未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4

Now you are reading 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) Chapter 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[ว่าแล้วเชียว สถานที่ไลฟ์อยู่ในของเธอจริงด้วย]

 

ฮิโรกิมองไปรอบ ๆ ห้องของเพื่อนสมัยเด็กที่ไม่ได้มานานและส่งเสียงออกมาด้วยความประทับใจ

ห้องขนาดกว้างขวางสำหรับอยู่ได้หนึ่งคน พื้นห้องเป็นสีเรียบ ภายในประกอบไปด้วยเตียงนอน โต๊ะสำหรับไว้คอมพิวเตอร์และยังคงความธรรมดา ๆ ของห้องไว้ หากแต่บนกำแพงมีโปสเตอร์ของตัวละครต่าง ๆ ติดอยู่พร้อมกับมีฟิกเกอร์ของสาวสวยอยู่ส่งให้บรรยากาศดูแปลก

แต่ว่าสิ่งที่ฮิโรกิติดใจไม่ใช่เรื่องนั้น

ตอนนี้ตรงหน้าของฮิโรกิประกอบไปด้วยมิยุ จินัตสึและคานอน────แฟนเก่าที่เคยคบด้วยทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ ภาพที่เห็นตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอก

อย่างที่คิดว่าทุกคนนั้นน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวจริงยิ่งกว่าในจอเสียอีก

แต่ฮิโรกิก็ไม่ได้สบายใจเฉิบขนาดว่าจะมานั่งสรรเสริญได้

หากให้พูดตรง ๆ คืออยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เหตุผลคือไม่ว่าจะตกลงปลงใจเลิกกันด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้สถานะก็ยังคงเป็น 「แฟนเก่า」 อยู่ไม่เปลี่ยน

พวกเธอก็คงจะมีเรื่องบางอย่างที่เก็บไว้ในใจไม่ได้พูดออกมา เพราะตัวเขาเองยังคงจำบรรยากาศเหล่านั้นได้อยู่

 

[[[…]]]

 

ตอนนี้ทั้งสามคนหันหลบหน้าด้วยอาการกระอักกระอ่วน ส่วนฮิโรกินั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี

เพียงแต่จะอยู่แบบนี้ตลอดไปคงจะไม่ได้ ฮิโรกิจึงเริ่มพูดก่อน

 

[คือว่า อยากจะถามเกี่ยวกับไลฟ์หน่อยน่ะ]

 

เมื่อตัดสินใจพูดทั้งสามคนจึงหันสายตามาทางนี้

จากนั้นคำกล่าวที่ต้องการจะยืนยันบางอย่างของฮิโรกิจึงดำเนินต่อ

 

[ก่อนอื่นขอพูดความรู้สึกตรง ๆ นะ ฉันรู้สึกคัดค้านการไลฟ์ของพวกคุณมิซึซาวะทั้งสามคน]

[────อึก!]

 

ขณะที่อีกสองคนหันสายตาหนีอย่างกระอักกระอ่วนอีกคร้ง มีเพียงมิยุที่ยังจ้องกลับมาตาเขม็ง

 

[ทำไมละ? ไม่เกี่ยวอะไรกับฮาชิมะคุงนี่]

[เกี่ยวสิ สมาชิกแบบนี้น่ะมีความเป็นไปได้ว่าจะพูดชื่อฉันออกมาเหมือนครั้งนี้อีกไง]

[รบกวนชีวิตว่างั้น?]

 

พอมิยุถามตรง ๆ กลับมาฮิโรกิก็หลบสายตากล่าวตอบ

 

[ถ้าให้พูดอ้อม ๆ ก็คือใช่ อีกอย่างการคุยเรื่องแบบนี้มันทำให้อึดอัดน่ะ]

[ก็ไม่ต้องดูสิ]

[ไม่สิ ปกติถ้ารู้แล้วก็ต้องสงสัยสิ…อีกอย่างห้องเรียนวุ่นวายขนาดนั้นจะทำเมินได้ไง]

 

พอได้ฟังความตรงไปตรงมาของฮิโรกิ มิยุที่อารมณ์เสียก็เอาหน้าซุกหัวเข่า

ท่าทางแบบนั้นคือสิ่งที่มิยุทำประจำเวลาไม่พอใจ ดูท่าทางจะยังไม่เลิกนิสัยนี้

แต่มิยุก็เงยหน้าขึ้นมาทันที

 

[แต่ทางนี้ก็ถอยไม่ได้แล้วเหมือนกัน จากเรื่องเมื่อกี้ทำให้เราโดนตัดทางเลือกไปหมดแล้ว]

[หมายความว่าไง?]

 

มิยุที่มองฮิโรกิเอียงคอสงสัยก็ยิ้มตอบกลับมา

 

[หลังจากนี้พวกเรา (MICHIKA) ทั้งสามคนจะเป็นยูนิตสตรีมเมอร์ที่ไลฟ์ในฐานะที่เคยมีแฟนเก่าคนเดียวกัน]

[หา…เรื่องแบบนั้นทำได้จริงเหรอ?]

 

เมื่อได้ฟังเรื่องอันน่าตกใจ ฮิโรกิพลันรู้สึกขุ่นมัว

จริงอยู่ที่ว่าอีกไม่ช้าก็เร็วคงรู้กันไปทั่วว่าพวกมิยุทั้งสามคนเคยคบกับคนเดียว ๆ กันมาก่อน แต่การจะทำให้เป็นเชิงโฆษณาใหญ่โตในลักษณะนั้นอาจดูเหนือความคาดหมายเกินไป

จุดนั้นมิยุที่ยังคงยิ้มอยู่ก็ตอบกลับมา

 

[แต่แรกที่มารวมกันก็สำเร็จไปด้วยดีนี่ เรื่องแฟนเก่าก็เป็นประเด็นร้อนด้วย อีกอย่างจดร่วมของพวกเราก็มีแค่นี้ กลับกันไม่เห็นจำเป็นต้องซ่อนสักนิด หลังจากนี้แค่เติบโตไปพร้อมกันก็พอ]

[งั้นคุณจินัตสึกับคานอนจังยอมตกลงแล้วเหรอ?]

 

ทั้งสองคนที่ถูกถามโดยไม่ตั้งใจก็พยักหน้าลงเล็กน้อย

 

[ถ้าบอกว่าจะลองดูก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่น่ะนะ ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็เป็นความรับผิดชอบของเราเองด้วย]

[คะ คือหนูเองก็ตั้งใจแบบนั้นค่ะ …อีกอย่างความทรงจำที่มีกับรุ่นพี่ก็ไม่มีอะไรที่น่าเศร้าใจเลยนะคะ]

[ทั้งสองคน…]

[เท่านี้ก็รับได้แล้วใช่ไหม?]

 

เมื่อทั้งสองคนตอบยินยอมแล้ว มิยุจึงกล่าวออกมาด้วยความแข็งขัน

แต่ความคิดของฮิโรกิก็ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

 

[จะยอมรับได้ยังไง สุดท้ายแล้วความเสี่ยงที่ชื่อของฉันจะถูกเผยแพร่ออกไปก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนี่]

[นั่นมันก็…]

 

ไม่ใช่แค่มิยุแต่จินัตสึกับคานอนก็ทำหน้าอึดอัด

ฮิโรกิจึงลุกขึ้นมาแล้วพูดต่อ

 

[อีกอยากนีงที่ต้องพูดตรง ๆ คือฉันเป็นห่วงความเป็นส่วนตัวของพวกเธอสามคน ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นคนพูดเองก็เถอะ────เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]

 

หลังจากพูดเรื่องที่ควรพูดหมดแล้วฮิโรกิก็หันหลังออกจากห้องไป

อาจจะพูดแรงไปหน่อย แต่ความรู้สึกที่เป็นห่วงทั้งสามคนนั้นเป็นของจริง

ดังนั้นฮิโรกิจึงอยากให้พิจารณาเรื่องนี้อีกทีนึงโดยรวมเรื่องของตัวเองไปด้วย

────ติ๊ง

มีข้อความใหม่ส่งมาให้ฮิโรกิที่กำลังติวหนังสืออยู่ในห้องตัวเอง

คนที่ส่งคือมิยุ เนื้อหาคืออยากให้มาที่ส่วนสาธารณะแถวบ้าน หลังจากตอนนั้นก็ผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมงแล้ว คาดว่าคงประชุมกันเรียบร้อยแล้วกระมัง

พอออกไปข้างนอกหลังจากตอบกลับความว่าจะไป พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว

สวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสงบนั้นเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง

เพราะไม่อยากจะให้อีกฝ่ายต้องรอจึงรีบไป เมื่อมาถึงก็พบว่ามิยุกำลังแกว่งชิงช้าอยู่คนเดียว เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นประกอบไปด้วยสไลเดอร์ จังเกิ้ลยิมและสปริงรูปร่างสัตว์ตัวเล็ก ๆ  

 

[เหมือนจะประชุมกันเสร็จแล้วสินะ]

 

เมื่อฮิโรกิเข้ามาใกล้แล้วส่งเสียงมิยุก็หยุดเล่นชิงช้าแล้วลุกขึ้นมา

มองหน้ามาตรง ๆ แล้วจึงพยักหน้าเล็กน้อย

 

[ทั้งสองคนยอมรับข้อเสนอของฉันแล้ว]

[ข้อเสนอ?]

 

ฮิโรกิเอียงคอสงสัย ส่วนมิยุทำสีหน้าจริงจังและกล่าวออกมาตามตรง  

 

[ไม่ว่าพวกเราจะระวังตัวตอนไลฟ์แค่ไหนฮาชิมะคุงก็คงยอมรับไม่ได้ เพราะแบบนั้นจึงตัดสินใจได้────ว่าตรงจุดนั้นก็ให้ฮาชิมะคุงเข้าร่วมด้วยเลย]

[…ห๊ะ?]

 

เมื่อได้ฟังเนื้อหาที่ไม่คาดคิดออกมาตามตรง หัวของฮิโรกิก็ช็อตไปตรงนั้น

และมิยุก็พูดต่อราวกับจะตอกย้ำฮิโรกิ

 

[แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้จะบอกให้ฮาชิมะคุงมาอยู่ในไลฟ์หรอก แค่มาเป็นผู้จัดการคอยสนับสนุน (MICHIKA) ก็พอ]

[ไม่สิ เรื่องที่อยากฟังไม่ใช่เรื่องนั้น…แล้วคุยกันยังไงถึงได้ออกมาเป็นงี้น่ะ?]

[ก็ฮาชิมะคุงกลัวชื่อจริงหลุดใช่ไหม? ถ้างั้นฮาชิมะคุงก็มาช่วยกันสิ คิดแบบนั้นกันน่ะ เป็นไง ไอเดียดีไหม?]

 

มิยุกล่าวสิ่งที่คิดว่าเป็นความคิดที่ดีออกมาด้วยท่าทางมีชัย

 

[ก็จริงที่ถ้าทำแบบนั้นโอกาสที่พลาดก็จะน้อยลง แต่ว่าถ้าฉันไปอยู่ตรงนั้นด้วยจะไม่เสี่ยงกว่าเหรอ?]

[ตรงจุดนั้นก็เป็นหน้าที่ของฮาชิมะคุงไง────ว่าไปจะไม่ปฏิเสธเพราะว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะอึดอัดเหรอ?]

[เรื่องนั้นก็ด้วย เพราะว่าเป็นแฟนเก่าหมดเลยนี่]

[หวา─ ไม่ปฏิเสธด้วย แถมยังพูดตรง ๆ อีก]

[ทางนั้นเถอะ ไม่อยากอยู่ใกล้ฉันไม่ใช่หรือไงน่ะ?]

 

มิยุจึงยิ้มและตอบกลับมาด้วยคำพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ  

 

[ฉันเคยพูดแบบนั้นเมื่อไหร่เหรอ?]

[ไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ก็พูดมานี่ อย่างให้เรียกชื่อกันเหมือนเป็นคนแปลกหน้า หรือไม่ให้คุยกันอะไรงี้]

[นั่นมันก็…จะบอกว่าไม่ได้จะหมายความแบบนั้นหรือยังไงดี]

 

เมื่อเห็นมิยุทำท่าอ้ำ ๆ อึ้ง  ๆ ทางฮิโรกิก็รู้สึกสติหลุดขึ้นมา

 

[หา…? ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ฉันไม่เป็นผู้จัดการให้หรอก แย่หน่อยนะที่ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะคอยตามแฟนเก่าที่เกลียดตัวเองต้อย ๆ หรอกนะ]

[ยังไงก็ไม่เหรอ?]

[ตื้อจริงเฮ้ย]

[งั้นเหรอ]

 

ฮิโรกิที่รู้สึกประทับใจว่ายอมถอนไปอย่างง่ายได้นั้น ด้านมิยุกลับกอดอกและพูดโพล่งขึ้นมาต่อ

 

[ถ้างั้นก็จะไม่พูดอะไรแล้ว ถึงจะคิดมาเพื่อฮาชิมะคุงก็ตามแต่ปฏิเสธขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันเองก็จะระวังไว้ แต่จะจัดการทั้งสองคนนั้นได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ด้วยน้า~ แล้วถ้าเกิดดังไปมากกว่านี้ละก็ ความเสี่ยงที่ชื่อจริงจะหลุดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปอีกนะ~ ────แหม แต่ตรงนั้นก็จะพยายามนะ─คะ]

[นี่ แนวคิดนั่นอย่างแย่เลยนะ…]

[ไม่รู้สิ~ ยังไงก็กันนะ? แต่ว่าฮาชิมะคุงก็พูดเองนี่ว่า 「เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]

[อึก…นั่นมัน พูดไว้จริง ๆ แหละ]

 

ป่านนี้ก็สายไปแล้ว ฮิโรกินึกเสียใจกับคำพูดของตัวเอง

อาจจะเรียกได้ว่าอ่อนหัดเกินไปในการต่อกรกับมิยุ เขาประเมินความพยาบาทของมิยุต่ำไป

ดังนั้นถึงแม้ฮิโรกิจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ถามยืนยันบางอย่างที่ตัวเองติดใจ

 

[ตอนนี้ฉันมีสามอย่างที่อยากจะถาม────ก่อนอื่นเลยคุณมิซึซาวะ รวมถึงคุณจินัตสึกับคานอนจังจะไม่ว่าอะไรที่ฉันจะเข้าไปร่วมด้วยจริง ๆ เหรอ?]

[ไม่อยู่แล้วสิ ตอนแรกที่ฉันเสนอกับสองคนนั้น ทั้งคู่ก็ตอบโอเคมาคำเดียวเลย]

 

ฮิโรกิรู้สึกผิดคาดที่ตอบมาในทันที แต่ก็ยังคงถามต่อ

 

[ถ้างั้นแล้ว จะบอกว่าเป็นข้อสงสัยของฉันเองดี หรือแค่ติดใจเฉย ๆ ดี…แต่พอรู้เรื่องที่คุณจินัตสึกับคานอนจังเป็นแฟนเก่าฉันขึ้นมาคุณมิซึซาวะก็เลยติดต่อไปเหรอ? ทั้งสองคนไม่น่าจะเป็นคนที่พูดเรื่องพวกนี้ด้วยสิ ไปรู้มาได้ยังไงกัน?]

 

หลังจบคำถามมิยุก็ตอบมาทันทีโดยไม่ลังเล

 

[แหม ติดใจอยู่สินะ จะบอกว่าคำตอบก็ง่ายนิดเดียว บางทีก็ไปเห็นว่าฮาชิมะคุงไปเดตกับทั้งสองคนอยู่บ้างน่ะ]

[เป็นงั้นหรอกเหรอ…]

[เห็นเพื่อนบ้านอินเลิฟแบบนั้นถึงไม่อยากก็ต้องรู้แล้วสิ แถมตอนเลิกกันก็เดาง่ายด้วย คนนึงเป็นรุ่นน้องคนดังที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันส่วนอีกคนเป็นสาวน่ารักอย่างกับนางแบบ แค่เห็นหน้าค่าตาก็รู้ได้ทันทีเลย ถึงตอนแรกจะตกใจหน่อยก็เถอะ]

[งี้นี่เอง…]

 

พอได้ฟังเรื่องนี้ด้วยตัวเองฮิโรกิก็รู้สึกว่าเป็นข้อมูลที่น่าอายไปหน่อย ทั้งทีคิดว่าไม่น่าจะทำตัวออกนอกหน้าขนาดนั้นแท้ ๆ ส่วนเรื่องที่มาเล่นอยู่แถวบ้านบ่อย ๆ ส่วนนี้เป็นเรื่องจริง

พอมิยุเห็นฮิโรกิกำลังกระอักกระอ่วนจึงถามขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด

 

[ไงต่อ? เหลืออีกคำถามนึงนี่]

[อ๊ะ อ๋อ────งั้นคำถามสุดท้าย ถ้าหากมีจุดประสงค์หรือเหตุผลที่ทั้งสามคนมาไลฟ์ด้วยกันอยู่ละก็ อยากจะให้บอกฉันน่ะ]

 

หลังสิ้นคำถามมิยุใช้เวลาคิดเล็กน้อยจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา

 

[ที่ฉันนึกชวนทั้งสองคนมาไลฟ์ด้วยกันก็แค่เพราะคิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง เป็นแฟนเก่าของฮาชิมะคุงเหมือนกันด้วยก็เลยคิดว่าอาจจะคุ้มค่าได้น่ะส่วนจุดประสงค์เนี่ยอาจจะเรียกว่าเป็นเป้าหมายมากกว่า คือฉันคิดว่าอยากจะเป็นสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักหน้าค่าตาเยอะ ๆ น่ะ ส่วนอีกสองคนต้องไปฟังจากเจ้าตัวเองนะ]

 

────คิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง  

เมื่อได้ฟังคำนั้นใจของฮิโรกิก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะ

อีกอย่างมิยุที่เป็นคนธรรมนั้นกลับมีเป้าหมายชัดเจน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อยากจะคอยสนับสนุน

ดังนั้นเมื่อได้ฟังคำของมิยุ ฮิโรกิจึงได้ตัดสินใจ

 

[…เข้าใจแล้ว  งั้นมาลุยกันสิ ลุยกัน]

 

เมื่อสิ้นคำกล่าวมิยุก็หน้าพลันสดใส

 

[เอาจริงอะ? สำเร็จ!]

 

มิยุที่ดีใจแบบสุดนั้น ยังคงยิ้มออกมาพร้อมกับพูดต่อ

 

[ถ้างั้นขอฝากตัวด้วยนะ ฮิโรกิ!]

[เอ๊ะ? เมื่อกี้เรียกชื่อต้นฉันเหรอ…?]

[ก็เรียกน่ะสิ? ถ้าลงเรือลำเดียวกันสภาพก็เปลี่ยนแล้ว ยังไงก็มาเกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็ต้องเอาให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเนอะ อีกอย่างสองคนนั้นก็เรียกอยู่บ่อย ๆ ด้วยสิ]

 

มิยุตอบออกมาอย่างไม่ลังเล

ขณะที่กำลังจะถูกต้อนจนมุมฮิโรก็ก็พูดออกมาด้วยความกังวล

 

[แต่ว่าถ้าอยู่ ๆ มาเรียกชื่อต้นกันแบบนนี้ ที่โรงเรียนจะไม่สงสัยเอาเหรอ?]

[เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าฉันกับฮิโรกิเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเรียนมอต้นที่เดียวกัน ถ้าอยู่ห้องเดียวกันอธิบายนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว]

[ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ…]

[ก็แบบนั้นแหละ! ยังมากเรื่องไม่เปลี่ยนเลยนะ]

[ทางนั้นเถอะ ยังหยาบกร้านไม่เปลี่ยนเลยนะ]

[โธ่ หนวกหูน่า อย่ามาทำตัวเป็นแฟนเหอะ!]

 

อยู่ดี ๆ หน้าก็พลันเป็นสีแดงทั้ง ๆ แบบนั้น

 

[ไม่ใช่สิ จะดูยังไงก็เหมือนเพื่อนสมัยเด็กกันเฉย ๆ นี่…]

 

ฮิโรกิยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติในขณะที่พูด

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อนสมัยเด็กได้เล็กน้อยแล้ว

เพราะแบบนั้นจึงได้ตัดสินใจหลับตาลงพลางคิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้

และด้วยเหตุนี้ฮิโรกิจึงได้รับบทบาทในการเป็นผู้จัดการของยูนิตสตรีมเมอร์ (MICHIKA) ทั้งสามคน

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4

Now you are reading 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) Chapter 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[ว่าแล้วเชียว สถานที่ไลฟ์อยู่ในของเธอจริงด้วย]

 

ฮิโรกิมองไปรอบ ๆ ห้องของเพื่อนสมัยเด็กที่ไม่ได้มานานและส่งเสียงออกมาด้วยความประทับใจ

ห้องขนาดกว้างขวางสำหรับอยู่ได้หนึ่งคน พื้นห้องเป็นสีเรียบ ภายในประกอบไปด้วยเตียงนอน โต๊ะสำหรับไว้คอมพิวเตอร์และยังคงความธรรมดา ๆ ของห้องไว้ หากแต่บนกำแพงมีโปสเตอร์ของตัวละครต่าง ๆ ติดอยู่พร้อมกับมีฟิกเกอร์ของสาวสวยอยู่ส่งให้บรรยากาศดูแปลก

แต่ว่าสิ่งที่ฮิโรกิติดใจไม่ใช่เรื่องนั้น

ตอนนี้ตรงหน้าของฮิโรกิประกอบไปด้วยมิยุ จินัตสึและคานอน────แฟนเก่าที่เคยคบด้วยทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ ภาพที่เห็นตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอก

อย่างที่คิดว่าทุกคนนั้นน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวจริงยิ่งกว่าในจอเสียอีก

แต่ฮิโรกิก็ไม่ได้สบายใจเฉิบขนาดว่าจะมานั่งสรรเสริญได้

หากให้พูดตรง ๆ คืออยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เหตุผลคือไม่ว่าจะตกลงปลงใจเลิกกันด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้สถานะก็ยังคงเป็น 「แฟนเก่า」 อยู่ไม่เปลี่ยน

พวกเธอก็คงจะมีเรื่องบางอย่างที่เก็บไว้ในใจไม่ได้พูดออกมา เพราะตัวเขาเองยังคงจำบรรยากาศเหล่านั้นได้อยู่

 

[[[…]]]

 

ตอนนี้ทั้งสามคนหันหลบหน้าด้วยอาการกระอักกระอ่วน ส่วนฮิโรกินั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี

เพียงแต่จะอยู่แบบนี้ตลอดไปคงจะไม่ได้ ฮิโรกิจึงเริ่มพูดก่อน

 

[คือว่า อยากจะถามเกี่ยวกับไลฟ์หน่อยน่ะ]

 

เมื่อตัดสินใจพูดทั้งสามคนจึงหันสายตามาทางนี้

จากนั้นคำกล่าวที่ต้องการจะยืนยันบางอย่างของฮิโรกิจึงดำเนินต่อ

 

[ก่อนอื่นขอพูดความรู้สึกตรง ๆ นะ ฉันรู้สึกคัดค้านการไลฟ์ของพวกคุณมิซึซาวะทั้งสามคน]

[────อึก!]

 

ขณะที่อีกสองคนหันสายตาหนีอย่างกระอักกระอ่วนอีกคร้ง มีเพียงมิยุที่ยังจ้องกลับมาตาเขม็ง

 

[ทำไมละ? ไม่เกี่ยวอะไรกับฮาชิมะคุงนี่]

[เกี่ยวสิ สมาชิกแบบนี้น่ะมีความเป็นไปได้ว่าจะพูดชื่อฉันออกมาเหมือนครั้งนี้อีกไง]

[รบกวนชีวิตว่างั้น?]

 

พอมิยุถามตรง ๆ กลับมาฮิโรกิก็หลบสายตากล่าวตอบ

 

[ถ้าให้พูดอ้อม ๆ ก็คือใช่ อีกอย่างการคุยเรื่องแบบนี้มันทำให้อึดอัดน่ะ]

[ก็ไม่ต้องดูสิ]

[ไม่สิ ปกติถ้ารู้แล้วก็ต้องสงสัยสิ…อีกอย่างห้องเรียนวุ่นวายขนาดนั้นจะทำเมินได้ไง]

 

พอได้ฟังความตรงไปตรงมาของฮิโรกิ มิยุที่อารมณ์เสียก็เอาหน้าซุกหัวเข่า

ท่าทางแบบนั้นคือสิ่งที่มิยุทำประจำเวลาไม่พอใจ ดูท่าทางจะยังไม่เลิกนิสัยนี้

แต่มิยุก็เงยหน้าขึ้นมาทันที

 

[แต่ทางนี้ก็ถอยไม่ได้แล้วเหมือนกัน จากเรื่องเมื่อกี้ทำให้เราโดนตัดทางเลือกไปหมดแล้ว]

[หมายความว่าไง?]

 

มิยุที่มองฮิโรกิเอียงคอสงสัยก็ยิ้มตอบกลับมา

 

[หลังจากนี้พวกเรา (MICHIKA) ทั้งสามคนจะเป็นยูนิตสตรีมเมอร์ที่ไลฟ์ในฐานะที่เคยมีแฟนเก่าคนเดียวกัน]

[หา…เรื่องแบบนั้นทำได้จริงเหรอ?]

 

เมื่อได้ฟังเรื่องอันน่าตกใจ ฮิโรกิพลันรู้สึกขุ่นมัว

จริงอยู่ที่ว่าอีกไม่ช้าก็เร็วคงรู้กันไปทั่วว่าพวกมิยุทั้งสามคนเคยคบกับคนเดียว ๆ กันมาก่อน แต่การจะทำให้เป็นเชิงโฆษณาใหญ่โตในลักษณะนั้นอาจดูเหนือความคาดหมายเกินไป

จุดนั้นมิยุที่ยังคงยิ้มอยู่ก็ตอบกลับมา

 

[แต่แรกที่มารวมกันก็สำเร็จไปด้วยดีนี่ เรื่องแฟนเก่าก็เป็นประเด็นร้อนด้วย อีกอย่างจดร่วมของพวกเราก็มีแค่นี้ กลับกันไม่เห็นจำเป็นต้องซ่อนสักนิด หลังจากนี้แค่เติบโตไปพร้อมกันก็พอ]

[งั้นคุณจินัตสึกับคานอนจังยอมตกลงแล้วเหรอ?]

 

ทั้งสองคนที่ถูกถามโดยไม่ตั้งใจก็พยักหน้าลงเล็กน้อย

 

[ถ้าบอกว่าจะลองดูก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่น่ะนะ ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็เป็นความรับผิดชอบของเราเองด้วย]

[คะ คือหนูเองก็ตั้งใจแบบนั้นค่ะ …อีกอย่างความทรงจำที่มีกับรุ่นพี่ก็ไม่มีอะไรที่น่าเศร้าใจเลยนะคะ]

[ทั้งสองคน…]

[เท่านี้ก็รับได้แล้วใช่ไหม?]

 

เมื่อทั้งสองคนตอบยินยอมแล้ว มิยุจึงกล่าวออกมาด้วยความแข็งขัน

แต่ความคิดของฮิโรกิก็ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

 

[จะยอมรับได้ยังไง สุดท้ายแล้วความเสี่ยงที่ชื่อของฉันจะถูกเผยแพร่ออกไปก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนี่]

[นั่นมันก็…]

 

ไม่ใช่แค่มิยุแต่จินัตสึกับคานอนก็ทำหน้าอึดอัด

ฮิโรกิจึงลุกขึ้นมาแล้วพูดต่อ

 

[อีกอยากนีงที่ต้องพูดตรง ๆ คือฉันเป็นห่วงความเป็นส่วนตัวของพวกเธอสามคน ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นคนพูดเองก็เถอะ────เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]

 

หลังจากพูดเรื่องที่ควรพูดหมดแล้วฮิโรกิก็หันหลังออกจากห้องไป

อาจจะพูดแรงไปหน่อย แต่ความรู้สึกที่เป็นห่วงทั้งสามคนนั้นเป็นของจริง

ดังนั้นฮิโรกิจึงอยากให้พิจารณาเรื่องนี้อีกทีนึงโดยรวมเรื่องของตัวเองไปด้วย

────ติ๊ง

มีข้อความใหม่ส่งมาให้ฮิโรกิที่กำลังติวหนังสืออยู่ในห้องตัวเอง

คนที่ส่งคือมิยุ เนื้อหาคืออยากให้มาที่ส่วนสาธารณะแถวบ้าน หลังจากตอนนั้นก็ผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมงแล้ว คาดว่าคงประชุมกันเรียบร้อยแล้วกระมัง

พอออกไปข้างนอกหลังจากตอบกลับความว่าจะไป พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว

สวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสงบนั้นเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง

เพราะไม่อยากจะให้อีกฝ่ายต้องรอจึงรีบไป เมื่อมาถึงก็พบว่ามิยุกำลังแกว่งชิงช้าอยู่คนเดียว เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นประกอบไปด้วยสไลเดอร์ จังเกิ้ลยิมและสปริงรูปร่างสัตว์ตัวเล็ก ๆ  

 

[เหมือนจะประชุมกันเสร็จแล้วสินะ]

 

เมื่อฮิโรกิเข้ามาใกล้แล้วส่งเสียงมิยุก็หยุดเล่นชิงช้าแล้วลุกขึ้นมา

มองหน้ามาตรง ๆ แล้วจึงพยักหน้าเล็กน้อย

 

[ทั้งสองคนยอมรับข้อเสนอของฉันแล้ว]

[ข้อเสนอ?]

 

ฮิโรกิเอียงคอสงสัย ส่วนมิยุทำสีหน้าจริงจังและกล่าวออกมาตามตรง  

 

[ไม่ว่าพวกเราจะระวังตัวตอนไลฟ์แค่ไหนฮาชิมะคุงก็คงยอมรับไม่ได้ เพราะแบบนั้นจึงตัดสินใจได้────ว่าตรงจุดนั้นก็ให้ฮาชิมะคุงเข้าร่วมด้วยเลย]

[…ห๊ะ?]

 

เมื่อได้ฟังเนื้อหาที่ไม่คาดคิดออกมาตามตรง หัวของฮิโรกิก็ช็อตไปตรงนั้น

และมิยุก็พูดต่อราวกับจะตอกย้ำฮิโรกิ

 

[แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้จะบอกให้ฮาชิมะคุงมาอยู่ในไลฟ์หรอก แค่มาเป็นผู้จัดการคอยสนับสนุน (MICHIKA) ก็พอ]

[ไม่สิ เรื่องที่อยากฟังไม่ใช่เรื่องนั้น…แล้วคุยกันยังไงถึงได้ออกมาเป็นงี้น่ะ?]

[ก็ฮาชิมะคุงกลัวชื่อจริงหลุดใช่ไหม? ถ้างั้นฮาชิมะคุงก็มาช่วยกันสิ คิดแบบนั้นกันน่ะ เป็นไง ไอเดียดีไหม?]

 

มิยุกล่าวสิ่งที่คิดว่าเป็นความคิดที่ดีออกมาด้วยท่าทางมีชัย

 

[ก็จริงที่ถ้าทำแบบนั้นโอกาสที่พลาดก็จะน้อยลง แต่ว่าถ้าฉันไปอยู่ตรงนั้นด้วยจะไม่เสี่ยงกว่าเหรอ?]

[ตรงจุดนั้นก็เป็นหน้าที่ของฮาชิมะคุงไง────ว่าไปจะไม่ปฏิเสธเพราะว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะอึดอัดเหรอ?]

[เรื่องนั้นก็ด้วย เพราะว่าเป็นแฟนเก่าหมดเลยนี่]

[หวา─ ไม่ปฏิเสธด้วย แถมยังพูดตรง ๆ อีก]

[ทางนั้นเถอะ ไม่อยากอยู่ใกล้ฉันไม่ใช่หรือไงน่ะ?]

 

มิยุจึงยิ้มและตอบกลับมาด้วยคำพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ  

 

[ฉันเคยพูดแบบนั้นเมื่อไหร่เหรอ?]

[ไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ก็พูดมานี่ อย่างให้เรียกชื่อกันเหมือนเป็นคนแปลกหน้า หรือไม่ให้คุยกันอะไรงี้]

[นั่นมันก็…จะบอกว่าไม่ได้จะหมายความแบบนั้นหรือยังไงดี]

 

เมื่อเห็นมิยุทำท่าอ้ำ ๆ อึ้ง  ๆ ทางฮิโรกิก็รู้สึกสติหลุดขึ้นมา

 

[หา…? ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ฉันไม่เป็นผู้จัดการให้หรอก แย่หน่อยนะที่ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะคอยตามแฟนเก่าที่เกลียดตัวเองต้อย ๆ หรอกนะ]

[ยังไงก็ไม่เหรอ?]

[ตื้อจริงเฮ้ย]

[งั้นเหรอ]

 

ฮิโรกิที่รู้สึกประทับใจว่ายอมถอนไปอย่างง่ายได้นั้น ด้านมิยุกลับกอดอกและพูดโพล่งขึ้นมาต่อ

 

[ถ้างั้นก็จะไม่พูดอะไรแล้ว ถึงจะคิดมาเพื่อฮาชิมะคุงก็ตามแต่ปฏิเสธขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันเองก็จะระวังไว้ แต่จะจัดการทั้งสองคนนั้นได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ด้วยน้า~ แล้วถ้าเกิดดังไปมากกว่านี้ละก็ ความเสี่ยงที่ชื่อจริงจะหลุดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปอีกนะ~ ────แหม แต่ตรงนั้นก็จะพยายามนะ─คะ]

[นี่ แนวคิดนั่นอย่างแย่เลยนะ…]

[ไม่รู้สิ~ ยังไงก็กันนะ? แต่ว่าฮาชิมะคุงก็พูดเองนี่ว่า 「เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]

[อึก…นั่นมัน พูดไว้จริง ๆ แหละ]

 

ป่านนี้ก็สายไปแล้ว ฮิโรกินึกเสียใจกับคำพูดของตัวเอง

อาจจะเรียกได้ว่าอ่อนหัดเกินไปในการต่อกรกับมิยุ เขาประเมินความพยาบาทของมิยุต่ำไป

ดังนั้นถึงแม้ฮิโรกิจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ถามยืนยันบางอย่างที่ตัวเองติดใจ

 

[ตอนนี้ฉันมีสามอย่างที่อยากจะถาม────ก่อนอื่นเลยคุณมิซึซาวะ รวมถึงคุณจินัตสึกับคานอนจังจะไม่ว่าอะไรที่ฉันจะเข้าไปร่วมด้วยจริง ๆ เหรอ?]

[ไม่อยู่แล้วสิ ตอนแรกที่ฉันเสนอกับสองคนนั้น ทั้งคู่ก็ตอบโอเคมาคำเดียวเลย]

 

ฮิโรกิรู้สึกผิดคาดที่ตอบมาในทันที แต่ก็ยังคงถามต่อ

 

[ถ้างั้นแล้ว จะบอกว่าเป็นข้อสงสัยของฉันเองดี หรือแค่ติดใจเฉย ๆ ดี…แต่พอรู้เรื่องที่คุณจินัตสึกับคานอนจังเป็นแฟนเก่าฉันขึ้นมาคุณมิซึซาวะก็เลยติดต่อไปเหรอ? ทั้งสองคนไม่น่าจะเป็นคนที่พูดเรื่องพวกนี้ด้วยสิ ไปรู้มาได้ยังไงกัน?]

 

หลังจบคำถามมิยุก็ตอบมาทันทีโดยไม่ลังเล

 

[แหม ติดใจอยู่สินะ จะบอกว่าคำตอบก็ง่ายนิดเดียว บางทีก็ไปเห็นว่าฮาชิมะคุงไปเดตกับทั้งสองคนอยู่บ้างน่ะ]

[เป็นงั้นหรอกเหรอ…]

[เห็นเพื่อนบ้านอินเลิฟแบบนั้นถึงไม่อยากก็ต้องรู้แล้วสิ แถมตอนเลิกกันก็เดาง่ายด้วย คนนึงเป็นรุ่นน้องคนดังที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันส่วนอีกคนเป็นสาวน่ารักอย่างกับนางแบบ แค่เห็นหน้าค่าตาก็รู้ได้ทันทีเลย ถึงตอนแรกจะตกใจหน่อยก็เถอะ]

[งี้นี่เอง…]

 

พอได้ฟังเรื่องนี้ด้วยตัวเองฮิโรกิก็รู้สึกว่าเป็นข้อมูลที่น่าอายไปหน่อย ทั้งทีคิดว่าไม่น่าจะทำตัวออกนอกหน้าขนาดนั้นแท้ ๆ ส่วนเรื่องที่มาเล่นอยู่แถวบ้านบ่อย ๆ ส่วนนี้เป็นเรื่องจริง

พอมิยุเห็นฮิโรกิกำลังกระอักกระอ่วนจึงถามขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด

 

[ไงต่อ? เหลืออีกคำถามนึงนี่]

[อ๊ะ อ๋อ────งั้นคำถามสุดท้าย ถ้าหากมีจุดประสงค์หรือเหตุผลที่ทั้งสามคนมาไลฟ์ด้วยกันอยู่ละก็ อยากจะให้บอกฉันน่ะ]

 

หลังสิ้นคำถามมิยุใช้เวลาคิดเล็กน้อยจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา

 

[ที่ฉันนึกชวนทั้งสองคนมาไลฟ์ด้วยกันก็แค่เพราะคิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง เป็นแฟนเก่าของฮาชิมะคุงเหมือนกันด้วยก็เลยคิดว่าอาจจะคุ้มค่าได้น่ะส่วนจุดประสงค์เนี่ยอาจจะเรียกว่าเป็นเป้าหมายมากกว่า คือฉันคิดว่าอยากจะเป็นสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักหน้าค่าตาเยอะ ๆ น่ะ ส่วนอีกสองคนต้องไปฟังจากเจ้าตัวเองนะ]

 

────คิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง  

เมื่อได้ฟังคำนั้นใจของฮิโรกิก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะ

อีกอย่างมิยุที่เป็นคนธรรมนั้นกลับมีเป้าหมายชัดเจน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อยากจะคอยสนับสนุน

ดังนั้นเมื่อได้ฟังคำของมิยุ ฮิโรกิจึงได้ตัดสินใจ

 

[…เข้าใจแล้ว  งั้นมาลุยกันสิ ลุยกัน]

 

เมื่อสิ้นคำกล่าวมิยุก็หน้าพลันสดใส

 

[เอาจริงอะ? สำเร็จ!]

 

มิยุที่ดีใจแบบสุดนั้น ยังคงยิ้มออกมาพร้อมกับพูดต่อ

 

[ถ้างั้นขอฝากตัวด้วยนะ ฮิโรกิ!]

[เอ๊ะ? เมื่อกี้เรียกชื่อต้นฉันเหรอ…?]

[ก็เรียกน่ะสิ? ถ้าลงเรือลำเดียวกันสภาพก็เปลี่ยนแล้ว ยังไงก็มาเกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็ต้องเอาให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเนอะ อีกอย่างสองคนนั้นก็เรียกอยู่บ่อย ๆ ด้วยสิ]

 

มิยุตอบออกมาอย่างไม่ลังเล

ขณะที่กำลังจะถูกต้อนจนมุมฮิโรก็ก็พูดออกมาด้วยความกังวล

 

[แต่ว่าถ้าอยู่ ๆ มาเรียกชื่อต้นกันแบบนนี้ ที่โรงเรียนจะไม่สงสัยเอาเหรอ?]

[เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าฉันกับฮิโรกิเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเรียนมอต้นที่เดียวกัน ถ้าอยู่ห้องเดียวกันอธิบายนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว]

[ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ…]

[ก็แบบนั้นแหละ! ยังมากเรื่องไม่เปลี่ยนเลยนะ]

[ทางนั้นเถอะ ยังหยาบกร้านไม่เปลี่ยนเลยนะ]

[โธ่ หนวกหูน่า อย่ามาทำตัวเป็นแฟนเหอะ!]

 

อยู่ดี ๆ หน้าก็พลันเป็นสีแดงทั้ง ๆ แบบนั้น

 

[ไม่ใช่สิ จะดูยังไงก็เหมือนเพื่อนสมัยเด็กกันเฉย ๆ นี่…]

 

ฮิโรกิยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติในขณะที่พูด

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อนสมัยเด็กได้เล็กน้อยแล้ว

เพราะแบบนั้นจึงได้ตัดสินใจหลับตาลงพลางคิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้

และด้วยเหตุนี้ฮิโรกิจึงได้รับบทบาทในการเป็นผู้จัดการของยูนิตสตรีมเมอร์ (MICHIKA) ทั้งสามคน

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+