สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) 27

Now you are reading สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) Chapter 27 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ช่วงพักกลางวัน 

 

อย่างที่ผมได้คิดเอาไว้ ตอนนี้ช่าวลือของผมหนาหูไปทั้งโรงเรียนและตอนนี้ผมก็กลายเป็นเป้าของความรู้สึกมากมาย

 

ส่วนใหญ่ก็เป็นความรู้สึกด้านลบอย่างความอิจฉาและเกลียดชัง อย่างกับว่าผมไปขโมยซาเองุสะซังมาจากพวกเขา 

 

แต่ผมไม่คิดเลยว่าความรู้สึกด้านลบไม่น้อยนั้นจะมาจากฝั่งผู้หญิง แล้วก็มีความรู้สึกโล่งอกด้วย 

 

ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่มีคนคิดในด้านพวกอยู่ไม่น้อยเลย บางคนยังถามผมด้วยว่าผมไปสนิทกับซาเองุสะซังได้ยังไง

 

แล้วก็มีหลายคนที่เป็นห่วงซาเองุสะเพราะตั้งแต่เปิดเรียนมาเธอไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครแบบจริงๆจังๆเลย การได้เห็นเธอเป็นเพื่อนกับผมแบบนี้ทำให้พวกเขาโล่งใจเลยล่ะ

 

โลกใบนี้มันช่างน่าแปลกจริงๆ 

 

ผมมั่นใจว่าถ้าทุกคนทำตัวดีๆแบบผมก็เป็นเพื่อนกับซาเองุสะซังได้ไม่ยากเลยนะ 

 

และสุดท้ายก็คือสายตาที่ดูสนุกสนานที่เปี่ยมสุข ซึ่งมาจากคนที่อยู่ข้างๆผมนั่นเอง 

 

“พวกเราทานด้วยได้มั้ยเอ่ย?” 

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน แน่นอนว่าผมกับเจ้าทาคายูกิก็นั่งทานด้วยกันเหมือนเช่นเคย แต่แล้วซาเองุสะซังก็กล่าวถามขึ้น 

 

คำว่า “พวกเรา” ของเธอก็คงจะหมายถึงชิมิซุซังที่ยืนถือกล่องข้าวอยู่ข้างๆเจ้าตัวนั่นแหละ

 

“ได้อยู่แล้ว” 

 

“ใช้แล้วมาทานด้วยกันเถอะครับ” 

 

ในเมื่อคนที่ถามคือสองสาวที่สวยที่สุดในห้อง แน่นอนว่าพวกเราไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว 

 

แถมเรายังอยู่กลุ่มเดียวกันตอนไปทัศนศึกษาและยังมีกลุ่มไลม์ไว้คุยกันอีก ยิ่งไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ 

 

เมื่อพวกเราตกลงกันแล้วชิมิซุซังก็มานั่งด้านหน้าซาเองุสะซัง แล้วพวกเราสี่คนก็เริ่มทานข้าวกลางวันด้วยกันโดยหันหน้าเขาหากัน

 

แล้วเรื่องของเรื่องก็คือสองในสี่คนนั้นเป็นสาวที่สุดในห้องส่วนอีกคนก็คือทาคุยะที่ดังมากในหมู่สาวๆ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องได้ไม่ยาก 

 

“เป็นครั้งเลยนะที่พวกเราสี่คนทานข้าวด้วยกัน หลังจากไปทัศนศึกษาน่ะ! ฉันดีใจจังเลย!” 

 

แต่ซาเองุสะซังก็ไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นและเปิดกล่องข้าวของเธอด้วยรอยยิ้ม 

 

พวกเราขำให้กับท่าทางของเธอแล้วตอบไปว่าพวกเราก็เหมือนกัน 

 

ถ้าซาเองุสะซังมีความสุขกับการทานข้าวด้วยกันล่ะแล้วก็ ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเขาเถอะ 

 

 

“ฉันมีเรื่องนึงอยากลองทำมานานแล้วน่ะ!” 

 

ซาเองุสะซังกล่าวขึ้นทันทีหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จแล้ว 

 

อะไรคือสิ่งที่เธออยากทำกันนะ? พวกเรารอคำพูดต่อไปของเธออย่างใจจดใจจ่อ 

 

“ฉันอยากไปกินแฮมเบอร์เกอร์กับเพื่อนๆหลังเลิกเรียนสักครั้ง!” 

 

ซาเองุสะซังประกาศสิ่งที่เธอต้องการออกมาด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับ 

 

ผมนึกว่าจะเป็นเรื่องอื่นซะอีก แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะว่าซาเองุสะซังน่าจะยุ่งอยู่กับงานไอดอลจนไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้น 

 

แถมวันนี้ทั้งผมทั้งทาคายูกิก็ว่างพอดี พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปกันตามที่เธอขอ 

 

ซาเองุสะซังพูดด้วยว่าเธออยากลองทำแบบนั้มานานตั้งแต่เธอได้เห็นในมังงะหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ 

 

พวกเราจึงเลือกที่จะไปร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่อยู่ตรงหน้าสถานี 

 

 

พอถึงเวลาเลิกเรียน พวกเราสี่คนก็ตรงไปที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่ว่าทันที 

 

ตอนที่เราออกมาจากโรงเรียน ซาเองุสะซังก็หยิบแว่นกันแดดออกมาจากในกระเป๋าก่อนที่จะสวมมันไว้ 

 

เธอคงตั้งใจจะปลอมตัวนั่นแหละ แต่ว่าขอโทษนะครับ มันไม่ได้เนียนเลยสักนิด 

 

“เอ่อ คุณใช่ชิโอรินจาก Angel Girls รึเปล่าคะ?” 

 

“ไม่ใช่ค่ะ!” 

 

อย่างที่เห็น การที่มีนักเรียนหญิงชั้นม.ปลายคนนึงเข้ามาทักเธอแบบนี้ก็ชัดแล้วว่าแว่นที่ใส่อยู่ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลยจริงๆ 

 

แต่ว่าเธอก็ยังตอบปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว 

 

ผมอดจะขำไม่ได้จริงๆ เห็นชัดๆขนาดนี้ว่ามันไม่ได้ผล แต่เธอก็ยังหน้าด้านพอที่จะตอบปฏิเสธโดยไม่มีลังเล 

 

ส่วนเด็กสาวที่ถูกปฏิเสธก็ยอมถอยกลับไปแต่โดยดี 

 

สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ที่จะปลอมตัวและถอดแว่นตาออก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทาคายูกิและชิมิซุซัง 

 

“โม่ว! หยุดหัวเราะฉันเลยนะ!” 

 

เธอตกล่าวออกมาด้วยไปหน้าอายๆและแน่นอนว่ามันดูน่ารักเหมือนเคย 

 

แล้วเธอก็พูดติดตลกว่า “คราวหน้าฉันเขียนป้ายกระดาษว่า “ฉันไม่ใช่ชิโอรินค่ะ” แล้วเอามาแปะที่หลังดีกว่า” 

 

พอผมลองคิดภาพตามผมก็ขำหนักซะยิ่งกว่าเดิม 

 

 

ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่หมาย ก่อนจะเข้าไปในร้าน 

 

เมื่อเข้ามาด้านในพวกเราก็ได้กลิ่นน้ำมันโชนออกมาทันที 

 

ดวงตาซาเองุสะส่องประกายอย่างกับเด็กๆ ภาพแบบนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆนะเนี่ย 

 

พวกเราค่อยๆสั่งของมากินกันทีละคน จนกระทั่งมาถึงตาของซาเองุสะ 

 

แต่เนื่องจากเธอไม่เคยเจ้าร้านแบบนี้มาก่อน เธอจึงส่งสายตาราวกับลูกหมามาทางผม 

 

“ช่วยฉันด้วยทัคคุง…….” 

 

ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ล่ะนะ แล้วผมก็เดินเข้าไปช่วยเธอสั่ง 

 

แล้วพวกเราก็มาหาที่ว่างๆนั่งกัน ซึ่งที่นี่ก็มักจะมีเหล่านักเรียนมากหน้าหลายตามาใช้บริการอยู่ตลอด ทำให้มีความรู้สึกว่าเราได้เข้ามาในร้านแฮมเบอร์เกอร์แล้วและซาเองุสะซังก็ดูจะสนใจที่ๆคนทั่วไปมัดจะมากันแบบที่นี่ไม่น้อย

 

มันคงเป็นความรู้สึกที่มีแค่คนดังด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ แล้วการที่ได้เห็นหน้าเธอมีความสุขแบบนี้ก็พาทำให้คนทั่วไปอย่างพวกเราสุขใจไปด้วย 

 

ซาเองุสะซังถ่ายรูปแฮมเบอร์เกอร์ด้วยมือถือของเธอและส่งในกลุ่มไลม์ 

 

—ติ๊ง! 

 

โทรศัพท์ของพวกเราดังขึ้นพร้อมๆกัน ซึ่งแน่นอนว่ามาจากซาเองุสะซัง 

 

สิ่งที่ถูกส่งมาก็คือภาพถ่ายของแฮมเบอร์เกอร์ที่เบลอเล็กน้อย 

 

แล้วก็ 

 

“ฉลองให้กับแฮมเบอร์เกอร์อันแรกในชีวิตของฉัน!” 

 

ทำเอาคนที่เหลือต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นร้านเลยล่ะ 

 

 

ปล.ช่วงนี้ผมอาจจะลงน้อยหน่อยนะครับ พอดีว่าใกล้จะสอบน่ะ

 

ปล2.นางก็บ๊องไปนะบางที 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) 27

Now you are reading สาวไอดอลห้องเดียวกับผมชอบทำตัวน่าสงสัย(The Idol Girl in My Class Is Acting Suspiciously) Chapter 27 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ช่วงพักกลางวัน 

 

อย่างที่ผมได้คิดเอาไว้ ตอนนี้ช่าวลือของผมหนาหูไปทั้งโรงเรียนและตอนนี้ผมก็กลายเป็นเป้าของความรู้สึกมากมาย

 

ส่วนใหญ่ก็เป็นความรู้สึกด้านลบอย่างความอิจฉาและเกลียดชัง อย่างกับว่าผมไปขโมยซาเองุสะซังมาจากพวกเขา 

 

แต่ผมไม่คิดเลยว่าความรู้สึกด้านลบไม่น้อยนั้นจะมาจากฝั่งผู้หญิง แล้วก็มีความรู้สึกโล่งอกด้วย 

 

ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่มีคนคิดในด้านพวกอยู่ไม่น้อยเลย บางคนยังถามผมด้วยว่าผมไปสนิทกับซาเองุสะซังได้ยังไง

 

แล้วก็มีหลายคนที่เป็นห่วงซาเองุสะเพราะตั้งแต่เปิดเรียนมาเธอไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครแบบจริงๆจังๆเลย การได้เห็นเธอเป็นเพื่อนกับผมแบบนี้ทำให้พวกเขาโล่งใจเลยล่ะ

 

โลกใบนี้มันช่างน่าแปลกจริงๆ 

 

ผมมั่นใจว่าถ้าทุกคนทำตัวดีๆแบบผมก็เป็นเพื่อนกับซาเองุสะซังได้ไม่ยากเลยนะ 

 

และสุดท้ายก็คือสายตาที่ดูสนุกสนานที่เปี่ยมสุข ซึ่งมาจากคนที่อยู่ข้างๆผมนั่นเอง 

 

“พวกเราทานด้วยได้มั้ยเอ่ย?” 

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน แน่นอนว่าผมกับเจ้าทาคายูกิก็นั่งทานด้วยกันเหมือนเช่นเคย แต่แล้วซาเองุสะซังก็กล่าวถามขึ้น 

 

คำว่า “พวกเรา” ของเธอก็คงจะหมายถึงชิมิซุซังที่ยืนถือกล่องข้าวอยู่ข้างๆเจ้าตัวนั่นแหละ

 

“ได้อยู่แล้ว” 

 

“ใช้แล้วมาทานด้วยกันเถอะครับ” 

 

ในเมื่อคนที่ถามคือสองสาวที่สวยที่สุดในห้อง แน่นอนว่าพวกเราไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว 

 

แถมเรายังอยู่กลุ่มเดียวกันตอนไปทัศนศึกษาและยังมีกลุ่มไลม์ไว้คุยกันอีก ยิ่งไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ 

 

เมื่อพวกเราตกลงกันแล้วชิมิซุซังก็มานั่งด้านหน้าซาเองุสะซัง แล้วพวกเราสี่คนก็เริ่มทานข้าวกลางวันด้วยกันโดยหันหน้าเขาหากัน

 

แล้วเรื่องของเรื่องก็คือสองในสี่คนนั้นเป็นสาวที่สุดในห้องส่วนอีกคนก็คือทาคุยะที่ดังมากในหมู่สาวๆ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องได้ไม่ยาก 

 

“เป็นครั้งเลยนะที่พวกเราสี่คนทานข้าวด้วยกัน หลังจากไปทัศนศึกษาน่ะ! ฉันดีใจจังเลย!” 

 

แต่ซาเองุสะซังก็ไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นและเปิดกล่องข้าวของเธอด้วยรอยยิ้ม 

 

พวกเราขำให้กับท่าทางของเธอแล้วตอบไปว่าพวกเราก็เหมือนกัน 

 

ถ้าซาเองุสะซังมีความสุขกับการทานข้าวด้วยกันล่ะแล้วก็ ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเขาเถอะ 

 

 

“ฉันมีเรื่องนึงอยากลองทำมานานแล้วน่ะ!” 

 

ซาเองุสะซังกล่าวขึ้นทันทีหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จแล้ว 

 

อะไรคือสิ่งที่เธออยากทำกันนะ? พวกเรารอคำพูดต่อไปของเธออย่างใจจดใจจ่อ 

 

“ฉันอยากไปกินแฮมเบอร์เกอร์กับเพื่อนๆหลังเลิกเรียนสักครั้ง!” 

 

ซาเองุสะซังประกาศสิ่งที่เธอต้องการออกมาด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับ 

 

ผมนึกว่าจะเป็นเรื่องอื่นซะอีก แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะว่าซาเองุสะซังน่าจะยุ่งอยู่กับงานไอดอลจนไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้น 

 

แถมวันนี้ทั้งผมทั้งทาคายูกิก็ว่างพอดี พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปกันตามที่เธอขอ 

 

ซาเองุสะซังพูดด้วยว่าเธออยากลองทำแบบนั้มานานตั้งแต่เธอได้เห็นในมังงะหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ 

 

พวกเราจึงเลือกที่จะไปร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่อยู่ตรงหน้าสถานี 

 

 

พอถึงเวลาเลิกเรียน พวกเราสี่คนก็ตรงไปที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่ว่าทันที 

 

ตอนที่เราออกมาจากโรงเรียน ซาเองุสะซังก็หยิบแว่นกันแดดออกมาจากในกระเป๋าก่อนที่จะสวมมันไว้ 

 

เธอคงตั้งใจจะปลอมตัวนั่นแหละ แต่ว่าขอโทษนะครับ มันไม่ได้เนียนเลยสักนิด 

 

“เอ่อ คุณใช่ชิโอรินจาก Angel Girls รึเปล่าคะ?” 

 

“ไม่ใช่ค่ะ!” 

 

อย่างที่เห็น การที่มีนักเรียนหญิงชั้นม.ปลายคนนึงเข้ามาทักเธอแบบนี้ก็ชัดแล้วว่าแว่นที่ใส่อยู่ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลยจริงๆ 

 

แต่ว่าเธอก็ยังตอบปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว 

 

ผมอดจะขำไม่ได้จริงๆ เห็นชัดๆขนาดนี้ว่ามันไม่ได้ผล แต่เธอก็ยังหน้าด้านพอที่จะตอบปฏิเสธโดยไม่มีลังเล 

 

ส่วนเด็กสาวที่ถูกปฏิเสธก็ยอมถอยกลับไปแต่โดยดี 

 

สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ที่จะปลอมตัวและถอดแว่นตาออก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทาคายูกิและชิมิซุซัง 

 

“โม่ว! หยุดหัวเราะฉันเลยนะ!” 

 

เธอตกล่าวออกมาด้วยไปหน้าอายๆและแน่นอนว่ามันดูน่ารักเหมือนเคย 

 

แล้วเธอก็พูดติดตลกว่า “คราวหน้าฉันเขียนป้ายกระดาษว่า “ฉันไม่ใช่ชิโอรินค่ะ” แล้วเอามาแปะที่หลังดีกว่า” 

 

พอผมลองคิดภาพตามผมก็ขำหนักซะยิ่งกว่าเดิม 

 

 

ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่หมาย ก่อนจะเข้าไปในร้าน 

 

เมื่อเข้ามาด้านในพวกเราก็ได้กลิ่นน้ำมันโชนออกมาทันที 

 

ดวงตาซาเองุสะส่องประกายอย่างกับเด็กๆ ภาพแบบนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆนะเนี่ย 

 

พวกเราค่อยๆสั่งของมากินกันทีละคน จนกระทั่งมาถึงตาของซาเองุสะ 

 

แต่เนื่องจากเธอไม่เคยเจ้าร้านแบบนี้มาก่อน เธอจึงส่งสายตาราวกับลูกหมามาทางผม 

 

“ช่วยฉันด้วยทัคคุง…….” 

 

ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ล่ะนะ แล้วผมก็เดินเข้าไปช่วยเธอสั่ง 

 

แล้วพวกเราก็มาหาที่ว่างๆนั่งกัน ซึ่งที่นี่ก็มักจะมีเหล่านักเรียนมากหน้าหลายตามาใช้บริการอยู่ตลอด ทำให้มีความรู้สึกว่าเราได้เข้ามาในร้านแฮมเบอร์เกอร์แล้วและซาเองุสะซังก็ดูจะสนใจที่ๆคนทั่วไปมัดจะมากันแบบที่นี่ไม่น้อย

 

มันคงเป็นความรู้สึกที่มีแค่คนดังด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ แล้วการที่ได้เห็นหน้าเธอมีความสุขแบบนี้ก็พาทำให้คนทั่วไปอย่างพวกเราสุขใจไปด้วย 

 

ซาเองุสะซังถ่ายรูปแฮมเบอร์เกอร์ด้วยมือถือของเธอและส่งในกลุ่มไลม์ 

 

—ติ๊ง! 

 

โทรศัพท์ของพวกเราดังขึ้นพร้อมๆกัน ซึ่งแน่นอนว่ามาจากซาเองุสะซัง 

 

สิ่งที่ถูกส่งมาก็คือภาพถ่ายของแฮมเบอร์เกอร์ที่เบลอเล็กน้อย 

 

แล้วก็ 

 

“ฉลองให้กับแฮมเบอร์เกอร์อันแรกในชีวิตของฉัน!” 

 

ทำเอาคนที่เหลือต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นร้านเลยล่ะ 

 

 

ปล.ช่วงนี้ผมอาจจะลงน้อยหน่อยนะครับ พอดีว่าใกล้จะสอบน่ะ

 

ปล2.นางก็บ๊องไปนะบางที 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+