ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1089 คนตายตะเกียงไม่ดับ พันปีผ่านยังลี้ลับ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1089 คนตายตะเกียงไม่ดับ พันปีผ่านยังลี้ลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิไร้จำกัดพูดพลางมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอทราบความหมายของเขา จึงส่ายหน้ากล่าวว่า “ยังไม่แน่ว่าจะเป็นราชันพระจันทร์หรือไม่ สำนักเราไม่ได้รู้จักราชันพระจันทร์ดีนัก เพียงรู้ว่านางเคยลงไปยังโลกแปดพิภพ แล้วทิ้งมงกุฎจันทราเอาไว้”

บัดนี้จักรพรรดิไร้จำกัดพยักหน้า ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปด้านในตำหนักหลัง

เปลวเพลิงหลายชั้นสลาย เงาแสงกลุ่มหนึ่งเดี๋ยวปรากฏ เดี๋ยวดำมืด คล้ายจริง คล้ายลวงกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านในความว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองไป ในเงาแสงนั้นมีดวงไฟสีดำจุดหนึ่ง มองไปอ่อนกำลังยิ่ง มันส่ายไหวไม่หยุด เหมือนกับพร้อมจะดับได้ทุกเวลา ทว่ากลับมีปราณมารที่ยิ่งใหญ่กระเพื่อมออกมาจากด้านใน เพียงแต่ไม่อาจลุกโหมได้อีกตลอดกาล

นั่นเป็นจักรพรรดิในหมู่มารตนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมของที่แห่งนี้ และเคยสร้างควงามปั่นปั่นไปทั่วฟ้าดิน

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกทำลายโดยสมบูรณ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมารมักจะไม่ตาย หลังจากสูญสลายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็จะคืนชีพขึ้นในนพยมโลก

ทว่าการคืนชีพของจักรพรรดิมารในนพยมโลกที่อยู่ตรงหน้ากลับถูกคนสะกดไว้ หลายพันปีมานี้ยากจะฟื้นคืนชีพ อยู่ในสภาวะดับสูญตลอดกาล

‘จอมมารที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน ยากจะถูกสังหารโดยสมบูรณ์ ศรทำลายมารยังทำอะไรพวกมันไม่ได้ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือจอมมารที่เทียบได้กับเซียนจริงแท้สำนักเต๋าเลย’

เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา ‘สามารถสะกดจักรพรรดิในหมู่มารเช่นนี้ไม่ให้คืนชีพขึ้นมาได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ’

เขาสำรวจดูอย่างละเอียด เห็นรอบๆ ดวงเพลิงขนาดเล็กสีดำนั้นเหมือนกับถูกครอบคลุมไว้ด้วยความมืดไร้สิ้นสุดชั้นหนึ่ง มันทำลายและกลืนกินแสงและความร้อนของดวงเพลิง ทำให้มันไม่อาจโหมกระพือขึ้นมาได้ตลอดกาล

พอสัมผัสได้ถึงความมืดที่กลืนฟ้ากินตะวันนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็กระแอมเสียงเบา

‘พลังแห่งการกัดกร่อน ราหู!’

จิตพลังชนิดนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นพลังแห่งดาวราหู ดาวคู่ตรงข้ามของดวงอาทิตย์นั่นเอง!

สถานะของคนที่สังหารจอมมารของที่นี่ อีกทั้งยังได้สะกดไม่ให้มันเกิดใหม่ ผุดขึ้นมาทันที

จักรพรรดิไร้จำกัดกับจักรพรรดิแพรสบตากัน ต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ราชันพระราหู?”

ราชันพระราหู หนึ่งในเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ได้รับการกล่าวขานเหมือนกษัตริย์ดิน กษัตริย์เร้นลับ และราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง เป็นยอดฝีมือที่มีตำแหน่งสำคัญในประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรืองของสำนักเต๋าหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่

จักรพรรดิแพรมองเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวอย่างใคร่ครวญว่า “ได้ยินสหายร่วมเส้นทางเฉาแห่งอาคเนย์กล่าวว่า สำนักของเจ้าคล้ายมีของวิเศษอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับราชันพระราหู อีกทั้งสหายน้อยเฟิงผู้นี้ยังครอบครองอยู่ด้วยใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่ดาบราหู” เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างตรงไปตรงมา “แต่เป็นคราบหลังจากดาบราหูถูกทำลาย เป็นดาบเล่มใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น จะบอกว่าเกี่ยวข้องกับราชัพระราหูก็ไม่ถือว่าผิด แต่เกี่ยวข้องขนาดไหนข้ายังไม่แน่ใจ”

เขามองความมืดที่สะกดดวงเพลิงตรงหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่ “ดูจากตอนนี้แล้ว ความเกี่ยวข้องน่าจะมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า”

จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิไร้จำกัดพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนที่จักรพรรดิแพรจะยื่นนิ้วออกมาทิ่มใส่เงาแสงกลุ่มนั้นเบาๆ

เงาแสงสั่นไหวเล็กน้อย ดวงเพลิงสีดำงยังคงอ่อนแรง แต่ว่าความมืดที่ดูน่ากลัวนั้นก็เกิดการกระเพื่อมเหมือนกับคลื่นน้ำ

กลิ่นอายแห่งความมืดกลายเป็นควันมารเพลิงทมิฬที่ไร้สิ้นสุด แสงทมิฬที่น่าสยดสยอง ดุร้ายหมายขวัญยิ่งกว่าเปลวไฟที่กอปรกันเป็นตำหนักรอบๆ

ในควันมารเพลิงทมิฬค่อยๆ ปรากฏเงาคนสายหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการผนึกตัวของญาณจริงแท้วรยุทธ์ที่อยู่ด้านใน

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองไป เขาเห็นสตรีในอาภรณ์สีขาว ไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู คนไม่อาจกล่าวว่างามหมดจด ทว่าองคาพยายพเป็นเหลี่ยมเป็นมุมชัดเจน

ทั่วร่างของนางปล่อยกลิ่นอายที่ดุร้ายน่ากลัวสายหนึ่งออกมา สายแต่แน่วแน่ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ถึงแม้จะเป็นเงาแสงที่เหลือร่องรอยไว้ ทว่าเมื่อปราณอันน่าสะพรึงพุ่งมาปะทะหน้า ก็กลับทำให้ผู้คนจิตใจเย็นเยียบ

ตอนไปเยือนเขานครหยกแห่งยอดเขาเป่ยเกาในเขาคุนหลุนเมื่อก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอได้ข้อมูลมาจากที่นั่นไม่น้อย

รูปร่างหน้าตาของเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่ รวมถึงปู่ของตน เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นภาพเหมือนมาแล้ว

เงาคนที่อยู่ตรงหน้า ก็คือราชันพระราหู หนึ่งในเก้านพเคราะห์เมื่อตอนนั้น เจี่ยนซุ่นหัว

นางเป็นยอดฝีมือแห่งเก้านพเคราะห์ที่ถูกยืนยันว่าได้เสียชีวิตไปแล้วเหมือนกับราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง ตอนยังมีชีวิตอยู่ได้ทิ้งตำนานไว้นับไม่ถ้วน ขึ้นชื่อในเรื่องจิตใจที่แน่วแน่กล้าแกร่ง

“ราชันพระราหูเสียชีวิตก่อนราชันพระศุกร์ปู่ของเรา” เยี่ยนจ้าวเกอมองดูตำหนักมารเปลวเพลิงตรงหน้า “ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นผลการต่อสู้ที่นางเหลือไว้ในตอนนั้น เพียงแต่ว่า…”

เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้ว “รู้สึกไม่ได้รวบรัดขนาดนั้น”

จักรพรรดิไร้จำกัดมองเงาแสงของราชันพระราหู สัมผัสได้ว่าเงาเหมือนที่ไร้ความนึกคิดนั้นสบตากับตนโดยไม่ถอยหนี

เขาสัมผัสสภาพแวดล้อมของที่นี่อย่างละเอียด ครู่ต่อมาก็โพล่งว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างใคร่ครวญ “ที่นี่คล้ายกับมีพิธีกรรมบางอย่าง ตอนนี้มันได้สลายไปแล้ว แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้”

จักรพรรดิแพรที่อยู่ด้านข้างสำรวจครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นฝ่ามือออกมา ใช้พลังฝ่ามือดูดกลืน ที่นี่พลันเกิดเพลิงมารความมืด

ควันมารเพลิงทมิฬจับตัวกัน เกิดเป็นยันต์อาคมที่มีอักขระมากมาย

ขณะมองดูลวดลายอาคมเหล่านั้น สายตาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอสายตาก็พลันคมกริบ

“เหอะๆ…” จักรพรรดิแพรหัวเราะเสียงเบา “ที่แท้ ที่นี่เป็นแผนการที่เตรียมไว้สำหรับการคืนชีพให้แก่ตัวเองของราชันพระราหู”

จักรพรรดิไร้จำกัดส่ายหน้าอย่างแช่มช้า “นางคิดอาศัยการคืนชีพของมารแห่งนพยมโลก เพื่อทำให้การคืนชีพของตัวเองสมบูรณ์หรือ นี่ออกจะ…”

สุดท้ายก็ยังเป็นผู้อาวุโสสำนักเต๋า ตอนนี้จักรพรรดิไร้จำกัดไม่คิดจะกล่าวล่วงเกิน

แต่เยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิแพรเข้าใจความคิดในใจของเขาดี

ราชันพระราหูกำลังเล่นกับไฟ!

แผนการของนาง ยังไม่เอ่ยถึงว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต่อให้ทำสำเร็จ หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมกลายเป็นมาร!

และสิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือ เพื่อความสำเร็จ นางได้สนใจหรือไม่ว่าตนเองจะกลายเป็นมาร

บางทีนี่อาจเป็นแผนการที่เตรียมไว้ หากไม่ได้ใช้ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทว่าราชันพระราหูเสียชีวิตไปเมื่อสองพันกว่าปีก่อนแล้ว

“ตามนิสัยของราชันพระราหูในเรื่องเล่า เกรงว่านางจะยินดีคว้าโอกาสในการกลายเป็นมารเพื่อแลกเปลี่ยนกับการคืนชีพ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “กลัวว่านางจะเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป”

เขาศึกษาลวดลายแสงความมืดเหล่านั้นอย่างละเอียด พึมพำว่า “รู้สึกว่าพิธีกรรมนี้จะไม่ใช่แค่ศึกษาโอกาสในการเกิดใหม่ คล้ายยังมีผลอย่างอื่น…”

“นางไม่เพียงแต่วางแผนคืนชีพหลังการตายไว้เท่านั้น ยังคิดจะอาศัยโอกาสคืนชีพ เพื่อแย่งชิงความลี้ลับในพลังและอำนาจของจอมมารบางตน!” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในหัวปรากฎความคิดหนึ่งขึ้น

จักรพรรดิไร้จำกัดได้ยินดังนั้น สีหน้าก็แปรเปลี่ยนแล้วเช่นกัน

นี่มันยิ่งกว่าการเล่นกับไฟแล้ว!

พลังที่ราชันพระราหูต้องการ ความแข็งแกร่งของจอมมารในตอนแรกตัวนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

จักรพรรดิแพรตาเป็นประกาย รู้สึกประหลาดใจ

“เจี่ยนซุ่นหัว ราชันพระราหู!” เยี่ยนจ้าวเกอตบหน้าผากของตัวเอง “ไม่ทราบว่าควรบอกว่าท่านใจเด็ดหรือไม่ ขนาดยังไม่ตาย ก็คิดจะทำแผนการใหญ่หลังจากตายแล้ว”

เก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่ ไม่มีใครที่เป็นตะเกียงประหยัดน้ำมัน

‘ข้าสงสัยว่าตอนนั้นท่านจงใจตายเองหรือไม่’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจโดยคิดในแง่ร้าย

ตอนนี้เขากระสับกระส่ายแล้วจริงๆ

หากเป็นเวลาอื่น บางทีเขาอาจอยากชมดูเรื่องสนุก ถึงขั้นที่ยกนิ้วโป้งให้แก่เจี่ยนซุ่นหัว ทว่าตอนนี้เฟิงอวิ๋นเซิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

จักรพรรดิไร้จำกัดมองภาพตรงหน้า “พิธีกรรมเสร็จแล้ว เช่นนั้น…ผลลัพธ์เล่า?”

………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1089 คนตายตะเกียงไม่ดับ พันปีผ่านยังลี้ลับ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1089 คนตายตะเกียงไม่ดับ พันปีผ่านยังลี้ลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิไร้จำกัดพูดพลางมองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอทราบความหมายของเขา จึงส่ายหน้ากล่าวว่า “ยังไม่แน่ว่าจะเป็นราชันพระจันทร์หรือไม่ สำนักเราไม่ได้รู้จักราชันพระจันทร์ดีนัก เพียงรู้ว่านางเคยลงไปยังโลกแปดพิภพ แล้วทิ้งมงกุฎจันทราเอาไว้”

บัดนี้จักรพรรดิไร้จำกัดพยักหน้า ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปด้านในตำหนักหลัง

เปลวเพลิงหลายชั้นสลาย เงาแสงกลุ่มหนึ่งเดี๋ยวปรากฏ เดี๋ยวดำมืด คล้ายจริง คล้ายลวงกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านในความว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองไป ในเงาแสงนั้นมีดวงไฟสีดำจุดหนึ่ง มองไปอ่อนกำลังยิ่ง มันส่ายไหวไม่หยุด เหมือนกับพร้อมจะดับได้ทุกเวลา ทว่ากลับมีปราณมารที่ยิ่งใหญ่กระเพื่อมออกมาจากด้านใน เพียงแต่ไม่อาจลุกโหมได้อีกตลอดกาล

นั่นเป็นจักรพรรดิในหมู่มารตนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมของที่แห่งนี้ และเคยสร้างควงามปั่นปั่นไปทั่วฟ้าดิน

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถูกทำลายโดยสมบูรณ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมารมักจะไม่ตาย หลังจากสูญสลายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็จะคืนชีพขึ้นในนพยมโลก

ทว่าการคืนชีพของจักรพรรดิมารในนพยมโลกที่อยู่ตรงหน้ากลับถูกคนสะกดไว้ หลายพันปีมานี้ยากจะฟื้นคืนชีพ อยู่ในสภาวะดับสูญตลอดกาล

‘จอมมารที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน ยากจะถูกสังหารโดยสมบูรณ์ ศรทำลายมารยังทำอะไรพวกมันไม่ได้ อย่าว่าแต่ยอดฝีมือจอมมารที่เทียบได้กับเซียนจริงแท้สำนักเต๋าเลย’

เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา ‘สามารถสะกดจักรพรรดิในหมู่มารเช่นนี้ไม่ให้คืนชีพขึ้นมาได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ’

เขาสำรวจดูอย่างละเอียด เห็นรอบๆ ดวงเพลิงขนาดเล็กสีดำนั้นเหมือนกับถูกครอบคลุมไว้ด้วยความมืดไร้สิ้นสุดชั้นหนึ่ง มันทำลายและกลืนกินแสงและความร้อนของดวงเพลิง ทำให้มันไม่อาจโหมกระพือขึ้นมาได้ตลอดกาล

พอสัมผัสได้ถึงความมืดที่กลืนฟ้ากินตะวันนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็กระแอมเสียงเบา

‘พลังแห่งการกัดกร่อน ราหู!’

จิตพลังชนิดนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นพลังแห่งดาวราหู ดาวคู่ตรงข้ามของดวงอาทิตย์นั่นเอง!

สถานะของคนที่สังหารจอมมารของที่นี่ อีกทั้งยังได้สะกดไม่ให้มันเกิดใหม่ ผุดขึ้นมาทันที

จักรพรรดิไร้จำกัดกับจักรพรรดิแพรสบตากัน ต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ราชันพระราหู?”

ราชันพระราหู หนึ่งในเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ได้รับการกล่าวขานเหมือนกษัตริย์ดิน กษัตริย์เร้นลับ และราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง เป็นยอดฝีมือที่มีตำแหน่งสำคัญในประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรืองของสำนักเต๋าหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่

จักรพรรดิแพรมองเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวอย่างใคร่ครวญว่า “ได้ยินสหายร่วมเส้นทางเฉาแห่งอาคเนย์กล่าวว่า สำนักของเจ้าคล้ายมีของวิเศษอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับราชันพระราหู อีกทั้งสหายน้อยเฟิงผู้นี้ยังครอบครองอยู่ด้วยใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่ดาบราหู” เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างตรงไปตรงมา “แต่เป็นคราบหลังจากดาบราหูถูกทำลาย เป็นดาบเล่มใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น จะบอกว่าเกี่ยวข้องกับราชัพระราหูก็ไม่ถือว่าผิด แต่เกี่ยวข้องขนาดไหนข้ายังไม่แน่ใจ”

เขามองความมืดที่สะกดดวงเพลิงตรงหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่ “ดูจากตอนนี้แล้ว ความเกี่ยวข้องน่าจะมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า”

จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิไร้จำกัดพยักหน้าอย่างช้าๆ ก่อนที่จักรพรรดิแพรจะยื่นนิ้วออกมาทิ่มใส่เงาแสงกลุ่มนั้นเบาๆ

เงาแสงสั่นไหวเล็กน้อย ดวงเพลิงสีดำงยังคงอ่อนแรง แต่ว่าความมืดที่ดูน่ากลัวนั้นก็เกิดการกระเพื่อมเหมือนกับคลื่นน้ำ

กลิ่นอายแห่งความมืดกลายเป็นควันมารเพลิงทมิฬที่ไร้สิ้นสุด แสงทมิฬที่น่าสยดสยอง ดุร้ายหมายขวัญยิ่งกว่าเปลวไฟที่กอปรกันเป็นตำหนักรอบๆ

ในควันมารเพลิงทมิฬค่อยๆ ปรากฏเงาคนสายหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการผนึกตัวของญาณจริงแท้วรยุทธ์ที่อยู่ด้านใน

เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองไป เขาเห็นสตรีในอาภรณ์สีขาว ไว้ผมสั้นเท่าติ่งหู คนไม่อาจกล่าวว่างามหมดจด ทว่าองคาพยายพเป็นเหลี่ยมเป็นมุมชัดเจน

ทั่วร่างของนางปล่อยกลิ่นอายที่ดุร้ายน่ากลัวสายหนึ่งออกมา สายแต่แน่วแน่ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ถึงแม้จะเป็นเงาแสงที่เหลือร่องรอยไว้ ทว่าเมื่อปราณอันน่าสะพรึงพุ่งมาปะทะหน้า ก็กลับทำให้ผู้คนจิตใจเย็นเยียบ

ตอนไปเยือนเขานครหยกแห่งยอดเขาเป่ยเกาในเขาคุนหลุนเมื่อก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอได้ข้อมูลมาจากที่นั่นไม่น้อย

รูปร่างหน้าตาของเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่ รวมถึงปู่ของตน เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นภาพเหมือนมาแล้ว

เงาคนที่อยู่ตรงหน้า ก็คือราชันพระราหู หนึ่งในเก้านพเคราะห์เมื่อตอนนั้น เจี่ยนซุ่นหัว

นางเป็นยอดฝีมือแห่งเก้านพเคราะห์ที่ถูกยืนยันว่าได้เสียชีวิตไปแล้วเหมือนกับราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง ตอนยังมีชีวิตอยู่ได้ทิ้งตำนานไว้นับไม่ถ้วน ขึ้นชื่อในเรื่องจิตใจที่แน่วแน่กล้าแกร่ง

“ราชันพระราหูเสียชีวิตก่อนราชันพระศุกร์ปู่ของเรา” เยี่ยนจ้าวเกอมองดูตำหนักมารเปลวเพลิงตรงหน้า “ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นผลการต่อสู้ที่นางเหลือไว้ในตอนนั้น เพียงแต่ว่า…”

เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้ว “รู้สึกไม่ได้รวบรัดขนาดนั้น”

จักรพรรดิไร้จำกัดมองเงาแสงของราชันพระราหู สัมผัสได้ว่าเงาเหมือนที่ไร้ความนึกคิดนั้นสบตากับตนโดยไม่ถอยหนี

เขาสัมผัสสภาพแวดล้อมของที่นี่อย่างละเอียด ครู่ต่อมาก็โพล่งว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างใคร่ครวญ “ที่นี่คล้ายกับมีพิธีกรรมบางอย่าง ตอนนี้มันได้สลายไปแล้ว แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้”

จักรพรรดิแพรที่อยู่ด้านข้างสำรวจครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นฝ่ามือออกมา ใช้พลังฝ่ามือดูดกลืน ที่นี่พลันเกิดเพลิงมารความมืด

ควันมารเพลิงทมิฬจับตัวกัน เกิดเป็นยันต์อาคมที่มีอักขระมากมาย

ขณะมองดูลวดลายอาคมเหล่านั้น สายตาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอสายตาก็พลันคมกริบ

“เหอะๆ…” จักรพรรดิแพรหัวเราะเสียงเบา “ที่แท้ ที่นี่เป็นแผนการที่เตรียมไว้สำหรับการคืนชีพให้แก่ตัวเองของราชันพระราหู”

จักรพรรดิไร้จำกัดส่ายหน้าอย่างแช่มช้า “นางคิดอาศัยการคืนชีพของมารแห่งนพยมโลก เพื่อทำให้การคืนชีพของตัวเองสมบูรณ์หรือ นี่ออกจะ…”

สุดท้ายก็ยังเป็นผู้อาวุโสสำนักเต๋า ตอนนี้จักรพรรดิไร้จำกัดไม่คิดจะกล่าวล่วงเกิน

แต่เยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิแพรเข้าใจความคิดในใจของเขาดี

ราชันพระราหูกำลังเล่นกับไฟ!

แผนการของนาง ยังไม่เอ่ยถึงว่าจะสำเร็จหรือไม่ ต่อให้ทำสำเร็จ หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมกลายเป็นมาร!

และสิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือ เพื่อความสำเร็จ นางได้สนใจหรือไม่ว่าตนเองจะกลายเป็นมาร

บางทีนี่อาจเป็นแผนการที่เตรียมไว้ หากไม่ได้ใช้ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทว่าราชันพระราหูเสียชีวิตไปเมื่อสองพันกว่าปีก่อนแล้ว

“ตามนิสัยของราชันพระราหูในเรื่องเล่า เกรงว่านางจะยินดีคว้าโอกาสในการกลายเป็นมารเพื่อแลกเปลี่ยนกับการคืนชีพ” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “กลัวว่านางจะเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป”

เขาศึกษาลวดลายแสงความมืดเหล่านั้นอย่างละเอียด พึมพำว่า “รู้สึกว่าพิธีกรรมนี้จะไม่ใช่แค่ศึกษาโอกาสในการเกิดใหม่ คล้ายยังมีผลอย่างอื่น…”

“นางไม่เพียงแต่วางแผนคืนชีพหลังการตายไว้เท่านั้น ยังคิดจะอาศัยโอกาสคืนชีพ เพื่อแย่งชิงความลี้ลับในพลังและอำนาจของจอมมารบางตน!” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในหัวปรากฎความคิดหนึ่งขึ้น

จักรพรรดิไร้จำกัดได้ยินดังนั้น สีหน้าก็แปรเปลี่ยนแล้วเช่นกัน

นี่มันยิ่งกว่าการเล่นกับไฟแล้ว!

พลังที่ราชันพระราหูต้องการ ความแข็งแกร่งของจอมมารในตอนแรกตัวนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

จักรพรรดิแพรตาเป็นประกาย รู้สึกประหลาดใจ

“เจี่ยนซุ่นหัว ราชันพระราหู!” เยี่ยนจ้าวเกอตบหน้าผากของตัวเอง “ไม่ทราบว่าควรบอกว่าท่านใจเด็ดหรือไม่ ขนาดยังไม่ตาย ก็คิดจะทำแผนการใหญ่หลังจากตายแล้ว”

เก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนใหม่ ไม่มีใครที่เป็นตะเกียงประหยัดน้ำมัน

‘ข้าสงสัยว่าตอนนั้นท่านจงใจตายเองหรือไม่’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจโดยคิดในแง่ร้าย

ตอนนี้เขากระสับกระส่ายแล้วจริงๆ

หากเป็นเวลาอื่น บางทีเขาอาจอยากชมดูเรื่องสนุก ถึงขั้นที่ยกนิ้วโป้งให้แก่เจี่ยนซุ่นหัว ทว่าตอนนี้เฟิงอวิ๋นเซิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

จักรพรรดิไร้จำกัดมองภาพตรงหน้า “พิธีกรรมเสร็จแล้ว เช่นนั้น…ผลลัพธ์เล่า?”

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+