จอมมารแค่อยากเป็นคนดี 104 ดาร์ก เดม่อนแอบดูภาคี

Now you are reading จอมมารแค่อยากเป็นคนดี Chapter 104 ดาร์ก เดม่อนแอบดูภาคี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 104 ดาร์ก เดม่อนแอบดูภาคี
บทที่ 104 ดาร์ก เดม่อนแอบดูภาคี

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดาร์กก็ส่งสัญญาณผ่านสายตาไปให้รุกกี้เดวิมอน ทั้งสองไปหยุดอยู่ข้างหน้าทางเข้าห้องลับ ก่อนที่ดาร์กจะใส่พลังเวทมนตร์เข้าไป

ขณะที่กำแพงกระเพื่อมเป็นระลอกน้ำ รุกกี้เดวิมอนก็จุ่มหัวเข้าไปส่องลาดเลาก่อน

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที มันก็โผล่หัวออกมาจากผนังอีกครั้ง “ปลอดภัย!”

ดาร์กเข้าไปทันที

คบไฟทั้งสองข้างของทางลับถูกจุดแล้ว อันที่จริง แค่สิ่งนี้สว่างขึ้นมาก็เรียกได้ว่าตำแหน่งของเขาถูกเปิดเผยแล้ว

แต่ตอนนี้ดาร์กยังไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้

เขาเหลือบมองพื้น ก่อนจะพบว่ามันยังมีร่องรอยน้ำในทางลับ เห็นได้ชัดว่ามีคนเพิ่งเข้ามาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้

เมื่อเดินไปตามรอยน้ำหยด ดาร์กก็พบว่ารอยน้ำหายไปอย่างกะทันหันตรงที่ทางแยก

แต่เพียงแค่มาถึงตรงนี้ ดาร์กก็เกือบจะแน่ใจแล้วว่าปลายทางของอีกฝ่ายจะต้องเป็นวิหารอย่างแน่นอน!

เด็กชายรุดหน้าไปยังที่ที่เขากับเวอร์เธอร์เคยต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว และเมื่อเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง ดาร์กก็พบกับทางที่นำไปสู่วิหารเทพธิดา ซึ่งยามนี้เปล่งแสงสว่างไสวจนเห็นได้ชัด

มีค้างคาวสองสามตัวบินออกมาจากความมืดและตรงไปตามเปลวไฟ บินเข้าไปในวิหารซึ่งตอนนี้มีสุ้มเสียงแผ่วเบาดังให้ได้ยินเป็นระยะ

“ดูเหมือนว่าจะมีการชุมนุมบางอย่าง?” ดาร์กสังเกตเห็นสถานการณ์ที่ผิดแปลกไปทันทีและเขาเลือกที่จะอ้อมไป

ในไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็เข้าใกล้กับวิหาร

เพราะไม่แน่ใจว่ามีใครซ่อนตัวอยู่ข้างนอกหรือไม่ ดาร์กจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้มากเกินไป เขาหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งซึ่งห่างจากวิหารมากกว่าสิบเมตรและเฝ้าดูอยู่ไกล ๆ

หัวสีบลอนด์โผล่ออกมาจากมุมเล็กน้อย และสายตาของเขาก็มองเห็นผู้คนในวิหารแล้ว

“นี่คือภาคีอาหารทะเลเหรอ?” ดาร์กสงสัยเมื่อรู้ว่าเวอร์เธอร์อาจถูกพามาที่นี่โดยคนในลัทธินี้

แม้ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลัทธิดังกล่าว แต่มันก็ง่ายที่จะจินตนาการว่าคนในลัทธินี้กำลังทำอะไรอยู่

“บูชา สังเวย หรืออะไรแนว ๆ นี้ล่ะมั้ง?”

“โฮก!”

ทันใดนั้น เสียงคำรามของสัตว์ร้ายพลันสะท้านกึกก้องไปทั่วทั้งปราสาททันที ทิศทางของเสียงดังออกมาจากด้านบนของชั้นปราสาท

ดาร์กไม่ทันได้ระวัง เขารีบปิดหูแล้วเดินก้าวถอยหลังออกมา

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน พลันมีเสียงคำรามของมังกรดังทะลุทะลวงไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืนเช่นกัน เหตุการณ์นี้ทำให้นักเรียนที่อยู่ในปราสาททุกคนต่างตกใจไม่น้อย

ดาร์กไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น แม้กระทั่งบางคนในวิหารก็ตกใจกลัวเช่นกัน มีบ้างที่ถึงกับรีบออกมาอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็กลับเข้าไปในไม่ช้า

แต่แล้วเสียงคำรามราวกับถูกตัดขาดไปในทันใด และสภาพแวดล้อมก็กลับมาเงียบสงบลงอีกครั้ง

ดาร์กเอนตัวพิงกำแพงกลั้นลมหายใจ ก่อนจิตใจจะสงบลงในที่สุด

จากนั้นเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า นอกวิหารไม่มีที่ไหนที่เขาจะซ่อนตัวได้เลย

สำหรับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายจากข้างบน ค่อนข้างเป็นไปได้ว่าบอสบนชั้นเก้าของปราสาทจะถูกอัญเชิญโดยใครบางคนเสียแล้ว

ทุก ๆ วันฮัลโลวีน มักมีอีเวนต์นี้เสมอ

ซึ่งก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่

ดาร์กส่งรุกกี้เดวิมอนไปสำรวจเส้นทาง และหลังจากยืนยันได้ว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่ข้างนอก เขาก็เอนตัวพิงกำแพง ก่อนจะลอบมองไปที่ประตูวิหารอย่างระมัดระวัง

ณ ตรงจุดนี้ เสียงที่ดังออกมาจากข้างในชัดเจนมาก

แม้ว่าระยะมองเห็นจะค่อนข้างแคบ แต่ดาร์กยังสามารถมองเห็นมุมหนึ่งของวิหารได้

และเมื่อเหลือบมองอย่างรวดเร็ว ดาร์กก็ผงะไปในทันที

เขาพอจะคาดเดาเกี่ยวกับการกระทำของลัทธินี้ไว้บ้าง แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะกล้าลักพาตัวนักเรียนมาจริง ๆ

“ในเมื่อศาสตราจารย์เคเซอร์ลงมือตรวจสอบแล้ว มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!”

แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อในสิ่งที่เห็น

แค่มองผ่าน ๆ ดาร์กก็เห็นแล้วว่า มีนักเรียนชายหญิงมากกว่าสิบคู่ถูกผูกมัดอยู่ข้างใน

ในไม่ช้าดาร์กก็เหลือบไปเห็นโรเบิร์ตที่อยู่นอกสุด

เขาถูกมัดไว้กับผู้หญิงอีกคน แล้วยังมีผ้าขี้ริ้วยัดอยู่ในปากด้วย แต่นั่นดูไม่เป็นอันตรายนัก ถึงแม้ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างด้วยความโกรธ ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะยังมีพลังงานเหลือเฟือ

สก็อตต์ที่สวมชุดปลาหมึกกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

น่าเสียดายที่ดาร์กไม่เห็นเวอร์เธอร์อยู่ใกล้ ๆ

น่าสงสัยว่าเขาถูกมัดไว้ที่มุมอื่นหรือเปล่า?

นอกจากสก็อตต์ที่เป็นผู้ดูแลคู่รักบูชายัญ สมาชิกคนอื่น ๆ ของภาคีก็ยุ่งมาก

พวกเขาวาดวงแหวนเวทมนตร์ที่ซับซ้อนขึ้นรอบ ๆ รูปปั้นเทพธิดา และวางเทียนเวทมนตร์ที่มีลวดลายพิเศษบนรอบวงกลม

หลังจากวาดวงแหวนเวทเสร็จสิ้น สมาชิกภาคีผู้สวมหัวปลาไหลมอเรย์ก็เข้ามาดูโรเบิร์ตและหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเธอด้วยความสนใจ

เธอถามด้วยความสงสัย “นี่เหรอคู่ที่พวกนายจับได้?”

