World domination system 133 แผนการ

Now you are reading World domination system Chapter 133 แผนการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

World domination system

 

WDS Chapter 133 แผนการ

 

เนื่องจากแดนีลได้ครอบครองบางสิ่งที่พิเศษ ซึ่งก็คือ ระบบการปกครองโลก มันจึงทําให้เขาจากคนอื่นๆที่สามารถจะตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

 

เขารู้ดีว่าบิ๊กโฟร์ส่วนใหญ่มองราชอาณาจักรเล็กๆเป็นเพียงมด แดนีลจึงลองมองในมุมมองเดียวกับหนึ่งในบิ๊กโฟร์ ที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเมล็ดพันธุ์นี้ขึ้นมา ซึ่งเขาได้ข้อสรุปว่า

 

ประการแรก ไม่มีอาหารกลางวันฟรีในโลก ดังนั้น คนที่เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ จะต้องรู้ผลข้างเคียงของมันอย่างแน่นอน

 

ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคงจะปลูกมันด้วยตัวเองและรับเอากําไรมหาศาลไป ไม่แบ่งปันให้คนอื่นเช่นนี้

 

หลังจากค้นพบผลข้างเคียงของมัน หากว่าเป็นแดนีลแล้ว เขาคงจะเล็งเป้ามาที่ราชอาณาจักรเล็กๆด้วยเหตุผล 2 ประการ

 

1 เขามีบางสิ่งบางอย่างที่ทรงคุณ ซึ่งสามารถจะใช้เป็นค่าใช้จ่ายได้ มันก็คือโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคคาถา

 

2 เขาไม่ต้องจัดการอะไรเลย ราชอาณาจักรจะรับผิดชอบทั้งหมด และเขาเพียงแค่เก็บเกี่ยวผลกําไรเท่านั้น

 

สําหรับชะตากรรมของราชอาณาจักร?

 

ในฐานะหนึ่งในบิ๊กโฟร์ เขาไม่แม้แต่จะต้องสนใจ

 

คิดได้เช่นนั้น แดนีลก็ยิ่งมั่นใจว่าราชอาณาจักรกาดําถูกลวงโดยผู้ที่มอบเมล็ดพันธุ์ให้กับพวกเขา ไม่ว่าอย่างไร ราชาก็กล่าวด้วยตัวเองว่า หากเขาทําได้ เขาจะส่งคนทั้งสองจากราชอาณาจักรของเขาไปเรียนเทคนิคคาถา

 

ตอนนี้ แดนีลลองมองในมุมมองของราชากาดํา หากทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ราชากาดําไม่ได้โง่เลย ในทางกลับกัน เขาค่อนข้างฉลาด

 

ด้วยความระมัดระวัง เขาจะต้องทดสอบปลูกเมล็ดพันธุ์ และสืบสวนหาผลค้างเคียงของมันแล้ว หลังจากผ่านไป 1 ปี เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็เพิ่มพื้นที่ปลูกอย่างต่อเนื่อง

 

จนกระทั่งอีก 1 ปีต่อมา เขาก็ตระหนักว่า ดินจากการทดสอบแรกหมดสภาพโดยสิ้นเชิง ซึ่งมันทําให้ราชากาดําตระหนักว่า ดินส่วนที่เหลือที่ปลูกมันก็จะกลายเป็นเช่นนั้น

 

ถึงตอนนี้ หากเป็นแดนีล เขาจะต้องหาวิธีขยายผลกระทบออกไปด้านนอก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีราชอาณาจักรใดที่ต้องการจะพึ่งพาทรัพยากรพื้นฐานอย่างเสบียงอาหารจากราชอาณาจักรอื่น

 

นอกจากนี้ ราชอาณาจักรกาดํายังมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์น้อยกว่าราชอาณาจักรแลนธานอร์ ซึ่งมันมีความหมายว่า พวกเขาจะได้รับผลกระทบจากการปลูกพืชนี้อย่างหนัก

 

ยิ่งคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ แดนีลก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาถูก

 

สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ สัญชาตญาณของเขาบอกว่า เขามาถูกทางแล้ว นี่เป็นสิ่งยืนยันที่ดีที่สุดสําหรับเขา เพราะมันยังคงไม่เคยทําให้เขาผิดหวัง

 

ด้วยข้อมูลใหม่ทั้งหมดในมือ แดนีลเริ่มวางแผนสําหรับขั้นต่อไป

 

แนวคิดของเขานั่นเรียบง่าย หากมีคนต้องการจะทําให้ตัวเขาและราชอาณาจักรของเขาเป็นอันตราย เขาจะตอบแทนพวกเขาคืนเป็น 10 เท่า อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาสิ้นหวัง เขาจะไม่คิดมากกับการเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา

 

ต่อจากนี้ ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับราชากาดํา

 

ผ่านมา 1 สัปดาห์ หลังจากการนัดพบที่ประตูชายแดนทางเหนือ

 

“นี่ก็ 1 สัปดาห์แล้ว ข้าควรจะส่งข้อความไปเตือนเขาหรือ

ไม่?”

 

ราชากาดํา เดินวนไปวนมาภายในห้องบัลลังก์อย่างเป็นกังวล หากใครมองไปที่เขาในตอนนี้ จะเห็นได้ว่าเขาสูญเสียความสงบไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งไม่สมควรจะเป็นคนที่ถูกเรียกว่าราชา

 

“อดทนไว้ เขาจะตอบกลับในไม่ช้า” ชายชราตอบ เขาเริ่มไม่พอใจกับการแสดงออกของราชา

 

ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มันเป็นการทดสอบความคิดของเขาครั้งใหญ่ เขาพิจารณาซ้ําแล้วซ้ําเล่าว่า เขาควรจะทําการรัฐประหารอีกครั้งและเลือกคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เขายังคงหักหามใจเอาไว้ได้

 

ในฉับพลัน ราชากาดําหยุดเดินและหยิบเครื่องประดับเวทมนต์รูปกาออกมาจากกระเป๋าของเขา มันเป็นเครื่องประดับเวทมนต์คู่ ซึ่งอีกชิ้นเขามอบให้ราชาแห่งแลนธานอร์ไป

ในที่สุด การสื่อสารที่เขารอคอยก็มาถึง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อผ่อนคลายก่อนจะนั่งลงบนบัลลังก์

 

เห็นเช่นนั้น ชายชราก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“แม้ว่าเด็กนี่จะมีสมาธิสั้น แต่สติปัญญาและจิตใจของเขาก็ยังสามารถจะชื่นชมได้” เขาคิดขณะที่วางแผนการที่เขาพิจารณาไว้

 

หลังจากถอนหายใจยาวอีกครั้งแล้ว ราชากาดําก็เปิดใช้งานเครื่องประดับเวทมนต์ ซึ่งมันทําให้ภาพของแดนีลปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

 

แม้มันจะมีขนาดเท่ากับของที่แฟกซัลมี แต่มันก็ยังคงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในแผงหน้าจอของแฟกซัล แม้แต่เส้นผมเล็กๆก็ยังสามารถจะมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน สําหรับแผงหน้าจอนี้ มันกระพริบและเบลอในบางครั้ง

 

แน่นอนว่า หากเทียบกับเครื่องประดับเวทมนต์ทั้งหมดใน 6 ราชอาณาจักรแล้ว สิ่งนี้ค่อนข้างจะน่าประทับใจ

 

“เครื่องประดับเวทมนต์นี้น่าประทับใจนัก ข้าคิดว่ามันเป็นเพียงอุปกรณ์สื่อสารด้วยเสียงเสียอีก”

 

ยิ้มให้กับคํากล่าวของแดนีล ราชากาดําตอบว่า “ถูกต้องแล้ว มันเป็นยังลับที่ได้รับการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน สําหรับเรื่องนั้น ข้าเชื่อว่าท่านตัดสินใจได้แล้วใช่หรือไม่?”

 

ไม่แม้แต่จะสนใจการควบคุมความอดทนของตัวเอง ราชากาดําถามออกไปตรงๆ หลังจากผ่านไปชั่วครู่ แดนีลก็ตอบกลับ

 

“ข้ามีคําถามที่จะถามท่านก่อน การปลูกพืชอีเซอร์ในดินไม่ส่งผลกระทบใดๆใช่หรือไม่? และท่านได้ทดสอบมันด้วยตัวเองแล้วหรือไม่?”

 

เห็นอีกฝ่ายตอบตรงประเด็น ราชากาดําก็เต็มไปด้วยความปิติยินดี

 

ตามที่แดนีลคิดเอาไว้ เขาถูกลวงโดยบิ๊กโฟร์ ครึ่งหนึ่งของแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ในราชอาณาจักรของเขา จะแห้งแล้งในอีก 1 ปี

 

นี่เป็นดั่งหายนะที่อาจจะส่งผลกระทบให้เกิดการล่มสลายของทั้งราชอาณาจักร

 

ดังนั้น หลังจากได้ยินจากเบวิสเรื่องชายที่อยู่เบื้องหลังราชาแห่งแลนธานอร์ ที่สามารถวิเคราะห์เกี่ยวกับยุงได้แล้ว

 

เขาก็เชื่อว่า ชายคนนั้นจะต้องสามารถวิเคราะห์เมล็ดพันธ์ได้อย่างแน่นอน หลังจากการวิเคราะห์ เป็นไปได้ที่เขาจะหาวิธีแก้ไขมันได้

 

ดังนั้น แผนการของเขาจึงเรียบง่าย สร้างความสงสัยให้กับราชาแห่งแดนธานอร์ เพื่อให้เขานําเมล็ดไปให้คนที่อยู่เบื้องหลังช่วยวิเคราะห์มัน หลังจากที่ชายคนนั้นพบวิธีฟื้นฟูดิน เขาก็เพียงแค่ต้องคัดลอกมันมาใช้กับแผ่นดินในราชอาณาจักรของเขาเท่านั้น

 

แน่นอน มันมีความเป็นไปได้ที่แตกต่างออกไป บางที ราชาแห่งแลนธานอร์อาจจะเพียงแค่บลัฟและไม่มีชายคนนั้นอยู่จริง หากเป็นเช่นนั้น เขาจะไม่มีทางหาวิธีแก้ไขได้

 

ในกรณีนี้ หากราชาแห่งแดนธานอร์ยังคงเห็นด้วยเพราะความปรารถนาที่จะได้รับรางวัล แลนธานอร์ก็จะตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับราชอาณาจักรกกาดํา

 

นี่คือความเป็นไปได้ แต่ในฐานะคนที่ปืนกองซากศพเพื่อขึ้นครองบัลลังก์ ราชากาดําจะสนใจเกี่ยวกับมัน?

 

แน่นอนว่าไม่ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เขาจะดึงพวกเขาลงนรกไปกับเขา

 

เหตุใดเขาจะต้องทําดีกับราชอาณาจักรอื่นในเมืองราชอาณาจักรของเขาเสื่อมถอย?

 

นั่นคือธรรมชาติของเขา และนั่นเป็นความรั้นที่ทําให้ชายชราเลือกเขาในตอนแรก

 

“เหตุใดราชาแดนีลถึงได้ถามเช่นนั้น ท่านพบอะไรเกี่ยวกับมันหรือ?”

 

“ไม่เลย ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ข้ากําลังพิจารณาการยอมรับข้อตกลง อย่างที่ท่านรู้ ราชอาณาจักรของข้าต้องการผู้ทรงพลัง ข้าเพียงแค่ถามเผื่อว่าท่านจะรู้ในสิ่งที่ข้าไม่รู้ มันจะดีที่สุดที่ท่านจะบอกกับข้า เพื่อที่ข้าจะได้ช่วยท่านรับมือกับมันเท่าที่ข้าจะสามารถทําได้”

 

แดนีลกล่าวเช่นนั้นออกมา เพื่อเป็นการให้โอกาสสุดท้ายกับเขา แม้แดนีลจะรู้เกี่ยวกับความเป็นไปได้ทั้งสอง แต่เขาก็ยังคงแสร้งสนใจข้อตกลง แล้วหากราชากาดํายังคงปฏิเสธทุกอย่าง มันก็คงจะสรุปได้อย่างชัดเจนว่า เขาต้องการทําอันตรายของแลนธานอร์ ซึ่งแดนีลตัดสินใจจะจัดการกับเขาในอนาคต

 

“ข้ารับรองกับท่านว่า มันไม่มีผลกระทบใดๆ ในฐานะพันธมิตร หากข้าค้นพบสิ่งใด ข้าจะไม่ปิดบังพวกมันกับท่านอย่างแน่นอน ข้ายกข้อเสนอนี้ขึ้นมาก็ข้าต้องการที่จะให้พวกเราจะประสบความสําเร็จไปด้วยกัน ข้าหวังว่าท่านจะแสดงความปรารถนาดีเช่นนี้หากข้าต้องการมันในอนาคต”

 

ได้ยินเช่นนั้น แดนีลต้องพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมการแสดงออกบนใบหน้าของเขาไม่ให้ความรังเกียจปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขากล่าวเช่นนี้เพราะหวังว่า หากแดนีลพบวิธีรับมือผลข้างเคียงแล้ว เขาจะแบ่งปันในอนาคต

 

ด้วยการทําเช่นนี้ เขาได้ตัดสินชะตากรรมของตัวเองแล้ว หากเขาบอกกับแดนีล พวกเขาอาจจะกลายเป็นพันธมิตรกันอย่างแท้จริงและช่วยกันแก้ปัญหาได้ แต่ตอนนี้ มันคงไม่มีทางจะเกิดขึ้นแล้ว

 

“เอาล่ะ ข้ายอมรับข้อตกลง ส่งเมล็ดพันธุ์มา”

 

ราชากาดํายิ้มกว้างอย่างปิติยินดีที่ก้าวแรกในแผนการของเขาประสบความสําเร็จแล้ว

 

แน่นอน เขาไม่รู้เลยว่า ชะตากรรมของราชอาณาจักรเขาได้ถูกผนึกเนื่องจากความลังเลที่ไม่ยอมบอกโดยตรง เพราะกลัวว่าจะเป็นการแสดงความอ่อนแอ ด้วยการตัดสินใจและดําเนินแผนการของตัวเอง เขาได้ละทิ้งอนาตอันสดใสในการปกครองราชอาณาจักรกาดําไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด