คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 295 เรือล่มในคลองระบายน้ำ

Now you are reading คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า Chapter 295 เรือล่มในคลองระบายน้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 295 เรือล่มในคลองระบายน้ำ

ฉินหลิวซีก้มศีรษะลงมองดู

ปรากฏว่าเป็นเซียวชิงหัน ไม่รู้ว่าฟื้นตั้งแต่เมื่อใด มือซีดขาวพยายามดึงชายเสื้อของนาง กล่าวออกมาสี่พยางค์อย่างอ่อนแรง “อย่าทำร้ายนาง”

หลังจากกล่าวจบมือของนางก็ตกลงอย่างอ่อนแรง ค่อยๆ นอนราบไปกับพื้น มองไปยังฝูเซิงที่อยู่ไม่ไกลซึ่งมีเลือดไหลออกมาจากตาอาบแก้มทั้งสองข้าง น้ำตาไหลออกมา ริมฝีปากขยับ เรียกชื่อฝูเซิง สายตาเศร้าสร้อยและเจ็บปวด

ฝูเซิงในใจรู้สึกโศกเศร้า “หันเอ๋อร์”

นางกลับมามีรูปร่างหน้าตาที่งดงามดั่งบุรุษผู้กล้าหาญอีกครั้ง จับที่ใบหน้า “ข้าทำให้เจ้าตกใจหรือไม่”

เซียวชิงหันหลั่งน้ำตา พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว เพียงแต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง

“ฝูเซิง หากเจ้ากลายเป็นผีร้าย ข้าไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้” ฉินหลิวซีกล่าวอย่างเย็นชาเมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองคน

โดยเฉพาะนางที่มีพลังพุทธะในตัว เมื่อสร้างปัญหา ผู้คนก็จะเดือดร้อน

ฝูเซิงมองฉินหลิวซีด้วยความโกรธแค้น “เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเขา”

ฉินหลิวซีชี้ไปยังเซียวชิงหันพลางเอ่ย “เจ้าดูสภาพนางในตอนนี้ หากยังคงคิดเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”

ฝูเซิงตัวแข็งทื่อ มองไปยังเซียวชิงหัน

เซียวชิงหันก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกครอบงำมาเป็นเวลานานแล้วหรือไม่ จิตวิญญาณไม่มั่นคง ใบหน้าไม่มีเลือดฝาด นอนราบอยู่บนพื้น ราวกับสูญเสียชีวิตชีวาและพลังชีวิตไปจนหมดสิ้น

ฝูเซิงละสายตาด้วยความรู้สึกรันทดเล็กน้อย นึกถึงเมื่อสองเดือนก่อนที่เซียวชิงหันมองนางด้วยสายตาชื่นชมและหลงใหล ตอนนั้นแก้มของนางแดงระเรื่อ เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

แต่เซียวชิงหันในตอนนี้กลับเหมือนคนใกล้จะตาย

ทั้งหมดเป็นเพราะนาง

ฝูเซิงรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย

หลังจากที่นางถูกฆ่าตายอย่างทรมานแล้วถูกลากไปยังสุสานร้าง นางยังพอมีลมหายใจเหลืออยู่เฮือกหนึ่ง จนกระทั่งมีสุนัขจรจัดจะมากัดกินร่างกายของนาง นางก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ในใจมีความยึดติด ทันทีที่วิญญาณออกจากร่างก็กลับมาอยู่ข้างกายเซียวชิงหันทันที อาศัยโอกาสตอนที่นางอ่อนแอเข้าสิงร่างของนาง กลายเป็นสองวิญญาณในร่างเดียว

แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการทำร้ายเซียวชิงหัน โนเวลพีดีเอฟ

ฝูเซิงมองไปยังเซียวชิงหันที่ลมหายใจรวยริน ในใจรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ

นางมาอยู่ตรงหน้าเซียวชิงหัน เอื้อมมือออกมาอยากจะสัมผัสใบหน้าของเซียวชิงหัน แต่ก็รู้สึกว่าเซียวชิงหันบอบบางราวกับเต้าหู้ที่อ่อนนุ่ม เพียงแค่สัมผัสก็สลายไป

แต่เซียวชิงหันกลับพยายามที่จะเข้าไปหานาง เอาใบหน้าไปแตะกับมือของนาง ยกริมฝีปาก แต่สุดท้ายก็ต้านความอ่อนแอไม่ไหว เอียงศีรษะแล้วหมดสติไปในที่สุด

“หันเอ๋อร์” ฝูเซิงร้องด้วยความตกใจ เรียกฉินหลิวซี “เจ้ารีบช่วยนางเร็วเข้า”

ฉินหลิวซียังคงนิ่งเฉย “เจ้ายังไม่ได้ให้คำตอบข้าเลย”

นางกำลังเดิมพันว่าฝูเซิงมีความรู้สึกให้กับเซียวชิงหันมากเพียงใด

ฝูเซิงโกรธมาก เอ่ย “นักพรตอย่างพวกเจ้าก็เป็นเช่นนี้ แสร้งทำเป็นเมตตามีคุณธรรม บอกว่าทำเพื่อราษฎรในใต้หล้า แต่กลับทรมานผู้ที่มีความทุกข์มากที่สุด”

ไม่ว่านางจะว่ากล่าวอย่างไร ฉินหลิวซีก็ยังคงไม่สะทกสะท้าน

เมื่อฝูเซิงเห็นว่าเซียวชิงหันหายใจรวยรินจึงไม่กล้าล่าช้า กัดฟันดึงบางสิ่งออกมาจากร่างของนาง

ฉินหลิวซีรับมาตามสัญชาตญาณ เมื่อก้มลงมองดู รูม่านตาก็หดลงเล็กน้อย นี่เป็นกระดูกที่ขาวสะอาด ราวกับกระดูกนิ้ว

สิ่งที่ทำให้นางตกใจไม่ใช่กระดูกที่ขาวสะอาดนี้ แต่เป็นที่มาของมัน กระดูกนั้นเปล่งประกายเรืองแสงซึ่งแฝงไว้ด้วยพลังพุทธานุภาพ

มือของฉินหลิวซีร้อนเล็กน้อย กระดูกข้อนิ้วที่อยู่ในมือของนางราวกับพยายามจะหลุดพ้นเป็นอิสระ พลังวิญญาณของนางยุ่งเหยิงเล็กน้อย หน้าอกของนางรู้สึกปั่นป่วนอย่างอธิบายไม่ถูก

ฉินหลิวซีกัดที่ปลายลิ้น หลังจากที่ได้ลิ้มรสคาวเลือดที่ออกมาจากปลายลิ้น แท่นวิญญาณของนางก็กลับมามั่นคงอีกครั้ง นางรีบร่ายคาถาสองบทที่กระดูกนิ้วทันที จากนั้นก็ห่อด้วยผ้ายันต์ปิดผนึก

กระดูกนิ้วพลังพุทธะ เป็นกระดูกของพุทธะท่านไหน

ฉินหลิวซีมองดูกระดูกนิ้วที่ถูกห่อด้วยผ้ายันต์อย่างพิจารณา

“ของก็ให้เจ้าไปแล้ว ยังไม่ช่วยนางอีก” ฝูเซิงกล่าวเสียงดัง

ฉินหลิวซีเหลือบมองนาง “ข้ายังไม่ได้เอาความที่เจ้าใช้สิ่งนี้โจมตีข้า”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“เจ้ามาโจมตีข้าได้ แต่ไม่อนุญาตให้ข้าตอบโต้กลับหรือ” ฝูเซิงแสยะยิ้ม

ฉินหลิวซี “เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร”

“ข้าไม่รู้ ข้าถูกลากไปทิ้งไว้ที่สุสานร้าง หลังจากตายก็ถูกสุนัขจรจัดตัวหนึ่งแทะกินร่างกายข้า ตอนที่วิญญาณออกจากร่างข้าโกรธมาก จึงคว้าสิ่งนี้ไปทิ่มตามัน” ฝูเซิงกล่าวอีกว่า “ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากไหน เมื่อข้าถือไว้ก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณมั่นคง พลังวิญญาณแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงพกติดตัวไปด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้ เจ้ารีบช่วยนางก่อน”

“ไม่ต้องกังวล นางไม่ตายหรอก” เมื่อฉินหลิวซีเอ่ยจบก็ก้มลงอุ้มเซียวชิงหันเข้าไปในห้อง ฝูเซิงรีบตามไป

หลังจากวางเซียวชิงหันไว้บนเตียง ฉินหลิวซีก็หยิบเข็มบนตัวนางขึ้นมา อาศัยโอกาสที่นางกำลังหลับทำการฝังเข็มใหม่อีกครั้ง

“เจ้าทำอะไร ข้าออกมาจากร่างของนางแล้ว เจ้ายังต้องฝังเข็มอีกหรือ” ฝูเซิงรีบกล่าวห้ามฉินหลิวซี

ฉินหลิวซีกลอกตา “หากไม่เข้าใจก็อย่าพูดมาก นางถูกเจ้าเข้าสิงมาเป็นเวลานาน ตอนนี้ไม่เพียงจิตวิญญาณไม่มั่นคง ซ้ำหยินกับหยางในร่างกายของนางก็ไม่สมดุลกันอย่างรุนแรง พลังหยินของนางผกผัน หากข้าไม่ฝังเข็มเพื่อนำทางพลังหยางให้นาง นางจะยังมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหนกัน”

เมื่อฝูเซิงได้ยินดังนั้นก็ถอยออกไปอยู่ด้านข้าง จ้องมองตาไม่กะพริบ หากนักพรตน้อยผู้นี้กล้าทำสิ่งชั่วร้าย ต่อให้นางต้องวิญญาณแตกสลายก็จะต่อสู้อย่างถึงที่สุดให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

“ไม่จำเป็นต้องด่าข้าในใจ ในเมื่อข้าตอบรับมาที่นี่ตามคำเชิญของตระกูลเซียวแล้ว ย่อมต้องช่วยคน ไม่ได้มาเพื่อฆ่า ไม่มีทางทำอะไรนางแน่นอน” ฉินหลิวซีฝังเข็มอย่างมั่นคงพลางเอ่ย “มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการทำลายชื่อเสียงของข้าเองหรือ”

ฝูเซิงเม้มริมฝีปากแล้วจึงเอ่ย “เจ้าด่ามาเลยก็ได้ว่าข้าเป็นคนถ่อย”

ฉินหลิวซีหันไปเหลือบมอง “นับว่าเจ้ารู้ตัวดี”

ฝูเซิงเขม่นตาใส่นาง

หลังจากที่ฉินหลิวซีฝังเข็มให้เซียวชิงหันเสร็จแล้วก็ดึงเข็มออกทั้งหมด มีเม็ดเหงื่อเกาะบนหน้าผากของนาง ก่อนหน้านี้ถูกโจมตีด้วยพลังพุทธะที่ฝูเซิงเก็บกลับมา การไหลเวียนของพลังชี่จึงยุ่งเหยิงเล็กน้อย ตอนนี้สีหน้าซีดขาวไม่ปกติ

ตอนนางลุกขึ้น ร่างกายก็โอนเอนเล็กน้อย คว้าเสาเตียงพยุงตัวเองไว้แล้วหลับตาลง

นางกดกระดูกพุทธะที่อยู่ตรงเอวพลางกัดฟัน ในใจคิดว่า ‘คราวนี้ถือว่าเรือล่มในคลองระบายน้ำ[1]โชคดีที่ไม่พลิกจนจมลงหมด มิเช่นนั้นคงสูญเสียเงินมากมาย’

หลังคาทองคำไม่ได้หาได้ง่ายๆ

เมื่อฝูเซิงเห็นว่าฉินหลิวซีเอาเข็มออกแล้วจึงมาอยู่ตรงหน้าเตียง เห็นว่าใบหน้าของเซียวชิงหันไม่ได้ซีดขาวเหมือนเมื่อก่อน เริ่มมีแรงหายใจขึ้นมา ก็อดถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้

นักพรตน้อยผู้นี้นับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง

ฝูเซิงหันไปมองฉินหลิวซี เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าซีดจึงเอ่ยถามว่า “เจ้ายังสบายดีอยู่หรือไม่”

“เจ้าเห็นข้าสภาพเช่นนี้ดูเหมือนคนสบายดีหรือ” ฉินหลิวซีไม่มีอารมณ์จะตอบ

ฝูเซิงลองถามนางว่า “เป็นเพราะสิ่งนั้นทำร้ายเจ้าหรือ มันคืออะไรกัน”

“เจ้าไม่รู้แล้วท่องคัมภีร์พระพุทธได้อย่างไร ซ้ำยังบอกให้วางดาบลงแล้วกลายเป็นพุทธะ?” ฉินหลิวซีถามกลับ

ฝูเซิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “ข้าก็ไม่รู้ ทุกอย่างผุดขึ้นมาในหัวเอง สรุปแล้วนี่เป็นของศาสนาพุทธหรือ”

“หากข้าเดาไม่ผิด นี่คือกระดูกพุทธะ”

“กระดูกของพุทธะหรือ มิน่าล่ะที่ข้ารู้สึกสงบเมื่อถือมัน แต่ก็แปลก ยิ่งข้าถือสิ่งนี้ไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเอง เหมือนถูกอะไรบางอย่างยั่วยุ” ฝูเซิงมองไปยังเซียวชิงหันพลางเอ่ย “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนาง ข้าแค่…ช่างเถิด ต่อให้พูดมากแค่ไหน เจ้าก็คงคิดว่าข้ากำลังหาข้อแก้ตัวสำหรับบาปที่ตัวเองทำ อย่างไรเสียพุทธศาสนาก็ยึดหลักความมีเมตตา”

ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “พุทธศาสนายึดหลักความมีเมตตานั้นเป็นเรื่องจริง แต่มีการฝึกฝนพุทธศาสนาบางนิกายที่ไม่มีความเมตตาแต่กลับเป็นความชั่วร้าย ข้าเชื่อเจ้า!”

[1] เรือล่มในคลองระบายน้ำ หมายถึงอย่าประมาทเลินเล่อในที่ที่รู้จักดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด