เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย 9 เพราะว่าพวกเรามีซาชิกิวาราชิอยู่ยังไงล่ะ

Now you are reading เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย Chapter 9 เพราะว่าพวกเรามีซาชิกิวาราชิอยู่ยังไงล่ะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

***คำเตือน เนื้อหาภายในตอนนี้มีการบรรยายที่เกี่ยวข้องถึงความรุนแรงต่อเด็ก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน***

 

 

    ในวันนั้น ผมกำลังจัดเตรียมสำหรับการสำรวจเขาวงกตอย่างระมัดระวังมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ

    ชาร์จไฟกระบองไฟฟ้า, หนังสติ๊กสำหรับมอนสเตอร์, สเปรย์พริกไทยและแว่นตานิรภัยแบบครอบปาก ตัวของสเปรย์พริกไทยมีความรุนแรงพอที่จะไล่หมีได้ ส่วนแว่นนิรภัยก็เผื่อไว้กรณีมีลมพัดสารลอยกลับมา ของอื่นๆก็ยัดอันที่น่าจะมีประโยชน์ไป

 

    ในวันนี้ผมวางแผนที่จะพิชิตเขาวงกตแห่งแรก

    โชคดีที่วันนี้โรงเรียนหยุด ทำให้สามารถลองผิดลองถูก และพักผ่อนเพียงพอ

    เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วกับเขาวงกตแรงค์ F ไม่คิดจะเสียเวลากับเขาวงกตแห่งนี้ไปมากกว่านี้แล้ว

    หลังจากเครียร์เขาวงกตแห่งนี้ได้ จะปลดการท้าทายตัวเองที่ไม่ซื้อข้อมูลเขาวงกตออกซะ

    ได้ประสบการณ์ท้าทายเขาวงกตที่ไม่รู้จักมามากพอแล้ว คราวนี้วางแผนว่าจะหาความรู้เกี่ยวกับมอนสเตอร์และเขาวงกตหลายๆประเภทโดยการพิชิตเขาวงกตมากขึ้นไปเรื่อยๆ

 

    ขณะที่ผมกำลังบิ้วอารมณ์ก็มีเงาคนค่อยๆเดินลงมาจากชั้น 2 น้องสาวไอนั่นเอง

    ดูท่ากำลังงัวเงียอยู่ ท่าทางที่เธอส่ายผมสีเกาลัดดูน่ารัก ใบหน้าเองก็อยู่ระดับนักแสดงเด็ก ด้วยรูปร่างที่เล็กของเธอทำให้ได้รับความรักความคุณลุงคุณป้าในละแวกบ้าน ราวกับว่าเป็นไอดอลอะไรซักอย่าง

 

    ยังไงก็ตาม ความนิยมของผมในละแวกบ้านกลับย่ำแย่

    ไอ้ที่ว่า「คุณน้องอุตส่าห์น่ารักถึงขนาดนั้นแล้ว….. ไม่เป็นไรนะ! ผู้ชายไม่ได้ดูกันที่ใบหน้าหรอก! หาเงินให้รวยๆซะ แบบนั้นแล้วอุทามาโร่คุงก็จะเป็นที่นิยมเองแหละ!」มันอะไรกัน

    จะบอกว่าผมมันไม่มีทางเป็นที่นิยมนอกเสียจากต้องรวยเรอะ! เจ้าบ้าเอ้ย! ถึงไม่ต้องบอกมา—-มันก็รู้อยู่แล้ว…..

 

「ฮ้าว~ อรุณสวัสดิ์~…..」

「อรุณสวัสดิ์」

 

    ขณะที่ปาดน้ำตาที่ก่อตัวอยู่ตรงหางตา ไอก็ทำการกล่าวทักทายผมพร้อมกับหาวไปด้วย

    ไอทิ้งตัวนั่งลงไปที่โซฟา ใช้สายตาล่องลอยมองมาที่สัมภาระของผม แล้วจู่ๆดวงตาของเธอก็ลุกวาว วิ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว

 

「อะ! หรือว่าพี่จ๋ากำลังจะไปเขาวงกต!?」

「โอ้ วันนี้แหละจะพิชิตเขาวงกตเลย」

「หนูเองก็อยากไปด้วย! พาไปด้วยสิ นะ? นะ?」

 

    ไอทำท่าน่ารักแล้วขอร้อง แต่สิ่งที่เธอพูดมามันไม่ตลกด้วย

 

「ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้! มันต้องไม่ได้อยู่แล้วสิ」

「เอ๋ ทำไมล่ะทำไม? หนูเองก็อยากไปบ้างซักครั้งนึง」

「นอกเหนือจากนักผจญภัยแล้วห้ามผู้อื่นเข้าเขาวงกต เกิดพาคนธรรมดาเข้าไป การ์ดจะได้ถูกยึดไปหมดสิ」

 

    ตราบใดที่มีเงิน คุณก็สามารถเป็นนักผจญภัยได้ ทว่าหลังเป็นแล้วกฏระเบียบข้อบังคับจะเข้มงวดมาก ตัวอย่างเช่นภายในเขาวงกตหากพาบุคคลอื่นใดนอกเหนือจากนักผจญภัยเข้าไป, หรือโจมตีใส่นักผจญภัยอื่น ใบอนุญาตจะถูกยึดทันทีและไม่สามารถออกให้ใหม่ได้อีกเป็นครั้งที่ 2 แถมในบางกรณีอาจจะต้องเจอบทลงโทษทางอาชญากรรมด้วย

    เพราะงั้น ต่อให้น้องสาวผู้น่ารักมาขอร้องยังไงก็รับปากไม่ได้หรอก

 

「อา หนูเองก็อยากจะเป็นนักผจญภัยเร็วๆจัง จะได้เอาไปอวดทุกคนในห้องได้บ้าง」

 

    ไอ้กระบวนการคิดแบบนี้….. สมแล้วที่เป็นน้องสาวของผม

    ที่แตกต่างกันคือ ไอได้อยู่ในชนชั้นท็อปไปแล้วด้วยหน้าตาและนิสัยของเธอ

    พี่ชายกับน้องสาว ทำไมมันถึงแตกต่างกันได้ขนาดนี้….. ถ้าเกิดสามารถคุยกับพันธุกรรมได้ อยากจะยิงคำถามใส่ซักชั่วโมง

 

「ก็ เอาเถอะ ตอนนี้พี่จ๋าเป็นแค่นักผจญภัย จริงๆแล้วหนูชอบพี่จ๋าที่ใจดีถึงแม้ว่าจะดูน่าเบื่อไปหน่อย แต่พักนี้พี่จ๋าดูเท่ก็ดีใจมากเลย!」

「ขอบใจเหลือเกินจ้ะ」

 

   ผมยิ้มแห้งให้กับการประเมินแบบไม่ปิดบังของน้องสาว

    เพราะว่าพ่อแม่ยุ่งอยู่กับการทำงาน ส่วนใหญ่จึงได้ผมมาเล่นเป็นเพื่อน ทั้งผมและไอจึงสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆในครอบครัว

    แต่พอไออายุมากขึ้นก็เริ่มสนใจในเสื้อผ้าและเครื่องประดับ จนน้องสาวที่อยู่ชั้นประถมมีเซนส์ด้านแฟชั่นมากกว่าตัวผมเสียอีก แล้วค่อยๆเริ่มมองตัวพี่ชายอย่างละเอียดมากขึ้น

 

    ตัวผมเอง「ไอถึงเวลาที่ออกจากอ้อมอกพี่แล้วสิน้า~」คิดและทำตัวสบายๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอในฐานะผู้หญิงจะแค่ผิดหวังในความเรียบเฉยของผม

    ผู้หญิงต่อให้ตัวเล็กก็ถือว่าเป็นผู้หญิง หมายความว่าแบบนั้นสินะ

    จากนั้น พอผมได้เป็นนักผจญภัย「กะไว้แล้วว่าพี่จ๋าสุดยอดจริงๆด้วย!」บอกมาว่างั้น

    ถึงแม้ว่าเป้าหมายดั้งเดิมที่จะเลื่อนขึ้นไปสู่ชนชั้นบนจะไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ แต่อย่างน้อยชนชั้นในครอบครัวดูจะพัฒนาดีขึ้นมานิดหน่อย

 

「โอ๊ะ ป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย ถึงเวลาต้องไปละ」

「พยายามเข้าน้า!」

 

    พอน้องสาวกล่าวส่ง ผมก็ออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบ

 

 

 

    ด้วยการที่มาสำรวจแล้วกว่า 1 สัปดาห์ การเดินทางผ่านเขาวงกตไปสู่ชั้นล่างสุดจึงผ่านมาได้อย่างราบรื่น

 

    แอปนักผจญภัยบนมือถือ จะมีแผนที่และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแผนที่มากตามที่ได้สำรวจไป

    เลือกเส้นทางสั้นที่สุดและหลีกเลี่ยงมอนสเตอร์เท่าที่จะทำได้ ในที่สุดพวกเราก็สามารถมาถึงบันไดที่จะพาไปสู่ชั้นล่างสุดโดยแทบจะไม่เหนื่อยเลย

 

「…..ประมาณ 5 ชั่วโมงงั้นรึ」

 

    ผมพึมพำพลางจ้องมองนาฬิกาข้อมือ ขณะที่เข้าไปใกล้บันไดสู่ชั้นล่างสุด

    ถึงแม้จะเป็นทางเดินที่ใช้ผ่านมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง กับเส้นทางที่ใช้เวลา 1 อาทิตย์กว่าจะสมบูรณ์ กลับใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมงนับว่าน่าทึ่งมาก

    นานสุด 3 วัน ถ้าหากราบรื่นจะใช้แค่วันเดียว นั่นก็คือเวลาที่ใช้สำหรับการพิชิตเขาวงกตแรงค์ F

    ตอนที่คลำทางในเขาวงกตเองอยู่ ไม่คิดว่ามันจะทำได้ยังไง แต่ว่าอย่างงี้นี่เอง หากรู้ข้อมูลแผนที่และศัตรูแล้ว การจะพิชิตเขาวงกตจะง่ายขึ้นขนาดนั้นเลย

 

    ท้ายที่สุด มันคงเป็นแค่การยึดติดแปลกๆ ที่อยากจะพิชิตเขาวงกตโดยใช้แค่กำลังของตัวเองล่ะมั้ง ถ้าหากซื้อข้อมูลมาจากกิลล์ซะตั้งแต่แรก….. ที่ผมทำไปมันก็แค่เสียเวลางั้นเหรอ?

    …..ไม่ นั่นไม่จริงหรอก การที่มาถึงจุดนี้ได้ด้วยกำลังของตัวเอง มันจะต้องเป็นประสบการณ์ที่จะกลับมาช่วยชีวิตในภายหลังแน่

    หลังจากผมพูดแบบนั้นกับตัวเองก็วางกระเป๋าลง หันกลับไปมองคูซี่กับซาชิกิวาราชิ

 

「โย้ช มาพักกันซักหน่อยก่อนลงไปชั้นล่างสุดกันเถอะ」

「ฮะ!」

「อา เหนื่อยจังเลย เอาขนมมาเร็วๆหน่อยสิ ขนมน่ะ」

「เธอเองไม่ได้ทำงานหนักอะไรขนาดนั้นเลยนะ…..」

 

    ขณะที่พูด ผมก็ยื่นขนมให้ซาชิกิวาราชิ

    เผื่อเอาไว้ แค่เผื่อเอาไว้จริงๆ แต่ระหว่างทางก็ไม่เห็นจะได้ทำอะไร

    ขนมของวันนี้คือ สตรอเบอรี่มูสแบบจำกัดที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อข้างบน

    มีขนาดใหญ่พอที่ผมสามารถกัดกินได้ถึง 2 คำ ราคาชิ้นล่ะ 500 เยน นับได้ว่าเป็นของหรูหราเล็กๆ

 

「มู ความกลมกลืนกันของรสหวานและรสเปรี้ยวนี่ สัมผัสที่ละลายภายในปาก….. อร่อยอะไรแบบนี้! เรียกเชฟมาซิ!」

 

    สงสัยจะได้รับอิทธิผลมาจากมังงะทำอาหารที่ให้ยืมไปเมื่อวันก่อน ซาชิกิวาราชิเริ่มพูดอะไรงี่เง่าออกมา

    ปล่อยยัยเด็กบ๊องนี่ไปก่อน ผมเองก็กัดมูสเข้าไปเต็มคำ มู นี่มันอร่อยจริงๆ ยากที่จะเชื่อได้ว่าเป็นของจากร้านสะดวกซื้อเลย

    …..แต่ว่า พอเริ่มชินแล้วการเป็นนักผจญภัยมันก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

    แน่นอนว่าการเดินทางเป็นชั่วโมงภายในเขาวงกตที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ขณะที่ต้องแบกสัมภาระหนักอึ้ง มันทำให้เหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ

    การ์ด 3 ใบที่ต้องใช้พึ่งพา เป็นพวกที่ไม่ฟังคำบอก, ขาดความยืดหยุ่น, และขี้ขลาดจนทำอะไรไม่ได้

    รายได้สูง ถึงในทีวีจะบอกว่ามีรายได้สูงก็ตาม แต่รายได้ที่ได้รับมาจนถึงตอนนี้ก็แค่ประมาณ 10,000 เยน ไม่คิดว่ามันจะคุ้มค่ากับที่ลงแรงไป

    ที่สำคัญคือไม่สามารถขึ้นไปชนชั้นบนของห้องเรียน เอาจริงๆเลยคือเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

    …..ทว่าในขณะเดียวกัน ความรู้สึกเติมเต็มที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนในชีวิตก็เป็นเรื่องจริง

    ไม่ได้เสี่ยงต่อชีวิตตามที่คิดเอาไว้แต่แรก, กูล่าค่อยๆต่อสู้ได้, คูซี่มีความน่ารักเหมือนสัตว์เลี้ยง, ซาชิกิวาราชิที่เป็นแค่เด็กเหลือขอแต่ได้มาเห็นยึดติดอยู่กับขนมแบบนี้ก็ดูน่ารักน่าชัง—-

 

「โอ่ย เจ้าเซ่อ นี่กินหมดแล้ว เอามาอีกอันหน่อยซิ เอามาอีก」

 

    —-ไม่ล่ะ ไม่ได้น่ารักเลยซักนิด มีแค่เหลือขออย่างเดียว

 

    สติผมกลับมาทันที ทำการลุกขึ้นพร้อมถอนหายใจ

 

「ไม่มีให้เติมหรอกนะ เอ้า เวลาพักหมดแล้ว ไปกันเถอะ」

「อะไรกัน ช่างน่าละอายเหลือเกิน คนจนก็เป็นซะแบบนี้」

「เดี๋ยวก็ฟาดให้」

 

    ขณะที่กำลังแหย่กันไปมาอย่างสนุกสนาน คูซี่ก็พูดอย่างเกรงใจขึ้นมา

 

「เอ่อ ผม…..คือ」

「อา เข้าใจแล้วล่ะ จากนี้ไปจะให้เปลี่ยนตัวกับกูล่า ขอบใจที่เหนื่อยนะ」

「อะ ฮะ ขอบพระคุณมากฮะ」

 

    ผมลูบหัวคูซี่ที่พูดขอบคุณด้วยความโล่งอกแล้วสลับตัวกับกูล่า

 

「กูล่า เตรียมตัวพร้อมไหม?」

「เยส, มาสเตอร์」

「โย้ช」

 

    ในที่สุด ชั้นสุดท้าย

    นักผจญภัยที่ไม่เคยพิชิตเขาวงกตซักแห่งนั้นไม่ใช่นักผจญภัยหรอก

    หลังจากจุดนี้ไป ในที่สุดก้าวแรกสู่การเป็นนักผจญภัยของผมก็จะเริ่มต้นขึ้น

    ผมก้าวขาออกด้วยความฮึกเหิมเต็มเปี่ยม

 

「…..!」

 

    ทันใดนั้นเอง ราวกับว่าบรรยากาศถูกเปลี่ยน ผมรู้สึกหนาวไปทั่วสันหลัง

    บรรยากาศรอบๆที่น่าจะเป็นป่าหน้าร้อนอยู่เมื่อครู่ จู่ๆก็กลายเป็นมืดและหนาว

    ไม่ใช่ว่าบรรยากาศในเขาวงกตเปลี่ยนไป แค่แสงอาทิตย์ถูกต้นไม้ในป่าที่ขึ้นหนาทึบขึ้นบดบัง นั่นคงทำให้มืดลงกว่าเดิมและอุณหภูมิเปลี่ยน

 

    …..แม้จะคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ ก็ยังรู้สึกถึงความไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

    อธิบายได้ว่าทำไมถึงมืด แต่ความเย็นยะเยือกที่มาเกาะตามตัวนี้มันคืออะไร? ทำไมต้นไม้ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อนถึงได้เกิดเปลี่ยนแปลง อีกอย่าง กลิ่นที่ราวกับท่อน้ำทิ้งที่โชยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วมันคืออะไรกัน…..?

    นี่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเขาวงกตที่อยู่มาจนถึงเมื่อกี้จริงๆเหรอ?

 

    บางที ควรจะถอยหลังกลับไปก่อน

    ไม่ใช่เพราะเหตุผล แต่เพราะสัญชาตญาณ ผมก้าวเท้าหันหลังกลับ—-แล้วดวงตาก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ

 

「บ-บันไดมัน…..!」

 

    บันไดที่พวกเราเพิ่งก้าวลงมา ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย…..

    ห-หมายความว่ายังไง? หรือว่านี่จะเป็นเพราะชั้นล่างสุด? ถ้าเข้ามาในชั้นล่างสุดแล้วจะออกไปไม่ได้จนกว่าจะจัดการจ้าวลงได้งั้นเหรอ? ไม่ ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อน ในทางกลับกัน ได้ยินมาแต่มีหลายคนที่ต้องถอยกลับเพราะไม่สามารถเอาชนะได้

    ถ้าเช่นนั้นแล้ว นี่ไม่ใช่ลักษณะทั่วไปของเขาวงกตทั้งหมด แต่เป็นปรากฏการณ์เฉพาะของเขาวงกตแห่งนี้

    อา บ้าเอ้ย กะแล้วควรจะต้องค้นคว้ามาก่อน! ถ้ารู้ว่าถอยหลังกลับไม่ได้ก็คงไม่มาที่เขาวงกตแห่งนี้หรอก

    ขณะที่ผมกำลังเสียใจที่พลาดอยู่นั้น ที่ไหล่ถูกจับเอาไว้แน่น เป็นมือเล็กๆ ของซาชิกิวาราชิล่ะ

 

「โอ่ย ตั้งสติเอาไว้! รู้สึกตัวแล้วใช่ไหม? นี่น่ะมันไม่ปกติ」

「อ-อา」

 

    ผมพยักหัวที่กำลังว้าวุ่น ไม่อยากจะเชื่อว่ายัยนี่จะพูดอะไรที่เป็นห่วงผม…..คงจะคิดอะไรผิดไป

 

「…..บ้าเอ้ย ไม่คิดเลยว่าบันไดจะหายไป ถ้ารู้มาก่อนคงไม่เลือกที่นี่ตั้งแต่แรกหรอก」

 

    ด้วยคำพูดของผม ซาชิกิวาราชิขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

 

「อ๋า? นี่พูดอะไรอยู่? ไม่มีทางที่จะรู้สึกตัวถึงจ้าวที่มีพลังมากพอจะแยกเดี่ยวชั้นออกมาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จริงๆเลย ตั้งสติเอาไว้ จะตายเอานะ」

 

    …..? อะไร? กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ยัยนี่?

    แย่ล่ะ หรือว่ายังสับสนอยู่? รู้สึกได้ว่าหัวของตัวเองยังทำงานได้ไม่ดี ใจเย็นไว้ ค่อยๆใช้ความคิด

    ก่อนอื่น ซาชิกิวาราชิบอกว่าอะไรนะ? อาใช่ พูดถึงจ้าว ไม่ใช่เขาวงกตสินะ? งั้นหมายความว่านี่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะจ้าว ไม่ใช่โครงสร้างของเขาวงกต

 

    แต่ว่าจ้าวของเขาวงกตตามปกติก็จะเป็นตัวเดิม ก็มีประเภทของเขาวงกตที่จ้าวจะถูกสุ่มเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ถูกกำจัดอยู่ แต่นั้นก็เป็นคุณลักษณะของเขาวงกต ไม่ใช่คุณลักษณะของจ้าว และที่นี่ก็ไม่ใช่เขาวงกตประเภทพิเศษนั้น

    ซาชิกิวาราชิบอกว่า「ไม่มีทางที่จะรู้สึกตัวถึงจ้าวที่มีพลังมากพอจะแยกเดี่ยวชั้นออกมาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว」 ถ้างั้น นี่ก็ไม่ใช้จ้าวของเขาวงกตธรรมดา—-

    ทันทีที่คิดขึ้นมาได้ ขนทุกเส้นบนร่างกายก็ลุกตั้งขึ้น

   

「…..ย-【ยมทูตโดดเดี่ยวพเนจร(Irregular Encounter)】เรอะ!」

 

    อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์(Irregular Encounter) นั่นคือสาเหตุการตายของนักผจญภัยอันดับหนึ่ง ถือว่าเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง

    ในเขาวงกตนั้น จะมีมอนสเตอร์เอกลักษณ์ที่ท่องไปทั่วเขาวงกตทุกแห่ง มีนิสัยในการกลืนกินจ้าวแห่งเขาวงกตเดิมและยึดครองเขางวงกต แล้วจึงรอให้เหยื่อเข้ามาอย่างใจเย็น

    ว่ากันว่า ไม่สามารถจะรู้ได้เลยจากภายนอก มีเพียงแค่ตอนที่ก้าวสู่ชั้นล่างสุดถึงจะรู้ตัว เป็นโชคร้ายอันคาดไม่ถึงที่สามารถเข้ามาหาคุณได้ทุกเวลา….. เพราะแบบนั้นจึงเป็นอุบัติเหตุ

 

    อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ไม่ใช่มอนสเตอร์ไร้เทียมทานแต่อย่างใด พลังต่อสู้ของพวกมันจะถูกจำกัดอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับเขาวงกตที่พวกมันไปปรากฏ และพวกมันก็เคยถูกจัดการลงแล้วหลายครั้งในอดีต มีค่าหัวตั้งไว้ให้พวกมัน เมื่อปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว จะไม่หายไปจนกว่าจะถูกกำจัด เพราะงั้นจึงมีนักล่าค่าหัวที่คอยมองหาอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์อยู่

 

    ทว่าสำหรับนักผจญภัยที่ไปพบเจอเข้าโดยบังเอิญ อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ถือได้ว่าเป็นยมทูตของจริง

    นั่นก็เพราะ ต่อให้พลังต่อสู้จะถูกจำกัดลง แต่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสกิล

 

    —-อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ทั้งหมดมีสกิลในระดับแรงค์ A

 

    ในระหว่างแองโกลมัวร์เองก็มีการปรากฏของอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์

    พวกมันทั้งหมด มาพร้อมกับโศกนาฏกรรมที่พูดได้แค่ว่า คือนรก…..

    ที่ฝรั่งเศสปรากฏ【เด็กหญิงไม้ขีดไฟ】ทำให้คนทั้งเมืองเสียชีวิตด้วยภาพหลอน

    ที่อินเดียปรากฏ【อุราชิมาทาโร่】ทำให้เด็กชายและเด็กหญิงบริสุทธิ์นับพันต้องกลายเป็นคนแก่ และผู้ใหญ่ทุกคนเสียชีวิตด้วยโรคชรา

    ที่ญี่ปุ่นเองก็มี【เจ้าชายกบ】ปรากฏ ใครก็ตามที่พบเห็นตัวมัน จะมีเข็มขัดเหล็กแตกกระจายออกมาจากภายในอก เสียชีวิตอย่างอนาจราวกับกบถูกผ่า

    โศกนาฏกรรมนับว่าเป็นของปกติในแองโกลมัวร์ ทว่าความหวาดกลัวและโศกนาฏกรรมที่เกิดจากอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์นั้นแตกต่างกันทั้งด้านปริมาณและความสาหัส

 

    และ

    ในตอนนี้ผม

    มาอยู่ในกรง, ที่วางดักไว้, โดยเจ้าสัตว์ประหลาดแบบนั้น

 

「…..!」

 

    ฟุ่บ สติพุ่งกลับมา

    อา…..อันตราย ตอนนี้ รู้สึกเหมือนจะหมดสติให้ได้ แต่ถ้ามาหมดสติไปตรงนี้ก็จบเห่

    …..! ช-ใช่แล้ว!

    ผมรีบนำใบอนุญาตนักผจญภัยออกมา

    มันไม่ได้เป็นแค่บัตรประจำตัว มันคืออุปกรณ์เวทมนตร์อย่างหนึ่ง ในเหตุการณ์ฉุกเฉิน ใบอนุญาตสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังกิลล์นักผจญภัยได้ แน่นอนว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาขี้เหนียว

    ผมพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ—-

 

「บ้าเอ้ย! ไม่ได้! ไปไม่ถึงเลย!」

 

    ขว้างใบอนุญาตลงไปกับพื้น

    โธ่เว้ย! ไม่ใช่แค่บันไดถูกลบหายไป พื้นที่ทั้งหมดยังถูกโดดเดี่ยวอีก…..!

    อา เชี่ย จะทำยังไงดี เอามือเกาหัว ถ้าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถขอความช่วยเหลือกับกิลล์ได้….. คิดอยู่แบบนั้นตอนที่ลงมาในเขาวงกต…..!

    รู้สึกเหมือนเส้นชีวิตเพียงหนึ่งเดียวถูกตัดออก

    ผมที่กำลังถูกต้อนจนมุม ซาชิกิวาราชิได้พูดตักเตือนมาอย่างใจเย็น

 

「โอ่ย ก่อนอื่นก็เรียกคูซี่ออกมาแทนที่กูล่าก่อน ในตอนนี้มันจะอุ่นใจกว่าถ้าสามารถค้นหาศัตรูได้」

「อ-อา นั่นสินะ」

 

    ผมใช้มือที่สั่นเทาหยิบการ์ดคูซี่ออกมา เรียกแทนที่กับกูล่า

    คูซี่ที่ปรากฏออกมา มองไปรอบๆอย่างลุกลี้ลุนลนแล้วพูดขึ้นมา

 

「น-นายท่าน น-นี่มันคือ?」

「…..อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ล่ะ ใช้จมูกนั่นค้นหาศัตรูเดี๋ยวนี้เลย」

「ฮ-ฮะ!」

 

    คูซี่เริ่มดมตามคำพูดแบบไม่อ้อมค้อมของผม—-แล้วดวงตาก็เบิกกว้าง

 

「ต-ตรงนั้น! มีกลิ่นนอกจากพวกเราอยู่ตรงนั้น!」

「อะไรนะ!?」

 

    ซาชิกิวาราชิยิงลูกบอลแสงเข้าใส่ทันที

 

「…..หนู?」

 

    ที่ตรงนั้นมีหนูอยู่ 1 ตัว ขนาดใหญ่มาก ประมาณพอๆกับแพรรีด็อก ทว่าใบหน้าเป็นของหนูสีน้ำตาลน่าเกลียด ไม่มีร่องรอยของความน่ารักใดๆอยู่

 

「…..นี่มันอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ ไม่ใช่ สินะ?」

「ใช่ที่ไหนกัน ให้เดาก็คงจะเป็นลูกน้อง แย่แล้วล่ะ กับมอนสเตอร์แบบนี้สามารถเรียกออกมาได้ไม่จำกัด ต่อให้กำจัดไปมากแค่ไหนก็ไม่จบไม่สิ้น」

 

    ซาชิกิวาราชิชี้ไปที่หนูแล้วพูด ร่างมันถูกทะลวงด้วยกระสุนแสง ที่เผยให้เห็นมันคือเครื่องในที่น่าจะเน่าแล้ว? กลิ่นมันแรงเกินที่จะทนไหว

    หรือว่า นี่จะเป็นต้นตอของกลิ่นในป่า? ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วมันจะมีมากขนาดไหนในป่ากัน…..

 

「อุ ง-งั้นตอนนี้เคลื่อนที่กันก่อน ถ้าไม่จัดการก็ยังไม่สามารถกลับได้ นะ…..」

「………………..」

 

    ซาชิกิวาราชิไม่ตอบกลับต่อคำพูดที่สั่นไปหมดของผม

 

 

 

    ผ่านไปซักพัก ด้วยการนำของคูซี่ เดินไปในเขาวงกต

    บางครั้งบางคราวจะมีหนูโผล่มาแล้วถูกฆ่าทิ้งโดยซาชิกิวาราชิ ในตอนนี้ เธอร่วมมือโดยต้องมีอะไรตอบแทน เป็นอะไรที่พึ่งพาได้จากก้นบึ้งของหัวใจเลย

 

「น-นายท่าน….. กลิ่น, เลือด」

「เอ๋?」

 

    -ตึกตัก- หัวใจเต้นผิดจังหวะ

 

「จากตรงไหน?」

「ต-ตรงนั้นฮะ」

 

    พอคูซี่บอกก็ชี้ไปทางป่าต้นไม้ที่เป็นกำแพงของเขาวงกต ค่อยๆเข้าไปใกล้อย่างกล้าๆกลัวๆ

 

「…..อู」

 

    เอามือป้องปากแล้วร้องคราง

    ที่ตรงนั้นมีศพของเด็กที่ถูกแยกส่วน เป็นเด็กผิวขาว ผมบลอนด์ อายุประมาณ 10 ขวบ ใบหน้าอ่อนวัยเต็มไปด้วยกระ บิดเบี้ยวไปด้วยความกลัวและความเจ็บปวด

    กลิ่นเหล็กจากเลือดและกลิ่นสาบที่ไม่สามารถอธิบายได้ลอยจากเครื่องในลอยมาเข้าจมูก

    ก่อนอื่น บางทีนี่คงไม่ใช่ของจริง แต่เป็นอะไรที่มีรสนิยมแย่มาก

    ผมสูดหายใจลึกๆให้กับภาพที่น่าหดหู่

 

「…..นี่มันศพของจริง」

 

    ซาชิกิวาราชิขมวดคิ้วพูดมา

 

「…..เอ๋?」

「ไม่ผิดแน่ ชั้นรู้ดี แล้วยัง….. นี่มันอะไรกัน เด็กคนนี้…..วิญญาณยังถูกกักขังอยู่ที่นี่」

「………………..」

 

    ผมไตร่ตรองคำพูดของซาชิกิวาราชิ

 

「ม-ไม่สิ แบบนั้นมันแปลกไปแล้ว จากกฏหมายที่ปรับปรุงขึ้น เด็กแบบนี้ไม่มีทางถูกอนุญาตให้เข้าเขาวงกตได้หรอก ต่อให้หลงทางเข้ามา ก็ต้องเป็นข่าวแล้วรู้ได้ทันที อีกอย่าง ที่นี่คือญี่ปุ่น เด็กคนนี้เป็นชาวต่างชาติไม่ใช่เหรอ นี่น่ะมันของเลียนแบบโดยเขาวงกต เอาไว้ใช้หลอกให้นักผจญภัยกลัวต่างหากล่ะ」

 

    กับผมที่ร่ายยาวออกมา ซาชิกิวาราชิก็ก้มหน้าลงด้วยสีหน้าหม่นหมอง

 

「…..แองโกลมัวร์ไงล่ะ」

「เอ๋?」

「ก็บอกว่าเพราะแองโกลมัวร์ไง พวกนายเรียกมันว่างั้นใช่ไหม? นี่น่ะเป็นเหยื่อของเมื่อตอนนั้น ถูกเอากลับมาราวกับเป็นถ้วยรางวัล」

「แองโกลมัวร์มัน…..คิดว่าครั้งล่าสุดมันผ่านมาแล้วตั้งกี่ปีกัน」

 

    กับผมที่พูดเช่นนั้น ซาชิกิวาราชิก็ใช้นิ้วชี้ขึ้นไปยังดวงอาทิตย์ที่ลอยค้างอยู่ด้านบน

 

「เวลาในเขาวงกตจะไม่เดิน」

 

    พูดมาสั้นๆ

 

「อุ อะ…..」

 

    แย่แล้ว ตามัน….. โลกหมุนติ้ว ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว ผม ตอนนี้ อยู่ที่ไหน? ป่า? ทำไมอยู่ในป่า? อา งั้นเหรอ เดาว่าคงเพราะเป็นนักผจญภัย เอ แล้วนี่มันอะไร?

    อาใช่ ศพล่ะ มนุษย์จริงๆจากประเทศไหนซักแห่ง

    ดวงตา ประสานกัน เด็กผู้ชายกำลังจะพูด—-ไม่อยากที่จะตาย

 

「….อุ ห-แหวะะะะะะะ!」

 

    อ้วก

    2 ครั้ง, 3 ครั้ง ของทุกอย่างที่กินไปไหลย้อนออกมาจนหมด กระเพาะราวกับถูกบิดไปมา

    กลิ่นแปลกๆของอ้วกและกลิ่นจากศพผสมปนเปยิ่งทำให้รู้สึกคลื่นไส้มากขึ้น ผมอ้วกออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าขณะน้ำตาไหลอาบใบหน้า จนรู้สึกเหมือนตัวกระเพาะจะไหลออกมาเอง

    คูซี่คอยลูบหลังผมด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

    …..ผ่านไปซักพักอาการคลื่นไส้เริ่มเบาบาง ซาชิกิวาราชิยื่นขวดน้ำพลาสติกมาให้

 

「ดื่มซะสิ ชั้นเลี้ยงเอง」

「……….ก็ผม ซื้อมาเองนี่นะ」

 

    พอผมรับขวดน้ำมาด้วยเสียงแหบแห้ง ซาชิกิวาราชิก็ยิ้มให้อย่างไม่เกรงกลัว

 

「โอ้ รู้สึกดีขึ้นแล้วสิเนี่ย นี่แหละถึงจะสมเป็นมาสเตอร์ของชั้น」

 

    อวดดีซะจริงเชียว …..เอ๋? เมื่อกี้ยัยนี่เรียกผมว่าอะไรนะ…..?

 

「เอาล่ะ จากนี้ไปจะทำยังไง? ถ้ายังไงคราวนี้ปล่อยให้ชั้นคนนี้จัดการเองเลยดีไหม?」

「อ๋า? อ-อะไรนะ วันนี้, ทำไมพูด…..」

 

    สับสนกับคำพูดที่คาดไม่ถึงกับท่าทางให้ความร่วมมือมากกว่าปกติของซาชิกิวาราชิ

    และราวกับว่าจะไม่ได้สนใจผม เธอยิ้มออกมาอย่างเริงร่า

    นั่นเป็นรอยยิ้มที่ดูเข้ากับอายุของเธอ แตกต่างไปจากรอยยิ้มมีเลสนัยตามปกติ—-

 

「แทนที่มาสเตอร์ที่กลัวจนหัวหด เดี๋ยวจะรับมือศัตรูตัวเป้งคนเดียวให้เอง ถ้าแบบนี้ไม่มีทางนี่จะอดรางวัลแน่นอน ใช้ม้า!」

 

    นั่น เป็นการบังคับให้รู้สึกตัว

    ยัยนี่…..อา บ้าเอ้ย! หมายถึงอย่างนั้นเองเรอะ อะไรกันเล่า!

    กับผม พยายามที่จะให้กำลังใจ เป็นแค่ซาชิกิวาราชิเหลือขอคนนั้น! กับผม…..!

    ที่หน้าอกรู้สึกร้อนขึ้น สายตาเองก็รู้สึกชื้นๆ ผมรีบก้มหน้าหลบอย่างรวดเร็ว

    ใบหน้าที่ร้องไห้อยู่ จะให้เห็นได้ยังไง…..!

    ผมแกล้งทำเป็นเอาแขนปาดหน้าเพื่อเช็ดน้ำตา พยายามลุกขึ้นด้วยขาที่ยังคงสั่นอยู่

 

「…..ถ้าทำแบบนั้นแล้วมันต้องซื้อขนมให้มากขนาดไหนกัน ที่เมืองนี้ไม่ได้มีขนมมากขนาดนั้นหรอกนะ」

「เห๋ แล้วจะเอายังไงล่ะ?」

「ผมเองก็จะไปด้วย แบบนั้นแล้วก็จะได้เหมือนอย่างที่เคยไงล่ะ」

「แบบนั้นก็แย่เลย อุตส่าห์เป็นโอกาศที่จะทำให้มาสเตอร์ที่เกลียดนักหนาต้องล้มละลายเชียว」

「ทำให้ผมล้มละลายไม่ได้หรอก นั่นเพราะ…..」

「นั่นเพราะ?」

 

    เธอรอคำพูดต่อไปด้วยความชอบใจ แล้วผมก็ยื่นอกออกมาด้วยความภูมิใจ

 

「เพราะว่าพวกเรามีซาชิกิวาราชิอยู่ยังไงล่ะ」

 

 

 

 

 

 

【Tips】อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์(Irregular Encounter)

    มอนสเตอร์พิเศษที่ปรากฏขึ้นในเขาวงกตใดก็ได้เพียง 1 แห่งในช่วงเวลาหนึ่ง ลักษณะนิสัยของมันคือการกลืนกินจ้าว, ออกล่านักผจญภัยที่มาโดยไม่รู้ตัว พลังต่อสู้จะถูกปรับให้สมส่วนกับเขาวงกตแต่สกิลจะไม่ถูกบั่นทอน ปรากฏตัวขึ้นแบบสุ่มโดยไม่สนใจในแรงค์ของเขาวงกต หากเมื่อคุณก้าวเท้าลงสู่ชั้นล่างสุดแล้ว จะไม่สามารถกลับไปแบบมีชีวิตได้จนกว่าอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์จะถูกจัดการ เป็นที่เกรงกลัวต่อเหล่านักผจญภัย

    เขาวงกตเองก็เหมือนกับการ์ด ยิ่งแรงค์สูงก็ยิ่งมีน้อยลง นั่นทำให้อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์มักจะปรากฏในเขาวงกตแรงค์ต่ำ ผลลัพธ์ของมันเกิดเป็นเหล่าหน้าใหม่ตกเป็นเหยื่อให้กับอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์จำนวนมาก ทำให้เป็นที่รู้จักในชื่อมือสังหารเด็กใหม่

    ยิ่งกว่านั้น ยังไม่มีรายงานว่าสามารถแปลงอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ให้เป็นการ์ดได้สำเร็จ

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

แพรรีด็อก : https://en.wikipedia.org/wiki/Prairie_dog ; สัตว์ฟันแทะวงศ์เดียวกับกระรอก

 

เจ้าชายกบ ฉบับพี่น้องกริมม์ : https://th.wikisource.org/wiki/งานแปล:เจ้าชายกบ 

–ท้ายรถมีราชวัลลภเฮนรี บริพารของเจ้าชายหนุ่ม ยืนอยู่ คราวที่เจ้าชายผู้เป็นนายกลับกลายร่างเป็นกบนั้น ราชวัลลภเฮนรีโศกาจาบัลย์เป็นที่ยิ่ง จนกริ่งเกรงว่า อกจะแตกตายเพราะความวิปโยคโศกตรม จึงตรึงโลหะสามแผ่นไว้กับราวนมตลอดมา–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด