[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 8 ไปทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น?

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 8 ไปทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉันถูกพาตัวไปบันไดทางขึ้นชั้นดาดฟ้า

มันเป็นสถานที่ที่คนไม่นิยมมาและยากที่จะได้ยินบทสนทนา

ฉันคิดว่าถ้าเป็นที่นี่คงไม่มีใครสังเกต

 

“อ๊ะ คาสึคุงล่ะ! ไม่ได้เจอกันนานเลยสิน้า!”

 

เมื่อสังเกตเห็นฉัน คุรุมิซากะซังก็กระโดดลงจากบันไดลงมาที่ต่ำ

ทันใดนั้นเอง กระโปรงของเธอก็เปิดขึ้น—ฉันรีบเบือนหน้าหนีทันที

 

“หืม? เป็นอะไรไปงั้นเหรอ คาสึคุง?”

“ม-ไม่มีอะไรหรอก”

“งั้นเหรอ ขอบคุณที่เหนื่อยเดินมาไกลนะ คาสึคุง!”

 

คุรุมิซากะซังที่ใบหน้าเปี่ยมเต็มไปด้วยความสุข จับมือฉันอย่างแรง

น-นุ่มชะมัด…

ฉันเพลิดเพลินไปกับความสุขนี้โดยไม่ต้องพึ่งบัตรจับมือ

 

“เท่านี้ฉันก็หมดหน้าที่แล้วสินะ~”

“อื้ม ขอบคุณนะโคโตเนะจัง!”

 

แล้วเด็กสาวที่ชื่อโคโตเนะก็กำลังจากไป

ก่อนหน้านั้น เธอหันกลับมามองคุรุมิซากะซังแล้วพูดออกไป

 

“อา~ คิดว่าบางทีเขาอาจจะเป็นเด็กที่จริงใจและใจดีนะ”

“อื้ม ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ?”

 

คุรุมิซากะซังตอบโต้ราวกับมันเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว

แล้วเธอก็ยังคงจับมือฉันอยู่อย่างนั้น…!

 

“หืมม อย่างงี้เองสินะ”

 

เด็กสาวที่ชื่อโคโตเนะหันหน้ามามองฉันราวกับว่าเธอกำลังประเมินฉันอยู่

มันค่อนข้างอึดอัด

จากนั้นครู่หนึ่ง โคโตเนะดูเหมือนจะมั่นใจอะไรบางอย่าง และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะลงบันไดแล้วหายไป

 

“ม-เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ”

“นั่นสินะ ฉันคิดว่าโคโตเนะจังคงพูดและกระทำลงไปโดยไม่มีเหตุผลหรอก เพราะงั้นเราคงไม่ต้องไปใส่ใจมากเกินไปหรอกนะ”

 

ถึงฉันจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่ถ้าคุรุมิซากะซังพูดอย่างงั้น ฉันก็จะลืมๆมันไปละกัน

…อย่างไรก็ตาม

 

“เอ่ออ คุรุมิซากะซัง…?”

 

ฉันมองลงไปยังมือที่ยังคงประสานกันอยู่แล้วทำท่าทางสับสน

ความเขินอายของฉันมันมีมากยิ่งกว่าความสุข

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ! อุ…”

 

คุรุมิซากะซังที่แก้มถูกย้อมไปด้วยสีแดงถอยหลังออกไป

ฉันคิดว่าบนหน้าของฉันตอนนี้ก็คงอาจจะลักษณะคล้ายๆกัน

 

“…แล้ว คุรุมิซากะซังมีธุระอะไรงั้นเหรอ”

“อ๊ะ อืม คือว่านะ…มีเรื่องจะขอร้องคาสึคุงหน่อยน่ะ”

“เรื่องขอร้อง?”

 

เรื่องอะไรกันนะ

ฉันไม่คิดว่าเด็กเนิร์ดติดเกมอย่างฉันจะสามารถเติมเต็มคำขอของไอดอลได้เลย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันถูกขอร้องให้ซื้อแผ่น CD ร้อยแผ่นพร้อมกับบัตรจับมือล่ะ…

ฉันรอให้คุรุมิซากะซังพูดขณะทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล

 

“ได้โปรด…ช่วยสนิทกับรินจังให้มากขึ้นด้วยค่ะ!”

 

คุรุมิซากะซังพูดเช่นนั้น แล้วก้มหัวลงอย่างขึงขัง

 

“ช่วยสนิทกันเนี่ย…ฉันคิดว่ามิสึกิซังกับฉันสนิทกันดีในเกมออนไลน์อยู่นะ”

“ไม่ใช่อย่างงั้น ฉันอยากให้สนิทกันในชีวิตจริงด้วย ไม่ใช่แค่เพียงในเกมน่ะ”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ…”

 

ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะคุยกับมิสึกิซังทุกวัน

แต่ว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

 

“แน่นอน พวกเราเป็นไอดอล ดังนั้นหากเราสนิทกับผู้ชายคนไหนโดยเฉพาะล่ะก็มันจะเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย”

“คิดว่าคงไม่น่าจะแค่นิดหน่อยหรอก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันกับมิสึกิซังถึงตัดสินใจไม่คุยกันที่โรงเรียน”

“อย่างนี้เองสินะ เพราะงั้นรินจังถึงดูมีความสุขแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหงาสินะ”

“…?”

 

มีความสุขแต่ดูเหงาหงอย?

เป็นการแสดงออกที่ฉันไม่เข้าใจเลยนะ

 

“คาสึคุงช่วยเข้าหารินจังหน่อยได้รึเปล่า? ฉันคิดว่ารินจังคงจะมีความสุขมากแน่ๆ”

“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะทำอย่างงั้น…แต่ถ้าฉันพูดคุยอย่างสนิทสนมกับเธอในที่สาธารณะล่ะก็ มันจะเป็นข่าวลือในโรงเรียนหรือในที่สาธารณะไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าอย่างงั้น…ก็สนิทสนมกันในที่ลับๆไม่ให้ทุกคนจับได้ก็พอนี่!”

“เอ๋…”

 

ดวงตาของคุรุมิซากะซังเปล่งประกายราวกับนึกไอเดียดีๆออก

ฉันไม่สามารถที่จะซ่อนความสับสนของตัวเองได้ต่อแรงผลักดันอันลึกลับของเธอ

 

“หรือคาสึคุงจะเกลียดรินจังอย่างนั้นเหรอ?”

“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก…”

“ได้โปรด! ขอร้องล่ะช่วยสนิทกับรินจังที!”

 

คุรุมิซากะซังขอร้องฉันอย่างสิ้นหวัง

เมื่อเห็นเธอแบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจถามคำถามง่ายๆกับเธอออกไป

 

“…ทำไมคุรุมิซากะซังถึงอยากให้ฉันกับมิสึกิซังสนิทกันล่ะ?”

 

จากจุดยืนของไอดอลแล้วมันเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เธอก็ให้เงินฉันแล้วพูดว่า “ออกไปห่างๆจากรินซะ” ยังดีกว่าเลยไม่ใช่เหรอ?

มันอาจจะเป็นความคิดที่เกินจริงไปหน่อย แต่ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะจัดการกับปัญหาของไอดอลกับผู้ชายอย่างละเอียดอ่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคนี้

 

“ค-คือว่าเรื่องนั้น…ควรจะบอกว่าฉันบอกไม่ได้หรือมันต้องห้ามบอกดีล่ะ…”

 

เมื่อเธอละสายตาไปจากฉัน คุรุมิซากะซังก็เอานิ้วมือทั้งสองข้างของเธอชนเข้าหากันอย่างงุ่มง่าม

 

“มิสึกิซังเป็นคนขอให้เธอทำงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ! รินจังไม่เกี่ยวอะไรเลย! ฉันแค่ทำด้วยตัวของฉันเองน่ะ!”

“อ๊ะ งั้นเองเหรอ”

 

เธอปฏิเสธอย่างหนัก เธอดูร้อนรนนิดหน่อย

 

“ฉันน่ะนะ อยากให้รินจังมีความสุขมากกว่านี้น่ะ เพราะเธอได้ผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้…”

“…”

 

เธอไม่ได้หมายความถึงในฐานะของไอดอลนักเรียน

ฉันรู้สึกว่าเธอใช้คำว่า “ยากลำบาก” ในทิศทางที่ต่างออกไป

 

“ฉันอยากให้รินจังน่ะ มีความสุขทั้งในฐานะไอดอล และในฐานะของเด็กผู้หญิงคนนึง ฉันไม่อยากให้เธอเลือกยอมแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง”

“งั้นเองสินะ…”

 

ฉันยังไม่เข้าใจสถานการณ์เลย

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกอันจริงจังของคุรุมิซากะซังก็ได้ส่งผ่านมายังหัวใจของฉันอย่างเจ็บปวด

 

“ช่วยสนิทกับรินจังในชีวิตจริงด้วยได้ไหม?”

“อา อืม…ฉันหวังว่าฉันจะสนิทและได้รู้จักกับตัวตนของมิสึกิซังมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้นะ…”

“ได้จริงเหรอ? โล่งอกไปที”

 

คุรุมิซากะซังถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอเป็นห่วงมิสึกิซังมากจริงๆ

 

“แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ ถึงจะสนิทกับมิสึกิซังได้น่ะ?”

“เอ่อ…ก่อนอื่นฉันคิดว่าควรจะเปลี่ยนวิธีเรียกเธอก่อนนะ?”

“วิธีเรียก?”

“อืม ที่จริงแล้วนะ รินจังไม่ชอบให้คาสึคุงเรียกเธอเหมือนคนแปลกหน้าน่ะ”

“เอ๊ะ อย่างงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้วล่ะ เพราะงั้นจะดีกว่าถ้าคาสึคุงเรียกเธอว่ารินกะ”

“เอาจริงดิ? เดี๋ยวนะ แต่นั่นมัน…”

 

มันเป็นอุปสรรคสูงมาก

อย่างที่ฉันเคยพูดกับทาจิบานะและไซโตะ ฉันไม่มีความกล้าพอที่จะทำแบบนั้น

 

“ประหม่าจริงด้วยสินะ?”

“อืม ใช่แล้วล่ะ”

 

ทำไมฉันถึงทำไม่ได้?

แค่คิดใจฉันก็เต้นแรงแล้ว

 

“ถ้างั้นวันเสาร์หน้าคงเป็นโอกาสดี ฉันคิดว่าควรเริ่มจากการเรียกชื่อจากในโลกของเกมก่อน แล้วค่อยชินกับในชีวิตจริงไป”

“จะไหวไหมนะ…?”

 

มันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเรียกว่า ‘ริน’ กับ ‘รินกะ’

ความสำคัญมันต่างกัน

 

“ฉันจะตามไปด้วย เพราะงั้นพยายามให้ดีที่สุดเพื่อเรียกรินจังด้วยชื่อให้ได้นะ!”

“…เข้าใจแล้ว”

 

ฉันพยักหน้ายอมรับให้กับคุรุมิซากะซังซึ่งพูดแกมบังคับเล็กน้อย

การกดดันบังคับแบบนี้ช่างคล้ายกับมิสึกิซัง

 

“ขอบคุณนะคาสึคุง! สมแล้วล่ะนะ!”

“…คุรุมิซากะซังเนี่ย แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคาดไว้อีกนะ…”

 

สิ่งที่ฉันถูกขอร้องคือการเป็นเพื่อนสนิทที่แท้จริงของมิสึกิซัง

[[ TL : ไม่ใช่โว้ย ]]

ฉันมีงานอดิเรกทั่วไปอย่างเกมออนไลน์ ดังนั้นฉันจึงอยากจะเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก

 

“อย่างที่ว่าแหละคาสึคุง เพราะงั้นได้โปรดแลกข้อมูลติดต่อกับฉันด้วยเถอะค่ะ”

“เอ๊ะ จะดีเหรอ?”

“แน่นอนสิ! เพื่อให้รินจังกับคาสึคุงอยู่ด้วยกัน—ไม่ใช่สิ เราต้องหารือกลยุทธ์สำหรับให้ทั้งสองคนสนิทกันได้ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นฉันคิดว่าการรู้ข้อมูลติดต่อของกันและกันจะสะดวกกว่า แน่นอนว่าเราต้องห้ามไม่ให้รินจังรู้เรื่องนี้เข้าเด็ดขาดเลย”

“อืม จริงด้วยนะ…”

 

ถ้ามิสึกิซังรู้เกี่ยวกับการประชุมลับนี้เข้า เธอคงจะโกรธแน่นอน

ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับเพื่อปกป้องจุดยืนของคุรุมิซากะซังด้วย

 

“งั้นเรามาแลกข้อมูลติดต่อกันเลยไหม”

 

ฉันหยิบสมาร์ทโฟนออกมาตามที่เธอบอก

เราแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกันสำเร็จโดยไม่ติดขัดอะไร

 

“ดีล่ะ เท่านี้ก็โอเคแล้วสินะ!”

 

ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลติดต่อของสองไอดอลสุดฮอตจึงถูกบันทึกลงในสมาร์ทโฟนของฉันแล้ว

…สมาร์ทโฟนเครื่องนี้อาจจะมีมูลค่ามากที่สุดในโลกแล้วก็ได้

 

“ภารกิจเพื่อมิตรภาพที่ดีของรินจังและคาสึคุงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

“…อ-โอ้วว?”

 

อะไรกันนะ แบบนี้

รู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบไปด้วยคูเมือง

ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไร ฉันรู้สึกเหมือนว่าคุรุมิซากะซังบังคับให้มีส่วนร่วมด้วยแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามันจะทำให้ฉันได้รู้จักตัวตนของมิสึกิซังมากกว่าที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ฉันก็มีความสุข

ปัญหาคือถ้าคนทั่วไปรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็…

 

โชคยังดีที่เรามีโลกธรรมดาที่แยกออกมาจากโลกแห่งความเป็นจริงอยู่

มันจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดลงไป

 

***

 

ช่วงเย็นของวันเดียวกัน

มิสึกิซังโทรหาฉันตอนที่ฉันกำลังเล่นเกมออนไลน์อยู่ที่บ้าน

 

“…?”

 

ในขณะที่ฉันคิดว่าหายากที่เธอจะโทรมา ฉันก็หยุดขุดเหมืองแล้วหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา

 

“ฮัลโหล”

“ฮัลโหล คาสึโตะคุงใช่ไหม? ขอโทษนะที่จู่ๆก็โทรมาอย่างกระทันหัน”

“ไม่หรอก ไม่เป็นไรหรอก”

 

นอกจากเสียงของมิสึกิซังแล้ว ฉันยังได้ยินเสียงของเด็กสาวที่พูดคุยกันอย่างคึกคักเบาๆจากสมาร์ทโฟนของฉันด้วย

เป็นเสียงที่มีคุณภาพเหมือนไอดอล

มิสึกิซังโทรหาฉันระหว่างกำลังทำงานงั้นเหรอ?

 

“เวลาพักใกล้จะหมดแล้ว เพราะงั้นคงคุยนานไม่ได้ก็เถอะ แต่…ฉันมีเรื่องนึงที่อยากจะถามคาสึโตะคุงให้ได้อยู่”

“อะไรงั้นเหรอ?”

 

ฉันตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

…แต่นั่นกลับกลายความผิดพลาด

มิสึกิซังถามคำถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำเย็นยะเยือกต่างจากเธอตามปกติ

 

“—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในช่วงพักของวันนี้งั้นเหรอ?”

.

.

.

*———-จบตอน———-*

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 8 ไปทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น?

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 8 ไปทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉันถูกพาตัวไปบันไดทางขึ้นชั้นดาดฟ้า

มันเป็นสถานที่ที่คนไม่นิยมมาและยากที่จะได้ยินบทสนทนา

ฉันคิดว่าถ้าเป็นที่นี่คงไม่มีใครสังเกต

 

“อ๊ะ คาสึคุงล่ะ! ไม่ได้เจอกันนานเลยสิน้า!”

 

เมื่อสังเกตเห็นฉัน คุรุมิซากะซังก็กระโดดลงจากบันไดลงมาที่ต่ำ

ทันใดนั้นเอง กระโปรงของเธอก็เปิดขึ้น—ฉันรีบเบือนหน้าหนีทันที

 

“หืม? เป็นอะไรไปงั้นเหรอ คาสึคุง?”

“ม-ไม่มีอะไรหรอก”

“งั้นเหรอ ขอบคุณที่เหนื่อยเดินมาไกลนะ คาสึคุง!”

 

คุรุมิซากะซังที่ใบหน้าเปี่ยมเต็มไปด้วยความสุข จับมือฉันอย่างแรง

น-นุ่มชะมัด…

ฉันเพลิดเพลินไปกับความสุขนี้โดยไม่ต้องพึ่งบัตรจับมือ

 

“เท่านี้ฉันก็หมดหน้าที่แล้วสินะ~”

“อื้ม ขอบคุณนะโคโตเนะจัง!”

 

แล้วเด็กสาวที่ชื่อโคโตเนะก็กำลังจากไป

ก่อนหน้านั้น เธอหันกลับมามองคุรุมิซากะซังแล้วพูดออกไป

 

“อา~ คิดว่าบางทีเขาอาจจะเป็นเด็กที่จริงใจและใจดีนะ”

“อื้ม ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ?”

 

คุรุมิซากะซังตอบโต้ราวกับมันเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว

แล้วเธอก็ยังคงจับมือฉันอยู่อย่างนั้น…!

 

“หืมม อย่างงี้เองสินะ”

 

เด็กสาวที่ชื่อโคโตเนะหันหน้ามามองฉันราวกับว่าเธอกำลังประเมินฉันอยู่

มันค่อนข้างอึดอัด

จากนั้นครู่หนึ่ง โคโตเนะดูเหมือนจะมั่นใจอะไรบางอย่าง และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะลงบันไดแล้วหายไป

 

“ม-เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ”

“นั่นสินะ ฉันคิดว่าโคโตเนะจังคงพูดและกระทำลงไปโดยไม่มีเหตุผลหรอก เพราะงั้นเราคงไม่ต้องไปใส่ใจมากเกินไปหรอกนะ”

 

ถึงฉันจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่ถ้าคุรุมิซากะซังพูดอย่างงั้น ฉันก็จะลืมๆมันไปละกัน

…อย่างไรก็ตาม

 

“เอ่ออ คุรุมิซากะซัง…?”

 

ฉันมองลงไปยังมือที่ยังคงประสานกันอยู่แล้วทำท่าทางสับสน

ความเขินอายของฉันมันมีมากยิ่งกว่าความสุข

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ! อุ…”

 

คุรุมิซากะซังที่แก้มถูกย้อมไปด้วยสีแดงถอยหลังออกไป

ฉันคิดว่าบนหน้าของฉันตอนนี้ก็คงอาจจะลักษณะคล้ายๆกัน

 

“…แล้ว คุรุมิซากะซังมีธุระอะไรงั้นเหรอ”

“อ๊ะ อืม คือว่านะ…มีเรื่องจะขอร้องคาสึคุงหน่อยน่ะ”

“เรื่องขอร้อง?”

 

เรื่องอะไรกันนะ

ฉันไม่คิดว่าเด็กเนิร์ดติดเกมอย่างฉันจะสามารถเติมเต็มคำขอของไอดอลได้เลย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันถูกขอร้องให้ซื้อแผ่น CD ร้อยแผ่นพร้อมกับบัตรจับมือล่ะ…

ฉันรอให้คุรุมิซากะซังพูดขณะทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล

 

“ได้โปรด…ช่วยสนิทกับรินจังให้มากขึ้นด้วยค่ะ!”

 

คุรุมิซากะซังพูดเช่นนั้น แล้วก้มหัวลงอย่างขึงขัง

 

“ช่วยสนิทกันเนี่ย…ฉันคิดว่ามิสึกิซังกับฉันสนิทกันดีในเกมออนไลน์อยู่นะ”

“ไม่ใช่อย่างงั้น ฉันอยากให้สนิทกันในชีวิตจริงด้วย ไม่ใช่แค่เพียงในเกมน่ะ”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ…”

 

ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะคุยกับมิสึกิซังทุกวัน

แต่ว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

 

“แน่นอน พวกเราเป็นไอดอล ดังนั้นหากเราสนิทกับผู้ชายคนไหนโดยเฉพาะล่ะก็มันจะเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย”

“คิดว่าคงไม่น่าจะแค่นิดหน่อยหรอก นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันกับมิสึกิซังถึงตัดสินใจไม่คุยกันที่โรงเรียน”

“อย่างนี้เองสินะ เพราะงั้นรินจังถึงดูมีความสุขแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหงาสินะ”

“…?”

 

มีความสุขแต่ดูเหงาหงอย?

เป็นการแสดงออกที่ฉันไม่เข้าใจเลยนะ

 

“คาสึคุงช่วยเข้าหารินจังหน่อยได้รึเปล่า? ฉันคิดว่ารินจังคงจะมีความสุขมากแน่ๆ”

“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะทำอย่างงั้น…แต่ถ้าฉันพูดคุยอย่างสนิทสนมกับเธอในที่สาธารณะล่ะก็ มันจะเป็นข่าวลือในโรงเรียนหรือในที่สาธารณะไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าอย่างงั้น…ก็สนิทสนมกันในที่ลับๆไม่ให้ทุกคนจับได้ก็พอนี่!”

“เอ๋…”

 

ดวงตาของคุรุมิซากะซังเปล่งประกายราวกับนึกไอเดียดีๆออก

ฉันไม่สามารถที่จะซ่อนความสับสนของตัวเองได้ต่อแรงผลักดันอันลึกลับของเธอ

 

“หรือคาสึคุงจะเกลียดรินจังอย่างนั้นเหรอ?”

“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นหรอก…”

“ได้โปรด! ขอร้องล่ะช่วยสนิทกับรินจังที!”

 

คุรุมิซากะซังขอร้องฉันอย่างสิ้นหวัง

เมื่อเห็นเธอแบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจถามคำถามง่ายๆกับเธอออกไป

 

“…ทำไมคุรุมิซากะซังถึงอยากให้ฉันกับมิสึกิซังสนิทกันล่ะ?”

 

จากจุดยืนของไอดอลแล้วมันเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เธอก็ให้เงินฉันแล้วพูดว่า “ออกไปห่างๆจากรินซะ” ยังดีกว่าเลยไม่ใช่เหรอ?

มันอาจจะเป็นความคิดที่เกินจริงไปหน่อย แต่ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะจัดการกับปัญหาของไอดอลกับผู้ชายอย่างละเอียดอ่อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคนี้

 

“ค-คือว่าเรื่องนั้น…ควรจะบอกว่าฉันบอกไม่ได้หรือมันต้องห้ามบอกดีล่ะ…”

 

เมื่อเธอละสายตาไปจากฉัน คุรุมิซากะซังก็เอานิ้วมือทั้งสองข้างของเธอชนเข้าหากันอย่างงุ่มง่าม

 

“มิสึกิซังเป็นคนขอให้เธอทำงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ! รินจังไม่เกี่ยวอะไรเลย! ฉันแค่ทำด้วยตัวของฉันเองน่ะ!”

“อ๊ะ งั้นเองเหรอ”

 

เธอปฏิเสธอย่างหนัก เธอดูร้อนรนนิดหน่อย

 

“ฉันน่ะนะ อยากให้รินจังมีความสุขมากกว่านี้น่ะ เพราะเธอได้ผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้…”

“…”

 

เธอไม่ได้หมายความถึงในฐานะของไอดอลนักเรียน

ฉันรู้สึกว่าเธอใช้คำว่า “ยากลำบาก” ในทิศทางที่ต่างออกไป

 

“ฉันอยากให้รินจังน่ะ มีความสุขทั้งในฐานะไอดอล และในฐานะของเด็กผู้หญิงคนนึง ฉันไม่อยากให้เธอเลือกยอมแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง”

“งั้นเองสินะ…”

 

ฉันยังไม่เข้าใจสถานการณ์เลย

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกอันจริงจังของคุรุมิซากะซังก็ได้ส่งผ่านมายังหัวใจของฉันอย่างเจ็บปวด

 

“ช่วยสนิทกับรินจังในชีวิตจริงด้วยได้ไหม?”

“อา อืม…ฉันหวังว่าฉันจะสนิทและได้รู้จักกับตัวตนของมิสึกิซังมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้นะ…”

“ได้จริงเหรอ? โล่งอกไปที”

 

คุรุมิซากะซังถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอเป็นห่วงมิสึกิซังมากจริงๆ

 

“แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ ถึงจะสนิทกับมิสึกิซังได้น่ะ?”

“เอ่อ…ก่อนอื่นฉันคิดว่าควรจะเปลี่ยนวิธีเรียกเธอก่อนนะ?”

“วิธีเรียก?”

“อืม ที่จริงแล้วนะ รินจังไม่ชอบให้คาสึคุงเรียกเธอเหมือนคนแปลกหน้าน่ะ”

“เอ๊ะ อย่างงั้นเหรอ?”

“ใช่แล้วล่ะ เพราะงั้นจะดีกว่าถ้าคาสึคุงเรียกเธอว่ารินกะ”

“เอาจริงดิ? เดี๋ยวนะ แต่นั่นมัน…”

 

มันเป็นอุปสรรคสูงมาก

อย่างที่ฉันเคยพูดกับทาจิบานะและไซโตะ ฉันไม่มีความกล้าพอที่จะทำแบบนั้น

 

“ประหม่าจริงด้วยสินะ?”

“อืม ใช่แล้วล่ะ”

 

ทำไมฉันถึงทำไม่ได้?

แค่คิดใจฉันก็เต้นแรงแล้ว

 

“ถ้างั้นวันเสาร์หน้าคงเป็นโอกาสดี ฉันคิดว่าควรเริ่มจากการเรียกชื่อจากในโลกของเกมก่อน แล้วค่อยชินกับในชีวิตจริงไป”

“จะไหวไหมนะ…?”

 

มันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเรียกว่า ‘ริน’ กับ ‘รินกะ’

ความสำคัญมันต่างกัน

 

“ฉันจะตามไปด้วย เพราะงั้นพยายามให้ดีที่สุดเพื่อเรียกรินจังด้วยชื่อให้ได้นะ!”

“…เข้าใจแล้ว”

 

ฉันพยักหน้ายอมรับให้กับคุรุมิซากะซังซึ่งพูดแกมบังคับเล็กน้อย

การกดดันบังคับแบบนี้ช่างคล้ายกับมิสึกิซัง

 

“ขอบคุณนะคาสึคุง! สมแล้วล่ะนะ!”

“…คุรุมิซากะซังเนี่ย แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคาดไว้อีกนะ…”

 

สิ่งที่ฉันถูกขอร้องคือการเป็นเพื่อนสนิทที่แท้จริงของมิสึกิซัง

[[ TL : ไม่ใช่โว้ย ]]

ฉันมีงานอดิเรกทั่วไปอย่างเกมออนไลน์ ดังนั้นฉันจึงอยากจะเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก

 

“อย่างที่ว่าแหละคาสึคุง เพราะงั้นได้โปรดแลกข้อมูลติดต่อกับฉันด้วยเถอะค่ะ”

“เอ๊ะ จะดีเหรอ?”

“แน่นอนสิ! เพื่อให้รินจังกับคาสึคุงอยู่ด้วยกัน—ไม่ใช่สิ เราต้องหารือกลยุทธ์สำหรับให้ทั้งสองคนสนิทกันได้ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นฉันคิดว่าการรู้ข้อมูลติดต่อของกันและกันจะสะดวกกว่า แน่นอนว่าเราต้องห้ามไม่ให้รินจังรู้เรื่องนี้เข้าเด็ดขาดเลย”

“อืม จริงด้วยนะ…”

 

ถ้ามิสึกิซังรู้เกี่ยวกับการประชุมลับนี้เข้า เธอคงจะโกรธแน่นอน

ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับเพื่อปกป้องจุดยืนของคุรุมิซากะซังด้วย

 

“งั้นเรามาแลกข้อมูลติดต่อกันเลยไหม”

 

ฉันหยิบสมาร์ทโฟนออกมาตามที่เธอบอก

เราแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกันสำเร็จโดยไม่ติดขัดอะไร

 

“ดีล่ะ เท่านี้ก็โอเคแล้วสินะ!”

 

ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลติดต่อของสองไอดอลสุดฮอตจึงถูกบันทึกลงในสมาร์ทโฟนของฉันแล้ว

…สมาร์ทโฟนเครื่องนี้อาจจะมีมูลค่ามากที่สุดในโลกแล้วก็ได้

 

“ภารกิจเพื่อมิตรภาพที่ดีของรินจังและคาสึคุงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

“…อ-โอ้วว?”

 

อะไรกันนะ แบบนี้

รู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบไปด้วยคูเมือง

ก่อนที่ฉันจะได้คิดอะไร ฉันรู้สึกเหมือนว่าคุรุมิซากะซังบังคับให้มีส่วนร่วมด้วยแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามันจะทำให้ฉันได้รู้จักตัวตนของมิสึกิซังมากกว่าที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ฉันก็มีความสุข

ปัญหาคือถ้าคนทั่วไปรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็…

 

โชคยังดีที่เรามีโลกธรรมดาที่แยกออกมาจากโลกแห่งความเป็นจริงอยู่

มันจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดลงไป

 

***

 

ช่วงเย็นของวันเดียวกัน

มิสึกิซังโทรหาฉันตอนที่ฉันกำลังเล่นเกมออนไลน์อยู่ที่บ้าน

 

“…?”

 

ในขณะที่ฉันคิดว่าหายากที่เธอจะโทรมา ฉันก็หยุดขุดเหมืองแล้วหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา

 

“ฮัลโหล”

“ฮัลโหล คาสึโตะคุงใช่ไหม? ขอโทษนะที่จู่ๆก็โทรมาอย่างกระทันหัน”

“ไม่หรอก ไม่เป็นไรหรอก”

 

นอกจากเสียงของมิสึกิซังแล้ว ฉันยังได้ยินเสียงของเด็กสาวที่พูดคุยกันอย่างคึกคักเบาๆจากสมาร์ทโฟนของฉันด้วย

เป็นเสียงที่มีคุณภาพเหมือนไอดอล

มิสึกิซังโทรหาฉันระหว่างกำลังทำงานงั้นเหรอ?

 

“เวลาพักใกล้จะหมดแล้ว เพราะงั้นคงคุยนานไม่ได้ก็เถอะ แต่…ฉันมีเรื่องนึงที่อยากจะถามคาสึโตะคุงให้ได้อยู่”

“อะไรงั้นเหรอ?”

 

ฉันตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

…แต่นั่นกลับกลายความผิดพลาด

มิสึกิซังถามคำถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำเย็นยะเยือกต่างจากเธอตามปกติ

 

“—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในช่วงพักของวันนี้งั้นเหรอ?”

.

.

.

*———-จบตอน———-*

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+