สก็อตต์ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่ต้องห่วงไป พวกเขามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด”

คุณมอเรย์พยักหน้าเล็กน้อย “ดีมาก หลังจากคืนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป”

สก็อตต์รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน “ตราบใดที่เทพธิดาฟื้นคืนชีพ เราจะเป็นสาวกผู้ภักดีที่สุดของเทพธิดา และทุกคนจะต้องสรรเสริญนามของเรา”

คุณมอเรย์ยิ้ม “ฉันไม่มีความทะเยอทะยานขนาดนั้นหรอก ถ้าสามารถทำให้คนที่ชอบหักอกคนอื่นในโลกนี้ตายได้ ฉันก็พอใจแล้ว”

สก็อตต์ “…”

หลังจากนั้นไม่นาน

คนที่สวมชุดปลาดาวพลันปรากฏตัวขึ้นในสายตาของดาร์ก

หลังจากเดินไปรอบ ๆ คู่รักนักเรียน เขาก็หยิบการ์ดเวทมนตร์ออกมา

“จงออกมา”

เสียงสุดท้ายของคู่รักนักเรียนหายไปอย่างสมบูรณ์

จริง ๆ แล้วมันคือการ์ด [เงียบสงัด]!

การค้นพบนี้ทำให้ดาร์กตื่นตัวมากขึ้น

คนที่ขัดเกลาการ์ด [เงียบสงัด] ได้จะต้องเก่งที่สุดในหมู่นักเรียนรุ่นพี่

ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกคนในภาคีนี้ที่ไร้ประโยชน์เหมือนกับสก็อตต์

คุณปลาดาวไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมา ซึ่งข้างในของมันมีของเหลวใสราวคริสตัลอยู่

ในบรรดาคู่รักที่ถูกมัด ดูเหมือนว่าจะมีคนรู้จักที่มาของของเหลวนี้ เพราะจู่ ๆ เขาก็ดิ้นรนและตะโกนออกมา

ทว่าเสียงของเขาถูกผนึกไว้โดยการ์ด [เงียบสงัด] ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินอะไรเลย

คุณปลาดาวยิ้ม “สมกับเป็นแอนโตนิโอ นายรู้เกี่ยวกับน้ำพรากวิญญาณจริง ๆ ด้วย”

คน ๆ นั้นดิ้นรนอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น!

แต่คุณปลาดาวสะบัดนิ้วทันที และทันใดนั้น หยดน้ำพรากวิญญาณก็สัมผัสเข้ากับกลางหน้าผากของชายผู้ชื่อแอนโตนิโอ

ชายคนนั้นหยุดดิ้นรนในทันที รูม่านตาขยายออกและเขาก็หมดสติไป

ดาร์กที่ซ่อนตัวอยู่ก็ขมวดคิ้ว

ในใจพลันตระหนักว่า เขาได้ค้นพบบางสิ่งที่เขาไม่รู้จักเข้าเสียแล้ว

น้ำพรากวิญญาณคืออะไร?

ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เขา

ยกเว้นแอนโตนิโอและสมาชิกภาคีอีกสิบหกคน เห็นได้ชัดว่าคนที่เหลือไม่รู้ว่าน้ำพรากวิญญาณคืออะไร

แต่นั่นไม่ได้หยุดพวกเขาจากการดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง หลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับแอนโตนิโอ

หลายคนถึงกับกรีดเชือกได้สำเร็จและกระโจนเข้าใส่สมาชิกภาคี

แต่เพราะไม่มีการ์ดเวทมนตร์ พวกเขาจึงถูกจับกดหลังจากนั้นเพียงสองนาที

จากนั้นคุณปลาดาวก็หยดน้ำพรากวิญญาณลงระหว่างคิ้วของพวกเขา

เมื่อน้ำพรากวิญญาณซึมเข้าไปในสมองของพวกเขา ทุกคนก็หมดสติไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด