Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! 87

Now you are reading Don’t Heal the Others เล่นเกมออนไลน์ อย่าไปฮีลมันเลย! Chapter 87 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อย่าเสียเวลากับแนวหลังมากนักน่า พวกนักบวชช่วยเหลือแนวหน้าต่อไป ยอดฝีมือแห่งการรักษาฝากจัดการพวกรากด้วย คุณไนท์คูเออร์กลับมาช่วยแนวหลังแล้วกันครับ”

 

เหลาซวีที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นรีบขัดคอ ต้องขอบคุณที่มุมที่เขาตายนั้นยังสามารถเห็นสถานการณ์ต่างๆได้ชัดเจน ทำให้เขาทราบว่าเสี่ยวเฟิงนั้นสามารถหาจุดอ่อนของบอสได้แล้ว

 

นักบวชจึงหันไปสนับสนุนแนวหน้าต่อทันที รอบนี้เสี่ยวเฟิงช่วยรักษาให้กับไนฟด้วยเป็นเวลาเดียวกับที่ไนท์คูเออร์ถอยลงมาตามคำสั่ง

 

“?”

 

ไนท์คูเออร์ไม่เข้าใจว่าทำให้เหลาฉีถึงสั่งให้เธอถอยกลับมา

 

ท่านไนท์คูเออร์บอสจะทำการโจมตีด้วยรากใส่คนที่อยู่แนวหลังแต่มันไม่มีพลังป้องกันเลย ทำให้ยังคงสร้างความเสียหายได้เหมือนเดิมเพราะงั้น ช่วยจัดการพวกรากและคุ้มกันคนที่อยู่แนวหลังที” เหลาซวีรีบอธิบายทันที

 

เพราะเธอใส่หน้ากากเลยมองไม่เห็นสีหน้าแต่เธอก็ตอบรับด้วยการพยักหน้า แต่อยู่ๆเธอก็ถอยไปด้านหลัง แล้วรากก็พุ่งขึ้นมาโจมตีเธอในจุดที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่

 

ไนท์คูเออร์ฟันมีดลงไปอย่างไม่ลังเล

 

“-344! คริติคอล!”

 

ความเสียหายนั้นมหาศาลมากรากนั้นสลายในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นมันเหมือนเป็นการดึงดูดความสนใจของบอส

 

“มันได้ผล!”

 

ดวงตาของผู้เล่นทุกคนเบิกกว้างทันที

 

“ระวังด้วย! บอสมันจะใช้สกิลพิษอัคคีแล้ว!”

 

จากการโจมตีก่อนหน้าทำให้พลังชีวิตของบอสลดลงไปเกือบๆ 10% ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากกว่าเดิมทำให้ความเสัยหายที่ทำได้นั้นมากขึ้นอย่างมาก แต่ผู้เล่นแนวหน้าก็ตะฏกนเตือนมาในทันที

 

ทันทีที่พลังชีวิตของมันลดลงไปเหลือ 90% ก็มีสัฐลักษณ์รูปไฟสีดำปรากฎบนหัวของไนฟที่กำลังต้านการโจมตีของบอสอยู่ แล้วตัวของเขาก็ถูกหมอกสีแดงเข้าปกคลุมทันที

 

“ถอยออกมาเร็ว! ถ้าโดนสกิลนั้นเข้าไปนายจะถูกบอสโจมตีแรงขึ้น! นายจะตายภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียวเลยนะ!”

 

อันที่จริงนั้นไนฟรู้ตัวมาซักพักแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกกติ พลังชีวิตของเขาลดลงอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่ชวนผวา

 

“ชิบหายแล้ว!”

 

ไนฟรีบถอยมาที่แนวหลังทันที เสี่ยวเฟิงใช้สกิลชำระล้างให้กับไนฟ แล้วสัญลักษณ์รูปไฟบนหัวของเขาก็หายไปในทันที

 

“ชำระล้าง!”

 

“อะไรนะ? สกิลชำระล้าง?”

 

“ยอดฝีมือแห่งการรักษามีสกิลชำระล้าง!”

 

คนตรงนั้นรวมทั้งเหลาซวีก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าเสี่ยวเฟิงจะมีสกิลแบบนี้ด้วย

 

“คงต้องเป็นผู้เล่นระดับสูงสินะ! ขอบใจมาก!”

 

ไนฟพบว่าพลังชีวิตของตัวเองฟื้นขึ้นมาแล้วก็เอามือทาบอก อีกด้านซื๋ออี๋กำลังช่วยเพิ่มบัฟให้อยู่ แล้วเขาก็พุ่งเข้าโจมตีบอสต่อด้วยกำลังใจที่หึกเหิม

 

“ตั้งแต่ที่มีสกิลชำระล้างบอสตัวนี้ก็ง่ายขึ้นเป็นกองเลยแหะ!”

 

เหลาซวีพูดขึ้นมา คนอื่นๆก็หึกเหิมด้วยพลังโจมตีอันมหาศาลของไนท์คูเออร์และการสนับสนุนของเสี่ยวเฟิง พลังโจมตีของพวกเขาเริ่มที่จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ในเมื่อสกิลที่อันตรายที่สุดนั้นไร้พิษสงไปแล้ว และบอสไม่สามารถขยับได้ ทำให้พวกเขามีจังหวะในการหลบสกิลอื่นๆเยอะมาก ระหว่างนั้นเสี่ยวเฟิงและไนท์คูเออร์ก็เคยประคองทุกคนในแนวหลังไว้ พลังชีวิตของบอสหายไปครึ่งนึงแล้ว.

 

ด้วยพลังโจมตีและอัตราคริติคอลที่สูงมากๆของไนท์คูเออร์เธอสามารถลดพลังชีวิตของบอสได้ครั้งละ 15% เลยทีเดียว

 

“ระวังตัวด้วยนะ”

 

เหลาฉีเตือนพวกเขา เพราะตอนที่บอสพลังชีวิตลดลงถึง 50% ก็มีท่าทาบงที่ประหลาดๆ ร่างยักษ์ใหญ่ของมันปกคลุมด้วยหมอกสีแดงราวกับว่าจะลุกไหม้ได้ เหมือนกับว่ามันกำลังจะมีชีวิตขึ้นมา

 

หินจากเพดานของถ้พเริ่มถล่มลงมาเป็นลางที่ไม่ค่อยดีแล้ว

 

ทุกๆคนต่างหยุดมือแล้วก็มองไปทางพฤกษาเวทย์อัคคีโดยไม่วางตา

 

แล้วร่างใหญ่ยักษ์ของพฤกษาเวทย์อัคคีเคลื่อนที่ออกมาราวกับกำลังว่ายน้ำแล้วก็ค่อยๆหายไปในพื้นดิน

 

แล้วพื้นรอบข้างก็เริ่มแตกออกมารากไม้จำนวนมากก็แทรกพื้นดินราวกับเส้นเลือด

 

“ถอยออกมาเร็ว!”

 

ทุกๆคนต่างช็อคไปโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในแนวหลัง พวกเขาไม่คิดว่าจะเจอการโจมตีรอบทิศทางขนาดนี้แล้วทุกคนก็โดนโจมตีพร้อมๆกัน

 

คอนนี้ได้เวลาแสดงความสามารถส่วนตัวออกมาแล้ว เสี่ยวเฟิงถอยออกมาอย่างรวดเร็วเลยรอดออกไปได้อย่างชิวๆ แต่ทันทีนั้นเขาก็ขนวดคิ้วแล้วถอยออกมาอีกปรากฎว่ายังคงมีรากชุดที่ 2 ชุดที่ 3 พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาต่อ โดยไม่ให้เขาได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย

 

รากนั้นเพิ่มการโจมตีเป็น 3 ชุด พวกนักบวชที่รับมือไม่ทันก็ค่อยๆตายไปทีละคนๆ จากการที่โดนรากนั้นพันธนาการไว้ทำให้หนีไปไหนไม่ได้แล้วก็โดนความเสียหายที่รุนแรงถึงตายในครั้งเดียว

 

ซื๋ออี๋และโรสนั้นโชคดีที่อุปกรณ์ของทั้งคู่ดีพอสมควรทำให้รวดมาได้ แต่นักบวชหญิงคนอื่นๆนั้นตายหมดแล้วในชั่วพริบตา

 

แต่ว่าการโจมตีชุดที่ 2 นั้นก็ตามมาต่อทันที ทั้งซื๋ออี๋และโรสที่เพิ่งรอดมาได้ก็ตายตามไป รวมทั้งพวกนักธนูและนักเวทย์ที่อยู่แนวหลังด้วยพวกเขาถูกรากพันธนาการไว้ทำให้ตายในทันที

 

แล้วการโจมตีรอบที่ 3 ก็ยังคงตามมาอีก คนที่รอดมาจากรอบที่ 2 ได้ก็ตายตามคนอื่นๆไป

 

หลังจากการโจมตีสามระลอก รวมเสี่ยวเฟิงแล้วมีคนรอดกลับมาไม่ถึง 10 คนซะอีก

 

เสี่ยวเฟิงและนักธนูอายุ 17 เป็น 2 คนสุดท้ายของแนวหลังที่ยังรอดอยู่ ส่วนแนวหน้านั้นเหลือเพียงไนท์คูเออร์ พาลาดินแห่งการรักษา ไนฟ และนักรบที่เป็นสายป้องกันแค่ 2 คนเท่านั้น

 

การโจมตีที่บอสใช้นั้นนอกจากจะไม่มีความแน่นอนแล้ว ความเสียหายแต่ละครั้งนั้นเกินกว่า 100 หน่วย ไม่มีใครที่สามารถยืนรับการโจมตีระดับนั้นแล้วยังคงรอดได้แบบชิวๆหรอก นอกจากจะมีพลังป้องกันมากพอ

 

“ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 7 คนเท่านั้น”

 

ตอนนี้บอสหยุดการโจมตีแล้ว พาลาดินแห่งการรักษามองศพที่กองกันเกลื่อนกลาดก่อนจะพูดออกมา

 

ไนฟเลยถามขึ้น “เราถอยไปก่อนไหม? คนของเรารวมทั้งนักบวชตายกันไปเกือบหมดแล้วนะ”

 

ไนฟจ้องไปทางบอสแล้วเริ่มท้อแท้

 

“แต่เราก็ยังอยู่ถูกไหม? ตอนนี้เราถอยไม่ได้หรอก! เริ่มการโจมตีต่อไป!” พาลาดินแห่งการรักษาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

“นายผิดแล้วล่ะ! นักบวชยังตายไม่หมดซะหน่อย!” นักธนูอายุ 17 พูดตอนที่พบว่าเสี่ยวเฟิงยังรอดอยู่

 

“ยังสู้ไหวอยู่ตอนนี้เรายังยอมแพ้ไม่ได้! ถ่วงเวลาบอสไว้ก่อนแล้วคนอื่นๆจะรีบตามมาสมทบ”

 

เหลาซวีที่ยังไม่เกิดใหม่ซะทีเห็นด้วยกับพาลาดินแห่งการรักษา แล้วร่างของเขาก็กลายเป็นแสงไปเกิดใหม่ที่หน้าทางเข้าทันทีพร้อมกับคนอื่นๆที่ตายไป

 

“ถ่วงเวลาบอสไว้ให้นานที่สุด! รอให้คนอื่นกลับมาให้ได้!”

 

“เราต้องชิงลงมือก่อน ตอนนี้เรามีนักบวชอยู่ไม่โดนจัดการง่ายๆหรอก”

 

นักธนูอายุ 17 ส่ายหัวปฏิเสธแล้วโจมตีบอสต่อไป ตามกฎการคืนชีพของเกมนี้การตายในเขตพิเศษนั้นจะต้องไปเกิดใหม่ที่ด้านหน้าทางเข้าถ้าพวกเขายังสามารถถ่วงเวลาไว้ได้จนทุกคนกลับมาพวกเขาก็จะสามารถสู้ต่อได้ในทันที

 

แตา่มันก็ไม่ได้ง่ายๆเลย พวกเขาอาจจะตายก่อนก็เป็นได้ อย่างแรกเลยพลังโจมตีของบอสนั้นสูงมากๆ ด้วยจำนวนคนที่เหลืออยู่ 7 คนทำให้ตึงมือยิ่งกว่าเดิม อย่างที่ 2 เขตนี้นั้นค่อนข้างที่จะใหญ่ทำให้การมาสมทบนั้นใช้เวลานานมาก แถมอาจจะโดนมอนสเอตร์ที่อยู่ตามทางฆ่าเอาอีก ดังนั้นพวกเขาอีก 7 คนที่เหลือยิ่งต้องถ่วงเวลาออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

แล้วถ้าพวกเขาถูกฆ่าหมดทุกคนพลังชีวิตของบอสก็จะกลับมาเต็มอีกครั้งแล้วจะต้อบงเริ่มทุกกอย่างใหม่หมดตั้งแต่แรก

 

แล้วพวกเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ

 

แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะสำเร็จอยู่ เพราะพวกเขาอีก 7 คนที่เหลือคือผู้เล่นแนวหน้าของเกมนี้ทุกคน

 

พวกเขาเริ่มเ้ขาโจมตีอีดครั้งแต่ไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้า เพราะตอนนี้พวกเขาเหลือนักบวชคอยช่วยเหลือแค่คนเดียวเท่านั้นและคนๆเดียวไม่สามารถใช้บัฟหรือเพิ่มพลังชีวิตให้กับทุกคนพร้อมๆกันได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาห้ามโดนโจมตีเป็นอันขาดจึงต้องทุ่มกำลังไปกับการเลี่ยงความเสียหายมากกว่าที่จะโจมตี

 

เสี่ยวเฟิงนั้นหลบอยู่ด้านหลังแล้วคอยดูทุกคนในแนวหน้าหากใครต้องการความช่วยเหลือ หลังจากลังเลอยู่ซักพัก เขาก็ไม่ได้บัฟพรแห่งชีวิตให้กับคนอื่นๆ แต่เลือกที่จะหยิบโทเทมกระทิงทองขึ้นมาใช้บัฟเสริมอาวุธให้กับตัวเอง

 

เสี่ยวเฟิงตอนนี้มีเลเวล 13 หลังจากใช้บัฟแล้วพลังโจมตีจาก 98 ขึ้นมา 110 และด้วยพลจากพรกายาศักดิ์สิทธิ์ผลของมันก็เพิ่มเป็น 2 เท่าขึ้นมาอีก 220!

 

ตอนนี้พลังโจมตีของเขาเองอยู่ที่ 330 เป็นตัวเลขที่ชวนผวามาก!

 

“โครม!”

 

ตอนนั้นรากไม้ก็พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาพอดี เขาถอยหลังหลบแล้วใช้จังหวะนั้นฟาดสวนลงไปที่รากไม้นั้น

 

“-660! คริติคอล!”

 

เลขความเสียหายอันมหาศาลนั้นปรากฎขึ้นบนตัวของบอส แต่ไม่มีใครสนใจเพราะมันแต่มีสมาธิกับการต่อสู้ของตัวเอง

 

หลังจากฟาดไป 1 ครั้งเขารีบเปลี่ยนอาวุธกลับมาเป็นคทาแห่งการรักษาแล้วใช้สกิลเพิ่มพัลงชีวิตให้กับไนฟ แล้วก็กลับมาสวมโทเทมกระทิงทองแล้วมองไปที่พื้น้พื่อโจมตีรากไม้อันต่อไป.

 

“เกิดอะไรขึ้น? พลังชีวิตของบอสลดลงไปอยู่ที่ 60%! นี่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด