[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter : 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้

.

.

.

“—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในช่วงพักของวันนี้งั้นเหรอ?”

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ฉันก็รู้สึกหนาวสั่นไปยันกระดูกสันหลัง

ฉันรู้สึกว่าหากฉันตอบพลาดไปเพียงนิดเดียวล่ะก็ ชีวิตฉันคงจบสิ้นแหง

 

เมื่อฉันเงียบขณะกำสมาร์ทโฟนไว้ในมือ ฉันก็ได้ยินเสียงอันเย็นยะเยือกของเธอ

 

“แน่นอนว่าฉันเชื่อใจคาสึโตะคุงอยู่แล้ว ใช่แล้วค่ะ ฉันเชื่ออย่างสุดหัวใจ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยกับเด็กผู้ชายที่จริงใจอย่างคาสึโตะคุงหรอก”

“ห-หือ…?”

“ดังนั้น นี่จึงเป็นความสงสัยที่เกิดจากความอ่อนแอจากจิตใจของฉันเองค่ะ ต้องขอโทษคาสึโตะคุงด้วย แต่ช่วยให้ฉันยืนยันอีกทีได้รึเปล่าคะ”

 

—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้น

 

คำพูดที่หนักแน่นและเย็นชาของมิสึกิซังทะลุแก้วหูของฉันแล้วทำให้สมองของฉันสั่นสะท้าน

อันตรายโครต

ไม่รู้ว่าเธอต้องการ ‘สงสัย’ หรือ ‘ยืนยัน’ อะไรกันแน่

 

แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็คิดว่ามันต้องอันตรายแน่ๆ

สัญชาตญานในฐานะผู้ชายของฉันกำลังส่งสัญญาณเตือนอย่างรุนแรง

[[ TL : สัญชาตญาณผู้ชายหรือสัญชาตญาณพ่อบ้านใจกล้า ]]

 

“คาสึโตะคุง? ทำไมถึงเงียบล่ะ?”

“เอ่อ คือว่า…”

 

อันที่จริงแล้วคือโคโตเนะซังเพียงแค่พาฉันไปพบกับคุรุมิซากะซังเท่านั้น

เอ๊ะ ไปคุยเรื่องอะไรกันนะ?

เรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ของฉันกับมิสึกิซังไงล่ะ!

 

…จะพูดออกไปแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ

 

หากฉันหลุดพูดไปล่ะก็ มันจะเกิดรอยร้าวระหว่างความสัมพันธ์ของคุรุมิซากะซังกับมิสึกิซังเอาได้

ฉันไม่อยากให้พวกเธอแตกร้าวกันเพียงเพราะความผิดของฉัน

 

“คาสึโตะคุง ถ้าเธอหักหลังฉันล่ะก็ ฉันจะดำเนินคดีตามกฏหมายนะ”

“ดำเนินคดี อะไรนะ? เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันน่ะ?”

 

ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นสามีที่ถูกกล่าวหาว่านอกใจ

 

“กรุณาอธิบายมาด้วยค่ะ ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ยังทันนะคะ”

 

ม-ไม่เข้าใจความหมายเลย

มิสึกิซังเพียงแค่อยากรู้ว่าฉันไปทำอะไรกับโคโตเนะซังใช่ไหม?

 

เพียงแค่นั้นใช่ไหม แล้วไอ้ความสงสัยเอย การยืนยัน การหักหลัง การดำเนินคดี…–มันอะไรกันฟะเนี่ย

 

“รินกะ ได้เวลาฝึกต่อแล้ว”

 

ได้ยินเสียงแว่วห่างๆผ่านทางสมาร์ทโฟน

ฉันคุ้นเคยกับเสียงนี้ดี

มันคือเสียงของหนึ่งในสมาชิกของวง Star ☆ Mines

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ…คาสึโตะคุง ไว้มาคุยกันต่อคืนนี้ค่ะ”

“ไม่สิ เอ่อ เดี๋ยวก่อ–”

 

*ตื้ด*

โทรศัพท์ถูกวางสายอย่างไร้ความปราณี

 

“อะไรกันเนี่ย อะไรกันฟะ สถานการณ์นี้มันอะไรกันฟะเนี่ย…?”

 

ฉันไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฉันฟังทีเถอะ!

 

“ทำไงดีล่ะเนี่ย ฉันสับสนไปหมดแล้ว”

 

ในเวลาแบบนี้ ต้องพึ่งพาเพื่อนพ้อง

ฉันเปิดแอพสำหรับแชทบนสมาร์ทโฟนของฉัน

ฉันเข้าไปกลุ่มแชทที่ถูกสร้างโดยทาจิบานะ ไซโตะ และฉันเอง

 

[ช่วยฟังฉันที เมื่อกี้ฉันได้รับสายจากมิสึกิซัง]

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนสองครั้งดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนของฉัน

ฉันรีบเช็กดูโดยทันที

 

[จะอวดรึไงฟะ ฉันจะให้นายกินพริกหยวกของฉัน]

[จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่จะเป็นการโอ้อวดคือ 100 ล้าน%]

 

คำตอบของพวกเขามันช่างโหดเหี้ยมและไร้หัวใจเกินไปแล้ว

…นี่มันโหดร้ายชะมัด

 

[ไม่ใช่แบบนั้น! ฉันบอกรายละเอียดไม่ได้ แต่ ฉันถูกถามเรื่องในช่วงพักกลางวันด้วยบรรยากาศที่โครตจะน่ากลัวเลย!]

[อย่างงั้นเหรอ ฉันหมายถึง นายไม่ได้บอกพวกเราด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงพักกลางวัน]

[ขอโทษ! แต่ฉันพูดไม่ได้!]

 

พวกเขาถามฉันอยู่หลายครั้งที่โรงเรียน แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเพราะด้วยจุดยืนของคุรุมิซากะซัง

และมันก็น่าอายเกินไปที่จะบอกพวกเขาเรื่องปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์

 

[อายาโนะโคจิคุง เพราะข้อมูลมันถูกปิดไว้มากเกินไป พวกเราเลยไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน]

 

ไซโตะพูดขึ้นฉันก็ตระหนักได้

ถูกอย่างที่เขาบอกจริงๆนั่นแหละ

ฉันให้พวกเขาสัญญาว่าจะเก็บสิ่งนี้ไว้เป็นความลับเฉพาะพวกเรา แล้วบอกพวกเขาสั้นๆ เกี่ยวกับบทสนทนาของฉันกับคุรุมิซากะซัง

จากนั้นทาจิบานะก็ส่งสติกเกอร์ยมทูตแสนน่ารักและแชทมาให้ฉัน

 

[อายาโนะโคจิ ยันเดเระมันมักจะ bad end นะรู้ป่าว]

[นี่อยากให้ฉันถูกแทงงั้นเหรอ!? แล้วมิสึกิซังก็ไม่ใช่ยันเดเระด้วย!]

[จากการคำนวณของผมแล้ว มิสึกิซังมีโอกาสเป็นยันเดเระ 120%]

 

แล้วไซโตะก็ส่งมาพร้อมกับสติกเกอร์แว่นตา

…ไอ้สติกเกอร์นี่มันอะไรกัน?

มันก็แค่แว่นตาธรรมดาๆนี่

ไม่เห็นจะฮาตรงไหนเลย

 

[ถ้ามิสึกิซังเป็นยันเดเระแล้วล่ะก็ มันก็หมายความว่าเธอตกหลุมรักฉันไม่ใช่รึไง]

[เออดิ]

[ก็ใช่ดิ]

 

ทั้งสองคนยืนยันโดยพร้อมเพรียงกัน

ฉันตกใจในความเร็วของการตอบกลับของพวกเขา

 

[…ไม่หรอกน่า ไม่มีทางหรอก]

[ถ้าคิดดีๆแล้ว มันก็คือมิสึกิหึงไม่ใช่รึไง?]

 

มิสึกิ รินกะไอดอลคนดังคนนั้นน่ะนะหึง…?

ไร้สาระสิ้นดี

 

[ฉันพูดอย่างแน่ชัดไม่ได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิสึกิสนใจอายาโนะโคจิ]

[ใช่แล้วล่ะ สายตาของมิสิกิซังนั้นดูพิเศษเมื่อมองไปยังอายาโนะโคจิคุง]

[…]

 

แม้ว่าพวกเขาจะบอกฉันมามากขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเอาเสียเลย

ไม่ใช่ว่าฉันดื้อดึงหรอกนะ

สำหรับฉันแล้ว มิสึกิซังเป็นดั่งบุคคลวิเศษ เป็นผู้ที่ให้ความฝันและความหวังแด่ผู้คน

สำหรับฉันในฐานะคนธรรมดาก็ดั่งการมองแหงนมองดวงดาวและคอยโบกมืออยู่ร่ำไป

เด็กเนิร์ดติดเกมและไอดอลคนดัง…

จะคิดยังไงมันไม่ได้เหมาะสมกับเลย

 

เมื่อฉันคิดอยู่แบบนั้น ไซโตะก็ส่งข้อความที่ยาวและจริงจังอย่างหาได้ยาก

 

[ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นายคิด อายาโนะโคจิคุง นายอยากจะเป็นยังไงกับมิสึกิซัง หากนายยังอยากคงความสัมพันธ์ไว้แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ นายก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร และหากนายอยากจะตอบสนองต่อความรู้สึกของเธอ นายสามารถก้าวไปหาเธออย่างนุ่มนวลตามจังหวะของตัวนายเอง และไม่ว่านายจะเลือกแบบไหน อายาโนะโคจิคุง หากนั่นเป็นสิ่งที่นายคิดใตร่ตรองอย่างจริงจิงแล้วล่ะก็ พวกเราก็จะเคารพการตัดสินใจของนาย]

 

“ไซโตะ…”

 

นายนี่มันคนดีจริงๆ…!

ฉันรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ!

เกือบจะลืมไปง่ายๆเลยเพราะว่าการคำนวณแปลกๆของนาย แต่ไซโตะก็เป็นผู้ชายที่ใจดีและใส่ใจเพื่อนคนนึง!

 

[แต่ยังไงก็ตาม จากการคำนวณของผมแล้วโอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างอายาโนะโคจิคุงและมิสึกิซังจะไปได้ด้วยดีคือ…0.12% หรือก็คือ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้!]

“เฮ้ยยย! นั่นมันเป็นความเป็นไปได้ที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย!”

 

แล้วเขาก็ส่งคำที่ทำให้ทุกอย่างฟังดูไม่สมเหตุสมผลกันเลยสักนิด…!

ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างพินาศไปหมดเลย

เอาความรู้สึกและความเคารพเมื่อกี้คืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ

 

[เพราะงั้นแหละ อายาโนะโคจิ ทำตัวดีๆกับมิสิกิซะล่ะ แล้วแนะนำพวกเราให้รู้จักกับไอดอลคนอื่นๆที!]

[ความคิดไม่เลวนี่ แล้วผมจะรอความร่วมมืออย่างคาดหวังแล้วกันนะ อายาโนะโคจิคุง!]

“…”

 

ฉันปิดแอพลงอย่างเงียบๆโดยไม่ได้ตอบกลับ

มันอาจจะเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ได้ ที่คิดไปปรึกษากับเจ้าพวกนั้น

ฉันโยนสมาร์ทโฟนของฉันลงบนเตียงขณะนั่งลงบนเก้าอี้

 

ฉันถอนหายใจขณะมองขึ้นไปบนเพดาน

 

“ฮ่าาา~ …ประหม่าสุดๆไปเลยแฮะ”

 

มิสึกิซังอาจจะชอบฉันก็ได้

สมมติว่ามันเป็นเรื่องจริง

แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ

 

“จะว่าไปแล้ว ฉันยังหาทางออกเรื่องคืนนี้ไม่ได้เลยนี่หว่า…!”

 

ฉันควรจะแก้ปัญหาให้ได้ในตอนนี้งั้นเหรอ

หากไม่งั้นล่ะก็คงดำเนินปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ในวันเสาร์นี้ไม่ได้แน่

 

เพื่อการเตรียมการสำหรับคืนนี้ ฉันจึงจินตนาการ(หรือภาพลวงตา)ถึงบทสนทนากับมิสึกิซังภายในหัวของตัวเอง

.

.

.

*———-จบตอน———-*

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้

Now you are reading [นิยายแปล] Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต Chapter 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter : 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้

.

.

.

“—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในช่วงพักของวันนี้งั้นเหรอ?”

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ฉันก็รู้สึกหนาวสั่นไปยันกระดูกสันหลัง

ฉันรู้สึกว่าหากฉันตอบพลาดไปเพียงนิดเดียวล่ะก็ ชีวิตฉันคงจบสิ้นแหง

 

เมื่อฉันเงียบขณะกำสมาร์ทโฟนไว้ในมือ ฉันก็ได้ยินเสียงอันเย็นยะเยือกของเธอ

 

“แน่นอนว่าฉันเชื่อใจคาสึโตะคุงอยู่แล้ว ใช่แล้วค่ะ ฉันเชื่ออย่างสุดหัวใจ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยกับเด็กผู้ชายที่จริงใจอย่างคาสึโตะคุงหรอก”

“ห-หือ…?”

“ดังนั้น นี่จึงเป็นความสงสัยที่เกิดจากความอ่อนแอจากจิตใจของฉันเองค่ะ ต้องขอโทษคาสึโตะคุงด้วย แต่ช่วยให้ฉันยืนยันอีกทีได้รึเปล่าคะ”

 

—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้น

 

คำพูดที่หนักแน่นและเย็นชาของมิสึกิซังทะลุแก้วหูของฉันแล้วทำให้สมองของฉันสั่นสะท้าน

อันตรายโครต

ไม่รู้ว่าเธอต้องการ ‘สงสัย’ หรือ ‘ยืนยัน’ อะไรกันแน่

 

แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็คิดว่ามันต้องอันตรายแน่ๆ

สัญชาตญานในฐานะผู้ชายของฉันกำลังส่งสัญญาณเตือนอย่างรุนแรง

[[ TL : สัญชาตญาณผู้ชายหรือสัญชาตญาณพ่อบ้านใจกล้า ]]

 

“คาสึโตะคุง? ทำไมถึงเงียบล่ะ?”

“เอ่อ คือว่า…”

 

อันที่จริงแล้วคือโคโตเนะซังเพียงแค่พาฉันไปพบกับคุรุมิซากะซังเท่านั้น

เอ๊ะ ไปคุยเรื่องอะไรกันนะ?

เรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ของฉันกับมิสึกิซังไงล่ะ!

 

…จะพูดออกไปแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ

 

หากฉันหลุดพูดไปล่ะก็ มันจะเกิดรอยร้าวระหว่างความสัมพันธ์ของคุรุมิซากะซังกับมิสึกิซังเอาได้

ฉันไม่อยากให้พวกเธอแตกร้าวกันเพียงเพราะความผิดของฉัน

 

“คาสึโตะคุง ถ้าเธอหักหลังฉันล่ะก็ ฉันจะดำเนินคดีตามกฏหมายนะ”

“ดำเนินคดี อะไรนะ? เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันน่ะ?”

 

ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นสามีที่ถูกกล่าวหาว่านอกใจ

 

“กรุณาอธิบายมาด้วยค่ะ ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ยังทันนะคะ”

 

ม-ไม่เข้าใจความหมายเลย

มิสึกิซังเพียงแค่อยากรู้ว่าฉันไปทำอะไรกับโคโตเนะซังใช่ไหม?

 

เพียงแค่นั้นใช่ไหม แล้วไอ้ความสงสัยเอย การยืนยัน การหักหลัง การดำเนินคดี…–มันอะไรกันฟะเนี่ย

 

“รินกะ ได้เวลาฝึกต่อแล้ว”

 

ได้ยินเสียงแว่วห่างๆผ่านทางสมาร์ทโฟน

ฉันคุ้นเคยกับเสียงนี้ดี

มันคือเสียงของหนึ่งในสมาชิกของวง Star ☆ Mines

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ…คาสึโตะคุง ไว้มาคุยกันต่อคืนนี้ค่ะ”

“ไม่สิ เอ่อ เดี๋ยวก่อ–”

 

*ตื้ด*

โทรศัพท์ถูกวางสายอย่างไร้ความปราณี

 

“อะไรกันเนี่ย อะไรกันฟะ สถานการณ์นี้มันอะไรกันฟะเนี่ย…?”

 

ฉันไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฉันฟังทีเถอะ!

 

“ทำไงดีล่ะเนี่ย ฉันสับสนไปหมดแล้ว”

 

ในเวลาแบบนี้ ต้องพึ่งพาเพื่อนพ้อง

ฉันเปิดแอพสำหรับแชทบนสมาร์ทโฟนของฉัน

ฉันเข้าไปกลุ่มแชทที่ถูกสร้างโดยทาจิบานะ ไซโตะ และฉันเอง

 

[ช่วยฟังฉันที เมื่อกี้ฉันได้รับสายจากมิสึกิซัง]

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนสองครั้งดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนของฉัน

ฉันรีบเช็กดูโดยทันที

 

[จะอวดรึไงฟะ ฉันจะให้นายกินพริกหยวกของฉัน]

[จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่จะเป็นการโอ้อวดคือ 100 ล้าน%]

 

คำตอบของพวกเขามันช่างโหดเหี้ยมและไร้หัวใจเกินไปแล้ว

…นี่มันโหดร้ายชะมัด

 

[ไม่ใช่แบบนั้น! ฉันบอกรายละเอียดไม่ได้ แต่ ฉันถูกถามเรื่องในช่วงพักกลางวันด้วยบรรยากาศที่โครตจะน่ากลัวเลย!]

[อย่างงั้นเหรอ ฉันหมายถึง นายไม่ได้บอกพวกเราด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงพักกลางวัน]

[ขอโทษ! แต่ฉันพูดไม่ได้!]

 

พวกเขาถามฉันอยู่หลายครั้งที่โรงเรียน แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเพราะด้วยจุดยืนของคุรุมิซากะซัง

และมันก็น่าอายเกินไปที่จะบอกพวกเขาเรื่องปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์

 

[อายาโนะโคจิคุง เพราะข้อมูลมันถูกปิดไว้มากเกินไป พวกเราเลยไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน]

 

ไซโตะพูดขึ้นฉันก็ตระหนักได้

ถูกอย่างที่เขาบอกจริงๆนั่นแหละ

ฉันให้พวกเขาสัญญาว่าจะเก็บสิ่งนี้ไว้เป็นความลับเฉพาะพวกเรา แล้วบอกพวกเขาสั้นๆ เกี่ยวกับบทสนทนาของฉันกับคุรุมิซากะซัง

จากนั้นทาจิบานะก็ส่งสติกเกอร์ยมทูตแสนน่ารักและแชทมาให้ฉัน

 

[อายาโนะโคจิ ยันเดเระมันมักจะ bad end นะรู้ป่าว]

[นี่อยากให้ฉันถูกแทงงั้นเหรอ!? แล้วมิสึกิซังก็ไม่ใช่ยันเดเระด้วย!]

[จากการคำนวณของผมแล้ว มิสึกิซังมีโอกาสเป็นยันเดเระ 120%]

 

แล้วไซโตะก็ส่งมาพร้อมกับสติกเกอร์แว่นตา

…ไอ้สติกเกอร์นี่มันอะไรกัน?

มันก็แค่แว่นตาธรรมดาๆนี่

ไม่เห็นจะฮาตรงไหนเลย

 

[ถ้ามิสึกิซังเป็นยันเดเระแล้วล่ะก็ มันก็หมายความว่าเธอตกหลุมรักฉันไม่ใช่รึไง]

[เออดิ]

[ก็ใช่ดิ]

 

ทั้งสองคนยืนยันโดยพร้อมเพรียงกัน

ฉันตกใจในความเร็วของการตอบกลับของพวกเขา

 

[…ไม่หรอกน่า ไม่มีทางหรอก]

[ถ้าคิดดีๆแล้ว มันก็คือมิสึกิหึงไม่ใช่รึไง?]

 

มิสึกิ รินกะไอดอลคนดังคนนั้นน่ะนะหึง…?

ไร้สาระสิ้นดี

 

[ฉันพูดอย่างแน่ชัดไม่ได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิสึกิสนใจอายาโนะโคจิ]

[ใช่แล้วล่ะ สายตาของมิสิกิซังนั้นดูพิเศษเมื่อมองไปยังอายาโนะโคจิคุง]

[…]

 

แม้ว่าพวกเขาจะบอกฉันมามากขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเอาเสียเลย

ไม่ใช่ว่าฉันดื้อดึงหรอกนะ

สำหรับฉันแล้ว มิสึกิซังเป็นดั่งบุคคลวิเศษ เป็นผู้ที่ให้ความฝันและความหวังแด่ผู้คน

สำหรับฉันในฐานะคนธรรมดาก็ดั่งการมองแหงนมองดวงดาวและคอยโบกมืออยู่ร่ำไป

เด็กเนิร์ดติดเกมและไอดอลคนดัง…

จะคิดยังไงมันไม่ได้เหมาะสมกับเลย

 

เมื่อฉันคิดอยู่แบบนั้น ไซโตะก็ส่งข้อความที่ยาวและจริงจังอย่างหาได้ยาก

 

[ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นายคิด อายาโนะโคจิคุง นายอยากจะเป็นยังไงกับมิสึกิซัง หากนายยังอยากคงความสัมพันธ์ไว้แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ นายก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร และหากนายอยากจะตอบสนองต่อความรู้สึกของเธอ นายสามารถก้าวไปหาเธออย่างนุ่มนวลตามจังหวะของตัวนายเอง และไม่ว่านายจะเลือกแบบไหน อายาโนะโคจิคุง หากนั่นเป็นสิ่งที่นายคิดใตร่ตรองอย่างจริงจิงแล้วล่ะก็ พวกเราก็จะเคารพการตัดสินใจของนาย]

 

“ไซโตะ…”

 

นายนี่มันคนดีจริงๆ…!

ฉันรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ!

เกือบจะลืมไปง่ายๆเลยเพราะว่าการคำนวณแปลกๆของนาย แต่ไซโตะก็เป็นผู้ชายที่ใจดีและใส่ใจเพื่อนคนนึง!

 

[แต่ยังไงก็ตาม จากการคำนวณของผมแล้วโอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างอายาโนะโคจิคุงและมิสึกิซังจะไปได้ด้วยดีคือ…0.12% หรือก็คือ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้!]

“เฮ้ยยย! นั่นมันเป็นความเป็นไปได้ที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย!”

 

แล้วเขาก็ส่งคำที่ทำให้ทุกอย่างฟังดูไม่สมเหตุสมผลกันเลยสักนิด…!

ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างพินาศไปหมดเลย

เอาความรู้สึกและความเคารพเมื่อกี้คืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ

 

[เพราะงั้นแหละ อายาโนะโคจิ ทำตัวดีๆกับมิสิกิซะล่ะ แล้วแนะนำพวกเราให้รู้จักกับไอดอลคนอื่นๆที!]

[ความคิดไม่เลวนี่ แล้วผมจะรอความร่วมมืออย่างคาดหวังแล้วกันนะ อายาโนะโคจิคุง!]

“…”

 

ฉันปิดแอพลงอย่างเงียบๆโดยไม่ได้ตอบกลับ

มันอาจจะเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ได้ ที่คิดไปปรึกษากับเจ้าพวกนั้น

ฉันโยนสมาร์ทโฟนของฉันลงบนเตียงขณะนั่งลงบนเก้าอี้

 

ฉันถอนหายใจขณะมองขึ้นไปบนเพดาน

 

“ฮ่าาา~ …ประหม่าสุดๆไปเลยแฮะ”

 

มิสึกิซังอาจจะชอบฉันก็ได้

สมมติว่ามันเป็นเรื่องจริง

แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ

 

“จะว่าไปแล้ว ฉันยังหาทางออกเรื่องคืนนี้ไม่ได้เลยนี่หว่า…!”

 

ฉันควรจะแก้ปัญหาให้ได้ในตอนนี้งั้นเหรอ

หากไม่งั้นล่ะก็คงดำเนินปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ในวันเสาร์นี้ไม่ได้แน่

 

เพื่อการเตรียมการสำหรับคืนนี้ ฉันจึงจินตนาการ(หรือภาพลวงตา)ถึงบทสนทนากับมิสึกิซังภายในหัวของตัวเอง

.

.

.

*———-จบตอน———-*

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+