พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 637 ถูกคนลักพาตัวไป

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 637 ถูกคนลักพาตัวไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของนัทธียิ่งอยู่ยิ่งตึงเครียด กลิ่นไอรอบตัวก็ยิ่งอยู่ยิ่งหนาวเย็น จนสุดท้าย เขาได้เปลี่ยนจากเดินเร็วมาเป็นวิ่งโดยตรง

ไม่นานก็ได้มาถึงห้องควบคุมกล้องวงจรปิด นัทธีเรียกร้องขอตามหาคน ตอนแรกคนของห้องควบคุมกล้องวงจรปิดยังไม่ตอบตกลง สุดท้ายพอนัทธีบอกฐานะของตัวเองออกมา ทางห้องควบคุมกล้องวงจรปิดถึงตอบตกลง จากนั้นถึงได้ค้นหากล้องวงจรปิดของแถวห้องน้ำ แล้วตามหาวารุณี

ปาจรีย์กับลีน่าและเชอรีนพวกเธอก็อยู่ที่ห้องกระจายเสียง ใช้การกระจายเสียงตามหาวารุณี

ถ้าเกิดวารุณีไม่ได้หายตัวไป แต่ได้ไปที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ได้ยินเสียงประกาศของพวกเธอจะต้องกลับมาทันทีแน่นอน

ดำเนินการทั้งสองฝ่ายพร้อมกัน แต่แล้วผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ดีเลย

ทางฝั่งปาจรีย์ใช้การกระจายเสียงแจ้งไปหลายรอบแล้ว วารุณีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆเลย

ส่วนทางฝั่งของนัทธีก็เหมือนกัน กล้องวงจรปิดก็หาวารุณีไม่เจอเลย

นัทธีสีหน้าแย่สุดขีด ในขณะที่เขาเตรียมจะจากไป จู่ๆเจ้าหน้าที่ได้ส่งเสียงเอ๊ะคำนึง “กล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถได้บันทึกภาพที่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนึงลักพาตัวคนๆนึงไป เหมือนคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิง”

“อะไรนะ?” นัทธีได้ยินคำนี้แล้ว รีบมาที่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่คนนี้

เจ้าหน้าที่ได้ขยายกล้องวงจรปิด จากนั้นได้กรอไปข้างหน้านิดหน่อย นัทธีเห็นคนที่ใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยปรากฎตัวอยู่ที่ขอบเขตของกล้องวงจรปิดจริงด้วย และบนไหล่ของเขายังแบกคนไว้คนนึง คนๆนั้นใส่กระโปรงยาวสีดำไว้ เป็นกระโปรงตัวที่วารุณีใส่ออกมาจากโรงแรม

เพราะเขาเป็นคนเลือกกระโปรงชุดนั้นให้เธอเอง เขาจึงมองแว๊บเดียวก็สามารถดูออกแล้วว่านั่นก็คือวารุณี คนที่ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยแบกไว้ก็คือวารุณี!

ในใจนัทธีโกรธกริ้วสุดขีด เขาก้าวเท้ายาวเดินออกมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด แล้วหยิบมือถือออกมาแจ้งตำรวจ

ตอนที่ทางตำรวจได้ยินว่าวารุณีคือถูกคนลักพาตัวไป ไม่ได้หายตัวไปเอง จึงได้ทำเป็นสำนวนคดีขึ้นมาทันทีและเริ่มเตรียมเจ้าหน้าออกตามหากัน

ทางฝั่งปาจรีย์ก็รู้แล้วว่าวารุณีถูกคนลักพาตัวไป แต่ไม่ได้หายตัวไปเอง พวกเธอก็ร้อนรนใจจะแย่อยู่แล้ว ก็ได้ไปจากอาคารแลนด์มาร์ครูปทรงกลมเหมือนกัน

เพราะเพื่อนถูกลักพาตัวไป พวกเธอจะมีอารมณ์ดูคอนเสิร์ตต่อได้ยังไง

“ประธานนัทธี” ทั้งสามคนหานัทธีเจอ

เห็นดวงตาที่แดงก่ำของนัทธีแล้ว ทั้งสามต่างก็ตกใจไปตามๆกัน

ปาจรีย์รู้ว่าวารุณีถูกคนลักพาตัวไป นาทีนี้คนที่ร้อนรนใจที่สุดและเจ็บปวดที่สุดก็คือนัทธี เธออดทนกับความหวาดกลัวที่มีต่อนัทธี ก้าวมาข้างหน้าก้าวนึง “ประธานนัทธี คุณอย่าร้อนรนใจเลยค่ะ เราจะต้องตามหาวารุณีเจอแน่นอน คนๆนั้นลักพาตัววารุณีไป เวลาบวกลบกันแล้วยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในตัวเมืองอยู่ ขอแค่ปิดเมือง เชื่อว่าจะสามารถลากตัวออกมาได้แน่นอน”

นัทธีหลุบตาไว้ไม่พูดจา

เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าปิดเมืองก็จะสามารถจับตัวได้ แต่ก่อนอื่นคือคนที่ลักพาตัววารุณีไปต้องไม่ใช่คนของนิรุตติ์

แต่ตอนนี้คนที่ลักพาตัววารุณีไปก็อาจจะเป็นนิรุตติ์เนี่ยแหละ!

ถ้าเป็นนิรุตติ์จริง ก่อนที่เขาจะให้คนลักพาตัววารุณีไป จะต้องมีแผนการมีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแน่นอน และจะวางแผนเส้นทางหลบหนีที่ดีที่สุดแน่นอน และจะเป็นเส้นทางหลบหนีก่อนที่จะปิดเมือง

เพราะฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือ วารุณีได้ถูกส่งตัวขึ้นไปที่เฮลิคอปเตอร์หรือว่าได้ถูกเรือสำราญส่งตัวไปแล้ว

ถ้าเป็นแบบนั้น ปิดเมืองมันไม่ทันเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้คนของทางตำรวจได้ไปตรวจการณ์ที่ลานจอดเครื่องบินทุกที่และทุกท่าเรือแล้ว ขอให้สามารถตรวจการณ์เจอเถอะ

เห็นนัทธีไม่พูดจา ปาจรีย์ก็ไม่รู้ควรว่าจะทำยังไงแล้ว

ผ่านไปสองวิ จู่ๆเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาได้เปล่งประกาย “ประธานนัทธี ให้อารัณเช็คตำแหน่งที่ตั้งตอนนี้ของวารุณีหน่อย บนตัววารุณีมีจีพีเอสที่อารัณให้ไม่ใช่เหรอคะ?อารัณจะต้องจับตำแหน่งที่ตั้งของวารุณีได้แน่นอนค่ะ”

“เมื่อกี๊ผมได้ติดต่อป้าส้มแล้ว ตอนนี้อารัณกำลังค้นหาอยู่ แต่ไม่มีข่าวคราวเลย” นัทธีกำหมัดไว้แน่น ในเสียงที่แหบพร่ายังแฝงด้วยความโกรธที่ยับยั้งไว้

ปาจรีย์ขมวดคิ้ว “ไม่มีข่าวคราว?”

ไม่มีข่าวคราวคือหมายความว่าอารัณก็เช็คโลเคชั่นของวารุณีไม่เจอเหรอ?

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นบนตัวของคนที่ลักพาตัววารุณีไปจะต้องมีเครื่องรบกวนสัญญาอะไรหรือเปล่า?

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นโทรศัพท์ของนัทธี

นัทธีหยิบขึ้นมาดู คำว่าอารัณกำลังเด้งอยู่บนหน้าจออย่างไม่ขาดสาย

ปาจรีย์สีหน้าดีใจ “คืออารัณ ประธานนัทธีคุณรีบรับสายสิคะ ไม่แน่อารัณอาจจะหาวารุณีเจอแล้วก็ได้”

ถึงแม้นัทธีไม่ได้ตอบเธอ แต่นิ้วโป้งได้สไลด์ปุ่มของรับสายของอารัณอย่างไว

“ป่าป๊า ผมหาโลเคชั่นของหม่ามี๊เจอแล้วครับ” เสียงของอารัณก้องมา

นัทธีได้ลุกขึ้น “อยู่ไหน?”

ทันใดนั้นอารัณได้เงียบกริบพร้อมส่ายหัว “อยู่ในแม่น้ำสายนึงครับ”

“อะไรนะ?”ปาจรีย์ก็ได้ยินแล้วเหมือนกัน ได้พูดเสียงสูงว่า “ในแม่น้ำสายนึง?หรือคนๆนั้นจะโยนวารุณีลงไปในแม่น้ำแล้ว?”

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว คาดว่าคนก็คงจะจมน้ำตายแล้วมั้ง?

เห็นได้ชัดว่านัทธีก็นึกถึงความเป็นไปได้นี้เหมือนกัน ทันใดนั้นได้กำมือถือไว้แน่น ราวกับว่าจะบีบมือถือให้แตกยังไงอย่างงั้น กลิ่นไอที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบตัว ยิ่งน่ากลัวจนทำให้คนหายใจไม่ออก

พวกปาจรีย์รู้ว่า หลังจากที่นัทธีได้ยินว่าวารุณีอาจจะถูกโยนลงไปในแม่น้ำแล้ว ได้กระทบกระเทือนจิตใจมาก เลยทำให้ตอนนี้อารมณ์ร้อนมาก

“อยู่แม่น้ำสายไหน?”นัทธีกัดฟันไว้แน่น พร้อมถามออกมาทีละถ้อยคำ

อารัณดึงสติกลับมาได้ว่าป่าป๊าคงจะเข้าใจอะไรผิดไป เขากระพริบตาปริบๆแล้วตอบว่า:“เป็นจุดชมวิวแม่น้ำที่ห่างจากอาคารแลนด์มาร์ครูปทรงกลมไม่ไกลครับ ในนั้นน่าจะมีแค่มือถือและเครื่องประดับของหม่ามี๊ เพราะระบบจีพีเอสที่ผมติดตั้งให้หม่ามี๊ สามารถตรวจวัดอุณภูมิของร่างกายได้ อีกอย่างยังสามารถบันทึกขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอุณภูมิของร่างกายอัตโนมัติ ผมได้เช็ครายการบันทึกอุณภูมิร่างกายของระบบจีพีเอสแล้ว อุณภูมิร่างกายของหม่ามี๊ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะฉะนั้นผมกล้ามั่นใจว่าหม่ามี๊ไม่ได้อยู่ในแม่น้ำ ในแม่น้ำมีแค่มือถือและเครื่องประดับที่ติดตั้งระบบจีพีเอสไว้เท่านั้นครับ”

นัทธีได้ยินคำนี้แล้วม่านตาหดตัว “จริงหรือเปล่า?”

“จริงครับ ผมมั่นใจครับ!”อารัณพยักหน้า

ทันใดนั้นปาจรีย์ได้ลูบทรวงอกพร้อมกับโล่งอกไปที “ดีจังเลย งั้นแสดงว่าวารุณียังมีชีวิตอยู่ อารัณผมนี่ก็จริงๆเลยนะ ทำไมไม่พูดให้ชัดเจนเร็วกว่านี้หน่อย ทำเอาน้ากับป่าป๊าของผมตกใจจะแย่อยู่แล้ว พวกเรายังนึกว่าวารุณีถูกโยนลงไปมนแม่น้ำแล้วเสียอีก”

“ป่าป๊า ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ” อารัณก้มหน้าขอโทษ

เขาแค่ไม่ได้ดึงสติกลับมาว่าคำพูดคำนั้นของเขามีอะไรผิดปกติ

“เอาล่ะอารัณ ล็อกกล้องวงจรปิดทั้งหมดของระแวกจุดชมวิวแม่น้ำ และหาคนที่ลักพาตัวหม่ามี๊ของลูกไปให้เจอ”นัทธีขมวดคิ้วแน่น พร้อมสั่งการด้วยเสียงซีเรียส

อารัณพยักหน้าอย่างจริงจัง “ครับ!”

หลังจากจบสายสนทนา นัทธีวางมือถือลงแล้วมองมาที่พวกปาจรีย์ “ตอนนี้พวกคุณสามคนไปติดต่อทีมกู้ภัย ล้วงของที่อยู่ในแม่น้ำออกมา”

“มอบให้พวกเราเองค่ะ ประธานนัทธี” เชอรีนตบหน้าอกพร้อมตอบ

ปาจรีย์มองหน้าเขา “แล้วคุณล่ะคะ ประธานนัทธี?”

“ผมจะติดต่อกำลังคน” นัทธีหรี่ตาไว้พร้อมตอบ

อยู่ประเทศนี้ เขาไม่สามารถเหมือนในประเทศที่จะมีกำลังคนให้ใช้ได้ทุกเมื่อ เขาก็ไม่สามารถฝากความหวังในการตามหาวารุณีทั้งหมดไว้กับทางตำรวจ

ถ้าหากวารุณีถูกนำตัวไปต่างประเทศแล้ว งั้นตำรวจของประเทศนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว พวกเขาไม่สามารถไปตามหาคนที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเขายังต้องการกำลังคนอีกชุดนึง ถ้าวารุณีไปต่างประเทศแล้วจริงๆ กำลังคนพวกนี้ก็จะสามารถไปช่วยวารุณีกับเขาที่ต่างประเทศ

ปาจรีย์เข้าใจความหมายของนัทธีแล้วได้อืมคำนึง “ฉันรู้แล้ว ประธานนัทธีคุณไปเถอะค่ะ แต่ประธานนัทธี คุณเองก็ต้องรักษาตัวนะ ไม่ใช่ว่าหาวารุณีไม่เจอ คุณก็เกิดเรื่องอีก ถ้าอย่างงั้นพอวารุณีกลับมาแล้ว ก็ไม่อาจรับได้เหมือนกัน”

“ผมรู้แล้ว” นัทธีเม้มปากตอบคำนึง

เขาต้องปกป้องตัวเองอย่างดีอยู่แล้ว เขาจะไม่ทำให้วารุณีเป็นห่วงเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว

เรื่องอย่างคราวก่อน เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวก็พอ จะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองไม่ได้เด็ดขาด ให้เขาเป็นฝ่ายกังวลและหวาดผวาก็พอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ 637 ถูกคนลักพาตัวไป

Now you are reading พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ Chapter 637 ถูกคนลักพาตัวไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของนัทธียิ่งอยู่ยิ่งตึงเครียด กลิ่นไอรอบตัวก็ยิ่งอยู่ยิ่งหนาวเย็น จนสุดท้าย เขาได้เปลี่ยนจากเดินเร็วมาเป็นวิ่งโดยตรง

ไม่นานก็ได้มาถึงห้องควบคุมกล้องวงจรปิด นัทธีเรียกร้องขอตามหาคน ตอนแรกคนของห้องควบคุมกล้องวงจรปิดยังไม่ตอบตกลง สุดท้ายพอนัทธีบอกฐานะของตัวเองออกมา ทางห้องควบคุมกล้องวงจรปิดถึงตอบตกลง จากนั้นถึงได้ค้นหากล้องวงจรปิดของแถวห้องน้ำ แล้วตามหาวารุณี

ปาจรีย์กับลีน่าและเชอรีนพวกเธอก็อยู่ที่ห้องกระจายเสียง ใช้การกระจายเสียงตามหาวารุณี

ถ้าเกิดวารุณีไม่ได้หายตัวไป แต่ได้ไปที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่ได้ยินเสียงประกาศของพวกเธอจะต้องกลับมาทันทีแน่นอน

ดำเนินการทั้งสองฝ่ายพร้อมกัน แต่แล้วผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ดีเลย

ทางฝั่งปาจรีย์ใช้การกระจายเสียงแจ้งไปหลายรอบแล้ว วารุณีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆเลย

ส่วนทางฝั่งของนัทธีก็เหมือนกัน กล้องวงจรปิดก็หาวารุณีไม่เจอเลย

นัทธีสีหน้าแย่สุดขีด ในขณะที่เขาเตรียมจะจากไป จู่ๆเจ้าหน้าที่ได้ส่งเสียงเอ๊ะคำนึง “กล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถได้บันทึกภาพที่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนึงลักพาตัวคนๆนึงไป เหมือนคนๆนั้นจะเป็นผู้หญิง”

“อะไรนะ?” นัทธีได้ยินคำนี้แล้ว รีบมาที่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่คนนี้

เจ้าหน้าที่ได้ขยายกล้องวงจรปิด จากนั้นได้กรอไปข้างหน้านิดหน่อย นัทธีเห็นคนที่ใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยปรากฎตัวอยู่ที่ขอบเขตของกล้องวงจรปิดจริงด้วย และบนไหล่ของเขายังแบกคนไว้คนนึง คนๆนั้นใส่กระโปรงยาวสีดำไว้ เป็นกระโปรงตัวที่วารุณีใส่ออกมาจากโรงแรม

เพราะเขาเป็นคนเลือกกระโปรงชุดนั้นให้เธอเอง เขาจึงมองแว๊บเดียวก็สามารถดูออกแล้วว่านั่นก็คือวารุณี คนที่ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยแบกไว้ก็คือวารุณี!

ในใจนัทธีโกรธกริ้วสุดขีด เขาก้าวเท้ายาวเดินออกมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด แล้วหยิบมือถือออกมาแจ้งตำรวจ

ตอนที่ทางตำรวจได้ยินว่าวารุณีคือถูกคนลักพาตัวไป ไม่ได้หายตัวไปเอง จึงได้ทำเป็นสำนวนคดีขึ้นมาทันทีและเริ่มเตรียมเจ้าหน้าออกตามหากัน

ทางฝั่งปาจรีย์ก็รู้แล้วว่าวารุณีถูกคนลักพาตัวไป แต่ไม่ได้หายตัวไปเอง พวกเธอก็ร้อนรนใจจะแย่อยู่แล้ว ก็ได้ไปจากอาคารแลนด์มาร์ครูปทรงกลมเหมือนกัน

เพราะเพื่อนถูกลักพาตัวไป พวกเธอจะมีอารมณ์ดูคอนเสิร์ตต่อได้ยังไง

“ประธานนัทธี” ทั้งสามคนหานัทธีเจอ

เห็นดวงตาที่แดงก่ำของนัทธีแล้ว ทั้งสามต่างก็ตกใจไปตามๆกัน

ปาจรีย์รู้ว่าวารุณีถูกคนลักพาตัวไป นาทีนี้คนที่ร้อนรนใจที่สุดและเจ็บปวดที่สุดก็คือนัทธี เธออดทนกับความหวาดกลัวที่มีต่อนัทธี ก้าวมาข้างหน้าก้าวนึง “ประธานนัทธี คุณอย่าร้อนรนใจเลยค่ะ เราจะต้องตามหาวารุณีเจอแน่นอน คนๆนั้นลักพาตัววารุณีไป เวลาบวกลบกันแล้วยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในตัวเมืองอยู่ ขอแค่ปิดเมือง เชื่อว่าจะสามารถลากตัวออกมาได้แน่นอน”

นัทธีหลุบตาไว้ไม่พูดจา

เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าปิดเมืองก็จะสามารถจับตัวได้ แต่ก่อนอื่นคือคนที่ลักพาตัววารุณีไปต้องไม่ใช่คนของนิรุตติ์

แต่ตอนนี้คนที่ลักพาตัววารุณีไปก็อาจจะเป็นนิรุตติ์เนี่ยแหละ!

ถ้าเป็นนิรุตติ์จริง ก่อนที่เขาจะให้คนลักพาตัววารุณีไป จะต้องมีแผนการมีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแน่นอน และจะวางแผนเส้นทางหลบหนีที่ดีที่สุดแน่นอน และจะเป็นเส้นทางหลบหนีก่อนที่จะปิดเมือง

เพราะฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือ วารุณีได้ถูกส่งตัวขึ้นไปที่เฮลิคอปเตอร์หรือว่าได้ถูกเรือสำราญส่งตัวไปแล้ว

ถ้าเป็นแบบนั้น ปิดเมืองมันไม่ทันเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้คนของทางตำรวจได้ไปตรวจการณ์ที่ลานจอดเครื่องบินทุกที่และทุกท่าเรือแล้ว ขอให้สามารถตรวจการณ์เจอเถอะ

เห็นนัทธีไม่พูดจา ปาจรีย์ก็ไม่รู้ควรว่าจะทำยังไงแล้ว

ผ่านไปสองวิ จู่ๆเธอนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาได้เปล่งประกาย “ประธานนัทธี ให้อารัณเช็คตำแหน่งที่ตั้งตอนนี้ของวารุณีหน่อย บนตัววารุณีมีจีพีเอสที่อารัณให้ไม่ใช่เหรอคะ?อารัณจะต้องจับตำแหน่งที่ตั้งของวารุณีได้แน่นอนค่ะ”

“เมื่อกี๊ผมได้ติดต่อป้าส้มแล้ว ตอนนี้อารัณกำลังค้นหาอยู่ แต่ไม่มีข่าวคราวเลย” นัทธีกำหมัดไว้แน่น ในเสียงที่แหบพร่ายังแฝงด้วยความโกรธที่ยับยั้งไว้

ปาจรีย์ขมวดคิ้ว “ไม่มีข่าวคราว?”

ไม่มีข่าวคราวคือหมายความว่าอารัณก็เช็คโลเคชั่นของวารุณีไม่เจอเหรอ?

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นบนตัวของคนที่ลักพาตัววารุณีไปจะต้องมีเครื่องรบกวนสัญญาอะไรหรือเปล่า?

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นโทรศัพท์ของนัทธี

นัทธีหยิบขึ้นมาดู คำว่าอารัณกำลังเด้งอยู่บนหน้าจออย่างไม่ขาดสาย

ปาจรีย์สีหน้าดีใจ “คืออารัณ ประธานนัทธีคุณรีบรับสายสิคะ ไม่แน่อารัณอาจจะหาวารุณีเจอแล้วก็ได้”

ถึงแม้นัทธีไม่ได้ตอบเธอ แต่นิ้วโป้งได้สไลด์ปุ่มของรับสายของอารัณอย่างไว

“ป่าป๊า ผมหาโลเคชั่นของหม่ามี๊เจอแล้วครับ” เสียงของอารัณก้องมา

นัทธีได้ลุกขึ้น “อยู่ไหน?”

ทันใดนั้นอารัณได้เงียบกริบพร้อมส่ายหัว “อยู่ในแม่น้ำสายนึงครับ”

“อะไรนะ?”ปาจรีย์ก็ได้ยินแล้วเหมือนกัน ได้พูดเสียงสูงว่า “ในแม่น้ำสายนึง?หรือคนๆนั้นจะโยนวารุณีลงไปในแม่น้ำแล้ว?”

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว คาดว่าคนก็คงจะจมน้ำตายแล้วมั้ง?

เห็นได้ชัดว่านัทธีก็นึกถึงความเป็นไปได้นี้เหมือนกัน ทันใดนั้นได้กำมือถือไว้แน่น ราวกับว่าจะบีบมือถือให้แตกยังไงอย่างงั้น กลิ่นไอที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบตัว ยิ่งน่ากลัวจนทำให้คนหายใจไม่ออก

พวกปาจรีย์รู้ว่า หลังจากที่นัทธีได้ยินว่าวารุณีอาจจะถูกโยนลงไปในแม่น้ำแล้ว ได้กระทบกระเทือนจิตใจมาก เลยทำให้ตอนนี้อารมณ์ร้อนมาก

“อยู่แม่น้ำสายไหน?”นัทธีกัดฟันไว้แน่น พร้อมถามออกมาทีละถ้อยคำ

อารัณดึงสติกลับมาได้ว่าป่าป๊าคงจะเข้าใจอะไรผิดไป เขากระพริบตาปริบๆแล้วตอบว่า:“เป็นจุดชมวิวแม่น้ำที่ห่างจากอาคารแลนด์มาร์ครูปทรงกลมไม่ไกลครับ ในนั้นน่าจะมีแค่มือถือและเครื่องประดับของหม่ามี๊ เพราะระบบจีพีเอสที่ผมติดตั้งให้หม่ามี๊ สามารถตรวจวัดอุณภูมิของร่างกายได้ อีกอย่างยังสามารถบันทึกขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงอุณภูมิของร่างกายอัตโนมัติ ผมได้เช็ครายการบันทึกอุณภูมิร่างกายของระบบจีพีเอสแล้ว อุณภูมิร่างกายของหม่ามี๊ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะฉะนั้นผมกล้ามั่นใจว่าหม่ามี๊ไม่ได้อยู่ในแม่น้ำ ในแม่น้ำมีแค่มือถือและเครื่องประดับที่ติดตั้งระบบจีพีเอสไว้เท่านั้นครับ”

นัทธีได้ยินคำนี้แล้วม่านตาหดตัว “จริงหรือเปล่า?”

“จริงครับ ผมมั่นใจครับ!”อารัณพยักหน้า

ทันใดนั้นปาจรีย์ได้ลูบทรวงอกพร้อมกับโล่งอกไปที “ดีจังเลย งั้นแสดงว่าวารุณียังมีชีวิตอยู่ อารัณผมนี่ก็จริงๆเลยนะ ทำไมไม่พูดให้ชัดเจนเร็วกว่านี้หน่อย ทำเอาน้ากับป่าป๊าของผมตกใจจะแย่อยู่แล้ว พวกเรายังนึกว่าวารุณีถูกโยนลงไปมนแม่น้ำแล้วเสียอีก”

“ป่าป๊า ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ” อารัณก้มหน้าขอโทษ

เขาแค่ไม่ได้ดึงสติกลับมาว่าคำพูดคำนั้นของเขามีอะไรผิดปกติ

“เอาล่ะอารัณ ล็อกกล้องวงจรปิดทั้งหมดของระแวกจุดชมวิวแม่น้ำ และหาคนที่ลักพาตัวหม่ามี๊ของลูกไปให้เจอ”นัทธีขมวดคิ้วแน่น พร้อมสั่งการด้วยเสียงซีเรียส

อารัณพยักหน้าอย่างจริงจัง “ครับ!”

หลังจากจบสายสนทนา นัทธีวางมือถือลงแล้วมองมาที่พวกปาจรีย์ “ตอนนี้พวกคุณสามคนไปติดต่อทีมกู้ภัย ล้วงของที่อยู่ในแม่น้ำออกมา”

“มอบให้พวกเราเองค่ะ ประธานนัทธี” เชอรีนตบหน้าอกพร้อมตอบ

ปาจรีย์มองหน้าเขา “แล้วคุณล่ะคะ ประธานนัทธี?”

“ผมจะติดต่อกำลังคน” นัทธีหรี่ตาไว้พร้อมตอบ

อยู่ประเทศนี้ เขาไม่สามารถเหมือนในประเทศที่จะมีกำลังคนให้ใช้ได้ทุกเมื่อ เขาก็ไม่สามารถฝากความหวังในการตามหาวารุณีทั้งหมดไว้กับทางตำรวจ

ถ้าหากวารุณีถูกนำตัวไปต่างประเทศแล้ว งั้นตำรวจของประเทศนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว พวกเขาไม่สามารถไปตามหาคนที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเขายังต้องการกำลังคนอีกชุดนึง ถ้าวารุณีไปต่างประเทศแล้วจริงๆ กำลังคนพวกนี้ก็จะสามารถไปช่วยวารุณีกับเขาที่ต่างประเทศ

ปาจรีย์เข้าใจความหมายของนัทธีแล้วได้อืมคำนึง “ฉันรู้แล้ว ประธานนัทธีคุณไปเถอะค่ะ แต่ประธานนัทธี คุณเองก็ต้องรักษาตัวนะ ไม่ใช่ว่าหาวารุณีไม่เจอ คุณก็เกิดเรื่องอีก ถ้าอย่างงั้นพอวารุณีกลับมาแล้ว ก็ไม่อาจรับได้เหมือนกัน”

“ผมรู้แล้ว” นัทธีเม้มปากตอบคำนึง

เขาต้องปกป้องตัวเองอย่างดีอยู่แล้ว เขาจะไม่ทำให้วารุณีเป็นห่วงเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว

เรื่องอย่างคราวก่อน เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวก็พอ จะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองไม่ได้เด็ดขาด ให้เขาเป็นฝ่ายกังวลและหวาดผวาก็พอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+