Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง 213

Now you are reading Grasping Evil จักรพรรดิปีศาจหนิง Chapter 213 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำกล่าวของหนิงฝานฟังดูอวดดี ถึงกับจะสังหารจ้าวหอคอยโอสถทั้ง 3 เพื่อชิงตำแหน่ง

 

แต่ถึงจะอวดดี ด้วยชื่อเสียงของซัวหมิงก็ทำให้ผู้คนเชื่อถือ ทั้งยังคู่ควรให้เย่อหยิ่งอวดดี!

 

คาดไม่ถึงว่าจากการล้างแค้นของยู่หลง จะกลายเป็นแบบนี้

 

และยังคาดไม่ถึงว่าซัวหมิงจะแสดงฝีมือ…

 

หนิงฝานต้องการตำแหน่งจ้าวหอคอยโอสถเหนือ ตะวันออก และตะวันตกทั้งหมด

 

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้หนิงฝานขบคิดบางสิ่ง

 

ตนเองขัดแย้งกับหอคอยโอสถเหนือ หอคอยโอสถเหนือยังไม่รู้ว่าหนิงฝานเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 อีกไม่นานเรื่องราวที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น แต่เหตุใดผู้นำวิหารสาบสูญถึงยังไม่ปรากฏตัว

 

แต่หากมันรู้ว่าหนิงฝานคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 มันยิ่งต้องมา

 

ขนาดหนิงฝานกล่าวว่าจะช่วงชิงตำแหน่งจ้าวหอคอยโอสถ มันก็ยังไม่มา

 

นั่นหมายความว่า เรื่องนี้มีเหตุผลแอบแฝงบางอย่าง

 

สิ่งที่หนิงฝานพอจะเดาได้คือ เป่ยเซี่ยวเหมิน อาจจะอยากให้หนิงฝานสังหารพวกมัน

 

อาจเป็นไปได้ว่า จ้าวหอคอยทั้ง 3 ทำให้วิหาญสาบสูญไม่พอใจ

 

ลู่ชิงน่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเป่ยเซี่ยวเหมิน

 

ส่วนจ้าวหอคอยทั้งสามสมควรเป็นนักปรุงโอสถในทะเลส่วนนอก ไม่ก็คนที่วิหารพิรุณส่งมา

 

หรือไม่ พวกมันทั้ง 3 คนอาจเป็นคนของขุมกำลังใดขุมกำลังหนึ่งที่เป็นศัตรูกับลู่ชิง พูดง่ายๆคือวิหารสาบสูญอยากกำจัดพวกมันทิ้ง ลู่ชิงจึงไม่สอดมือ ถือเป็นการยืมมีดฆ่าคน

 

หากไม่ใช่วิธีนี้ มันก็ไม่อาจทำอะไรอย่างไร้เหตุผลได้ มันจึงต้องจำยอมให้จ้าวหอคอยทั้ง 3 รั้งตำแหน่งต่อไป

 

ลู่ชิงอาจรู้ว่าหนิงฝานแข็งแกร่งกว่าพวกนั้น

 

ด้านหนิงฝานเอง อีกไม่นานก็ต้องเดินทางไปเข้าร่วมงานประมูลของนิกายปีศาจสำราญ แม้เขาจะไม่เห็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดอยู่ในสายตา แต่การเพิ่มพูนชื่อเสียงอย่างการสังหารคนเพิ่มก็นับเป็นเรื่องดี

 

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้จ้าวหอคอยทั้ง 3 ตระหนก

 

พวกมันล้วนหวั่นกับเพลิงชีพจรพิภพของหนิงฝาน

 

“ฮ่าฮ่า คาดไม่ถึงว่านอกจากเพลิงคราม ยังได้พบเพลิงกระดูกขาว และเพลิงปีศาจทมิฬ… หากข้าเจ้าได้ ภารกิจของพวกข้าที่มีต่อท่านหยานก็จะเสร็จสิ้น”

 

ท่านหยาน?

 

หนิงฝานขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะเดาถูก

 

ข่าวลือว่าท่านหยานแห่งวิหารพิรุณ ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 วิชาลับเพลิง ที่สามารถยกระดับการปรุงโอสถได้ด้วยการดูดกลืนเพลิง นอกจากนี้ ท่านหยานที่ว่ายังเป็นนักปรุงโอสถกิตติมศักดิ์ของวิหารสาบสูญ

 

ดังนั้น จ้าวหอคอยทั้งสามจึงเป็นคนของวิหารพิรุณ เป้าหมายของพวกมันคือเพลิงครามของเป่ยเซี่ยวเหมิน

 

หนิงฝานพอจะเดาได้ว่าทำไมเพลิงครามถึงอยู่กับเป่ยเซี่ยวเหมิน นั่นเพราะสถานะของลู่ชิงไม่อาจปกป้องเพลิงได้

 

ดังนั้น การสังหารจ้าวหอคอยทั้ง 3 จึงถือเป็นการช่วยเหลือวิหารสาบสูญในทางอ้อม

 

หากสังหารพวกมันได้ ลู่ชิงจะตระหนักถึงความแข็งแกร่งของหนิงฝาน เมื่อถึงยามนั้น เขาอาจได้เป็นผู้เชี่ยวชาญกิตติมศักดิ์ของวิหารสาบสูญ ต่อให้ขอเพลิงครามก็อาจไม่ยาก

 

“ดูเหมือนข้าต้องสู้กับพวกมันถึงตาย… เหว่ยเหลียง เจ้ารอข้าที่นี่ จำไว้…ว่าอย่ากินใครเด็ดขาด แล้วข้าจะรียกลับมา”

 

“แสง… เล็ก… หัวใจ…”

 

หนิงฝานลูบผมนางเบาๆ แล้วหันมองจ้าวหอคอยทั้ง 3 ด้วยสายตาเย็นชา

 

“เมืองเต่าทมิฬคงไม่เหมาะสู้รบ ตามข้าไปสู้ในทะเล!”

 

หนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเทามุ่งออกไป ความเร็วขงอเขาทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคนอื่นๆคาดไม่ถึง แม้เป็นจ้าวหอคอยทั้ง 3 ยังต้องขมวดคิ้ว

 

พวกมันหันมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างเผยสายตาที่โลภ เมื่อพวกมันพยักหน้าให้กัน ก็ทะยานไล่ตามหนิงฝานไปอย่างรวดเร็ว

 

ยามนี้ต่อให้ลู่ชิงสอดมือก็ไม่ทันแล้ว เพราะพวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครองเพลิงของหนิงฝาน

 

หากเป็นในแคว้น การกระทำเช่นนี้ถือเป็นสิ่งต้องห้าม แต่หากเป็นทะเลไร้สิ้นสุด ถือเป็นเรื่องปกติ

 

ณ ขอบนอกของทะเลส่วนนอก

 

สายลมพัดพา คลื่นทะเลสงบ ไร้ซึ่งเจตนาสังหาร

 

หนิงฝานร่อนลงผิวทะเล จ้าวหอคอยทั้ง 3 รายล้อม แต่ละคนอยู่ห่างจากหนิงฝานพันจ้าง

 

รอบรัศมีหมื่นลี้ ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ยังมีหลายคนที่เข้าใกล้เพื่อเฝ้าชมการต่อสู้

 

“ซัวหมิง ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ส่งเพลิงปีศาจทมิฬและเพลิงปีศาจกระดูกขาวมาซะ แล้วพวกข้าจะไม่ถือสาในสิ่งที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่”

 

“ไม่จำเป็น… วิหารสาบสูฐไม่ขัดขวางเรื่องที่ข้าจะสังหารพวกเจ้า พวกเจ้าดูไม่ออกเหรอ?”

 

“ทำไมจะดูไม่ออก? ลู่ชิงอยากยืมมือเจ้าสังหารพวกข้า แต่อย่างเจ้าคงไม่มีทางทำได้! ยังไงมันก็ต้องผิดหวังแน่นอน!”

 

จ้าหอคอยตะวันออกเผยแววตาเย็นชา พลิกหงายฝ่ามือจุดเพลิงครามปกคุลผืนฟ้ากว่าพันลี้ จนดูคล้ายกับดอกบัวขนาดยักษ์

 

เพลิงระดับ 4 เพลิงบัวหยก!

 

จ้าวหอคอยตะวันตกขมวดคิ้ว เปล่งเสียงคำราม เพลิงสีฟ้าปกคลุมผิวทะเลราวกับต้มทะเลจนเดือด

 

เพลิงระดับ 4 เพลิงสมุทร!

 

จ้าวหอคอยทุกคนล้วนเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 เหตุที่พวกมันมีปราณที่ทรงพลัง เพราะพวกมันฝึกปรุงโอสถมาตั้งแต่เด็ก ยามนี้ก็ผ่าน 1600 ปีแล้ว

 

ยิ่งด้วยเข้าร่วมวิหารพิรุณ สมุนไพรที่ใช้ปรุงโอสถจึงมีไม่ขาด ทำให้วิชาการปรุงโอสถของพวกมันไม่ธรรมดา ยิ่งต้องปรุงโอสถทุกวัน พวกมันยิ่งมีปราณที่ทรงพลังยิ่งกว่าผู้เชี่ยวทั่วไปมาก

 

แม้ทักษะการต่อสู้ของพวกมันจะไม่ได้เก่งกาจมากนัก แต่จุดแข็งของพวกมันอยู่ที่การควบคุมเพลิง

 

ในความคิดพวกมัน แม้หนิงฝานครอบครองเพลิงชีพจรพิภพ ที่เหนือกว่าพวกมันทั้ง 3 แต่หากผสานปราณและการควบคุมเข้าไปในเพลิง ก็น่าจะต่อกรเพลิงชีพจรพิภพได้

 

พวกมันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด การที่หนิงฝานเรียกพวกมันออกมาทะเลแบบนี้ ดูจะประมาทจนเกินไป

 

หากสถานที่แห่งนี้มีข่ายอาคมคอยหนุนเสริมหนิงฝาน สิ่งที่พวกมันตระเตรียมกันไว้คงพังไม่เป็นท่า แต่ที่นี่ไม่มีข่ายอาคม เพราะเมื่อครู่พวกมันทดสอบเผาพื้นที่โดยรอบดูแล้ว

 

นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้เยาว์เบื้องหน้าพวกมัน มั่นใจว่าจะสังหารพวกมันทั้ง 3 คนได้

 

เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง ที่เอาชนะผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดได้โดยบังเอิญ ยังมีหน้าคิดจะสู้กับพวกมัน หากมีจ้าวหอคอยแค่คนเดียวก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มีตั้ง 3 คน!

 

“ฮึ่ม! เด็กเอ๋ย… ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า จะบอกกล่าวถึงผู้ที่จะทำให้พวกข้าหวาดหวั่น ผู้ที่คอยหนุนหลังเจ้า ไม่อย่างนั้นหล่ะก็…” จ้าวหอคอยเหนือเย้ยหยัน พลางแอบโคจรเพลิงเพื่อลอบจู่โจม

 

แต่ในขณะที่มันยังไม่ได้ทันได้กล่าวจบ หนิงฝานกลับกล่าวขึ้น

 

“หนวกหู! ไม่เห็นจะเท่าไหร่!”

 

หนิงฝานกระทืบเท้าหนึ่งครั้ง!

 

น้ำแข็งที่ไม่ทราบที่มา ปกคลุมพื้นนับพันลี้!

 

การปรากฏของน้ำแข็ง ทำให้เพลิงแมงป่องม่วงของจ้าวหอคอยเหนือสั่นไหวและสลายไปอย่างช้าๆ

 

สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันตกตะลึงกับการจู่โจมหนิงฝาน

 

แต่ถึงจะตกตะลึงกับการตอบโต้ของหนิงฝาน แต่พวกมันไม่หวาดหวั่น!

 

“ร่วมมือกัน! วิชาเพลิง… เพลิงแมงป่องพิรุณ!”

 

“เพลิงดอกบัวพลิ้วไหว!”

 

“มหาสมุทรสี่ชั้น!”

 

พวกมันใช้วิชาเพลิงที่ทรงพลังที่สุดจู่โจม

 

วิชาระดับดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด ผสานกับปราณที่ทรงพลังจากผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ก็รับมือพวกมันไม่ได้ง่ายๆ

 

บนท้องนภา เพลิงแปรสภาพเป็นดอกบัวเพลิงขนาดยักษ์ราวกับมีชีวิต

 

เหนือผิวทะเล เพลิงสีฟ้าเคลื่อนไหวราวกับคลื่นทะเล 4 ชั้น ภายในอัดแน่นไปด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง

 

เพลิงสีน้ำตาลโปรยปรายราวกับพิรุณ เพลิงหนึ่งสายทรงพลังพอให้สังหารผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ

 

เปลวเพลิงที่ทรงพลังรายล้อมหนิงฝาน แต่เขากลับเผยสีหน้าเย้ยหยัน

 

เขาก้าวเดินไปเบื้องหน้า เปลวเพลิงสั่นไหว ราวกับพวกมันหวาดกลัว

 

“เพลิง… ธาตุที่แข็งแกร่ง…. จงเข้ามาในร่างของข้า”

 

หนิงฝานขมวดคิ้ว พลังสายหนึ่งแผ่ออกมาจากสร้อยหยินหยาง แปรเปลี่ยนตัวหนิงฝานกลายเป็นเหมือนวังวน

 

เพลิงของจ้าวหอคอยทั้งสามเริ่มถูกดูดกลืนเข้าสู่ร่างหนิงฝานผ่านทางปาก ลงสู่ท้อง แล้วดูดซับเข้าสู่สร้อยหยินหยาง

 

สร้อยหยินหยางไม่เกรงกลัวเพลิง!

 

ในอดีต หนิงฝานเคยใช้สร้อยหยินหยางดูดกลืนเอาเพลิงปีศาจทมิฬเข้ามา

 

แต่ยามนี้ หนิงฝานบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง หากไม่ใช่เพลิงระดับ 6 ก็ไม่คู่ควรเผยตนต่อนหน้าหนิงฝาน!

 

นั่นทำให้หนิงฝานไม่กลัวท่านหยานแห่งวิหารพิรุณ

 

ท่านหยานดูดซับเพลิงได้

 

หนิงฝานก็ดูดซับเพลิงมาหล่อเลี้ยงสร้อยหยินหยางได้เหมือนกัน!

 

เดิมทีสร้อยหยินหยางของหนิงฝานมีลักษณ์เป็นเหมือนอัญมณีสีโลหิต แต่หลังจากดูดซับเพลิงเข้ามา ซีกซ้ายของมันกลายเป็นสีแดงอ่อน ซีกขวากลายเป็นสีแดงเข้ม ราวกับแบ่งแยกเป็นหยินกับหยาง

 

ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ หนิงฝานก็ดูดซับเพลิงเข้าไปจนหมด!

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จ้าวหอคอยทั้งสามเสียวสันหลัง

 

เด็กคนนี้ดูดซับเพลิงของพวกมันเข้าไปได้ยังไง?

 

ขนาดท่านหยานยังทำไม่ได้ จะมีก็เพียงจ้าวแห่งเพลิงในตำนานที่ทำได้

 

หรือเด็กคนนี้จะมีเส้นลมปราณเทพโบราณ…เส้นลมปราณเพลิง!

 

หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกมันก็ไม่ควรยั่วยุ เพราะเทพกษัตริย์แห่งโลกพิรุณสั่งว่า ห้ามแตะต้องผู้ที่มีเส้นลมปราณเทพโบราณเด็ดขาด

 

พวกมันทั้งสามไม่มีเวลาให้ขบคิด เพราะยามนี้หนิงฝานได้โต้กลับแล้ว!

 

เปลวเพลิงจำนวนมหาศาลที่อยู่ในสร้อยหยินหยาง โคจรรวบรวมอยู่ที่ปลายนิ้วหนิงฝาน ผสานเข้ากับเพลิงกระดูกขาวและเพลิงปีศาจทมิฬ

 

“วังวนมังกรเพลิงที่ 9!”

 

น้ำเสียงที่หนิงฝานกล่าว ราวเสียงจากขุมนรก!

 

หนิงฝานชี้นิ้วไปยังพวกมัน 3 คน

 

เพลิงสีเทา 9 ชั้นรายล้อมพวกมันทั้ง 3 ก่อตัวสูงเสียดฟ้า

 

ทุกสิ่งในรัศมีพันลี้เดือดพล่าน

 

วังวนให้กำเนิดมังกรเพลิงสีเทาทั้งหมด 9 ตัว แต่ละตัวยาวร่วมพันลี้ และทรงพลังพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง

 

มังกร 2 ตัวเข้าจู่โจมจ้าวหอคอยเหนือและตะวันตก พวกมันรับมือได้อย่างยากลำบาก ส่วนมังกรอีก 7 ตัวเข้ารุมจู่โจมจ้าวหอคอยตะวันออกที่อ่อนแอที่สุด!

 

ในระหว่างที่มังกรเพลิงกำลังเข้าพัวพัน หนิงฝานคิดสังหารคนผู้หนึ่งก่อน เพราะอัตราความสำเร็จในการสังหารมันโดยสมบูรณ์มีมากที่สุด หากหนิงฝานลอบจู่โจม มันย่อมไม่อาจรับมือ

 

แล้วหนิงฝานก็อาศัยจังหวะที่เคลื่อนไหวกลืนไปกับสภาพแวดล้อมเพื่อลอบจู่โจม

 

จ้าวหอคอยเหนือเดาแผนของหนิงฝานออก

 

จ้าวหอคอยตะวันออกเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกมัน การที่หนิงฝานให้มังกรถึง 7 ตัวไปจู่โจม ให้ก็แสดงถึงเจตนาอย่างชัดเจน

 

เด็กคนนี้โหดเหี้ยม!

 

จ้าวหอคอยเหนือคำรามลั่น กัดปลายลิ้นพ่นแก่นโลหิตเสริมพลังและทำลายมังกรเพลิง

 

มังกรเพลิงเหล่านี้ทรงพลังพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง

 

มันเร่งมุ่งทะยานไปหาจ้าวหอคอยตะวันออก

 

“น้องสาม เจ้าไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยแล้ว!”

 

จ้าวหอคอยเหนือเข้าช่วยจ้าวหอคอยตะวันออกต่อกรกับมังกร แม้พวกมันจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ก็เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อย

 

จ้าวหอคอยตะวันตกที่เห็นจ้าวหอคอยตะวันออกอยู่ในอันตราย มันก็ขบกัดปลายลิ้น ทำลายมังกรเพลิงและมุ่งหน้าไปช่วยจ้าวหอคอยตะวันออก

 

แต่เงาร่างสายหนึ่งกลับปรากฏขึ้นด้านหลังของมันอย่างไร้ที่มา และกระหน่ำหมัดใส่แผ่นหลังของมันราวกับห่าพิรุณ!

 

เกราะระดับสูงสุดขั้นสูงคุ้มกายไม่อาจต้านรับหมัดจำนวนมากได้ เมื่อเกราะพังทะลาย จ้าวหอคอยตะวันตกร้องลั่น

 

หมัดของหนิงฝานกระหน่ำเข้าที่แผ่นหลังของมันจนยุบเข้าไปในร่างเล็กน้อย

 

จ้าวหอคอยตะวันตกตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าเป้าหมายของหนิงฝานจะเป็นมัน!

 

ทั้งยังคาดไม่ถึงว่าหมัดของหนิงฝานจะทรงพลังขนาดนี้

 

หมัดของครึ่งก้าวกระดูกหยก กระหน่ำใส่แผ่นหลัง เสียงกระทบดังสนั่นราวกับภูเขาถล่ม!

 

*อ๊อก!!*

 

จ้าวหอคอยตะวันตกบาดเจ็บสาหัส

 

จ้าวหอคอยเหนือและตะวันออกโกรธแค้นและตกตะลึง แม้พวกมันจะเข้าช่วยจ้าวหอคอยตะวันตกก็สายเกินไปแล้ว

 

ข่าวลือว่า ซัวหมิงมีระดับร่างกายอยู่เพียงขอบเขตกระดูกเงินขั้นแรก แต่ตอนนี้กลับเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็บรรลุกระดูกหยก หากบรรลุขั้นนั้น แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็สามารถต่อกรได้

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

จ้าว หอคอยตะวันตกเร่งนำสมบัติชิ้นหนึ่งออกมาแล้วฟาดเข้าใส่หนิงฝาน จากนั้นฉวยโอกาสหลบหนีอย่างรวดเร็ว

 

สมบัติที่ปรากฏคือเจดีย์ขนาดเล็กที่แข็ง และแฝงด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว

 

เจดีย์ขยายขนาดสูงใหญ่พันจ้าง ร่วงหล่นประทับเข้าใส่หนิงฝานอย่างรุนแรง

 

เจดีย์นี้เสริมด้วยวิชาพิเศษ ‘ทลายกฏ’ ไม่ว่าเป็นวิชาใดก็ไม่สามารถหยุดการจู่โจมของมันได้! วิธีเดียวที่จะหยุดมันได้คือมีสมบัติในระดับเดียวกัน หรือไม่ก็ร่างกายที่ทรงพลังมากๆ

 

เท่าที่จ้าวหอคอยตะวันตกเห็น แม้ร่างกายหนิงฝานจะทรงพลัง และบรรลุขอบเขตกระดูกเงินขั้นสูงสุด แต่ถึงอย่างนั้น มีเพียงขอบกระดูกหยกเท่านั้นที่จะรับการจู่โจมได้

 

แต่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น!

 

ร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีเงิน ขยายร่างเป็นยักษ์สูงร้อยจ้าง เหวียงหมัดเข้าปะทะกับเจดีย์ที่กำลังจะประทับลงมา

 

หมัดและเจดีย์เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง เจดีย์หยุดเคลื่อนไหว บริเวณที่กระทบกับหมัดเกิดรอยร้าว!

 

“เป็นไปไม่ได้! ขนาดผู้บรรลุขอบเขตกระดูกหยกยังไม่อาจรับมือกับอาวุธขั้นสูงสุดระดับสูงไม่ได้!”

 

เป็นเรื่องจริงที่ขอบเขตกระดูกหยกรับมือกับเจดีย์นั่นไม่ได้ แต่หนิงฝานที่ผ่านการสลักรอยสักปีศาจมา แม้การจู่โจมจะยังด้อยกว่าขอบเขตกระดูกหยก แต่การป้องกันไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน

 

เมื่อหยุดการจู่โจมได้ หนิงฝานในร่างยักษ์หันมองจ้าวหอคอยตะวันตก ก่อนกลายเป็นลำแสงไล่ตามไป ชั่วพริบตานั้น แสงสายหนึ่งที่ไม่ใช่หนิงฝาน พุ่งเข้าหาจ้าวหอคอยตะวันตก!

 

ดรรชนีตรึงร่าง! ได้ผลกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด 1 ลมหายใจ!

 

จ้าวหอคอยตะวันตกเร่งพ่นแก่นโลหิตออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อสลัดวิชาตรึงร่าง แต่เงาร่างขนาดยักษ์กลับปรากฏขึ้นตรงหน้า มือขนาดใหญ่คว้าร่างของมันไว้แน่นจนไม่อาจขยับ!

 

ยักษ์ตนนั้นอ้าปาก หย่อนร่างของจ้าวหอคอยตะวันตกลงไปแล้วเคี้ยว! ร่างกาย…หรือกระทั่งดวงจิตแรกเริ่มไม่อาจรอดพ้นความตาย!

 

อีกฝั่ง… จ้าวหอคอยตะวันออกและเหนือที่ทำลายมังกรเพลิงไปนั้น หน้าซีดขาวราวกระดาษ

 

เด็กนั่น… เด็กนั่นบ้าไปแล้ว!

 

มีเพียงเผ่าอสูรเท่านั้นที่กล้ากินคนเป็นๆเข้าไป หากเป็นมนุษย์ เลือดของผู้เชี่ยวชาญจะทรงพลังจนเกินไป จนเส้นลมปราณอาจฉีกขาดได้

 

จ้าวหอคอยที่เหลือรอดสองคนหวาดกลัว เพราะจ้าวหอคอยตะวันตกถูกสังหารโดยสมบูรณ์!

 

ต่อให้หนิงฝานไม่ใช้เล่ห์กล และสู้กันซึ่งหน้า แม้จ้าวหอคอยเหนือที่มั่นใจว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าจ้าวหอคอยตะวันตก ยังต้องเผชิญชะตากรรมไม่ต่างกัน

 

“นี่คือพลังที่แท้จริงของซัวหมิง… เป็นไปไม่ได้ ถ้ามันแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมถึงปล่อยให้เซี่ยงเหลียวรอดไปได้! เดี๋ยวก่อน!… หลังจากวันนั้นข่าวคราวของเซี่ยงเหลียวก็เงียบไป ไม่มีข่าวว่ามันถือกำเนิดใหม่ หรือว่า…ในวันนั้นมันจะหนีไม่พ้น และถูกซัวหมิงสังหารตาย!”

 

ยามนี้ มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 3 คนแล้วที่ถูกซัวหมิงสังหาร

 

“เด็กคนนั้นไม่ธรรมดา! หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ ก็ไม่มีใครเอาชนะมันได้! บัดซบเอ้ย พวกเราหนี!” จ้าวหอคอยตะวันออกขบฟันกล่าว

 

“หนี!” จ้าวหอคอยเหนือพุ่งทะยานอย่างไม่ลังเล

 

แต่ในขณะที่พวกมันเพิ่งใช้ย่างก้าวพริบตา ยักษ์ตนนั้นกลับชี้นิ้วมายังพวกมัน พร้อมกับวิชาตรึงร่าง จนพวกมันไม่อาจขยับเคลื่อนไหว

 

“สายไปแล้ว!”

 

จ้าวหอคอยเหนือสั่นสะท้านและโกรธเกรี้ยว

 

“ซัวหมิง! เจ้าสังหารจ้าวหอคอยตกวันตก แหกกฏที่วิหารพิรุณข้าตั้งไว้ เจ้าไม่รอดแน่!”

 

“ทะเลไร้สิ้นสุดแห่งนี้ไร้กฏ!”

 

“ดี! ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแบบนี้! เจ้าก็ต้องชดใช้อย่างสาสม! ข้าจะตกตายไปพร้อมกับเจ้า ‘กระบี่ผ่าสวรรค์!’”…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด