World of Hidden Phoenixes 87.1

Now you are reading World of Hidden Phoenixes Chapter 87.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฮวาจูอวี้ และจี่เฟิงหลี่ ได้ปะทะกันมาสองสามรอบแล้ว นอกจากนี้เพื่อที่จะรู้จักเขามากขึ้น นางได้ส่งคนไปตรวจสอบเขาอย่างลับๆ ถ้าเขาเป็นเพียงคนธรรมดานางก็จะได้พบจุดอ่อนของเขา แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่ได้ค้นพบมันแม้แต่ข้อเดียว

พื้นหลังครอบครัวของเขาสะอาดและเรียบง่าย บิดาของเขาเป็นอาจารย์สอนสถาบันของราชสำนักและมารดาของเขาเป็นผู้หญิงที่ทำไร้ทำนา ทั้งสองตายไปแล้ว เมื่อจี่เฟิงหลี่ ได้สอบจอหงวนและผ่านกลายเป็นบัณฑิตตั้งแต่เด็กมีขุนนางเป็นจำนวนมากที่มาพร้อมกับเงินและผู้หญิง เพื่อประจบสอพลอเขา แต่เขาก็ยังคงไม่ไหวติง เมื่อถึงเวลาที่เขากลายเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้าย เขาก็ยังคงเป็นบุคคลที่ขาวสะอาดเหมือนเดิม เขาไม่แม้แต่จะนำอนุสักคนเข้ามาในจวนของเขา

เสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ไม่มีการผ่อนปรนแม้แต่เล็กน้อย ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวอยู่ลึก ๆ ภายในจิตใจของขุนนางคนอื่น ๆ

แต่คืนนี้ จี่เฟิงหลี่กำลังคลอเคลียอยู่กับหญิงนางโลม ต่อหน้าต่อตาของนางและแม้กระทั่งมองนางด้วยสายตาเช่นนั้นอีก ถ้ามีคนบอกว่านี่คือจุดอ่อนของเขา บางทีคนอื่นอาจจะเชื่อ แต่ฮวาจูอวี้ไม่อาจลืมความรังเกียจที่มีอยู่ในดวงตาของเขาเมื่อเขาพูดคำว่าตัดแขนเสื้อขึ้นได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีทางที่เขาจะเป็นหนึ่งในคนพวกนั้น นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีความชอบพอต่อนาง

มีเหตุผลพอสมควรที่จะบอกว่าหลังจากที่ได้พูดคุยกับเขาหลายครั้งและได้สอบสวนเขาอย่างลับๆแล้ว นางก็ควรจะรู้จักเขาดีขึ้นในขณะนี้ แต่ฮวาจูอวี้ยังไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้ กับฝ่ายตรงข้ามที่มีตัวตนที่ไม่สามารถอ่านได้ นางรู้สึกว่าติดอยู่ในสถานะของการตั้งรับเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามมันไม่ได้อยู่ในธรรมชาติของนางที่จะถูกจูงจมูกโดยคนอื่น

นางแสร้งยิ้มและพูดขึ้น “ท่านเสนาจี่ ช่างรู้วิธีที่จะล้อเล่นจริงๆ ท่านเสนาจี่จะสามารถมาสนใจผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้ได้อย่างไร ถ้าท่านเสนาจี่ สนใจในตัวผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้อย่างแท้จริง แล้วเหตุใดท่านถึงได้แสดงความสนใจต่อแม่นางหยู หยวนต่อหน้าข้าผู้น้อยเช่นนี้เล่า ”

จี่เฟิงหลี่ ไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขาหัวเราะอย่างรื่นเริงและชี้ไปที่ฮวาจูอวี้ ก่อนจะพูดขึ้น “เขาโกรธ!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความสุขที่เกินจะพูดออกมาได้

ฮวาจูอวี้ถึงกับตัวสั่นเทา แทบทะลุขนลุกขึ้นในทันที

“ถ้า อาหยวน ไม่มีอะไรจะหารืออีก ข้าคงจะต้องขอตัว!” จี่เฟิงหลี่ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบางเบา ในขณะที่เขายืนขึ้น

“ท่านเสนาจี่ หยู หยวน มีข่าวที่จะรายงาน เมื่อคืน … . “หยู หยวนก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับยืนด้วยปลายเท้าของนาง ก่อนจะกระซิบคำไม่กี่คำในหูของเขา ฮวาจูอวี้ ยืนอยู่ห่างเกินไปจึงได้ยินเพียงคำพูดอย่าง เสนาเนียและขุนนางคนอื่น ๆ เห็นได้ชัดว่าผู้ชายจากจวนตระกูลเนีย ก็มาเยี่ยมหอนางโลมแห่งนี้ และเมื่ออยู่ในอาการมึนเมา หยู หยวน คงจะประสบความสำเร็จในการจับหาข้อมูลบางอย่าง

จี่เฟิงหลี่ ฟังอย่างเงียบ ๆ ดวงตาหงส์ของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะกระพริบด้วยแสงสว่างขึ้นภายในห้องที่มีแสงสลัวๆ เมื่อพูดจบหยู หยวน ก็มองเขาด้วยท่าทางไม่เต็มใจ ไม่เต็มใจที่จะปล่อยเขาไป แล้วนางก็พูดขึ้น “ถ้าท่านเสนาจี่ ไม่สามารถให้ช่วงเวลาแห่งความอ่อนโยนกับหยู หยวนได้ อย่างน้อยท่านก็น่าจะให้ข้าได้จูบท่าน?”

จี่เฟิงหลี่ เอียงศีรษะลงเล็กน้อยและหยู หยวน ก็จูบลงไปที่มุมของริมฝีปากของเขา เขายกมือขึ้นเพื่อจับแก้มของนางและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อาหยวน ข้าทำให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน เมื่อไหร่ที่เจ้ารู้สึกเบื่อที่จะทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้จะช่วยหาสามีที่ดีให้กับเจ้า ข้าต้องไปแล้ว”

คนสามคนเดินผ่านประตูหลังและขึ้นรถม้าออกไป ฮวาจูอวี้ นั่งอยู่ด้านหนึ่งของรถม้าและจี่เฟิงหลี่ก็นั่งอยู่อีกด้าน ถงโจวถูกทิ้งให้เป็นคนถือบังเหียนรถม้า

ในเวลานี้ จี่เฟิงหลี่ ไม่ได้อยู่ในท่าทางที่อ่อนโยน แต่ดูเหมือนจะเหน็ดเหนื่อย ฮวาจูอวี้ รู้สึกสงสัย เห็นได้ชัดว่าจี่เฟิงหลี่ ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเขาถึงดูเหนื่อยเช่นนี้

ถงโจว ยกม่านรถม้าขึ้นและมองเข้าไปด้านใน เขาถามด้วยเสียงต่ำ ๆ ขึ้น “ท่านเสนาจี่ หยู หยวนคนนี้ .. ” จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ฮวาจูอวี้

จี่เฟิงหลี่ที่นั่งเอนกายลงไปบนที่นั่งในรถม้า  กำลังนวดหน้าผากของเขา เมื่อมองไปที่ฮวาจูอวี้ เขาก็ยิ้มและพูดขึ้น “ถ้าเจ้ามีเรื่องที่จะพูดก็ให้พูด ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับเป่าเอ้อร์! ”

ฮวาจูอวี้ขมวดคิ้วขึ้นทันที จี่เฟิงหลี่กำลังพูดถึงนางอย่างสนิทสนมราวกับว่านางเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาจริงๆ!

“หยู หยวนเริ่มมีความกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถเก็บไว้ได้!” ถงโจวพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ

“ไม่จำเป็น เรายังคงต้องการความช่วยเหลือจากนางในการเผยแพร่ข่าวออกไป นอกจากนี้ก็ไม่คุ้มค่ากับการที่เราจะต้องลงมือ! “จี่เฟิงหลี่พูดขึ้นเบา ๆ อย่างไม่รีบร้อน

หัวคิ้วของฮวาจูอวี้ขมวดขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเปลือกนอกหยู หยวนผู้นี้กำลังแสดงละครเพื่อจี่เฟิงหลี่ แต่ที่จริงแล้วก็คือเบี้ยของคนอื่น

นางเชื่อว่าข่าวที่จี่เฟิงหลี่ หมายถึงต้องเกี่ยวข้องกับนาง ดังนั้นนางจึงถามขึ้น “จี่เฟิงหลี่ สุดท้ายแล้วท่านต้องการจะทำอะไรกันแน่?”

จี่เฟิงหลี่ ไม่ตอบ แต่กลับยิ้มขึ้นแทน “ข้าเหนื่อยและจะงีบหลับ สิ่งที่ต้องพูดก็เอาไว้พูดคุยในภายหลัง ” พูดเสร็จแล้วเขาก็เอนตัวลงไปบนที่นอน ก่อนจะหลับตาลง หลังจากครู่หนึ่ง เขาก็ดูเหมือนจะหลับไปอย่างรวดเร็ว เส้นผมสองสามเส้นตกลงมาบนหน้าผากของเขา ปกคลุมใบหน้าที่งดงามครึ่งหนึ่งของเขาเอาไว้ หัวคิ้วที่เผยออกมาของเขาดูเรียบเนียนและขนตาที่ราวกับน้ำหมึกที่ยาวและหนาของเขาทำให้เกิดเป็นเงารางๆ ลงไปบนใบหน้าของเขา

เมื่อตระหนักถึงผิวของจี่เฟิงหลี่ ค่อนข้างซีด นางก็ไม่สามารถช่วยได้ที่จะรู้สึกงงงงวย เขาสบายดีก่อนหน้านี้ ดังนั้นทำไมจู่ๆ เขาถึงได้อ่อนล้าขึ้นมาเช่นนี้?

ระหว่างการเดินทางกลับ ฮวาจูอวี้ ก็หายเข้าไปในความคิดของตัวเองขณะที่จี่เฟิงหลี่ ก็หลับตลอดทาง ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาเมื่อพวกเขากลับมายังจวนแล้วเท่านั้น

“ท่านเสนาจี่ ท่านหลับเป็นอย่างไรบ้าง? ทำไมท่านถึงได้ดูเหนื่อยมากก่อนหน้านี้? “ฮวาจูอวี้ยิ้มขึ้นเล็กน้อย นางต้องการให้เขาอธิบายเหตุผลที่นางอยากรู้

จี่เฟิงหลี่เหลือบมองไปที่อวาจูอวี้และพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าขึ้น “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เป่าเอ้อร์เริ่มเป็นกังวลเกี่ยวกับข้า? คงไม่ใช่ว่าเป่าเอ้อร์สนใจในตัวข้า และต้องการจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวผู้ของข้าหรอกนะ? “

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด