พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 200 น้ำลดตอผุด

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 200 น้ำลดตอผุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวหลบตา ไม่ตอบคำถาม

วารุณีหรี่ตา คลายแรงในมือลง แล้วถามออกไปอีกครั้ง“ ตอบฉันมา ว่าช่วยเขาทำไม !”

“ฉัน……ฉันก็ไม่อยากทำ แต่เธอข่มขู่ฉัน!”หญิงสาวราวกับทุ่มหมดหน้าตัก หลับตาลง และตอบออกไปเสียงดัง

พิชญาไม่ห่วงขาที่หักของเธอ มือยันไปที่โต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตะโกนกลับอย่างโกรธเคือง “เหลวไหล ฉันไปข่มขู่เธอตอนไหน ?ก่อนที่เธอจะเอาแบบมาให้ฉัน ฉันไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อน !”

เธอยอมรับเรื่องที่เธอลอกเลียนแบบของวารุณียังจะดีซะกว่า ที่จะต้องมารับผิดในเรื่องนี้

“ที่เขาพูดมันจริงไหม เขาไม่รู้จักเธอจริงๆเหรอ ?”วารุณีมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น

หญิงสาวส่ายหน้าไปมา “ใช่ ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้นเธอมาหาฉัน ให้เงินฉันจำนวนหนึ่ง แล้วให้ฉันคอยดูงานแบบของคุณวารุณีจากการถ่ายทอดสด รอให้คุณวารุณีวาดแบบออกมาได้แล้ว แคปรูปเอาไว้ จากนั้นก็ให้ฉันไปรอเธอที่ในห้องน้ำ”

“ฉันไม่ได้ทำ!”พิชญาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หน้าอกกระเพื่อมสั่นไหวอย่างรุนแรง

เธอทำแบบนี้เมื่อไหร่กัน ?

ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้หรอกเหรอที่เข้ามาหาเธอเอง ?

วารุณีมองไปที่พิชญา แล้วหันกลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้น ก้มหน้าลงแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ผ่านไปไม่ถึงนาที เธอเงยหน้าขึ้นแล้วถามอีกครั้งว่า“ในเมื่อพิชญาบอกให้เธอรออยู่ในห้องน้ำ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าต้องไปห้องน้ำตอนไหน ?”

ผู้หญิงคนนั้นชี้นิ้วไปยังอีกฝั่งของห้องประชุมที่มีกลุ่มนักข่าวอยู่ ชี้ไปยังคนคนหนึ่ง“เขา เขาก็เฝ้าดูการถ่ายทอดสดอยู่ หลังจากที่คุณวารุณีวาดเสร็จ เขาก็แกล้งเดินผ่านหน้าของพิชญา แล้วโยนกระดาษให้เธอ บอกเธอว่าให้ไปหาฉันที่ห้องน้ำ”

“อย่างนี้นี่เอง!”วารุณีพยักหน้า สายตามองผ่านพิชญาที่ตอนนี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคน แล้วมองไปที่ประธานวรวี

ประธานวรวีออกคำสั่งให้เลขาฯภูมิพาตัวนักข่าวคนนั้นมา

นักข่าวคนนั้นเหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะต้องถูกพาตัวมา ในตอนนี้ก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมเดินตามมาแต่โดยดี

“คุณก็ถูกเธอติดสินบนเหรอ ?”ประธานวรวีชี้ไปที่พิชญา แล้วถามนักข่าวคนนั้น

นักข่าวคนนั้นเหลือบมองไปที่พิชญา แล้วจึงพยักหน้าหงึกๆ “ครับ……ใช่ครับ”

“นี่พวกแก……พวกแก…….”ร่างกายพิชญาสั่นสะท้านไม่หยุด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือที่ค้ำอยู่บนโต๊ะ มีเส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ผ่านไปสักพัก เหมือนเธอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการประชดประชันและไม่พอใจ “ฉันรู้แล้ว พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายฉัน ฉันก็ว่า โลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้ยังไงกัน เจ้านายของพวกเธอ ช่างเจ้าแผนการจริงๆ !”

“เจ้านาย หมายความว่าไง ? ” ประธานวรวีก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

วารุณีเองกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไร ดวงตาฉายแววอย่างที่คิดเอาไว้

เธอรู้จักพิชญาดี เพราะฉะนั้นเธอมองออกแต่แรกแล้ว ว่าพิชญาไม่ได้โกหก ผู้หญิงคนนี้และนักข่าวคนนี้ พิชญาไม่ได้เป็นคนติดสินบนพวกเขา แต่เป็นเพราะฟังคำสั่งของคนอื่น เพื่อมาช่วยพิชญา

หากสองคนนี้ไม่ถูกจับได้ก็คงดี แต่เพราะถูกจับได้เสียก่อน ทั้งสองจึงต้องโยนความผิดทุกอย่างมาที่พิชญา ให้พิชญารับผิดทั้งหมด จุดประสงค์ก็เพื่อปิดบังอำพรางผู้บงการตัวจริง

“สองคนนี้ เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ใช้ฉันเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายวารุณี ถ้าสำเร็จเราต่างก็ได้ผลประโยชน์ แต่ถ้าพลาด ก็มีฉันคนเดียวที่ต้องรับกรรม ที่น่าหัวเราะก็คือ ฉันคิดไม่ถึงจุดนี้ตั้งแต่ทีแรก แค่ได้ยินว่าจะทำลายวารุณีได้ฉันก็กระโดดเข้าร่วมโดยทันที!”พิชญาจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวกับนักข่าวคนนั้น แล้วกล่าวพูดตำหนิตัวเอง

ทุกคนในที่นี้ กับผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึงกันขึ้นมาอีกครั้ง

พวกเขาไม่คิดว่า การลอกเลียนแบบที่เล็กน้อยนี้ จะมีเบื้องหลังที่มากมายอย่างนี้ ช่างเป็นละครฉากใหญ่เสียจริง

“พวกคุณไม่ใช่คนที่พิชญาติดสินบน แต่ถูกคนอื่นจ้างวานมาเพื่อทำลายคุณวารุณีเหรอ ?” ประธานวรวีถามอย่างตำหนิไปที่ผู้หญิงกับนักข่าวคนนั้น

หญิงสาวกับนักข่าวมองหน้ากัน แล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที “ไม่ใช่นะไม่ใช่ เบื้องหลังของเราไม่มีใคร แต่เป็นพิชญาเองนั่นแหละที่เป็นคนจ้างวานพวกเราเอง ”

ในตอนที่พูดคำนี้ ดวงตาของคนทั้งสองต่างก็มีความหวาดกลัวพาดผ่าน

วารุณีจับสังเกตได้ ก็ขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นก็ได้สติขึ้นมา

ดูทั้งสองคนแล้วเหมือนจะมีจุดอ่อน เหมือนถูกคนที่อยู่เบื้องหลังบังคับมา ดังนั้นจึงยืนกรานว่าไม่มีใครว่าจ้าง เพราะฉะนั้น ทั้งสองคนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเค้นถามต่อแล้ว ต่อให้ถามยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมบอก

แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หลอกใช้พิชญาเพื่อมาทำลายเธอ ก็ชี้ชัดว่าคนคนนี้มีความแค้นกับเธอ ไม่แน่ว่าเรื่องผ้าของสตูดิโอพวกเธอ กับเรื่องที่ถูกเผาโกดังสินค้าคนร้ายตัวจริงอาจจะเป็นคนคนนี้ก็ได้

“พอเถอะค่ะประธานวรวี ในเมื่อพวกเขาบอกว่าไม่ใช่ก็คงจะไม่ใช่ ไม่ต้องถามต่อแล้วค่ะ ” วารุณีร้องห้ามประธานวรวีเอาไว้

พิชญาไม่พอใจ จ้องเขม็งมาที่เธอ ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ “ทำไมไม่ถามต่อละ ฉันต้องการจะถามให้รู้เรื่อง ฉันไม่ให้พวกเขามาใส่ร้ายฉันแบบนี้ !”

“พวกเขาใส่ร้ายเธองั้นเหรอ ?” สายตาวารุณีมองไปยังพิชญาอย่างเย็นชา“พวกเขาเอาแบบให้เธอลอกนั่นไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ ? เธอร่วมมือกับพวกเขาทำเรื่องชั่วๆนั่นก็ไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ ?”

“นี่มันไม่เหมือนกัน พวกเขา……”

“ตรงไหนที่ไม่เหมือนกัน !” วารุณีเม้มปากแล้วพูดขัดเธอ “ไม่ว่าพวกเขาจะฟังคำสั่งใครมา ฉันรู้แค่ว่าคนที่เป็นเหยื่อคือฉัน และเธอเองพิชญา ก็เป็นคนที่รับความช่วยเหลือจากพวกเขา คัดลอกแบบของฉัน ”

ในเมื่อถามหาตัวบงการที่อยู่เบื้องหลังจากสองคนนี้ไม่ได้ ไม่สู้ให้พิชญาแบกรับความผิดของเรื่องทั้งหมดนี้ไปซะจะดีกว่า

เพราะยังไงซะ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น วารุณีก็เดินไปยืนอยู่ข้างๆของประธานวรวีแล้วพูดบางอย่างกับประธานวรวี

ประธานวรวีพยักหน้า โบกมือเรียกให้เลขาฯภูมิพาตัวผู้หญิงกับนักข่าวลงไปก่อน แล้วเฝ้าดูเอาไว้ให้ดี จากนั้นก็หยิบไมโครโฟนแล้วพูดขึ้นว่า“ เอาล่ะ ในเมื่อความจริงเกี่ยวกับการลอกผลงานออกมาแล้ว งั้นตอนนี้ผมของประกาศว่า ผู้ที่ชนะในการแข่งรอบชิงชนะเลิศนี้คือคุณวารุณี ในส่วนของพิชญานั้น……ถอดชื่อออกจากการแข่งขันนี้!”

ทุกคนต่างมองไปที่พิชญา

พิชญาสีหน้าซีดเผือด ก้มหน้าลงหลบสายตาที่ทุกคนมองมา

ตอนนี้เธออยากจะหาปี๊บสักใบมาคลุมหัวจริงๆ หรือไม่ก็หาใครสักคนมาพาเธอออกไปจากที่ตรงนี้

แต่ก็ไม่มี ไม่มีใครสักคน เธอจำต้องอยู่ตรงนี้ เผชิญหน้ากับการดูถูกและก่นด่าของทุกคน จากนั้นก็มองดูวารุณีที่เฉิดฉายไปรับรางวัลอย่างสง่างาม และความแตกต่างแบบนี้ ฆ่าเธอให้ตายซะยังจะดีกว่า ปล่อยให้เธออยู่ในสภาพแบบนี้

การแข่งขันชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ก็จบลงอย่างเป็นทางการ วารุณีขึ้นรับรางวัลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ

แบบฟอร์มเป็นการกรอกใน ณ ตอนนี้ กรอกเสร็จก็ยื่นเรื่องทันที

เมื่อตอนที่เธอกรอกข้อมูล ทุกคนในห้องประชุม ต่างก็ลุกขึ้นยืน แล้วปรบมือให้เธอ แม้แต่ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ ต่างก็คอมเม้นต์ร่วมแสดงความยินดีด้วย

นวิยามองดูวารุณีจากการถ่ายทอดสดด้วยความอิจฉาริษยา “คุณวารุณีนี่เก่งจริงๆ !”

ในตอนที่เธอยังไม่ประสบอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่เธอแข่งเปียโนเสร็จ ก็มักจะได้รับเสียงปรบมือและความยินดีแบบนี้เช่นกัน หนำซ้ำยังจะมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่เสียงปรบมือเลย จะเล่นเปียโนก็ยังทำไม่ได้เลย !

นัทธีไม่ได้พูดอะไร ขมวดคิ้วแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อนวิยาเห็น ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “นัทธี คุณเป็นอะไร ?”

“ผมกำลังคิด ว่าใครที่จ้างวานสองคนนั้น” นัทธีคลึงไปที่ขมับ ตอบกลับเสียงเบา

ดวงตานวิยาไหววูบ แล้วกลับคืนสภาพอย่างรวดเร็ว หัวเราะแล้วพูดว่า“ น่าจะเป็นศัตรูที่ออกแบบด้วยกันของคุณวารุณีมั้ง ไม่อยากให้คุณวารุณีชนะการแข่งขันนี้”

“หรืออาจจะไม่ง่ายอย่างนั้น ”นัทธีหรี่ตาลง

นวิยายิ้มให้อย่างอ่อนโยน“นัทธี คุณคิดจะทำอะไร หรือคุณจะช่วยคุณวารุณี หาตัวคนคนนั้น ?”

นัทธีไม่ตอบว่าที่เธอพูดนั้นถูกหรือไม่

เพราะเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ

นวิยาหลุบตาลง ปิดบังความเย็นชาที่แผ่ซ่านในดวงตา “แล้วถ้าหาตัวเจอล่ะ ? คุณจะทำยังไงกับคนคนนั้น?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 200 น้ำลดตอผุด

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 200 น้ำลดตอผุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวหลบตา ไม่ตอบคำถาม

วารุณีหรี่ตา คลายแรงในมือลง แล้วถามออกไปอีกครั้ง“ ตอบฉันมา ว่าช่วยเขาทำไม !”

“ฉัน……ฉันก็ไม่อยากทำ แต่เธอข่มขู่ฉัน!”หญิงสาวราวกับทุ่มหมดหน้าตัก หลับตาลง และตอบออกไปเสียงดัง

พิชญาไม่ห่วงขาที่หักของเธอ มือยันไปที่โต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตะโกนกลับอย่างโกรธเคือง “เหลวไหล ฉันไปข่มขู่เธอตอนไหน ?ก่อนที่เธอจะเอาแบบมาให้ฉัน ฉันไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อน !”

เธอยอมรับเรื่องที่เธอลอกเลียนแบบของวารุณียังจะดีซะกว่า ที่จะต้องมารับผิดในเรื่องนี้

“ที่เขาพูดมันจริงไหม เขาไม่รู้จักเธอจริงๆเหรอ ?”วารุณีมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น

หญิงสาวส่ายหน้าไปมา “ใช่ ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก่อนการแข่งจะเริ่มขึ้นเธอมาหาฉัน ให้เงินฉันจำนวนหนึ่ง แล้วให้ฉันคอยดูงานแบบของคุณวารุณีจากการถ่ายทอดสด รอให้คุณวารุณีวาดแบบออกมาได้แล้ว แคปรูปเอาไว้ จากนั้นก็ให้ฉันไปรอเธอที่ในห้องน้ำ”

“ฉันไม่ได้ทำ!”พิชญาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หน้าอกกระเพื่อมสั่นไหวอย่างรุนแรง

เธอทำแบบนี้เมื่อไหร่กัน ?

ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้หรอกเหรอที่เข้ามาหาเธอเอง ?

วารุณีมองไปที่พิชญา แล้วหันกลับไปมองที่ผู้หญิงคนนั้น ก้มหน้าลงแล้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ผ่านไปไม่ถึงนาที เธอเงยหน้าขึ้นแล้วถามอีกครั้งว่า“ในเมื่อพิชญาบอกให้เธอรออยู่ในห้องน้ำ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าต้องไปห้องน้ำตอนไหน ?”

ผู้หญิงคนนั้นชี้นิ้วไปยังอีกฝั่งของห้องประชุมที่มีกลุ่มนักข่าวอยู่ ชี้ไปยังคนคนหนึ่ง“เขา เขาก็เฝ้าดูการถ่ายทอดสดอยู่ หลังจากที่คุณวารุณีวาดเสร็จ เขาก็แกล้งเดินผ่านหน้าของพิชญา แล้วโยนกระดาษให้เธอ บอกเธอว่าให้ไปหาฉันที่ห้องน้ำ”

“อย่างนี้นี่เอง!”วารุณีพยักหน้า สายตามองผ่านพิชญาที่ตอนนี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคน แล้วมองไปที่ประธานวรวี

ประธานวรวีออกคำสั่งให้เลขาฯภูมิพาตัวนักข่าวคนนั้นมา

นักข่าวคนนั้นเหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะต้องถูกพาตัวมา ในตอนนี้ก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมเดินตามมาแต่โดยดี

“คุณก็ถูกเธอติดสินบนเหรอ ?”ประธานวรวีชี้ไปที่พิชญา แล้วถามนักข่าวคนนั้น

นักข่าวคนนั้นเหลือบมองไปที่พิชญา แล้วจึงพยักหน้าหงึกๆ “ครับ……ใช่ครับ”

“นี่พวกแก……พวกแก…….”ร่างกายพิชญาสั่นสะท้านไม่หยุด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือที่ค้ำอยู่บนโต๊ะ มีเส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ผ่านไปสักพัก เหมือนเธอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆก็หัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการประชดประชันและไม่พอใจ “ฉันรู้แล้ว พวกเขาสองคนร่วมมือกันทำร้ายฉัน ฉันก็ว่า โลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้ยังไงกัน เจ้านายของพวกเธอ ช่างเจ้าแผนการจริงๆ !”

“เจ้านาย หมายความว่าไง ? ” ประธานวรวีก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

วารุณีเองกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไร ดวงตาฉายแววอย่างที่คิดเอาไว้

เธอรู้จักพิชญาดี เพราะฉะนั้นเธอมองออกแต่แรกแล้ว ว่าพิชญาไม่ได้โกหก ผู้หญิงคนนี้และนักข่าวคนนี้ พิชญาไม่ได้เป็นคนติดสินบนพวกเขา แต่เป็นเพราะฟังคำสั่งของคนอื่น เพื่อมาช่วยพิชญา

หากสองคนนี้ไม่ถูกจับได้ก็คงดี แต่เพราะถูกจับได้เสียก่อน ทั้งสองจึงต้องโยนความผิดทุกอย่างมาที่พิชญา ให้พิชญารับผิดทั้งหมด จุดประสงค์ก็เพื่อปิดบังอำพรางผู้บงการตัวจริง

“สองคนนี้ เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ใช้ฉันเป็นเครื่องมือเพื่อทำลายวารุณี ถ้าสำเร็จเราต่างก็ได้ผลประโยชน์ แต่ถ้าพลาด ก็มีฉันคนเดียวที่ต้องรับกรรม ที่น่าหัวเราะก็คือ ฉันคิดไม่ถึงจุดนี้ตั้งแต่ทีแรก แค่ได้ยินว่าจะทำลายวารุณีได้ฉันก็กระโดดเข้าร่วมโดยทันที!”พิชญาจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวกับนักข่าวคนนั้น แล้วกล่าวพูดตำหนิตัวเอง

ทุกคนในที่นี้ กับผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ต่างก็ตกตะลึงกันขึ้นมาอีกครั้ง

พวกเขาไม่คิดว่า การลอกเลียนแบบที่เล็กน้อยนี้ จะมีเบื้องหลังที่มากมายอย่างนี้ ช่างเป็นละครฉากใหญ่เสียจริง

“พวกคุณไม่ใช่คนที่พิชญาติดสินบน แต่ถูกคนอื่นจ้างวานมาเพื่อทำลายคุณวารุณีเหรอ ?” ประธานวรวีถามอย่างตำหนิไปที่ผู้หญิงกับนักข่าวคนนั้น

หญิงสาวกับนักข่าวมองหน้ากัน แล้วรีบโบกมือปฏิเสธทันที “ไม่ใช่นะไม่ใช่ เบื้องหลังของเราไม่มีใคร แต่เป็นพิชญาเองนั่นแหละที่เป็นคนจ้างวานพวกเราเอง ”

ในตอนที่พูดคำนี้ ดวงตาของคนทั้งสองต่างก็มีความหวาดกลัวพาดผ่าน

วารุณีจับสังเกตได้ ก็ขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นก็ได้สติขึ้นมา

ดูทั้งสองคนแล้วเหมือนจะมีจุดอ่อน เหมือนถูกคนที่อยู่เบื้องหลังบังคับมา ดังนั้นจึงยืนกรานว่าไม่มีใครว่าจ้าง เพราะฉะนั้น ทั้งสองคนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเค้นถามต่อแล้ว ต่อให้ถามยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมบอก

แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หลอกใช้พิชญาเพื่อมาทำลายเธอ ก็ชี้ชัดว่าคนคนนี้มีความแค้นกับเธอ ไม่แน่ว่าเรื่องผ้าของสตูดิโอพวกเธอ กับเรื่องที่ถูกเผาโกดังสินค้าคนร้ายตัวจริงอาจจะเป็นคนคนนี้ก็ได้

“พอเถอะค่ะประธานวรวี ในเมื่อพวกเขาบอกว่าไม่ใช่ก็คงจะไม่ใช่ ไม่ต้องถามต่อแล้วค่ะ ” วารุณีร้องห้ามประธานวรวีเอาไว้

พิชญาไม่พอใจ จ้องเขม็งมาที่เธอ ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ “ทำไมไม่ถามต่อละ ฉันต้องการจะถามให้รู้เรื่อง ฉันไม่ให้พวกเขามาใส่ร้ายฉันแบบนี้ !”

“พวกเขาใส่ร้ายเธองั้นเหรอ ?” สายตาวารุณีมองไปยังพิชญาอย่างเย็นชา“พวกเขาเอาแบบให้เธอลอกนั่นไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ ? เธอร่วมมือกับพวกเขาทำเรื่องชั่วๆนั่นก็ไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ ?”

“นี่มันไม่เหมือนกัน พวกเขา……”

“ตรงไหนที่ไม่เหมือนกัน !” วารุณีเม้มปากแล้วพูดขัดเธอ “ไม่ว่าพวกเขาจะฟังคำสั่งใครมา ฉันรู้แค่ว่าคนที่เป็นเหยื่อคือฉัน และเธอเองพิชญา ก็เป็นคนที่รับความช่วยเหลือจากพวกเขา คัดลอกแบบของฉัน ”

ในเมื่อถามหาตัวบงการที่อยู่เบื้องหลังจากสองคนนี้ไม่ได้ ไม่สู้ให้พิชญาแบกรับความผิดของเรื่องทั้งหมดนี้ไปซะจะดีกว่า

เพราะยังไงซะ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น วารุณีก็เดินไปยืนอยู่ข้างๆของประธานวรวีแล้วพูดบางอย่างกับประธานวรวี

ประธานวรวีพยักหน้า โบกมือเรียกให้เลขาฯภูมิพาตัวผู้หญิงกับนักข่าวลงไปก่อน แล้วเฝ้าดูเอาไว้ให้ดี จากนั้นก็หยิบไมโครโฟนแล้วพูดขึ้นว่า“ เอาล่ะ ในเมื่อความจริงเกี่ยวกับการลอกผลงานออกมาแล้ว งั้นตอนนี้ผมของประกาศว่า ผู้ที่ชนะในการแข่งรอบชิงชนะเลิศนี้คือคุณวารุณี ในส่วนของพิชญานั้น……ถอดชื่อออกจากการแข่งขันนี้!”

ทุกคนต่างมองไปที่พิชญา

พิชญาสีหน้าซีดเผือด ก้มหน้าลงหลบสายตาที่ทุกคนมองมา

ตอนนี้เธออยากจะหาปี๊บสักใบมาคลุมหัวจริงๆ หรือไม่ก็หาใครสักคนมาพาเธอออกไปจากที่ตรงนี้

แต่ก็ไม่มี ไม่มีใครสักคน เธอจำต้องอยู่ตรงนี้ เผชิญหน้ากับการดูถูกและก่นด่าของทุกคน จากนั้นก็มองดูวารุณีที่เฉิดฉายไปรับรางวัลอย่างสง่างาม และความแตกต่างแบบนี้ ฆ่าเธอให้ตายซะยังจะดีกว่า ปล่อยให้เธออยู่ในสภาพแบบนี้

การแข่งขันชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ก็จบลงอย่างเป็นทางการ วารุณีขึ้นรับรางวัลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ

แบบฟอร์มเป็นการกรอกใน ณ ตอนนี้ กรอกเสร็จก็ยื่นเรื่องทันที

เมื่อตอนที่เธอกรอกข้อมูล ทุกคนในห้องประชุม ต่างก็ลุกขึ้นยืน แล้วปรบมือให้เธอ แม้แต่ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ ต่างก็คอมเม้นต์ร่วมแสดงความยินดีด้วย

นวิยามองดูวารุณีจากการถ่ายทอดสดด้วยความอิจฉาริษยา “คุณวารุณีนี่เก่งจริงๆ !”

ในตอนที่เธอยังไม่ประสบอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่เธอแข่งเปียโนเสร็จ ก็มักจะได้รับเสียงปรบมือและความยินดีแบบนี้เช่นกัน หนำซ้ำยังจะมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่เสียงปรบมือเลย จะเล่นเปียโนก็ยังทำไม่ได้เลย !

นัทธีไม่ได้พูดอะไร ขมวดคิ้วแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อนวิยาเห็น ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “นัทธี คุณเป็นอะไร ?”

“ผมกำลังคิด ว่าใครที่จ้างวานสองคนนั้น” นัทธีคลึงไปที่ขมับ ตอบกลับเสียงเบา

ดวงตานวิยาไหววูบ แล้วกลับคืนสภาพอย่างรวดเร็ว หัวเราะแล้วพูดว่า“ น่าจะเป็นศัตรูที่ออกแบบด้วยกันของคุณวารุณีมั้ง ไม่อยากให้คุณวารุณีชนะการแข่งขันนี้”

“หรืออาจจะไม่ง่ายอย่างนั้น ”นัทธีหรี่ตาลง

นวิยายิ้มให้อย่างอ่อนโยน“นัทธี คุณคิดจะทำอะไร หรือคุณจะช่วยคุณวารุณี หาตัวคนคนนั้น ?”

นัทธีไม่ตอบว่าที่เธอพูดนั้นถูกหรือไม่

เพราะเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ

นวิยาหลุบตาลง ปิดบังความเย็นชาที่แผ่ซ่านในดวงตา “แล้วถ้าหาตัวเจอล่ะ ? คุณจะทำยังไงกับคนคนนั้น?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+