Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita 16: เรื่องที่ยูยะคุงชอบ….

Now you are reading Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita Chapter 16: เรื่องที่ยูยะคุงชอบ.... at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขณะที่ผมกำลังผ่อนคลายหลังจากที่ทำพาสต้าและล้างจานอะไรเสร็จจนหมดทุกอย่างแล้ว

จู่ๆฮิโตสึบะซังก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้แล้วก็ถามขึ้นมา

 

“จะว่าไปแล้วยูยะคุงยังเล่นเกมแฟนตาซีเกมนั้นอยู่รึเปล่าคะ? ยังเล่นตัวเนื้อเรื่องยังไม่จบใช่ไหมคะ?”

 

ก็เป็นความจริงที่ผมเพิ่งจะเล่นเนื้อเรื่องมาได้ครึ่งทางตามที่ฮิโตสึบะซังพูดมา

ก็เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมงก่อนนอนมันคือเวลาที่เพอร์เฟ็คที่สุดสำหรับผมในการที่จะเล่นเกมนี้ล่ะนะ

 

“แต่อยู่กับเธอที่นี่ผมเล่นเกมไม่ได้หรอก มันคงจะน่าเบื่อเกินไปสำหรับเธอใช่ไหมล่ะ 

ที่สุดท้ายแล้วมันก็มีแค่ผมคนเดียวที่สนุกไปกับเกมน่ะ”

 

คงจะดีถ้าเป็นเกมที่เราทั้งคู่สามารถสนุกไปด้วยกันได้ อาทิ เกมมัลติเพลย์เยอร์หรือพวกเกม co-op อะไรทำนองนั้นน่ะ

ยังไงซะเกมที่ว่ามันเป็นเกม RPG แบบที่เล่นได้คนเดียวถ้าเธอบังเอิญได้ดูตั้งแต่ตอนต้นด้วยล่ะก็พวกเราทั้งคู่ก็อาจจะสนุกไปกับเนื้อเรื่องด้วยกันได้ แต่ผมดันเล่นจนผ่านมาครึ่งทางแล้วนี่สิทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะมาสนุกกับผมขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นเกมอยู่

 

“อืมมม ก็จริงนะคะแต่นายเองก็ไม่ต้องยอมอดทนไม่เล่นเพราะว่าชั้นก็ได้นะคะ ถ้าหากว่านายอยากจะเล่นก็แค่เล่าเนื้อเรื่องที่เล่นผ่านมาแล้วหรือจะอะไรสักอย่างให้ชั้นฟังก็ได้ค่ะ แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็จะสามารถสนุกไปพร้อมๆกันได้แล้วค่ะ”

 

ก็จัดว่าพูดได้มีเหตุมีผลและช่างเป็นข้อเสนอที่ดีเลยทีเดียว

สำหรับผมแล้วผมดีใจมากๆเลยที่ได้ยินแบบนั้นเพราะว่าเธอพยายามสุดๆเพื่อที่จะสนุกไปกับสิ่งที่ผมชอบไปด้วยกัน

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเลยเวลาที่จะต้องแชร์งานอดิเรกกับใครสักคนหนึ่งเพราะมันจะทำให้คุณมีความสุขแถมยังให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นของกันและกันในขณะที่กำลังทำเรื่องเดียวกันไปพร้อมๆกัน

แต่มันก็มีอีกเหตุผลที่ผมอยากจะบอกปฏิเสธก็คือมันเป็นเรื่องที่ผิดไหมนะที่ผมพยายามจะซ่อนรสนิยมทางเพศจากผู้หญิงน่ะ?

