เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 21 Q : ถ้าหากมีสาวสวยเข้ามาคุยกับคุณ? A : ให้สงสัยว่าเป็นการอำกันเล่น

Now you are reading เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย Chapter 21 Q : ถ้าหากมีสาวสวยเข้ามาคุยกับคุณ? A : ให้สงสัยว่าเป็นการอำกันเล่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1 ตอนที่ 21

 

『ขออภัยที่ให้รอคร้าบ! รอบรองชนะเลิศ ในที่สุดก็มาเริ่มคู่แรกกันเลย』

 

    ด้วยคำจากพิธีกร เสียงของผู้ชมในสถานที่ก็ดังขึ้น แม้ว่าจะมีการแข่งที่น่าผิดหวังหลายคู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการตั้งความหวังไว้สูงสำหรับ 4 คนสุดท้าย

    ในหมู่นั้น ที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากก็คือ…..

 

『ก่อนอื่นก็จากทางประตูแดง! ผู้เข้าแข่งขันคาโน่ อันนาคร้าบ!』

 

    นักผจญภัยลูกครึ่งสาวสวย คาโน่ อันนาล่ะ

    มีเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนๆผู้ชายดังก้องไปทั่วสถานที่

    คาโน่ตอบสนองด้วยการโบกมือขณะยืนอยู่ที่ตรงกลางลานประลอง

 

『เอาชนะรวดผ่านเข้ามาจนถึงตรงนี้ด้วยการใช้การ์ดแรงค์ D 3 ใบ! สิทธิในการใช้อุปกรณ์เวทก็ยังมีอยู่ 3 ครั้ง นอกจากนี้สมาชิกสำหรับการแข่งรอบนี้ก็ถูกเปลี่ยนทั้งหมด พุ่งเป้าจะไปสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยสมาชิกที่เก็บเอาไว้ครับ!』

 

    ทางสตาฟส่งสัญญาณมา ผมจึงเริ่มออกเดิน

    …..ตามแผนการของคาโน่ คู่ต่อสู่ในรอบรองชนะเลิศคือผม ทางรายการ TV เอง เดาว่าก็คงอยากจะให้รอบชิงชนะเลิศเป็นคันนาซูกิกับคาโน่ แบบนั้นจะได้ดูดีผ่านทางหน้าจอ

    ผมกับซาโต้ก็เป็นแค่หมากัดกันเท่านั้น

 

『คู่ต่อสู้ทางประตูขาว! ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า อุทามาโร่!』

 

    แม้ว่าผมจะปรากฏตัวออกมา ก็ไม่มีเสียงเชียร์แบบคาโน่ ก็นะ แน่นอนอยู่แล้ว ก็มาถึงตรงนี้ได้โดยไม่ต้องออกแรงสู้อะไรมาก แต่ว่าเรื่องนั้น ผู้เข้าแข่งคนอื่นๆมันก็เหมือนๆกัน ก็แค่…..ต่างกันตรงที่คาโน่และคันนาซูกิมีแสงอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว

    แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าได้เสียงเชียร์แผ่วมาซักหน่อยก็จะรู้สึกขอบคุณมากนะ

 

『ผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า เอาชนะมาด้วยการใช้การ์ดแรงค์ D และ E อย่างชำนาญ ในจุดนี้เองก็ได้เพิ่มการ์ดลับแรงค์ C เข้ามาในสมาชิก สิทธิการใช้อุปกรณ์เวทก็ยังมีอยู่ครบทั้งหมดครับ!』

 

    สายตาของคาโน่จ้องมองมาทางนี้ ไม่มีท่าทีการดูถูก เดาว่าคงจะคาดไม่ถึงว่าผมเองก็จะมีการ์ดแรงค์ C อยู่เหมือนกัน

    ในทางกลับกัน ผมก็เตรียมใจเอาไว้แล้วว่ามันคงไม่แปลกถ้าอีกฝ่ายจะเป็นแรงค์ C ทั้งหมด จิตใจผมยังพอรับตรงนั้นได้อยู่

 

『ผู้เข้าแข่งขันคาโน่และผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่า ในช่วงที่มีการเลือกรางวัลเมื่อคืนนี้ เลือกการ์ดที่ต้องการเหมือนกัน และดูเหมือนจะสัญญาว่าจะให้ผลของงานแข่งครั้งนี้เป็นตัวตัดสิน แล้วด้วยเหตุบังเอิญที่ต้องมาเจอกันในรอบรองชนะเลิศ ดังนั้นในการแข่งรอบนี้จะเป็นตัวตัดสินครับ』

 

    โอ้ เสียงตะโกนของความตื่นเต้นดังขึ้นมาโดยรอบ

    ดวงตาของผมและคาโน่ประสานกัน แล้วต่างเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ด้วยคำพูดตรงๆของพิธีกร ที่ทำได้ก็มีแต่ยิ้มแห้งๆให้

 

『เช่นนั้นแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้งสอง โปรดอัญเชิญการ์ดออกมาครับ』

 

    ด้วยคำของพิธีกร พวกเราต่างก็อัญเชิญการ์ดออกมาพร้อมกัน

    จนถึงตอนนี้การ์ดจะถูกอัญเชิญหลังจากที่เริ่มการแข่ง นั่นก็เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ แต่ทางสตาฟแจ้งพวกเราล่วงหน้าแล้วว่าตั้งแต่รอบรองชนะเลิศไป จะให้ทำการอัญเชิญออกมาก่อนหน้าจะเริ่มการแข่ง เพื่อจะได้ทำการแนะนำการ์ดให้กับผู้ชม

 

    เร็นกะ, เมอา, เอลิซ่า ทั้ง 3 ใบปรากฏตัวออกมา

 

【เผ่า】ซาชิกิวาราชิ (เร็นกะ)

【พลังต่อสู้】410 (100UP!)

