นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) 54 ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

Now you are reading นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) Chapter 54 ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 54 – ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

 

ชิ่งเฉินไม่ต้องการโอนเงิน ทว่ายืนยันให้อีกฝ่ายหยิบเงินสด

ชายชราในร้านทองนับเงินพลางบ่นพึมพำพลางว่า “อายุน้อย ๆ แล้วยังรอบคอบมาก แต่ว่าพวกคุณรอบคอบในธุรกิจนี้ก็ไม่ผิดสักนิด ครั้งหน้ามีรายรับก็มาหาฉันนี่ ถ้าปริมาณมากฉันจะเพิ่มให้ 5 ไคว่ต่อทุก ๆ กรัม มีเท่าไหร่รับเท่านั้น”

ชายชราคล้ายจะถือชิ่งเฉินเป็นหัวขโมยตัวน้อย แต่ชิ่งเฉินไม่ได้คัดค้าน

เขายื่นเงินให้ชิ่งเฉิน จากนั้นมองชิ่งเฉินตรวจสอบธนบัตรด้วยมือทีละใบใต้แสงไฟ ลายน้ำ เส้นธนบัตร เส้นเบรลล์* อักษรแฝง** จุดตรวจสอบสักจุดก็ไม่ปล่อยผ่าน

จากนั้นชิ่งเฉินดึงธนบัตรสองใบออกมาจากในปึกเงิน “50 กับ 20 สองใบนี้ รบกวนเปลี่ยนด้วยครับ”

ชายชราปวดฟันนิดหน่อย “พวกคุณที่ทำธุรกิจขายทองปกติรับเงินแล้วก็ไป น้อยคนมากจะระมัดระวังขนาดนี้เหมือนคุณ”

พูดแล้วเขาดึงลิ้นชักข้าง ๆ เปลี่ยนธนบัตรสองใบ

“อยากจะทำธุรกิจให้ดี ๆ วันหลังอย่าเอาแบงก์ปลอมมาหลอกคน” ชิ่งเฉินกล่าว

“ได้เลย มาบ่อย ๆ นะ” ชายชราจนแต้ม

ชิ่งเฉินรับเงินแล้วหันหน้าจากไป เขาเลี้ยวเจ็ดแปดรอบในซอยแล้วจึงนั่งรถโดยสารสาธารณะกลับบ้าน

แล้วไปที่ตลาดสดซื้อเนื้อวัวสิบกว่าจิน ไข่ไก่สามจิน ยังมีผักจำนวนหนึ่ง

เยี่ยหว่านเคยพูดว่าตอนนี้เขาจะต้องเปลี่ยนไปเป็นสัตว์กินเนื้ออันดุร้ายตัวหนึ่ง

ตอนที่กลับถึงอาคาร พอเขาเงยหน้าก็เห็นหลี่ถงอวิ๋นที่ชั้นสองแอบโบกมือให้เขา

ชิ่งเฉินคิดแล้วโบกมือกลับให้หลี่ถงอวิ๋น ทำสัญญาณให้เธอมีคำพูดก็ให้ลงมาคุยที่ชั้นล่าง

หลี่ถงอวิ๋นหลังจากเข้าประตูแล้วคำพูดประโยคแรกก็คือ “พี่ชิ่งเฉิน เพื่อนบ้านที่มาใหม่เป็นใครน่ะ พี่เคยคุยกับพวกเขารึเปล่า”

“เป็นนักเรียนที่ย้ายมาจากเมืองไห่ มาเพราะหลิวเต๋อจู้” ชิ่งเฉินแบ่งปันข้อมูลของเขา “ฉันได้ยินพวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน เมืองที่ตรงกับเมืองไห่น่าจะเป็นเมืองหมายเลข 7 ของโลกภายใน”

“พี่ชิ่งเฉินยังสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษด้วยเหรอ” หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยอย่างกังขา “ทักษะการฟังดีขนาดนี้เลยเหรอ”

“พอไหว” ชิ่งเฉินไม่ได้อธิบายเรื่องนี้มากเกินไป ทว่ากล่าวต่อว่า “พวกเขาอยู่ที่นี่จะต้องเป็นเพราะแม่ของเธอ คนพวกนี้ทะลุไปถึงเมืองหมายเลข 7 แล้วไม่มีรากฐาน ดังนั้นเลยอยากจะมาเมืองหมายเลข 18 เสาะหาโอกาส”

หลี่ถงอวิ๋นคิดแล้วกล่าวว่า “เมืองหมายเลข 7 เป็นดินแดนของกลุ่มการเงินตระกูลเฉิน เมืองหมายเลข 18 เป็นอาณาเขตของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ พวกเขาทำไมถึงอยากจะมาทางนี้”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกันอย่างไม่ยั้งคิดเลย ฉันไปฟังอีกก็รู้แล้ว”

“พวกเขาพูดให้พี่ได้ยินซึ่งหน้าเลยเหรอ ประมาทเกินไปแล้ว” หลี่ถงอวิ๋นเงยหน้าถาม

ชิ่งเฉินลูบศีรษะของเธอยิ้มเอ่ยว่า “เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ฉลาดเท่าเธอไง”

เวลานี้หลี่ถงอวิ๋นวิ่งไปที่ห้องน้ำบ้านชิ่งเฉิน หยิบเสื้อผ้าใช้แล้วของชิ่งเฉินแล้ววิ่งไป “แม่เพิ่งจะสั่งให้หนูเอาเสื้อผ้าใช้แล้วของพี่ขึ้นไปซัก พี่ชายอย่าทำให้หนูลำบากเลยนะ หนูก็แค่ฟังคำของแม่”

พูดจบ หลี่ถงอวิ๋นเปิดประตูวิ่งขึ้นชั้นบนไปแล้ว……

ชิ่งเฉินยิ้ม จากนั้นหันศีรษะกลับไปมองบ้านที่ว่างเปล่าของตนเอง เริ่มการฝึกฝนอันเดียวดาย

ไม่มีคนควบคุม ไม่มีคนเชียร์

ทั้งหมดที่ชิ่งเฉินสามารถทำได้คือบอกตัวเองว่า ห้ามหยุด เดินไปข้างหน้า

เขาเคยได้ยินคนพูดว่าผู้ที่ปลีกตัวจากกลุ่มไปอยู่สันโดษไม่ใช่เทพก็เป็นสัตว์ป่า

งั้นในเมื่อเขายังไม่อาจกลายเป็นเทพ เป็นสัตว์ป่าไปก่อนก็ไม่เลว

……

คืนกลับวันที่สาม

ชิ่งเฉินมาถึงโรงเรียนแต่เช้าแลกโต๊ะของตัวเองกับหนานเกิงเฉิน อย่างนี้เขาก็จะกลายเป็นโต๊ะติดกับหวังอวิ๋น

หนานเกิงเฉินลดเสียงลงต่ำกล่าวว่า “ฉันยังนึกว่านายไม่สนใจสักนิดจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าถึงกับกระตือรือร้นอย่างนี้ พูดแต่แรกสิ พูดแต่แรกก็เปลี่ยนกับนายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!”

ชิ่งเฉินเหล่มองเขา ไม่ได้พูด

หนานเกิงเฉินเห็นเขาไม่พูด นึกว่าชิ่งเฉินอายแล้ว จึงลดเสียงลงเปลี่ยนหัวข้อด้วยเรื่องซุบซิบ “เมื่อวานในกลุ่มทะลุมิติมีปรมาจารย์เข้ามาอีกคน เขาพูดว่าตัวเองที่โลกภายในได้เรียนศาสตร์พยากรณ์มา……”

ชิ่งเฉินถามว่า “นายลืมแล้วเหรอ”

“ช่างเถอะ แค่ 5 ไคว่ต่อครั้ง” หนานเกิงเฉินกล่าว “หมอดูพูดว่าฉันอายุ 65 จะสามารถได้รับเงินก้อนโต แถมเป็นจำนวนที่ชั่วชีวิตนี้ฉันไม่เคยเห็นด้วย”

ชิ่งเฉินลังเลนิดหนึ่ง “65 ปี……เป็นลูกชายนายเผาส่งให้นายเปล่า”

หนานเกิงเฉิน “???”

ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “นายจะออกจากกลุ่มทะลุมิตินั่นได้ไหม แค่ฟังก็ปวดหัวแล้ว นักท่องเวลาจริง ๆ จัง ๆ สักคนก็ไม่มี ไม่ใช่ มีคนหนึ่งสินะ ยังมีคนที่เป็นพ่อเล้าให้ผู้หญิงรวย ๆ เป็นพิเศษที่โลกภายในคนหนึ่ง”

หนานเกิงเฉินเอ่ยอย่างปากแข็งว่า “ถ้าเผื่อยังมีตัวจริงอีกล่ะ”

เวลานี้ หวังอวิ๋นและไป๋หว่านเอ๋อร์เดินเข้าห้องเรียน

หลังจากที่พวกเธอเห็นว่าชิ่งเฉินกับหนานเกิงเฉินสลับต่ำแหน่งกันก็อึ้งไปตามคาด

ไป๋หว่านเอ๋อร์ใช้ภาษาอังกฤษถามว่า “พวกเขาสองคนทำไมสลับตำแหน่งกันล่ะ”

หวังอวิ๋นยิ้ม “ใครจะรู้ล่ะ ไม่ต้องสนเขา”

“เดี๋ยวนะ” ไป๋หว่านเอ๋อร์ถามอีก “ครูไม่ได้บอกว่าเขาเรียนดีเหรอ เขาจะฟังว่าพวกเราพูดอะไรเข้าใจรึเปล่า”

หวังอวิ๋นหันหน้าไปมองชิ่งเฉินอย่างจริง ๆ จัง ๆ

กลับเห็นชิ่งเฉินก้มหน้าก้มตาอ่านข้อสอบการแข่งขันจริงของวิชาคณิตศาสตร์ ตรวจสอบแล้ว ความเคลื่อนไหวในการเติมคำตอบไม่ได้หยุดชะงักสักนิดเดียว

หวังอวิ๋นที่เป็นนักเรียนหัวกะทิของเมืองไห่ถึงขนาดสังเกตขั้นตอนการแก้โจทย์ของชิ่งเฉินสักพัก จากนั้นยืนยันว่าทุกขั้นของอีกฝ่ายล้วนไม่ผิด ไม่ได้แกล้งทำท่าทางเลย

หวังอวิ๋นจึงกล่าวว่า “ครูโรงเรียนไห่เคยพูดว่านักเรียนของเมืองเล็กถึงจะสอบภาษาอังกฤษได้ดี คิดจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารพูดคุยยังยากมาก เพราะว่าพวกเขาทำทั้งหมดเพื่อการสอบ ข้อสอบฟังของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้นับว่าเป็นคะแนนสอบทางการ เธอดูสิ เขาทำข้อสอบไม่ได้เสียสมาธิเลย ถ้าแอบฟังพวกเราคุยไม่มีทางจะคำนวณได้เร็วขนาดนี้”

“ก็ใช่” ไป๋หว่านเอ๋อร์พยักหน้า

ทันใดนั้น หวังอวิ๋นใช้ภาษาอังกฤษเอ่ยอย่างวิตกว่า “เธอว่าที่หูเสี่ยวหนิวพูดว่าพวกเราถึงเมืองหมายเลข 18 ก็จะสามารถหลบจากเฉินเล่อโหยว จะเชื่อได้ไหม”

ไป๋หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่รู้ ตอนนี้ได้แต่เดินไปดูไปทีละก้าว”

สิบนาทีให้หลัง จนกระทั่งสองคนนี้หยุดบทสนทนาลงในที่สุด ชิ่งเฉินจึงได้ค่อย ๆ หยุดปากกา

หวังอวิ๋นก็ไม่ได้พูดผิด

ถึงจะเป็นคนอย่างชิ่งเฉินก็ยากมากที่จะคำนวณโจทย์คณิตศาสตร์สุดโหดพลางแอบฟังวิเคราะห์บทสนทนาพลาง

แต่สิ่งที่เขากับคนอื่นไม่แหมือนกันคือ เสียงที่เคยเกิดขึ้นพวกนั้นล้วนบันทึกลงในสมองของเขา

ชีวิตของเขาไม่สามารถย้อนกลับจริง ๆ แต่สามารถรีเพลย์

……………………………………….

หนึ่งจินคือครึ่งกิโลกรัมนะคะ หน่วยวัดอื่นทางจีนใช้ระบบเมตริกเหมือนไทย ยกเว้น น้ำหนักเป็นจิน (แต่คงเป็นเพราะมันแปลงเป็นกิโลง่ายด้วยแหละ) กับพื้นที่เป็นผิง แต่เราก็ใช้ตารางวาเหมือนกันแหละนะ…..

 

* เส้นเบรลล์เป็นสัญลักษณ์บอกผู้พิการทางสายตาว่าธนบัตรใบนี้ราคาเท่าไหร่ ของไทยจะเป็นดอกไม้พิมพ์นูนเหนือตัวเลขอารบิค ปล. นูนน้อยมากจนเราคลำไม่ออก….

**อักษรแฝงเป็นตัวอักษรที่จะสังเกตเห็นเวลาเอียงธนบัตร ของไทยจะเป็นรูปทรงดำ ๆ ตรงกลางใต้สัญลักษณ์ วปร. “รัฐบาลไทย” แล้วก็จำนวนเงินเป็นตัวอักษร อันนี้ดูออกนะ แต่ต้องเอียงดี ๆ เป็นเลขบอกจำนวนเงิน

 

ตอนที่ 55 – ลองเชิงและข่าวใหม่

 

 

เปิดรับโดเนท (ให้ผู้เขียน)

ในที่สุดตอนนี้เราก็หาวิธีโดเนทเงินให้ผู้เขียนได้แล้วค่ะ โดยการผ่าน paypal (สมัยก่อนน่าจะไม่มี option นี้นะ)

หากคุณอยากจะสนับสนุนผู้เขียน (ไม่ใช่เรา) สามารถโอนเงินมาให้เราเพื่อนำไปซื้อ ‘เหรียญ’ ของเว็บ qitian ได้ค่ะ แล้วเราจะเอาเหรียญไปกดสนับสนุนนิยายอีกที (10USD ได้ 6500 เหรียญ)

ขั้นตอนคือ

1. โอนเงินมาที่บัญชี นางสาวนริศา ธรรมวีระพงษ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 434-120214-9 หรือ true wallet id : asiran

2. ระบุในตอนโอนเงินหรือส่งอินบ็อกเฟสบุ๊คมาว่าจะสนับสนุนนิยายเรื่องไหน ถ้าไม่ระบุเราจะจับหารสองระหว่างเรื่องที่เราแปลในขณะนี้ คือ นิยามฯ กับ หนึ่งเซียนฯ

3. เมื่อได้ยอดตามที่กำหนด (10USD ประมาณ 350 บาท) เราจะกดซื้อเหรียญในเว็บ qitian ซึ่งเราลิงก์บัญชีกับ paypal ซึ่งลิงก์กับ true we card ซึ่งลิงก์กับบัญชีธนาคารอีกต่อหนึ่ง และนำเหรียญที่ได้ไปซื้อตอนนิยายหรือว่ากดสนับสนุนนิยายค่ะ

5. ถ้าอยากจะสนับสนุนนิยายที่เราไม่ได้แปลสามารถฝากเราสนับสนุนได้ค่ะด้วยการโอนเงินยอด 400 บาท (หรือ 800/1200 ฯลฯ ที่มันหาร 400 ลงตัว) จากนั้นแจ้งเราทางอินบ็อค แล้วเราก็จะกดสนับสนุนให้ค่ะ เศษเงินที่เหลือจะโอนคืนให้ค่ะ (เฉพาะนิยายที่ลงเว็บ qitian เท่านั้น) แต่สำหรับนิยายที่เราแปลจะ 5 บาท 10 บาทก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเรารวมยอดไปเรื่อย ๆ

ตอบข้อสงสัย

1. โดเนทแล้วได้เข้าห้องลับอ่านก่อนไหม

– ไม่มีห้องลับค่ะ

2. โดเนทแล้วจะแปลเร็วขึ้นไหม

– ไม่ค่ะ ได้เท่านี้แหละค่ะ….

3. เราคิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่

– ไม่ได้คิดค่ะ ทำฟรี

4. โดเนทแล้วได้อะไร

– ได้สนับสนุนผู้เขียนค่ะ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) 54: ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

Now you are reading นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) Chapter 54: ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 54 – ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

 

ชั่วชีวิตนี้ชิ่งเฉินยังไม่เคยเห็นเงินมากกว่าแปดพันไคว่เลย เขาไม่อยากโอนเงิน ทว่ายืนยันให้อีกฝ่ายหยิบเงินสด

ชายชราในร้านทองนับเงินพลางบ่นพึมพำพลางว่า “อายุน้อย ๆ แล้วยังรอบคอบมาก แต่ว่าพวกคุณรอบคอบในธุรกิจนี้ก็ไม่ผิดสักนิด ครั้งหน้ามีรายรับก็มาหาฉันนี่ ถ้าปริมาณมากฉันจะเพิ่มให้ 5 ไคว่ต่อทุก ๆ กรัม มีเท่าไหร่รับเท่านั้น”

ชายชราคล้ายจะถือชิ่งเฉินเป็นหัวขโมยตัวน้อย แต่ชิ่งเฉินไม่ได้คัดค้าน

เขายื่นเงินให้ชิ่งเฉิน จากนั้นมองชิ่งเฉินตรวจสอบธนบัตรด้วยมือทีละใบใต้แสงไฟ ลายน้ำ เส้นธนบัตร เส้นเบรลล์* อักษรแฝง** จุดตรวจสอบสักจุดก็ไม่ปล่อยปละ

จากนั้นชิ่งเฉินดึงธนบัตรสองใบออกมาจากในปึกเงิน “50 กับ 20 สองใบนี้ รบกวนเปลี่ยนด้วยครับ”

ชายชราปวดฟันนิดหน่อย “พวกคุณที่ทำธุรกิจขายทองปกติรับเงินแล้วก็ไป น้อยคนมากจะระมัดระวังขนาดนี้เหมือนคุณ”

พูดแล้วเขาดึงลิ้นชักข้าง ๆ เปลี่ยนธนบัตรสองใบ

“อยากจะทำธุรกิจให้ดี ๆ วันหลังอย่าเอาแบงก์ปลอมมาหลอกคน” ชิ่งเฉินกล่าว

“ได้เลย มาบ่อย ๆ นะ” ชายชราจนแต้ม

ชิ่งเฉินรับเงินแล้วหันหน้าจากไป เถ้าแก่ร้านทองสูงอายุขบฟันมองดูเงาหลังของเขา ใจคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ภายหลังจะต้องสามารถมีอนาคตสดใส กลายเป็นราชาโจรแห่งยุค

เขาเลี้ยวเจ็ดแปดรอบในซอยแล้วจึงนั่งรถโดยสารสาธารณะกลับบ้าน

แล้วไปที่ตลาดสดซื้อเนื้อวัวสิบกว่าจิน ไข่ไก่สามจิน ยังมีผักจำนวนหนึ่ง

เยี่ยหว่านเคยพูดว่าตอนนี้เขาจะต้องเปลี่ยนไปเป็นสัตว์กินเนื้ออันดุร้ายตัวหนึ่ง

ตอนที่กลับถึงอาคาร พอเขาเงยหน้าก็เห็นหลี่ถงอวิ๋นที่ชั้นสองแอบโบกมือให้เขา

ชิ่งเฉินคิดแล้วโบกมือกลับให้หลี่ถงอวิ๋น ทำสัญญาณให้เธอมีคำพูดก็ให้ลงมาคุยที่ชั้นล่าง

เจียงเสวี่ยเป็นนักท่องเวลาที่เป็นที่รู้กันอย่างเปิดเผย ตนเองไปบ้านอีกฝ่ายตลอดอาจจะถูกคนสังเกตเห็น แต่หลี่ถงอวิ๋นเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย ๆ มาพูดคุยในบ้านเขาไม่ได้สะดุดตาขนาดนั้น

หลี่ถงอวิ๋นหลังจากเข้าประตูแล้วคำพูดประโยคแรกก็คือ “พี่ชิ่งเฉิน เพื่อนบ้านที่มาใหม่เป็นใครน่ะ พี่เคยคุยกับพวกเขารึเปล่า”

“เป็นนักเรียนที่ย้ายมาจากเมืองไห่ มาเพราะหลิวเต๋อจู้” ชิ่งเฉินแบ่งปันข้อมูลของเขา “ฉันได้ยินพวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน เมืองที่ตรงกับเมืองไห่น่าจะเป็นเมืองหมายเลข 7 ของโลกภายใน”

“พี่ชิ่งเฉินยังสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษด้วยเหรอ” หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยอย่างกังขา “ทักษะการฟังดีขนาดนี้เลยเหรอ”

“พอไหว” ชิ่งเฉินไม่ได้อธิบายเรื่องนี้มากเกินไป ทว่ากล่าวต่อว่า “พวกเขาอยู่ที่นี่จะต้องเป็นเพราะแม่ของเธอ คนพวกนี้ทะลุไปถึงเมืองหมายเลข 7 แล้วไม่มีรากฐาน ดังนั้นเลยอยากจะมาเมืองหมายเลข 18 เสาะหาโอกาส แน่นอนว่าฉันรู้สึกว่าอาจจะไม่ได้เรียบง่ายขนาดนี้ พวกเขาอยู่ในเมืองหมายเลข 7 อาจจะถึงขนาดมีศัตรูก็ได้”

หลังมาถึงโลกภายในแล้วจะมีศัตรูหรือไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักท่องเวลาสามารถตัดสินใจเอาเอง

ถ้าไม่มีศัตรู งั้นด้วยอิทธิพลท้องถิ่นที่เมืองไห่ของอีกฝ่าย เหตุใดไม่เสาะหาความช่วยเหลือของนักท่องเวลาคนอื่น ๆ ของท้องถิ่นไปตรง ๆ เลยล่ะ

จากข้อมูลที่ชิ่งเฉินได้รับทางอินเตอร์เน็ต เมืองไห่มีผู้เหนือมนุษย์หนึ่งคน ยังมีโฆษกของชมรมมังกรเขียวเมืองหมายเลข 7 หนึ่งคน ว่ากันว่าไม่เลวเลย

แต่หูเสี่ยวหนิวกับพวกไม่ได้จ่ายเงินไปขอความช่วยเหลือคนพวกนี้ ทว่าละทิ้งใกล้เสาะหาไกลมาเมืองลั่วหาหลิวเต๋อจู้

เป็นไปได้มากว่าคนที่เขาตอแย นักท่องเวลาเมืองไห่ไม่อาจจะเป็นคนกลางสินะ

หลี่ถงอวิ๋นคิดแล้วกล่าวว่า “เมืองหมายเลข 7 เป็นดินแดนของกลุ่มการเงินตระกูลเฉิน เมืองหมายเลข 18 เป็นอาณาเขตของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ พวกเขาไปแหย่ตระกูลเฉินรึเปล่า”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกันอย่างไม่ยั้งคิดเลย ฉันไปฟังอีกก็รู้แล้ว”

“พวกเขาพูดให้พี่ได้ยินซึ่งหน้าเลยเหรอ” หลี่ถงอวิ๋นเงยหน้าถาม

ชิ่งเฉินลูบศีรษะของเธอยิ้มเอ่ยว่า “เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ฉลาดเท่าเธอไง”

เวลานี้หลี่ถงอวิ๋นวิ่งไปที่ห้องน้ำบ้านชิ่งเฉิน หยิบเสื้อผ้าใช้แล้วของชิ่งเฉินแล้ววิ่งไป “แม่เพิ่งจะสั่งให้หนูเอาเสื้อผ้าใช้แล้วของพี่ขึ้นไปซัก พี่ชายอย่าทำให้หนูลำบากเลยนะ หนูก็แค่ฟังคำของแม่”

พูดจบ หลี่ถงอวิ๋นเปิดประตูวิ่งขึ้นชั้นบนไปแล้ว……

ชิ่งเฉินยิ้ม จากนั้นหันศีรษะกลับไปมองบ้านที่ว่างเปล่าของตนเอง เริ่มการฝึกฝนอันเดียวดาย

ไม่มีคนควบคุม ไม่มีคนเชียร์

ทั้งหมดที่ชิ่งเฉินสามารถทำได้คือบอกตัวเองว่า ห้ามหยุด เดินไปข้างหน้า

เขาเคยได้ยินคนพูดว่าผู้ที่ปลีกตัวจากกลุ่มไปอยู่สันโดษไม่ใช่เทพก็เป็นสัตว์ป่า

งั้นในเมื่อเขายังไม่อาจกลายเป็เทพ เป็นสัตว์ป่าไปก่อนก็ไม่เลว

……

นับถอยหลังห้าวัน

ชิ่งเฉินมาถึงโรงเรียนแต่เช้าแลกโต๊ะของตัวเองกับหนานเกิงเฉิน อย่างนี้เขาก็จะกลายเป็นโต๊ะติดกับหวังอวิ๋น

หนานเกิงเฉินหลังจากเข้าห้องแล้วก็ยิ้มให้เขาอย่างมีลับลมคมนัย จากนั้นลดเสียงลงต่ำกล่าวว่า “ฉันยังนึกว่านายไม่สนใจสักนิดจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าถึงกับกระตือรือร้นอย่างนี้ พูดแต่แรกสิ พูดแต่แรกก็เปลี่ยนกับนายแต่เมื่อวานแล้ว!”

ชิ่งเฉินเหล่มองเขา อีกฝ่ายนึกว่าตนเองเปลี่ยนตำแหน่งเพราะอยากจะใกล้ชิดกับหวังอวิ๋นขึ้นอีกหน่อย

อันที่จริง ตนเองแค่อยากจะฟังบทสนทนาของหวังอวิ๋นกับไป๋หว่านเอ๋อร์เอง

แต่คิดอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้ว เขาหวังว่าหวังอวิ๋นก็จะสามารถมีความคิดเหมือนกัน

แบบนี้ ตอนที่อีกฝ่ายกับไป๋หว่านเอ๋อร์ใช้ภาษาอังกฤษสนทนากันก็จะไม่แคร์เขา

หนานเกิงเฉินเห็นเขาไม่พูด นึกว่าชิ่งเฉินอายแล้ว จึงลดเสียงลงเปลี่ยนหัวข้อด้วยเรื่องซุบซิบ “เมื่อวานในกลุ่มทะลุมิติมีปรมาจารย์เข้ามาอีกคน เขาพูดว่าตัวเองที่โลกภายในได้เรียนศาสตร์พยากรณ์มา……”

ชิ่งเฉินถามว่า “นายลืมแล้วเหรอ”

“ช่างเถอะ แค่ 5 ไคว่ต่อครั้ง” หนานเกิงเฉินกล่าว “หมอดูพูดว่าฉันอายุ 65 จะสามารถได้รับเงินก้อนโต แถมเป็นจำนวนที่ชั่วชีวิตนี้ฉันไม่เคยเห็นด้วย”

ชิ่งเฉินลังเลนิดหนึ่ง “เป็นลูกชายนายเผาส่งให้นายเปล่า”

หนานเกิงเฉิน “……??”

ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “นายจะออกจากกลุ่มทะลุมิตินั่นได้ไหม แค่ฟังก็ปวดหัวแล้ว นักท่องเวลาจริง ๆ จัง ๆ สักคนก็ไม่มี ไม่ใช่ มีคนหนึ่งสินะ ยังมีคนที่เป็นพ่อเล้าให้ผู้หญิงรวย ๆ เป็นพิเศษที่โลกภายในคนหนึ่ง”

หนานเกิงเฉินเอ่ยอย่างปากแข็งว่า “ถ้าเผื่อยังมีตัวจริงอีกล่ะ”

เวลานี้ หวังอวิ๋นและไป๋หว่านเอ๋อร์เดินเข้าห้องเรียน

หลังจากที่พวกเธอเห็นว่าชิ่งเฉินกับหนานเกิงเฉินสลับต่ำแหน่งกันก็อึ้งไปตามคาด

ไป๋หว่านเอ๋อร์ใช้ภาษาอังกฤษถามว่า “พวกเขาสองคนทำไมสลับตำแหน่งกันล่ะ”

หวังอวิ๋นยิ้ม “ใครจะรู้ล่ะ ไม่ต้องสนเขา”

“เดี๋ยวนะ” ไป๋หว่านเอ๋อร์ถามอีก “ครูไม่ได้บอกว่าเขาเรียนดีเหรอ เขาจะฟังว่าพวกเราพูดอะไรเข้าใจรึเปล่า”

หวังอวิ๋นหันหน้าไปมองชิ่งเฉินอย่างจริง ๆ จัง ๆ

กลับเห็นชิ่งเฉินก้มหน้าก้มตาอ่านข้อสอบการแข่งขันจริงของวิชาคณิตศาสตร์ ตรวจสอบแล้ว ความเคลื่อนไหวในการเติมคำตอบไม่ได้หยุดชะงักสักนิดเดียว

หวังอวิ๋นที่เป็นนักเรียนหัวกะทิของเมืองไห่ถึงขนาดสังเกตขั้นตอนการแก้โจทย์ของชิ่งเฉินสักพัก จากนั้นยืนยันว่าทุกขั้นของอีกฝ่ายล้วนไม่ผิด ไม่ได้แกล้งทำท่าทางเลย

หวังอวิ๋นจึงกล่าวว่า “ครูโรงเรียนไห่เคยพูดว่านักเรียนของเมืองเล็กถึงจะสอบภาษาอังกฤษได้ดี คิดจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารพูดคุยยังยากมาก เพราะว่าพวกเขาทำทั้งหมดเพื่อการสอบ ข้อสอบฟังของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้นับว่าเป็นคะแนนสอบทางการ เธอดูสิ เขาทำข้อสอบไม่ได้เสียสมาธิเลย ถ้าแอบฟังพวกเราคุยไม่มีทางจะคำนวณได้เร็วขนาดนี้”

“ก็ใช่” ไป๋หว่านเอ๋อร์พยักหน้า

ทันใดนั้น หวังอวิ๋นใช้ภาษาอังกฤษเอ่ยอย่างวิตกว่า “เธอว่าที่หูเสี่ยวหนิวพูดว่าพวกเราถึงเมืองหมายเลข 18 ก็จะสามารถหลบจากเฉินเล่อโหยว จะเชื่อได้ไหม”

ไป๋หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่รู้ ตอนนี้ได้แต่เดินไปดูไปทีละก้าว”

สิบนาทีให้หลัง จนกระทั่งสองคนนี้หยุดบทสนทนาลงในที่สุด ชิ่งเฉินจึงได้ค่อย ๆ หยุดปากกา

ตามคาด สี่คนนี้มีศัตรูที่เมืองหมายเลข 7

ตนเองประเมินได้ไม่ผิด

แน่นอนว่าหวังอวิ๋นก็ไม่ได้พูดผิด

ถึงจะเป็นคนอย่างชิ่งเฉินก็ยากมากที่จะคำนวณโจทย์คณิตศาสตร์สุดโหดพลางแอบฟังวิเคราะห์บทสนทนาพลาง

แต่สิ่งที่เขากับคนอื่นไม่แหมือนกันคือ เสียงที่เคยเกิดขึ้นพวกนั้นล้วนบันทึกลงในสมองของเขา

ชีวิตของเขาไม่สามารถย้อนกลับจริง ๆ แต่สามารถรีเพลย์

……………………………………….

หนึ่งจินคือครึ่งกิโลกรัมนะคะ หน่วยวัดอื่นทางจีนใช้ระบบเมตริกเหมือนไทย ยกเว้น น้ำหนักเป็นจิน (แต่คงเป็นเพราะมันแปลงเป็นกิโลง่ายด้วยแหละ) กับพื้นที่เป็นผิง แต่เราก็ใช้ตารางวาเหมือนกันแหละนะ…..

 

* เส้นเบรลล์เป็นสัญลักษณ์บอกผู้พิการทางสายตาว่าธนบัตรใบนี้ราคาเท่าไหร่ ของไทยจะเป็นดอกไม้พิมพ์นูนเหนือตัวเลขอารบิค ปล. นูนน้อยมากจนเราคลำไม่ออก….

**อักษรแฝงเป็นตัวอักษรที่จะสังเกตเห็นเวลาเอียงธนบัตร ของไทยจะเป็นรูปทรงดำ ๆ ตรงกลางใต้สัญลักษณ์ วปร. “รัฐบาลไทย” แล้วก็จำนวนเงินเป็นตัวอักษร อันนี้ดูออกนะ แต่ต้องเอียงดี ๆ เป็นเลขบอกจำนวนเงิน

 

ตอนที่ 55 – ลองเชิงและข่าวใหม่

 

 

เปิดรับโดเนท (ให้ผู้เขียน)

ในที่สุดตอนนี้เราก็หาวิธีโดเนทเงินให้ผู้เขียนได้แล้วค่ะ โดยการผ่าน paypal (สมัยก่อนน่าจะไม่มี option นี้นะ)

หากคุณอยากจะสนับสนุนผู้เขียน (ไม่ใช่เรา) สามารถโอนเงินมาให้เราเพื่อนำไปซื้อ ‘เหรียญ’ ของเว็บ qitian ได้ค่ะ แล้วเราจะเอาเหรียญไปกดสนับสนุนนิยายอีกที (10USD ได้ 6500 เหรียญ)

ขั้นตอนคือ

1. โอนเงินมาที่บัญชี นางสาวนริศา ธรรมวีระพงษ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 434-120214-9 หรือ true wallet id : asiran

2. ระบุในตอนโอนเงินหรือส่งอินบ็อกเฟสบุ๊คมาว่าจะสนับสนุนนิยายเรื่องไหน ถ้าไม่ระบุเราจะจับหารสองระหว่างเรื่องที่เราแปลในขณะนี้ คือ นิยามฯ กับ หนึ่งเซียนฯ

3. เมื่อได้ยอดตามที่กำหนด (10USD ประมาณ 350 บาท) เราจะกดซื้อเหรียญในเว็บ qitian ซึ่งเราลิงก์บัญชีกับ paypal ซึ่งลิงก์กับ true we card ซึ่งลิงก์กับบัญชีธนาคารอีกต่อหนึ่ง และนำเหรียญที่ได้ไปซื้อตอนนิยายหรือว่ากดสนับสนุนนิยายค่ะ

5. ถ้าอยากจะสนับสนุนนิยายที่เราไม่ได้แปลสามารถฝากเราสนับสนุนได้ค่ะด้วยการโอนเงินยอด 400 บาท (หรือ 800/1200 ฯลฯ ที่มันหาร 400 ลงตัว) จากนั้นแจ้งเราทางอินบ็อค แล้วเราก็จะกดสนับสนุนให้ค่ะ เศษเงินที่เหลือจะโอนคืนให้ค่ะ (เฉพาะนิยายที่ลงเว็บ qitian เท่านั้น) แต่สำหรับนิยายที่เราแปลจะ 5 บาท 10 บาทก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเรารวมยอดไปเรื่อย ๆ

ตอบข้อสงสัย

1. โดเนทแล้วได้เข้าห้องลับอ่านก่อนไหม

– ไม่มีห้องลับค่ะ

2. โดเนทแล้วจะแปลเร็วขึ้นไหม

– ไม่ค่ะ ได้เท่านี้แหละค่ะ….

3. เราคิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่

– ไม่ได้คิดค่ะ ทำฟรี

4. โดเนทแล้วได้อะไร

– ได้สนับสนุนผู้เขียนค่ะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) 54: ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

Now you are reading นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) Chapter 54: ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 54 – ชีวิตคนไม่สามารถเริ่มใหม่แต่สามารถรีเพลย์

 

ชั่วชีวิตนี้ชิ่งเฉินยังไม่เคยเห็นเงินมากกว่าแปดพันไคว่เลย เขาไม่อยากโอนเงิน ทว่ายืนยันให้อีกฝ่ายหยิบเงินสด

ชายชราในร้านทองนับเงินพลางบ่นพึมพำพลางว่า “อายุน้อย ๆ แล้วยังรอบคอบมาก แต่ว่าพวกคุณรอบคอบในธุรกิจนี้ก็ไม่ผิดสักนิด ครั้งหน้ามีรายรับก็มาหาฉันนี่ ถ้าปริมาณมากฉันจะเพิ่มให้ 5 ไคว่ต่อทุก ๆ กรัม มีเท่าไหร่รับเท่านั้น”

ชายชราคล้ายจะถือชิ่งเฉินเป็นหัวขโมยตัวน้อย แต่ชิ่งเฉินไม่ได้คัดค้าน

เขายื่นเงินให้ชิ่งเฉิน จากนั้นมองชิ่งเฉินตรวจสอบธนบัตรด้วยมือทีละใบใต้แสงไฟ ลายน้ำ เส้นธนบัตร เส้นเบรลล์* อักษรแฝง** จุดตรวจสอบสักจุดก็ไม่ปล่อยปละ

จากนั้นชิ่งเฉินดึงธนบัตรสองใบออกมาจากในปึกเงิน “50 กับ 20 สองใบนี้ รบกวนเปลี่ยนด้วยครับ”

ชายชราปวดฟันนิดหน่อย “พวกคุณที่ทำธุรกิจขายทองปกติรับเงินแล้วก็ไป น้อยคนมากจะระมัดระวังขนาดนี้เหมือนคุณ”

พูดแล้วเขาดึงลิ้นชักข้าง ๆ เปลี่ยนธนบัตรสองใบ

“อยากจะทำธุรกิจให้ดี ๆ วันหลังอย่าเอาแบงก์ปลอมมาหลอกคน” ชิ่งเฉินกล่าว

“ได้เลย มาบ่อย ๆ นะ” ชายชราจนแต้ม

ชิ่งเฉินรับเงินแล้วหันหน้าจากไป เถ้าแก่ร้านทองสูงอายุขบฟันมองดูเงาหลังของเขา ใจคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ภายหลังจะต้องสามารถมีอนาคตสดใส กลายเป็นราชาโจรแห่งยุค

เขาเลี้ยวเจ็ดแปดรอบในซอยแล้วจึงนั่งรถโดยสารสาธารณะกลับบ้าน

แล้วไปที่ตลาดสดซื้อเนื้อวัวสิบกว่าจิน ไข่ไก่สามจิน ยังมีผักจำนวนหนึ่ง

เยี่ยหว่านเคยพูดว่าตอนนี้เขาจะต้องเปลี่ยนไปเป็นสัตว์กินเนื้ออันดุร้ายตัวหนึ่ง

ตอนที่กลับถึงอาคาร พอเขาเงยหน้าก็เห็นหลี่ถงอวิ๋นที่ชั้นสองแอบโบกมือให้เขา

ชิ่งเฉินคิดแล้วโบกมือกลับให้หลี่ถงอวิ๋น ทำสัญญาณให้เธอมีคำพูดก็ให้ลงมาคุยที่ชั้นล่าง

เจียงเสวี่ยเป็นนักท่องเวลาที่เป็นที่รู้กันอย่างเปิดเผย ตนเองไปบ้านอีกฝ่ายตลอดอาจจะถูกคนสังเกตเห็น แต่หลี่ถงอวิ๋นเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย ๆ มาพูดคุยในบ้านเขาไม่ได้สะดุดตาขนาดนั้น

หลี่ถงอวิ๋นหลังจากเข้าประตูแล้วคำพูดประโยคแรกก็คือ “พี่ชิ่งเฉิน เพื่อนบ้านที่มาใหม่เป็นใครน่ะ พี่เคยคุยกับพวกเขารึเปล่า”

“เป็นนักเรียนที่ย้ายมาจากเมืองไห่ มาเพราะหลิวเต๋อจู้” ชิ่งเฉินแบ่งปันข้อมูลของเขา “ฉันได้ยินพวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน เมืองที่ตรงกับเมืองไห่น่าจะเป็นเมืองหมายเลข 7 ของโลกภายใน”

“พี่ชิ่งเฉินยังสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษด้วยเหรอ” หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยอย่างกังขา “ทักษะการฟังดีขนาดนี้เลยเหรอ”

“พอไหว” ชิ่งเฉินไม่ได้อธิบายเรื่องนี้มากเกินไป ทว่ากล่าวต่อว่า “พวกเขาอยู่ที่นี่จะต้องเป็นเพราะแม่ของเธอ คนพวกนี้ทะลุไปถึงเมืองหมายเลข 7 แล้วไม่มีรากฐาน ดังนั้นเลยอยากจะมาเมืองหมายเลข 18 เสาะหาโอกาส แน่นอนว่าฉันรู้สึกว่าอาจจะไม่ได้เรียบง่ายขนาดนี้ พวกเขาอยู่ในเมืองหมายเลข 7 อาจจะถึงขนาดมีศัตรูก็ได้”

หลังมาถึงโลกภายในแล้วจะมีศัตรูหรือไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักท่องเวลาสามารถตัดสินใจเอาเอง

ถ้าไม่มีศัตรู งั้นด้วยอิทธิพลท้องถิ่นที่เมืองไห่ของอีกฝ่าย เหตุใดไม่เสาะหาความช่วยเหลือของนักท่องเวลาคนอื่น ๆ ของท้องถิ่นไปตรง ๆ เลยล่ะ

จากข้อมูลที่ชิ่งเฉินได้รับทางอินเตอร์เน็ต เมืองไห่มีผู้เหนือมนุษย์หนึ่งคน ยังมีโฆษกของชมรมมังกรเขียวเมืองหมายเลข 7 หนึ่งคน ว่ากันว่าไม่เลวเลย

แต่หูเสี่ยวหนิวกับพวกไม่ได้จ่ายเงินไปขอความช่วยเหลือคนพวกนี้ ทว่าละทิ้งใกล้เสาะหาไกลมาเมืองลั่วหาหลิวเต๋อจู้

เป็นไปได้มากว่าคนที่เขาตอแย นักท่องเวลาเมืองไห่ไม่อาจจะเป็นคนกลางสินะ

หลี่ถงอวิ๋นคิดแล้วกล่าวว่า “เมืองหมายเลข 7 เป็นดินแดนของกลุ่มการเงินตระกูลเฉิน เมืองหมายเลข 18 เป็นอาณาเขตของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ พวกเขาไปแหย่ตระกูลเฉินรึเปล่า”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกันอย่างไม่ยั้งคิดเลย ฉันไปฟังอีกก็รู้แล้ว”

“พวกเขาพูดให้พี่ได้ยินซึ่งหน้าเลยเหรอ” หลี่ถงอวิ๋นเงยหน้าถาม

ชิ่งเฉินลูบศีรษะของเธอยิ้มเอ่ยว่า “เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ฉลาดเท่าเธอไง”

เวลานี้หลี่ถงอวิ๋นวิ่งไปที่ห้องน้ำบ้านชิ่งเฉิน หยิบเสื้อผ้าใช้แล้วของชิ่งเฉินแล้ววิ่งไป “แม่เพิ่งจะสั่งให้หนูเอาเสื้อผ้าใช้แล้วของพี่ขึ้นไปซัก พี่ชายอย่าทำให้หนูลำบากเลยนะ หนูก็แค่ฟังคำของแม่”

พูดจบ หลี่ถงอวิ๋นเปิดประตูวิ่งขึ้นชั้นบนไปแล้ว……

ชิ่งเฉินยิ้ม จากนั้นหันศีรษะกลับไปมองบ้านที่ว่างเปล่าของตนเอง เริ่มการฝึกฝนอันเดียวดาย

ไม่มีคนควบคุม ไม่มีคนเชียร์

ทั้งหมดที่ชิ่งเฉินสามารถทำได้คือบอกตัวเองว่า ห้ามหยุด เดินไปข้างหน้า

เขาเคยได้ยินคนพูดว่าผู้ที่ปลีกตัวจากกลุ่มไปอยู่สันโดษไม่ใช่เทพก็เป็นสัตว์ป่า

งั้นในเมื่อเขายังไม่อาจกลายเป็เทพ เป็นสัตว์ป่าไปก่อนก็ไม่เลว

……

นับถอยหลังห้าวัน

ชิ่งเฉินมาถึงโรงเรียนแต่เช้าแลกโต๊ะของตัวเองกับหนานเกิงเฉิน อย่างนี้เขาก็จะกลายเป็นโต๊ะติดกับหวังอวิ๋น

หนานเกิงเฉินหลังจากเข้าห้องแล้วก็ยิ้มให้เขาอย่างมีลับลมคมนัย จากนั้นลดเสียงลงต่ำกล่าวว่า “ฉันยังนึกว่านายไม่สนใจสักนิดจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าถึงกับกระตือรือร้นอย่างนี้ พูดแต่แรกสิ พูดแต่แรกก็เปลี่ยนกับนายแต่เมื่อวานแล้ว!”

ชิ่งเฉินเหล่มองเขา อีกฝ่ายนึกว่าตนเองเปลี่ยนตำแหน่งเพราะอยากจะใกล้ชิดกับหวังอวิ๋นขึ้นอีกหน่อย

อันที่จริง ตนเองแค่อยากจะฟังบทสนทนาของหวังอวิ๋นกับไป๋หว่านเอ๋อร์เอง

แต่คิดอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้ว เขาหวังว่าหวังอวิ๋นก็จะสามารถมีความคิดเหมือนกัน

แบบนี้ ตอนที่อีกฝ่ายกับไป๋หว่านเอ๋อร์ใช้ภาษาอังกฤษสนทนากันก็จะไม่แคร์เขา

หนานเกิงเฉินเห็นเขาไม่พูด นึกว่าชิ่งเฉินอายแล้ว จึงลดเสียงลงเปลี่ยนหัวข้อด้วยเรื่องซุบซิบ “เมื่อวานในกลุ่มทะลุมิติมีปรมาจารย์เข้ามาอีกคน เขาพูดว่าตัวเองที่โลกภายในได้เรียนศาสตร์พยากรณ์มา……”

ชิ่งเฉินถามว่า “นายลืมแล้วเหรอ”

“ช่างเถอะ แค่ 5 ไคว่ต่อครั้ง” หนานเกิงเฉินกล่าว “หมอดูพูดว่าฉันอายุ 65 จะสามารถได้รับเงินก้อนโต แถมเป็นจำนวนที่ชั่วชีวิตนี้ฉันไม่เคยเห็นด้วย”

ชิ่งเฉินลังเลนิดหนึ่ง “เป็นลูกชายนายเผาส่งให้นายเปล่า”

หนานเกิงเฉิน “……??”

ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “นายจะออกจากกลุ่มทะลุมิตินั่นได้ไหม แค่ฟังก็ปวดหัวแล้ว นักท่องเวลาจริง ๆ จัง ๆ สักคนก็ไม่มี ไม่ใช่ มีคนหนึ่งสินะ ยังมีคนที่เป็นพ่อเล้าให้ผู้หญิงรวย ๆ เป็นพิเศษที่โลกภายในคนหนึ่ง”

หนานเกิงเฉินเอ่ยอย่างปากแข็งว่า “ถ้าเผื่อยังมีตัวจริงอีกล่ะ”

เวลานี้ หวังอวิ๋นและไป๋หว่านเอ๋อร์เดินเข้าห้องเรียน

หลังจากที่พวกเธอเห็นว่าชิ่งเฉินกับหนานเกิงเฉินสลับต่ำแหน่งกันก็อึ้งไปตามคาด

ไป๋หว่านเอ๋อร์ใช้ภาษาอังกฤษถามว่า “พวกเขาสองคนทำไมสลับตำแหน่งกันล่ะ”

หวังอวิ๋นยิ้ม “ใครจะรู้ล่ะ ไม่ต้องสนเขา”

“เดี๋ยวนะ” ไป๋หว่านเอ๋อร์ถามอีก “ครูไม่ได้บอกว่าเขาเรียนดีเหรอ เขาจะฟังว่าพวกเราพูดอะไรเข้าใจรึเปล่า”

หวังอวิ๋นหันหน้าไปมองชิ่งเฉินอย่างจริง ๆ จัง ๆ

กลับเห็นชิ่งเฉินก้มหน้าก้มตาอ่านข้อสอบการแข่งขันจริงของวิชาคณิตศาสตร์ ตรวจสอบแล้ว ความเคลื่อนไหวในการเติมคำตอบไม่ได้หยุดชะงักสักนิดเดียว

หวังอวิ๋นที่เป็นนักเรียนหัวกะทิของเมืองไห่ถึงขนาดสังเกตขั้นตอนการแก้โจทย์ของชิ่งเฉินสักพัก จากนั้นยืนยันว่าทุกขั้นของอีกฝ่ายล้วนไม่ผิด ไม่ได้แกล้งทำท่าทางเลย

หวังอวิ๋นจึงกล่าวว่า “ครูโรงเรียนไห่เคยพูดว่านักเรียนของเมืองเล็กถึงจะสอบภาษาอังกฤษได้ดี คิดจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารพูดคุยยังยากมาก เพราะว่าพวกเขาทำทั้งหมดเพื่อการสอบ ข้อสอบฟังของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้นับว่าเป็นคะแนนสอบทางการ เธอดูสิ เขาทำข้อสอบไม่ได้เสียสมาธิเลย ถ้าแอบฟังพวกเราคุยไม่มีทางจะคำนวณได้เร็วขนาดนี้”

“ก็ใช่” ไป๋หว่านเอ๋อร์พยักหน้า

ทันใดนั้น หวังอวิ๋นใช้ภาษาอังกฤษเอ่ยอย่างวิตกว่า “เธอว่าที่หูเสี่ยวหนิวพูดว่าพวกเราถึงเมืองหมายเลข 18 ก็จะสามารถหลบจากเฉินเล่อโหยว จะเชื่อได้ไหม”

ไป๋หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่รู้ ตอนนี้ได้แต่เดินไปดูไปทีละก้าว”

สิบนาทีให้หลัง จนกระทั่งสองคนนี้หยุดบทสนทนาลงในที่สุด ชิ่งเฉินจึงได้ค่อย ๆ หยุดปากกา

ตามคาด สี่คนนี้มีศัตรูที่เมืองหมายเลข 7

ตนเองประเมินได้ไม่ผิด

แน่นอนว่าหวังอวิ๋นก็ไม่ได้พูดผิด

ถึงจะเป็นคนอย่างชิ่งเฉินก็ยากมากที่จะคำนวณโจทย์คณิตศาสตร์สุดโหดพลางแอบฟังวิเคราะห์บทสนทนาพลาง

แต่สิ่งที่เขากับคนอื่นไม่แหมือนกันคือ เสียงที่เคยเกิดขึ้นพวกนั้นล้วนบันทึกลงในสมองของเขา

ชีวิตของเขาไม่สามารถย้อนกลับจริง ๆ แต่สามารถรีเพลย์

……………………………………….

หนึ่งจินคือครึ่งกิโลกรัมนะคะ หน่วยวัดอื่นทางจีนใช้ระบบเมตริกเหมือนไทย ยกเว้น น้ำหนักเป็นจิน (แต่คงเป็นเพราะมันแปลงเป็นกิโลง่ายด้วยแหละ) กับพื้นที่เป็นผิง แต่เราก็ใช้ตารางวาเหมือนกันแหละนะ…..

 

* เส้นเบรลล์เป็นสัญลักษณ์บอกผู้พิการทางสายตาว่าธนบัตรใบนี้ราคาเท่าไหร่ ของไทยจะเป็นดอกไม้พิมพ์นูนเหนือตัวเลขอารบิค ปล. นูนน้อยมากจนเราคลำไม่ออก….

**อักษรแฝงเป็นตัวอักษรที่จะสังเกตเห็นเวลาเอียงธนบัตร ของไทยจะเป็นรูปทรงดำ ๆ ตรงกลางใต้สัญลักษณ์ วปร. “รัฐบาลไทย” แล้วก็จำนวนเงินเป็นตัวอักษร อันนี้ดูออกนะ แต่ต้องเอียงดี ๆ เป็นเลขบอกจำนวนเงิน

 

ตอนที่ 55 – ลองเชิงและข่าวใหม่

 

 

เปิดรับโดเนท (ให้ผู้เขียน)

ในที่สุดตอนนี้เราก็หาวิธีโดเนทเงินให้ผู้เขียนได้แล้วค่ะ โดยการผ่าน paypal (สมัยก่อนน่าจะไม่มี option นี้นะ)

หากคุณอยากจะสนับสนุนผู้เขียน (ไม่ใช่เรา) สามารถโอนเงินมาให้เราเพื่อนำไปซื้อ ‘เหรียญ’ ของเว็บ qitian ได้ค่ะ แล้วเราจะเอาเหรียญไปกดสนับสนุนนิยายอีกที (10USD ได้ 6500 เหรียญ)

ขั้นตอนคือ

1. โอนเงินมาที่บัญชี นางสาวนริศา ธรรมวีระพงษ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 434-120214-9 หรือ true wallet id : asiran

2. ระบุในตอนโอนเงินหรือส่งอินบ็อกเฟสบุ๊คมาว่าจะสนับสนุนนิยายเรื่องไหน ถ้าไม่ระบุเราจะจับหารสองระหว่างเรื่องที่เราแปลในขณะนี้ คือ นิยามฯ กับ หนึ่งเซียนฯ

3. เมื่อได้ยอดตามที่กำหนด (10USD ประมาณ 350 บาท) เราจะกดซื้อเหรียญในเว็บ qitian ซึ่งเราลิงก์บัญชีกับ paypal ซึ่งลิงก์กับ true we card ซึ่งลิงก์กับบัญชีธนาคารอีกต่อหนึ่ง และนำเหรียญที่ได้ไปซื้อตอนนิยายหรือว่ากดสนับสนุนนิยายค่ะ

5. ถ้าอยากจะสนับสนุนนิยายที่เราไม่ได้แปลสามารถฝากเราสนับสนุนได้ค่ะด้วยการโอนเงินยอด 400 บาท (หรือ 800/1200 ฯลฯ ที่มันหาร 400 ลงตัว) จากนั้นแจ้งเราทางอินบ็อค แล้วเราก็จะกดสนับสนุนให้ค่ะ เศษเงินที่เหลือจะโอนคืนให้ค่ะ (เฉพาะนิยายที่ลงเว็บ qitian เท่านั้น) แต่สำหรับนิยายที่เราแปลจะ 5 บาท 10 บาทก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเรารวมยอดไปเรื่อย ๆ

ตอบข้อสงสัย

1. โดเนทแล้วได้เข้าห้องลับอ่านก่อนไหม

– ไม่มีห้องลับค่ะ

2. โดเนทแล้วจะแปลเร็วขึ้นไหม

– ไม่ค่ะ ได้เท่านี้แหละค่ะ….

3. เราคิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่

– ไม่ได้คิดค่ะ ทำฟรี

4. โดเนทแล้วได้อะไร

– ได้สนับสนุนผู้เขียนค่ะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+