นิยายจีน]เมื่อครั้งที่ฉันพบว่านางเอกในโพสต์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือฉัน 11

Now you are reading นิยายจีน]เมื่อครั้งที่ฉันพบว่านางเอกในโพสต์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือฉัน Chapter 11 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เต๋าซวี่ขยับตัวเล็กน้อยแต่ริมฝีปากของเธอยังสัมผัสกับใบหน้าของจงหนิงชีอยู่

เหมือนกับขนนก มันช่างบางเบา แต่ก็ทรงพลัง

เหมือนถูกมนต์สะกด จงหนิงชี ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากกระพริบตา

 

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

 

เต๋าซวี่จองมองไม่คลาดสายตา เฝ้านับอยู่เงียบๆ เมื่อจงหนิงชีกระพริบตาไปสิบครั้ง เต๋าซวี่ก็หัวเราะเบาๆ “เธอรู้ไหมถ้าฉันกระพริบตาแบบนั้นฉันจะโดนยายดุว่ามันจะทำให้ฉันป่วย?”

ระหว่างที่พูด เต๋าซวี่ยกมือเธอขึ้นมาจับใบหน้าของจงหนิงชีไว้

จงหนิงชีกลืนน้ำลาย ตาของเธอพล่ามั่วไปหมด เธอที่ยังไม่ได้สติจากความช็อคทำได้แค่ตอบ “อือ”

 

เต๋าซวี่มุ้ยปาก จ้องมองเธอด้วยร้อยยิ้มไม่ได้พูดอะไรต่อ

บรรยากาศนั้นเงียบเชียบ จงหนิงชีไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่น้อย เต๋าซวี่ต้องประคองเธอไว้ตลอดเวลา

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ อาจจะเป็นนาที สองนาที หรือ ห้านาที

 

ดวงตาของจงหนิงชีกลับมาใส่อีกครั้ง เธอเลียริมฝีปากของตัวเองแล้วถาม “เธอรู้ได้ยังไง?”

“อะไร?” เต๋าซวี่ใจลอยนิดหน่อย เธอหลงอยู่กับดวงตาของจงหลิงชี

ดวงตาสีอำพันนั้นช่างน่าหลงไหล

 

แก้มของจงหลิงชีนั้นเปลี่ยนสีไปแล้ว เมื่อได้ยินคำถามของเต๋าซวี่ เธอกระแอมเล็กน้อยแล้วเขาเรื่อง “เธอเห็นโพสต์ได้ยังไง? ฉันจำได้ว่าเธอไม่อ่านอะไรแบบนี้”

“อ่อ” เต๋าซวี่คิดว่ามันตลกดี “เธอสนใจที่ตรงนั้นหรอ?”

จงหลิงชีฟึดฟัดนิดหน่อยแล้วหันหน้าหนี

เต๋าซวี่สายหน้า ดวงตาขยับตามจงหลิงชีไป

สายตาของพวกเราประสานกันอีกครั้ง

แน่นอนจงหลิงชีรู้ว่าเต๋าซวี่พยายามพูดอะไร แต่ตอนนี้เธอกังวล กังวลมากๆ จริงๆแล้วตอนนี้เธอกำลังจิกกางเกงของเธออย่างเลี้ยงไม่ได้

 

มันเงียบเกินไป จงหลิงชีหายใจเข้าออกเพื่อผ่อนคลายตัวเองลง

“จงหลิงชี” เต๋าซี่เรียกเธออีกครั้ง

“ฉันอยู่นี้”

“เธอไม่มีอะไรจะพูดเลยหรอ?”

“ฉัน…” จงหลิงชีลดมือของเธอลงอีกครั้ง ดวงตาของเธอกำลังสั่นคลอน “ใช่”

เต๋าซวี่ยกคิวขึ้น เฝ้ารอประโยคถัดไป

“ฉันชอบเธอ” จงหลิงชีพยายามที่จะควบคุมตัวเองเอาไว้ แต่น้ำหนักของคำพูดนั้นมันหนักอึ่งจนหน้าอกของเธอแทบจะระเบิดออกมา

 

ห้องนั่งเล่นนั้นมีแสงสว่างกำลังดี มันทำให้ทั้งสองคนเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน

ไม่นานตาของทั้งสองคนก็เริ่มแดง

 

เต๋าซวี่หายใจเข้าเสียงดัง ยังคงจ้องมองจงหลิงชีไม่ละสายตา “ดี” เธอหยุดไปหนึ่งอึดใจ “แล้ว…เธอจะเป็นแฟนกับฉันไหม?”

จงหลิงชีแสยะยิ้ม แต่ไม่ตอบตกลงทันที่ “เธอคิดว่าไงหละ?”

“ฉันคิดว่าเธอจะตกลง”

“เธอคิดถูกแล้ว”

 

ทันทีที่เธอพูดจบ จงหลิงชียืนมืออกไปจับคอเสื้อของเต๋าซวี่แล้วดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ มันจบที่พวกเธอทั้งคู่ล้มลงบนโซฟา

โซฟานั้นกว้างมาก และมีพื้นที่มากพอที่จะนอนลงไปโดยไม่ต้องกลัวตก

เต๋าซวี่เกือบจะล้มลงไปคล่อมจงหลิงชี พวกเธอรู้จักกันมานานเกินปี แต่นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธออยู่ใกล้กันขนาดนี้โดยที่ยังมีสติอยู่

ใบหน้าของเต๋าซวี่นั้นฝั่งเข้าไปในไหล่ของเธอ ลมหายใจอุ่นๆไหล่ผ่านผิวของเธอ

จงหลิงชีไม่กล้าหายใจ

ไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังโดนทับอยู่ แต่เพราะความประหม่า

 

หลายวินาทีต่อมา เต๋าซวี่ก็เงยหน้าขึ้น เธอขยับมือไปไว้ที่เอวของจงหนิงชีและค่อยๆขยับให้มันแน่นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นการกอด

จงหนิงชีตัวแข็ง เธอหันหน้ามองเต๋าซวี่ ที่อยู่ใกล้มากๆ เสียงของเธอเหมือนกำลังขอร้องอ้อนว้อน

เธอเปิดปาก “เต๋าซวี่” เธอพูดต่อ “มันจั๊กจี้”

จงหนิงชีเป็นคนบ้าจี้

เต๋าซวี่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วยังใช้สองมือเลิกเสื้อผ้าของอีกฝ่ายขึ้นทำให้ตอนนี้สองมือนั้นได้สัมผัสกับเอวของเธอโดยตรงแล้ว

 

จงหนิงชีหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เต๋าซวี่กระซิบที่ข้างหูของเธอ “นี้คือบทลงโทษของเธอ”

“ฉัน…”

“เธอโพสต์เพื่อสารภาพรัก แต่ไม่มาสารภาพรักกับฉันด้วยตัวเองเนี้ยนะ”

“ถ้าไม่มีโพสต์ของฉันเธอก็ไม่มาหาฉันเหมือนกันนั้นละ”

“…” เต๋าซวี่กระพริบตา แล้วใช้มือขวาหยิกคางของจงหลิงชีเบาๆ

“เป็นอะไรไป? ฉันพูดถูกใช่ไหม?”

เต๋าซวี่จองมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูของจงหนิงชีที่กำลังเถียงเธออยู่

“เธอ…” ผมของเต๋าซวี่ยาวพอที่จะบังไม่ให้จงหนิงชีเห็นเธอแอบกลืนน้ำลาย

“อะไร?” จงหนิงชีทำเป็นไม่รู้เรื่อง

เต๋าซวี่ขำเบาๆ “ปากเก่งนักใช่ไหม?”

 

จงหลิงชีผงะไปนิดหน่อย เธอกำลังจะตอบแต่เต๋าซวี่ไม่ยอมให้เธอมีโอกาส

เต๋าซวี่ขยับตัวเล็กน้อยและกดริมฝีปากของเธอเข้ากับริมฝีปากของจงหนิงชี

พวกเธอพึ่งคบกันได้แค่ 5 นาที มันไม่น่าจะเป็นปัญญาหรอกหรอถ้าพวกเธอข้ามการจับมือถือแขนไปเป็นจูบกันที่ริมฝีปากเลย?

 

นั้นเป็นคำถามที่เต๋าซวี่กำลังคิดอยู่ตอนนี้

และคำตอบก็คือ ไม่มีปัญหาเลยซักนิด

พวกเธอชอบพอกัน พวกเธอจะทำอะไรก็ได้

 

จงหนิงชียังคงสับสน แต่ความอบอุ่นที่เธอสัมผัสได้จากริมฝีปากของเธอบอกเธอว่าตอนนี้ เธอกับเต๋าซวี่กำลังทำอะไรกันอยู่

จมูกของพวกเธอใกล้กันมากจนยากจะบอกว่าใครเป็นเจ้าของพวกมัน

 

เต๋าซวี่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะสูญเสียการควบคุมเมื่ออยู่ใกล้จงหนิงชี มันเป็นความสัมพันธ์แรกของเธอ แน่นอนอยู่แล้วที่เธอจะประหม่า

ปากของพวกเขาประสานกันเกือบสิบวินาที เต๋าซวี่กลืนน้ำลายอีกครั้ง ลังเลว่าเธอจะลุกขึ้นดีไหม

 

มันเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างกายเธอขยับไปก่อนที่เธอจะได้ทันคิด และตอนนี้เธอก็ประหม่ามากๆ

แต่ที่ทำให้เธอประหม่ายิ่งกว่าคือการที่จงหนิงชีเอื่อมมือขึ้นมากอดคอเธอทำให้พวกเธอสองคนเข้าใกล้กันมาขึ้นไปอีก

เต๋าซวี่หรี่ตาแอบมองใบหน้าของจงหลิงชี

 

สายตาของพวกเธอประสานกันอีกครั้ง

ความเขินอายเริ่มปรากฏขึ้นระหว่างพวกเธอ

 

จงหลิงชีหัวเราะ “ดูเหมือนเธอจะไม่เก่งเรื่องพวกนี้สินะ”

เต๋าซวี่ “…”

 

เธอ ‘เต๋าซวี่’ ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ดูถูกกันขนาดนี้มาก่อน!

 

เต๋าซวี่หลับตาลง ตอนแรกเธอจะแค่จูบด้วยริมฝีปากอย่างเดียว แต่หลังจากโดนยั่วยุแบบนั้น เธอสอดลิ้นของเธอเข้าไประหว่างริมฝีปากของอีกฝ่าย

เธอประหม่านิดหน่อย แต่เธอต้องการจะใกล้ชิดกับจงหนิงชีมากกว่านี้

เธอกัดและดูดริมฝีปากของจงหลิงชีเบาๆ ลิ้นของเธออยู่ไม่สุขขยับไปเรื่อย

จนเธอได้เลียริมฝีปากของจงหลิงชี

 

เหมือนหูของพวกเธอไม่ทำงาน พวกเธอไม่ได้ยินลมหายใจของกันและกันด้วยซ้ำ

แต่จงหลิงชีเหมือนจะได้ยินเสียงครางเบาๆ

มันนุ่มละมุนหูและยั่วยวนมาก

 

ปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณ เต๋าซวี่ดันปลายลิ้นของเธอเข้าไปในปากของจงหลิงชีอีกครั้ง

ความคิดของเธอยุ่งเหยิงไปหมด นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับจงหลิงชี

 

เน็ตคาเฟ่ที่พวกเธอได้แวะ ด่านฟ้าที่พวกเธอใช้เวลารวมกัน

เกมที่พวกเธอเล่นด้วยกัน เบียร์ที่พวกเธอดื่มด้วยกัน

 

ขณะที่เต๋าซวี่กำลังนึกถึงอดีต จูบแรกของเธอก็ร้อนแรงขึ้น เธอไม่รู้ว่ามันทำยังไง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายใจได้ยังไง

แต่ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ เธอนั้นมีความสุข

 

หลังจากจูบกันอยู่หลายนาที พวกเธอแยกจากกัน พยายามรักษาลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ

ปากของพวกเธอมันวาว สายตาของพวกเธอเหมอลอย แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุขที่มอบให้กัน

 

“เธอ…” เต๋าซวี่พูด “เธออัพเดตโพสต์นั้นได้นะ”

“หืม” จงหนิงชีลูบผมของเต๋าซวี่ “ให้ฉันบอกว่าไง?”

 

“บอกไปว่า-“

 

“ขอบคุณนะทุกคน ฉันกับเสี่ยวถังเป็นแฟนกันแล้ว”

 

***** อวสาน *****

 

จบแล้ววววววว นิยายจีบแนวยูริน่ารักๆ ที่ผมบังเอิญไปเจอมา แต่กลับติกงอมแง่มเลย

สนุกกันไหมครับ แปลเพลินมากจนลืมวันลืมคืนเลย 11 ตอนผ่านไปไว้ยังกับโกหก แต่ส่วนหนึ่งมันเพราะตอนหนึ่งสั้นมากด้วยครับ

เทียบกับอีกเรื่องที่ผมแปล ประมาณ 3 ตอน ต่อ 1 ตอนเลย

สำหรับผมเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดีครับ วัฒนธรรมจีนต่างกับของญี่ปุ่นหรืออังกฤษเยอะ ทั้งการใช้คำ สำนวน

ผมเองก็ยังรู้สึกว่าแปลออกมาไม่ได้ดีมากพอที่จะเล่าเนื้อเรื่องของ จงหนิงชี กับ เต๋าซวี่ ออกมาได้สมบูรณ์เท่าไหรนัก

ทั้งนี้หวังว่าทุกคนจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะครับ ส่วนผมจะขอตัวไปแปลน้องยูกิต่อนะครับ 

-A Cup of Owls

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

นิยายจีน]เมื่อครั้งที่ฉันพบว่านางเอกในโพสต์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือฉัน 11

Now you are reading นิยายจีน]เมื่อครั้งที่ฉันพบว่านางเอกในโพสต์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือฉัน Chapter 11 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เต๋าซวี่ขยับตัวเล็กน้อยแต่ริมฝีปากของเธอยังสัมผัสกับใบหน้าของจงหนิงชีอยู่

เหมือนกับขนนก มันช่างบางเบา แต่ก็ทรงพลัง

เหมือนถูกมนต์สะกด จงหนิงชี ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากกระพริบตา

 

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

 

เต๋าซวี่จองมองไม่คลาดสายตา เฝ้านับอยู่เงียบๆ เมื่อจงหนิงชีกระพริบตาไปสิบครั้ง เต๋าซวี่ก็หัวเราะเบาๆ “เธอรู้ไหมถ้าฉันกระพริบตาแบบนั้นฉันจะโดนยายดุว่ามันจะทำให้ฉันป่วย?”

ระหว่างที่พูด เต๋าซวี่ยกมือเธอขึ้นมาจับใบหน้าของจงหนิงชีไว้

จงหนิงชีกลืนน้ำลาย ตาของเธอพล่ามั่วไปหมด เธอที่ยังไม่ได้สติจากความช็อคทำได้แค่ตอบ “อือ”

 

เต๋าซวี่มุ้ยปาก จ้องมองเธอด้วยร้อยยิ้มไม่ได้พูดอะไรต่อ

บรรยากาศนั้นเงียบเชียบ จงหนิงชีไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่น้อย เต๋าซวี่ต้องประคองเธอไว้ตลอดเวลา

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ อาจจะเป็นนาที สองนาที หรือ ห้านาที

 

ดวงตาของจงหนิงชีกลับมาใส่อีกครั้ง เธอเลียริมฝีปากของตัวเองแล้วถาม “เธอรู้ได้ยังไง?”

“อะไร?” เต๋าซวี่ใจลอยนิดหน่อย เธอหลงอยู่กับดวงตาของจงหลิงชี

ดวงตาสีอำพันนั้นช่างน่าหลงไหล

 

แก้มของจงหลิงชีนั้นเปลี่ยนสีไปแล้ว เมื่อได้ยินคำถามของเต๋าซวี่ เธอกระแอมเล็กน้อยแล้วเขาเรื่อง “เธอเห็นโพสต์ได้ยังไง? ฉันจำได้ว่าเธอไม่อ่านอะไรแบบนี้”

“อ่อ” เต๋าซวี่คิดว่ามันตลกดี “เธอสนใจที่ตรงนั้นหรอ?”

จงหลิงชีฟึดฟัดนิดหน่อยแล้วหันหน้าหนี

เต๋าซวี่สายหน้า ดวงตาขยับตามจงหลิงชีไป

สายตาของพวกเราประสานกันอีกครั้ง

แน่นอนจงหลิงชีรู้ว่าเต๋าซวี่พยายามพูดอะไร แต่ตอนนี้เธอกังวล กังวลมากๆ จริงๆแล้วตอนนี้เธอกำลังจิกกางเกงของเธออย่างเลี้ยงไม่ได้

 

มันเงียบเกินไป จงหลิงชีหายใจเข้าออกเพื่อผ่อนคลายตัวเองลง

“จงหลิงชี” เต๋าซี่เรียกเธออีกครั้ง

“ฉันอยู่นี้”

“เธอไม่มีอะไรจะพูดเลยหรอ?”

“ฉัน…” จงหลิงชีลดมือของเธอลงอีกครั้ง ดวงตาของเธอกำลังสั่นคลอน “ใช่”

เต๋าซวี่ยกคิวขึ้น เฝ้ารอประโยคถัดไป

“ฉันชอบเธอ” จงหลิงชีพยายามที่จะควบคุมตัวเองเอาไว้ แต่น้ำหนักของคำพูดนั้นมันหนักอึ่งจนหน้าอกของเธอแทบจะระเบิดออกมา

 

ห้องนั่งเล่นนั้นมีแสงสว่างกำลังดี มันทำให้ทั้งสองคนเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน

ไม่นานตาของทั้งสองคนก็เริ่มแดง

 

เต๋าซวี่หายใจเข้าเสียงดัง ยังคงจ้องมองจงหลิงชีไม่ละสายตา “ดี” เธอหยุดไปหนึ่งอึดใจ “แล้ว…เธอจะเป็นแฟนกับฉันไหม?”

จงหลิงชีแสยะยิ้ม แต่ไม่ตอบตกลงทันที่ “เธอคิดว่าไงหละ?”

“ฉันคิดว่าเธอจะตกลง”

“เธอคิดถูกแล้ว”

 

ทันทีที่เธอพูดจบ จงหลิงชียืนมืออกไปจับคอเสื้อของเต๋าซวี่แล้วดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ มันจบที่พวกเธอทั้งคู่ล้มลงบนโซฟา

โซฟานั้นกว้างมาก และมีพื้นที่มากพอที่จะนอนลงไปโดยไม่ต้องกลัวตก

เต๋าซวี่เกือบจะล้มลงไปคล่อมจงหลิงชี พวกเธอรู้จักกันมานานเกินปี แต่นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธออยู่ใกล้กันขนาดนี้โดยที่ยังมีสติอยู่

ใบหน้าของเต๋าซวี่นั้นฝั่งเข้าไปในไหล่ของเธอ ลมหายใจอุ่นๆไหล่ผ่านผิวของเธอ

จงหลิงชีไม่กล้าหายใจ

ไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังโดนทับอยู่ แต่เพราะความประหม่า

 

หลายวินาทีต่อมา เต๋าซวี่ก็เงยหน้าขึ้น เธอขยับมือไปไว้ที่เอวของจงหนิงชีและค่อยๆขยับให้มันแน่นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นการกอด

จงหนิงชีตัวแข็ง เธอหันหน้ามองเต๋าซวี่ ที่อยู่ใกล้มากๆ เสียงของเธอเหมือนกำลังขอร้องอ้อนว้อน

เธอเปิดปาก “เต๋าซวี่” เธอพูดต่อ “มันจั๊กจี้”

จงหนิงชีเป็นคนบ้าจี้

เต๋าซวี่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วยังใช้สองมือเลิกเสื้อผ้าของอีกฝ่ายขึ้นทำให้ตอนนี้สองมือนั้นได้สัมผัสกับเอวของเธอโดยตรงแล้ว

 

จงหนิงชีหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เต๋าซวี่กระซิบที่ข้างหูของเธอ “นี้คือบทลงโทษของเธอ”

“ฉัน…”

“เธอโพสต์เพื่อสารภาพรัก แต่ไม่มาสารภาพรักกับฉันด้วยตัวเองเนี้ยนะ”

“ถ้าไม่มีโพสต์ของฉันเธอก็ไม่มาหาฉันเหมือนกันนั้นละ”

“…” เต๋าซวี่กระพริบตา แล้วใช้มือขวาหยิกคางของจงหลิงชีเบาๆ

“เป็นอะไรไป? ฉันพูดถูกใช่ไหม?”

เต๋าซวี่จองมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูของจงหนิงชีที่กำลังเถียงเธออยู่

“เธอ…” ผมของเต๋าซวี่ยาวพอที่จะบังไม่ให้จงหนิงชีเห็นเธอแอบกลืนน้ำลาย

“อะไร?” จงหนิงชีทำเป็นไม่รู้เรื่อง

เต๋าซวี่ขำเบาๆ “ปากเก่งนักใช่ไหม?”

 

จงหลิงชีผงะไปนิดหน่อย เธอกำลังจะตอบแต่เต๋าซวี่ไม่ยอมให้เธอมีโอกาส

เต๋าซวี่ขยับตัวเล็กน้อยและกดริมฝีปากของเธอเข้ากับริมฝีปากของจงหนิงชี

พวกเธอพึ่งคบกันได้แค่ 5 นาที มันไม่น่าจะเป็นปัญญาหรอกหรอถ้าพวกเธอข้ามการจับมือถือแขนไปเป็นจูบกันที่ริมฝีปากเลย?

 

นั้นเป็นคำถามที่เต๋าซวี่กำลังคิดอยู่ตอนนี้

และคำตอบก็คือ ไม่มีปัญหาเลยซักนิด

พวกเธอชอบพอกัน พวกเธอจะทำอะไรก็ได้

 

จงหนิงชียังคงสับสน แต่ความอบอุ่นที่เธอสัมผัสได้จากริมฝีปากของเธอบอกเธอว่าตอนนี้ เธอกับเต๋าซวี่กำลังทำอะไรกันอยู่

จมูกของพวกเธอใกล้กันมากจนยากจะบอกว่าใครเป็นเจ้าของพวกมัน

 

เต๋าซวี่รู้สึกเหมือนเธอกำลังจะสูญเสียการควบคุมเมื่ออยู่ใกล้จงหนิงชี มันเป็นความสัมพันธ์แรกของเธอ แน่นอนอยู่แล้วที่เธอจะประหม่า

ปากของพวกเขาประสานกันเกือบสิบวินาที เต๋าซวี่กลืนน้ำลายอีกครั้ง ลังเลว่าเธอจะลุกขึ้นดีไหม

 

มันเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างกายเธอขยับไปก่อนที่เธอจะได้ทันคิด และตอนนี้เธอก็ประหม่ามากๆ

แต่ที่ทำให้เธอประหม่ายิ่งกว่าคือการที่จงหนิงชีเอื่อมมือขึ้นมากอดคอเธอทำให้พวกเธอสองคนเข้าใกล้กันมาขึ้นไปอีก

เต๋าซวี่หรี่ตาแอบมองใบหน้าของจงหลิงชี

 

สายตาของพวกเธอประสานกันอีกครั้ง

ความเขินอายเริ่มปรากฏขึ้นระหว่างพวกเธอ

 

จงหลิงชีหัวเราะ “ดูเหมือนเธอจะไม่เก่งเรื่องพวกนี้สินะ”

เต๋าซวี่ “…”

 

เธอ ‘เต๋าซวี่’ ไม่เคยได้ยินคำพูดที่ดูถูกกันขนาดนี้มาก่อน!

 

เต๋าซวี่หลับตาลง ตอนแรกเธอจะแค่จูบด้วยริมฝีปากอย่างเดียว แต่หลังจากโดนยั่วยุแบบนั้น เธอสอดลิ้นของเธอเข้าไประหว่างริมฝีปากของอีกฝ่าย

เธอประหม่านิดหน่อย แต่เธอต้องการจะใกล้ชิดกับจงหนิงชีมากกว่านี้

เธอกัดและดูดริมฝีปากของจงหลิงชีเบาๆ ลิ้นของเธออยู่ไม่สุขขยับไปเรื่อย

จนเธอได้เลียริมฝีปากของจงหลิงชี

 

เหมือนหูของพวกเธอไม่ทำงาน พวกเธอไม่ได้ยินลมหายใจของกันและกันด้วยซ้ำ

แต่จงหลิงชีเหมือนจะได้ยินเสียงครางเบาๆ

มันนุ่มละมุนหูและยั่วยวนมาก

 

ปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณ เต๋าซวี่ดันปลายลิ้นของเธอเข้าไปในปากของจงหลิงชีอีกครั้ง

ความคิดของเธอยุ่งเหยิงไปหมด นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับจงหลิงชี

 

เน็ตคาเฟ่ที่พวกเธอได้แวะ ด่านฟ้าที่พวกเธอใช้เวลารวมกัน

เกมที่พวกเธอเล่นด้วยกัน เบียร์ที่พวกเธอดื่มด้วยกัน

 

ขณะที่เต๋าซวี่กำลังนึกถึงอดีต จูบแรกของเธอก็ร้อนแรงขึ้น เธอไม่รู้ว่ามันทำยังไง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหายใจได้ยังไง

แต่ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ เธอนั้นมีความสุข

 

หลังจากจูบกันอยู่หลายนาที พวกเธอแยกจากกัน พยายามรักษาลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ

ปากของพวกเธอมันวาว สายตาของพวกเธอเหมอลอย แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุขที่มอบให้กัน

 

“เธอ…” เต๋าซวี่พูด “เธออัพเดตโพสต์นั้นได้นะ”

“หืม” จงหนิงชีลูบผมของเต๋าซวี่ “ให้ฉันบอกว่าไง?”

 

“บอกไปว่า-“

 

“ขอบคุณนะทุกคน ฉันกับเสี่ยวถังเป็นแฟนกันแล้ว”

 

***** อวสาน *****

 

จบแล้ววววววว นิยายจีบแนวยูริน่ารักๆ ที่ผมบังเอิญไปเจอมา แต่กลับติกงอมแง่มเลย

สนุกกันไหมครับ แปลเพลินมากจนลืมวันลืมคืนเลย 11 ตอนผ่านไปไว้ยังกับโกหก แต่ส่วนหนึ่งมันเพราะตอนหนึ่งสั้นมากด้วยครับ

เทียบกับอีกเรื่องที่ผมแปล ประมาณ 3 ตอน ต่อ 1 ตอนเลย

สำหรับผมเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดีครับ วัฒนธรรมจีนต่างกับของญี่ปุ่นหรืออังกฤษเยอะ ทั้งการใช้คำ สำนวน

ผมเองก็ยังรู้สึกว่าแปลออกมาไม่ได้ดีมากพอที่จะเล่าเนื้อเรื่องของ จงหนิงชี กับ เต๋าซวี่ ออกมาได้สมบูรณ์เท่าไหรนัก

ทั้งนี้หวังว่าทุกคนจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะครับ ส่วนผมจะขอตัวไปแปลน้องยูกิต่อนะครับ 

-A Cup of Owls

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+