ผมมีตัวละครเพื่อนสมัยเด็กที่มีหน้าอกดินระเบิดที่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้อยู่และผมก็รักเธอสุดๆ

ต่อให้ศัตรูมันจะเก่งสักแค่ไหนผมก็จะพยายามที่จะเลือกเธอมาเล่นให้ได้

เธอก็เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าตัวอวยล่ะนะ แต่ว่าไอ้ความจริงข้อนี้นี่ล่ะที่มันน่าอายเกินไปถ้าเกิดว่ามีผู้หญิงรู้เข้า นับประสาอะไรกับเพื่อนผู้ชายของผมเอง 

ไม่สิ มันไม่ใช่แค่ความอับอายแค่นั้นแต่มันอาจจะถึงขั้นได้รับความเสียหายทางจิตใจจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีกแล้ว

แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดๆว่าจะหาข้อแก้ตัวยังไงดีเพราะการพูดอะไรทำนองนี้ออกไปมันจะเป็นการเปิดเผยเรื่องความสนใจทางเพศของผมไปซะเปล่าๆ

แล้วฮิโตสึบะซังก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ผมอย่างจัง

 

“ยูยะคุง…..ชอบผู้หญิงที่…..หน้าอกใหญ่อย่างนางเอกที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กในเกมนั่นเหรอคะ?”

“หะ….หา? นี่เธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่งั้นเหรอ?”

“ก็นะ เพราะชั้นคิดว่าตัวเองก็ไม่น้อยหน้าเธอเหมือนกันค่ะ! ก็เลยมั่นใจ!”

 

ฮิโตสึบะซังหันใบหน้ามาทางผม

ไอ้เจ้าผลไม้ทั้งสองลูกนั่นห้อยติดกันโดยที่ตรงเนินผิวเรียบเนียนนั้นสัมผัสกันดูอันตรายสุดๆ

อีกอย่างเธอยังใส่ชุดเดรสผ้าถักลายนูนที่ขนาดพอดีเข้ากับรูปร่างของเธอเป๊ะๆ

ซึ่งนั่นมันก็ช่วยเพิ่มความงดงามของเธอให้ดุดันยิ่งกว่าตอนปกติ

และการทำท่าทางที่เอนมาทางด้านหน้าพร้อมกันกับหน้าอกของเธอที่มาอยู่ตรงโต๊ะทำให้สายตาผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วเช่นกัน

 

 

“นี่……..ยูยะคุง……ชั้นน่ะ…….ไม่มีเสน่ห์เหรอคะ? ชั้นเคยถูกโหวตให้เป็นสาว ม.ปลาย ที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะคะ”

“ไม่ใช่….นั่น…..นั่นก็…”

“งั้นเหรอคะ……..นายไม่ได้คิดกับชั้นอย่างนั้นเลยสินะคะ……รู้สึกเสียใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาซะแล้วสิ…..”

 

ฮิโตสึบะซังก็ร้องไห้ออกมาโดยเธอเอามือข้างนึงไปปิดหน้าปิดตาทำท่าร้องไห้

แต่มันก็ชัดเจนว่าเธอแค่แสร้งทำเป็นร้องไห้เฉยๆโดยสรุปจากการที่เธอเหลือบมามองผมผ่านช่องว่างของนิ้วของเธอ

เอาเถอะ ไอ้เราเองก็โดนมาหลายทีแล้วทั้งเมื่อวานนี้และก็เมื่อเช้านี้ก็ด้วย 

งั้นมาลองสวนกลับบ้างดีกว่า

 

“หา? ฮิโตสึบะซัง…..เธอบอกว่าเธอไม่มีเสน่ห์อย่างนั้นเหรอ? จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ เธออาจจะไม่รู้นะแต่จริงๆแล้วผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชมเธอนะ ผมเคยคิดว่าเธอคงจะเป็นแค่ผู้หญิงที่มีความอุตสาหะคนนึงแต่กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกแถมนิสัยเองก็น่ารักมากๆด้วยและไอ้เจ้าวิธีการที่เธอเข้ามายั่วผมทุกครั้งที่มีโอกาสแล้วหน้าของเธอก็ดันเปลี่ยนเป็นสีแดงเองซะเองก็น่ารักเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนที่ผู้หญิงอย่างเธอบอกกับผมว่าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามใจชอบน่ะ ถ้าเป็นตอนปกติผมเองก็คงจะไม่อาจทนต่อแรงกระตุ้นของตัวเองได้หรอกนะครับ!”

 

ผมเอนตัวไปที่ด้านหน้าพร้อมกับตบโต๊ะอย่างแรง

ไหล่ของฮิโตสึบะซังก็สั่นเทิ้มด้วยความกลัวแต่ในขณะที่ผมมองเห็นถึงความรู้สึกกลัวในแววตาของเธอ

ภายในแววตาคู่นั้นมันแฝงความคาดหวังปนอยู่ด้วยรึเปล่านะ?

หรือผมแค่คิดไปเองคนเดียวกัน?

 

“เห็นไหมล่ะ ผู้ชายทุกคนล้วนเป็นหมาป่ากันทั้งนั้นแหละ ถ้าเกิดว่าเธอหยอกแรงเกินไปผมจะ………จู่โจมเธอจริงๆเข้าสักวันนะ รู้ไหม? เธอต้องการแบบนั้นจริงๆเหรอ?”

 

ทั้งเสียงและมือของผมก็สั่นเมื่อพูดอย่างนั้นออกไป

ไอ้การแสดงท่าทางแข็งกร้าวแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยทำมาก่อนเลยแต่ผมก็ได้แต่หวังว่าสิ่งนี้จะทำให้ฮิโตสึบะซังรู้สึกดีขึ้นสักหน่อยนึงก็ยังดี

อันที่จริงเธอดูเย้ายวนเกินไปต่างหากล่ะ

เพราะงั้นช่วยอย่าพูดอะไรโดยไม่ยั้งคิดเพื่อที่จะได้ทำให้ผมประหม่าทีเถอะ

แต่นี่มันก็เป็นการเดินเกมที่แย่มากเพราะมันดันย้อนกลับใส่ตัวผมเอง

เพราะว่าฮิโตสึบะซังก็เข้ามาจับใบหน้าของผมด้วยมือของเธออย่างอ่อนโยนแล้วก็เอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ

อะไรเนี่ย? เดี๋ยว!? เธอจะใกล้เกินไปแล้วนะ!! ปลายจมูกของเธอมันเข้ามาโดนผมแล้วนะ!!

ทั้งความสวยงาม,ความนุ่มนวลและริมฝีปากที่สีพีชก็มาอยู่ตรงเบื้องหน้าของผม!

 

“ชั้นน่ะนะ…..ยูยะคุง……….ชั้นคิดจริงๆว่าถ้าเป็นนายล่ะก็….ได้นะ……..”

“ฮิ-ฮิโตสึบะซัง…….แต่นั่นมัน….”

“ชั้นรู้แล้ว……..ชั้นเข้าใจอยู่แล้วล่ะ แต่ยังไง……….ชั้นจะไม่ยอมถอยกลับแน่ๆ พอถึงตอนที่นายตกหลุมรักชั้นเข้าจริงๆจังๆแล้วน่ะ”

 

ฮิโตสึบะซังแลบลิ้นที่ดูเฉียบคมเลียปากของตัวเองราวกับนักล่า

ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังสะนั่น

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอคือเพื่อนร่วมห้องของผมเพราะว่าตอนนี้เธอนั้นมีเสน่ห์มากล้นจนผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องยอมจำนนไปทั้งแบบนี้

 

“เพราะฉะนั้นอย่างแรกเลย ทำไมพวกเราไม่มาลองลดระยะห่างระหว่างพวกเราให้สั้นลงดูล่ะคะ? แน่นอนว่าชั้นไม่ได้หมายถึงระยะห่างของตัวพวกเราในตอนนี้ แต่ชั้นหมายถึงระยะห่างระหว่างหัวใจของพวกเราค่ะ”

 

ถึงจุดนี้ฮิโตสึบะก็ยอมปล่อยผมไปสักทีแล้วผมก็หลุดพูดอะไรโง่ๆออกไปว่า ‘อ๊ะ’ 

ก็รู้สึกเสียใจอยู่หน่อยๆล่ะนะ แล้วฮิโตสึบะซังก็พูดต่อ

 

“นายไม่คิดบ้างเหรอคะว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่ชั้นเป็นคนเรียกนายด้วยชื่อเล่นว่า ‘ยูยะคุง’ อยู่ฝ่ายเดียวเลยน่ะ? ชั้นเองก็อยากให้นายเรียกชั้นว่า ‘คาเอเดะ’ แทน ‘ฮิโตสึบะซัง’ ค่ะ………ไม่ได้เหรอคะ?……”

 

การแสดงออกที่มีเสน่ห์มากล้นของเธอก็เปลี่ยนไป

ตอนนี้เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ซึมๆและเปียกชื้นราวกับหมาชิวาว่าที่อยู่ตามโฆษณาและถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูหนาวแต่ตอนนี้หน้าผากของผมกลับเริ่มมีเหงื่อไหล

ผมกลืนน้ำลายลงไปอีกหนึ่งอึกและช่วงเวลาแห่งความเงียบงันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น

แต่ไอ้เกมจ้องตาที่จู่ๆมันก็เริ่มขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่นานมันก็จบลง

ใช่ เพราะมันไม่มีทางที่ผมจะชนะเกมนี้ได้เลย………..

 

“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว ผมแพ้แล้วครับคาเอเดะ”

 

มันน่าอายจริงๆนะเนี่ย

ผมรู้สึกว่าหน้าของตัวเองมันคงจะแดงจนถึงขั้นจะพ่นลมหายใจออกมาเป็นไฟสีแดงเลย

แต่ใบหน้าของคาเอเดะเองก็แสดงความน่าประทับใจไม่แพ้กันเพราะแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับมะเขือเทศที่ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวพอดี

 

“ดีใจจังเลยค่ะ……..ขอบคุณมากเลยนะคะยูยะคุง!”

 

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอพร้อมกับแก้มแดงๆราวกับพระอาทิตย์ตกดินนั้น

ดูเหมือนกับนางฟ้ามาโปรดและทั้งหมดที่ผมพอจะทำได้ในตอนนี้ก็คือก้มหน้าก้มตาเขินต่อไป…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita 16: เรื่องที่ยูยะคุงชอบ….

Now you are reading Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita Chapter 16: เรื่องที่ยูยะคุงชอบ.... at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขณะที่ผมกำลังผ่อนคลายหลังจากที่ทำพาสต้าและล้างจานอะไรเสร็จจนหมดทุกอย่างแล้ว

จู่ๆฮิโตสึบะซังก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้แล้วก็ถามขึ้นมา

 

“จะว่าไปแล้วยูยะคุงยังเล่นเกมแฟนตาซีเกมนั้นอยู่รึเปล่าคะ? ยังเล่นตัวเนื้อเรื่องยังไม่จบใช่ไหมคะ?”

 

ก็เป็นความจริงที่ผมเพิ่งจะเล่นเนื้อเรื่องมาได้ครึ่งทางตามที่ฮิโตสึบะซังพูดมา

ก็เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมงก่อนนอนมันคือเวลาที่เพอร์เฟ็คที่สุดสำหรับผมในการที่จะเล่นเกมนี้ล่ะนะ

 

“แต่อยู่กับเธอที่นี่ผมเล่นเกมไม่ได้หรอก มันคงจะน่าเบื่อเกินไปสำหรับเธอใช่ไหมล่ะ 

ที่สุดท้ายแล้วมันก็มีแค่ผมคนเดียวที่สนุกไปกับเกมน่ะ”

 

คงจะดีถ้าเป็นเกมที่เราทั้งคู่สามารถสนุกไปด้วยกันได้ อาทิ เกมมัลติเพลย์เยอร์หรือพวกเกม co-op อะไรทำนองนั้นน่ะ

ยังไงซะเกมที่ว่ามันเป็นเกม RPG แบบที่เล่นได้คนเดียวถ้าเธอบังเอิญได้ดูตั้งแต่ตอนต้นด้วยล่ะก็พวกเราทั้งคู่ก็อาจจะสนุกไปกับเนื้อเรื่องด้วยกันได้ แต่ผมดันเล่นจนผ่านมาครึ่งทางแล้วนี่สิทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะมาสนุกกับผมขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นเกมอยู่

 

“อืมมม ก็จริงนะคะแต่นายเองก็ไม่ต้องยอมอดทนไม่เล่นเพราะว่าชั้นก็ได้นะคะ ถ้าหากว่านายอยากจะเล่นก็แค่เล่าเนื้อเรื่องที่เล่นผ่านมาแล้วหรือจะอะไรสักอย่างให้ชั้นฟังก็ได้ค่ะ แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็จะสามารถสนุกไปพร้อมๆกันได้แล้วค่ะ”

 

ก็จัดว่าพูดได้มีเหตุมีผลและช่างเป็นข้อเสนอที่ดีเลยทีเดียว

สำหรับผมแล้วผมดีใจมากๆเลยที่ได้ยินแบบนั้นเพราะว่าเธอพยายามสุดๆเพื่อที่จะสนุกไปกับสิ่งที่ผมชอบไปด้วยกัน

ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเลยเวลาที่จะต้องแชร์งานอดิเรกกับใครสักคนหนึ่งเพราะมันจะทำให้คุณมีความสุขแถมยังให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นของกันและกันในขณะที่กำลังทำเรื่องเดียวกันไปพร้อมๆกัน

แต่มันก็มีอีกเหตุผลที่ผมอยากจะบอกปฏิเสธก็คือมันเป็นเรื่องที่ผิดไหมนะที่ผมพยายามจะซ่อนรสนิยมทางเพศจากผู้หญิงน่ะ?

ผมมีตัวละครเพื่อนสมัยเด็กที่มีหน้าอกดินระเบิดที่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้อยู่และผมก็รักเธอสุดๆ

ต่อให้ศัตรูมันจะเก่งสักแค่ไหนผมก็จะพยายามที่จะเลือกเธอมาเล่นให้ได้

เธอก็เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าตัวอวยล่ะนะ แต่ว่าไอ้ความจริงข้อนี้นี่ล่ะที่มันน่าอายเกินไปถ้าเกิดว่ามีผู้หญิงรู้เข้า นับประสาอะไรกับเพื่อนผู้ชายของผมเอง 

ไม่สิ มันไม่ใช่แค่ความอับอายแค่นั้นแต่มันอาจจะถึงขั้นได้รับความเสียหายทางจิตใจจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีกแล้ว

แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดๆว่าจะหาข้อแก้ตัวยังไงดีเพราะการพูดอะไรทำนองนี้ออกไปมันจะเป็นการเปิดเผยเรื่องความสนใจทางเพศของผมไปซะเปล่าๆ

แล้วฮิโตสึบะซังก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ผมอย่างจัง

 

“ยูยะคุง…..ชอบผู้หญิงที่…..หน้าอกใหญ่อย่างนางเอกที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กในเกมนั่นเหรอคะ?”

“หะ….หา? นี่เธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่งั้นเหรอ?”

“ก็นะ เพราะชั้นคิดว่าตัวเองก็ไม่น้อยหน้าเธอเหมือนกันค่ะ! ก็เลยมั่นใจ!”

 

ฮิโตสึบะซังหันใบหน้ามาทางผม

ไอ้เจ้าผลไม้ทั้งสองลูกนั่นห้อยติดกันโดยที่ตรงเนินผิวเรียบเนียนนั้นสัมผัสกันดูอันตรายสุดๆ

อีกอย่างเธอยังใส่ชุดเดรสผ้าถักลายนูนที่ขนาดพอดีเข้ากับรูปร่างของเธอเป๊ะๆ

ซึ่งนั่นมันก็ช่วยเพิ่มความงดงามของเธอให้ดุดันยิ่งกว่าตอนปกติ

และการทำท่าทางที่เอนมาทางด้านหน้าพร้อมกันกับหน้าอกของเธอที่มาอยู่ตรงโต๊ะทำให้สายตาผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วเช่นกัน

 

 

“นี่……..ยูยะคุง……ชั้นน่ะ…….ไม่มีเสน่ห์เหรอคะ? ชั้นเคยถูกโหวตให้เป็นสาว ม.ปลาย ที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะคะ”

“ไม่ใช่….นั่น…..นั่นก็…”

“งั้นเหรอคะ……..นายไม่ได้คิดกับชั้นอย่างนั้นเลยสินะคะ……รู้สึกเสียใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาซะแล้วสิ…..”

