ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 1182 การชี้แนะของกษัตริย์ดารา

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 1182 การชี้แนะของกษัตริย์ดารา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่ผิด บ้านเกิด” กษัตริย์ดารากล่าวอย่างเชื่องช้า “ถึงแม้ว่าที่นั่นจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็ยังมีค่าให้ค้นหา เพียงแต่เจ้าจำเป็นต้องระวังตัวให้ดี หลายปีไม่นี้ ไม่ใช่แค่มีคนมากมายตามหาสหายร่วมเส้นางเซ่าเท่านั้น ยังมีคนอีกมากมายที่ตามหาสหายร่วมเส้นทางซู่”

“ขอบคุณกษัตริย์ดาราที่ชี้แนะ” เยี่ยนจ้าวเกอผงกหัว

คนบนโลกซ้อนโลก หรือว่าราชันพระอาทิตย์เกาหานที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ต่างก็ค้นหาที่อยู่ของราชันพระอังคาร โถงเซียนก็ตามหาเช่นกัน

หลังจากจำตำแหน่งเส้นทางที่กษัตริย์ดาราชี้แนะแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็มองกษัตริย์ดาราที่อยู่ในเสาน้ำแข็ง ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวเสียงเบาว่า “กษัตริย์ดรา ก่อนหน้านี้ผู้เยาว์ได้ไปมรกตท่องฟ้า ได้พบผู้อาวุโสแซ่ฉู่คนหนึ่งที่นั่น เป็นเพราะนางถึงได้ทราบว่าท่านยังมีชีวิตอยู่”

จักพรรดินีไม่ได้เข้ามาด้วย เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่กริ่งเกรง

ถึงอย่างไรจักรพรรดินีย่อมไม่มีทางสอดแนมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่

“หลีหลีหรือ” กษัตริย์ดารายิ้ม “นางสบายดีกระมัง”

“ดูจากท่าทางที่ข้าเห็น ผู้อาวุโสฉู่สบายดีทุกประการ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลาง สังเกตสีหน้าของกษัตริย์ดาราไปพลาง

จากข่าวที่ได้จากเสวี่ยชูฉิงมารดาของตน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าฉู่หลีหลีจะเกี่ยวข้องกับนพยมโลก

ภาพที่เห็นในตอนนี้ กลับเป็นกษัตริย์ดาราถูกกดดันให้ต้องแช่แข็งอยู่ที่นี่ เพราะต้องยื้อยันกับจอมมาร

ความลึกลับในนี้อดทำให้คนเกิดจินตนาการไม่ได้

กษัตริย์ดาราถาม “จิตใจของนางสงบนิ่งแล้วหรือ”

“ดูแล้วไม่เลว” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “อืม พูดแบบนี้อาจเสียมารยาทไปบ้าง ผู้อาวุโสฉู่ดู…มีชีวิตชีวา”

เขาหัวเราะอย่างหนักใจเสียงหนึ่ง “สมควรบอกว่า สภาพจิตใจยังสาวอยู่ แต่มองออกว่า นางคิดถึงกษัตริย์ดาราท่านมาโดยตลอด”

“หลีหลีมีนิสัยแบบนั้นอยู่แล้ว” กษัตริย์ดาราสั่นศีรษะ ยิ้มกล่าว “เหมือนกับเด็กน้อยไม่ยอมโต แต่ก็เติบโตขึ้นกว่าตอนเด็กมาก”

เยี่ยนจ้าวเกอฉวยโอกาสเล่าว่า “นางมีจดหมายฉบับหนึ่ง วานให้ข้านำกลับโลกซ้อนโลก แต่ข้าไม่ทราบเนื้อหาในจดหมาย แต่นางบอกว่าจะมอบให้อาจารย์ลุงเยว่หรือกษัตริย์เร้นลับก็ได้ ข้าเดาว่าความจริงแล้วเป็นการไหว้วานให้พวกเขาส่งต่อ สุดท้ายคิดมอบให้แก่กษัตริย์ดาราท่าน”

กษัตริย์ดาราพยักหน้าเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็นำออกมาชมดู”

เยี่ยนจ้าวเกอหยิบแผ่นหยกออกมา ใช้ญาณจริงแท้ยกขึ้น ส่งมันไปถึงบริเวณที่อยู่ใกล้เสาน้ำแข็ง

แรงดึงดูดไร้รูปร่างส่งมาจากด้านในเสาน้ำแข็ง แผ่นหยกลอยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานเข้าไปในเสาน้ำแข็ง

กษัตริย์ดารายกมือขึ้นรับแผ่นหยก ครู่ต่อมาเขาก็ยิ้มเล็กน้อย “หลีหลีเป็นห่วงแล้ว”

“กษัตริย์ดาราจะตอบกลับ แล้วให้ข้านำกลับไปหรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอถาม

ฝ่ายกษัตริย์ดาราส่ายหน้า “นำคำพูดไปก็พอ บอกหลีหลีว่าให้นางใช้ชีวิตและฝึกฝนในมรกตท่องฟ้าอย่างวางใจ ไม่ต้องห่วงที่นี่ ข้าสบายดีทุกอย่าง”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว จะนำคำพูดกลับไป”

เขาฉวยโอกาสถามต่อ “กษัตริย์ดารา ผู้เยาว์ไม่รู้เรื่องมากนัก เกรงว่าจะจะทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิด ผู้อาวุโสฉู่วานข้าให้ส่งสาร เพียงบอกว่ามอบให้แก่อาจารย์ลุงเยว่หรือกษัตริย์เร้นลับ กลับไม่พูดถึงกษัตริย์ดินและจักรพรรดินี”

“ที่แล้วมาหลีหลีค่อนข้างกลัวผู้ร่วมเส้นทางเจี่ยง” กษัตริย์ดารายิ้มเล็กน้อย จากนั้นสายตาก็สั่นไหว “สำหรับหมิงคงกลับเป็นเรื่องอีกเรื่อง หลีหลีมีข้อกริ่งเกรง สามารถเข้าใจได้”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถามต่ออีก “ผู้เยาว์เข้าใจแล้ว”

ถึงแม้ว่าสาเหตุจะไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่เขาอยากรู้ก็ได้รู้แล้ว

ต่อหน้าจักรพรรดินี อย่าพูดถึงฉู่หลีหลีเป็นการดีที่สุด

นอกจากนี้ในทางตรงกันข้าม เกรงว่าจะเป็นสถานการณ์เดียวกัน อย่าพูดถึงเรื่องของจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงต่อหน้าฉู่หลีหลีจะประเสริฐสุด

หลังจากขบคิดเล็กน้อย เยี่ยนจ้าวเกอก็พูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับสือจวินสองแม่ลูกที่เป็นห่วงมาโดยตลอด

“มีเรื่องนี้ด้วยหรือ” กษัตริย์ดาราได้ยินก็ไตร่ตรอง “ข้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ยากจะตัดสินอย่างแม่นยำ แต่ว่าเจ้ากับหมิงคงวินิจฉัยไม่ผิดพลาด จอมมารที่คิดใช้คนในสำนักเจ้าเป็นร่างสถิตเพื่อคืนชีพคงไม่ใช่ตัวตนธรรมดา แต่อยู่ในระดับไหน และมีความเป็นมาอย่างไร หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ข้าก็ไม่อาจบอกได้”

“น่าเสียดาย…” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ

กษัตริย์ดาราก็รู้สึกเสียดายเช่นกัน เสียดายที่ตอนนี้เขาสะกดการกลับมาของมารน้ำกุ่ยอย่างเต็มที่ จึงยากจะแบ่งแยกสมาธิ

ถ้าหากส่งสือจวินสองแม่ลูกมา เท่ากับส่งจอมมารกลับมา สองฝ่ายอาจติดต่อกัน แจ้งข่าวให้แก่กันและกันจนทำให้เหล่ามารรวมตัว กษัตริย์ดาราเกรงว่าจะไม่มีพลังเหลือพอจะสะกดทั้งหมด

ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่จอมมารหลายตนคืนชีพพร้อมกัน แม้จะมีแค่มารน้ำกุ่ยจุติลงมาอีกครั้ง ผลลัพธ์ก็ไม่น่านึกถึงแต่อย่างไร

“น้ำวิเศษผนึกมารที่ข้าได้มาจากผู้อาวุโสฉู่ ได้ทดลองศึกษาอย่างต่อเนื่องมาหลายปี” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “วันนี้พอมีความเข้าใจอยู่หลายส่วน ต้องการทำให้พิธีกรรมส่วนหนึ่งก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง บางทีอาจมีประโยชน์ต่อการสะกดจอมมารของใต้เท้า”

กษัตริย์ดาราประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้?”

ในการสนทนาสั้นๆ แม้เขาจะยังคงไม่รู้จักเยี่ยนจ้าวเกอดีพอ แต่ก็มองออกว่าในเรื่องที่จริงจัง เยี่ยนจ้าวเกอกล่าววาจาอย่างมีเป้าหมาย หากเขาบอกว่ามีหวัง เช่นนั้นไม่ใช่คำพูดเหลวไหล

ระหว่างที่สนทนากัน ถึงแม้กษัตริย์ดาราจะไม่ทราบเรื่องตึกความลับฟ้า แต่เขาก็ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีความรู้ไม่ธรรมดา สุดที่คนรุ่นหลังทั่วไปจะเทียบเคียงได้

“ข้าเดิมทีอยากจะช่วยศิษย์หลานในสำนักและมารดาของเขาแก้ไขภัยแอบแฝง หลายปีมานี้ศึกษาไม่เคยว่างเว้น สุดท้ายก็พอได้อะไรมาบ้าง เพียงแต่ยังไม่พอ” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ “กษัตริย์ดาราขัดขวางการกลับมาของมารน้ำกุ่ยเป็นเวลาพันปี ความลี้ลับและประสบการณ์มากมายในนี้ ข้ายังหวังให้ชี้แนะสักเล็กน้อย เพื่อให้ข้าได้ร่วมพิจารณาด้วย”

“ได้อยู่แล้ว” กษัตริย์ดาราไม่ถือสา บอกเล่าเป็นฉากๆ

สองฝ่ายคุยจบ เยี่ยนจ้าวเกอก็มองกษัตริย์ดาราที่อยู่ในเสาน้ำแข็งด้วยความเสียดายเล็กน้อย

ถึงแม้ตนจะมีแนวคิดอยู่ส่วนหนึ่ง แต่หากษัตริย์ดาราต้องการไปจากที่นี่ คงยังไม่ทราบว่าจะต้องรอถึงวันเวลาใด

เขาคำนับกษัตริย์ดารา จากนั้นก็บอกลาผละไป

กษัตริย์ดาราส่งเงาหลังที่ห่างออกไปของเยี่ยนจ้าวเกอ ดวงตาเปลี่ยนเป็นเหม่อลอย

เงาหลังที่ห่างออกไป คล้ายกลายเป็นรูปร่างที่เขาคุ้นเคย

เงาร่างที่แขวนกระบี่เล่มหนึ่งไว้ตรงเอว ทะนงตนแต่กลับสุขุมเยือกเย็น

เงาร่างของเยี่ยนซิงถาง ราชันพระศุกร์

ครั้งนั้นตนก็ใช้สายตาส่งเขาเช่นกัน ไมมีผู้ใดล่วงรู้ว่าการจากลาครั้งนั้นจะเป็นการจากลาตลอดกาล

เป็นเพราะเงาร่างของเยี่ยนซิงถาง ในใจของกษัตริย์ดาราก็ปรากฏเง่าร่างอีกสายหนึ่ง

พอคิดถึงเงาร่างนั้น เขายิ่งหม่นหมองกว่าเดิม

ในชีวิตเขามีสหายรู้ใจเพียงไม่กี่คน แต่สุดท้ายกลับตกตายไปตามกัน วันนี้เหลือเพียงเขาคนเดียว

เยี่ยนซิงถางยังพอว่า แต่อีกคนกลับถูกเขาเข่นฆ่าด้วยตัวเอง

ราชันพระพุทธเฉินเสวียนจงหลับตา ทุกฉากในอดีตยังคงเห็นชัดแจ้ง…

‘เสวียนจง! มากับข้าเถอะ การมาถึงของนพยมโลกจึงเป็นโชคชะตาของโลกนี้ ทำให้สำนักเต๋าสามพิสุทธิ์ที่เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย กับพวกสาวกเต๋านอกรีตที่ไร้ปัญญาร่วงหล่นสู่นพยมโลกด้วยกัน” บุรุษวัยกลางคนหัวเราะฮ่าๆ “พระพุทธองค์ไม่โปรดสรรพสัตว์ เต๋าก็ไม่สั่งสอนสรรพสัตว์ มีเพียงมารที่สอนสั่งสรรพสัตว์ หลังจากเข้าสู่นพยมโลก จะได้เห็นตัวตนที่แท้จริง รู้ว่าอะไรคืออิสระที่แท้จริง!’

เขาชี้ลวดลายมารที่เปล่งแสงสีฟ้าบนหน้าผากของตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าบิดเบี้ยว “ตำแหน่งนี้ของข้าสมควรเป็นของเจ้า!”

………………..

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *