แต่งรักมัดใจบอส 447 กระดุมปรากฏอีกครั้ง

Now you are reading แต่งรักมัดใจบอส Chapter 447 กระดุมปรากฏอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนสี่คนกับรถสองคัน กำลังเดินทางอยู่ และทันใดนั้นก็พบว่ารอยล้อรถตรงด้านหน้าหายไปแล้ว และก็มีเพียงแค่ถนนอีกสี่เส้นทาง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนดี

“เดี๋ยวก่อน ฉันจะไปดูตรงข้างหน้าก่อน ถึงแม้ว่าตรงนี้จะไม่มีร่องรอยอะไรแล้ว แต่ข้างหน้าก็อาจจะยังมีร่องรอยอยู่” ทศพรบอกให้ทุกคนรออยู่ที่เดิม ส่วนตัวเขาก็เดินเข้าไปตรวจเช็คกับร่องรอยต่างๆ

“ที่นี่มีถนนสี่เส้นทางพอดี พวกเราแยกกันไปคนละเส้นทาง จะได้เร็วหน่อย” ชลธีมองไปยังถนนทั้งสี่เส้นทาง พวกเขาแต่ละคนสามารถไปตรวจสอบถนนทีละเส้นทางได้

“ได้ งั้นเราไปตรวจสอบกัน แบบนี้ก็เร็วขึ้นจริงๆ” อีกสองคนที่เหลือก็เห็นด้วย

ทั้งสี่คนไปยังถนนคนละเส้นทาง เพื่อดูว่าถนนเส้นทางไหนที่มีร่องรอยของรถยนต์เหลืออยู่บ้าง

ชลธีเดินไปยังไปเส้นทางที่สองนับจากทางซ้ายมือ แต่เขาก็ไม่พบร่องรอยของล้อรถเลย แม้แต่รอยเท้าก็ไม่มี หรือพวกเขาอาจจะไม่ได้ใช้เส้นทางนี้ แต่ใช้เส้นทางอื่น?

เขาเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สังเกตเห็นอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงหยิบวิทยุสื่อสารในรถของอนุชิตออกมา และเขาก็ติดต่อกับคนอื่นๆ

ผลลัพธ์เดียวกันทั้งหมด ทั้งสี่คนไม่พบร่องรอยใด ๆ ธีรเมทระวังตัวมาก เขาได้ทำลายร่องรอยของตัวเองทั้งหมดแล้ว

ชลธียืนอยู่บนถนนที่เขากำลังตรวจสอบ ดวงอาทิตย์ก็ส่องมาบนหัวของเขาโดยตรง ร่างกายของเขาก็เพิ่งจะฟื้นตัว ในเวลานั้นเขาก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาแน่น เขาจึงไปหาที่นั่งตรงริมถนน ก่อนจะนั่งลง บนหัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อมากมาย

“ชลธี ชลธี” ทศพรเรียกชลธีในวิทยุสื่อสาร แต่ว่าในเวลานี้ร่างกายของชลธีก็ไร้เรี่ยวแรง เขาอยากจะหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาเพื่อพูดกับทศพร แต่วิทยุสื่อสารก็เหมือนจงใจจะแกล้งเขา เพราะอยู่ดีๆ มันก็หลุดจากมือออกไป

ตอนที่ชลธีกำลังจะไปเก็บวิทยุสื่อสาร ตัวเขาเองก็ล้มลงกับพื้น แต่ในตอนที่เขากำลังล้มลง เขาก็มองเห็นกระดุมเม็ดหนึ่งที่เหมือนกับเมื่อครู่นี้เลย มันอยู่ในดินโคลน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาล้มลง เขาไม่มีทางพบสิ่งนี้แน่นอน

“ฉันไม่ไหวแล้ว” ต้องเลือกระหว่างวิทยุสื่อสารกับกระดุม ชลธีเลือกที่จะกำกระดุมไว้ในมืออย่างแน่น จากนั้นเขาก็ไม่รู้เรื่องอะไร

“แย่แล้ว น่าจะเป็นเพราะชลธีไม่มีเรี่ยวแรง พวกเราไปหาเขากันเถอะ” ทศพรติดต่อกับพวกเขาอีกสองคน หลังจากที่ทั้งสามคนรวมตัวกัน พวกเขาก็วิ่งไปยังทิศทางที่ชลธีอยู่

ทุกคนพยุงชลธีขึ้น ประวีร์เอาน้ำที่พกมาด้วยให้ชลธีดื่ม เขาดื่มน้ำไปครึ่งขวดอย่างกระหาย ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวอีกครั้ง

“ชลธี ชลธี นายเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ นายไปพักผ่อนก่อนดีไหม เดี๋ยวพวกเราสามคนหาต่อกันเอง” ประวีร์เช็คชีพจรให้กับชลธี เขาพบว่าชีพจรเขานั้นเต้นเร็วมาก

“ไม่ต้อง พวกนายดูนี่” ชลธีเอาสิ่งของที่อยู่ในมือให้พวกเขาดู เป็นกระดุมหนึ่งเม็ดที่เหมือนกับกระดุมที่ตกอยู่ตรงหน้าประตู ตอนนี้ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

“อันนี้เป็นกระดุมเม็ดเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ?” ทศพรหยิบกระดุมเม็ดที่อยู่ในมือของชลธีขึ้นมา

“ไม่ใช่ อันนี้เป็นกระดุมที่ฉันหาเจอตรงนี้ มันเหมือนกับกระดุมเม็ดที่พวกเราเจอตรงประตูบ้านของธีรเมทเลยใช่ไหม?” ถึงแม้ว่าชลธีจะอ่อนแอมาก แต่เขาก็ดูตื่นเต้นมาก

“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกเขาคงจะใช้เส้นทางนี้! เดี๋ยวพวกเราจะไปขับรถมาเอง และไปตามเส้นทางนี้ต่อไป” ทศพรชี้ไปยังเส้นทางนั้นและพูดกับทุกคน

ถึงแม้ว่าร่างกายของชลธีจะไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ยังคงอดทนมาโดยตลอด เพราะความปลอดภัยของมุกดาเป็นสิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอด

ตอนที่เขาวิ่งหนีออกไปเป็นระยะทางสิบกว่ากิโล ในที่สุดก็พบเจอกับร่องรอยของล้อรถที่เหมือนกับเมื่อครู่นี้เลย

กระดุมเม็ดนั้นเป็นสิ่งที่มุกดาทิ้งไว้ให้พวกเขาจริงๆด้วย

พวกเขาเดินทางกว่าสามสิบกิโลเมตร พวกเขาก็มาถึงที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่หนึ่ง ที่นี่เล็กมากจริงๆ ตรงริมชายฝั่งอาจจะมีเพียงแค่สี่ห้าสิบครอบครัวเท่านั้น

พวกเขาทั้งสี่คนมาถึงบ้านของชาวประมงคนหนึ่ง และก็ได้ถามหญิงชราที่กำลังซ่อมอวนจับปลาอยู่ตรงหน้าประตู เขาถามว่าเธอเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านหรือเปล่า

หญิงชรายังคงสนใจกับอวนจับปลาของตัวเองต่อไป เธอไม่ได้พูดอะไรกับพวกเขา หลังจากที่พูดอยู่ไม่กี่ประโยค พวกเขาก็คิดว่าหญิงชราคนนี้อาจจะเป็นใบ้

“ชั่งเถอะ ว่าเราไปดูกันต่อเถอะว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกไหม ลองไปถามอีกที” อนุชิตมองไปรอบๆ แต่ในนี้ก็น่าจะมีผู้หญิงและเด็กอยู่ในบ้านสิ แต่ทำไมตอนนี้ไม่มีอะไรเลย

พวกเขาเดินวนดูในหมู่บ้าน คนที่ละเอียดอ่อนอย่างทศพรก็พบกับบ้านหลังหนึ่งที่มีคนอยู่

เขายกมือขึ้นทำท่าให้กับคนที่เหลืออีกสามคน อาจจะเพราะมีคนอยู่เยอะไปก็เลยทำให้คนอื่นตกใจ ทศพรเลยตัดสินใจไปคนเดียว

ในห้องมืดสนิท แม้แต่ไฟหนึ่งดวงก็ยังไม่มี ทศพรเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น เมื่อครู่นี้เธอเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในนี้ แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นอะไรแล้ว

เขาเดินดูอยู่ในรอบบ้าน ทศพรก็ไม่เจอใครเลย เขาได้ตรวจเช็คสถานที่ที่คนสามารถไปหลบซ่อนตัวหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปไหน

สุดท้ายทศพรก็ต้องยอมเดินออกไป เขามองดูพวกเขาสามคนที่ในดวงตาเต็มไปด้วยการคาดหวัง แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า

“งั้นก็ให้ฉันไปแล้วกัน ฉันเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างดี” อนุชิตเตรียมตัวที่จะเข้าไปหา พวกเขาต่างก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น

“ฉันไปเอง” ชลธีลุกขึ้นยืน ร่างกายของเขาโซซัดโซเซ

“ชั่งเถอะ นายอยู่ตรงนี้นั่นแหละ ถ้านายเข้าไป พวกเราที่อยู่ข้างนอกก็กังวลอยู่ดี” ประวีร์เช็คร่างกายของชลธีแล้ว ตอนนี้เขายังคงเป็นไข้สูงอยู่

“งั้นพวกนายก็ต้องสังเกตใต้พวกกล่องและอ่างน้ำ ลองดูว่ามีทางเดินที่ซ่อนอยู่หรือเปล่า” ชลธีก็รู้สึกว่าสภาพตัวเองแบบนี้ไม่สมควรที่จะเข้าไป เขาทำได้แค่พูดเตือนอนุชิต

ทศพรมองไปยังชลธีด้วยสายตาที่ชื่นชม เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาเข้าไปเขายังไม่ทันนึกถึงเรื่องของเส้นทางใต้ดินเลย

“อืม ฉันรู้แล้ว” อนุชิตพยักหน้า หลังจากที่ชลธีพูดเตือนเขา เขาก็เลยได้เตรียมใจไว้บ้าง

เขาพยุงให้ชลธีนั่งลง ส่วนอนุชิตก็เดินตรงเข้าไปยังบ้านหลังนั้น บ้านหลังนี้ทำมาจากก้อนหิน อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ติดริมทะเลและมีลมพายุที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นบ้านก็เลยค่อนข้างเตี้ยและแข็งแรงมาก

อนุชิตเข้าไปในบ้าน เขาตรงไปที่ห้องครัว ในห้องครัวมีอ่างน้ำใหญ่ๆ สองอัน เขาเปิดออกดู ในนั้นมีแต่น้ำ

จากนั้นเขาก็ลองยกขึ้นดู แต่เขาก็ยกไม่ไหว ถ้าเกิดว่าเขายกไม่ไหว ผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะยกไม่ไหวเช่นกัน นั่นก็หมายความว่าใต้อ่างน้ำอันนี้ไม่น่าจะมีเส้นทางลับซ่อนอยู่

ตอนที่เขาเข้าไปในห้องอื่นๆ ใต้อ่างน้ำก็มีผู้หญิงคนนึงมุดออกมาจริงๆด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แต่งรักมัดใจบอส 447 กระดุมปรากฏอีกครั้ง

Now you are reading แต่งรักมัดใจบอส Chapter 447 กระดุมปรากฏอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนสี่คนกับรถสองคัน กำลังเดินทางอยู่ และทันใดนั้นก็พบว่ารอยล้อรถตรงด้านหน้าหายไปแล้ว และก็มีเพียงแค่ถนนอีกสี่เส้นทาง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนดี

“เดี๋ยวก่อน ฉันจะไปดูตรงข้างหน้าก่อน ถึงแม้ว่าตรงนี้จะไม่มีร่องรอยอะไรแล้ว แต่ข้างหน้าก็อาจจะยังมีร่องรอยอยู่” ทศพรบอกให้ทุกคนรออยู่ที่เดิม ส่วนตัวเขาก็เดินเข้าไปตรวจเช็คกับร่องรอยต่างๆ

“ที่นี่มีถนนสี่เส้นทางพอดี พวกเราแยกกันไปคนละเส้นทาง จะได้เร็วหน่อย” ชลธีมองไปยังถนนทั้งสี่เส้นทาง พวกเขาแต่ละคนสามารถไปตรวจสอบถนนทีละเส้นทางได้

“ได้ งั้นเราไปตรวจสอบกัน แบบนี้ก็เร็วขึ้นจริงๆ” อีกสองคนที่เหลือก็เห็นด้วย

ทั้งสี่คนไปยังถนนคนละเส้นทาง เพื่อดูว่าถนนเส้นทางไหนที่มีร่องรอยของรถยนต์เหลืออยู่บ้าง

ชลธีเดินไปยังไปเส้นทางที่สองนับจากทางซ้ายมือ แต่เขาก็ไม่พบร่องรอยของล้อรถเลย แม้แต่รอยเท้าก็ไม่มี หรือพวกเขาอาจจะไม่ได้ใช้เส้นทางนี้ แต่ใช้เส้นทางอื่น?

เขาเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สังเกตเห็นอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงหยิบวิทยุสื่อสารในรถของอนุชิตออกมา และเขาก็ติดต่อกับคนอื่นๆ

ผลลัพธ์เดียวกันทั้งหมด ทั้งสี่คนไม่พบร่องรอยใด ๆ ธีรเมทระวังตัวมาก เขาได้ทำลายร่องรอยของตัวเองทั้งหมดแล้ว

ชลธียืนอยู่บนถนนที่เขากำลังตรวจสอบ ดวงอาทิตย์ก็ส่องมาบนหัวของเขาโดยตรง ร่างกายของเขาก็เพิ่งจะฟื้นตัว ในเวลานั้นเขาก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาแน่น เขาจึงไปหาที่นั่งตรงริมถนน ก่อนจะนั่งลง บนหัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อมากมาย

“ชลธี ชลธี” ทศพรเรียกชลธีในวิทยุสื่อสาร แต่ว่าในเวลานี้ร่างกายของชลธีก็ไร้เรี่ยวแรง เขาอยากจะหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาเพื่อพูดกับทศพร แต่วิทยุสื่อสารก็เหมือนจงใจจะแกล้งเขา เพราะอยู่ดีๆ มันก็หลุดจากมือออกไป

ตอนที่ชลธีกำลังจะไปเก็บวิทยุสื่อสาร ตัวเขาเองก็ล้มลงกับพื้น แต่ในตอนที่เขากำลังล้มลง เขาก็มองเห็นกระดุมเม็ดหนึ่งที่เหมือนกับเมื่อครู่นี้เลย มันอยู่ในดินโคลน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาล้มลง เขาไม่มีทางพบสิ่งนี้แน่นอน

“ฉันไม่ไหวแล้ว” ต้องเลือกระหว่างวิทยุสื่อสารกับกระดุม ชลธีเลือกที่จะกำกระดุมไว้ในมืออย่างแน่น จากนั้นเขาก็ไม่รู้เรื่องอะไร

“แย่แล้ว น่าจะเป็นเพราะชลธีไม่มีเรี่ยวแรง พวกเราไปหาเขากันเถอะ” ทศพรติดต่อกับพวกเขาอีกสองคน หลังจากที่ทั้งสามคนรวมตัวกัน พวกเขาก็วิ่งไปยังทิศทางที่ชลธีอยู่

ทุกคนพยุงชลธีขึ้น ประวีร์เอาน้ำที่พกมาด้วยให้ชลธีดื่ม เขาดื่มน้ำไปครึ่งขวดอย่างกระหาย ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวอีกครั้ง

“ชลธี ชลธี นายเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ นายไปพักผ่อนก่อนดีไหม เดี๋ยวพวกเราสามคนหาต่อกันเอง” ประวีร์เช็คชีพจรให้กับชลธี เขาพบว่าชีพจรเขานั้นเต้นเร็วมาก

“ไม่ต้อง พวกนายดูนี่” ชลธีเอาสิ่งของที่อยู่ในมือให้พวกเขาดู เป็นกระดุมหนึ่งเม็ดที่เหมือนกับกระดุมที่ตกอยู่ตรงหน้าประตู ตอนนี้ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

“อันนี้เป็นกระดุมเม็ดเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ?” ทศพรหยิบกระดุมเม็ดที่อยู่ในมือของชลธีขึ้นมา

“ไม่ใช่ อันนี้เป็นกระดุมที่ฉันหาเจอตรงนี้ มันเหมือนกับกระดุมเม็ดที่พวกเราเจอตรงประตูบ้านของธีรเมทเลยใช่ไหม?” ถึงแม้ว่าชลธีจะอ่อนแอมาก แต่เขาก็ดูตื่นเต้นมาก

“จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกเขาคงจะใช้เส้นทางนี้! เดี๋ยวพวกเราจะไปขับรถมาเอง และไปตามเส้นทางนี้ต่อไป” ทศพรชี้ไปยังเส้นทางนั้นและพูดกับทุกคน

ถึงแม้ว่าร่างกายของชลธีจะไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็ยังคงอดทนมาโดยตลอด เพราะความปลอดภัยของมุกดาเป็นสิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอด

ตอนที่เขาวิ่งหนีออกไปเป็นระยะทางสิบกว่ากิโล ในที่สุดก็พบเจอกับร่องรอยของล้อรถที่เหมือนกับเมื่อครู่นี้เลย

กระดุมเม็ดนั้นเป็นสิ่งที่มุกดาทิ้งไว้ให้พวกเขาจริงๆด้วย

พวกเขาเดินทางกว่าสามสิบกิโลเมตร พวกเขาก็มาถึงที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่หนึ่ง ที่นี่เล็กมากจริงๆ ตรงริมชายฝั่งอาจจะมีเพียงแค่สี่ห้าสิบครอบครัวเท่านั้น

พวกเขาทั้งสี่คนมาถึงบ้านของชาวประมงคนหนึ่ง และก็ได้ถามหญิงชราที่กำลังซ่อมอวนจับปลาอยู่ตรงหน้าประตู เขาถามว่าเธอเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านหรือเปล่า

หญิงชรายังคงสนใจกับอวนจับปลาของตัวเองต่อไป เธอไม่ได้พูดอะไรกับพวกเขา หลังจากที่พูดอยู่ไม่กี่ประโยค พวกเขาก็คิดว่าหญิงชราคนนี้อาจจะเป็นใบ้

“ชั่งเถอะ ว่าเราไปดูกันต่อเถอะว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกไหม ลองไปถามอีกที” อนุชิตมองไปรอบๆ แต่ในนี้ก็น่าจะมีผู้หญิงและเด็กอยู่ในบ้านสิ แต่ทำไมตอนนี้ไม่มีอะไรเลย

พวกเขาเดินวนดูในหมู่บ้าน คนที่ละเอียดอ่อนอย่างทศพรก็พบกับบ้านหลังหนึ่งที่มีคนอยู่

เขายกมือขึ้นทำท่าให้กับคนที่เหลืออีกสามคน อาจจะเพราะมีคนอยู่เยอะไปก็เลยทำให้คนอื่นตกใจ ทศพรเลยตัดสินใจไปคนเดียว

ในห้องมืดสนิท แม้แต่ไฟหนึ่งดวงก็ยังไม่มี ทศพรเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น เมื่อครู่นี้เธอเห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในนี้ แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นอะไรแล้ว

เขาเดินดูอยู่ในรอบบ้าน ทศพรก็ไม่เจอใครเลย เขาได้ตรวจเช็คสถานที่ที่คนสามารถไปหลบซ่อนตัวหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหายไปไหน

สุดท้ายทศพรก็ต้องยอมเดินออกไป เขามองดูพวกเขาสามคนที่ในดวงตาเต็มไปด้วยการคาดหวัง แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า

“งั้นก็ให้ฉันไปแล้วกัน ฉันเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างดี” อนุชิตเตรียมตัวที่จะเข้าไปหา พวกเขาต่างก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น

“ฉันไปเอง” ชลธีลุกขึ้นยืน ร่างกายของเขาโซซัดโซเซ

“ชั่งเถอะ นายอยู่ตรงนี้นั่นแหละ ถ้านายเข้าไป พวกเราที่อยู่ข้างนอกก็กังวลอยู่ดี” ประวีร์เช็คร่างกายของชลธีแล้ว ตอนนี้เขายังคงเป็นไข้สูงอยู่

“งั้นพวกนายก็ต้องสังเกตใต้พวกกล่องและอ่างน้ำ ลองดูว่ามีทางเดินที่ซ่อนอยู่หรือเปล่า” ชลธีก็รู้สึกว่าสภาพตัวเองแบบนี้ไม่สมควรที่จะเข้าไป เขาทำได้แค่พูดเตือนอนุชิต

ทศพรมองไปยังชลธีด้วยสายตาที่ชื่นชม เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาเข้าไปเขายังไม่ทันนึกถึงเรื่องของเส้นทางใต้ดินเลย

“อืม ฉันรู้แล้ว” อนุชิตพยักหน้า หลังจากที่ชลธีพูดเตือนเขา เขาก็เลยได้เตรียมใจไว้บ้าง

เขาพยุงให้ชลธีนั่งลง ส่วนอนุชิตก็เดินตรงเข้าไปยังบ้านหลังนั้น บ้านหลังนี้ทำมาจากก้อนหิน อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ติดริมทะเลและมีลมพายุที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นบ้านก็เลยค่อนข้างเตี้ยและแข็งแรงมาก

อนุชิตเข้าไปในบ้าน เขาตรงไปที่ห้องครัว ในห้องครัวมีอ่างน้ำใหญ่ๆ สองอัน เขาเปิดออกดู ในนั้นมีแต่น้ำ

จากนั้นเขาก็ลองยกขึ้นดู แต่เขาก็ยกไม่ไหว ถ้าเกิดว่าเขายกไม่ไหว ผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะยกไม่ไหวเช่นกัน นั่นก็หมายความว่าใต้อ่างน้ำอันนี้ไม่น่าจะมีเส้นทางลับซ่อนอยู่

ตอนที่เขาเข้าไปในห้องอื่นๆ ใต้อ่างน้ำก็มีผู้หญิงคนนึงมุดออกมาจริงๆด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+