่เพียงจะถูกหยางเฉินฆ่า ม่านพลังของที่นี่ก็อาจจะฉีกขาดเพราะการต่อสู้ที่ดุเดือดของทั้งสองฝ่าย

ถึงครานั้น ชี่ทิพย์จำนวนมากในโลกบู๊โบราณก็จะไหลเข้ามาในเยี่ยนตูผ่านรอยแตกม่านพลัง และนี่จะเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกบู๊โบราณ

“หยางเฉิน เจ้าอย่าวู่วาม!”

ไป๋หลี่เย่พูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าโศก: “เจ้าต้องรู้ด้วยนะว่าทันทีที่ระหว่างเราปะทะกันอย่างรุนแรง ม่านพลังของที่นี่ต้องฉีกขาดแน่นอน ถึงครานั้นผลลัพธ์ที่ตามมาจะรุนแรงมากเพียงใด เจ้ารู้หรือไม่?”

หยางเฉินจ้องเขม็งไปทางไป๋หลี่เย่พลางกล่าว: “ข้าทราบแค่เพียงโลกบู๊โบราณได้แก่งแย่งชี่ทิพย์จากโลกมนุษย์ไป หากม่านพลังถูกทำลาย นักบูโดถึงจะบังเกิดมากยิ่งขึ้น และจะมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน”

ไป๋หลี่เย่รีบเอ่ยปากพูดว่า: “มันมิใช่อย่างนั้นเสมอไป! เจ้าทราบหรือไม่ว่า เหตุใดเหล่าผู้มีอิทธิพลเมื่อครั้นนั้นถึงต้องแบ่งโลกนี้เป็นโลกบู๊โบราณและโลกมนุษย์? เจ้าต้องคิดแน่นอนว่าเป็นเพราะคนเหล่านั้นอยากได้ทรัพยากรการบําเพ็ญเพียรที่มากกว่า เพราะฉะนั้นถึงได้นำชี่ทิพย์ทั้งหมดรวมตัวกันไว้ในโลกบู๊โบราณ”

หยางเฉินย้อนถาม: “แล้วไม่ใช่หรอกหรือ?”

ไป๋หลี่เย่ส่ายหน้า: “สาเหตุทั้งหมดไม่ใช่เพราะเรื่องนี้แต่อย่างใด นอกเหนือจากสาเหตุนี้แล้ว ยังมีสาเหตุหลักอีกสาเหตุหนึ่ง นั่นก็คือเพราะมีผู้แข็งแกร่งบูโดบางส่วน เมื่อคนเหล่านั้นแข็งแกร่งถึงระดับใดระดับหนึ่งที่สูงมาก ๆ แล้ว พวกเขาจะไม่สนใจความเป็นความตายของคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาจะฆ่าล้างผู้บริสุทธิ์โดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีนักบูโดบางส่วนที่บําเพ็ญวิชาชั่วร้าย ใช้เลือดของคนธรรมดามาบําเพ็ญเพียร มากกว่านั้นคือยังมีบางส่วนที่ใช้หัวใจเด็กมาบำเพ็ญเพียรอีกด้วย ถึงแม้จะมีการคงอยู่ของพันธมิตรพิทักษ์ แต่ก็ไม่สามารถจับกุมตัวคนชั่วทั้งหมดในโลกได้อยู่ดี”

“และเป็นเพราะไม่สามารถจัดการเรื่องราวการฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่เลือกปฏิบัตินี้ ทำให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านั้นแบ่งโลกออกเป็นส่วนเล็ก ๆ จนกลายเป็นโลกบู๊โบราณ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้จำนวนนักบูโดในโลกมนุษย์น้อยลง แต่ทว่าที่นี่กลับปลอดภัยกว่าโลกบู๊โบราณหลายเท่าตัวมาก”

“และผู้แข็งแกร่งที่บำเพ็ญเพียรถึงแดนนภาที่แท้จริงก็จะถูกนำตัวไปยังโลกบู๊โบราณเช่นกัน และเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานคงอยู่ในโลกมนุษย์ ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นการปกป้องรักษาโลกมนุษย์อย่างหนึ่ง”

“หากม่านพลังของทั้งสองโลกแตกสลายโดยสิ้นเชิง ถึงครานั้นโลกบู๊โบราณและโลกมนุษย์ก็จะรวมกันเป็นหนึ่งโดยสิ้นเชิง ชี่ทิพย์ในโลกมนุษย์ฟื้นฟูกลับคืนมาแล้วก็จริง แต่ทว่าอดีตผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊โบราณก็จะรวมเข้ามาในโลกมนุษย์อย่างสมบูรณ์ เจ้าเคยพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จะนำมาสู่โลกมนุษย์หรือไม่ว่ามันจะหนักหนามากเพียงใด?”

“สิ่งที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้อย่างแน่ชัดคือ ในโลกบู๊โบราณผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า ทุกคนในโลกบู๊โบราณล้วนคุ้นคุ้นเคยกับโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า หากปล่อยให้คนเหล่านั้นผสมรวมเข้ามาในโลกมนุษย์ ผลที่ตามมาจะหนักหนาสาหัสมาก!”

เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋หลี่เย่แล้ว หยางเฉินก็นิ่งเงียบไปในทันที

เขาไม่เคยคำนึงถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย บัดนี้เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋หลี่เย่แล้ว เขาถึงจะตระหนักได้ว่าหากม่านพลังแตกสลายโดยสิ้นเชิง มันจะสร้างปัญหาให้กับโลกมนุษย์มากเพียงใด

เหมือนดังที่ไป๋หลี่เย่กล่าวมา ผู้คนในโลกบู๊โบราณคุ้นเคยกับการที่ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้าตั้งนานแล้ว หากปล่อยให้พวกเขาผสมรวมเข้ามาในโลกมนุษย์ เช่นนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโลกมนุษย์ก็จะกลายเป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้าเช่นกัน

สุดท้ายแล้วมีเพียงผู้แข็งแกร่งชั้นยอดเท่านั้นที่มีสิทธิ์และอำนาจในโลกใบนี้ ส่วนชีวิตของมนุษย์ธรรมดาทั่วไปก็จะอนาถมาก ๆ

“เขาพูดถูก หากม่านพลังแตกสลายจริง ๆ สิ่งที่โลกบู๊โบราณสูญเสียมีเพียงชี่ทิพย์เท่านั้น ส่วนโลกมนุษย์นั้นจะสูญเสียเยอะมาก ๆ ซึ่งมันจะไม่ต่างอะไรจากมหันตภัยสำหรับผู้คนในโลกมนุษย์เลย”

เจียงจ้านก็เอ่ยปากพูดเช่นกันว่า: “หยางเฉิน ทางที่ดีเจ้าคิดพิจารณาให้ดีก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้งจะดีกว่า ข้าเชื้อเชิญเจ้าให้เข้าร่วมตระกูลเจียงด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *