ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi 189 ศึกกวาดล้างกวาดล้างมากราโด ③ บทสรุป

Now you are reading ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi Chapter 189 ศึกกวาดล้างกวาดล้างมากราโด ③ บทสรุป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

189 ศึกกวาดล้างกวาดล้างมากราโด ③ บทสรุป

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ภายในหุบเขาลึกทอกอร์ เช้า

「พวกเขาไม่ได้บุกโจมตีเราตอนกลางคืน」

ซีเลียพึมพำต่อจากผม

「ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ที่การเอาเราไว้ในภูมิประเทศอันแคบพร้อมกับทหารชั้นสูงของพวกเขา พวกเขาอาจได้เปรียบด้วยจำนวนที่น้อย เมื่อทำการบุกโจมตีตอนกลางคืน แต่นั่นจะทำให้เราได้รับโอกาสส่งกลุ่มของเราแอบออกไปในหุบเขาลึกระหว่างที่พวกเขายุ่งๆอยู่」

อย่างที่ลีโอโพลต์พูด ถ้าพวกเขาถูกล้อม เราแค่ต้องเข้าประชิดพวกเขาจากข้างหน้าและข้างหลัง จากทุกฝั่ง และกดดันไปด้วยจำนวนของเรา พวกเขาจะจบสิ้น ไม่สำคัญว่าพวกเขาแข็งแกร่งเท่าไร

「เราทั้งอ้อมก็ไม่ได้และเราทั้งตั้งการล้อมส่วนหนึ่งก็ไม่ได้……」

「นั่นน่าจะเป็นทำไมที่แห่งนี้ถูกเลือกเป็นสนามรบ」

มีเพียงแค่ทางเดียว และนั่นคือตีฝ่าพวกเขาไปจากข้างหน้า

ตั้งแต่ตอนสาย ตะวันส่องแสงสู่หุบเขาลึก แคมป์ศัตรูได้สร้างเสียงดัง

「เฮฮฮฮฮ้ ฮาร์ดเลตต์! ตะวันขึ้นมาแล้ว!! เราจะทำศึกกันต่อหรืออะไรเนี่ย!?」

กิลเดรสตีดาบของเขาใส่โล่ สร้างเสียงปะทะเหล็กระหว่างตะโกนอย่างดัง

เขาดูเหมือนจะสนุกมาก

「เราเผาพวกเขาด้วยปืนใหญ่หรือธนูไฟไม่ได้เรอะ?」

「ซีเลีย มันพูดไปแล้วเมื่อวาน ถ้าเราเจอกับมากราโดและขบวนแถวกล่องแบบเดิม เราจะแทบไปเที่ยวกันโดยการยิงพวกเขา แต่คนเหล่านี้เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวขึ้นอยู่กับสถานการณ์…… ถ้าราไม่ระวังและส่งอาวุธล้อมเมืองเราไปสู่ข้างหน้า เราจะโดนกวาดล้าง」

「ยังไงเราก็ลองธนูไฟไม่ได้เหรอ?」

ลีโอโพลต์ส่งสัญญานและลูกธนูปลายติดไฟถูกปล่อยออกไปพร้อมๆกันสู่ศัตรู พวกมันแค่โดนกันโดยโล่ซึ่งโจมตีไม่เข้าและตกลงสู่พื้นที่ถูกเหยียบออกไปง่ายๆระหว่างช่วงเวลาระหว่างชุดยิง

พวกเขาไม่ได้แค่เคลื่อนที่ไปพร้อมกันเป็นกล่อง แต่ละบุคคลนั้นว่องไวสุดขีด

「ฮาร์ดเลตต์! มันฤดูร้อนแล้ว ดังนั้นเราไม่ได้ต้องการความอบอุ่นเหล่านี้ รู้ป่าว ว๊ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」

「และนั่นคือผล……」

กิลเดรสผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้ากองทัพของเขาปัดลูกธนูไฟหลายดอกไปและหัวเราะดังอย่างสุขสันต์

เอออ มันทำให้ผมอารมณ์เสีย

「ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโจมตีจากข้างหน้า」

「ใช่ และทางออกที่ดีที่สุดคือใช้บาลิสต้าของเราและปืนใหญ่เพื่อก่อกวนพวกเขา – แม้ว่ามันจะไม่ได้แม่นยำที่สุด – และพุ่งกระแทกกองกำลังเราใส่พวกเขาซึ่งหน้า เมื่อมันถึงจุดที่คุณไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้ใต้เงื่อนไขเหล่านี้ คุณไม่มีทางมากสำหรับแผนการที่ลึกซึ้ง」

ถ้าอย่างนั้นมันค่อนข้างเป็นสถานการณ์ที่แย่ด้วยทางเลือกน้อยมากๆมีอยู่ให้เรา

「มันไม่เคยมีโอกาสสำหรับเราที่จะแพ้จากตั้งแต่เริ่ม ยกเว้นเราแค่ต้องกังวลเกี่ยวกับเวลา ถ้าเราใช้เวลานานเกินไป เราจะมอบเวลาพอสำหรับที่ให้กองทัพคนอโตรัวเพื่อรวบรวมกองกำลังมากขึ้น บวกกันกับเมืองใกล้เคียงจะเริ่มสงสัยว่าทำไมพวกเขาเปิดทางให้เราเมื่อเราดิ้นรนมากเท่านี้กับแค่คนหยิบมือ 100 คน」

「ถ้าอย่างนั้นเราต้องดันผ่านไป…… พวกเขาไม่มีจุดอ่อนหรือบางอย่างเหรอ?」

「มันไม่เหมือนว่าไม่มีอะไรเลย…… แต่พวกเขาไม่ได้ยึดติดกับกองกำลังหลัก นั่นสมบูรณ์แบบสำหรับแผนชาญฉลาดเหมือนการโจมตีซึ่งหน้า」

เราแค่ต้องทำมัน ผมกวัดแกว่งหอก

「มันเป็นการโจมตีเต็มรูปแบบเราจากผ่านไปตอนบ่าย」

「「「โออออออ้-!」」」    

เราถูกซ้อมน่วมอย่างทั่วถึงเมื่อวานแต่กำลังใจของทหารสามารถฟื้นได้มาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

มาจัดการพวกเขาให้ล้มให้เร็วเถอะ

เสียงของระเบิดดังขณะปืนใหญ่ยิงกระสุนของมัน

เหล้าบาลิสต้าก็ยิงลูกดอกของมันด้วยเหมือนกัน

ไม่มีมากมายที่ติดตั้งได้เพราะภูมิประเทศและพวกมันต้องถูกตั้งทิศมุมในแบบที่พวกมันไม่ยิงโดนพวกเดียวกันจากข้างหลัง

มากกว่านั้น ศัตรูมีแค่ 100 คนเพียงเท่านั้น ดังนั้นเราจะคาดว่ากระสุนบินโดนเป้าหมายของมันมากมายไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่การโจมตีซึ่งพวกเขาป้องกันไม่ได้ด้วยโล่จะลดกำลังใจ แม้ว่ามันแต่เศษเสี้ยว

「บุกกกกกกก–!!」

ณ ทันใดนั้นเอง ทหารราบพุ่งเข้าตีไปข้างหน้าพร้อมด้วยหน่วยพลหอกในฐานะแนวหน้า

จากอะไรที่เราเห็นเมื่อวาน ทหารราบจะไม่ชนะการปะทะในความได้เปรียบเท่ากัน

เพิ่มเติม มีแค่พวกเขา 20 คนสู้ได้ ณ เวลาเดียวกัน…… แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกเอาชนะท่วมท้นแบบนั้น

นั่นทำไมครั้งนี้พลหอกอยู่ข้างหน้าเพื่อก่อกวนแถวของศัตรู

「แค่ก่อนหัวหอกไปถึงศัตรู แถวแรกสุดของศัตรูยองลงต่ำสู่พื้นและปะทะเข้ากับโล่ของศัตรูในแถวสอง

ทันทีหลังจากนั้น ศัตรูที่กำลังยองลงอยู่เหวี่ยงโล่ขึ้นเพื่อนตีหอกจากข้างล่าง ทำให้ปลายชี้ไปในอากาศ」

「ขยี้พวกมัน!」

โดยไม่ล่าช้าใดๆเลย ศัตรูเข้าชิดระยะ หอกไม่เป็นอะไรเลยนอกจากไม้ยาว ณ จุดนี้

ชาย 20 คนข้างหน้าถูกฟันล้มลงตรงนั้นพริบตา

「ช่วยหน่วยพลหอก!」

「โค่ยยย้าา!」

หน่วยทหารราบรีบดันไปข้างหน้า ตั้งโล่ขึ้นเพื่อไปเจอกับศัตรู

「นี่มันดูไม่ดีแล้ว……」

ทันทีเมื่อทหารราบปะทะกับศัตรู  ทหารพวกเดียวกันถูกดันกลับไปดั่งพวกเขากำลังยืนอยู่บนน้ำแข็ง

「เราโดนไรชนป่ะวะ?」

「อ่าา นั่นมันเบากว่าการพุ่งเข้าชนจากลูกสาวข้าอีกดังนั้นข้าไม่รู้ดิ」

ทหารของอเลสเล่นมุขให้กันและหัวเราะ

「อย่าเริ่มผ่อน! บุกต่อไปเรื่อยๆ! หน่วยที่ 4 และที่ 6 ถอย หน่วยที่ 7 ก้าวไปข้างหน้า」

 กลุ่มที่โดนซ้อมจนน่วมถอยและอีกกลุ่มถูกส่งออกไปข้างหน้าเพื่อพุ่งเข้าตีศัตรู

กลุ่มใหม่นั้นถูกกำจัดออย่างรวดเร็วและถอย แต่ว่าอีกกลุ่มรีบเติมรู

ศัตรูนั้นแข็งแกร่ง สร้างกองศพจากแค่ทหารจากฝั่งเรา

อย่างไรก็ตาม มีเวลาบนสนามรบเมื่อโชคฉับพลันเกิดขึ้น และแม้แต่ทหารผ่านศึกก็ถูกกำจัดได้ด้วยหลังจากโจมตีไป 10 ครั้ง ไม่สำคัญว่าการโจมตีนั้นจะเกิดขึ้นแย่ๆแค่ไหน

「กุโอ่ะ…… ราชาของข้า…… ข้าจะมุ่งไปที่นั่นก่อน」

「อุ่กกก…… ฟุฟุ เราพูดถึงคนละร้อยแต่ข้าเพิ่งแค่กำจัดไปสิบคน เทพเจ้าแห่งสงครามในดินแดนนั้นจะดุข้า!」

ทหารศัตรูหนึ่งคนล้มลง และอีกคนล้มเท

เมื่อพวกเขายั้งมือ แม้ว่ามันเป็นเพียงแค่เวลาสั้นๆ ทหารยิงธนูใส่พวกเขาลงไปเป็นฝนทันที เปลี่ยนทหารผู้ป้องกันตัวเองไม่ได้ให้กลายเป็นเม่น

ศัตรู ผู้แข็งดั่งหินผา และไม่กระดิกก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ก้าวถอยหลัง

「ช่องว่างถูกสร้างจากการที่ศัตรูถอย เรารุกไปข้างหน้าทั้งหมดทีเดียว」

ศัตรูก้าวถอยหลัง……

หมายถึงพวกเขาเคลื่อนที่ไปไกลขึ้นเนิน

และนั่นหมายถึงพวกของเราไล่ตามพวกเขาได้

บาลิสต้าถูกตั้งได้ในช่องว่างที่เหลือ

มันใช้ความพยายามศัตรูทั้งหมดเพื่อรั้งการโจมตีเต็มรูปแบบไว้ ดังนั้นพวกเขาไม่ควรมีเวลาว่างที่จะรุกเข้าข้างในและทำลายธนูของเรา

「ยิง!」

ชุดยิงไม่ใช่บางอย่างจากข้างหลังแค่เพื่อจุดประสงค์ข่มขู่

บาลิสต้าถูกตั้งขึ้นอย่างระวังเพื่อนำกายใหญ่ของชายกำยำไปด้วยกันกับโล่ของเขา และเปิดรูในขบวนแถวพวกเขา

「ตอนนี้เร็วเข้า จบชีวิตพวกเขาเสีย!」

เมื่อเห็นช่องเปิดในแถวของศัตรู พวกของเราบุกเข้าไปอย่างมีพลังพร้อมด้วยเสียงคำรามแห่งสงครามอันดุดัน

เหมือนที่มันเป็นมาก่อน มีแค่พวกเดียวกันที่พ่ายแพ้เท่านั้น แต่ตอนนี้มันไม่ดุดันเหมือนก่อนหน้า

ศัตรูดูปรากฏว่าเหนื่อยแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นและการเคลื่อนไหวฝืดลงไป ทำให้ทหารราบของเราเข้าไปสู่ตรงกลางของแถวพวกเขา

「มันกำลังได้เวลาที่เราสรุปนี่แล้ว」

ซีเลียก็ได้รับความสงบกายเธอกลับมาด้วย

ผมรู้สึกใจถูกฉีกตอนนี้ มันจริงที่กิลเดรสทำผมอารมณเสีย แต่ผมไม่เกลียนชายเหมือนเขา

การขยี้ศัตรูผู้ท้าทายผมด้วยพละกำลังกองทัพผม…… มันอาจดูเหมือนเป็นวิธีธรรมชาติเพื่อรับมือกับบางคนแบบนั้น แต่ผมยังคงมีความรู้สึกค้างคาในหัวใจ

「เราชนะ!」

เหมือนที่อิริจิน่าพูดผลลัพธ์ของศึกได้ถูกตัดสินใจแล้ว

และสำหรับการเก็บกวาดหลังจากนั้น

「ยัง! บางอย่างแบบนี้จะไม่จบชีวิตทหารของอเลส!」

ผ้าคลุมแดงของเขาโบกสะบัด ทหารพวกเดียวกันใกล้กับ 10 คนร้องออกมาแล้วถูกทำกระเด็นไปข้างหลัง

ชายกำยำยืนอย่างกล้าหาญข้างหน้ากองทัพของเขา ซึ่งถูกกำลังโดนฉีก ไม่กลัวการโดนยิงของลูกธนู

「มีอะไร พวกเจ้าทำใข่ล่างหายหรือบางอย่างเหรอไงวะ? พวกผู้ชายจากอเลสอ่อนแอเท่านั้นจริงๆเรอะ!?」

มันโดยไม่ต้องพูด มันเป็นเสียงดังกระแทกลั่น กิลเดรสตะโกนระหว่างฟันทหารของเรา

เขาจับหัวหอกและโยนทหารไปข้างๆ

จากนั้นฟันไหล่ของทหารทั้งหมดผู้เลือกปะทะกับเขา ทำลายดาบของพวกเขาระหว่างเขากำลังทำมันด้วย

เตะไปข้างหน้าส่งทหารกลิ้งล้ม ก่อให้คอทหารนั้นหักและห้อยลงอกเขาเอง กิลเดรสยกดาบเปื้อนเลือดก่อนจะคำรามเหมือนสัตว์ป่า

「แสงของอเลส…… มันถูกพูดว่าเทพเจ้าแห่งสงคราบมอบมันให้ราชาองค์แรกเป็นของขวัญ」

「เทพเจ้าแห่งสงครามกำลังมองเราอยู่ เราตายความตายไม่น่าดูแบบนี้ไม่ได้」

ผมเดาว่า ” แสงของอเลส” คือชื่อของดาบที่กิลเดรสกำลังถือ มีแสงสว่างสีฟ้าอ่อนลางออกมาจากดาบของเขา – เป็นไปไม่ได้ว่าดาบทำมาจากเหล็กกล้า – ซึ่งทำให้ผมนึกได้ถึงภาพลักษณ์ดั่งสวรรค์ของแอ่งคู่

「เดินหน้า เจ้าเป็นนักรบ! เส้นทางของเราอยู่ข้างหน้าเรา!」

ศัตรูที่ด้อยกว่าทางจำนวนรวมพลและดันตอบทหารพวกของเราขณะพวกเขาเดินหน้ามาข้างหน้า

จำนวนพวกเขาลดลงไปเกือบครึ่งแตคนนั้นจะไม่ได้รู้สึกเหนื่อยใดๆในการพุ่งเข้าตีขณะพวกเขาวิ่งลงเนิน แรงส่งที่น่ากลังของพวกเขาคล้ายกับหินถล่ม

「ฮ-เฮ้ นี่อันตราย!」

「กันพวกเขา…… ไม่มีทางที่ฉันจะทำอย่างนั้นได้!」

ศัตรูไม่มีเจตนาใดๆ – หรือความต้องการใดๆ –ที่จะเข้าสู่ขบวนแถวพิเศษใดๆ

ทหารที่เหลือทั้งหมดเหวี่ยงดาบและโล่ในมือพวกเขาแล้วพุ่งมาข้างหน้าเต็มความเร็ว กำลังฟันหรือไม่ก็กำลังตีศัตรูล้มลงในเส้นทางของพวกเขา

เมื่อทันใดนั้นเอง ลูกดอกยักษ์บินเป็นเส้นตรงไปสู่กิลเดรสผู้กำลังนำการพุ่งเข้าตี เกือบดั่งเพื่อช่วยพวกเดียวกันที่ล้อม

「มันโดน」

อิริจิน่าร้องตกใจเป็นการตอบสนอง

「ราชาของข้า!」

「ไม่จำเป็นต้องกังวล!」

กิลเดรสคำรามและกระโดดเข้าสู่ลูกดอกใหญ่

「ข้าจะไม่ถูกกำจัดโดยแค่ไอ้ของเล่นแบบนี้!」

เขาบิดตัวกลางอากาศและกระแทกก้นดาบใส่ลูกดอกที่มาเร็ว

ไม่สามารถทนแรงกระแทก ลูกธนูขนาดยักษ์นั้นหักครึ่งและชิ้นส่วนตกสู่ก้อนเหว

ภาพปล่อยให้ทั้งพวกเดียวกันและศัตรูไร้คำพูด

กิลเดรสสูดหายใจเข้าลึก

 「นี่คืออเลสสสสสสสส!!!」   

 「อุโอออออออ้!!」   

ทหารศัตรูทั้งหมดคำรามตอบการตะโกนของราชา

「ร-เราเอาชนะอะไรบางอย่างแบบนั้นได้จริงๆเหรอ!?」  「ถ-ถอยกลับไปแล้วถอยท้าพ!」

พวกผู้ชายของอเลสดันตัวเองมาข้างหน้าพร้อมเสียงของพวกเขา ขณะพวกเดียวกันของเราถอยกลับอย่างช้าๆเข้าสู่สภาพไม่เป็นระเบียบ ถอยเกือบอยู่ในสภาวะตื่นตกใจ

บาลิสต้าถูกทิ้ง……. เพราะมันคือบางอย่างซึ่งต้องการหลายคนเพื่อคอยดูมัน

แต่ทหารของศัตรูยหยิบมันขึ้นมาง่ายๆด้วยมือหนึ่งและโยนมันสู่ขอบเหว

……ของเหล่านั้นค่อนข้างแพง

 「แนวหน้าแตกแล้ว! เราเก็บพวกเขาอยู่ใต้การควบคุมไม่ได้」   

 「เรารุกต่อไปไม่ได้ถ้าเราถอยตรงนี้」   

ไมล่าและลีโอโพลต์มองดูผมและสิ่งเดียวที่เหลือต้องทำก็คือ ใช้กองกำลังที่มีอยู่เพื่อขับไล่พวกเขากลับไป

「หน่วยติดตามคุ้มกัน ตามฉันมา เราจะไม่ให้พวกเขาทำตามใจอีกต่อไปแล้ว」

 「ครับท่าน!」   

กองกำลังอันแข็งแกร่งที่สุดในกองทัพของผมคือทหารม้าหนักที่คัดสรรมาในหน่วยติดตามคุ้มกัน

ไม่มีข้อดีในการขึ้นม้าและขี่เข้าทั่วความวุ่นวายปัจจุบัน ดังนั้นทุกคนอยู่บนเท้า และอุปกรณ์และทักษะพวกเขาทั้งสองนั้นเยอะกว่าทหารธรรมดาหลายระดับ

 「โอออ้! บางอย่างใหม่ออกมา!」   

 「ไปสู้พวกเขากันเถอะ ไปกันเถอะ!」   

ผมนำหน่วยติดตามคุ้มกันไปสู่แนวหน้าที่แตกถอยและเมื่อเราดันผ่านไปศัตูและไล่ตามและเผชิญหน้ากับเราพร้อมด้วยรอยยิ้มร่า

พวกผู้ชายเหล่านี้ ตัวหนากว่าทหารราบปรกติ พุ่งเข้าตีด้วยอุปกรณ์หนักและดีกว่าของพวกเขา บางทีตัดสินใจว่ามันเป็นวิธีคิดที่แย่ที่จะปะทะซึ่งหน้าด้วยการปะทะเล็กๆ

ศัตรูถอยกลับไปเล็กน้อยเพื่อก่อตั้งขบวนแถวแนวนอนพร้อมด้วยโล่ดันออกมา

การปะทะเหล็กดังก้องขณะทั้งสองฝั่งกระแทกเข้าหากันและจากนั้น…… หน่วยคุ้มกันถูกดันกลับ

 「ว้ะฮ่าฮ่า! นั่นดีกว่าลูกสาวข้า แต่ไม่มากเท่าเมียข้า!」   

 「ถ้าแกอย่ากข้าฝึกเข้าสมองของพวกแกได้เหมือนข้าทำกับเมีย!」   

 「ดูเอาว่าจะกล้าพูดหลังจากนี่มั้ย?」   

ผมเหวี่ยงหอกด้วยกำลังทั้งหมดใส่ศัตรูใช้ความอัดอั้นจากเมื่อวานและวันนี้เป็นการเพิ่มเติมเพิ่มพลัง

 「โดว๊าา!」   

ทหารผู้กันการโจมตีของผมด้วยโล่บินไปข้างๆและตกลงสู่เหว

 「โออ้! น่าประทับใจ」   

แม้อย่างนั้น ศัตรูไม่หวั่นไหว

ทหารคนต่อไปมาหาผมด้วยดาบโดยไม่มีช่วงเวลาล่าช้า

 「มันรู้สึกดีจริงๆที่ได้สู้ด้วยตัวเอง!」   

ผมกันการโจมตีของดาบชายและไปเอาการเตะไปเจอกับโล่

ชายส่วนใหญ่จะถูกส่งบินไปหลังจากนั้น แต่ชายคนนี้แค่เสียสมดุลเล็กน้อยก่อนพร้อมดาบอีกครั้ง

 「มากเท่านี้มันไม่มีอะไรเลย!」   

เมื่อผมกันดาบเขาด้วยด้ามหอกชายเหวี่งโล่ใส่ผมเกือบดั่งโยนมัน และจากนั้นฟันต้นขาของผม

การเคลื่อนไหวเหล่านั้นไม่ใช่การเคลื่อนไหวของแค่ทหาร พวกเขาทั้งหมดมีความแข็งแกร่งพอจะถูกเรียกว่าผู้กล้าในชาติอื่น

 「ถ้าอย่างนั้นแล้วนี่ล่ะ!?」   

ผมหลบดาบแค่เฉี่ยวขนและเหวี่ยงหอกผมลงสู่หัวเขา ขายนำโล่ขึ้นเพื่อป้องกันแต่ไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์และล้มคุกเข่า

 「การจบตีจบชีวิต!」   

ผมแทงหอกใส่ชายซึ่งในที่สุดก็เข้ามาสู่ระยะสายตาของผม และหลังจากการสาดของเลือด ชายทรุดล้มอยู่กับที่พร้อมด้วยอีกรูในตัวของเขา

 「ยังก่อน!」   

ผมไม่มีเวลาพักหายใจ

ผมหลบดาบชายอีกคนและต่อยเขาเข้าที่หน้า กระนั้นเขายังไม่หยุดโจมตีแม้ว่าหลังจากเลือดหยดจากจมูกของเขา

หลังจากการปะทะที่สามในที่สุดขาซ้ายเขาก็ถูกฟันกระเด็นไป แต่เขาไม่ปล่อยดาบของเขา

 「ชายแห่งอเลสจะไม่พ่ายแพ้จนกว่าหัวใจจะหยุด!」   

 「เอออ้ ช่างน่ารำคาญ!」   

ผมแทงท้องชายด้วยหอกของผมม หยิบเขาขึ้นและโยนเขาลงเหวในที่สุดก็ทำชายคนที่สามพ่ายแพ้

ผมรับรู้ว่าผมอยู่คนเดียวตรงกลางของศัตรูเพราะศัตรูมันอดทดมาก ไม่มีทหารคนอื่นเดินหน้า และแม้แต่หน่วยติดตามคุ้มกันก็ถูกทำให้ถอย

ผมเดาว่าผมแค่เหวี่ยงหอกของผมไปรอบอย่างแรงที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วส่งศัตรูบินไป

 「พร้อมยัง!?」  「โออออ้!」   

ศัตรูรอบผมรีบดันโล่มาข้างหน้าและเข้าตั้งท่าป้องกัน ถ้าอย่างนั้นทหารทั้งสี่ที่ผมส่งบินไปทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บและวิ่งมาใส่ผมพวกดาบของพวกเขาทันทีหลังจากนั้น

 「เอเกอร์ซามะ! เจ้าคนนี้-!」   

ซีเลียกำลังถูกดันไปรอบๆ แต่ยังสามารถสู้ได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แม้ว่าเธอไม่สามารถหาเวลาเพื่อวิ่งมาข้างผมได้

 「เซซซ่!」   

เธอหาช่องเปิดอย่างมีทักษะและแทงทหารศัตรูในข้างกายของเขา แต่เขาไม่ล้มลง

 「ทำไม……」   

 「การโจมตีอ่อนแอแบบนั้นจะไม่เจาะทะลุกล้ามเนื้อข้า!」   

ซีเลียหลบการเหวี่ยงลงข้างล่างของดาบชาย จากนั้นกระโดดไปข้างหลังและโยนมีด ณ ชายต่อเนื่องกัน

ศัตรูป้องกันดาบเล็งไปที่จุดตายแม้ว่ามีดาบไม่กี่เล่มแทงไหล่และท้องของชาย พวกมันไม่ได้ลึกพอที่จะหยุดเขาจากการเคลื่อนไหว

เพื่อส่งการโจมตีสุดท้าย อิริจิน้าวิ่งเข้าไปด้านข้างและตัดหัวชายออกไปและในที่สุดศัตรูก็ทรุดล้ม

 「ฮ่าา…… ฮ่าา……」   

ซีเลียหอบและหยุดเคลื่อนไหว

มันไม่ได้ดูเหมือนเธอไปได้ไกลกว่านี้ไปข้างหน้า ผมควรถอยกลับด้วยไหม?

 「อุโอออออ้!」   

และจากนั้น ทหารห้าคนวิ่งมาใส่ผมจากข้างหน้าพร้อมยกโล่ขึ้น

พวกเขาต้องอยากทำลายแถวต่อสู้ของเรา ผมตอบโดยการเหวี่ยงหอกอย่างทรงพลัง

 「ฮึ่ม!」   

หอกผมกระแทกกับกำแพงของโล่ ส่งให้ทหารห้าคนและโล่บินไป ระหว่างผมก็ถูกดันกลับไปด้วย

ทันทีเมื่อทหารศัตรูกำลังจะพร้อมพุ่งเข้าตีอีกครั้ง ผ้าคลุมแดงมาให้เห็น

 「ฮาร์ดเลตต์…… เจ้าสู้อย่างสง่างายกับนักรบของอเลส! แต่ไม่คิดว่าเก่งที่สุดควรจะเจอกับเก่งที่สุดเหรอ?」   

 「แน่นอนว่านั่นจะสรุปนี่ได้ไวขึ้น ศึกนี้ค่อนข้างจบไปแล้วอยู่ดีนั่นแหละ」   

 「เจ้าพูดว่าอะไร?」   

ผมชี้คางไปสู่หลังเขา

ขณะการต่อสู้ระยะประชิดดำเนินต่อไประหว่างพวกเดียวกันและศัตรู การคำรามของสงครามได้ยินได้มาจากข้างหลัง

ทหารศัตรูรีบหันไปเร็วๆเพื่อมองไปข้างหลังพวกเขาเพื่อเห็นธงผมตั้งปักไปใกล้ทางออกของหุบเขาลึก……

 「……เจ้าอ้อมไปรอบเหว」   

เหวนั้นอาจชัน แต่ยังมีที่เพียงพอสำหรับกลุ่มเล็กๆของทหารให้ข้ามไป

เมื่อเห็นว่าการโจมตีข้างหน้าไม่ไปไหน ลีโอโพลต์ใช้ข้อมูลที่ถูกถามไปทั่วเมื่อวานเพื่อกำหนดว่าส่วนไหนของเหวไต่และลงไปได้

แน่นอนว่า มีแค่ผู้คน จำนวนน้อยสุดขีดที่มีความสามารถทางกีฬาเหนือกว่าถูกเลือกให้อยู่ในกลุ่ม แต่มันไม่สำคัญว่าคนเท่าไรได้ข้ามไปได้ตราบใดที่มีกลุ่มข้างหลังพวกเขา การต่อสู้จะจบลงอย่างเร็วทันทีเมื่อพวกเขาทำอย่างนั้นสำเร็จ

ถ้าศัตรูหันไปเพื่อตีกลุ่มเล็กให้แตกพ่าย พวกเขาจะรับการโจมตีจากด้านหน้าเต็มรูปแบบ แต่ว่าถ้าพวกเขาปล่อยกลุ่มนั้นไว้ตามลำพัง ลูกธนูซึ่งพวกเขาป้องกันไม่ได้จะตกใส่พวกเขาจากข้างหลัง

กิลเดรสน่าจะเข้าใจชะตาของตัวเขาเองขณะเขาหันหน้าหาผมและหัวเราะ

 「ฟุฮ่าฮ่า มันดูเหมือนในที่สุดข้าก็ได้รับการไปเคารพเทพเจ้าแล้ว ยังไงก็ตาม เจ้าเป็นคนค่อนข้างน่าสนใจ นายพลเองท้าทายข้าแม้ว่ารับรู้ถึงตำแหน่งอันเหนือกว่าของเขา แน่นอน เจ้าถูกรักโดยเทพเจ้าแห่งสงคราม」   

 「ถ้าฉันจะถูกรัก ฉันจะอยากให้เป็นเทพธิดามีน้ำมีเนื้อมากกว่า」   

 「เจ้านั้นยังต้นอ่อน ฮาร์ตเลตต์ ข้านี่พร้อมกับหน้าไหนก็ตามตราบใดที่พวกเธอเป็นเพศหญิง」   

กิลเดรสและผมเผชิญหน้ากันและกันพร้อมด้วยอาวุธของเรา

การต่อสู้หมู่แพ้คือตายซึ่งยังเกิดขึ้นระหว่างพวกเดียวกันและศัตรูหยุด และวงล้อมเริ่มก่อรอบสองเรา

 「ราชากำลังเข้าการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง!」   

 「เจ้าคนนี้ต้องบ้าแน่ ไม่มีทางที่เขาจะชนะกับพลังเทพเจ้าแห่งพลังกองทัพเหมือนกิลเดรส」   

 「พูดอะไรน่ะไม่มีใครจะมาสู้ลอร์ดศักดินาซามะไหว」   

 「อสรูสงครามฮาร์ตเลตต์จะขยี้ศัตรูคนใดๆก็ตาม แม้ว่าถ้ามันเกิดเป็นมังกรขึ้นมา!」   

พวกเขาพูดอะไรที่พวกเขาพอใจ แม้ผมรู้ว่ากิลเดรสแข็งแกร่งอย่างน่ากลัวผมฝากหอกไว้กับซีเลียผู้กำลังยืนอยู่ข้างหลังผม

มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้คนนี้ด้วยหอก

เมื่อผมชักแองคู่ของผมขึ้นมา กิลเดรสเปิดตากว้างตกใจ

 「โฮฮฮ่…… ช่างสวยงาม ถ้าอย่างนั้นของเจ้านั้นสีขาว」   

แสงส่งสีขาวส่องออกปรากฏว่ายิ่งสวยกว่าจากมุมมองของบุคคลภายนอกเทียบกับสีฟ้าซีดของแสงแห่งอเลสของเขา

แต่ดาบนี้จะเปื้อนเลือดในไม่นานพร้อมดาบของทั้งสองเรา

 「ไปกันเถอะ」   

 「เข้ามาตอนไหนก็ได้」   

ผมเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหวขณะผมเตะพื้นแรงที่สุดและพุ่งเข้าตีใส่เขา

กิลเดรสก็ทำเหมือนกันแค่เสี้ยววินาทีหลังจากนั้น และดาบสมบัติของเราปะทะกันเมื่อเราทั้งสองคนมาถึงพื้นตรงกลางของสนามรบ

มีเสียงแหลมสูงของเหล็กและประกายไฟบินจากการปะทะของทั้งสองอาวุธ

 「กุโอ้!」   

ดาบของผมถูดดันกลับไปจากแรงกระแทก

มันเกือบบินออกจากมือของผม ถ้าอย่างนั้นคนนี้ค่อนของมีพละกำลังเหมือนสัตว์ประหลาด

เขาก็ถูกส่งกระเด็นไปจากการกระแทกแต่มันดูเหมือนเขาเคลื่อนที่ระยะสั้นมากกว่าผม

 「มันไม่หักเอ๋? นั่นเป็นดาบดี」   

 「เหมือนของนาย」   

ผมมส่งกำลังทั้งหมดเข้าสู่แอ่งคู่และดาบเขาไม่ได้แม้แต่จะบิ่น

ขณะที่ผมคิด ดาบนั้นไม่ใช่ดาบธรรมดา

พูดอีกอย่าง แค่สัมผัสนิดเดียวผมจะถูกส่งบินไป

 「มมมุ!」   

 「ฮึ่ม!」   

กำลังยืนอยู่เฉยๆ พวกเราทั้งสองคนกำลังเผชิญหน้ากันในการดวลดาบอย่างเข้มข้น

การโจมตีลงข้างล่างถูกกันไปข้างๆ การแทงถูกก้าวหนีออกข้าง และจากนั้นการแทงสวนถูกหลบด้วยการบิดตัว

ทหารผู้กำลังมองอยู่ในบริเวณใกล้เคียงไม่ได้ทำการตะคอกเข้ามาเหยียดหยาม ทั้งพวกเดียวกันและศัตรูยืนอยู่ข้างกันและดูกการต่อสู้คลี่คลายต่อหน้าต่อตาพวกเขา

 「นั่น!」   

กิลเดรสแข็งไปวินาทีหนึ่งเหมือนเขาก้าวไปเหยียบหินเล็กๆ

ผมไม่พลาดโอกาสเพื่อฟันไหล่ของเขา แต่เขาสกัดกัน้นด้วยโล่นี้

อย่างเป็นธรรมชาติ บางอย่างเหมือนโล่จะถูกฟันผ่านไปเหมือนเนยถ้ามันกันแองคู่ผมตรงๆ

อย่างไรก็ตามมุมของโล่เขาทำวให้ดาบแฉลบออกไปข้างๆ จากนั้นฟาดหน้าของผมด้วยโล่

 「กุ……」   

 「ฟุ่ฮ่าฮ่า โล่ไม่ได้เป็นอาวุธไม่ดี การกันไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่พวกมันทำได้ดี」   

ผมเช็ดเลือดจากจมูกผมและยิ้ม

 「นั่นทำให้ฉันตื่นเมื่อกี้นี้」   

ผมเผชิญหน้ากิลเดรสและเหวี่ยงใหญ่ใส่เขาด้วยดาบของผม

เขาหลบการโจมตีของผม จากนั้น งอลงเพื่อฟันกายผมขาดครึ่งด้วยการฟันแนวนอน

 「อะไร!?」   

ผมงอตัวผมไปข้างๆและหลบการฟัน จากนั้นผมหมุนครั้งหนึ่งก่อนจะเหวี่ยงใส่คอของเขา

เขาตอบสนองด้วยปฏิกิริยาตอบสนองโดยการนำโล่เพื่อขึ้นมากัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถจะกันเบี่ยงการโจมตีของผมได้ ณ เวลานี้

ด้วยเสียงแก๊งคมๆ โล่โลหะหนากลายเป็นสองเสี่ยงและทั้งสองส่วนตกลงสู่พื้น

 「ไม่ ฉันไม่คิดว่าโล่จำเป็น」   

 「ฟุฟุ…… ยอมรับว่านั่นฉลาด」   

กิลเดรสปล่อยโล่ถูกฟันของเขาหล่นออกจากมือและเหวี่ยงดาบของเขาด้วยสองมือ

 「มา ฮาร์เลตต์! เทพเจ้าแห่งสงครามกำพลังเป็นพยาน กับศึกนี้ระหว่างเราพวกผู้ชายแห่งความกล้าหาญ!」   

พวกเราสองคนไขว้ดาบ ณ ความเร็วที่ดวงตามนุษย์ตามไม่ทัน สลับกันป้องกันการโจมตีของอีกคน ปัดป้องพวกมัน และจากนั้นโจมตีสวนกลับไป

ไม่ใช่แค่แต่ละการโจมตีดีพอที่จะถึงตายถ้ามันโดนเท่านั้น

ถ้าไม่มีพลังถูกใส่อยู่ในแต่ละการโจมตีเพียงพอ การกระแทกจะแรงพอที่จะส่งอีกดาบกระเด็นไป

ทุกๆการปะทะของเราจะทำให้บรรยากาศสั่น ประกายไฟเกิดขึ้นด้วยการชนดาบสีกันจะกระจาย และเสียงแหลมของเหล็กอันโหดร้ายดังก้องไปสู่หน้าผา

และเมื่อผมลืมนับไปแล้วว่าใบมีดเราปะทะกันกี่ครั้ง ข้างของดาบผมซึ่งผมแทงกิลเดรสถูกปัดป้องด้วยมือ และจากนั้นฟันกลับใส่ผม ทำให้ผมกระโดดกลับไปบนการตอบสอง ใบมีดเขาต้องได้เฉี่ยวผมขณะที่เกราะของผมบริเวณอกถูกฟันเปิดและตกลงสู่พื้น

นั่นเกือบไป…… ก้าวไปข้างหน้าแค่อีกก้าวเดียวและมันจะตัดร่างกายของผม

ผมเสียส่วนบนของเกราะผมไปและเหลือเป็นการค่อนข้างเกือบเปลือย แม้ว่าไม่มีจุดประสงค์อะไรจริงๆที่จะใส่เกราะกับดาบแบบนั้น

 「มันเป็นตาฉันต่อไป!」   

บางทีเพราะผมเบาขึ้นหลังจากเกราะของผมถูกนำออกไป ผมสามารถปัดป้องดาบกิลเดรสและส่งการฟันไปบนแขนเขาต่อในกรฟันใส่กันครั้งต่อไป

การฟันนั้นตื้น แต่ยังคงรู้สึกดีที่เป็นคนเรียกเลือดคนแรก

 「นุ…… ถ้าอย่างนั้นมันหนักจริงๆ!」   

กิลเดราะนำผ้าคลุมแดงของเขาออกและแม้แต่ถอดเกราะส่วนเล็กๆที่เขาใส่ออก ปล่อยไว้เพียงแค่กางเกงหนัง

ดั้งเดิมแล้วมีแค่ชิ้นของเกราะเดียวปกป้องจุดตายของเขาดังนั้นตอนนี้ที่เขานำมันออก ส่วนให้เขาเปลือย

 「อุมุ ตอนนี้ฉันเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น!」   

ด้วยกายกำยำเป็นกล้ามแบบเขา เกราะของเขาน่าจะไม่หนักพอที่เขาจะรู้สึกมัน แม้ว่าเขานั้นเห็นได้ว่าเร็วกว่าเมื่อนำมันออก

การฟันลงข้างล่างของเขาจะขยี้ผมถ้าผมกันมัน ดังนั้นผมตอบด้วยการฟันขึ้นบนเพื่อไปเจอกับใบมีดเขา และจากนั้นตอบการเหวี่ยงแนวนอนจากด้านข้างด้วยการฟันของผมเอง

ความแข็งแกร่งของเราเท่ากัน…… ไม่ ถ้าผมไม่ระวัง เขาจะใช้พลังเหนือกว่าผมเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ผมฟันใส่กันหลายครั้งหลายคราแล้วกับเขา ผมคาดเดาได้ว่าเขาจะโจมตีอย่างไร

ผมตัดสินใจที่จะสู้ที่นี่และตอนนี้

 「ดอรย่าา!」   

ผมหลบการฟันแนวอนและหนีไปสู่สีข้างของเขา

ผมฟันข้างเขาระหว่างวิ่งผ่านเขา – โดนเต็มๆ

 「อุ่ก!」   

 「จึ ตื้นไปรึ!?」   

ผมคิดว่าผมควักข้างเขาออกมาแล้ว แต่การฟันไม่ได้ลึกพอ 

ความเร็วอมนุษย์และการพัฒนามวลกล้ามเนื้อเลี่ยงการโจมตีผมจากการไปถึงเครื่องในของเขา

 「อ-อะไร-!?」   

 「ราชาคุกเข่า!」   

แม้อย่างนั้นเลือดเขาหลั่งและเขาถูกทำให้ลมลงสู่เข่าข้างหนึ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำให้กองทัพศัตรูตกอกตกใจ

มีความรู้สึกไม่สงบใจชัดเจนอยู่บนหน้าของพวกเขา

 「……ฉันจะอนุญาตให้นายยอมแพ้」   

 「คิดว่าข้าจะทำรึ」   

ไม่ ผมไม่คิดอย่างนั้น

กิลเดรสก้าวไกลไปจากผมก้าวสองเก้าวและเขาชูมือขึ้นมาบ่งบอกว่าให้ผมรอ

 「ยังหนักเกินไป! ฉันจะเอานี่ออก」   

เขาพูดว่าเขาจะถอดมันอก แต่เขาไม่ได้กำลังใส่ผ้าคลุมเขาหรือเกราะอะไรอีกต่อไปแล้ว

เขาไม่มีอะไรนอกจากกางกางในหนึง ซึ่งทำเป็นกางเกงในของเขา

 「อย่าบอกฉันนะว่า!」

 「อะไรแบบนี้นั้นไม่จำเป็นในศึกระหว่างพวกผู้ชาย!」   

 「「ม-ม่ายยย!」」   

กิลเดราจับกับเกงเขาอย่างไม่น่าเชื่อ มันมีการกรี๊ดน่ารักจากซีเลียและไมล่า

 「ด-เดี๋ยว! อย่ารีบไป! ฉันจะรอ ดันนั้นอย่านำนั่นออก!」   

มันจะไม่เป็นการต่อสู้ถ้าเจ้าสิ่งนั้นมันเปิดเผยตัวเอง อะไรที่เขามีเจตนาที่จะทำถ้ามีการกระเด้งกระอักกระอ่วนแล้วมันเด้งมาตีผมหรือบางอย่าง

 「คิดอย่างนั้นเหรอ? ยังไงซะ เราควรสรุปการต่อสู้นี้ไม่นาน」   

หลังจากตรวจดูแผลเลือดไหล กิลเดรสยกดาบขึ้นสูง บางอย่างซึ่งเขาไม่ได้ทำจนถึงตอนนี้

เขาเต็มไปด้วยช่องเปิด แต่เขาน่าจะอยากจบอะไรๆด้วยการโจมตีหนึ่งครั้ง

 「ใช่ ฉันจะรีบแล้วฟันแกล้ม จากนั้นฉันจะไปมมีความสุขกับสาวๆได้」   

ในการตอบสนอง ผมยกดาบผมขึ้นเหนือหัวผม

ทั้งสองเราเข้าหากันและกันอย่างช้าๆและจากนั้นทำการเหวี่ยงใหญ่หนึ่งครั้งใส่กัน

หลังจากเสียงปะทะดังดาบกิลเดรสถูกทำกระเด็นออกจากมือและไปสู่พื้น

มันจบแล้ว ขณะผมยกดาบของผมขึ้นอีกครั้งเพื่อส่งมอบการโจมตีสุดท้าย…… ผมรู้สึกการโจมตีดุดันโดนคางผม

ผมเสียการกำบนแอ่งคู่ของผมและมันลื่นหลุดจากมือของผม

 「มันจะไม่เรียกการต่อสู้ถ้าเราใช้แค่ดาบเพียงเท่านั้น!」   

ก่อนผมรู้ตัวว่าอะไรโดนผม กิลเดรสส่งชุดหมัดใส่หน้าของผม

แต่ละหมัดหนักและทรงพลังพอที่จะทำชายทั่วไปสลบด้วยมันเอง

 「ม่ายย!」   

ผมสามารถได้ยินซีเลียกรีดร้อง

ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้ตัวผมถูกซ้อมที่นี่

 กิลเดรสง้างสำหรับอีกหมัด ผมกระโจนเข้าสู่อกของเขาและกระแทกหัวเข้าหน้าของเขา

 「กุโอออ้!」   

ผมตามด้วยหมัดขุดต่อเนื่องกันใส่ท้องกิลเดรสผู้ยืนปัด

แค่เมือผมคิดว่าเขากำลังจะล้ม ผมรับการปล่อยหมัดโค้งเข้าแก้ม

 「ดื้อด้านมาก!」   

 「แกก็ด้วย!」   

ผมรัดแขนรอบคอของเขาและพยายามหักมัน อย่างไรก็ตามผมเป็นคนผู้โดนโยนลงสู่พื้น

ผมจับการจะเล็งมา ณ หัวของผมและลากเขาลงและต่อยหน้าเข้าไปเข้าไป

ศึกหนึ่งต่อหนึ่งระหว่านายพลกลายถูกทำเสื่อมลงไปเป็นบางอย่างน่าเกลียน หมือนการดวลกลางถนนในเมือง

 「ฮ่าา ฮ่าา……」   

 「ฟฟฟู่ ฟฟฟู่」   

ทั้งสองเรามีร่องรอยของเลือดไหลวิ่งลงจมูกของเรา แต่เรารวบรวมพละกำลังของเราครับสุดท้ายและพุ่งเข้าต่อยกัน

 「ก๊าาาาาาา!」   

 「อุ่กกโกกก้!」   

หมัดเขาโดนหน้าผม และผมรู้สึกได้ถึงโลกรอบผมกำลังหมุนเหนือกการควบคุม

แต่ผมรู้สึกได้ถึงหมัดผมกระแทกเข้าคางเขา

 「อ๊าา!」   

 「อ๊ะ ร่วงพร้อมกันเรอะ!?」   

 「ราชาของข้าได้โปรดยืนขึ้น!」   

 「เร็วกว่าศัตรู!」   

ผมถูกต่อยร่วซค่อนข้างแรง กระนั้นผมยังพยายามยืนขึ้น อย่างไรก็ตามขาของผมไม่ได้ฟังผมเลยสักนิด

จากมุมของสายตาของผม ผมเห็นกิลเดรสก็พยายามเพื่อยืนขึ้นและล้มเหลว หลังจากยืนยันว่าเขาล้มไปนอนราบหน้าคว่ำ ผมปิดตา

 「ช่วยราชา! เราปล่อยให้เขาพ่ายในเงื้อมือศัตรูไม่ได้!」   

 「ช่วยลอร์ดศักดินาซามะ! กวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก!」   

 「เอเกอร์ซามะ จับหนูไว้!」   

ผมได้ยินเสียงของซีเลียได้แม้มันจะดำมืดสนิท

อาา กายน้อยๆแบกผมคล้ายกับในอดีตด้วย

ขอโทษพี่ต้องฝากตัวพี่เองกับหนูอีกครั้ง

ผมไม่คิดว่าผมยืนได้

 「กองกำลังทั้งหมดไล่ตามไป! กลาดล้างศัตรู!」   

 「สถานการณ์เปลี่ยนเราให้ราชาตายไม่ได้เมื่อเขาไม่มีสติแบบนี้ เปิดทางแล้วหนี」   

 ดูเหมือนการต่อสูยังดำเนินไป

ผมได้ยินเสียงของลีโอโพลต์ได้

 「ทุกคนกลายเป็นกำแพง!และตีฝ่าศัตรูที่ข้างหลัง! การพ่ายแพ้ด้วย ลูกธนู 10 หรือ 20 ดอกมันน่าขายหน้าสำหรับผู้ชาย!」

 「ฆ่าพวกมันให้สิ้นซาก! จัดการราชาศัตรู!」   

 「ฉันต้องให้เอเกอร์ซามะนอนลง! และบางคนก็ไปเอาน้ำมาเร็วๆ!」   

ซีเลีย……ร่ายกายหนูยิ่งนุ่มขึ้น

ผมหมดสติอย่างสมบูรณ์หลังจากความคิดสุดท้ายนั้น

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ 

พลเมือง: 160,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 23,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพส่วนตัว:  11,000 คน (-1100)

ทหารราบ: 5500, ทหารม้า: 800, พลธนู 750, ทหารม้าธนู: 3950

ปืนใหญ่: 18

สินทรัพย์: 300 ทอง

คู่นอน: 202, เด็กผู้เกิดแล้ว: 46

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: Facebook:  https://bit.ly/3SwePL9 / X: @wayutl

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด