เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 20 พอได้เห็นสาวสวยทีไร อดคิดสงสัยไม่ได้ว่าคงจะเป็นนางเอก

Now you are reading เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย Chapter 20 พอได้เห็นสาวสวยทีไร อดคิดสงสัยไม่ได้ว่าคงจะเป็นนางเอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1 ตอนที่ 20

 

『เอ สืบเนื่องจากปัญหาเมื่อซักครู่ ที่ผู้เข้าแข่งมินามิยาม่าโจมตีใส่ผู้เข้าแข่งคิทากาว่าเนื่องจากไม่รู้ตัวว่าการต่อสู้ได้จบไปแล้ว จึงหวังว่าจะไม่เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในครั้งต่อไป—-』

 

    —-ลงเอยด้วยการบอกมาแบบนั้น

 

    ทางรายการเองก็คงไม่มีทางเลือกเว้นแต่ต้องจัดงานแข่งต่อไป

    ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าเป็นห่วงผม แต่ในทุกๆคำที่พูดมันก็มีแอบซ่อนนัยยะว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่

 

    ถ้าหากว่าเรื่องยังดำเนินต่อไป ก็มีโอกาศที่มินามิยาม่าจะถูกดำเนินคดีอาญา แต่ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้ เรื่องก็สามารถจบลงได้อย่างสงบ แน่นอนว่าต้องมั่นใจว่าทางรายการจะดำเนินการอย่างเหมาะสมกับอีกฝ่าย แบบนั้นมันจะปลอดภัยกว่า แทนที่จะเป็นคดีแย่ๆกับตำรวจ…..อะไรประมาณนั้นแหละ

 

    พูดกันตามตรง ผมเองก็ไม่อยากทำเรื่องให้มันใหญ่อะไร ทางนี้ก็จะเป็นปัญหาเหมือนกันถ้างานแข่งถูกยกเลิก

    สถานีโทรทัศน์ที่ในแง่หนึ่งอาจจะน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตำรวจ บอกว่าจะดำเนินการอย่างเหมาะสมและสัญญาเรื่องความปลอดภัย เพราะงั้นก็ควรจะปล่อยให้พวกเขาจัดการ

    อีกทั้งชิเงโน่ซังจากกิลล์ที่ทำหน้าที่ออกความเห็นสดก็อยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการลงโทษทางอาญาแค่ไหน มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีชีวิตต่อในฐานะนักผจญภัย

    ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่มีอะไรต้องพูด

    ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ ทางพ่อแม่ของผมกับทางสถานีโทรทัศน์ แล้วก็พ่อแม่ของมินามิยาม่า มั่นใจว่าเรื่องคงจะจบได้ด้วยดี

    ผมไม่ได้อยากจะเห็นมินามิยาม่าถูกใส่กุญแจมืออะไรขนาดนั้น ถ้าหากว่าพวกผู้ใหญ่สามารถลงโทษในสถานที่ที่ผมไม่เห็นได้ แบบนั้นมันก็จะดีต่อสุขภาพจิตของผมมากกว่า

    อีกฝั่งก็รู้สึกโล่งใจที่ผมให้ความร่วมมือตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

 

    แล้วเหนือสิ่งอื่นใด…..ผมอยากจะค่อยๆไตร่ตรองเรื่องของมินามิยาม่า

    ทำไมเขาที่ทิ้งผมและคู่หูตะวันออก-ตะวันตก และน่าจะอยู่ในกลุ่มชนชั้นท็อป ถึงได้เกลียดชังผม และรู้สึกวิตกกังวลขนาดนั้น…..

    ตรงจุดนั้น ผมรู้สึกเหมือนจะได้เห็นภาพที่แท้จริงของชนชั้นท็อปของโรงเรียนที่ใฝ่ฝันถึงมาโดยตลอด

    เอาเถอะ เรื่องแบบนั้นเอาไว้ทีหลังละกัน

    เพื่อเอลิซ่าแล้ว จะต้องจดจ่ออยู่กับงานแข่ง

    และแล้ว การแข่งวันแรกของผมก็สิ้นสุดลง

 

 

 

 

    วันต่อมา รอบที่ 2 ถูกจัดขึ้นแต่เช้าตรู่ แต่….ผมได้ชนะบาย

    …..ไม่ใช่เพราะว่ามีการติดต่อเบื้องหลังสกปรกอะไร แต่เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนหนึ่งถอนตัวเพราะกลัวถึงอัตราการลอสที่เกิดขึ้นในการแข่ง

    สำหรับนักเรียนอย่างพวกเราแล้ว การ์ดไม่ใช่ของใช้แล้วทิ้งที่สามารถหามาแทนที่ได้ง่ายๆ แต่เป็นสิ่งของราคาแพงมหาศาล แตกต่างไปจากพวกมือโปรที่มักจะเห็นได้ตามโทรทัศน์

    เพราะว่าพวกนั้นมีสปอนเซอร์หนุนหลัง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะพวกนั้นก็สามารถได้คืนค่าการ์ดที่สูญเสียไปกลับมาอย่างรวดเร็ว

    แบบนี้ก็ได้ไปโผล่ในมอนโคโลแล้ว! กับคนที่กระโจนเข้ามาแบบนั้น แต่พอได้มารู้ถึงอัตราการลอสที่สูงหลังจากได้ดูการแข่งก็เกิดกลัวขึ้นมา

    ในหมู่ผู้เข้าแข่งขัน มันคงจะต้องมีพวกที่ใช้ชื่อของนักผจญภัยเพื่อขึ้นไปสู่ด้านบนของชนชั้นห้องเรียนแบบเดียวกับมินามิยาม่า

    สำหรับพวกเขาแล้ว การสูยเสียการ์ด ก็เท่ากับการสูญเสียสถานะทางสังคม

    ด้วยเหตุนี้ ผมจึงผ่านรอบที่ 2 ไปโดยไม่ต้องลงแข่ง

    อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ในรอบที่ 2 นี้ก็เหมือนกับรอบแรก จะไม่มีการบอกตัวตนคู่ต่อสู้เพื่อป้องกันปัญหา

    หรือก็คือ ต่อให้ทางรายการไปเปลี่ยนตัวคู่ต่อสู้ ทางผู้เข้าแข่งกับผู้ชมก็ไม่มีทางรู้ ไม่ไม่ เป็นเรื่องไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ

 

 

 

 

    รอบที่ 3 และ 4 ถูกจัดขึ้นในช่วงบ่าย แต่นี่ก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากกว่าตอนมินามิยาม่าอีก

    คู่ต่อสู้ในรอบที่ 3 นั้น ส่งการ์ดแรงค์ F ออกมาทั้ง 3 ใบแบบดื้อๆ บางทีคงเพราะไม่อยากจะสูญเสียการ์ดใบอื่นๆ แต่ก็ไม่ยอมถอนตัวด้วยความหวังว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยการชนะบาย

    ในรอบ 3 นี้ มีเหล่าผู้เข้าแข่งสภาพแบบนั้นให้เห็นอยู่ประปราย ทำให้เหล่าผู้ชมหมดความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

    ทางรายการเองก็คงจะคิดว่าแย่แน่แล้ว จึงทำการแนะนำผู้เล่นเด่นๆ และโชว์ไฮไลท์ของคู่ที่สนุกๆ

    จากรอบแรก–ที่เหล่าผู้เข้าแข่งต้องใจสลาย–ที่มีการต่อสู้ถึงตายและน่าสนใจจำนวนมาก ในที่จัดงานก็พอจะมีความตื่นเต้นกลับคืนมาบ้าง

    และแล้วก็มาถึงรอบที่ 4 ผมที่เข้าสู้การต่อสู้ด้วยจิตใจฮึกเฮิม เนื่องจากได้อยู่ใน 8 คนสุดท้ายแล้ว แต่กลับลงเอยด้วยความรู้สึกแย่ๆ

    นั่นก็เพราคู่ต่อสู้มีสภาพยับเยินเกินกว่าจะสู้ได้ก่อนที่จะเริ่มแข่งแล้ว

    ต่างจากผมที่ชนะบายในรอบที่ 2 และผ่านรอบ 3 มาได้โดยไม่ต้องลงแรงสู้มาก ทางด้านคู่ต่อสู้ดูจะต้องต่อสู้อย่างจริงจังทั้งรอบ 2 และ 3

    การ์ดแรงค์ D ตัวหลักอยู่ในสภาพร่อแร่ ส่วนอีก 2 ใบที่เหลือก็เป็นการ์ดแรงค์ F ดังนั้นในความจริงจึงเหมือนเหลือการ์ดแค่ใบเดียว

    ส่วนตัวผมอีกด้าน เพราะว่าหากชนะรอบนี้ก็จะได้อยู่ใน 4 คนสุดท้าย จึงแข่งด้วย เอลิซ่า, ยูคิ, แมร์ การ์ดแรงค์ D ทั้ง 3 ใบ

    สีหน้าของอีกฝ่ายตอนที่ได้เห็นผู้เล่นทางนี้…..เป็นอะไรที่ลืมไม่ลงไปซักพักแน่

 

 

 

 

    ค่ำคืนของวันที่ 2 ที่รู้ตัว 4 คนสุดท้าย พวกเราถูกให้มารวมตัวกันที่ห้องอาหาร เพื่อให้มาเจอหน้ากันและทำการเลือกการ์ดแรงค์ D ที่จะได้เป็นรางวัล

    มีการ์ดแรงค์ D สำหรับเป็นรางวัลให้เลือกอยู่ 16 แบบ แต่ถ้ามีการเลือกซ้ำกัน จะให้ตัดสินกันผ่านการเจรจาระหว่างผู้เข้าแข่งขัน

    ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์นี้จะถูกบันทึกเอาไว้ผ่านกล้อง เพราะงั้นการสาปแช่งหรือขัดขวางแบบน่าเกลียดอะไรคงไม่เกิด

   

『ครับ เช่นนั้นแล้วจากนี้ไปจะทำการแนะนำตัวเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ เริ่มต้นด้วย คันนาซูกิ ซึบาสะ(神無月 翼)ซัง เชิญครับ』

「ครับ」

 

    คนแรกที่ถูกนำเสนอคือคันนาซูกิ ผู้ซึ่งจัดว่าหล่อเหลาที่สุดในเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ

    เป็นหนุ่มหล่อที่ตัวผมเอาไปเทียบไม่ติด อย่างแรกเลยก็ชื่อที่ฟังแล้วเท่ โครงสร้างของใบหน้าเองก็อยู่ในระดับที่ไม่ค่อยจะได้เห็นแม้แต่ในหมู่ไอดอล ใบหน้านี่ใกล้เคียงกับการ์ดมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์เสียอีก

    เส้นบนใบหน้านั้นบางและเป็นรูปไข่ นัยน์ตาส่องประกายแถมบ่งบอกได้ถึงความฉลาด ผมส่วนที่มีสีอ่อนก็ก่อตัวเป็นรูปวงแหวนนางฟ้าพร้อมกับผมยาวที่เข้ากัน ร่างผอมเพรียวแถมขาก็ยาว…..ไม่สิ นั่นมันยาวไปไหม? ไม่ใช่รูปร่างของชาวญี่ปุ่นแล้ว ดูหยั่งกับนักเล่นสเก็ตลีลาต่างชาติเลย

    มองแว่บแรกเป็นคนที่หล่อมากจนนึกว่าเป็นผู้หญิงสวยแต่งตัวมาแบบผู้ชาย…..ไม่สิ หรือว่าจริงๆแล้วเป็นผู้หญิงจริง ชื่อเองก็เป็นกลางๆ บอกไม่ถูกด้วย

    แต่ว่า สำหรับผมแล้ว คนๆนี้จะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงก็ไม่เกี่ยวกัน

    นั่นก็เพราะว่าไม่มีหน่มน้มน่ะสิ ถึงจะไม่มีหม่นน้มใหญ่แต่ถ้าชดเชยด้วยความน่ารักมันก็ได้ แต่ตามคาด ถ้าไม่มีเลยมันไม่ไหวหรอก แผ่นอกมันไม่ใช่หน่มน้ม นี่คือเหตุผลใหญ่ที่สุดว่าทำไมผมถึงไม่สามารถเข้าใจรสนิยมของนิชิดะได้ เพราะโลลิมันไม่มีหน่มน้มน่ะสิ

    ไม่สิ ผิดละ ไม่ใช่แบบนั้นสิ ความคิดมันปนเปไปหมดละ ขอเริ่มต้นใหม่

    —-แต่ว่า คนๆนี้จะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิงก็ไม่เกี่ยวกัน

    นั่นก็เพราะหมอนี่ก็เป็นผู้เข้าแข่งขันเหมือนกัน ผู้ชนะมีได้แค่คนเดียว ดังนั้นแล้วอีกฝ่ายจะเป็นใครมันก็ไม่เกี่ยว

    ผมเริ่มต้นใหม่ด้วยความจริงจัง

 

『ช่วยบอกแรงจูงใจที่มาเข้าร่วมงานแข่งในครั้งนี้ด้วยครับ』

 

    ทันทีที่พิธีกรพูด 「ช่วยออกความเห็นแบบมีชีวิตชีวาด้วย」ก็มีป้ายคิวขึ้นมาบอก

    โอ้ ดูเป็น TV จริงๆ! ผมแอบทำตาเปล่งประกาย

    จะว่าไปแล้ว ผมก็กำลังออก TV จริงๆอยู่นี่หว่า ฉากนี้ก็จะไปโผล่ใน TV ด้วยสิเนี่ย

    …..แย่ล่ะ เพิ่งจะมาเริ่มกังวลเรื่องทรงผมเอาตอนนี้  ซวยเลย น่าจะไปร้านทำผม มัวแต่ยุ่งกับการพิชิตเขาวงกตเลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนนั้น นี่คงไม่มีขนจมูกโผล่ออกมาใช่ไหมเนี่ย!?

    ผมที่มัวแต่ตื่นเต้นอยู่ตัวคนเดียว ด้านคันนาซากิพอเห็นป้ายคิวแล้วก็ยิ้ม

 

「คันนาซูกิ ซึบาสะครับ ก็ไม่ได้มีแรงจูงใจอะไรมากนัก แต่ผู้ชนะจะต้องเป็นผมอย่างแน่นอน จากเท่าที่ได้ดูการแข่งที่ผ่านๆมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ」

 

    อุ!? หมอนี่พูดมาได้บ้าน่าดูเชียว ผมตกใจมากพอตัว

    ตามปกติแล้ว จุดนี้จะต้องออกความเห็นแบบปลอดภัยเอาไว้ก่อน ทุกวันนี้มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดโม้วางท่าใหญ่โต มีแต่จะถูกเอาไปวิจารณ์บนเน็ต

    สตาฟของรายการเองก็งุนงงกับคันนาซูกิที่เมินป้ายคิวแล้วพูดจายั่วยุ

    บางทีแล้ว ถ้าตัดสินจากหน้าตา ทางรายการคงจะจัดฉากให้หมอนี่เป็นฮีโร่ของงานแข่งขันครั้งนี้

    ผมเองก็ได้ดูการแข่งของหมอนี่ ด้วยการใช้การ์ดแรงค์ D อย่างดีทั้ง 3 ใบ ดูมีแววที่จะชนะอยู่พอตัว

    ทางด้านผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็ดูจะของขึ้นให้กับคำของคันนาซูกิ

 

『ด-ดูมีความกระตือรือร้นพอตัวเลยนะครับ คันนาซูกิซังได้เป็นนักผจญภัยมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นปีแรก ตอนนี้ก็อยู่มัธยมปลายปีแรกแล้วก็ได้เป็นนักผจญภัย 3 ดาวแล้ว การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นที่น่าจับตาดูมากครับ』

 

    โอ่ย เอาจริงดิ! พวกเราต่างก็มองไปที่คันนาซูกิด้วยความตกใจ

    ชั้นมัธยมต้นปีแรก ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไวที่สุดตามกฏหมายของญี่ปุ่น การเป็นนักผจญภัย 3 ดาวก็ยิ่งอันตรายไปใหญ่

    แล้วยังการ์ดแรงค์ D 3 ใบนั่น? เห็นได้ชัดว่าต้องมีการ์ดแรงค์ C เก็บเอาไว้ แย่แล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องคุยโม้เลยซักนิด!

    เจ้าหมอนี่ มีเหตุผลเพียงพอที่จะสามารถชนะได้

    ขณะที่พวกเราเริ่มจะระวังตัวต่อคันนาซูกิมากขึ้น พิธีกรก็เข้าไปหาผู้เข้าแข่งคนต่อไป

 

『ครับ ต่อไป ซาโต้ ยูจิน(佐藤 勇刃)ซัง』

「…..ครับ」

 

    ราวกับเป็นเกมลงทัณฑ์ที่ต้องเป็นคนถัดจากคันนาซูกิ ก็คือเด็กหนุ่มร่างใหญ่ใบหน้าเคร่งขรึม คงจะเพราะเป็นหลังจากคันนาซูกิ รูปร่างของเขาจึงดูโดดเด่นน้อยลง ดูเป็นเด็กหนุ่มปกติธรรมดา มีแค่ชื่อที่ดูหวือหวา

    เจ้าตัวเองก็คงจะรู้ดีว่าคาแรคเตอร์ของเขาดูจืดชืด ใบหน้าเองก็ดูเกร็งๆ นัยน์ตาดูล่อกแล่กสับสน

    …..โอ่ย นี่คงไม่ได้พยายามจะพูดอะไรให้มีอิมแพคใช่ไหม? หยุดเถอะ ต่อให้ตัวประกอบอย่างพวกเราพูดอะไรดีๆออกไปมันก็เป็นได้แค่เรื่องพลาด!

    ผมที่รู้สึกได้ถึงออร่าของพวกเดียวกัน ทำการส่งเสียงเรียกอยู่ในใจ

 

『ช่วยบอกแรงจูงใจด้วยครับ』

「ซาโต้ ยูจินครับ เอ ก่อนอื่นเลยก็ โอ่ยคันนาซูกิ อย่าได้ใจให้มันมากไปหน่อยเข้าใจ๋? ก็หมายถึงว่า เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นว่าการจะชนะการ์ดแบทเทิลได้ไม่ใช่ว่าต้องมีหน้าตาดีเท่านั้น」

 

    อั่ก เปล่าประโยชน์…..!

    น่าเสียดายที่เสียงของหัวใจผมส่งไปไม่ถึง ซาโต้พูดไปขณะที่มองลงไปทางคันนาซูกิ ทว่าคำพูดของเขาออกน่าเบื่อและไม่มีอิมแพคเลย

    เพราะไม่มีใครแสดงท่าทีตอบสนองทำให้เจ็บปวดมาก คันนาซูกิที่ถูกเอ่ยชื่อเองก็ดูจะสับสนไม่รู้จะตอบสนองยังไง

    ซาโต้ที่ต้องผงะให้กับบรรยากาศแปลกๆจึงพูด 「ท-เท่านี้ครับ」แล้วนั่งลงบนเก้าอี้

    น่าสงสาร…..แต่ว่าความชอบของผมที่มีต่อเขาก็เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับการดูถูกหรือล้อเลียนคนอื่น

 

『ครับ ซาโต้ซังอยู่ชั้นมัธยมปลายปี 3 ถึงแม้ว่าจะเริ่มอาชีพมาเพียง 1 ปี แต่ก็มีเป้าหมายจะเป็นนักผจญภัยมืออาชีพในอนาคต การต่อสู้ในรอบรองสุดท้ายนี้ก็เป็นที่คาดหวังไว้สูงครับ—-ต่อไปก็คาโน่ อันนา(十七夜月 杏菜)ซัง』

「ค่า!」

 

    การแนะนำตัวของซาโต้ผ่านไปอย่างราบรื่น คนต่อไปที่ถูกเรียกคือผู้เข้าแข่งขันหญิงเพียงคนเดียวในที่นี่

    เป็นคนที่ผมให้ความสนใจมากที่สุดด้วย

    นั่นเพราะ คาโน่คนนี้เป็นหญิงสาวสวยผมสีแดง ตาสีฟ้า…..ซะที่ไหนล่ะ

    ไม่สิ มันก็แน่นอนว่าสนใจรูปร่างของเธอ ผมเองก็เป็นเด็กวัยรุ่นม.ปลายนะ

    คิดว่าคงจะมีอายุเท่าๆกันกับผมหรือไม่ก็น้อยกว่านิดหน่อย ผมสีแดงนุ่มสลวยถูกมัดเป็นหางม้า นัยน์ตาใหญ่สีฟ้าเปล่งประกายที่ทำให้ดูน่ารัก

    ผิวสีขาวกระจ่างใส หน้าตาเองก็สวยแบบเด็กสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นตามแบบที่คนญี่ปุ่นคิดเอาไว้ และถึงจะมีรูปร่างเล็กเพรียวบางแต่ก็มีหน้าอกใหญ่ที่ผมชื่มชมเป็นการส่วนตัว

    บอกตามตรงคือเป็นแบบที่ชอบเลย

    สงสัยว่าการที่ซาโต้ออกอาการแบบนั้น อาจจะเพราะด้วยอิทธิพลของเด็กคนนี้ก็เป็นได้ พอเจอเด็กสาวน่ารักก็เลยตื่นเต้น…..ธรรมชาติของผู้ชายช่างน่าเศร้า

    แต่ที่น่าสนใจกว่ารูปร่างหน้าตาของเธอก็คือนามสกุล คาโน่เป็นนามสกุลที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก ทว่านามสกุลที่เห็นได้ไม่บ่อยนี้ พักนี้กลับเจออยู่เยอะมาก

    นั่นก็เพราะคาโน่คือนามสกุลของผู้ก่อตั้งดันเจี้ยนมาร์ทยังไงล่ะ

    ประธานคาโน่เป็นคนที่ชอบความโดดเด่นและมักปรากฏออกตาม TV…..มักจะถูกเรียกด้วยว่าประธานดารา เขายังเป็นผู้วิจารณ์ขาประจำในรายการข่าว เป็นผู้ที่มีทั้งคนชอบและคนเกลียดอยู่จำนวนหนึ่งอันมาจากคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง

    ดังนั้นพอได้ยินว่าคาโน่แล้วก็อดคิดถึงประธานบริษัทคนดังคนนั้นไม่ได้

 

『ช่วยบอกแรงจูงใจด้วยครับ』

「คาโน่ อันนา อยู่ม.ต้นปี 3 ค่ะส์! ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ก็ถูกเลี้ยงโตมาในญี่ปุ่นนะส์! หนทางในการเป็นมาสเตอร์ยังอีกยาวไกลส์ แต่การ์ดของชั้นก็ยอดเยี่ยม ช่วยติดตามชมด้วยนะค่ะส์!」

 

    เธอนี่ เป็นคาแรคเตอร์รุ่นน้องเรอะ! แทนที่จะแข่งด้านเนื้อหาที่จะพูด กลับไปเน้นด้านคาแรคเตอร์มากกว่า ไม่เลวนี่นา!

    ด้านพิธีกรเองก็ตื่นเต้น คงเป็นเพราะความคิดเห็นที่กำลังรอในที่สุดก็มีโผล่มา แถมตัวเธอเป็นสาวสวยก็ถือว่าเป็นจุดแข็งสำหรับ TV

 

『โอ้ ร่าเริงดีนะครับ! ด้านคาโน่ซัง เป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งดันเจี้ยนมาร์ทคนนั้น เริ่มอาชีพมาตั้งแต่มัธยมต้นเช่นเดียวกับคันนาซูกิซังทำให้มีความคาดหวังสูงครับ』

 

    ว่าแล้ว เป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งดันเจี้ยนมาร์ทนี่เอง!

    พวกเราที่คาดเอาไว้แล้วนั้น ก็มองไปที่เธอด้วยสีหน้าตกใจปนประหลาดใจ

    ในขณะนั้นด้านคาโน่ก็ทำหน้ามุ่ย

 

「ไม่เกี่ยวกับปะป๋าซักหน่อยส์! ถึงตอนลงทะเบียนจะเป็นการ์ดที่ปะป๋าซื้อให้ก็เถอะส์ แต่ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้รับเงินค่าขนมอีกเลย ทั้งเงินและการ์ดหามาได้ด้วยตัวเองทั้งหมดส์! แล้วก็วางแผนจะคืนเงินจากครั้งแรกในอีกไม่ช้าด้วย!」

『ง-งั้นเหรอครับ เช่นนั้นต้องขออภัย』

 

    …..อืม เดาว่าการเป็นลูกของคนดังมันก็หลายเรื่องที่ลำบากอยู่ รู้สึกได้ถึงความซับซ้อนในต้นกำเนิดของคาโน่

    คิดว่าควรจะหยุดยกเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าคาโน่ล่ะนะ ไม่สิ หรือมันอาจจะใช้เป็นการยั่วยุระหว่างแข่งดี?

 

『สุดท้ายแต่ก็ไม่ท้ายสุด คิทากาว่า อุทามาโร่ซัง ช่วยบอกแรงจูงใจด้วยครับ』

 

    ผมเป็นคนสุดท้ายสินะ ลำบากแล้วสิ ทุกคนมีคาแรคเตอร์แรงๆกันทั้งนั้น จะให้ไปต่อก็ยากเลย

    …..บางทีมันก็คงถูกตัดทิ้ง งั้นเดาว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก

 

「คิทากาว่า อุทามาโร่ครับ จะไม่แพ้……ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอกครับ แต่ตอนนี้พ่ายแพ้ให้กับคาแรคเตอร์ของทุกคนไปซะแล้ว」

 

    มีเสียงหัวเราะเบาๆมาจากสตาฟรายการ โอ้ ดีล่ะได้อารมณ์ขันนิดหน่อยแล้ว

    แล้วผมก็พูดต่อด้วยรอยยิ้มที่ไม่หวั่นเกรงอะไร

 

「แต่การ์ดของผมมีคาแรคเตอร์ที่ดีพอตัวอยู่ รอติดตามชมได้เลยครับ」

『ครับ! ขอบคุณมากเลยครับ ด้านคิทากาว่าซัง ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มอาชีพมาสั้นๆเพียง 2 เดือนก็ได้เป็นนักผจญภัย 2 ดาวแล้ว แถมยังมีบันทึกการพิชิตอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ ดูมีประสบการณ์มากกว่าชั่วโมงบินครับ』

 

    ทางพิธีกร อาจจะเพื่อเป็นการขอโทษสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในการต่อสู้รอบแรก แต่ก็ช่วยออกความเห็นที่ทำให้คาแรคเตอร์เบาบางของผมมีน้ำหนักมากขึ้น

    ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเองก็มองมาที่ผมด้วยความตกใจ

    เอ นึกว่าเป็นตัวประกอบที่ใส่ๆมาเพื่อให้ครบจำนวน อะไรแบบนั้น…..ดวงตามันบอกมา

    ดูเหมือนว่าตัวผมจะไม่ได้ทิ้งความประทับใจอะไรไว้ให้เลย ก็นะการต่อสู้ของผมมันก็ไม่ได้เด่นอะไร

 

『เช่นนั้นก็มาถึงช่วงแจกของรางวัลที่รอคอยแล้ว ทางนี้ก็คือรางวัลสำหรับ 4 คนสุดท้ายครับ!』

 

    กระเป๋าเอกสารถูกนำเข้ามาทันทีที่พิธีกรกล่าว ทางสตาฟเริ่มจัดวางการ์ดบนโต๊ะ แต่ล่ะใบถูกใส่ไว้ในกรอบใสท่าทางแข็งแรง

    ตาของพวกเราลุกวาวเมื่อได้เห็นการ์ดพวกนั้น

    สมแล้วที่เป็นรางวัล ไม่ว่าการ์ดใบไหนก็เป็นแบบที่นิยมทั้งนั้น

    ครึ่งหนึ่งเป็นการ์ดที่เน้นความแข็งแกร่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นการ์ดมอนสเตอร์ผู้หญิง ทักษะเรียนรู้เองก็ดีแถมไม่มีข้อเสียอะไร

 

    เอาล่ะ จะเอายังไงดี ถ้าหากเอาความแข็งแกร่งก็ต้องดราโกเน็ต(Dragonette), เท็นงู, ซุยโค

    ด้านมอนสเตอร์ผู้หญิงมี อาราวเน่, เนโกะมาตะ, ฮาร์ปี้, ซิลกี้(Silkie), อมาโซเนส, นางฟ้า, แล้วก็คนยักษ์ แต่โยโมะซึชิโคเมะ(黄泉醜女)เนี่ยต่อให้เป็นมอนสเตอร์ผู้หญิงก็ไม่เอาหรอก ไม่นะ มันก็แข็งแกร่ง แข็งแกร่งกว่าซุยโคอีก

    ทุกคนเองก็ไม่แม้แต่จะมองไปที่โยโมะซึชิโคเมะเลยด้วย

    ถ้าจะให้เลือกตามรสนิยมล้วนๆแล้วล่ะก็ ดราโกเน็ต ไม่ก็เนโกะมาตะ หรือซิลกี้

 

    ดราโกเน็ต คือ มังกรขนาดเล็กที่อ่อนแอที่สุดในหมู่มอนสเตอร์มังกร ทว่าความจริงที่มันเป็นการ์ดแรงค์ D ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นแล้วว่ามังกรถือเป็นเผ่าพันธ์ุที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่มอนสเตอร์

    เนโกะมาตะกับซิลกี้ ถือว่าเป็นการ์ดแรงค์ D ที่อ่อนแอ แต่ในหมู่การ์ดแรงค์ D เป็นการ์ดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ราคาของทั้งคู่ต่างก็สูงเกือบ 10 ล้านเยน หูแมวกับชุดเมดช่างแข็งแกร่ง…..

 

    ถ้าให้ความสำคัญด้านการใช้งานแล้ว ตัวเลือกจะได้ ดราโกเน็ต, เท็นงู, ฮาร์ปี้, และนางฟ้า

    ตามคาดว่าการบินในอากาศมีค่าในตัวของมัน จุดแข็งคือการจู่โจมมอนสเตอร์ภาคพื้นดินที่ไม่มีการโจมตีระยะไกลอยู่ฝ่ายเดียว และสามารถข้ามผ่านกับดักของเขาวงกตได้หลายชนิด

    ในทางกลับกัน ข้อเสียคือความเสี่ยงที่จะถูกยิงร่วงและความกลัวที่จะลอสคอยหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา

    แถมด้วยประเภทที่บินได้มักจะเป็นพวกที่หัวไม่ดีมาก หรือกลับกันก็ฉลาดแต่มีหัวสูง โดยเฉพาะนางฟ้า มักจะได้ยินอยู่บ่อยๆว่าเข้ากันไม่ได้กับหลายๆเผ่า

 

    ถ้าหากว่ามองในมุมของการเสริมปาร์ตี้ของเราแล้ว ก็มีตัวเลือกเป็น อมาโซเนส, กับคนยักษ์

    หากดูเผินๆ ปาร์ตี้ของเรามีความสมดุลจากที่มีแนวหน้า 2 และแนวหลัง 2 แต่ว่ามีจุดอ่อนที่ต้องพึ่งพาเอลิซ่าในการรับหน้าที่โล่

    ยูคิเองก็เป็นแนวหน้า แต่ทางนี้ถือเป็นสายโจมตีล้วนด้วยพลังโจมตีที่สูงกับความว่องไว แล้วยังผนวกกับการค้นหาศัตรู ถ้าเป็นในเกมก็คงจะเป็นโจรไม่ก็นินจาที่ทำหน้าที่เป็นแนวหน้า

    คิดมาได้ซักพักแล้วว่าอยากจะได้นักรบไม่ก็อัศวินเข้ามาเพิ่ม

    ถ้าเพื่อความโรแมนซ์แล้วก็ต้องเนโกะมาตะหรือซิลกี้ ถ้าเพื่อการใช้งานก็ต้องประเภทบินได้ ถ้าเพื่อเป็นกำลังเสริมก็ต้องอมาโซเนสหรือคนยักษ์

    ผมคิดไปพลางมองดูสกิลของการ์ดแต่ล่ะใบ

 

「…..หืม?」

 

    ในตอนนั้นเอง มีการ์ดใบหนึ่งที่สะดุดตา

    การ์ดคนยักษ์ รูปภาพที่แสดงเป็นหญิงสาวสวยที่มาพร้อมกับผมและดวงตาสีแดงเพลิง ร่องอกลึกที่ล้นออกมาจากชุดญี่ปุ่นสภาพทรุดโทรมดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก แค่ภาพก็ตรงตามรสนิยมละ

    แต่ที่ผมสนใจมากกว่าก็คือสกิล

    เอาสมาร์ทโฟนออกมาแล้วเปิดดูรายละเอียด

 

【เผ่า】คนยักษ์

【พลังต่อสู้】180

【ทักษะติดตัว】

    – ทนทาน : มีร่างกายที่ทนทาน, เสริมพลังชีวิตและความอดทนอย่างต่อเนื่อง

    – พละกำลังเหนือชั้น: มีพละกำลังเหนือมนุษย์, เสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออย่างมากตลอดเวลา

    – ฟื้นฟูตัวเอง

 

【ทักษะเรียนรู้】

    – ยักษ์ปิดตา : คุณยักษ์อยู่ทางนี้, ดึงดูดค่าความเกลียดชังของเป้าหมายมาที่ตัวเอง

    – ศิลปะการต่อสู้ : มีความรู้และทักษะด้านเทคนิคการต่อสู้ในระดับหนึ่ง ค่าบวกเมื่อกระทำการบางอย่าง

    – มองขาด : ทักษะสำหรับอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรู ค่าบวกเมื่อทำการหลบหลีกหรือตอบโต้กลับ

 

 

    นอกเหนือจากความเข้ากันได้ของทนทาน, พละกำลังเหนือชั้น, ศิลปะการต่อสู้, และมองขาดแล้ว สกิลยักษ์ปิดตาก็ยังน่าสนใจ…..

    ถ้าเป็นในเกม คงจะเป็นสกิลสำหรับควบคุมค่า hate เป็นสกิลจำเป็นสำหรับสายโล่ แล้วก็ดีสำหรับประเภทหลบหลีก

    เอลิซ่าที่เป็นสายสนับสนุนแบบถึกทน กับคนยักษ์ที่เป็นสายยั่วยุและหลบหลีก ดูจะเป็นการจับคู่ที่ดี

    โย้ช ตัดสินใจละ เอานี่แหละ มันไม่ใช่ทุกวันที่จะได้มาเจอการ์ดที่มีสกิลเยอะแบบนี้ อีกทั้งยังเป็นสาวมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเข้าตาอีก

    ในขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือไปที่การ์ดคนยักษ์อยู่นั้น

 

『หืม?』

 

    มีมือยืนมาจากด้านข้างพร้อมๆกัน

    ดวงตาประสาน ดวงตาที่มีสีฟ้าราวกับไพลินกำลังจ้องมาที่ผม…..คาโน่ล่ะ

 

「โอ้ หรือว่าเธอก็เล็งนี่ไว้เหมือนกันเหรอส์?」

「อ-อา…..ถ้าเป็นไปได้ช่วยยกให้ได้ไหม?」

 

    พอผมพูดไปแบบนั้นด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร คาโน่ก็อมยิ้ม รอยยิ้มนั่นราวกับแมวเชสเชียร์ที่กำลังเล่นอยู่กับหนู แบบว่า…..รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแหะ

 

「ไม่ล่ะ เรื่องแบบนั้นคงยอมให้ไม่ได้หรอกส์ ชั้นเองก็ชอบใบนี้ด้วยเหมือนกัน! ลองดูสิ ผมสีแดงกับหุ่นเย้ายวนนี้ เหมือนกันกับชั้นเลยใช่ไหมล่ะส์?」

 

    พูดแบบนั้นแล้ว คาโน่ก็-ฟุฟุ-แล้วโพสท่าเซ็กซี่

    เอ๋…..? ไม่อะ ผมสีแดงเหมือนกันก็จริง แต่หุ่นไม่ได้เย้ายวนซักหน่อย…..

    คาโน่จะเป็นประเภทที่แสดงให้เห็นถึงความน่ารักสดใสที่แสดงออกมาตรงๆมากกว่า ไม่ได้มีความเย้ายวนมากนัก

    บางทีเสียงของหัวใจมันคงรั่วไหลออกไป คาโน่จึงทำแก้มป่องไม่พอใจ

 

「ทำหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยอยู่สินะส์?」

「ฮะฮะ」

「ไม่ ต่อให้ทำท่าเลียนแบบเป็นหนูก็ไม่หลงกลหรอก…..ถึงจะทำได้ดีอยู่หน่อยก็เถอะ ว่ายังไงล่ะ มาดวลตัดสินกันไปเลยไหมส์?」

「ดวล?」

「ใช่แล้ว พักเรื่องตรงนี้ไว้ก่อน แล้วผู้ชนะจากการแข่งจะได้รับเจ้านี้ไป」

 

    พูดแบบนั้นแล้ว คาโน่ก็ส่งสายตามองไปรอบๆ

    พอรู้สึกตัว ทั้งเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่เลือกการ์ดเสร็จแล้วและเหล่าสตาฟก็จ้องมองมาทางนี้

    นี่มัน…..

 

「อืม ถึงจะบอกว่าผู้ชนะก็เถอะ แล้วถ้าหากทั้ง 2 ฝ่ายแพ้กันหมดก่อนจะชนะล่ะ?」

「อา นั่นสินะส์ ถ้างั้นเอาเป็นคนที่ทำได้ดีกว่าในงานแข่งขันครั้งนี้ละกัน」

 

    กับคาโน่ที่ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก ทำการถามอะไรหยาบคายไปนิดหน่อย

 

「แล้วถ้าแพ้ที่รอบรองชนะเลิศกันทั้งคู่ล่ะ?」

「ถึงตอนนั้นนายก็เอาไปเลยก็ได้ส์」

「เห ใจกว้างจังเลยนะ」

「ใช่แล้ว! เพราะยังไงชั้นก็ต้องชนะอยู่แล้วไงล่ะ!」

 

    ยัยนี่…..เมื่อครู่นี้ ยังบอกว่าตัวเองยังอีกยาวไกลอยู่เลย

    ทว่า อ่านออกแล้ว เป้าหมายของยัยนี่

    เป้าหมายของคาโน่ก็คือการสู้กับผมในรอบรองชนะเลิศ

    ตัวเธอคงจะมองคันนาซูกิเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในงานแข่งนี้

    แม้ว่าจะต้องสู้กันไม่ช้าก็เร็ว ก็อยากจะเจอรอบชิงชนะเลิศมากกว่าจะเป็นรอบรองชนะเลิศ

    ด้วยเหตุนี้ การที่คาโน่เข้ามาสร้างจุดเชื่อมกับผม ก็เพื่อที่จะได้ชักจูงให้มาเจอกันในรอบรองชนะเลิศได้

    ทาง TV ก็คงจะคิด ถ้าหากว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วทั้งคาโน่และผมต่างพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศไป แล้วเนื่องจากแพ้ทั้งคู่ การ์ดก็จะตกเป็นของคิทากาว่าคุง ซึ่งแบบนั้นมันก็ไม่น่าสนุก

    ถ้างั้นแล้ว ไหนๆคิทากาว่าคุงก็ดูไม่มีแววว่าจะชนะได้ ก็ทำให้มันตื่นเต้นขึ้นมาเท่าที่จะทำได้ด้วยการให้ไปเจอกับคาโน่ในรอบรองชนะเลิศซะเลย

    คงจะคิดแบบนั้นอยู่ใช่ไหมล่ะ

    บางทีแล้ว การที่คาโน่มาเลือกการ์ดคนยักษ์คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คงจะรอให้ผมทำการเลือกก่อนอย่างใจเย็น

    หรือก็คือ

    คาโน่คิดว่าถ้าเป็นผมแล้วล่ะก็ สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ

    หมายความว่าเหล่าการ์ดของผมเป็นพวกกระจอก

 

「โย้ช งั้นก็เอาตามที่ว่ามาก็ได้」

「โอ้ สมแล้วส์ มาพยายามกันทั้งคู่เถอะ!」

 

    จะทำให้ร้องไห้เลยคอยดู

    ขณะที่กำลังจับมือกันอยู่ ผมก็ตัดสินใจไปเช่นนั้น

 

 

 

 

【Tips】มอนสเตอร์แรงค์

    มอนสเตอร์จะถูกจัดแรงค์อย่างคร่าวๆด้วยพลังต่อสู้เริ่มต้น อีกทั้งยิ่งแรงค์สูงเท่าไหร่ สกิลก็ยิ่งมีความรุนแรงเท่านั้น

    มอนสเตอร์แรงค์มีความสัมพันธ์อย่างมากกับสถานที่และวัฒนธรรม ที่แม้ว่าจะเป็นมอนสเตอร์เผ่าเดียวกันแต่หากอยู่คนละประเทศก็จะมีแรงค์ต่างกัน ในญี่ปุ่น มอนสเตอร์ประเภทภูติผีจะแข็งแกร่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ซาชิกิวาราชิถ้าในญี่ปุ่นจะเป็นแรงค์ C แต่ถ้าเป็นในประเทศแถบตะวันตกจะเป็นมอนสเตอร์แรงค์ E

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด