จอมมารแค่อยากเป็นคนดี 142 ดาร์ก เดม่อนสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี

Now you are reading จอมมารแค่อยากเป็นคนดี Chapter 142 ดาร์ก เดม่อนสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 142 ดาร์ก เดม่อนสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
บทที่ 142 ดาร์ก เดม่อนสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี

เมื่อประตูแห่งความปรารถนาถูกเปิดออก มันก็ยากมากที่จะยับยั้ง

ดาร์กยังคงประเมินความยับยั้งชั่งใจของตัวเองสูงเกินไป

และรุ่นพี่แพนดอร่าก็มีเสน่ห์มากเกินไป

ไม่ว่าจะเป็นความหุนหันพลันแล่น รูปลักษณ์ หรือการพัฒนาตนเองจากภายใน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อเขาทั้งสิ้น

‘ปัจจุบัน จำนวนของ [ราคะ] มี 108 หน่วย หลังจากดูดซับสามหน่วยก็จะเหลือ 105 หน่วย สมมติว่าไม่ต้องสิ้นเปลืองการ์ดดอกไม้ ก็ดูเหมือนว่าข้อจำกัดในเดือนนี้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า’

ดาร์กครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสลับโหมดอย่างรวดเร็ว และหันไปอุทิศตนให้กับการเรียน ‘ภาษาเวทมนตร์’ ต่อ

รุ่นพี่แพนดอร่าพูดถึงความรู้มากมายที่เขายังไม่ได้เรียนรู้ ทำให้เขาต้องใช้เวลาในการท่องจำและรวบรวมความรู้มากขึ้น

ระหว่างมีคนนำทางกับการเดินคนเดียวในความมืดนั้น มันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ดาร์กเท่ารู้สึกว่าการเก็บเกี่ยวในวันนี้น่ายินดีเป็นพิเศษ

แต่หลังจากออกจากห้องสมุดตอนสามทุ่ม เขาก็ต้องเริ่มกังวลเรื่องงานเต้นรำคริสต์มาสและของขวัญคริสต์มาสอีกครั้ง

ตอนแรกเขาคิดว่าคำเชิญงานเต้นรำในตอนนั้นเป็นแค่เรื่องตลก

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางหนีพ้นแล้ว

และของขวัญคริสต์มาส…

นอกจากต้องเตรียมของขวัญให้รุ่นพี่แพนดอร่าแล้ว ยังต้องเตรียมให้ไดแอนนากับโรสด้วย

อีกทั้ง เขายังต้องนับศาสตราจารย์ลิลลี่และศาสตราจารย์เคเซอร์เข้าไปด้วย

รวมแล้วเขาต้องเตรียมของขวัญห้าชิ้นเต็ม ๆ!

คงจะดีถ้ามันเป็นเพียงของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าดาร์กไม่ระวังมากพอ มันจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล

อันที่จริงหลังจากใช้จ่ายไปในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว ดาร์กในตอนนี้กำลังถังแตก…

เมื่อพิจารณาว่าราคาวัตถุดิบของการ์ด [กรงต้องสาป] และการ์ด [ฟิวชั่น] นั้นอยู่เหนือกว่าราคาที่นักเรียนชั้นปีหนึ่งสามารถจ่ายได้ ถ้าเขาต้องการขัดเกลาจริง ๆ เขาก็จำเป็นต้องหาคะแนนเพิ่ม

‘ฉันต้องตั้งแผงขายของบนถนนนักเดินทางเพื่อหาเงินเหมือนรุ่นพี่หรือเปล่าเนี่ย?’

ดาร์กพิจารณาถึงความเป็นไปได้

แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ได้ล้มเลิกความคิดนี้ไป

นอกจากจะต้องใช้เวลาในการตั้งร้านแล้ว ยังต้องใช้เวลาในการเตรียมสินค้ามากขึ้นอีกด้วย

นั่นเป็นสิ่งที่ดาร์กผู้ซึ่งตารางเวลาแน่นหนาอยู่แล้วยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เขาสามารถเลือกมาขายได้ก็มีแต่น้ำผลไม้ราคาถูกหลากหลายแบบ ซึ่งใช้เวลานานและต้องใช้แรงงานมาก แถมไม่สามารถทำเงินได้มากอีก

‘ถ้าแบบนี้ ฉันก็ต้องคิดหาทางอื่นเท่านั้น’

ตัดภาพมาที่บ่ายวันพฤหัสบดี

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้เล่าเรื่องปีเตอร์ เชลด์วิชต่อในคาบประวัติศาสตร์เวทมนตร์

จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นวีรบุรุษคนอื่น

นั่นคือสมาชิกคนแรกที่สมัครเข้าชมรม หลังจากที่ปีเตอร์ก่อตั้งชมรมสัตว์มหัศจรรย์

เธอชื่อแคลร์ เคท

แคลร์เป็นนักเรียนปีเดียวกันจากบ้านนักปราชญ์

เธอเองก็ได้รับอุปนิสัยของบ้านนักปราชญ์มา ชอบอ่านหนังสือ ชอบอยู่เงียบ ๆ และมีงานอดิเรกร่วมกับปีเตอร์

แคลร์ซึ่งต่อมามีบทบาทในสนามรบภายใต้ชื่อ ‘นักปราชญ์’ เป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีทักษะพิเศษใด ๆ

เนื่องจากนักเรียนต้องเข้าร่วมอย่างน้อยหนึ่งชมรมตั้งแต่ปีที่สอง แคลร์จึงเลือกชมรมสัตว์มหัศจรรย์ที่มีไม่ค่อยมีผู้คน

จากนั้นเด็กสาวธรรมดาที่ไม่มีทักษะพิเศษคนนี้ก็เริ่มเติบโตด้วยความเร็วที่ไม่สามารถควบคุมได้

เด็คสวนสัตว์ของเธอน่าทึ่งมาก!

เมื่อพูดถึงแคลร์ อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ก็รู้สึกประหลาดใจในตัวผู้หญิงคนนี้เช่นกัน

สมัยนั้นเป็นยุคที่มีคนเก่งหลายคนถือกำเนิดขึ้น

อีกทั้งยังมีวีรบุรุษมากมายจากเซนต์แมเรียน

และแคลร์เองก็เป็นหนึ่งในคนที่น่าทึ่งที่สุด

เรื่องราวส่วนใหญ่ในสมัยเรียนของแคลร์ล้วนเกี่ยวข้องกับสัตว์

ปีเตอร์สามารถหาสัตว์มหัศจรรย์มาเก็บไว้ที่ห้องชมรมได้ตลอดเวลา แต่เขาไม่ค่อยเก่งเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นแคลร์จึงต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้

ทุกครั้งที่สัตว์มหัศจรรย์เหล่านั้นสร้างความวุ่นวายในโรงเรียน แคลร์จะเป็นคนช่วยทำความสะอาดเสมอ

แต่อยู่มาวันหนึ่ง แมวจากชมรมสัตว์มหัศจรรย์กลับหายตัวไป

มันเป็นแมวสีขาวที่มีรูม่านตาสีขาวและยังถูกวางไว้ในห้องสีขาว ดังนั้น หากมองผ่าน ๆ ก็จะเผลอมองข้ามมันไปโดยง่าย

ปีเตอร์และแคลร์พยายามประกาศหาแมวขาวที่หายไป แต่หลังจากตามหามาสองสัปดาห์ พวกเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของมัน

จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งในสองสัปดาห์ต่อมา แคลร์ก็พบเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเดินอยู่เงียบ ๆ กับแมวในสวนหลังปราสาท ทันใดนั้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเหตุใดจึงหาแมวไม่พบ

เพราะแมวตัวนั้นเปลี่ยนไปเป็นสีอื่นแล้ว!

แมวที่เปลี่ยนจากแมวขาวเป็นแมวดำ และถูกนักเรียนพาไปส่งที่หอพัก

เนื่องจากทางโรงเรียนห้ามไม่ให้มีการเลี้ยงสัตว์อย่างชัดเจน คนที่เก็บแมวมาจึงซ่อนมันไว้ในหอพักอย่างลับ ๆ เพื่อไม่ให้มีคนพบ

และเนื่องจากแมวเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำแล้ว การประกาศหาแมวหายจึงสูญเปล่าไปโดยปริยาย

ต่อมาแคลร์ไปหาเด็กหญิงตัวน้อยที่เก็บแมวมา และอธิบายเหตุผลให้เธอฟัง

แม้ว่าอีกฝ่ายจะลังเล แต่เธอก็ยังคืนแมวให้

แต่ตั้งแต่นั้นมา เด็กหญิงตัวน้อยก็เริ่มไปเยี่ยมแมวที่ชมรมสัตว์มหัศจรรย์แทบทุกวัน

ต่อมาเธอก็เข้าร่วมชมรมสัตว์มหัศจรรย์ และกลายเป็นสมาชิกคนที่สามของชมรม

เมื่ออาจารย์ใหญ่อาร์เต้พูดถึงเรื่องนี้ เธอก็พูดด้วยความคิดถึง “มีใครเดาได้ไหมว่าเธอเป็นใคร?”

นี่เป็นคำถามง่าย ๆ และเด็ก ๆ ก็สามารถได้คะแนนฟรีจากตรงนี้

นักเรียนบ้านนักปราชญ์หลายคนยกมือขึ้น

ดาร์กเอนหลังพิงเก้าอี้ แต่ในหัวกลับนึกถึงแมวขี้เกียจที่บ้าน

เจ้าแมวที่ชื่อ ‘กาลิเลโอ’ ไม่เพียงแต่เปลี่ยนสีขนตามดวงดาวและสภาพอากาศเท่านั้น มันยังปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย และเพื่อไม่ให้ถูกพาออกไปเดินเล่น มันจะปรับสีตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ

ในตอนที่ดาร์กยังเด็ก เขาชอบเล่นซ่อนหากับมันเป็นพิเศษ

นักเรียนบ้านนักปราชญ์ยืนขึ้นและตอบอย่างมีเหตุผล

“ผมจำได้ อาจารย์ใหญ่พูดไว้ในคาบที่แล้วว่าเหตุผลที่จอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ปีเตอร์กลายมาเป็นเพื่อนกับผู้กล้าและวัลคีรีได้ก็เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่”

“และในคาบที่แล้วมีคนพูดถึงว่าวัลคีรีเป็นคนที่รักแมวมาก”

“อาจารย์ใหญ่จะไม่หยิบยกเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ขึ้นมา”

“เพราะงั้นคำตอบก็ชัดเจนแล้วครับ”

“นักปราชญ์แคลร์คือ คนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ปีเตอร์กับวัลคีรี อัลเวตต์”

“และคนที่เก็บแมวตัวนั้นมาก็คือวัลคีรีนั่นเอง!”

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ปรบมือด้วยความพึงพอใจ “ถูกต้อง ห้าคะแนนสำหรับเธอ”

จากนั้นอาจารย์ใหญ่ก็พูดสั้น ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอัลเวตต์และแคลร์ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แคลร์เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และเธอก็มีความรู้มาก อ่อนโยน และมีความรับผิดชอบ ฉันคิดว่าพวกเธอจะต้องชอบแคลร์มากอย่างแน่นอน”

ดูเหมือนจะมีความหมายนัยยะซ่อนอยู่ในคำพูดของอาจารย์ใหญ่อาร์เต้

ใบหน้าของดาร์กซีดเผือด และเขาก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้น

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้มองมาที่เขาและพูดว่า “เดม่อน มีอะไรจะถามหรือเปล่า?”

จากนั้นดาร์กก็ถามอย่างเผื่อใจว่า “อาจารย์ใหญ่ครับ ศาสตราจารย์คนใหม่ของเราในวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์คือแคลร์ เคทหรือเปล่าครับ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด