เอาชีวิตรอดบนเกาะร้างในต่างโลก 16 – ไอศกรีมแห่งผืนป่า

Now you are reading เอาชีวิตรอดบนเกาะร้างในต่างโลก Chapter 16 - ไอศกรีมแห่งผืนป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทะเลเป็นสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง

นอกจากสาหร่ายฮิบามาตะซึ่งเหมาะสำหรับทำสบู่แล้ว ยังมีสาหร่ายวากาเมะที่ขึ้นอยู่รอบๆด้วย

ที่นี่มีแม้กระทั่งกรีนคาเวียร์ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสาหร่ายพวงองุ่น

แน่นอนว่ายังมีปลาที่กินได้ว่ายอยู่รอบๆ

(แถวนี้มีของที่จำเป็นต่อการอยู่รอดมากมาย)

ผมหวนนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ดีเกินควรของเกาะนี้

ถ้าในเกมมีโหมดโกง เกาะนี้ก็เหมือนเป็นหนึ่งในโหมดนั้น

นี่เกือบจะรู้สึกเหมือนเวลาเริ่มเกมใหม่แล้วเปิดโหมดโกง เกาะนี้มันช่างโกงอะไรอย่างนี้

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมแน่ใจว่านี่คือต่างโลก

ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทั่วญี่ปุ่น หรือแม้แต่ทั่วโลก ก็ไม่มีทางเจอเกาะแบบนี้

ถ้าใช่คงมีการทะเลาะแย่งดินแดนกันแล้ว

「 –ตามที่นายว่ามาทั้งหมด… 」

ผมรายงานสถานการณ์หลังขึ้นจากน้ำ

เกาะนี้มีสภาพแวดล้อมที่ดีมากซึ่งมีโอกาสสูงที่มันจะเป็นโลกคู่ขนาน

「เราควรดีใจกับมัน? 」

「ฉันแค่ดีใจ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับมานะและทุกคน」

「ใช่」

มานะและสาวๆ อยากกลับไปญี่ปุ่น

พวกเธอต้องการกลับไปโลกเดิมเป็นที่สุด

การค้นพบใดๆที่สนับสนุนว่านี่คือโลกคู่ขนานจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยส่งผลดีนัก

「แต่สำหรับตอนนี้เรามาฉลองกันก่อนดีกว่า」

「เอาจริงดิ? 」

「ที่ฉันหมายถึงคือถ้าเราอยู่บนโลก เราจะต้องเอาชีวิตรอดจนกว่าเราจะสามารถกลับไปญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะอยู่ในโลกคู่ขนาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลับไปญี่ปุ่นไม่ได้ ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น สิ่งที่ตรงกันข้ามควรจะเป็นความจริง ถ้าคิดแบบนั้น การใช้ชีวิตสบายๆอยู่ที่นี่ก็คงเป็นเรื่องที่ดี」

「ฉันเข้าใจแล้ว! ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น เราก็สามารถกลับไปจากที่นี่ได้」

「ยังมีข้อดีอื่นๆอีก แต่ฉันไม่ยังต้องการพูดมากไปกว่านี้」

「โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ขอโทษและขอบคุณนะ」

เรากลับไปที่ถ้ำทันทีที่การสนทนาของเราจบลง

ถ้วยที่ผมถืออยู่มีสาหร่ายและน้ำทะเล

ในขณะเดียวกัน มานะกำลังถือเปลือกหอยอยู่ในถ้วยของเธอ

ดูเหมือนว่าริต้า ลิงจอมกวนตีนจะทำงานหนักใช่ย่อย

「ขอบคุณนะริต้า แล้วเจอกันใหม่นะ」

「อุกิกิกิ!! 」

ริต้ากอดมานะและฝังใบหน้าบนหน้าอกของเธอ

มันยิ้มให้ผมแล้วปีนต้นไม้ออกไป

ทักษะของพี่น้องอาซากุระนั้นเหนือกว่าที่ผมคาดไว้

「วันเดียวพวกเธอสองคนทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ฉันขอโทษนะ」

「เราใช้อุปกรณ์ที่เรามีในกระเป๋าของเรา ดังนั้นคุณภาพของมันจึงออกมาคุณภาพดี」

「อย่าถ่อมตัวเลยนะ นี่มันยอดเยี่ยมมาก」

พวกเธอจัดเครื่องนอนของทุกคนเสร็จในตอนพลบค่ำ

นอกจากนี้ยังเป็นทั้งฟูกและผ้าปูที่นอน

มันเป็นฟูกญี่ปุ่นคุณภาพสูงที่คุณไม่มีทางจะเจอได้ ณ ที่แห่งนี้

มันดูเป็นแผ่นแข็งๆมากกว่าฟูก แต่ก็ดีเพียงพอ

「หินนั่นก็ดีนะ แต่มันแข็งจนปวดไปหมด」

มานะลองใช้งานฟูกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ และเธอก็อมยิ้มออกมา

พี่น้องอาซากุระยิ้มเมื่อมองดูมานะ

「ฉันเข้าใจล่ะ มันเป็นผ้าปูที่นอนจากฟาง นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนะ」

「ฉันคิดมันขึ้นมาเอง เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร」

เราลองชุดเครื่องนอนที่พี่น้องอาซากุระทำแลวางอาหารเย็นไว้ข้างๆ

หลังจากสนุกกันพอสมควรแล้ว เราก็เริ่มทานอาหารเย็นกันต่อ

「ไม่ใช่แค่เมย์โกะนะที่ทำงานหนัก」

อาริสะพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ

วันนี้เธอสามารถตกปลาได้สิบตัว

เธอออกไปตกปลาทันทีหลังอาหารกลางวัน หมายความว่า ตั้งแต่เช้าเป็นเวลาประมาณเจ็ดชั่วโมง เธอตกปลาจนเริ่มชำนาญแล้ว

「อาริสะทำดีมาก ทุกคนก็เหมือนกัน」

เอริเองก็เก็บของกินมาเต็มกระเป๋า

ส่วนใหญ่เป็นเห็ด แต่เธอยังเจอผลไม้และพืชป่าอื่นๆ ที่กินได้อีกมากมาย

ปริมาณอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือน้อยหน่าออสเตรเลีย(เชอโมริย่า ไม่ต่างต่างจากน้อยหน่าไทยมาก เพียงแต่เป็นชื่อสายพันธุ์ของมัน จากนี้จะขอเรียกย่อๆว่าน้อยหน้า)

「นี่กินได้ไหม? ฉันเพิ่งเก็บมันมา」

「ไม่ใช่แค่กินได้ แถมมันยังอร่อยอีกด้วย เพียงแต่มันไม่ค่อยนิยมในญี่ปุ่น」

「เฮ้ ดูสิ มาฉลองกันเถอะ เอริประสบความสำเร็จบางอย่าง! 」

คารินกับผมตื่นเต้นมากที่ได้เห็นน้อยหน่า

ดูเหมือนว่าเอริจะเก็บเกี่ยวมาไม่มาก

น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีรูปทรงคล้ายแอปเปิ้ล

นั่นคือจุดที่ความคล้ายคลึงเดียวที่มี เนื่องจากเนื้อในของมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

มีลักษณะเป็นใบเป็นชั้นๆ

เนื้อของมันมีสีขาวและรสที่เข้มข้น จุดเด่นของมันคือความหวานและความเปรี้ยวที่รุนแรง

ฉายาของมันคือไอศกรีมแห่งผืนป่า

「น้อยหน่าส่วนใหญ่ที่อยู่รอบยังไม่สุกดี แต่ดูเหมือนลูกเอริเก็บมานั้นสุกได้ที่พร้อมทานแล้ว」

「จริงเหรอ? ถ้าโฮคาเงะคุงตื่นเต้นกับมันขนาดนี้ ฉันเดาว่าผลไม้นี้คงอร่อยมาก」

「ฉันคิดว่าเรากินมันนี้ได้แล้ว แต่เรามีแค่สี่ลูกเท่านั้น เรามาผ่าครึ่งกันเถอะ」

ผมตัดแบ่งน้อยหน่าด้วยมีดหินที่ผมสร้างขึ้นเมื่อวานนี้

มันโดนลับคมมาอย่างดีจนไม่ทำให้ส่วนที่โดนผ่าเสียรสชาติ

ผมหั่นน้อยหน่าในมีดเดียว

「ใครจะรู้ว่าที่นี่มีอะไรอีกบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ากินมันนะ」

เราล้างมันอย่างระมัดระวัง แต่ถึงแบบนั้นอันตรายจากอาหารเป็นพิษก็ไม่สามารถละเลยได้

ท้ายที่สุดแล้ว คนญี่ปุ่นมีร่างกายที่บอบบางกว่าคนชาติอื่นๆ

เมื่อพูดอย่างนั้น ผมหยิบช้อนหินที่ผมทำไว้เมื่อวานนี้

กลิ่นหอมหวานที่ลอยอยู่ในอากาศและเนื้อสีขาวของมันบ่งบอกว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ

พอได้กินจริงๆแล้วนั้น…

「นี่มันอร่อยสุดๆไปเลย」

อร่อยมากจนผมเผลอพูดออกไป

「จริงเหรอเนี่ย?! นี่มันผลไม้อะไรกัน! มันอร่อยสุดๆไปเลย!! 」

อาริสะบอกมันว่าแซ่บแค่ไหน

มานะและคารินและพี่น้องอาซากุระก็มีรอยยิ้มมาตามๆกัน

「ฉันแปลกใจจริงๆที่ผลไม้หน้าตาประหลาดแบบนี้จะอร่อยขนาดนี้」

เอริที่เป็นคนเก็บมันมาด้วยตัวเองก็มีความสุข

จากนั้นเราก็ทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข

การทำอาหารหรือผมควรจะพูดว่าการย่างคืองานของสาวๆ

ส่วนผมนั้นกำลังเตรียมถนอมอาหาร

เริ่มจากรมควันปลา ทำให้เรามีอาหารที่เราสามารถเก็บไว้ได้

เราแบ่งปลาถนอมได้ง่ายเพราะอาริสะตกปลาได้เยอะ

ผมเตรียมเครื่องปั้นดินเผาไว้สามขนาด

อันใหญ่คือเหยือกน้ำ นี่คือที่ที่เราใส่น้ำในแม่น้ำ

ขนาดกลางสำหรับผลไม้และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร

ขนาดเล็กสำหรับสกัดน้ำทะเล

「วัตถุดิบต่างๆของเราเริ่มมีมากขึ้น นี่เป็นเรื่องที่ดี」

เรามองไปรอบๆถ้ำหลังอาหารเย็น

ถ้ำที่ไม่มีอะไรในตอนแรกตอนนี้กำลังมีของเต็มไปหมดอยู่

ทางเข้ามีเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผา ส่วนด้านในก็มีฟูก

เรากำลังเริ่มกักตุนไม้และหิน มันทำให้รู้สึกว่าเรากำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ

「อีกไม่นานเราอาจจะสร้างบ้านได้」

「「「「「 บ้าน? 」 」 」 」 」 」

สาวๆตกใจกับคำพูดของผม

「ว่ากันด้วยความเป็นไปได้ที่จะมีคนอื่นอีกที่มาอยู่กับเราเพิ่มที่นี่จะแคบเกินไป ฉันต้องการบ้านถ้าเป็นกรณีนี้」

「ได้สิ แต่โฮคาเงะสร้างบ้านได้ไหม? 」มานะถาม

「เพียงแค่หลุมไว้อยู่อาศัยธรรมดา มันเป็นสิ่งที่คนยุคโจมงสร้างขึ้น ฉันคิดว่าฉันสามารถทำได้นะ」

「ว้าว โฮคาเงะ นายทำอะไรก็ได้จริงๆเป็นนักเอาชีวิตรอดตามที่ฉันคาดไว้จริงๆ」

「โฮกาเกะเยี่ยมสุดๆ! ฉันดีใจที่เลือกอยู่กับโฮคาเงะไม่ใช่เรย์โตะ」

「อ่าฮะ ฉันก็คิดเหมือนกัน」อาริสะและเอริหัวเราะ

「ดี การสร้างบ้านต้องใช้เวลาอีกมาก เรายังไม่ได้ทำอ่างอาบน้ำด้วยซ้ำ สำหรับตอนนี้เราแค่ต้องเพิ่มอาหารที่เก็บรักษาไว้ เราไม่รู้ว่าโลกนี้มีสี่ฤดูหรือไม่

แต่ถ้ามี เราก็จะต้องตุนอาหารไว้ให้เพียงพอกับอีกหลายเดือน」

หากว่าที่นี่มีสี่ฤดู ฤดูหนาวคงหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด

ความหนาวเย็นทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลดลง และอัตราการรอดชีวิตเองก็จะลดลง

ด้วยปริมาณอาหารที่มีจะเป็นปัญหา

เราจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อที่เราจะรอดไม่ว่าขะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

「พรุ่งนี้พวกเราคงจะยุ่งมาก งั้นไปนอนกันเถอะ」

ด้วยเหตุนี้ วันที่สามของการเอาชีวิตรอดในต่างโลกของเราจึงจบลงอย่างสวยงาม

จากนั้นวันที่สี่จะเปิดเริ่มต้นพร้อมกับอากาศที่สดใส…หรือฉันหวังไว้อย่างนั้น

ซ่าาาา!!! ซ่าาาา!!!

 

โครมโครมโคร่มโคร่ม!!

 

ซ่าาาา! ซ่าาาา!!

 

ผมตื่นขึ้นยามดึกเพราะเสียงดัง

ผมขยี้ตาและมองไปรอบๆ ถ้ำ

ในที่สุดเมื่อเข้าใจสถานการณ์ผมก็ตะโกน

「ลุกขึ้นทุกคน!ท่าไม่ดีแล้ว! เราเจอพายุ!! 」

ดูเหมือนว่าพายุจะสาดเข้ามาในถ้ำ

————————

ปล.แปลแล้วยังต้องหาข้อมูลด้วยนะเรื่องนี้

ติดตามผู้แปลได้ที่ แปลด้วยพลังใบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เอาชีวิตรอดบนเกาะร้างในต่างโลก 16 – ไอศกรีมแห่งผืนป่า

Now you are reading เอาชีวิตรอดบนเกาะร้างในต่างโลก Chapter 16 - ไอศกรีมแห่งผืนป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทะเลเป็นสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง

นอกจากสาหร่ายฮิบามาตะซึ่งเหมาะสำหรับทำสบู่แล้ว ยังมีสาหร่ายวากาเมะที่ขึ้นอยู่รอบๆด้วย

ที่นี่มีแม้กระทั่งกรีนคาเวียร์ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสาหร่ายพวงองุ่น

แน่นอนว่ายังมีปลาที่กินได้ว่ายอยู่รอบๆ

(แถวนี้มีของที่จำเป็นต่อการอยู่รอดมากมาย)

ผมหวนนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ดีเกินควรของเกาะนี้

ถ้าในเกมมีโหมดโกง เกาะนี้ก็เหมือนเป็นหนึ่งในโหมดนั้น

นี่เกือบจะรู้สึกเหมือนเวลาเริ่มเกมใหม่แล้วเปิดโหมดโกง เกาะนี้มันช่างโกงอะไรอย่างนี้

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมแน่ใจว่านี่คือต่างโลก

ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทั่วญี่ปุ่น หรือแม้แต่ทั่วโลก ก็ไม่มีทางเจอเกาะแบบนี้

ถ้าใช่คงมีการทะเลาะแย่งดินแดนกันแล้ว

「 –ตามที่นายว่ามาทั้งหมด… 」

ผมรายงานสถานการณ์หลังขึ้นจากน้ำ

เกาะนี้มีสภาพแวดล้อมที่ดีมากซึ่งมีโอกาสสูงที่มันจะเป็นโลกคู่ขนาน

「เราควรดีใจกับมัน? 」

「ฉันแค่ดีใจ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับมานะและทุกคน」

「ใช่」

มานะและสาวๆ อยากกลับไปญี่ปุ่น

พวกเธอต้องการกลับไปโลกเดิมเป็นที่สุด

การค้นพบใดๆที่สนับสนุนว่านี่คือโลกคู่ขนานจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยส่งผลดีนัก

「แต่สำหรับตอนนี้เรามาฉลองกันก่อนดีกว่า」

「เอาจริงดิ? 」

「ที่ฉันหมายถึงคือถ้าเราอยู่บนโลก เราจะต้องเอาชีวิตรอดจนกว่าเราจะสามารถกลับไปญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะอยู่ในโลกคู่ขนาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลับไปญี่ปุ่นไม่ได้ ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น สิ่งที่ตรงกันข้ามควรจะเป็นความจริง ถ้าคิดแบบนั้น การใช้ชีวิตสบายๆอยู่ที่นี่ก็คงเป็นเรื่องที่ดี」

「ฉันเข้าใจแล้ว! ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น เราก็สามารถกลับไปจากที่นี่ได้」

「ยังมีข้อดีอื่นๆอีก แต่ฉันไม่ยังต้องการพูดมากไปกว่านี้」

「โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ขอโทษและขอบคุณนะ」

เรากลับไปที่ถ้ำทันทีที่การสนทนาของเราจบลง

ถ้วยที่ผมถืออยู่มีสาหร่ายและน้ำทะเล

ในขณะเดียวกัน มานะกำลังถือเปลือกหอยอยู่ในถ้วยของเธอ

ดูเหมือนว่าริต้า ลิงจอมกวนตีนจะทำงานหนักใช่ย่อย

「ขอบคุณนะริต้า แล้วเจอกันใหม่นะ」

「อุกิกิกิ!! 」

ริต้ากอดมานะและฝังใบหน้าบนหน้าอกของเธอ

มันยิ้มให้ผมแล้วปีนต้นไม้ออกไป

ทักษะของพี่น้องอาซากุระนั้นเหนือกว่าที่ผมคาดไว้

「วันเดียวพวกเธอสองคนทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ฉันขอโทษนะ」

「เราใช้อุปกรณ์ที่เรามีในกระเป๋าของเรา ดังนั้นคุณภาพของมันจึงออกมาคุณภาพดี」

「อย่าถ่อมตัวเลยนะ นี่มันยอดเยี่ยมมาก」

พวกเธอจัดเครื่องนอนของทุกคนเสร็จในตอนพลบค่ำ

นอกจากนี้ยังเป็นทั้งฟูกและผ้าปูที่นอน

มันเป็นฟูกญี่ปุ่นคุณภาพสูงที่คุณไม่มีทางจะเจอได้ ณ ที่แห่งนี้

มันดูเป็นแผ่นแข็งๆมากกว่าฟูก แต่ก็ดีเพียงพอ

「หินนั่นก็ดีนะ แต่มันแข็งจนปวดไปหมด」

มานะลองใช้งานฟูกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ และเธอก็อมยิ้มออกมา

พี่น้องอาซากุระยิ้มเมื่อมองดูมานะ

「ฉันเข้าใจล่ะ มันเป็นผ้าปูที่นอนจากฟาง นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนะ」

「ฉันคิดมันขึ้นมาเอง เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร」

เราลองชุดเครื่องนอนที่พี่น้องอาซากุระทำแลวางอาหารเย็นไว้ข้างๆ

หลังจากสนุกกันพอสมควรแล้ว เราก็เริ่มทานอาหารเย็นกันต่อ

「ไม่ใช่แค่เมย์โกะนะที่ทำงานหนัก」

อาริสะพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ

วันนี้เธอสามารถตกปลาได้สิบตัว

เธอออกไปตกปลาทันทีหลังอาหารกลางวัน หมายความว่า ตั้งแต่เช้าเป็นเวลาประมาณเจ็ดชั่วโมง เธอตกปลาจนเริ่มชำนาญแล้ว

「อาริสะทำดีมาก ทุกคนก็เหมือนกัน」

เอริเองก็เก็บของกินมาเต็มกระเป๋า

ส่วนใหญ่เป็นเห็ด แต่เธอยังเจอผลไม้และพืชป่าอื่นๆ ที่กินได้อีกมากมาย

ปริมาณอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือน้อยหน่าออสเตรเลีย(เชอโมริย่า ไม่ต่างต่างจากน้อยหน่าไทยมาก เพียงแต่เป็นชื่อสายพันธุ์ของมัน จากนี้จะขอเรียกย่อๆว่าน้อยหน้า)

「นี่กินได้ไหม? ฉันเพิ่งเก็บมันมา」

「ไม่ใช่แค่กินได้ แถมมันยังอร่อยอีกด้วย เพียงแต่มันไม่ค่อยนิยมในญี่ปุ่น」

「เฮ้ ดูสิ มาฉลองกันเถอะ เอริประสบความสำเร็จบางอย่าง! 」

คารินกับผมตื่นเต้นมากที่ได้เห็นน้อยหน่า

ดูเหมือนว่าเอริจะเก็บเกี่ยวมาไม่มาก

น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีรูปทรงคล้ายแอปเปิ้ล

นั่นคือจุดที่ความคล้ายคลึงเดียวที่มี เนื่องจากเนื้อในของมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

มีลักษณะเป็นใบเป็นชั้นๆ

เนื้อของมันมีสีขาวและรสที่เข้มข้น จุดเด่นของมันคือความหวานและความเปรี้ยวที่รุนแรง

ฉายาของมันคือไอศกรีมแห่งผืนป่า

「น้อยหน่าส่วนใหญ่ที่อยู่รอบยังไม่สุกดี แต่ดูเหมือนลูกเอริเก็บมานั้นสุกได้ที่พร้อมทานแล้ว」

「จริงเหรอ? ถ้าโฮคาเงะคุงตื่นเต้นกับมันขนาดนี้ ฉันเดาว่าผลไม้นี้คงอร่อยมาก」

「ฉันคิดว่าเรากินมันนี้ได้แล้ว แต่เรามีแค่สี่ลูกเท่านั้น เรามาผ่าครึ่งกันเถอะ」

ผมตัดแบ่งน้อยหน่าด้วยมีดหินที่ผมสร้างขึ้นเมื่อวานนี้

มันโดนลับคมมาอย่างดีจนไม่ทำให้ส่วนที่โดนผ่าเสียรสชาติ

ผมหั่นน้อยหน่าในมีดเดียว

「ใครจะรู้ว่าที่นี่มีอะไรอีกบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ากินมันนะ」

เราล้างมันอย่างระมัดระวัง แต่ถึงแบบนั้นอันตรายจากอาหารเป็นพิษก็ไม่สามารถละเลยได้

ท้ายที่สุดแล้ว คนญี่ปุ่นมีร่างกายที่บอบบางกว่าคนชาติอื่นๆ

เมื่อพูดอย่างนั้น ผมหยิบช้อนหินที่ผมทำไว้เมื่อวานนี้

กลิ่นหอมหวานที่ลอยอยู่ในอากาศและเนื้อสีขาวของมันบ่งบอกว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ

พอได้กินจริงๆแล้วนั้น…

「นี่มันอร่อยสุดๆไปเลย」

อร่อยมากจนผมเผลอพูดออกไป

「จริงเหรอเนี่ย?! นี่มันผลไม้อะไรกัน! มันอร่อยสุดๆไปเลย!! 」

อาริสะบอกมันว่าแซ่บแค่ไหน

มานะและคารินและพี่น้องอาซากุระก็มีรอยยิ้มมาตามๆกัน

「ฉันแปลกใจจริงๆที่ผลไม้หน้าตาประหลาดแบบนี้จะอร่อยขนาดนี้」

เอริที่เป็นคนเก็บมันมาด้วยตัวเองก็มีความสุข

จากนั้นเราก็ทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข

การทำอาหารหรือผมควรจะพูดว่าการย่างคืองานของสาวๆ

ส่วนผมนั้นกำลังเตรียมถนอมอาหาร

เริ่มจากรมควันปลา ทำให้เรามีอาหารที่เราสามารถเก็บไว้ได้

เราแบ่งปลาถนอมได้ง่ายเพราะอาริสะตกปลาได้เยอะ

ผมเตรียมเครื่องปั้นดินเผาไว้สามขนาด

อันใหญ่คือเหยือกน้ำ นี่คือที่ที่เราใส่น้ำในแม่น้ำ

ขนาดกลางสำหรับผลไม้และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร

ขนาดเล็กสำหรับสกัดน้ำทะเล

「วัตถุดิบต่างๆของเราเริ่มมีมากขึ้น นี่เป็นเรื่องที่ดี」

เรามองไปรอบๆถ้ำหลังอาหารเย็น

ถ้ำที่ไม่มีอะไรในตอนแรกตอนนี้กำลังมีของเต็มไปหมดอยู่

ทางเข้ามีเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผา ส่วนด้านในก็มีฟูก

เรากำลังเริ่มกักตุนไม้และหิน มันทำให้รู้สึกว่าเรากำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ

「อีกไม่นานเราอาจจะสร้างบ้านได้」

「「「「「 บ้าน? 」 」 」 」 」 」

สาวๆตกใจกับคำพูดของผม

「ว่ากันด้วยความเป็นไปได้ที่จะมีคนอื่นอีกที่มาอยู่กับเราเพิ่มที่นี่จะแคบเกินไป ฉันต้องการบ้านถ้าเป็นกรณีนี้」

「ได้สิ แต่โฮคาเงะสร้างบ้านได้ไหม? 」มานะถาม

「เพียงแค่หลุมไว้อยู่อาศัยธรรมดา มันเป็นสิ่งที่คนยุคโจมงสร้างขึ้น ฉันคิดว่าฉันสามารถทำได้นะ」

「ว้าว โฮคาเงะ นายทำอะไรก็ได้จริงๆเป็นนักเอาชีวิตรอดตามที่ฉันคาดไว้จริงๆ」

「โฮกาเกะเยี่ยมสุดๆ! ฉันดีใจที่เลือกอยู่กับโฮคาเงะไม่ใช่เรย์โตะ」

「อ่าฮะ ฉันก็คิดเหมือนกัน」อาริสะและเอริหัวเราะ

「ดี การสร้างบ้านต้องใช้เวลาอีกมาก เรายังไม่ได้ทำอ่างอาบน้ำด้วยซ้ำ สำหรับตอนนี้เราแค่ต้องเพิ่มอาหารที่เก็บรักษาไว้ เราไม่รู้ว่าโลกนี้มีสี่ฤดูหรือไม่

แต่ถ้ามี เราก็จะต้องตุนอาหารไว้ให้เพียงพอกับอีกหลายเดือน」

หากว่าที่นี่มีสี่ฤดู ฤดูหนาวคงหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด

ความหนาวเย็นทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลดลง และอัตราการรอดชีวิตเองก็จะลดลง

ด้วยปริมาณอาหารที่มีจะเป็นปัญหา

เราจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อที่เราจะรอดไม่ว่าขะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

「พรุ่งนี้พวกเราคงจะยุ่งมาก งั้นไปนอนกันเถอะ」

ด้วยเหตุนี้ วันที่สามของการเอาชีวิตรอดในต่างโลกของเราจึงจบลงอย่างสวยงาม

จากนั้นวันที่สี่จะเปิดเริ่มต้นพร้อมกับอากาศที่สดใส…หรือฉันหวังไว้อย่างนั้น

ซ่าาาา!!! ซ่าาาา!!!

 

โครมโครมโคร่มโคร่ม!!

 

ซ่าาาา! ซ่าาาา!!

 

ผมตื่นขึ้นยามดึกเพราะเสียงดัง

ผมขยี้ตาและมองไปรอบๆ ถ้ำ

ในที่สุดเมื่อเข้าใจสถานการณ์ผมก็ตะโกน

「ลุกขึ้นทุกคน!ท่าไม่ดีแล้ว! เราเจอพายุ!! 」

ดูเหมือนว่าพายุจะสาดเข้ามาในถ้ำ

————————

ปล.แปลแล้วยังต้องหาข้อมูลด้วยนะเรื่องนี้

ติดตามผู้แปลได้ที่ แปลด้วยพลังใบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+