จอมมารแค่อยากเป็นคนดี 128 ตำนานไม่มีวันตาย

Now you are reading จอมมารแค่อยากเป็นคนดี Chapter 128 ตำนานไม่มีวันตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 128 ตำนานไม่มีวันตาย
บทที่ 128 ตำนานไม่มีวันตาย

เมื่อได้ยินคำถามที่มาอย่างกะทันหันของดาร์ก ศาสตราจารย์เคเซอร์ก็ขมวดคิ้วมุ่น “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรรู้”

ดาร์กคิดว่าเขาจับจุดสำคัญได้แล้วจึงรีบพูดทันทีว่า “ศาสตราจารย์ครับ ผมไม่ได้อยากรู้รายละเอียดลึกอะไรขนาดนั้น”

“ฉันขอคิดก่อนนะ”

ศาสตราจารย์เอนหลังพิงกับเก้าอี้แล้วเคาะโต๊ะอย่างครุ่นคิด

เมื่อเข็มนาฬิกาหมุนผ่านไปทีละนิด บรรยากาศในห้องทำงานก็เงียบสงัดมากขึ้น

ในที่สุด ศาสตราจารย์เคเซอร์ก็พูดขึ้นว่า “จนได้สิท่า แค่เธอเริ่มสงสัยเธอก็มักจะพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเสมอ แต่ว่าฉันต้องเตือนเธอหน่อย ถึงแม้ฉันจะเชื่อว่าเธอรู้วิธีหลีกเลี่ยงอันตราย แต่นักเรียนคนอื่นอาจทำไม่ได้ เพราะงั้นเธอไม่ควรบอกคนอื่นในเรื่องที่ฉันกำลังจะบอกเธอต่อไปนี้”

ดาร์กเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ศาสตราจารย์ครับ ผมรู้ และผมก็จะไม่บอกใครด้วยครับ”

ศาสตราจารย์เคเซอร์เพิกเฉยต่อคำสัญญาของเขาและกล่าวต่อว่า “ฉันบอกเธอไม่ได้มาก แค่คำตอบสำหรับคำถามสองข้อนี้เท่านั้น”

ดาร์กให้ความสนใจเต็มที่และตั้งใจฟังในทันที

ศาสตราจารย์เคเซอร์เล่า “ปราสาทเซนต์แมเรียนไม่ได้ตั้งอยู่ในทวีปนี้”

ดาร์กสงสัย “มันก็อยู่เหนืออาณาจักรไม่ใช่เหรอครับ?”

ศาสตราจารย์เคเซอร์ส่ายหัวและกล่าวว่า “แน่นอนว่าไม่ เซนต์แมเรียนที่มองเห็นจากภายนอกเป็นเพียงภาพจำลองของปราสาทเท่านั้น ปราสาทจริงไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตแดนของอาณาจักร เพราะงั้นมันถึงไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของอาณาจักร”

ดาร์กไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้ เขาตกใจมากจนลืมดื่มชาด้วยซ้ำ

ศาสตราจารย์เคเซอร์กล่าวต่อ “เธอควรรู้ว่าลานประลองกลางแจ้งและโถงประลองไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน ผู้ชมที่มาจากทั่วอาณาจักรไม่ได้เข้ามาในสถาบันจริง ๆ และถนนนักเดินทางก็เหมือนกัน เก้าอี้หินที่ศาลากลางทะเลสาบเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการสับเปลี่ยนสถานที่เท่านั้น”

ดาร์กพูดด้วยความประหลาดใจ “แล้วปราสาทจริง ๆ ตั้งอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”

ศาสตราจารย์เคเซอร์ตอบ “บนแกนแห่งห้วงมิติเวลา”

ดาร์กถามด้วยความสงสัย “นั่นคือที่ไหนเหรอครับ?”

ศาสตราจารย์เคเซอร์ตอบ “พื้นที่ที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยปัญญาแห่งเรา ทั้งหมดที่เรารู้คือปราสาทสามารถสืบย้อนกลับไปในสมัยก่อนได้ และประวัติศาสตร์ทั้งหมดนับตั้งแต่ก่อตั้งมาจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ภายในปราสาท ส่วนความสมจริงของภาพนั้นจะเป็นอย่างไร มันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของประวัติศาสตร์นั้น”

ศาสตราจารย์เคเซอร์ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลมากนัก แต่ให้พื้นที่ดาร์กได้จินตนาการมากขึ้น

และเมื่อดาร์กออกจากห้องทำงาน ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่ศาสตราจารย์ดีดี้กล่าวว่า ‘การฉายซ้ำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์’

สี่ยุคที่แล้ว มาร์ติน นักเล่นแร่แปรธาตุในตำนานได้สังเวยชีวิตกว่า 5,764,801 คนเพื่อสร้างน้ำตาของเทพธิดาแห่งจันทราขึ้นมา

ศาสตราจารย์ดีดี้ยืมกลไกของปราสาท และใช้ภาพช่วงเวลานั้นอย่างชาญฉลาดเพื่อลดปริมาณการสังเวยอย่างไม่สิ้นสุด จนในที่สุดก็สามารถบรรลุผลการทดลองแบบเดียวกันได้

แม้ว่าเนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะอยู่เกินเอื้อมของคนทั่วไป แต่นั่นก็คือความหมายของมันอย่างคร่าว ๆ

“กล่าวคือไม่ว่าจะเป็นวิหารจันทรา เทพธิดา หรือภาพจิตรกรรมฝาผนังกับมิโนทอร์เมื่อคืนนี้ ล้วนเป็นเพียงการฉายซ้ำของภาพประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น?”

จิตใจของดาร์กพลันสั่นไหวขึ้นมาทันที เขาไม่เคยรู้สึกกระหายความรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างขนาดนี้มาก่อน

มันมากเสียจนเขาต้องใช้ ‘ศาสตร์แห่งจิตตั้งมั่น’ เพื่อทำให้สมองว่างเปล่า

“จากร่องรอยประวัติศาสตร์และการเห็นความจริงผ่านม่านหมอกโกลาหล”

“ไม่แปลกใจเลยที่ยุคนี้จะตั้งชื่อตาม ‘เซนต์แมเรียน’ นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกอย่างแท้จริง”

“ไม่ว่าจะเป็นเมอร์ลิน ดัลตัน ดาดาวิชี ผู้ยิ่งใหญ่ส่วนใหญ่ที่วางรากฐานแห่งเวทมนตร์ให้แก่ชนรุ่นหลัง ล้วนมาจากเซนต์แมเรียนทั้งสิ้น”

หลังจากทานอาหารกลางวันอย่างเร่งรีบแล้ว ดาร์กก็มาที่ห้องสมุดและใช้เวลาอยู่นานในการค้นหาหนังสือเกี่ยวกับมิติเวลา

ทว่าแม้ว่าเขาจะสามารถอ่านทุกคำในนั้นได้ แต่เขากลับไม่เข้าใจความหมายของประโยคพวกนั้นเลยสักนิด

สิ่งนี้ทำให้ความตื่นเต้นของเขาลดลงอย่างรวดเร็วและกลับสู่ระดับปกติ

ในที่สุดเขาก็ยืม ‘ชีวประวัติของเมอร์ลิน จอมเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล’ มา

ดูท่าแล้ว หนังสือเล่มนี้อาจกลายเป็นหนังสือพิเศษ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจประจำวันของเขาไปอีกนาน

ห้านาทีก่อนบ่ายสอง

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งของทั้งสี่บ้าน ได้นั่งอยู่ในห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว

นี่ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับนักเรียนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งเลย

แต่เนื่องจากคาบเรียนนี้สอนโดยอาจารย์ใหญ่อาร์เต้เอง มันจึงเป็นเรื่องปกติ

อาจารย์ใหญ่เองก็มีเวลาไม่มาก

ดังนั้น ก่อนที่ศาสตราจารย์วิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์คนใหม่จะมาถึง มีความเป็นไปได้สูงที่วิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง จะถูกสอนรวมในห้องเรียนเดียวกัน

นักเรียนของทั้งสี่บ้านถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม จนเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

ดาร์กพลิกดูหนังสือเรียนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความคิดของเขาไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนที่กำลังจะเริ่มเลย

กระทั่งอาจารย์ใหญ่อาร์เต้เข้ามาในห้องเรียน เขาถึงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

วันนี้อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ดูนิ่งสงบมาก เป็นไปได้ว่าเรื่องของเทพธิดาแห่งจันทราจะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว

คาบวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์เริ่มขึ้นตามปกติในที่สุด

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ไม่ได้ทำตามวิธีการสอนแบบเดิม ๆ และไม่ได้ใช้ตำราสอนเหมือนกับศาสตราจารย์ดีดี้ แต่ใช้ความรู้จากประสบการณ์ของเธอเองเพื่อบรรยายความทุกข์และความบิดเบี้ยวของโลกเมื่อครั้งพวกปีศาจยังมีชีวิตอยู่

“ก่อนที่วีรบุรุษ วัลคีรี และบุคคลสำคัญอื่น ๆ อีกหลายคนที่เป็นผู้จบยุคของปีศาจจะเติบโตขึ้นมา เซนต์แมเรียนในตอนนั้นเป็นป้อมปราการความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติ ซึ่งถูกปีศาจสอดแนมและรุกรานมากกว่าหนึ่งครั้ง”

“ศาสตราจารย์ของเราได้เสียสละไปไม่น้อยกว่าวีรบุรุษ เพื่อปกป้องคนรุ่นหลังจากปีศาจ”

“แต่ช่วงเวลาอันสงบสุข มักทำให้ผู้คนหลงลืมการเสียสละในอดีตและความโหดร้ายของสงคราม”

“ผู้คนจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า มันไม่ใช่พระเจ้าที่มาโปรดพวกเขายามพวกเขาตกอยู่ในเงามืด”

“ประวัติศาสตร์เวทมนตร์คือ ประวัติศาสตร์ของเวทมนตร์และจอมเวท และยังเป็นประวัติศาสตร์ของวีรบุรุษด้วย”

“วันนี้ฉันจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของเหล่าวีรบุรุษ”

“เริ่มจากวีรบุรุษ ไบรต์ กาวด์!”

ไม่มีใครไม่สนใจเหล่าวีรบุรุษที่เป็นผู้กอบกู้โลก

ผู้คนสามารถค้นหาฮีโร่ที่พวกเขาชอบได้ในหมู่วีรบุรุษมากมาย

วีรบุรุษไบรต์ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้กล้า อันที่จริง เขาเป็นเพียงหนึ่งในวีรบุรุษจำนวนมาก

แต่อย่างไร หัวข้อในวันนี้ก็ยังคงเกี่ยวกับวีรบุรุษ

เวอร์เธอร์ผู้เป็นลูกชายของผู้กล้ารู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด และเหล่านักเรียนก็มองมาที่เขามากขึ้น

แต่มันต่างจากที่นักเรียนคาดหวังไว้

สิ่งที่อาจารย์ใหญ่อาร์เต้เล่านั้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในวัยเรียนแสนซนของวีรบุรุษไบรต์…

“ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ!”

→ เธอคงอยากจะปลูกฝังความคิดนี้ให้กับนักเรียน

แต่ดูเหมือนนักเรียนจะไม่เข้าใจความคิดนี้มากนัก และห้องเรียนก็ค่อย ๆ เต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นรมย์

เวอร์เธอร์ก้มหน้างุด

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้…ไบรต์ในเรื่องเล่าก็ยังคงแสดงศักยภาพของเขาในฐานะวีรบุรุษ

แม้ว่าเวอร์เธอร์จะหน้าแดง แต่เขาก็ยังคงตั้งใจฟัง

จากนั้น อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ก็พูดถึงวัลคีรี ซึ่งอยู่ปีเดียวกันกับวีรบุรุษ และนั่นคือเวลาที่ดาร์กตั้งใจฟังชั้นเรียนมากที่สุด

ตามคำอธิบายของอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ ไม่มีใครคาดคิดว่า ท้ายที่สุดแล้วเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่ชอบเย็บปักถักร้อย จะกลายมาเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณการต่อสู้ในสนามรบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด