พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 496 การตำหนิตัวเองของนัทธี

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 496 การตำหนิตัวเองของนัทธี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำเหมือนกัน”นัทธีพูดเสียงเรียบ “พิชิตไม่ได้ทำการสับเปลี่ยนตัวอย่าง งั้นนวิยาก็ต้องให้หมอหรือพยาบาลคนอื่นเป็นคนจัดการ เช็กเจ้าหน้าที่ในแผนกตรวจสอบทุกคนที่เข้าเวรในตอนนั้น ”

“ทราบแล้วครับ”มารุตพยักหน้า

“ไปเถอะ”นัทธีโบกมือให้

มารุตก็เดินออกไป

ทันใดนั้น ร่างของเด็กน้อยที่อยู่บนเตียงก็ส่งเสียงฟืดฟาดดังขึ้นมา

ม่านตาของวารุณีหดเกร็ง ลุกขึ้นยืนทันที แล้วตรงไปที่ข้างเตียง จดจ้องมองไปยังร่างของเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงอย่างคาดหวัง

นัทธีเองก็เช่นกัน ยืนอยู่ข้างๆเธอ และคาดหวังให้เด็กน้อยฟื้นขึ้นมาเหมือนเธอ

และไอริณเองก็ไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง ภายใต้การเฝ้ามองของคนทั้งสอง เธอก็ลืมตาขึ้น “หม่ามี๊?”

นัทธีรู้สึกน้อยใจ พูดเสียงเบาว่า “ยังมีพ่ออีกคนนะ”

วารุณีฟังเสียงที่น้อยใจของเขาออก เหลือบมองไปที่เขาแวบหนึ่ง ไม่รู้จะทำหน้ายังไง

“คุณพ่อ”ไอริณกะพริบตาปริบๆ และเอ่ยเรียกอย่างว่าง่าย

เสียงเรียกของเด็กน้อยดูอ่อนเพลียมาก แทบไม่มีเรี่ยวแรง น้ำเสียงแหบแห้ง ทำให้คนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะต้องปวดใจตาม

วารุณีคัดจมูกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังคงรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ จับมือของเด็กน้อยมากุมไว้ในมือ “ลูกรัก ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

ปากเล็กๆของไอริณเบะออก น้ำตาคลอเบ้า พูดอย่างเศร้าเสียใจว่า “ เจ็บ หม่ามี๊ ไอริณเจ็บ คุณน้านวิยาใจร้ายมาก เธอเหวี่ยงไอริณลงกับพื้น ยังเตะพี่อารัณด้วย แล้วพี่อารัณอยู่ไหนคะ ?”

“พี่อารัณไปฉีดยาจ้ะ”วารุณีเช็ดน้ำตาของเด็กน้อยออกแล้วตอบกลับ

ก่อนที่จะนั่งดูกล้องวงจรปิดกัน ป้าส้มก็พาอารัณไปฉีดยาลดอาการบวมแล้ว

“พี่อารัณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”ไอริณถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้เป็นอะไร”นัทธีตอบ

ไอริณยกยิ้ม “เยี่ยมไปเลยค่ะ”

“เก่งมากลูกรัก”วารุณีลูบไปยังใบหน้าที่ขาวซีดของเด็กน้อย

เด็กน้อยช่างรู้ความ ตัวเองเป็นขนาดนี้แล้ว ยังคิดถึงและเป็นห่วงใยพี่ชายอีก ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ

นวิยานังบ้า ทำลงไปได้ยังไงกัน ?

“ลูกรัก หม่ามี๊มีข่าวดีจะบอกหนูด้วยนะ”จู่ๆวารุณีก็ยกยิ้มขึ้นมา

นัทธีเลิกคิ้ว เห็นชัดว่าพอจะเดาได้ว่าข่าวดีที่เธอว่านั้น มันคืออะไร ริมฝีปากบางก็ยกหยักขึ้น

ไอริณกะพริบตาด้วยความสงสัย“หม่ามี๊ ข่าวดีอะไรคะ”

วารุณีกับนัทธีสลับตำแหน่งกัน ให้นัทธีเข้าใกล้กับเด็กน้อยมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ตอบว่า“ นี่คือคุณพ่อของหนู ”

“หนูรู้ค่ะ”ไอริณพยักหน้า

วารุณีกับนัทธีมองสบตากัน จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พ่อคือพ่อแท้ๆของอารัณกับไอริณ เป็นพ่อแท้ๆเลยนะ”

ไอริณไม่ได้ฉลาดเหมือนอารัณ ที่จะรู้ว่าเด็กคนหนึ่งเกิดมาได้ยังไง

แต่เธอก็รู้ หากไม่มีพ่อ หม่ามี๊ก็มีลูกไม่ได้

และหม่ามี๊กับพ่อแท้ๆเท่านั้น ที่จะเกิดไอริณกับพี่อารัณได้ หากหม่ามี๊อยู่กับคุณอาคนอื่น เด็กที่เกิดออกมาก็จะไม่ใช่ไอริณกับพี่อารัณ แต่เป็นเด็กคนอื่นแทน

เพราะฉะนั้นเธอกับพี่อารัณมีพ่อแท้ๆของตัวเอง คุณพ่อนัทธีแค่อยู่กับหม่ามี๊เท่านั้น

แต่ตอนนี้หม่ามี๊บอกเธอว่า พ่อนัทธีเป็นพ่อแท้ๆของเธอกับพี่อารัณ เป็นพ่อที่ให้กำเนิดเธอกับพี่ชาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ไอริณแปลกใจได้ยังไง

“คุณพ่อ เป็นพ่อแท้ๆ?”ไอริณจ้องไปยังนัทธี แล้วถามออกไปอย่างซื่อๆ

นัทธีลูบไปที่ศีรษะของเธอ“ใช่แล้ว พ่อเป็นพ่อแท้ๆของไอริณ ”

ไอริณไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการตรวจดีเอ็นเอที่ผ่านมา หรือต่อให้รู้ก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพราะเธอเองไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้

เธอรู้เพียงแค่ว่า พี่อารัณบอกเธอว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ นั่นก็คือไม่ใช่

แต่ตอนนี้พ่อบอกว่าพ่อคือพ่อแท้ๆ

ดังนั้นปากเล็กๆของไอริณก็เบะออก แล้วร้องไห้เสียงดังออกมา

และมันก็ทำเอานัทธีตกใจมาก รีบหันมองไปยังวารุณี ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

วารุณีก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน

ตัวเองบอกลูกสาวว่า นัทธีคือพ่อแท้ๆ แล้วทำไมเด็กน้อยถึงร้องไห้ออกมาได้ ?

“ไอริณ อย่าร้องไห้เลยนะ”วารุณีรีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม

ไอริณร้องไห้หนักกว่าเดิม

นัทธีก็รีบเข้าไปปลอบพร้อมวารุณี

ปลอบอยู่สักพัก เด็กน้อยก็ถึงได้เงียบลง

ไอริณสูดจมูกน้อยๆ น้ำตาคลอเบ้ามองไปที่นัทธี “ ทำไมพ่อถึงเพิ่งมาบอกไอริณตอนนี้ ว่าพ่อเป็นพ่อแท้ๆของไอริณกับพี่อารัณ?”

นัทธีอ้าปากค้าง ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง

ไอริณก็พูดขึ้นอีกว่า“หากคุณพ่อปรากฏตัวเร็วกว่านี้ ไอริณกับพี่อารัณ ก็คงจะไม่ต้องถูกเพื่อนคนอื่นๆล้อ ว่าไอริณกับพี่อารัณเป็นเด็กไม่มีพ่อ หม่ามี๊ก็จะไม่ถูกคุณอาขี้เมาพวกนั้นมาเคาะที่ประตูห้อง ”

เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ วารุณีก็ถึงกับเศร้าเสียใจจนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง

ภายในใจของนัทธีก็รู้สึกราวกับมีเข็มทิ่มแทง เขาลุกขึ้น แล้วกอดไปที่ร่างของเด็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและพูดว่า“ลูกรักพ่อขอโทษ เมื่อก่อนพ่อไม่เคยรู้ว่ามีพวกลูกๆอยู่ หากพ่อรู้ พ่อไม่มีทางทิ้งหนูกับพี่และหม่ามี๊แน่ๆ และพ่อก็ไม่ปล่อยให้ใครต้องมารังแกพวกเราแบบนี้ด้วย ”

“จริงเหรอคะ?”ไอริณมองไปที่เขา

นัทธีจูบไปที่หน้าผากของเด็กน้อย “จริง พ่อรักลูกมากนะ ”

ไอริณยิ้มทั้งน้ำตา “หนูก็รักพ่อค่ะ เมื่อก่อนก็รัก แต่ตอนนี้รักมากที่สุดเลยค่ะ”

“โอ้?ทำไมตอนนี้ถึงรักมากที่สุดล่ะ?”นัทธีถาม

ไอริณยิ้มร่าและพูดว่า “เมื่อก่อนไม่รู้ว่าพ่อคือพ่อแท้ๆ เพราะฉะนั้นเลยมีความรักให้แค่นี้ ”

เธอทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้ดูว่ามีนิดเดียว

“ตอนนี้รู้แล้วว่าพ่อเป็นพ่อแท้ๆ ก็เลยรักมากๆเลยค่ะ มากกว่าเงินในกระปุกออมสินของไอริณอีกนะคะ”ไอริณคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงได้พูดออกมา

เธอไม่มีความรู้เรื่องเงินเท่าไร รู้แค่ว่าตัวเลขยิ่งมาก ก็จะยิ่งซื้อขนมได้มากขึ้นเท่านั้น

และเงินในกระปุกออมสินของเธอ ก็มีแต่จำนวนตัวเลขเยอะๆทั้งนั้น และมีอยู่หลายใบ ดังนั้นหากเอาเรื่องนี้มาเปรียบกับความรักที่มีให้พ่อ ย่อมจะไม่ผิดแน่

เมื่อนัทธีกับวารุณีได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

“อืม พ่อก็เหมือนกัน” นัทธีตอบกลับเสียงเบา

ไอริณก็หัวเราะคิกคักออกมา

ไม่นาน คุณหมอก็เข้ามาตรวจดูอาการของไอริณ

นัทธีกับวารุณียืนมองหมอที่กำลังสอบถามอาการต่างๆกับไอริณอยู่ไม่ไกลนัก เช่นว่าเจ็บตรงไหนไหม รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า

“ขอโทษนะ”จู่ๆนัทธีก็พูดขอโทษออกมา

วารุณีหันมองไปที่เขาด้วยความสงสัย“ จู่ๆก็พูดขอโทษทำไมคะ ?”

นัทธีโอบไปที่เอวของเธอ “คำพูดของไอริณเมื่อกี้ ผมขอโทษนะ ทำให้คุณกับลูกๆต้องลำบากกันมาหลายปี ”

เขารู้ว่าไอริณกับอารัณถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อ แต่ไม่รู้ว่า วารุณีก็ถูกพวกขี้เมามาเคาะที่ประตูห้องด้วย

เมื่อคิดถึงวารุณีผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องใช้ชีวิตอาศัยอยู่ต่างประเทศกับลูกๆอีกสองคนนัทธีก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก

“ที่แท้ก็เรื่องนี้เองหรอกเหรอ” วารุณียกยิ้ม “อันที่จริงแล้วฉันกับลูกๆก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น ที่ไอริณพูดเมื่อกี้ มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนก็จริง แต่ก็น้อยมาก และยังมีแม่ฉันอยู่ด้วยทั้งคน มีปาจรีย์กับพงศกรคอยดูแลอยู่ พวกเราก็มีชีวิตที่สุขสบายดี ”

“อย่าพูดถึงพงศกร”ใบหน้าของนัทธีก็แน่นิ่ง “ เรื่องที่เขาทำก่อนหน้านั้นยังไม่ต้องพูดถึงนะ เอาแค่เรื่องที่เขาสับเปลี่ยนผลตรวจของอารัณ”

เมื่อได้ยินคำนี้ วารุณีก็ถอนหายใจ “ฉันไม่คิดจริงๆ ว่าพงศกรจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ”

กลัวว่าเด็กทั้งสองคนจะยอมรับในตัวนัทธี เธอก็จะแต่งงานกับนัทธี ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนผลตรวจของอารัณ นี่มันเป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรทำเหรอ?

ตอนนั้นเธอยังไม่ได้รักกับนัทธีเลย และไม่มีทางที่จะแต่งงานกับนัทธีด้วย หรือต่อให้แต่ง แล้วเขาจะขวางอะไรได้ ?

โง่จริงๆ !

“ก็ได้ค่ะ ไม่พูดถึงเขาแล้ว แต่เรื่องที่พงศกรเปลี่ยนผลตรวจ ก็ช่างมันเถอะนะคะ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ หากไม่มีเขา ฉันคงให้กำเนิดลูกทั้งสองคนไม่ได้แน่ ดังนั้น……”

“ผมรู้” นัทธีพูดขัดวารุณี “เพราะผมเคยได้ยินที่คุณพูด ว่าเขาดูแลพวกคุณเป็นอย่างดีตอนอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่ได้ให้มารุตไปตรวจเช็กอะไรของเขา”

เขาก็ตั้งใจจะปล่อยพงศกรไปสักครั้ง เพราะหลังจากที่พงศกรพักรักษาตัวหาย ก็ไม่เคยติดต่อมาหาวารุณีเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 496 การตำหนิตัวเองของนัทธี

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 496 การตำหนิตัวเองของนัทธี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำเหมือนกัน”นัทธีพูดเสียงเรียบ “พิชิตไม่ได้ทำการสับเปลี่ยนตัวอย่าง งั้นนวิยาก็ต้องให้หมอหรือพยาบาลคนอื่นเป็นคนจัดการ เช็กเจ้าหน้าที่ในแผนกตรวจสอบทุกคนที่เข้าเวรในตอนนั้น ”

“ทราบแล้วครับ”มารุตพยักหน้า

“ไปเถอะ”นัทธีโบกมือให้

มารุตก็เดินออกไป

ทันใดนั้น ร่างของเด็กน้อยที่อยู่บนเตียงก็ส่งเสียงฟืดฟาดดังขึ้นมา

ม่านตาของวารุณีหดเกร็ง ลุกขึ้นยืนทันที แล้วตรงไปที่ข้างเตียง จดจ้องมองไปยังร่างของเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงอย่างคาดหวัง

นัทธีเองก็เช่นกัน ยืนอยู่ข้างๆเธอ และคาดหวังให้เด็กน้อยฟื้นขึ้นมาเหมือนเธอ

และไอริณเองก็ไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง ภายใต้การเฝ้ามองของคนทั้งสอง เธอก็ลืมตาขึ้น “หม่ามี๊?”

นัทธีรู้สึกน้อยใจ พูดเสียงเบาว่า “ยังมีพ่ออีกคนนะ”

วารุณีฟังเสียงที่น้อยใจของเขาออก เหลือบมองไปที่เขาแวบหนึ่ง ไม่รู้จะทำหน้ายังไง

“คุณพ่อ”ไอริณกะพริบตาปริบๆ และเอ่ยเรียกอย่างว่าง่าย

เสียงเรียกของเด็กน้อยดูอ่อนเพลียมาก แทบไม่มีเรี่ยวแรง น้ำเสียงแหบแห้ง ทำให้คนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะต้องปวดใจตาม

วารุณีคัดจมูกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังคงรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ จับมือของเด็กน้อยมากุมไว้ในมือ “ลูกรัก ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

ปากเล็กๆของไอริณเบะออก น้ำตาคลอเบ้า พูดอย่างเศร้าเสียใจว่า “ เจ็บ หม่ามี๊ ไอริณเจ็บ คุณน้านวิยาใจร้ายมาก เธอเหวี่ยงไอริณลงกับพื้น ยังเตะพี่อารัณด้วย แล้วพี่อารัณอยู่ไหนคะ ?”

“พี่อารัณไปฉีดยาจ้ะ”วารุณีเช็ดน้ำตาของเด็กน้อยออกแล้วตอบกลับ

ก่อนที่จะนั่งดูกล้องวงจรปิดกัน ป้าส้มก็พาอารัณไปฉีดยาลดอาการบวมแล้ว

“พี่อารัณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”ไอริณถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้เป็นอะไร”นัทธีตอบ

ไอริณยกยิ้ม “เยี่ยมไปเลยค่ะ”

“เก่งมากลูกรัก”วารุณีลูบไปยังใบหน้าที่ขาวซีดของเด็กน้อย

เด็กน้อยช่างรู้ความ ตัวเองเป็นขนาดนี้แล้ว ยังคิดถึงและเป็นห่วงใยพี่ชายอีก ช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ

นวิยานังบ้า ทำลงไปได้ยังไงกัน ?

“ลูกรัก หม่ามี๊มีข่าวดีจะบอกหนูด้วยนะ”จู่ๆวารุณีก็ยกยิ้มขึ้นมา

นัทธีเลิกคิ้ว เห็นชัดว่าพอจะเดาได้ว่าข่าวดีที่เธอว่านั้น มันคืออะไร ริมฝีปากบางก็ยกหยักขึ้น

ไอริณกะพริบตาด้วยความสงสัย“หม่ามี๊ ข่าวดีอะไรคะ”

วารุณีกับนัทธีสลับตำแหน่งกัน ให้นัทธีเข้าใกล้กับเด็กน้อยมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็ตอบว่า“ นี่คือคุณพ่อของหนู ”

“หนูรู้ค่ะ”ไอริณพยักหน้า

วารุณีกับนัทธีมองสบตากัน จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พ่อคือพ่อแท้ๆของอารัณกับไอริณ เป็นพ่อแท้ๆเลยนะ”

ไอริณไม่ได้ฉลาดเหมือนอารัณ ที่จะรู้ว่าเด็กคนหนึ่งเกิดมาได้ยังไง

แต่เธอก็รู้ หากไม่มีพ่อ หม่ามี๊ก็มีลูกไม่ได้

และหม่ามี๊กับพ่อแท้ๆเท่านั้น ที่จะเกิดไอริณกับพี่อารัณได้ หากหม่ามี๊อยู่กับคุณอาคนอื่น เด็กที่เกิดออกมาก็จะไม่ใช่ไอริณกับพี่อารัณ แต่เป็นเด็กคนอื่นแทน

เพราะฉะนั้นเธอกับพี่อารัณมีพ่อแท้ๆของตัวเอง คุณพ่อนัทธีแค่อยู่กับหม่ามี๊เท่านั้น

แต่ตอนนี้หม่ามี๊บอกเธอว่า พ่อนัทธีเป็นพ่อแท้ๆของเธอกับพี่อารัณ เป็นพ่อที่ให้กำเนิดเธอกับพี่ชาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ไอริณแปลกใจได้ยังไง

“คุณพ่อ เป็นพ่อแท้ๆ?”ไอริณจ้องไปยังนัทธี แล้วถามออกไปอย่างซื่อๆ

นัทธีลูบไปที่ศีรษะของเธอ“ใช่แล้ว พ่อเป็นพ่อแท้ๆของไอริณ ”

ไอริณไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการตรวจดีเอ็นเอที่ผ่านมา หรือต่อให้รู้ก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เพราะเธอเองไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้

เธอรู้เพียงแค่ว่า พี่อารัณบอกเธอว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ นั่นก็คือไม่ใช่

แต่ตอนนี้พ่อบอกว่าพ่อคือพ่อแท้ๆ

ดังนั้นปากเล็กๆของไอริณก็เบะออก แล้วร้องไห้เสียงดังออกมา

และมันก็ทำเอานัทธีตกใจมาก รีบหันมองไปยังวารุณี ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

วารุณีก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน

ตัวเองบอกลูกสาวว่า นัทธีคือพ่อแท้ๆ แล้วทำไมเด็กน้อยถึงร้องไห้ออกมาได้ ?

“ไอริณ อย่าร้องไห้เลยนะ”วารุณีรีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม

ไอริณร้องไห้หนักกว่าเดิม

นัทธีก็รีบเข้าไปปลอบพร้อมวารุณี

ปลอบอยู่สักพัก เด็กน้อยก็ถึงได้เงียบลง

ไอริณสูดจมูกน้อยๆ น้ำตาคลอเบ้ามองไปที่นัทธี “ ทำไมพ่อถึงเพิ่งมาบอกไอริณตอนนี้ ว่าพ่อเป็นพ่อแท้ๆของไอริณกับพี่อารัณ?”

นัทธีอ้าปากค้าง ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง

ไอริณก็พูดขึ้นอีกว่า“หากคุณพ่อปรากฏตัวเร็วกว่านี้ ไอริณกับพี่อารัณ ก็คงจะไม่ต้องถูกเพื่อนคนอื่นๆล้อ ว่าไอริณกับพี่อารัณเป็นเด็กไม่มีพ่อ หม่ามี๊ก็จะไม่ถูกคุณอาขี้เมาพวกนั้นมาเคาะที่ประตูห้อง ”

เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ วารุณีก็ถึงกับเศร้าเสียใจจนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง

ภายในใจของนัทธีก็รู้สึกราวกับมีเข็มทิ่มแทง เขาลุกขึ้น แล้วกอดไปที่ร่างของเด็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและพูดว่า“ลูกรักพ่อขอโทษ เมื่อก่อนพ่อไม่เคยรู้ว่ามีพวกลูกๆอยู่ หากพ่อรู้ พ่อไม่มีทางทิ้งหนูกับพี่และหม่ามี๊แน่ๆ และพ่อก็ไม่ปล่อยให้ใครต้องมารังแกพวกเราแบบนี้ด้วย ”

“จริงเหรอคะ?”ไอริณมองไปที่เขา

นัทธีจูบไปที่หน้าผากของเด็กน้อย “จริง พ่อรักลูกมากนะ ”

ไอริณยิ้มทั้งน้ำตา “หนูก็รักพ่อค่ะ เมื่อก่อนก็รัก แต่ตอนนี้รักมากที่สุดเลยค่ะ”

“โอ้?ทำไมตอนนี้ถึงรักมากที่สุดล่ะ?”นัทธีถาม

ไอริณยิ้มร่าและพูดว่า “เมื่อก่อนไม่รู้ว่าพ่อคือพ่อแท้ๆ เพราะฉะนั้นเลยมีความรักให้แค่นี้ ”

เธอทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้ดูว่ามีนิดเดียว

“ตอนนี้รู้แล้วว่าพ่อเป็นพ่อแท้ๆ ก็เลยรักมากๆเลยค่ะ มากกว่าเงินในกระปุกออมสินของไอริณอีกนะคะ”ไอริณคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงได้พูดออกมา

เธอไม่มีความรู้เรื่องเงินเท่าไร รู้แค่ว่าตัวเลขยิ่งมาก ก็จะยิ่งซื้อขนมได้มากขึ้นเท่านั้น

และเงินในกระปุกออมสินของเธอ ก็มีแต่จำนวนตัวเลขเยอะๆทั้งนั้น และมีอยู่หลายใบ ดังนั้นหากเอาเรื่องนี้มาเปรียบกับความรักที่มีให้พ่อ ย่อมจะไม่ผิดแน่

เมื่อนัทธีกับวารุณีได้ยินคำพูดที่ไร้เดียงสาของเด็กน้อย ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

“อืม พ่อก็เหมือนกัน” นัทธีตอบกลับเสียงเบา

ไอริณก็หัวเราะคิกคักออกมา

ไม่นาน คุณหมอก็เข้ามาตรวจดูอาการของไอริณ

นัทธีกับวารุณียืนมองหมอที่กำลังสอบถามอาการต่างๆกับไอริณอยู่ไม่ไกลนัก เช่นว่าเจ็บตรงไหนไหม รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า

“ขอโทษนะ”จู่ๆนัทธีก็พูดขอโทษออกมา

วารุณีหันมองไปที่เขาด้วยความสงสัย“ จู่ๆก็พูดขอโทษทำไมคะ ?”

นัทธีโอบไปที่เอวของเธอ “คำพูดของไอริณเมื่อกี้ ผมขอโทษนะ ทำให้คุณกับลูกๆต้องลำบากกันมาหลายปี ”

เขารู้ว่าไอริณกับอารัณถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อ แต่ไม่รู้ว่า วารุณีก็ถูกพวกขี้เมามาเคาะที่ประตูห้องด้วย

เมื่อคิดถึงวารุณีผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องใช้ชีวิตอาศัยอยู่ต่างประเทศกับลูกๆอีกสองคนนัทธีก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก

“ที่แท้ก็เรื่องนี้เองหรอกเหรอ” วารุณียกยิ้ม “อันที่จริงแล้วฉันกับลูกๆก็ไม่ได้ลำบากอะไรขนาดนั้น ที่ไอริณพูดเมื่อกี้ มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนก็จริง แต่ก็น้อยมาก และยังมีแม่ฉันอยู่ด้วยทั้งคน มีปาจรีย์กับพงศกรคอยดูแลอยู่ พวกเราก็มีชีวิตที่สุขสบายดี ”

“อย่าพูดถึงพงศกร”ใบหน้าของนัทธีก็แน่นิ่ง “ เรื่องที่เขาทำก่อนหน้านั้นยังไม่ต้องพูดถึงนะ เอาแค่เรื่องที่เขาสับเปลี่ยนผลตรวจของอารัณ”

เมื่อได้ยินคำนี้ วารุณีก็ถอนหายใจ “ฉันไม่คิดจริงๆ ว่าพงศกรจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ”

กลัวว่าเด็กทั้งสองคนจะยอมรับในตัวนัทธี เธอก็จะแต่งงานกับนัทธี ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนผลตรวจของอารัณ นี่มันเป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรทำเหรอ?

ตอนนั้นเธอยังไม่ได้รักกับนัทธีเลย และไม่มีทางที่จะแต่งงานกับนัทธีด้วย หรือต่อให้แต่ง แล้วเขาจะขวางอะไรได้ ?

โง่จริงๆ !

“ก็ได้ค่ะ ไม่พูดถึงเขาแล้ว แต่เรื่องที่พงศกรเปลี่ยนผลตรวจ ก็ช่างมันเถอะนะคะ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ หากไม่มีเขา ฉันคงให้กำเนิดลูกทั้งสองคนไม่ได้แน่ ดังนั้น……”

“ผมรู้” นัทธีพูดขัดวารุณี “เพราะผมเคยได้ยินที่คุณพูด ว่าเขาดูแลพวกคุณเป็นอย่างดีตอนอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่ได้ให้มารุตไปตรวจเช็กอะไรของเขา”

เขาก็ตั้งใจจะปล่อยพงศกรไปสักครั้ง เพราะหลังจากที่พงศกรพักรักษาตัวหาย ก็ไม่เคยติดต่อมาหาวารุณีเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+