 

ฮิโตสึบะซังก็ร้องไห้ออกมาโดยเธอเอามือข้างนึงไปปิดหน้าปิดตาทำท่าร้องไห้

แต่มันก็ชัดเจนว่าเธอแค่แสร้งทำเป็นร้องไห้เฉยๆโดยสรุปจากการที่เธอเหลือบมามองผมผ่านช่องว่างของนิ้วของเธอ

เอาเถอะ ไอ้เราเองก็โดนมาหลายทีแล้วทั้งเมื่อวานนี้และก็เมื่อเช้านี้ก็ด้วย 

งั้นมาลองสวนกลับบ้างดีกว่า

 

“หา? ฮิโตสึบะซัง…..เธอบอกว่าเธอไม่มีเสน่ห์อย่างนั้นเหรอ? จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ เธออาจจะไม่รู้นะแต่จริงๆแล้วผมก็เป็นคนนึงที่ชื่นชมเธอนะ ผมเคยคิดว่าเธอคงจะเป็นแค่ผู้หญิงที่มีความอุตสาหะคนนึงแต่กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกแถมนิสัยเองก็น่ารักมากๆด้วยและไอ้เจ้าวิธีการที่เธอเข้ามายั่วผมทุกครั้งที่มีโอกาสแล้วหน้าของเธอก็ดันเปลี่ยนเป็นสีแดงเองซะเองก็น่ารักเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนที่ผู้หญิงอย่างเธอบอกกับผมว่าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ตามใจชอบน่ะ ถ้าเป็นตอนปกติผมเองก็คงจะไม่อาจทนต่อแรงกระตุ้นของตัวเองได้หรอกนะครับ!”

 

ผมเอนตัวไปที่ด้านหน้าพร้อมกับตบโต๊ะอย่างแรง

ไหล่ของฮิโตสึบะซังก็สั่นเทิ้มด้วยความกลัวแต่ในขณะที่ผมมองเห็นถึงความรู้สึกกลัวในแววตาของเธอ

ภายในแววตาคู่นั้นมันแฝงความคาดหวังปนอยู่ด้วยรึเปล่านะ?

หรือผมแค่คิดไปเองคนเดียวกัน?

 

“เห็นไหมล่ะ ผู้ชายทุกคนล้วนเป็นหมาป่ากันทั้งนั้นแหละ ถ้าเกิดว่าเธอหยอกแรงเกินไปผมจะ………จู่โจมเธอจริงๆเข้าสักวันนะ รู้ไหม? เธอต้องการแบบนั้นจริงๆเหรอ?”

 

ทั้งเสียงและมือของผมก็สั่นเมื่อพูดอย่างนั้นออกไป

ไอ้การแสดงท่าทางแข็งกร้าวแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยทำมาก่อนเลยแต่ผมก็ได้แต่หวังว่าสิ่งนี้จะทำให้ฮิโตสึบะซังรู้สึกดีขึ้นสักหน่อยนึงก็ยังดี

อันที่จริงเธอดูเย้ายวนเกินไปต่างหากล่ะ

เพราะงั้นช่วยอย่าพูดอะไรโดยไม่ยั้งคิดเพื่อที่จะได้ทำให้ผมประหม่าทีเถอะ

แต่นี่มันก็เป็นการเดินเกมที่แย่มากเพราะมันดันย้อนกลับใส่ตัวผมเอง

เพราะว่าฮิโตสึบะซังก็เข้ามาจับใบหน้าของผมด้วยมือของเธออย่างอ่อนโยนแล้วก็เอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ

อะไรเนี่ย? เดี๋ยว!? เธอจะใกล้เกินไปแล้วนะ!! ปลายจมูกของเธอมันเข้ามาโดนผมแล้วนะ!!

ทั้งความสวยงาม,ความนุ่มนวลและริมฝีปากที่สีพีชก็มาอยู่ตรงเบื้องหน้าของผม!

 

“ชั้นน่ะนะ…..ยูยะคุง……….ชั้นคิดจริงๆว่าถ้าเป็นนายล่ะก็….ได้นะ……..”

“ฮิ-ฮิโตสึบะซัง…….แต่นั่นมัน….”

“ชั้นรู้แล้ว……..ชั้นเข้าใจอยู่แล้วล่ะ แต่ยังไง……….ชั้นจะไม่ยอมถอยกลับแน่ๆ พอถึงตอนที่นายตกหลุมรักชั้นเข้าจริงๆจังๆแล้วน่ะ”

 

ฮิโตสึบะซังแลบลิ้นที่ดูเฉียบคมเลียปากของตัวเองราวกับนักล่า

ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังสะนั่น

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอคือเพื่อนร่วมห้องของผมเพราะว่าตอนนี้เธอนั้นมีเสน่ห์มากล้นจนผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายเพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องยอมจำนนไปทั้งแบบนี้

 

“เพราะฉะนั้นอย่างแรกเลย ทำไมพวกเราไม่มาลองลดระยะห่างระหว่างพวกเราให้สั้นลงดูล่ะคะ? แน่นอนว่าชั้นไม่ได้หมายถึงระยะห่างของตัวพวกเราในตอนนี้ แต่ชั้นหมายถึงระยะห่างระหว่างหัวใจของพวกเราค่ะ”

 

ถึงจุดนี้ฮิโตสึบะก็ยอมปล่อยผมไปสักทีแล้วผมก็หลุดพูดอะไรโง่ๆออกไปว่า ‘อ๊ะ’ 

ก็รู้สึกเสียใจอยู่หน่อยๆล่ะนะ แล้วฮิโตสึบะซังก็พูดต่อ

 

“นายไม่คิดบ้างเหรอคะว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่ชั้นเป็นคนเรียกนายด้วยชื่อเล่นว่า ‘ยูยะคุง’ อยู่ฝ่ายเดียวเลยน่ะ? ชั้นเองก็อยากให้นายเรียกชั้นว่า ‘คาเอเดะ’ แทน ‘ฮิโตสึบะซัง’ ค่ะ………ไม่ได้เหรอคะ?……”

 

การแสดงออกที่มีเสน่ห์มากล้นของเธอก็เปลี่ยนไป

ตอนนี้เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ซึมๆและเปียกชื้นราวกับหมาชิวาว่าที่อยู่ตามโฆษณาและถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูหนาวแต่ตอนนี้หน้าผากของผมกลับเริ่มมีเหงื่อไหล

ผมกลืนน้ำลายลงไปอีกหนึ่งอึกและช่วงเวลาแห่งความเงียบงันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น

แต่ไอ้เกมจ้องตาที่จู่ๆมันก็เริ่มขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่นานมันก็จบลง

ใช่ เพราะมันไม่มีทางที่ผมจะชนะเกมนี้ได้เลย………..

 

“เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว ผมแพ้แล้วครับคาเอเดะ”

 

มันน่าอายจริงๆนะเนี่ย

ผมรู้สึกว่าหน้าของตัวเองมันคงจะแดงจนถึงขั้นจะพ่นลมหายใจออกมาเป็นไฟสีแดงเลย

แต่ใบหน้าของคาเอเดะเองก็แสดงความน่าประทับใจไม่แพ้กันเพราะแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับมะเขือเทศที่ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวพอดี

 

“ดีใจจังเลยค่ะ……..ขอบคุณมากเลยนะคะยูยะคุง!”

 

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอพร้อมกับแก้มแดงๆราวกับพระอาทิตย์ตกดินนั้น

ดูเหมือนกับนางฟ้ามาโปรดและทั้งหมดที่ผมพอจะทำได้ในตอนนี้ก็คือก้มหน้าก้มตาเขินต่อไป…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+