ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 152 สงครามมากราโด ④ นรกภายใน 72 ชั่วโมง

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 152 สงครามมากราโด ④ นรกภายใน 72 ชั่วโมง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

152 สงครามมากราโด ④ นรกภายใน 72 ชั่วโมง

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

「ศัตรูถอย!」

「มาฟังเสียงเชียร์หน่อย-!」

ผู้บัญชาการแผดเสียง แต่ไม่ได้รับการตอบรับมาก ทหารทั้้งหมด พักน้ำหนักของตัวพวกเขาไว้บนอาวุธ หรือบนกำแพงคล้ายๆกัน และล้มไปตรงนั้นเลย

มันเข้าใจได้อย่างสิ้นเชิง การต่อสู้ที่ติดกันหกครั้งนี้ ที่เราเริ่มสู้ป้องกัน นับตั้งแต่วันแรก รวมไปถึงการโจมตีตอนกลางคืนสองครั้ง ดังนั้นทุกคน ได้ไปถึงขีดจำกัด จากแรงกดดันของศัตรูอย่างต่อเนื่อง

「จำนวนคนตายของเราดูเป็นยังไง?」

ซีเลียหาอากาศ แต่ยังพองออกของเธอออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

「การเสียกำลังผล……ไม่ มีทหารที่รอดชีวิต 500 และ 300 ที่บาดเจ็บเกินไปที่จะเคลื่อนไหว」

「เข้าใจแล้ว ให้ทุกคนเคลื่อนย้ายแค่ศพรอบบ่อน้ำ! เมื่อทุกคนเสร็จแล้ว พวกเค้าดื่ม กินอาหาร และหลับได้ แต่ทำทั้งๆที่ยังใส่เกราะ」

มีศพนับไม่ถ้วนในเมือง ทั้งของศัตรูและพวกเดียวกกัน ปรกติแล้ว ศพจะต้องถูกนำออก เพื่อที่จะกำจัดโอกาสใดๆที่โรคระบาดจะแพร่ไป แต่มีศพมากเกินไป กว่าคนที่ยังรอดชีวิตมาก และมันไม่ได้ดูว่าจะเป็นไปได้ ที่จะเอาพวกเขาออกทั้งหมด นั่นทำไม เราจะแค่ทำให้บริเวณรอบบ่อน้ำ สะอาดพอที่จะไม่มีน้ำเน่า เข้าไปในน้ำ และมองข้ามที่เหลือไป

「ไม่มีประโยชน์ที่จะเพิ่มกำลังใจทหารแล้วตอนนี้……」

「ศัตรูก็ได้รู้ว่าจำนวนขอเราลดลง มันจะไม่นาน ก่อนการโจมตีครั้งต่อไปของพวกเค้า」

เราาสู้อย่างหนัก และทำให้ศัตรูได้รับการเสียกำลังพลมากกว่าที่เรามีทหารอยู่ แต่การต่อสู้ป้องกัน ด้วยกำลังหนึ่งในสิบของขนาดศัตรู ดันเราไปถึงขีดจำกัด ฝนตกต่อไป ขณะที่ผมมองดูท้องฟ้า แต่ความไม่่หยุดยั้ง ดูเหมือนจะค่อนข้างลดลง และหมอกหนาได้คืบคลานออกมา ไม่เพียงแค่ทำให้ชายฝั่ง เกือบจะมองไม่เห็น แต่ทำให้มันยาก ที่จะเห็นแม้แต่บริเวณข้างหน้าคุณ มันไม่ได้ดูเหมือนเหมาะสม ที่จะส่งเรือในอากาศแบบนี้ด้วย

「ท่านเอเกอร์ซามะ หนูได้เรือมา แม้ว่าขนาดมันจะเล็ก ถ้าสิ่งต่างๆมันเริ่มน่าเกลียด ถ้าอย่างนั้น มันก็ได้ที่ท่านเอเกอร์ซามะจะ……」

ถ้าผมมีเรือ งั้นผมจะให้อิริจิน่าและซีเลีย และคนอื่นๆหนีไป น้ำที่ดุร้าย อาจจะทำให้พวกเธอออกไปจากทาง แต่พวกเธออาจจะไปถึงตำแหน่งที่ปลอดภัย ถ้าพวกเธอโชคดี ผมรู้สึกมากกว่าโล่งใจนิดหน่อย

「ให้อิริจิน่าขึ้นเรือ ขณะที่สำหรับพ่อ……」

ผมจับหอกในมือ และมุ่งหน้าไปที่ถนน ผมได้ยินเสียงร้องของศัตรู ผมเดาว่า เราไม่มีเวลาได้นอน

「ทุกคน ทิ้งการปกป้องกำแพงเมือง และถอยทัพไปที่ท่าเรือ!」

แคมป์ใกล้กับกำแพง ทั้งหมดได้ถูกทำลายแล้ว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้ป้องกัน คือท่าเรือ

「อัศวินโดรห์นโดโนะ ตายในการต่อสู้!」

「แนวหน้าทรุดลงไป! ให้ทั้งสองปีกถอย หรือพวกเค้าจะล้อมเรา!」

「ถ้าเราถอยไปไกลกว่านี้ เราจะตกอยู่ในแม่น้ำมั้ย? สมบูรณ์แบบ แม่น้ำจะไม่แทงหอกกลับมาที่นาย!!」

เสียงตะโกนจาากพวกของผม ดังก้องอยู่รอบๆผมม และผมแม้แต่ได้ยินเสียงของการปะทะดาบอย่างชัดเจน ไปตลอดทางตนถึงท่าเรือ ที่ผมบัญชาการอยู่

「พวกเค้าน่าจะกลับมายึดเกือบทั้งท่าแรนเดลได้หมดแล้ว ที่เดียวที่เหลือคือ……」

「แค่ท่าเรือ」

เพิ่มเติมจากเมืองที่ถูกล้อมโดยสิ้นเชิง ศัตรูดันเราไปถึงท่าเรือ จากข้างในเมือง โชคดี บริเวณข้างหน้ามีจำกัด ดังนั้น ทหารหลายพันที่เอ่อล้นเมือง เคลื่อนไหวไม่ได้ และพวกเขาส่งแค่ทหารหลายร้อยใส่เราได้ในแต่ละครั้ง

「ไปกันเถอะ ซีเลีย」

「ค่ะ! หนูจะไปกับท่านเอเกอร์ซามะ……จนถึงสุดท้าย!」

「หนูจะกลับไปที่ภูเขากับหัวหน้า!」

ผมนำอะไรที่เหลือของหน่วยคุ้มกัน และมุ่งหน้าไปสู่ศัตรู มันดูเหมือนซีเลียและปีปี้ เจตนาที่จะตายกับผม อิริจิน่า ก็อยากสู้จนถึงท้ายที่สุดด้วย เพราะเธอยังจับหอกอยู่ แม้ว่าจะอื่นอยู่บนขาเดียวพร้อมกับทหารที่บาดเจ็บที่เหลือ ทุกคน มีแผนที่จะตายที่นี่ แต่ ผมอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ และกลับไปบ้าน อย่างไรก็ตาม ผมจะรู้สึกเสียใจถ้าผมไปทำให้เสียมู้ด โดยการพูดอย่างนั้น ดังนั้น ผมจะเก็บความคิดนั้นไว้กับตัวเอง

「ชาร์จเข้าไป!」

ไม่มีความจำเป็น สำหรับเล่ห์กลใดๆ ศัตรูดันใส่เราจากข้างหน้ ด้วยขบวนแถวที่แน่น ดังนั้น ไม่มีที่ไหนที่จะวิ่งหนี ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกำจัดศัตรู ที่เข้ามาหาคุณอย่างต่อเนื่อง

「ฟฟฟู่น!」

ผมกระแทกหอกบนหัวของศัตรู ที่สู้กับพวกของผมหนึ่งคน แรงกระแทกที่สร้างโดยการโจมตี โดดเด่นจากเสียงวิ้งของโลหะ และหัวเปิดเหมือนแตงโม ตกลงไปจากชั้นสอง

「ให้ชั้นเขาร่วมด้วย」

ผมตามไปด้วยการฟันขึ้น ส่งศัตรูบินไปในแนวโค้งพาราโบร่าที่สวยงาม เสียงเชียรดังขึ้นจากพวกของผม ระหว่างที่ศัตรูร้อง

「ชั้นจะไปที่ปีกขวา!」

「ไอ้บ้า! นั่นทำให้ชั้นอยู่ตรงหน้าอสูรสงคราม! อย่าทิ้งตำแหน่งนะโว้ย!」

ผมวิ่งหอผ่านหลังของศัตรูใดๆที่หนี และเหวี่ยงอาวุธของผมซ้ายและขวา เพื่อที่จะสร้างรู ในแถวของศัตรู

「ซอรรร่า!」

ผมกระโดดเข้าไปในช่องเปิด และฟาดหอกของผมเป็นวงกลม ทำให้เกิดเสียงแคล๊งของเหล็กอย่างดัง เสียงร้องขอความทุกทรมาณ และพายุหมุนของเลือด ด้วยนั่น ผมกำจัดทหารศัตรูที่อยู่ในระยะของหอกของผม — วงกลมที่มีระยะมากกว่า 3 เมตรนิดหน่อย

「ทหาร 10 คนในทีเดียว……!」

「งั้นเค้าเป็นอสูรหรืออะไรบางอย่างจริงๆเหรอเนี่ย?!」

「มึงเรียกใครว่าอสูรวะ !?」

ผมจับทหาร ทีปากเสียใส่ผมทีคางล่างและโยนเขาไป จากนั้นแทงชายอีกคนด้วยหอกของผม ระหว่างที่ผมทำมัน ผมจะถีบคนที่อยู่ข้างพวกมันไปไกลๆด้วย

「มีอะไร? มาแล้วฆ่ากูดี๊ ถามมึงอยากได้หัวผู้บัญชาการสูงสุด!」

「「อุ……อุโออออออออออ้ !!」」

พวกมันสามมคน วิ่งใส่ผมด้วยหอกของพวกมัน ดี นั่นถูกแล้ว ทำให้ง่ายกว่า มากกว่าจะไปหานมึงด้วยตัวของกูเอง

「ชิ-!」

ผมกำจัดศัตรูสองคนที่ชาร์จเข้ามา ด้วยการโจมตีของหอกผมพร้อมๆกัน หอกของทหารที่เหลือ ขุดลงไปที่ข้างผม

「กูทำได้! กูจัดการอสูรสงคราม……เอ๊ะหรือไม่ใช่วะ!」

โชคร้าย ผมแค่รับมันข้างตัวผม ผมวางมือไว้บนทหารที่น่าสมเพช ผู้ที่เสียอาวุธของเขาไป และหักคอของเขาอย่างสบายๆ

「「「「ดอรรรยยย่าาาาาาา!!」」」」

ศัตรูสี่ตัว รีบเข้ามาใส่ผม ถือดาบสองมือใหญ่ไว้เหนือหัว และเหวี่ยงอาวุธของมันลงพร้อมๆกัน ผมรีบตอบสนอง โดยการหันหอกไปข้างๆ และบล็อคการโจมตีของพวกมัน

เสียงเหล็กที่คม ดังก้อง ขณะที่อาวุธขอผม หยุดการฟันของพวกมัน การกระแทกที่น่ากลัว ที่สร้างจากแรงปะทะ มันเพียงพอที่จทำให้หอกทั่วไปหัก ผมจะต้องเลี้ยงเหล้าพวกดวอร์ฟต่อครั้งหน้า

「แม่งหยุดเราว่ะ!」 「แม้แต่พวกูสี่คนยังฆ่าแม่งไม่ได้!?」

「นี่ยังไม่พอ มึงยังอ่อนแอเกินไป!」

ผมดันเท้าแรงพอที่มันจะจมลงไป ในพื้นที่เป็นโคลนเล็กน้อย และดันดาบกลับไป ศัตรูสี่คน บินกลับไปหาพวกของพวกมันข้างหลัง ทีแพ็คกันอยู่แน่นหลังพวกมัน ทำให้พวกมันทั้งหมดสะดุดล้ม

「ยิง!」

เมื่อเซ้นส์ว่าบางอย่างไม่ดีจะเกิดขึ้น ผมหันไป ทันทีที่ทีมทหารที่ติดปืนธนูเข้ามาในระยะสายตาของผม ลูกดอกของพวกมัน บินมาสู่ผม ผมบล็อคมันไปหนึ่งโดยสัญชาตญาณ แต่อีกหนึ่งแทงเข้าต้นขาของผม

「กุ่……」

「จบมันซ้า !」

พวกมันต้องได้ตั้งการโจมตีไว้สองชั้น ขณะที่ลูกดอกอีกหลายดอกมากขึ้น บินมาสู่ผม ซึ่งแทงท้องของผม ผมได้ยินเสียงของลูกดอกโดนร่างกายผม

「ม่ายยยยยยยยยย!!  ท่านเอเกอร์ซาม้าาาาา!!!」

「หัวหน้าเหล่าถูกยิง!」

「ม-มัน……จบแล้วตอนนี้」

ซีเลียทิ้งดาบของเธอและวิ่งมาสู่ผม งี่เง่าจัง หนูจะทำให้ตัวเองถูกฆ่าด้วยนะถ้าหนูทำอย่างนั้นน่ะ บวกกับ นี่ไม่ใช่บางอย่างที่จะมากรีดร้องซะหน่อย

「นั่นมันเกือบไปนะ พ่อคิดว่พ่อจะตายซะอีก」

ผมวางมือลไปบนท้องของผม และดึงลูกดอกที่ปักตัวผมอยู่ ผมดีใจที่หัวมันไม่ใหญ่เกินไป แต่มันยังเจ็บ

「ท่านเอเกอร์ซามะ?」

「เอ๋? ทำไมเค้ายัง……มีชีวิตวะ?」

การเกร็งกล้ามเนื้อท้องโดยสัญชาตญาณช่วยชีวิตผมไว้ ถ้าผมละเลยการฝึกรายวันของผม มันน่าจะไปถึงเครื่องในของผม

「กล้ามเนื้อเค้าหยุดมัน!? แต่ปืนธนูนี้มันทรงพลังพอ ที่จะเจาะทะลุเกราะเหล็กนะเว้ย!」

「นี่ กูจะคืนนี่ให้มึง!」

ผมเขวี้ยงลูกดอกเปื้อนเลือดกลับไปที่ทหารที่ยิงมัน และแทงเขาอย่างแม่นยำเข้าตา

「ยังไงซะ กูยังไม่ตาย จะทำไงต่อล่ะวะ?」

พวกมันเตรียมที่จะยิงชุดที่สอง แต่เราไม่ได้ไร้เดียงสาปานนั้น ทหารพวกเดียวกันเน้นการยิงปืนธนู และโยนมีดใส่พวกมัน กำจัดทีมปืนธนูของศัตรูทั้งหมด

「ท่านเอเกอร์ซาม้าา……ให้ตายเถอะ! เห้อ!」

โดยไม่สนว่าอยู่กลางสนามรบ ซีเลียกอดผม พร้อมกับน้ำตาในตาของเธอ

เฮ้ เอาน่า มาทำนี่ที่หลังนะ ถ้าเรารอดจากนี่ไป พ่อจะสร้างความรักกับลูก จนกว่าลูกจะสลบและฉี่แตกเลยจ่ะ

「โอเค มาสู้เถอะ」

「เยสเซอร์! หนูพร้อมแล้ว!」

โอเค  เธอกลับไปเป็นปรกติแล้ว ผมดีใจที่ซีเลียที่อ่อนไหว บอกไม่ได้ว่าสภาพของผมแย่แค่ไหน จากใบหน้าของผมเนื่องจากฝน มันอาจจะไม่ได้ขุดเข้าไปในเครื่องใน แต่มันแค่อีกนิดเดียวเอง และเลือดไม่หยุดไหลออกมาจากแผล โชคดีสำหรับผม เธอบอกความต่างจากเลือดนั้น และเลือดของศัตรูไม่ออก

ตอนนี้ซีเลียมีกำลังใจดีขึ้นแล้ว เธอพุ่งเข้าใส่ศัตรูเหมือนลูกธนูสไลซ์ขาของศัตรูทีละคนตามๆกัน ด้วยขาที่ถูกฟันจนใช้ไม่ได้ ทหารของศัตรูมัวนลงไปที่พื้น และขวางทางทหารที่จะมาจากข้างหลังของเขา นี่อาจจะดีกว่าการฆ่าพวกเขาไปเลย

「ขามัน! เล็งไปทีขามัน!」

หอกของทหารพวกเดียวกัน เล็งไปที่ต่ำกว่า แทงต้นขาละหน้าแข้งของศัตรู ทหารศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บล้มลง ขวางทางกำลังเสริมจากการรีบเข้ามา ดังนั้นผ่อนคลายแรงกดดันได้บ้าง ผู้บัญชาการของศัตรู สั่งพวกเขาให้เดินหน้าระหว่างที่เหยียบทหารที่ล้ม แต่ไม่มีพวกเขา ที่จะยินดีเหยียบและฆ่าสหายร่วมรบจนเกินไป

ผมอยู่ในตำแหน่งที่การโจมตีของศัตรูดุดันที่สุด ระหว่างที่ซีเลีย กิโด้และหน่วยคุ้มกันเปลี่ยทหารของศัตรูเป็นศพอยู่ข้างผม อย่างเป็นธรรมชาติ ศัตรูพยายามจะหยุดพวกเขา ด้วยธนูและปืนธนู แต่ทุกครั้งที่พวกเขาพยายาม พวกเขาโดนยิงที่หัวหรือหัวใจและตายห่า ปีปี้ได้แคมป์อยู่ที่หลังคา โรงเก็บของที่ยกสูงขึ้นเล็กน้อย ใกล้กับท่าเรือ ลูกธนูของเธอเลยหัวของเราไป และกำจัดศัตรู

การโจมตีของศัตรูได้เข้มข้นขึ้นเข้าไปอีก และผมไม่มีเวลาว่าง ที่จะตัดสินใจว่าจะโจมตีศัตรูคนไหนก่อนแล้ว แทนที่จะอย่างนั้น ผมเต็มไม้เต็มมือจากการจัดการศัตรูตรงหน้าของผมแล้ว เสียงจากรอบข้างของผมเริ่มจะจางหายไป และทุกอย่าง เริ่มเคลื่อนไหว ในสโลว์โมชั่น

ผมเหฌนลูกธนูบินมาช้าๆใส่ผม และผมก้มเพื่อหลบ ในสโลว์โมชั่นคล้ายๆกัน ผมปัดศัตรูที่เข้าหาผมด้วยหอกของผม ถีบมันไป และกระทืบมัน

กิโด้กำจัดพวกมัน หลังจากที่ล็อคดาบกับพวกมัน หลบการโจมตีจากดาบ ด้วยความหวิดเท้าเส้นขน และแทงขึ้นไปทีคอของมันกลับไป ขณะที่หอกแทงใส่ซีเลีย เะอฟันแขนที่ถืออาวุธ และหมุนไปใกล้กับศัตรูและฟันคอของมันอย่างเกลี้ยงเกลา ย้อมตัวเธอในแดงด้วยเลือดทีเธอทำให้หลั่ง

ขณะที่ผมน็อคฝูงศัตรูข้างหน้ากลับไป ผมเห็นผลจากการโจมตีของผมได้อย่างชัดเจน หนึ่งหัวถูกตัดออกไป และสองหัวถูกขยี้ และอีกส้องกระเด็นไป การโจมตีมาใส่ผมจากด้านข้าง แต่จริงๆแล้วมันควรจะเป็นใส่หลังผม เพราะการโจมตี มันอยู่ในระยะสายตาของผม

ผมตีศอก และขยี้จมูกของชายที่โจมตีผมจากด้านข้าง จับหัวของเขาจากนั้น กระแทกเขาเขาใส่พื้นหิน

ในทันทีนั้น ผมรู้สึกถึงบางอย่างจี้ดๆในผม หอกต้องได้แทงหลังผม แต่พวกมันคิดถูก ที่โจมตีจุดบอดของผม ที่ผมจัดการกับพวกมันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เขาขาดกำลังที่จะเจาะทะลุตัวผมไป แม้ว่าจะเล็งไปที่ช่องว่างที่เกราะของผม มันแค่เจ็บ

ผมจับหอก และนทหารของศัตรูไปที่พื้น แค่เมื่อผมกำลังจะกระทืบเขา ซีเลียรีบมาในการระเบิดของความโกรธ หลังจากที่ได้เห็นเขาแทงผมและฟันเขาตาย

 「แผลแย่แค่ไหน!?」   

ผมแม้แต่ตอบคำถามที่รีบของซีเลียยังไม่ได้ และวิ่งหอกของผม ใส่ศัตรูที่ดันเข้ามา และโยนมันไปที่ด้านข้าง ซีเลียและกิโด้ โดยพื้นฐานแล้วชิดอยู่ข้างผม ในขบวนแถวแน่นๆ ไม่ยินดีที่จะทิ้งผม ตอนนี้ ผมจะเหวี่ยงหอกของผมมากไม่ได้แบบนี้

ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ หน่วยคุ้มกันที่ฝึกมาดี และติดอาวุธหนัก ซึ่งเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนน้อย ก็ได้สู้อย่างหนักอยู่รอบๆผม แต่การสู้อย่างไม่จบไม่สิ้น ในที่สุดก็ทำให้พวกเขาเหนื่อย และพวกเขาถูกดันถอยหลังไปอย่างช้าๆ

 「ลูกธนูได้หยุดมาแล้ว นี่หมายถึงปีปี้ก็ได้-?」   

 「ไม่โรงเก็บของยังไกลไปข้างหลัง และศัตรูยังไม่ได้ไปที่นั่น บางที่เธอลูกธนูหมด……หรือธนูหัก」   

เนื่องจากใช้มันในการต่อสู้ที่ต่อเนื่อง เธอไม่สามารถมีโอกาสที่จะได้บำรุงรักษาอาวุธของเธอ ดังนั้น มันเป็นไปได้ ที่มันอาจจะหัก

 「เราไม่มีทางเลือก นอกจากสู้ต่อไป」   

ขณะที่ผมส่งทหารมากกว่าเดิมบินไป การตีวงล้อมถอยไป หืม เราไล่พวกมันแล้วเหรอไง?

 「ได้โปรดระวัง บางอย่างแปลกๆ」   

ไม่เหมือนอะไรที่พวกมันได้ทำมาก่อน ศัตรูถอยไปแล้วสร้างระยะ พวกมันยังล้อมเรา แต่ไกลไปนิดหน่อย

 「นั่น……ไม่ดี!」   

วัตถุลอยเหนือหัวเรา สร้างเงาใหญ่ และสร้างเสียงต่ำที่ตัดผ่านอากาศ แต่ต่างจากเสียงของลูกธนูธรรมดา  ทหารพวกเดียวกันบางคน ปิดหัวด้วยโล่ คาดหวังถึงลูกธนู แต่พวกเขาถูกขยี้ไปด้วยกันกับโล่ของพวกเขา

 「บาลิสต้า……ถ้าอย่างนั้น มันเอามาด้วยกับพวกมัน เข้ามาในเมือง」   

ทหารที่อยู่นิ่งๆ ไม่มีส่วนร่วมในการโจมตีเรา ไม่ได้เล่นอยู่ไปทั่ว

พวกมันนำบาลิสต้าประมาณ 20 กระบอกมา และยิงลูกดอกใหญ่อย่างต่อเนื่อง โล่หรือหลังคาไม่สามารถที่จะปกป้องอะไรที่เหมือนลูกธนูใหญ่ๆได้ พวกเขาเรา ถูกกำจัดทีละคนตามๆกัน และแถวของเรา ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

 「โฮ้ววว!」   

หนึ่งในลูกดอกนั้น ลงพื้นใกล้กับซีเลีย และแตกเศษเหล็ก ยิงเข้าสู่ไหล่ของซีไร แต่ทำให้เธอเสียเลือดไปนิดหน่อย และไม่สามารถที่จะสู้ได้

 「กิโด้ เอาซีเลียและอิริจิน่าไปที่เรือ จากนั้นออกเรือเมื่อมีโอกาส」   

 「เอ๋!?」   

 「ไม่มีทาง! หนูยังสู้ได้! หนูจะไม่ทิ้งข้างท่านเอเกอร์ซามะ!」   

 「ฟังพ่อนะ! อิริจิน่าท้องด้วยลูกของพ่อตอนนี้……เธอยังไม่รู้เมื่อเธอมาที่นี่ ลูกจะต้องปกป้องเธอ ซีเลีย」   

 「เอ๋? ไม่ใช่พ่อใช้ยาคุม……」   

 「แค่ฟังพ่อและไป!」   

แน่นอนว่านั่นโกหก แต่ถ้าผมไม่พูดอย่างนั้น สาวคนนี้จะไม่ออกจากผม แม้ว่าเธอจะตาย

อย่างไรก็ตาม แค่เมื่อกิโด้และซีเลียกำลังจะถอยกลัง เลียงลมที่เร็วสามารถได้ยินเหนือหัวและตกใส่พวกเธอ ใกล้กว่าก่อนหน้า ทำให้เกิดเศษเหล็ก — ครั้งนี้ ขนาดเท่าดาบ — ที่บินไปใส่พวกเธอ

 「ระวัง!」   

กิโด้ผลักซีเลียลง จากนั้น เขาไม่ขยับเลยซักนิดหลังจากนั้น

 「เดี๋ย-! ทำอะไรต่อหน้าท่านเอเกอร์ซามะ……ปล่อยนะ! ขยับไป!……กิโด้?」   

 「กุ่……ก่ะ……」   

เศษเหล็กฝังลึกลงไปที่หลังของกิโด้ มีเลือดเล็ดออกมาจากข้างท้องของเขาด้วยเหมือนกัน ดั่งว่าเศษมันได้แทงทะลุตัวเขา เขาคายเลือดออกมา และไม่เคลื่อนไหวอยู่ที่พื้น

 「กิโด้……」   

ซีเลียและผมชำเลืองมองกัน มีโอกาสใดๆ ทีเขาจะรอดชีวิตจากแผลที่แทงทะลุเขามั้ย? แย่กว่านั้นอีก มันไม่ได้ดูเหมือนจะมียาไหน ที่ช่วยได้เหมือนกัน

 「……ท่านเอเกอร์ซามะ คนบาดเจ็บสามคน จะขับเรืออย่างถูกต้องไม่ได้ หนูจะต้องอยู่ที่นี่ จนกว่าจะท้ายที่สุด」   

ไม่มีอะไรที่ผมพูดได้อีกแล้ว แต่ผมยังไม่มีเจตนาที่จะตาย

มีเสียงลมพุ่งเข้ามาอีกเสียง และผมเห็นเงาลางๆในครั้งนี้ มันเหนือหัวของผม

ซีเลียเงียบ และปิดตาของเธอ ให้ตายซิ เธออยากจะตายจริงๆนะวันเนี้ยเนี่ย ไม่ใช่เหรอ

 「โอออออออ้……」   

ผมลดสะโพก และสร้างพลัง

 「ดอรรย่าาาา!」   

หอกของผมปะทะกับลูกธนูที่หนาสุดขีด ที่ตกลงมาจากเหนือหัวของผม ทั้งสองฝ่าย ดูเหมือนจะล็อคอยู่ในการกินกันไม่ลงในพริบตา แต่หลังจากเสียงทื่อๆ ลูกธนูสะท้อนกลับไปข้างหน้าแนวตั้ง และกลับไปหาฝูงของศัตรู พวกมัน ตะโกนอยู่ในความประหลาดใจ

 「ซีเลีย อย่าได้ยอมแพ้ เปิดตาของลูก!」   

 「ค่ะ!!」   

แขนที่บาดเจ็บของซีเลียเปลี้ยไป แต่เธอจับดาบในอีกแขน และจ้องศัตรู เมื่อเห็นเราได้แตกเป็นเสี่ยงๆ บาลิสต้าได้หยุดลง และทหารของศัตรู มาข้างหน้าอีกครั้ง

มันเป็นในเวลานั้น มีเสียงของลมพัดอีกครั้ง ที่สร้างโดยการที่บาลิสต้าถูกยิง แต่บาลิสต้าของศัตรู ไม่ควรจะยิงอยู่ตอนนี้

ลูกดอกใหญ่บินอยู่เหนือหัวเรา และตกลงบนหัวทหารของศัตรูเป็นฝน ลูกดอกหลายสิบลงไป และหยุดการเดินหน้าของศัตรู ตามลูกดอกไป เป็นลูกธนูหลายร้อย

ไม่มีอะไร นอกจากแม่น้ำอยู่หลังเรา นอกจากเทพเจ้าน้ำมาเพื่อช่วยเรา มีความเป็นไปได้เดียว

 「พ-พวกเดียวกัน—-!!」   

 「กำลังเสริมในที่สุดก็มาถึง—-!!」   

พวกเดียวกัน ที่เกือบจะตายกันอยู่แล้ว ระเบิดเสียงเชียร์ออกมา คนที่ใส่การโจมตีเข้ามา คือแบทเทิลชิพ ตามมาด้วยเรือขนส่ง ที่ส่งทหารลงสู่ท่าเรือ แค่เพียง 2000 ถูกส่ง แต่ความจริง ว่าเราได้รับกำลังเสริม มันเพียงพอแล้ว ที่จะให้ควมหวังพวกเดียวกัน และสร้างความตื่นตกใจ ในหัวใจของศัตรู

 「พวกเค้าทำได้ดี ที่ข้ามแม้น้ำได้ในหมอกนี้……」   

ตอนนี้เมื่อผมรู้มัน ฝนได้เป็นอะไรที่บางๆแล้ว และน้ำในแม่น้ำได้ลดลง และกระแสน้ำได้ช้าลง แม้ว่ามันจะฝนตกที่นี่ กระแสน้ำได้กลับไปเป็นปรกติแล้ว เมื่อฝนมันหยุดตกต้นน้ำ

การรุกของศัตรูหยุดลง อนุญาตให้กิโด้ และซีเลีย กลับไปรักษาแผล ในทันทีนั้น ธง สามารถเห็นได้จากกลางน้ำใกล้กับท่าเรือ มันมาจากชายฝั่งตรงข้าม ที่ระยะเท่าๆ กัน แต่ถูกปกคลุมโดยหมอก

 「นี่คือ……พวกเค้าไม่เคลื่อนไหว บางทีพวกเค้าหยุดมันในน้ำโดยใช้หินเหรอ?」   

 「พวกเค้าใช้หินถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้ตำแหน่งของธงของพวกเค้าอยู่กับที่ ถ้าพวกเค้าทำอย่างนั้นด้วยระยะเท่าๆกัน พวกเค้าเห็นทางได้ในหมอกนี้」   

พวกเค้าน่าจะเปลี่ยนสีของธง และให้เรือเล็กทำเหมือนกัน จากนั้น ตามเรือทาสีเพื่อมาถึงที่ที่เราอยู่ นี่น่าจะเป็นไอเดียของลีโอโพลต์ แต่ที่สำคัญกว่านั้น สองคนนั้นต้องการการรักษา

 「ชั้นเพิ่งหยุดเลือดไหล และทำมันเองได้! ช่วยกิโด้แทน!」   

เกราะถูกนำออกจากตัวที่เหนื่อยของกิโด้ และเสื้อของเขาถูกตัดออกด้วยมีด อย่างที่คาด เศษเหล็กได้แทงหลังเขา และทะลุท้องของเขา เครื่องในของเขาต้องได้รับบาดเจ็บด้วย

 「เอเกอร์ซามะ……มันดูเป็นยังไง……?」   

80% ของอาการบาดเจ็บของเขาไม่มีอะไรที่ทำได้ บางทีมีแค่ 20% ที่รักษาได้ด้วยยาและหมอ ถ้าเค้าถูกทิ้งไว้ที่นี่ เขาจะตาย 100%

ซีเลียต้องมองสถานการณ์ออกจากสีหน้าของผม และมีหน้าตาบูดบึ้ง แม้ว่ามันจะดูไม่เเหมือนแค่เพราะความเจ็บจากแผลของเธอเอง

 「ให้เค้ากลับไปที่เรือขนส่ง หมอและยา ยังอยู่ในฝั่งตรงข้าม」   

 「หนูจะทำ……」      

 「เราไม่เป็นไรที่นี่ เค้าปกป้องหนู ดังนั้นส่งเค้าด้วย อย่าตีเค้าแรงไป แม้ว่าเค้าจะไปโดนหน้าอกหนู เข้าใจมั้ย?」   

ผมมองดูกิโด้ ที่เกือบจะหมดสติแล้ว

 「กิโด้ นายทำได้ดีที่ปกป้องซีเลีย ความพยายามของนายจะถูกชดใช้ ดังนั้น อย่าตาย」   

 「หัวหน้า……ซามะ……ดูแล……เมียผม……」   

 「ชั้นดีดูแลนายและเมียนายอย่างดี ถ้านายรอดชีวิต รางวัลนายจะกลายเป็นสองเท่า」   

กิโด้ยิ้มอย่างอ่อนแอ ซีเลียและผมมองกัน และเธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง นำกิโด้ขึ้นไหล่ของเธอ พาเขาไปที่เรือ ทหารที่บาดเจ็บคนอื่น ก็ได้ถูกรับตัวไปด้วยเหมือนกัน และเรือกลับไปอย่างรวดเร็ว

หมอกนี้น่ารำคาญ แต่ก็เป็นโชคดีด้วย ตอนนี้ ทัพเรือของศัตรู ไมสามารถที่จะรู้การเคลื่อนไหวของเรา ตราบใดที่หมอกยังออกมาอยู่

ในท้ายที่สุด พวกเดียวกัน 2000 คน ได้สำเร็จการลงจากเรือ และแม้ว่าจำนวน ยังด้อยกว่าศัตรูอย่างมาก พวกเขากระฉับกระเฉง และเป็นหารที่สดใหม่

 「ตอนนี้ กำลังเสริมอยู่ที่นี่แล้ว! เราชนะการต่อสู้นี้! ฆ่าทหารที่เหลือ!!」   

 「อุโออออออออ้!!」   

กำลังเสริมไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่ยังไงก็เริ่มเชียร์อยู่ดี ทหารพวกของเราก็สู้ต่อไป ระหว่างที่เชื่อในชัยชนะของพวกเขา

 「กำลังเสริมของศัตรูมาเรอะ มันมีเท่าไหร่วะนั่น!?」   

 「ไม่กี่พันเหรอ? ไม่มีทางที่มันจะเยอะขนาดนั้น!?」   

 「มันจริงที่ศัตรูได้ลงพื้นข้างนอกเมืองด้วยมั้ย ส่งหน่วยสอดแนมไปเพื่อยืนยันดิ้!」   

ในความเป็นจริง เรายังถูกล้อมอยู่ แต่จังหวะและบรรยากาศแบบนี้มันสำคัญ มากกวานั้น ศัตรูไม่สามารถที่จะรู้จำนวนกำลังเสริมของเราได้ เนื่องจากวิสัยทัศน์ที่แย่ เพราะนั่น ศัตรูดูเหมือนพร้อมที่จะหนี แค่จากเสียงคำรามของสงครามของเรา

ตัดสินว่ามันนได้เวลา สำหรับการมีส่วนร่วมอีกครั้บ ผมกระโดดขึ้นไปบนชวาร์ซ ขณะที่เขาเดินมา

 「ยึดเมืองกลับมา!」   

เพราะเราได้รับกำลังเสริม ทหารของเรา สามารถที่จะโจมตีสวนได้ทันที และหลังจากการต่อสู้ที่เข้มข้น เราไล่ศัตรูออกจากท่าแรนเดลสำเร็จอีกครั้ง

หมอกหายไปในตอนเย็น และเราสามารถเดินทางขนส่งได้อีกสองครั้ง เพิ่มทหารของเราเป็นมากกว่า 6000 ระหว่างเวลานั้น พลธนู และบาลิสต้า เรียงกันด้วยเหมือนกัน ทำให้นี่ เป็นกองกำลังที่จะไม่ถูกกวาดล้างอย่างง่ายๆ ผมเกือบจะได้ยินการบ่น ของผู้บัญชาการของศัตรูเลย

 「ตอนนี้ ชั้นน่าจะพักได้แล้วด้วย」   

พวกเขาน่าจะมีพลังเหลือ ที่จะรับมือกับอะไรก็ตามที่จะมาทางเขา ระหว่างกลางคืน ในที่สุด ผมก็ผ่อนคลายและนอนได้จนถึงเช้า แผลที่ต้นขาและท้องของผมเจ็บ แต่เลือดหยุดไหลแล้ว และกล้ามเนื้อขอผมได้หยุดมันทันเวลาด้วย ดังนั้น มันไม่ใช่อะไรที่ใหญ่

 「แต่ช่างมีปัญหา」   

เพราะผมไม่สามารถที่จะนอนได้กับผู้หญิงแม้แต่คนเดียว ระหว่างที่การต่อสู้ระยะประชิดที่ดุดันนั้น เอ็นของผม ดูเหลือเชื่อแล้วตอนนี้ ทันทีที่โล่งใจ เอ็นของผม แข็งจนมันเจ็บ แม้ว่าผมจะยืนเฉยๆ

 「หัวหน้า~」   

 「ปีปี้ หือ? หนูทำได้ดีด้วยนะ」   

ซีเลียและอิริจิน่า ได้รับบาดเจ็บ และกลับไปที่ชายฝั่งตรงข้าม ดังนั้น ผู้หญิงเดียวที่อยู่ที่นี่ คือปีปี้ แต่ผมไม่รู้ ว่ามันปลอดภัยที่จะเรียกเธอว่าผู้หญิงมั้ยนะ พูดถึงแล้วธนูของเธอนั้นหักไปเหมือนที่คาดไว้ และเธอรู้สึกผิดหวัง

 「กิโด้ตายเหรอ?」   

ช่างเเป็นสาวที่ตรงไปตรงมา แต่ผมรู้ว่าปีปี้ไม่อ้อมค้อม

 「ยังไม่รู้ แต่มันจะดี ถ้าเค้ารอดชีวิตนะ……」   

 「ปีปี้ไม่อยากให้กิโด้ตาย กิโด้เป็นนักรบที่ยอดเยี่ยม」   

 「เห็นด้วย」   

เดาว่ามันจะยาก ที่จะขอไวๆหนึ่งยกหน่อย ในบรรยากาศแบบนี้ ผมจะแค่กอดปีปี้ และหลับไปในทันทีละกัน

แต่ปีปี้ มุดลงผ้าห่มและดิ้น ผมรู้สึกถึงความรู้สึกที่คม วิ่งผ่านหว่างขาของผม ปีปี้ ใช้ลิ้นน้อยๆของเธอเลียเอ็นที่เก็บกดของผม

 「เฮ้ เฮ้ หนูเหนื่อยด้วยใช่มั้ย? หนูไม่ต้องกดดันตัวเองหรอกนะ」   

 「ปีปี้ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้เลย……ดังนั้น ปีปี้ อยากจะมีประโยชน์ในฐานะผู้หญิงเป็นอย่างน้อย」   

ปีปี้โยนผ้าห่มออกไป และดูดเอ็นผมแรงๆครั้งสุดท้ายหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะนำปากออกไป และคุกเข่าสี่ขา

 「ไม่มีผู้หญิงคนอื่นวันนี้ ถ้าพี่จะรับปีปี้ งั้นหนูอยากให้หัวหน้า ใส่เอ็นเค้ามาในนรูปีปี้」   

ขณะที่ผมกังวล เกี่ยวกับความเจ็บปวด ที่เธอจะรู้สึก จิ๊ของเธอแหกออกด้วยสองมือ

 「หนูยังเล็ก ดังนั้น รอจนหนูโตอีกนิด……」   

 「ปีปี้อยากถูกโอบกอด! หัวหน้า…… ปีปี้เป็นสาวคนเดียวที่ยังไม่ได้รับเอ็นของหัวหน้าเลย ปีปี้……มีตำหนิเหรอ?」   

ปีปี้กระโดดใส่ผมอย่างสิ้นหวัง พยายาม จะให้ผมอยู่ในอารมณ์ โดยเลียคอของผม จูบ และโยกสะโพกของเธอ ปรกติแล้ว เราจะสงบลง ด้วยการลูบกัน สีกันและเลียอวัยวะเพศกัน

แต่ครั้งนี้ ผมสู้อย่างไม่จบไม่สิ้น หนีจากความตายหลายคร้ง และมีความเงี่ยนเก็บกดสะสมมากมาย จนรู้สึกมีอารมณ์ มากกว่าก่อนหน้าแล้วที่จุดนี้ ผมจะไม่ตกใจ ถ้าผมได้ขุดตูดของชารอน

ใช่เธออาจจะเด็กและเล็ก แต่ผมไม่คิดว่าผมมีความได้เปรียบ กับสาวที่สู้อย่างเปลือย และต้องการเอ็นของผมมากมาย ต่อต้านเซ้นส์ของเหตุผลของผม ผมจับกายของปีปี้้ และผลักเธอหงายหลัง ผมเริ่มมถูผิวน้ำตาลอาบแดด จากบนสู่ล่าง

 「หัวหน้า……ปีปี้อยากให้พี่ใช้รูของเธอด้วย ปีปี้เป็นผู้หญิงด้วยดังนั้น ปีปี้มีลูกได้ด้วย」   

 「ขนาดมันต่างกัน มันจะเจ็บนะ รู้มั้ย?」   

 「หนูไม่ถือ การถูกฉีกโดยหัวหน้า มันเป็นตราแห่งเกียรติยศ」   

ปีปี้ยิ้มกว้าง ผมมีทางเลือก ที่จะไม่นอนกับสาวคนนี้ ตั้งแต่ทีแรกเหรอ?

ผมเข้าไปที่ระหว่างขาของปีปี้ และยกขาของเธอขึ้น เรือนร่างของเธอและขา ดูเหมือนมันจะหัก ถ้าผมไม่ระวัง

เมื่อดูจากด้านข้าง ชาย ดันใส่ร่างเล็กๆของสาวคนนี้ ไม่ต้องสงสัย ว่ามันทำให้มันดูเหมือนผมข่มขืนเะอ เธอไม่มีขนหมอยใดๆ และจิ๊เธอเป็นร่องบางๆถ้าไม่แหกออก ผมดันเอ็นของผม ใส่ทางเข้าจิ๊นั้น   

 「หัวหน้า…… ปีปี้้ เป็นหนึ่งเดียวกับหัวหน้า ที่เธอชื่นชมมากมาย……หนูมีความสุขจริงๆ」   

 「ถ้ามันเจ็บ อย่าลังเลที่จะกัดพี่ ตรงไหนก็ได้ที่ต้องการ แต่เลี่ยงคอของพี่ น้องอาจจะตายจากนั้น」   

ขณะที่ผมคุยกับเธอ ผมกดไหล่ของเธอ และจูบริมฝีปากของเธอเบาๆ ก่อนจะดันสะโพกของผมไปข้างหน้า

 「อิ๊กกก!!」   

 「ขอโทษนะ แต่พี่ไม่หยุดแล้วนะตอนนี้」   

ผมจับไหล่ของปีปี้อยู่กับที่ ขณะที่เธอครวญ และดันสะโพกของผม ยิ่งไกลเข้าไปอีก เยื่อพรหมจรรย์ของเธอยังไม่ขาด แต่มีเสียงของบางอย่างฉีก ดั่งรูของปีปี้ กรีดร้องออกมา

 「อออออออุ่—-」   

ขณะที่ปีปี้กัดฟัน และเริ่มจะร้องไห้ เซ้นส์ของเหตุผล กลับมาสู่ผมอย่างช้าๆ แค่อีกนิดเดียว แล้วผม จะฉีกสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของเธอแล้ว จากนั้นผมดึงออก และลูบไล้เธอ เธอน่าจะพอใจ ด้วยนั่นอยู่ในใจ ผมแทง อย่างแรง

 「ออออออออุ่!!」   

ปีปี้ครวญ รัดแขนของเธอรอบหลังผม ดันสะโพกของเธอออกมา เพราะสองเรา ดันสะโพกใส่กัน ผมรู้สึกว่าปลายของเอ็นของผมไปกดเข้ากับมดลูกที่ยังไม่โตของเธอ ที่ผ่านจากการฉีกเยื่อพรหมจรรย์ของเธอไปไกล

 「อ๊าาาาาาาาาา–—!!!」   

ปีปี้ร้องเสียงแหลมในแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน

 「หัวหน้าเหล่า! เกิดอะไรขั้น?!」   

ทหารที่ยืนเฝ้าระวังอยู่ คิดว่าเสียงร้อง เป็นการตอบสนองจากศัตรูที่ล้อมเรา เขาเลยรีบเข้ามาในห้อง เขาเจอสาวตัวน้อยๆ ในปีปี้ ร้องไห้ในความเจ็บปวด ระหว่างที่เอ็นของผมฝังเข้าไปในกายสาวตัวเล็กๆ

 「……ขอโทษครับที่รบกวน」   

ประตูปิด และผมได้ยินเขาคุยอยู่ข้างนอก

 「หัวหน้าแม้แต่นอนกับเด็ก」   

 「อย่างที่เราคิด จะไม่มีผู้หญิงคนไหน ที่เค้าจะไม่ใส่เอ็นของเค้าเข้าไป ตราบใดที่พวกเธอมีรู……」   

 「……เราทำต่อมั้ย ?」   

 「โอ้ว……โฮ้ววว……ฮฮฮฮฮิ้……」   

ปีปี้จะเหนื่อย ถ้าผมขยับต่อไปถ้าแบบนี้ ผมอุ้มสาวที่เบาสุดขีดขึ้นมา และให้เธอนั่งหันหน้าหาผม กอดเธอแน่นละโยกเธออย่างอ่อนโยน

 「อา หัวหน้า……」   

ปีปี้ ซบหน้าของเธอไว้ที่อกของผม และขบหัวนมของผมผ่านเสื้อเล่นๆ ฝากกายของเธอไว้ที่ผมและการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนของผม

 「พี่จะโยกต่อไปแบบนี้ อย่ากังวลเรื่องหมดสติหรือฉี่แตก แค่ปล่อยทุกอย่างให้พี่ และมีความสุขกับความรู้สึกของเอ็นของพี่อย่างทั่วถึง」   

 「ปีปี้……มีความสุข」   

ความเจ็บวด น่าจะไม่ลดเลยซักนิด แต่ปีปี้น่ารัก เมื่อเธอยิ้มอย่างมีความสุขมาก

 「พี่ดีใจ ที่ได้อยู่ข้างในหนูด้วย ด้วยนี่ หนู ได้เป็นผู้หญิงของพี่ด้วย」   

 「โฮ้ว!」   

ตัวของปีปี้สั่น และจิ๊ของเธอขมิบลงใส่ผมด้วย

 「มีอะไร?」   

 「หนูอยากจะให้พี่ทำเพื่อหนูอีกครั้งนึง……พูดด ว่าหนูเป็นผู้หญิงของพี่」   

 「ปีปี้ หนูเป็นผู้หญิงของพี่ ผู้หญิงที่รักของพี่ เป็นแค่ของพี่เท่านั้น」   

 「โอ้ว!」   

เธอสั่นอีกครั้ง ช่างเป็นสาวที่น่าสนใจ

 「หนูน่ารัก ปีปี้ หนูเป็นผู้หญิงของพี่ หนูเป็นปีปี้ของพี่」   

 「โฮ่ว ว้า! พี่พูดเยอะไป! ปีปี้- ปีปี้ไม่ไหวแล้ว!」   

เพื่อจบเธอ ผมกัดหูของเธอและเป่าเบาๆ ก่อนจะกระซิบประโยคสุดท้าย

 「พี่รักหนูมากกว่าใครๆ……ปีปี้」   

 「ฟุนนนนนนี๊!」   

ผมรู้สึกถึงการสาดร้อนๆ ที่หว่างขาของผม ปีปี้น้ำแตก ระหว่างครั้งแรกของเธอ และโยนหัวของเธอกลับไปในความรู้สึกดี

 「หนูน่ารัก ปีปี้ หนูมหัศจรรย์ ปีปี้ พี่รักหนู ปีปี้……」   

ผมเร่งการเคลื่อนไหวของสะโพกของผม มันปรากฏดั่งว่าเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บอีกต่อไปแแล้ว ผมเลยแทงรุนแรงขึ้น ระหว่างที่ปีปี้ กอดผมและร้องไห้จากน้ำตาของความรู้สึกดีที่บริสุทธิ์ ขณะที่เธอถึงจุดสุดยอด

 「หัวหน้า! จะแตกแล้ว! หนูจะบิน! ฟุนนนนนนนนนนิ๊!!」   

หลังจากทีเธอกรีดร้องอย่างดังเป็นพิเศษ เธอหยุดเคลื่อนไหวไม่กี่วินาที หน้าของเธอบิดเบี้ยว และน้ำลาย เริ่มหยดจากปากของเธอ ตาของเธอยังเปิดอยู่ แต่เธอสลบไปแแล้ว ผมต้องให้เธอทำให้ผมแตกด้วย

 「จะแตกแล้ว รับมันทั้งหมดไว้ข้างในนะ」   

 「ฟุนนนนี้~…….」   

ผมเลียผิวน้ำตาลอ่อนของปีปี้ และดูดหน้าอกที่ปูดออกมาเล็กน้อยของเธอ ไม่เหมือนความรู้สึกคุ้นเคยของลอรี่ เธอนั้นเหมือนผลไม้ยังไม่สุกของแท้ แต่สาวน้อยที่ยังไม่โตนี้ ในที่สุดก็รับเมล็ดพันธุ์ของผมไป และโคนของเอ็นของผม บวมขึ้นมากแล้ว ผมแน่ใจ ว่าน้ำเงี่ยนชุดใหญ่ที่เข้มข้นจะออกมา

 「ฟุ่งงงงงง!」   

 「……โอ่ว」   

สารหลั่งออกมา ขณะที่การน้ำแตกของผม รู้สึกเหมือนมวลที่แข็งแต่นุ่มออกมา แทนที่จะเป็นน้ำ ผมจับแก้มตูดปีปี้อย่างไม่ได้ตั้งใจ และโยนหัวของผมไปข้างหลัง รูฉี่ของผมเปิด และน้ำเงี่ยนจำนวนมากมาย ปลดปล่อยออกมา เกือบถึงจุดที่ว่ามันเจ็บ

 「โอออออ้–!! โออออออออ้! ยังแตกอยู่! อุโอออออออ้!!」   

 「ท้องหนู……จะแตก……」   

 「แค่อีกนิด! ทนหน่อย! อุโอออออ้!!」   

ผมลืมว่าผมเก็บสะสมมากมาย การน้ำแตกของผมไม่หยุด และท้องของปีปี้ขยาย

หลังจากห้านาทีเสียวๆ ในที่สุดเอ็นผมก็สงบลง และผมดึงออกจากปีปี้

 「ฮ่าฮ่าฮ่า เหลือเชื่อ」   

ปีปี้ตัวน้อย ที่ท้องบวมที่ไม่เป็นธรรมชาติ เธอดูเหมือนผู้หญิงตั้งท้อง ที่ท้องเดือนสุดท้าย แม้ว่าผมจะดึงออก เมล็ดพันธุ์ของผมเอ่อล้นเข้าไปในรูของเธอ เพราะมันข้นเกินไป มันติดอยู่ในมดลูกของเธอ

 「ปีปี้……ท้องเหรอ !? มันเป็นลูกของหัวหน้าเหรอ !?」   

ทำไมหนูจะท้อง ทันทีหลังจากที่เราทำมันเลยล่ะ?

 「โอ้ไม่! เราทำเด็ก!」   

ระหว่างที่ยังจับท้องของเธอ เธอเดินไปรอบๆอย่างเงอะๆงะๆ และออกจากห้องไป

 「ฮ-เฮ้ เห็นนั่นมั้ย!?」   

 「ใช่ ทำไมเด็กคนนั้นท้องล่ะ? ท้องเธอจะใหญ่เท่านั้น หลังจากที่หัวหน้าได้นอนกับเธอเหรอ?」   

แน่นอนว่าไม่เว่ย ไอ้บ้า ผมต้องแก้ความเข้าใจผิด หลังจากที่ปีปี้วิ่งไปทั่วเสร็จแล้ว

 「กุ่……」   

ผมชำเลืองมองท้องของผม เมื่อผมรู้สึกเจ็บกระทันหัน และเห็นว่าแผล เริ่มที่จะเลือดไหลอีกกครั้ง ผมมั่นหน้ามากเกินไปและทำงานหนักเกินไป ทุกอย่าง เริ่มจะมืด

 「โอ้ เอาน่า……ถ้าชั้นมาตายแบบนี้……」   

นั่นจะน่าสมเพช ผมยิ้ม และล้ม สลบอยู่บนเตียง

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม

ทีมลูกน้อง: 42,700

ท่าแรนเดล

กองทัพอาณาจักร: 6400

ชายฝั่งตะวันออก

กองทัพส่วนตัว: 8000 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)

ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 4000 ปืนใหญ่: 10 (ของแท้ 1)

กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 20,300

กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 8000

ไม่ได้อยู่ภายใต้การบัญชาการของตัวเอกอย่างเคร่งครัด

เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000

ลูกน้องกองทัพ:

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย, บาดเจ็บ), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ, บาดเจ็บ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้ (ท้องของผู้หญิงตั้งท้อง), ทริสตัน (เฝ้าบ้าน), กิโด้ (อาการสาหัส)

ตำแหน่งปัจจุบัน: ท่าแรนเดล

ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล

—————————————————————   

 ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท

แปลโดย: wayuwayu

เป้าหมายเดือน 10/66

ค่าเน็ต 100/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ ซื้อตอน จองตอน แจ้งได้ทาง Facebook ครับ   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด