[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ~Cool-kei no kanojo wa genjitsu demo yome no tsumori de iru~ (WN)

ชื่อไทย : ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต

ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง

Chapter : 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด

.

.

.

ณ ห้องเรียนยามเช้าที่เต็มไปด้วยเสียงเอะอะของนักเรียนที่พูดคุยและหัวเราะกันอยู่

ฉันยังคงนั่งประหม่าอยู่บนที่นั่งของตัวเองในห้องเรียน

หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงตึกตักอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน

เพราะด้วยเหตุนี้เองทำให้ฉันไม่เป็นอันกินมื้อเช้าเลย

 

“…”

 

ฉันนั่งอยู่แถวหลังของห้องติดกับหน้าต่างแล้วมองรอบๆไปทั่วห้องเรียน

มีทั้งเด็กผู้หญิงที่เกาะกลุ่มพูดคุยกันอย่างมีความสุขและพวกเด็กผู้ชายจากชมรมกีฬา

และยังมีพวกสาวที่แต่งตัวฉูดฉาดและส่งเสียงดังอยู่ด้วย

แน่นอนว่าฉันสามารถมองเห็นมิซุกิซังที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ฉันหยิบเอาสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง

แล้วเปิดแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทของเกมขึ้นมา

ฉันยังไม่ได้รับข้อความใดๆจากริน…จากมิสึกิซังเพิ่มเลย

ฉันอยากจะส่งข้อความให้เธอ แต่ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะพิมพ์ไปว่าอะไรดี

ฉันอยากได้ข้อความสักอย่างจากเธอ แต่ทุกอย่างยังคงปกติดี

 

ฉันยังคงมองไปที่มิสึกิซังโดยที่ยังคิดเช่นนั้น

เธอยังคงนั่งอยู่ในท่าทางอันสง่างามราวกับนางแบบที่กำลังอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจความวุ่นวายกับสิ่งรอบตัว

มันเป็นหนังสือแบบไหนกันนะ? ฉันสงสัย

มันเป็นสิ่งที่ชั้นคิดเอง แต่ฉันรู้สึกว่ามิสึกิซังอาจจะชอบอ่านหนังสือยากๆที่เขียนโดยนักเขียนต่างประเทศ

ส่วนตัวฉันเองนั้นชอบไลท์โนเวลที่มีเนื้อหาหนักๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอง เมื่อเร็วๆนี้ฉันก็กำลังติดนิยายเว็บ

 

“…มิซุกิซัง”

 

แค่ได้มองแผ่นหลังของเธอก็รู้สึกเยียวยาจิตใจได้

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะเล่นเกมกับมิสึกิซังอยู่

แล้วยังตั้งแต่สมัยม.ต้นอีกต่างหาก…

 

ขณะที่ฉันวางข้อศอกลงบนโต๊ะและจ้องมองมิสึกิซัง ทันใดนั้นเองเธอก็หันกลับมา

พวกเราสบตากัน

 

“——น”

 

หัวใจของฉันกระเด้งออกจากอก

ร่างกายของฉันแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันนี้

 

จากนั้น มิสึกิซังก็โบกมือขวาของเธอเบาๆ โดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ

ฉันโบกมือกลับไปทันที

บางทีเธอคงจะพอใจกับสิ่งนั้นแล้ว มิสึกิซังหันร่างกายกลับไปอีกครั้งและอ่านหนังสือต่อ

 

 

“โอ-โอ้วว…!”

 

ฉันได้โบกมือให้กับไอดอลชื่อดังมิสึกิ รินกะ!

และเราก็สบตากันด้วย!

ฉันประทับใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย

 

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเราสองคน

ถ้าพวกเขาสังเกตเห็นก็คงจะเกิดเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย

ยังไงซะมิสึกิซังก็เป็นถึงไอดอลที่มีข่าวลือว่าเธอจะเกลียดผู้ชาย

พวกเขาคงจะแปลกใจอย่างมากที่พบว่าเธอมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายธรรมดาๆ น่าเบื่อคนนึง

 

“…รินคือมิสึกิซังจริงๆงั้นเหรอ”

 

ฉันได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ปาฏิหาริย์มีอยู่จริงสินะ

 

***

 

คาบเรียนที่สี่ได้จบลงและเข้าสู่เวลาพักทานอาหารกลางวัน

พวกนักเรียนกลุ่มที่กินในโรงอาหารเริ่มลุกขึ้นและออกจากห้องเรียน

 

นักเรียนส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มที่รวมโต๊ะกินกันกับเพื่อนๆ และกลุ่มที่กินอย่างเงียบๆ บนที่นั่งของตัวเอง

ฉันอยู่ในกลุ่มที่กินข้าวกล่องด้วยเช่นกัน แต่ครั้งนี้ฉันมีนัด

 

“โอ้ส อายาโนะโคจิ มากินข้าวกันเถอะ”

“ไง อานาโนะโคจิคุง วันนี้ผมคนนี้ก็มาด้วยอีกเช่นกัน”

 

 

เมื่อฉันลุกออกจากที่นั่ง ก็มีเด็กผู้ชายสองคนก็เดินเข้ามาหา

คนหนึ่งเป็นคนรูปร่างอ้วนและอีกคนเป็นคนที่ดูฉลาดพร้อมกับแว่นตา

 

คนที่อ้วนคือทาจิบานะ และคนที่สวมแว่นตาก็คือไซโตะ

เราสามคนมักจะใช้เวลาพักอยู่ด้วยกันตามปกติ

เป็นสมาชิกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

ฉันประกบมือขึ้นและขอโทษพวกเขา

 

“โทษที แต่วันนี้มีนัดน่ะ”

“หา? พูดอะไรอยู่น่ะ จะมีใครอีกนอกจากพวกเราที่ใช้เวลาพักกลางวันด้วยกันได้น่ะ ไม่มีหรอกไม่ใช่รึไง”

“พูดอะไรออกมาได้น่าโมโหชะมัด…ก็ถึงจะจริงก็เถอะนะ”

“อายาโนะโคจิคุง อย่ามัวเสียเวลาพูดเรื่องแปลกๆกันเลย จากการคำนวณของผมแล้ว พักกลางวันมีเวลาเพียงแค่ 40 นาที ทำไมเราไม่รีบกินกันให้เสร็จๆ แล้วมาคุยกันเรื่องไลท์โนเวลของเดือนนี้กันล่ะ”

 

ไซโตะพูดขณะใช้นิ้วดันแว่นตาขึ้น

…ยังไงก็เถอะ นายไม่จำเป็นต้องคำนวณก็รู้อยู่แล้วว่าพักกลางวันมีแค่ 40 นาทีไม่ใช่หรือไง นายคำนวณอะไรกัน?

 

“ไม่ล่ะ ฉันมีนัดอยู่จริงๆ ฉันไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวก่อน”

 

ทาจิบานะคว้าแขนฉันเอาไว้

เมื่อฉันหันกลับไปแล้วสงสัยว่าทำไม ทาจิบานะก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“คงไม่ใช่…ผู้หญิงหรอกใช่ไหม”

“…”

“เฮ้ อายาโนะโคจิ?”

 

ฉันเงียบเพราะพลังคุกคามประหลาดจากพวกเขา

แม้ว่าทาจิบานะจะอ้วนและตัวเตี้ย แต่สายตาของเขากับดูแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด

ฉันจึงรู้สึกกดดันเล็กน้อย

 

“เดี๋ยวก่อน ทาจิบานะคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่อายาโนะโคจิคุงจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงมีเพียง 0.4% เท่านั้น ไม่ต้องไปถามหรอกน่า”

“เดี๋ยวดิ มันจะต่ำเกินไปแล้วเฟ้ย! แค่การจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงก็สิ้นหวังเกินไปแล้ว…!”

 

อย่างน้อย 10% ก็ยังดีนะ?

ยังมีโอกาสสำหรับฉันที่จะหาเพื่อนเป็นผู้หญิงอยู่ไม่ใช่รึไง

[[ TL Note : อีกไม่นานก็คงหาไม่ได้แล้วล่ะ เมียหวง ]]

 

“งั้น แล้วมีนัดกับใครล่ะ”

“…มิสึกิซัง”

 

ฉันพึมพำด้วยเสียงที่หดเล็กลง

จากนั้นทาจิบานะและไซโตะก็มองหน้ากันแล้วโพล่งหัวเราะกันออกมาอย่างมีความสุข

 

“ฟุ ฮ่าๆๆ! พูดอะไรของนายอยู่น่ะอายาโนะโคจิ! นายกับมิสึกิซังจะกินอาหารกลางวันด้วยกัน!?”

“ก็นะ อืม ฉันโดนชวนไปโรงอาหารด้วยกันน่ะ”

“เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้ยังไงเล่า! ตื่นจากฝันได้แล้วน่า!”

“ใช่แล้วล่ะ อายาโนะโคจิคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่นายจะได้การชวนจากมิสึกิซังมันก็เหมือนกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์นั่นแหละ”

“ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์บ้าอะไร อย่ามาพูดให้ดูฉลาดหน่อยเลยน่า”

[[ TL Note : 天文学的数値 ไม่รู้มันคืออะไร ]]

 

ฉันโดนหัวเราะเยาะเหมือนคนโง่ และทำให้ฉันหงุดหงิด

สักหมัดดีไหมเนี่ย?

 

“ฮ่าๆๆๆๆ อายาโนะโคจิทำให้ฉันหัวเราะมากจริงๆ ฉันจะให้พริกหยวกหนึ่งอันแทนคำขอบคุณละกันนะ”

“ไม่เอาเฟ้ย กินเองสิฟะ”

“ใจเย็นๆก่อนอายาโนะโคจิคุง เดี๋ยวผมยกมะเขือม่วงให้นายแทนนะ”

“โอ้วว จริงหรอ? ขอบคุณนะ—คิดว่าฉันจะพูดงั้นรึไง? พวกนายก็แค่ยัดเยียดของที่ไม่ชอบให้ฉันไม่ใช่รึไงกัน”

 

เจ้าพวกงี่เง่านี่…

แต่ว่าจะไม่เชื่อก็คงจะไม่แปลกล่ะนะ

ฉันเองก็ยังไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง

 

“ขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหมคะ?”

“เอ๊ะ——!”

 

เมื่อฉันถูกเรียกจากด้านหลัง ฉันจึงหันกลับไป

เจ้าของเสียงนั้นคือมิสึกิซัง

เธอกำลังยืนอยู่ด้านหลังของฉันด้วยการแสดงออกทางใบหน้าที่ว่างเปล่าของเธอ จนอาจทำให้บางคนคิดว่าเธอดูเย็นชา

 

“คาสึโตะคุง คุณคงยังไม่ลืมสัญญาของฉันใช่ไหมคะ?”

“ม-ไม่ได้ลืมหรอก กำลังคิดว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“งั้นหรอคะ ถ้าอย่างงั้นก็ดีค่ะ ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่โรงอาหารคนจะเยอะเสียก่อน”

 

มิสึกิซังพูดเช่นนั้นแล้วหันหลังให้เรา จากนั้นก็เดินออกจากห้องเรียนไป

สมกับเป็นไอดอลสุดคูล

การพูดของเธอและการเดินของเธอช่างงดงาม

 

“ฮ-เฮ้ย เฮ้ย…อายาโนะโคจิ…?”

“ม-ไม่จริงน่า…การคำนวณของผม…”

 

ทาจิบานะและไซโตะที่ดูการโต้ตอบของพวกเรากำลังอ้าปากพะงาบๆเหมือนกับปลาทอง

มันเป็นใบหน้าที่ดูงี่เง่ามากๆ

 

“อ-เอ่อ เพราะงั้นแหละนะ ฉัน…ขอตัวก่อนล่ะ”

“อายาโนะโคจิ! ใช้เวทมนต์แบบไหนกัน! ไม่มีทางที่เด็กเนิร์ดติดเกมอย่างนายจะได้ออกไปกินข้าวกลางวันกับไอดอลหรอก!”

“จากการคำนวณของผม พรุ่งนี้ฝนต้องตกแน่ๆ”

“…พวกนายนี่มัน ฝากไว้ก่อนเถอะ”

 

พูดแต่ละคำออกมาได้เจ็บมาก

แล้วก็อย่าเรียกฉันว่าเด็กเนิร์ดนิดเกมนะ

ในตอนนี้ฉันตั้งใจแค่จะให้มันอยู่ในขอบเขตของงานอดิเรกเท่านั้นเอง

 

และเมื่อฉันสังเกตรอบๆ มันไม่ได้ดึงดูดความสนใจเฉพาะของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงนักเรียนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในห้องด้วยเช่นกัน

 

…นี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฉันไม่ชอบที่จะเป็นจุดเด่นเอาซะเลย

 

ฉันรีบตามมิสึกิซังออกไปทันทีราวกับว่าต้องการจะหนีจากตรงนั้น

.

.

.

*———-จบตอน———-*

TL : เอาล่ะครับ ผมยังไม่ตายนะครับ ฮ่าๆ แค่จมกองงานไฟนอลเพิ่งจะผุดหัวออกมาได้ ใช่ครับ แค่ผุดหัว ยังมีงานอยู่อีก TT

**แปลจากอิ้ง+เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ

นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ

ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ อ่านตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่เพจเลย

แปลแบบคนเหงาและง่วง | Facebook

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ~Cool-kei no kanojo wa genjitsu demo yome no tsumori de iru~ (WN)

ชื่อไทย : ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต

ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง

Chapter : 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด

.

.

.

ณ ห้องเรียนยามเช้าที่เต็มไปด้วยเสียงเอะอะของนักเรียนที่พูดคุยและหัวเราะกันอยู่

ฉันยังคงนั่งประหม่าอยู่บนที่นั่งของตัวเองในห้องเรียน

หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงตึกตักอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน

เพราะด้วยเหตุนี้เองทำให้ฉันไม่เป็นอันกินมื้อเช้าเลย

 

“…”

 

ฉันนั่งอยู่แถวหลังของห้องติดกับหน้าต่างแล้วมองรอบๆไปทั่วห้องเรียน

มีทั้งเด็กผู้หญิงที่เกาะกลุ่มพูดคุยกันอย่างมีความสุขและพวกเด็กผู้ชายจากชมรมกีฬา

และยังมีพวกสาวที่แต่งตัวฉูดฉาดและส่งเสียงดังอยู่ด้วย

แน่นอนว่าฉันสามารถมองเห็นมิซุกิซังที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ฉันหยิบเอาสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง

แล้วเปิดแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทของเกมขึ้นมา

ฉันยังไม่ได้รับข้อความใดๆจากริน…จากมิสึกิซังเพิ่มเลย

ฉันอยากจะส่งข้อความให้เธอ แต่ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะพิมพ์ไปว่าอะไรดี

ฉันอยากได้ข้อความสักอย่างจากเธอ แต่ทุกอย่างยังคงปกติดี

 

ฉันยังคงมองไปที่มิสึกิซังโดยที่ยังคิดเช่นนั้น

เธอยังคงนั่งอยู่ในท่าทางอันสง่างามราวกับนางแบบที่กำลังอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจความวุ่นวายกับสิ่งรอบตัว

มันเป็นหนังสือแบบไหนกันนะ? ฉันสงสัย

มันเป็นสิ่งที่ชั้นคิดเอง แต่ฉันรู้สึกว่ามิสึกิซังอาจจะชอบอ่านหนังสือยากๆที่เขียนโดยนักเขียนต่างประเทศ

ส่วนตัวฉันเองนั้นชอบไลท์โนเวลที่มีเนื้อหาหนักๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอง เมื่อเร็วๆนี้ฉันก็กำลังติดนิยายเว็บ

 

“…มิซุกิซัง”

 

แค่ได้มองแผ่นหลังของเธอก็รู้สึกเยียวยาจิตใจได้

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะเล่นเกมกับมิสึกิซังอยู่

แล้วยังตั้งแต่สมัยม.ต้นอีกต่างหาก…

 

ขณะที่ฉันวางข้อศอกลงบนโต๊ะและจ้องมองมิสึกิซัง ทันใดนั้นเองเธอก็หันกลับมา

พวกเราสบตากัน

 

“——น”

 

หัวใจของฉันกระเด้งออกจากอก

ร่างกายของฉันแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันนี้

 

จากนั้น มิสึกิซังก็โบกมือขวาของเธอเบาๆ โดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ

ฉันโบกมือกลับไปทันที

บางทีเธอคงจะพอใจกับสิ่งนั้นแล้ว มิสึกิซังหันร่างกายกลับไปอีกครั้งและอ่านหนังสือต่อ

 

 

“โอ-โอ้วว…!”

 

ฉันได้โบกมือให้กับไอดอลชื่อดังมิสึกิ รินกะ!

และเราก็สบตากันด้วย!

ฉันประทับใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย

 

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเราสองคน

ถ้าพวกเขาสังเกตเห็นก็คงจะเกิดเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย

ยังไงซะมิสึกิซังก็เป็นถึงไอดอลที่มีข่าวลือว่าเธอจะเกลียดผู้ชาย

พวกเขาคงจะแปลกใจอย่างมากที่พบว่าเธอมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายธรรมดาๆ น่าเบื่อคนนึง

 

“…รินคือมิสึกิซังจริงๆงั้นเหรอ”

 

ฉันได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ปาฏิหาริย์มีอยู่จริงสินะ

 

***

 

คาบเรียนที่สี่ได้จบลงและเข้าสู่เวลาพักทานอาหารกลางวัน

พวกนักเรียนกลุ่มที่กินในโรงอาหารเริ่มลุกขึ้นและออกจากห้องเรียน

 

นักเรียนส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มที่รวมโต๊ะกินกันกับเพื่อนๆ และกลุ่มที่กินอย่างเงียบๆ บนที่นั่งของตัวเอง

ฉันอยู่ในกลุ่มที่กินข้าวกล่องด้วยเช่นกัน แต่ครั้งนี้ฉันมีนัด

 

“โอ้ส อายาโนะโคจิ มากินข้าวกันเถอะ”

“ไง อานาโนะโคจิคุง วันนี้ผมคนนี้ก็มาด้วยอีกเช่นกัน”

 

 

เมื่อฉันลุกออกจากที่นั่ง ก็มีเด็กผู้ชายสองคนก็เดินเข้ามาหา

คนหนึ่งเป็นคนรูปร่างอ้วนและอีกคนเป็นคนที่ดูฉลาดพร้อมกับแว่นตา

 

คนที่อ้วนคือทาจิบานะ และคนที่สวมแว่นตาก็คือไซโตะ

เราสามคนมักจะใช้เวลาพักอยู่ด้วยกันตามปกติ

เป็นสมาชิกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

ฉันประกบมือขึ้นและขอโทษพวกเขา

 

“โทษที แต่วันนี้มีนัดน่ะ”

“หา? พูดอะไรอยู่น่ะ จะมีใครอีกนอกจากพวกเราที่ใช้เวลาพักกลางวันด้วยกันได้น่ะ ไม่มีหรอกไม่ใช่รึไง”

“พูดอะไรออกมาได้น่าโมโหชะมัด…ก็ถึงจะจริงก็เถอะนะ”

“อายาโนะโคจิคุง อย่ามัวเสียเวลาพูดเรื่องแปลกๆกันเลย จากการคำนวณของผมแล้ว พักกลางวันมีเวลาเพียงแค่ 40 นาที ทำไมเราไม่รีบกินกันให้เสร็จๆ แล้วมาคุยกันเรื่องไลท์โนเวลของเดือนนี้กันล่ะ”

 

ไซโตะพูดขณะใช้นิ้วดันแว่นตาขึ้น

…ยังไงก็เถอะ นายไม่จำเป็นต้องคำนวณก็รู้อยู่แล้วว่าพักกลางวันมีแค่ 40 นาทีไม่ใช่หรือไง นายคำนวณอะไรกัน?

 

“ไม่ล่ะ ฉันมีนัดอยู่จริงๆ ฉันไปก่อนนะ”

“เดี๋ยวก่อน”

 

ทาจิบานะคว้าแขนฉันเอาไว้

เมื่อฉันหันกลับไปแล้วสงสัยว่าทำไม ทาจิบานะก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“คงไม่ใช่…ผู้หญิงหรอกใช่ไหม”

“…”

“เฮ้ อายาโนะโคจิ?”

 

ฉันเงียบเพราะพลังคุกคามประหลาดจากพวกเขา

แม้ว่าทาจิบานะจะอ้วนและตัวเตี้ย แต่สายตาของเขากับดูแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด

ฉันจึงรู้สึกกดดันเล็กน้อย

 

“เดี๋ยวก่อน ทาจิบานะคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่อายาโนะโคจิคุงจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงมีเพียง 0.4% เท่านั้น ไม่ต้องไปถามหรอกน่า”

“เดี๋ยวดิ มันจะต่ำเกินไปแล้วเฟ้ย! แค่การจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงก็สิ้นหวังเกินไปแล้ว…!”

 

อย่างน้อย 10% ก็ยังดีนะ?

ยังมีโอกาสสำหรับฉันที่จะหาเพื่อนเป็นผู้หญิงอยู่ไม่ใช่รึไง

[[ TL Note : อีกไม่นานก็คงหาไม่ได้แล้วล่ะ เมียหวง ]]

 

“งั้น แล้วมีนัดกับใครล่ะ”

“…มิสึกิซัง”

 

ฉันพึมพำด้วยเสียงที่หดเล็กลง

จากนั้นทาจิบานะและไซโตะก็มองหน้ากันแล้วโพล่งหัวเราะกันออกมาอย่างมีความสุข

 

“ฟุ ฮ่าๆๆ! พูดอะไรของนายอยู่น่ะอายาโนะโคจิ! นายกับมิสึกิซังจะกินอาหารกลางวันด้วยกัน!?”

“ก็นะ อืม ฉันโดนชวนไปโรงอาหารด้วยกันน่ะ”

“เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้ยังไงเล่า! ตื่นจากฝันได้แล้วน่า!”

“ใช่แล้วล่ะ อายาโนะโคจิคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่นายจะได้การชวนจากมิสึกิซังมันก็เหมือนกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์นั่นแหละ”

“ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์บ้าอะไร อย่ามาพูดให้ดูฉลาดหน่อยเลยน่า”

[[ TL Note : 天文学的数値 ไม่รู้มันคืออะไร ]]

 

ฉันโดนหัวเราะเยาะเหมือนคนโง่ และทำให้ฉันหงุดหงิด

สักหมัดดีไหมเนี่ย?

 

“ฮ่าๆๆๆๆ อายาโนะโคจิทำให้ฉันหัวเราะมากจริงๆ ฉันจะให้พริกหยวกหนึ่งอันแทนคำขอบคุณละกันนะ”

“ไม่เอาเฟ้ย กินเองสิฟะ”

“ใจเย็นๆก่อนอายาโนะโคจิคุง เดี๋ยวผมยกมะเขือม่วงให้นายแทนนะ”

“โอ้วว จริงหรอ? ขอบคุณนะ—คิดว่าฉันจะพูดงั้นรึไง? พวกนายก็แค่ยัดเยียดของที่ไม่ชอบให้ฉันไม่ใช่รึไงกัน”

 

เจ้าพวกงี่เง่านี่…

แต่ว่าจะไม่เชื่อก็คงจะไม่แปลกล่ะนะ

ฉันเองก็ยังไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง

 

“ขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหมคะ?”

“เอ๊ะ——!”

 

เมื่อฉันถูกเรียกจากด้านหลัง ฉันจึงหันกลับไป

เจ้าของเสียงนั้นคือมิสึกิซัง

เธอกำลังยืนอยู่ด้านหลังของฉันด้วยการแสดงออกทางใบหน้าที่ว่างเปล่าของเธอ จนอาจทำให้บางคนคิดว่าเธอดูเย็นชา

 

“คาสึโตะคุง คุณคงยังไม่ลืมสัญญาของฉันใช่ไหมคะ?”

“ม-ไม่ได้ลืมหรอก กำลังคิดว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“งั้นหรอคะ ถ้าอย่างงั้นก็ดีค่ะ ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่โรงอาหารคนจะเยอะเสียก่อน”

 

มิสึกิซังพูดเช่นนั้นแล้วหันหลังให้เรา จากนั้นก็เดินออกจากห้องเรียนไป

สมกับเป็นไอดอลสุดคูล

การพูดของเธอและการเดินของเธอช่างงดงาม

 

“ฮ-เฮ้ย เฮ้ย…อายาโนะโคจิ…?”

“ม-ไม่จริงน่า…การคำนวณของผม…”

 

ทาจิบานะและไซโตะที่ดูการโต้ตอบของพวกเรากำลังอ้าปากพะงาบๆเหมือนกับปลาทอง

มันเป็นใบหน้าที่ดูงี่เง่ามากๆ

 

“อ-เอ่อ เพราะงั้นแหละนะ ฉัน…ขอตัวก่อนล่ะ”

“อายาโนะโคจิ! ใช้เวทมนต์แบบไหนกัน! ไม่มีทางที่เด็กเนิร์ดติดเกมอย่างนายจะได้ออกไปกินข้าวกลางวันกับไอดอลหรอก!”

“จากการคำนวณของผม พรุ่งนี้ฝนต้องตกแน่ๆ”

“…พวกนายนี่มัน ฝากไว้ก่อนเถอะ”

 

พูดแต่ละคำออกมาได้เจ็บมาก

แล้วก็อย่าเรียกฉันว่าเด็กเนิร์ดนิดเกมนะ

ในตอนนี้ฉันตั้งใจแค่จะให้มันอยู่ในขอบเขตของงานอดิเรกเท่านั้นเอง

 

และเมื่อฉันสังเกตรอบๆ มันไม่ได้ดึงดูดความสนใจเฉพาะของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงนักเรียนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในห้องด้วยเช่นกัน

 

…นี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฉันไม่ชอบที่จะเป็นจุดเด่นเอาซะเลย

 

ฉันรีบตามมิสึกิซังออกไปทันทีราวกับว่าต้องการจะหนีจากตรงนั้น

.

.

.

*———-จบตอน———-*

TL : เอาล่ะครับ ผมยังไม่ตายนะครับ ฮ่าๆ แค่จมกองงานไฟนอลเพิ่งจะผุดหัวออกมาได้ ใช่ครับ แค่ผุดหัว ยังมีงานอยู่อีก TT

**แปลจากอิ้ง+เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ

นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ

ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ อ่านตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่เพจเลย

แปลแบบคนเหงาและง่วง | Facebook

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+