【ทักษะติดตัว】

    – โชคดีและโชคร้ายคือเชือกที่มัดรวมกันแน่น

    – ซ่อนแอบ

    – เวทมนตร์ฟื้นฟูพื้นฐาน

 

【ทักษะเรียนรู้】

    – ตัวตนที่ร่วงหล่น

    – จิตวิญญาณอิสระ

    – เวทมนตร์โจมตีพื้นฐาน

    – มิตรภาพร่วมมือ

    – เวทมนตร์สถานะผิดปกติพื้นฐาน

 

    สเตตัสของเร็นกะในตอนนี้ เรียกได้ว่าเป็นเอสของปาร์ตี้พวกเรา ทั้งในนามและความเป็นจริง

    แต่ว่า ในครั้งนี้ คู่ต่อสู้ก็มีการ์ดแรงค์ C เหมือนกัน แถมด้วยอยู่ในสายอาชีพมานานกว่าผม

    ความแตกต่างในพลังต่อสู้จากระยะเวลาที่ได้ทำอาชีพจะมีมากแค่ไหน นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมกังวล

 

「ฟุฟุ ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัวของเมอาแล้วสินะ!」

 

    เมอาที่ได้กลายเป็นเอ็มพูซาแล้วดูเติบโตขึ้นมานิดหน่อย พูดขณะที่กระพิอปีกไปด้วย

    แต่เดิมทีเมอามีขนาดตัวเท่าฝ่ามือและมีอายุประมาณ 10 ขวบซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนตุ๊กตาขยับได้

    แต่พอได้แรงค์อัพเป็นเอ็มพูซาแล้ว ก็กลายเป็นมีความสูงเทียบเท่ากับมนุษย์ อายุของร่างกายก็เพิ่มขึ้นประมาณ 2 ปี ทำให้รูปร่างเริ่มมีส่วนโค้งมากขึ้น ให้ความรู้สึกว่าเกือบจะกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    มีปีกของค้างคาวอยู่ที่หลังเหมือนเดิม แต่มีหางของลางอกมาตรงก้น ขาทั้ง 2 ข้างก็ทำจากทองเหลืองตั้งแต่กลางต้นขาลงไป มองแว่บแรกเหมือนว่าเธอใส่ถุงเท้ายาวที่ทำจากเหล็ก ซึ่งให้ความรู้สึกเซ็กซี่

    เมื่อเห็นเมอาเป็นแบบนั้น เร็นกะก็พูดด้วยความรังเกียจ

 

「การเปิดตัวของแกมันจบไปตั้งแต่รอบ 4 แล้วไม่ใช่เรอะ」

 

    ตัวเธอดูจะไม่ชอบใจเมอาที่มีอะไรหลายๆอย่างใหญ่กว่าเธอ

 

「กับพวกกระจอกแบบนั้น มันจะไปมีโอกาศได้ยังไงกันล่ะ!」

 

    อีกทั้งเมอาเองก็ยังทำตัวเป็นเด็กๆ พอมีใครมาหาเรื่องหน่อยก็ช่วยไม่ได้ทีจะสวนกลับ

 

『โอ๊ตโตะ? ดูเหมือนว่าการ์ดของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าจะมีเรื่องกันอยู่นะครับ?』

『ดูเหมือนเหล่าการ์ดจะเข้ากันได้ไม่ค่อยดีนะครับ』

 

    พอทางผู้ประกาศกับผู้บรรยายชิเงโน่ซังพูดมาแบบนั้น ทางฝั่งผู้ชมก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมา

    เดี๋- ช่วยหยุดทีเถอะ…..

    ด้วยความอับอาย รู้สึกว่าใบหน้าผมมันร้อนเป็นไฟ

 

『การ์ดของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าคราวนี้ ดูจะเป็นกูล่าที่ได้ใช้มาตลอดงานแข่งนี้, เอ็มพูซาที่ได้ใช้ไปในการแข่งรอบที่แล้ว, แล้วก็ที่เก็บซ่อนเอาไว้จนถึงตอนนี้ ซาชิกิวาราชิสินะครับ』

『ดูจะเน้นหนักไปทางสาวมอนสเตอร์นะครับ ช่างงดงามจริงๆ』

 

    …..พอมาลองมองดูแล้ว มันก็ปาร์ตี้ฮาเร็มของแท้จริงๆ นอกเหนือไปจากเมอาที่ถูกเลือกมาเป็นพรรคพวกด้วยความตั้งใจแล้ว ด้านเร็นกะกับเอลิซ่าแค่บังเอิญเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง

    รู้สึกได้ถึงสายตาอิจฉาจากเหล่าผู้ชายในหมู่ผู้ชม

 

『อีกทางด้านหนึ่งของผู้เข้าแข่งขันคาโน่ เป็นเอลฟ์กับยูนิคอร์น และลีพวิ่งอาเมอร์(living armor)ครับ』

『ลีพวิ่งอาเมอร์ตัวรับ, ยูนิคอร์นสนับสนุน, ส่วนเอลฟ์น่าจะตัวรุก? เป็นปาร์ตี้ที่มีความสมดุลดีนะครับ』

 

    ผมมองไปทางการ์ดของผู้ต่อสู้

    เอลฟ์…..หนึ่งในการ์ดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในหมู่การ์ดแรงค์ C

    การ์ดทุกใบจะมีหน้าตาที่มนุษย์ไม่สามารถเทียบได้อยู่แล้ว แต่ในหมู่พวกนั้นยังมีที่เน้นย้ำความงดงามขึ้นไปเป็นขั้นเทพอย่างเอลฟ์หรือซัคคิวบัสอยู่อีก

    การ์ดของคาโน่ เอลฟ์นั้น ถือได้ว่าเป็นอะไรที่หาได้ยากในหมู่สาวมอนสเตอร์เลย

    การ์ดอย่างเอลฟ์หรือซัคคิวบัส จะไม่มีวางขายอยู่บนตลาดปกติทั่วไปอีกแล้ว นั่นก็เพราะนักผจญภัยที่ได้มันมาไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ

    ถึงจะมีหลุดออกมาบางครั้งบางคราว ก็ไม่ได้ถูกขายให้กับกิลล์ แต่จะถูกนำไปประมูล

    ตามปกติของการ์ดแรงค์ C จะมีราคาตลาดอยู่ตั้งแต่ 10 ล้าน – 100 ล้านแต่ถ้าหากเป็นเอลฟ์หรือซัคคิวบัสแล้ว “ตั้งแต่ 100 ล้านไป” จะเริ่มจากตรงนั้น สามารถเข้าใจได้ถึงความนิยมมหาศาล

 

    เอลฟ์ของคาโน่ มีความงดงามที่เทียบเท่ากับความนิยมและราคานั้น

    อายุน่าจะประมาณ 15 หรือ 16 ได้ ผมตรงมีสีบลอนด์ตัดในทรงบ๊อบสั้น ให้ความรู้สึกโดยรวมถึงความเฉลียวฉลาด

    หุ่นมีความเพรียวบาง แต่ถึงจะไม่มีหน้าอก สำหรับผู้หญิงแบบเธอแล้วไม่เป็นจุดที่น่าเศร้าใจเลย

    ความจริงแล้วถ้ามีมันจะเป็นจุดที่แปลกแยกสำหรับร่างกายแบบนี้แทนมากกว่า นี่คงจะเป็นกฏทองของความงาม

    แม้จะถูกห้อมล้อมไปด้วยหญิงสาวมาตรฐานสูงอย่างเร็นกะกับเมอา และเริ่มจะคุ้นชินกับความงามของการ์ด ความงดงามนั่นก็ยังทำให้รู้สึกสั่นไหวได้

    แม้แต่ทางผู้ชมเองก็ยังมีเสียงตะลึงและชื่นชม

    จนถึงตอนนี้เคยเห็นเอลฟ์จากในโฆษณามาก่อน แต่พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วมันคนละระดับกันเลย

 

    นี่คือการ์ดที่ผู้ก่อตั้งดันเจี้ยนมาร์ทเตรียมเอาไว้กับลูกสาวของเขา…..ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ สกิลเองก็น่าจะยอดเยี่ยมไม่แพ้กันแน่ๆ

    ยูนิคอร์นและลีพวิ่งอาเมอร์เองก็เป็นการ์ดระดับสูงในแรงค์ D ยูนิคอร์นมีความชำนาญในด้านเวทฟื้นฟูและสนับสนุน ลีพวิ่งอาเมอร์เองก็เป็นการ์ดที่นิยมโดยเป็นหน่วยตั้งรับที่ถึกทนผู้ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด

    ผมยิ้มออกมาเล็กๆให้กับการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปด้านราคาของการ์ด

    แต่ไม่มีความรู้สึกว่าด้อยกว่า

    เหล่าการ์ดของผมนั้น สุดยอดกว่าอย่างแน่นอน

    ถึงแม้ว่าทุกคนในที่นี้จะไม่คิดอย่างนั้น แต่ผมคิด

    เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ ดูสิ เหล่าการ์ดของผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนั้นเลย…..

 

「พวกเวร แค่ได้รับความนิยมนิดหน่อยก็ทำเป็นเหลิง กับอีแค่แพงกว่า 10 เท่าแล้วมันทำให้เก่งกว่าคนอื่น 10 เท่าเรอะ? หา?」

「เน่เน่ ระหว่างเอลฟ์นั่นกับเมอาแล้วใครน่ารักกว่ากันเหรอ? ไม่เอาคำตอบตามความสวยแต่เอาตามความน่ารักเข้าใจนะ? ถ้าเป็นความน่ารักแล้ว เมอาดีกว่าใช่ไหม?」

 

    อิจฉามาเต็มที่, กลุ่มก้อนของความริษยา, Ressentiment ของแท้

    พ่ายแพ้หมดรูปในด้านความรู้สึก…..อีแบบนี้ จะชนะได้ไหมเนี่ย? ผมชักจะเริ่มกังวลซะละ

 

『ต่างฝ่ายต่างก็มีกำลังรบทัดเทียมกัน ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะก็ไม่แปลกเลย ดูจะเป็นการต่อสู้ที่ดีนะครับ』

『ถ้าเช่นนั้นแล้ว เริ่มการแข่งได้!』

 

「—-ตายซะ โอร่าา!」

 

    ทันทีที่เริ่มการแข่ง เร็นกะก็ปลดปล่อยเวทมนต์ ทำเอาตาของผมเปิดกว้าง

    เดี๋- นี่ไม่ใช่แบบที่คุยไว้นี่ครับ เร็นกะซัง!

    ทั้งๆที่แผนคือเว้นระยะห่างไว้ก่อนแต่เร็นกะกลับชิงโจมตีไปก่อนแล้ว ไม่สิ พอลองมองดูดีๆเมอาก็เอากับเขาด้วย!

    จู่ๆการ์ด 2 ใบก็ทำตามใจไปซะแล้ว แต่ว่า นี่มัน…..

 

「นะ!」

「คุ…..!?」

「บบบรู!?」

 

    คาโน่ส่งเสียงตกใจ ในขณะเดียวกัน เอลฟ์และยูนิคอร์นก็ส่งเสียงร้องแล้วล้มลงไปกับพื้น

 

『โอ๊ตโต้! สถานะผิดปกตินอนหลับของผู้เข้าแข่งขันคิทากาว่าโผล่ออกมาอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มเกมเลยครับ—-!』

 

    เสียงตื่นเต้นของผู้ประกาศดังก้องไปในอากาศ ผมรีบทำการออกคำสั่งทันที

 

「เร็นกะ โจมตีโดยตรง!」

「โอ้!」

 

    ตอนแรกก็สงสัยว่าทำอะไรกัน แต่กลับกลายเป็นโอกาศดี

    คาโน่ก็คงคาดไม่ถึงว่าสถานะผิดปกติจะติดจึงไม่อาจเก็บซ่อนความร้อนรนไว้ได้ ในตอนนั้นเอง กระสุนแสงของเร็นกะก็พุ่งเข้าหา

    หลบนี่ไม่พ้นแน่! ชนะแล้ว! รอบรองชนะเลิศจบแล้ว!

    ในขณะที่ผมกำลังมั่นใจในชัยชนะอยู่นั้น

 

「—-อาร์ม!」

 

    คาโน่เปล่งเสียง ลีพวิ่งอาเมอร์แยกชิ้นส่วนออก เพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นชุดเกราะเข้าไปสวมเธอ ชุดเกราะสีแดงเข้มปัดป้องกระสุนแสงของเร็นกะไว้…..!

 

『นานี๊!?』

 

    ทั้งผมและเร็นกะต่างส่งเสียงตกใจออกมา

 

「มาสเตอร์! นั่นมัน!」

「อา ไม่ผิดแน่!」

 

    ผมพยักหน้าตอบให้กับคำถามของเร็นกะ มันมีอยู่จริงสินะ!

 

『ดาบชุดเกราะเวทของ〇น・เบลุก!』

 

    พอพวกเราพูดออกมาพร้อมกัน คาโน่ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ

 

「ฟุฟุฟุ ดูจะตกใจละสิ ใช่แล้ว นี่ก็คือดาบชุดเกราะเวทที่สร้างโดยช่างตีเหล็กในตำนาน〇นเบลุกยังไงล่ะ! ชุดเกราะนี่นอกเหนือไปจากพลังป้องกันที่สูงแล้ว ยังปัดป้องเวทมนต์ที่นอกเหนือไปจากสายฟ้าได้ทุกอย่างด้วย!」

 

    คาโน่พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

    …..ไม่ใช่ละ ถึงผมจะเป็นคนปล่อยมุขเองก็เถอะ แต่นั่นไม่ใช่ดาบชุดเกราะเวทซักหน่อย เป็นทักษะติดตัวของลีพวิ่งอาเมอร์ แปลงอุปกรณ์ต่างหาก

    ลีพวิ่งอาเมอร์ เป็นมอนสเตอร์ประเภทหายากที่สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ให้กับการ์ดหรือมาสเตอร์ได้

    แล้วก็อีกเรื่อง ลีพวิ่งอาเมอร์แค่มีพลังป้องกันเวทที่สูงไม่ได้สามารถปัดป้องเวทได้ทุกชนิดอะไร

    แต่ แบบว่า…..ยัยนี่เองก็ดูจะเป็นแฟนมังงะตัวยงเหมือนกัน ดวงตาของเร็นกะเปล่งประกายราวกับว่าได้เจอพวกเดียวกัน

 

「แล้วก็ส์! สถานะผิดปกติทำอะไรปาร์ตี้ของชั้นไม่ได้หรอก!」

 

    คาโน่เอาขวดออกมาจากกระเป๋า โปรยใส่เอลฟ์และยูนิคอร์น

    ชิ กะแล้วว่าต้องมีของรับมือสถานะผิดปกติจริงๆด้วย

    -หะ-เหล่ามอนสเตอร์ของคาโน่ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าตกใจ ในขณะเดียวกันเมอาก็ออกมาจากตัวเอลฟ์ราวกับว่าถูกดีดออกมา

    ทันทีที่เอลฟ์หลับ เมอาก็แทรกซึมเข้าไปในความฝันของเอลฟ์ สาเหตุที่เล่นมุขไปก็เพื่อหันเหความสนใจไปจากเมอา

 

「คิย๊า! อูว เกือบจะได้แล้วเชียว!」

「นะ- ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! เจ้าเล่ห์อะไรแบบนี้! ไม่สิ ตรงนี้ต้องพูดว่าสมแล้วสินะส์」

 

    เมื่อได้เห็นเอลฟ์ที่อ่อนแอลงไปพอตัว คาโน่ก็จ้องตามา

 

「เร็นกะ เมอา เอาอีกรอบ」

「ไม่ปล่อยให้ทำหรอกน่าส์ ยูนิคอร์น!」

 

    ก่อนหน้าที่พวกเร็นกะจะจัดสถานะผิดปกติไปอีกรอบ เขาของยูนิคอร์นก็เปล่งแสง เหล่ามอนสเตอร์ของคาโน่ถูกแสงห้อมล้อมตัว แล้วเวทสถานะผิดปกติของพวกเร็นกะก็ถูกปัดทิ้ง

 

「ชิ อิมมูนิตี้เรอะ」

 

    อิมมูนิตี้(immunity) เวทสนับสนุนขั้นกลางที่ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อสถานะผิดปกติ พอเป็นแบบนี้แล้ว การจะใช้คอมโบสถานะผิดปกติกับคาโน่ก็จะยิ่งได้ผลน้อยลง

 

「จากนี้ไปเเป็นเทิร์นของชั้นล่ะส์!」

 

    ทันทีที่คาโน่พูดมา ลีพวิ่งอาเมอร์ก็แยกตัวออกแล้วพุ่งเข้ามาทางนี้ เมื่ออัศวินไร้ร่างเข้ามาใกล้ยกดาบขึ้นสูง เอลิซ่าก็เข้ามาสกัดเอาไว้

    ลีพวิ่งอาเมอร์ฟันดาบลงมา แรงมหาศาลขนาดที่น่าจะผ่าท่อนซุงให้ขาดได้….. เอลิซ่าใช้เพียงครึ่งก้าวเพื่อหลบแล้วสวนกลับด้วยการเตะ….. ทว่าผลลัพธ์ดูเบาบาง ลีพวิ่งอาเมอร์เพียงแค่ตัวสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะใช้ท่าแทง เอลิซ่าหลบไปได้แต่ก็แฉลบโดนแขนของเธอ

 

    …..พอๆกัน ไม่สิ ทางเราย่ำแย่กว่าอยู่เล็กน้อย

 

    ลีพวิ่งอาเมอร์กับกูล่า ทั้งคู่ต่างก็เป็นมอนสเตอร์อันเดดที่มีจุดเด่นตรงความถึกทนดีเยี่ยม, ทนทานต่อสถานะผิดปกติ, และไม่มีอัตตาทำให้มีการเคลื่อนไหวเป็นแบบเส้นตรงไม่ซับซ้อน

    ทว่าความถึกของลีพวิ่งอาเมอร์มาจากพลังป้องกันของมัน ส่วนความถึกของเอลิซ่ามาจากการฟื้นฟูด้วยการกินศพ ซึ่งจุดนี้ทำให้ข้อดีถูกหักออกไป ในด้านพลังต่อสู้เอง ลีพวิ่งอาเมอร์ก็มีมากกว่าด้วย

    ในทางกลับกัน หากเป็นด้านทักษะจะเป็นเอลิซ่าที่ดีกว่าเพราะเธอมีอัตตาและเคลื่อนไหวแม่นยำ ดูเหมือนว่าความถึกทนและพลังต่อสู้จะกลบทับการเคลื่อนไหวที่หลากหลายและแม่นยำไป

    อยากจะหาทางช่วยอะไรซักอย่างแต่…..ผมเหลือบมองไปทางเมอา

    เธอกำลังจ้องอยู่กับยูนิคอร์น

    อิมมูนิตี้ไม่ใช่เวทที่ส่งผลได้นาน คงจะเล็งช่วงที่หมดผลนั่นแล้วใช้สถานะผิดปกติอีกครั้ง

    ทว่ายูนิคอร์นเองเตรียมตัวที่จะใช้เวทของมันอย่างรวดเร็ว บางครั้งบางคราวก็มีปล่อยเวทใส่กันเพื่อคุมเชิง ทางนี้ก็ทำอะไรกันไม่ได้

    อีกทางด้านหนึ่ง เร็นกะกำลังสู้อย่างดุเดือดกับเอลฟ์ มียิงแลกกันทั้งเวทและลูกธนู

    ในการแข่งแบบนี้ที่เอสมีระดับสูงและมีพลังโดดเด่น จุดสำคัญคือการหาทางป้องกันเอสของฝ่ายตรงข้ามแล้วจัดการด้วยท่าปิดฉากของเรา

    สำหรับเร็นกะ ได้ให้คำสั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยทำการคุมเชิงเอสของอีกฝ่ายเอาไว้และหาช่องว่างจัดการกับใบอื่นรอบๆแต่…..

    พอเร็นกะยิงกระสุนแสงไปที่เอลฟ์ เอลฟ์ก็ทำการหลบแล้วยิงธนูใส่เอลิซ่า เร็นกะยิงสกัดแล้วหลบลูกธนูที่ยิงมาใส่เธอ เอลฟ์ยิงธนูใส่หักล้างกระสุนแสงที่เล็งไปหาคาโน่ แล้วยิงรัวกลับไปทางเมอา

    เป็นการแลกเปลี่ยนที่ราวกับผลัดกันรุกในหมากรุกที่ใส่กันแบบไม่ไว้หน้า

    ถ้าหากว่าพลาดแม้เพียงก้าวเดียวก็จบเห่ทันที สมดุลอันไม่เป็นที่พึงประสงค์ได้ถูกรักษาเอาไว้

    ทั้งผมและคาโน่ต่างก็แลกสายตากัน มีเพียงมาสเตอร์เท่านั้นที่จะฝ่าทางตันนี้ไปได้ ต่างฝ่ายต่างก็จ้องกันเพื่อดูว่าใครจะลงมือก่อน

    เหงื่อไหลย้อยลงไปที่คาง

 

    ฝ่ายที่ขยับก่อนก็คือ—-ผมเอง

    เอาก้อนหินออกมาจากกระเป๋าแล้ว「เร็นกะ!」ส่งเสียงเรียกพร้อมขว้างมันลงไปที่พื้น

    -กึ้ง-โลกปกคลุมด้วยแสงสว่างวาบ ที่ผมใช้ก็คืออุปกรณ์ที่เรียกว่าหินประกายแสง

    เจ้าอุปกรณ์เวทนี้ได้มาจากดันเจี้ยนแรงค์ E เมื่อมันแตกออกจะเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา เพื่อให้แน่ใจว่าคาโน่จะไม่ได้ปิดตา ผมจึงจ้องไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายจนถึงเมื่อครู่นี้ นั่นจึงทำให้ทัศนะวิสัยของผมพร่าขาวมองอะไรไม่เห็นไปด้วย

    คาโน่「อาร์ม! …..ตามัน ตามัน~!」ส่งเสียงร้องอยู่ ทัศนะวิสัยก็ค่อยๆกลับคืนมา

 

「มู…..ไม่เห็นตัวซาชิกิวาราชิจังแล้วส์」

 

    คาโน่ที่สายตากลับมาปกติทำการมองไปรอบๆ

 

「สกิลซ่อนแอบเหรอส์ คงกะจะโจมตีโดยตรงชั้นอยู่ล่ะสิท่าส์? แต่ว่าก็อย่างที่เห็น ป้องกันเอาไว้ด้วยลีพวิ่งอาเมอร์แล้วส์ เพราะงั้นก็เปล่าประโยชน์น่าส์」

「ไม่รู้สินะ」

「…..ก็ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรไว้หรอกส์ แต่เดี๋ยวก็รู้ได้ในอึดใจเดียวอยู่ดีส์」

 

    หลังพูดจบ เธอก็ออกคำสั่งเอลฟ์อย่างรวดเร็ว

 

「โจมตีโดยตรง!」

「!」

 

    กะแล้วว่าต้องมา!

    ช่วงเวลาที่เอลฟ์เล็งธนูมาที่ผม ผมก็ไปหลบด้านหลังเอลิซ่า ตัวเธอเองก็ใช้สกิลปกป้องผมไว้ด้วย ลูกธนูพุ่งผ่านแขนเธอไปเป็นการสามารถปกป้องผมไว้ได้สำเร็จ

 

「ทำได้ไม่เลวส์นี่! แต่จะทนไปได้ซักเท่าไหร่เชียวส์!?」

「จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว!」

 

    ทันทีที่ผมพูดออกไป กระสุนแสงก็มาจากที่ใดไม่ทราบ กระแทกอัดยูนิคอร์น ยูนิคอร์นส่งเสียงร้องแล้วล้มลงไป

 

「ยูนิคอร์น!?」

「ชิ ตรงนั้น!」

 

    พอเอลฟ์ทำการยิงธนูไปตรงที่ว่างเปล่า เร็นกะก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมส่งเสียงเดอะลิ้น ใช้มือกุมไปที่แขนอีกข้าง แฉลบเข้างั้นรึ

    แต่ว่ายูนิคอร์นนอนกองอยู่กับพื้นแน่นิ่งไม่ไหวติง ดูจะไม่ตายแต่ว่าก็จัดการทำให้หมดสติได้สำเร็จ—-และเมอาก็ได้เข้าไปสิงในตัวยูนิคอร์นแล้ว

    เร็นกะแสยะยิ้ม

 

「เท่านี้ เจ้าม้าขวางหูขวางตานั้นก็จะหายไปแล้ว」

「ก่อนจะเป็นแบบนั้น ก็แค่จัดการเธอให้ได้เสียก่อน」

 

    เอลฟ์พูดออกมาด้วยเสียงที่ใสราวกับกระดิ่ง

    เร็นกะหายตัวไปอีกครั้ง แต่เอลฟ์ทำการยิงธนูไปดอกแล้วดอกเล่าราวกับว่าพอจะรับรู้ที่อยู่ของเธอได้ เร็นกะเองก็ทำการยิงกระสุนแสงออกมาอย่างต่อเนื่อง…..

 

「คุ…..!? บ้าเอ๊ย!」

 

    ในที่สุดก็ถูกจับได้

    เร็นกะกุมมือไปที่สีข้าง ย่อตัวนั่งลงกับพื้น

    เอลฟ์เผยรอยยิ้มอันเยือกเย็น

 

「ฟุ มาได้เท่านี้สินะ สุดท้ายแล้ว—-」

 

    ขณะที่เอลฟ์กำลังจะได้เปิดปากพูดเยาะเย้ยอะไรออกมา เร็นกะก็คำรามด้วยความโกรธ

 

「ใครกัน! ที่เป็นของครึ่งราคาที่มุมลดราคาหาา—-!」

「เอ๋!? ม-ไม่ได้ว่าถึงขนา—-」

「มีช่องว่าง!」

「นะ!?」

 

    ขณะที่เอลฟ์กำลังสั่นไหวเพราะเสียงกรีดร้องแห่งความคับแค้นใจเต็มขั้นของเร็นกะ เมอาก็กระโจนออกมาจากยูนิคอร์นทำการโจมตีทีเผลอ เมอาเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขตัวใหญ่ ชนเข้าใส่เอลฟ์

    เอ็มพูซากำลังยุ่งอยู่กับยูนิคอร์น เอลฟ์ที่คิดแบบนั้นอยู่จึงไม่ทันระวังตัว

 

「คุ…..พลาดซะแล้ว」

 

    ดูแว่บแรกอาจจะเหมือนว่าทั้งยูนิคอร์นและเมอาได้หายไปจากกระดานแล้ว แต่ในความจริงเมอาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

    ทว่าไม่ว่าจะมองจากมุมไหน การจัดการยูนิคอร์นไปทั้งๆแบบนั้นเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว

    ด้วยเหตุนั้น ตัวเอลฟ์จึงตัดตัวเลือกอื่นไปโดยไม่รู้ตัว และหนึ่งในสาเหตุหลักก็คือกำลังมุ่งความสนใจไปที่การจัดการเรนกะ

    แต่ว่าทางเราไม่ได้มีความตั้งใจจะทำให้การ์ดของอีกฝ่ายลอสมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะงั้นเมอาจึงเฝ้ารอจังหวะที่จะโจมตีทีเผลออยู่ตลอด

 

「แก! มีคาแรคเตอร์ซ้ำกันชั้นอยู่นะ!」

「!? ต-ตรงไหนกัน!?」

 

    นิ้วถูกชี้ไปที่เอลฟ์ ผู้ซึ่งลืมลุกแล้วตบมุขกลับมา…..เร็นกะล่ะ

 

「อย่าขยับ」

 

    ใบหน้าสวยๆของเอลฟ์บิดเบี้ยวด้วยความอัปยศ

 

「คุ ตัวฉันคนนี้…..! ด้วยท่าทางทำเป็นเล่นแบบนั้น…..!」

 

    เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเร็นกะบิดเบี้ยนด้วยความยินดีที่มาพร้อมด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

 

「ยินดีต้อนรับสู่โลกของตัวละครแก๊ก แล้วก็ลาก่อน」

 

    ในขณะที่เร็นกะกำลังจะปิดฉากด้วยความไร้ปราณีนั้นเอง

 

「หยุดก่อน!」

 

    เสียงของคาโนดังขึ้นมาแทรก สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เธอ

 

「…..โดนจนได้ส์ ชั้นแพ้แล้ว」

 

    หลังจากคาโน่พูด เธอก็คอตกด้วยความผิดหวัง

 

「อันนา…..」

 

    เอลฟ์เองก็คอตกด้วยความเจ็บใจ

    พอเห็นแบบนั้น เร็นกะก็ลดนิ้วลงแล้วพูดออกมาด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

 

「หึ มาสเตอร์ทางนั้นเองก็ด้วย ดูใจอ่อนจริงๆเชียว…..」

『รู้ผลลลล! เป็นการรุกและรับที่ลายตาอะไรแบบนี้! แผนการอันแยบยล! นี่แหละคือมอนสเตอร์โคลอสเซียม! เป็นการต่อสู้ที่เหมาะกับรอบรองชนะเลิศจริงๆครับ!』

『ต่างฝ่ายต่างก็ใช้ประโยชน์จากสกิลของมอนสเตอร์อย่างเต็มที่ เป็นการต่อสู้ที่ดีจริงๆเลยครับ』

 

    พร้อมด้วยความคิดเห็น เสียงปรบมือและเสียงเชียร์สามารถได้ยินมาจากทางที่นั่งผู้ชม

    …..ดูเหมือนว่าแม้แต่ผู้ชมที่เคยเบื่อๆอยู่ จะพอใจกับการต่อสู้ในตอนนี้

    ขณะที่ผมลงจากเวทีพร้อมด้วยเสียงปรบมือจากผู้ชม ที่ตรงโถงทางเดินก็ได้ไปบังเอิญเจอกับคาโน่ ไม่สิ ดูจากสถานการณ์แล้ว กำลังรอผมอยู่งั้นเหรอ?

 

「แหมมม โดนจนได้ส์ ตามสัญญา จะมอบการ์ดคนยักษ์นั่นให้ก็แล้วกันส์」

「…..ความจริงแล้ว ต่อให้ตัวเธอชนะก็จะยกให้ผมอยู่ดีใช่ไหมล่ะ?」

 

    พอผมพูดออกไป คาโน่ก็ยิ้มออกมาเขินๆ

 

「อ้าวแหม ความแตกซะแล้วเหรอ? ก็ตามที่คิดไว้นั่นแหละ นั่นมันก็เพื่อจะได้สู้กับรุ่นพี่คิทากาว่า ก็นะ เป็นการเตรียมการส์ สุดท้าย ก็กลายเป็นติดกับแผนการเข้าซะเองส์」

「ก็นะ ไม่ว่าจะมองทางไหน พอไปเทียบกับคันนาซากิกับคาโน่แล้ว ผมก็เป็นแค่ตัวละครประกอบล่ะนะ」

「ไม่ไม่ ไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกส์ ก็แบบว่า ตอนที่เห็นเมื่อวานก็คิดแบบนั้นอยู่หรอก แต่พอได้มาเจอตัวในสนามประลองแล้วกลับทำเอาตกใจเลยส์ นึกว่าเป็นคนละคนซะอีก」

「เอ๋?」

「จะว่ายังไงดี รู้สึกเหมือนตัวตนอะไรนั่นมันแตกต่างกันออกไป ก็นะ จะพูดแบบนั้นก็ได้ นั่นคือเหตุผลที่ชั้นแพ้ล่ะ」

 

    พอได้เห็นคาโน่พยักหน้าราวกับว่าเข้าใจอะไร ในขณะที่ผมเองยังงุนงงอยู่

 

「เอ็ตโต คาโน่」

「อะ แทนที่จะเป็นามสกุล เรียกว่าอันนาดีกว่านะส์ นามสกุลของชั้นมันค่อนข้างจะสับสนน่ะ」

「เอ๋? งั้นเหรอ? ถ้าพูดแบบนั้นล่ะก็…..งั้นผมเองก็เรียกมาโร่ก็ได้นะ」

 

    เพราะว่าเป็นคู่ต่อสู้เลยพูดด้วยกันได้ง่าย พอรู้ตัวอีกทีผมก็บอกไปแบบนั้น

 

「โอ้ งั้นก็คงเป็นรุ่นพี่มาโร่สินะส์ จากนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะส์ อะ เล่นไลน์รึเปล่า? มาแลกเปลี่ยน ID กันเถอะ」

「อ-อา」

 

    เด็กคนนี้ มาไวสุดๆเลย

    แล้วยัง รูปในไลน์ก็เป็นรูปถ่ายคู่ของอันนากับเอลฟ์

    …..ถึงแม้ว่าใบหน้าจะไปอยู่ข้างๆเอลฟ์ก็ไม่ได้ดูแย่ไปกว่ากันเลย แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของเด็กคนนี้อีกครั้ง

    หลังจากยืนยันว่าแลกเปลี่ยน ID แล้ว เธอก็เดินจากไปแบบสบายๆ

 

「……………」

 

    ผมที่อยู่คนเดียวตรงโถงทางเดิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่

 

「โย้ชชชช! โย้ชชช!」

 

    ผมซึบซ่าบความดีใจอย่างเต็มที่

    ความดีใจที่ชนะรอบรองชนะเลิศแล้วเข้ารอบชิงชนะเลิศ—-ซะที่ไหน

    เป็นความดีใจที่ได้แลกไลน์กับอันนาที่เป็นสุดยอดสาวสวยลูกครึ่งต่างหาก

    นอกเหนือไปจากครอบครัวแล้ว ทั้ง 100% นั่นคืออัตราส่วนของบัญชีผู้ใช้ผู้ชายบนไลน์ของผม

    แน่นอนว่าผมเองก็มีไลน์กลุ่มของชั้นเรียน แต่ว่าก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกับผู้หญิงคนไหนเลย แน่นอนว่าไม่อยู่ในรายชื่อเพื่อน

    สุดยอดลูกผู้ชายอะไรเช่นนี้ มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงน้อยมากเสียจนน้องสาวสงสัยในรสนิยม

    นั่นก็คือชีวิตของผมล่ะ

    แต่ จากตรงนี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงเพิ่มมา

    แถมเป็นลูกครึ่งด้วย! สาวสวย! แล้วก็นักผจญภัยและลูกสาวประธาน!

    นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!

    ราวกับ-ราวกับว่าได้เป็นเรียจูเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย!

    พริบตาที่คิดได้เช่นนั้น สติผมก็กลับมา

    …..ไม่สิ เดี๋ยวก่อน นี่มันดีเกินไป ใจเย็นไว้ สงบจิตแล้วคิดดูดีๆ

    ทำไม เหตุการณ์ดีๆแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับผมทั้งๆที่ไม่ใช่เรียจูขึ้นมาได้? ผมมันก็แค่ม็อบ หรือว่า จะเป็นกับดักอะไรซักอย่าง?

    หรือว่าบางที อำกันเล่น? พริบตาที่ความคิดเช่นนั้นแล่นเข้ามาในหัวผมก็รีบมองไปรอบๆ ใช่แล้ว ที่นี่มันอานาเขตของรายการ TV! จะมีรายการอำกันเล่นดำเนินอยู่มันก็ไม่แปลกเลย!

    ฟุ เดาว่าเป็นแบบนั้นสินะ เมื่อกี้เผลอประมาทไปหน่อย แต่จากนี้ไปจะไม่แสดงท่าทางน่าอายอีกต่อไปแล้ว

    ประสาทของผมตึงเครียดด้วยความระมัดระวังกล้องอำกันเล่นที่น่าจะแอบซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่ง

    จนกระทั่งมารู้สึกตัวได้ว่า ต่อให้จะมาอำตัวเขา มันก็คงเอาไปใช้ทำเงินอะไรไม่ได้อยู่ดี

 

 

 

 

【Tips】แปลงเกราะ

    คาถาสำหรับการใช้สวมใส่อาวุธเกราะที่ปรากฏในมังงะคราสสิกเรื่อง「การผจญภัยของได」 เป็นดาบแล้วก็ยังเป็นเกราะ แถมยังมีตั้งค่าให้สามารถปัดป้องคาถาได้ ช่างเป็นความโรแมนส์ที่น่ากลัวจริงๆ

    ก็ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้หรอก

    ในหมู่มอนสเตอร์ จะมีตัวตนที่สามารถใช้สวมใส่เป็นเครื่องมือแก่มอนสเตอร์อื่นหรือมาสเตอร์ได้ โดนเฉพาะที่เป็นที่นิยมคือมอนสเตอร์ที่มีสกิลแปลงเกราะ เนื่องจากสามารถป้องกันการโจมตีโดยตรงได้ นักผจญภัยหลายคนจึงมีมันเอาไว้ในเด็ค

    การโจมตีโดยตรงที่ทำให้พ่ายแพ้ในทันทีแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ในมอนโคโลเท่านั้น แม้แต่ในเขาวงกตเองการโจมตีใส่มาสเตอร์นั้นหมายถึงความเสียหายใหญ่ต่อปาร์ตี้ทั้งหมด มอนสเตอร์แปลงเกราะจึงมีความสำคัญที่สูง

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ดาบเกราะเวท และลอน เบลุก จาก การผจญภัยของได

https://dragonquest.fandom.com/wiki/Dark_Armour_Blade

https://dragonquest.fandom.com/wiki/Lon_Beruk

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด