[นิยายแปล] บุตรีขุนนาง VS สตรีศักดิ์สิทธิ์ 2

Now you are reading [นิยายแปล] บุตรีขุนนาง VS สตรีศักดิ์สิทธิ์ Chapter 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

―― ดูเหมือนฉันจะแพ้แล้วสิ

ฉันจ้องมองผลสอบวัดระดับการศึกษา พลางสั่นเทิ้มอย่างเสียหน้า

 

ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ตั้งมั่นว่าจะแย่งตำแหน่งอันดับหนึ่งคืนมา และทุ่มเททั้งกายและใจศึกษาเล่าเรียนยิ่งกว่าที่ผ่านมาเสียอีก

ฉันเตรียมตัวอย่างดีเพื่อสอบวัดซึ่งจัดขึ้นหลังเข้าเรียนมาได้สักพัก

แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้กลับมีชื่อของใครบางคนอยู่เหนือชื่อของฉัน

แอน ซัมเมอร์ส ―― ในสถาบันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนั้นอีกแล้ว แม้เด็กคนนั้นจะเกิดเป็นสามัญชน แต่กลับมีพลังที่หาได้ยาก ―― พลังเวทของสตรีศักดิ์สิทธิ์

เด็กที่ฉันอยากเอาชนะไม่ใช่แค่ “คนธรรมดา”

ตอนนี้ทุกคนยอมรับว่าเธอพิเศษและยกย่องกันอย่างไม่ขาดสาย ทุกครั้งที่ได้ยินถ้อยคำชื่นชมเธอจากปากคนอื่น ฉันรู้สึกเหมือนมีก้อนโคลนหมุนวนอยู่ในอก

การที่ฉันได้รับยกย่องเป็นผลมาจากความพยายามล้วนๆ

แต่เด็กคนนั้นไม่ใช่แค่เรียนเก่ง เธอมีพลังพิเศษที่เรียกกันว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์

―― ขี้โกง

ฉันเผลอคิดแบบนั้น แต่ก็ปรับทัศนคติในทันทีว่าความคิดนั้นช่างโง่เขลา

วงศ์ตระกูล รูปลักษณ์ ทรัพย์สิน เสื้อผ้า ―― ถึงจะได้รับคำชมพวกนั้น ก็ไม่อาจเติมเต็มฉันได้แม้แต่น้อย

สุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านั้นก็ได้รับมาจากพ่อแม่เท่านั้น สิ่งที่มาจากความพยายามของตัวเองต่างหากจึงจะคู่ควรแก่การได้รับคำชม

พลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นกัน

สมมติว่าฉันเกิดมาพร้อมพลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์ ก็คงจะไม่อาจภูมิใจกับเรื่องนั้นหรอก

ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ฉันทำได้คือการเป็นอันดับหนึ่งต่อไปเหมือนเดิม ต่อให้เธอจะเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียวก็เถอะ ทั้งที่คิดแบบนั้น ――

 

ฉันเพ่งมองใบประกาศลำดับยิ่งขึ้นไปอีก แต่จะมองกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน แล้วก็ไม่ได้มองผิดไปด้วย

ถ้ามองจากคะแนนก็ต่างกันแค่หลักเดียว ―― แต่ยังไงแพ้ก็คือแพ้

―― เจ็บใจจัง

ความรู้สึกนั้นเอ่อล้นเต็มปรี่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งที่ฉันพยายามถึงขนาดนั้น แต่ก็ยังเทียบไม่ติดเนี่ยนะ

ความต่างของพรสวรรค์ พลังของสตรีศักดิ์สิทธิ์ ―― ถึงจะพยายามแค่ไหนก็หักล้างความต่างนั่นไม่ได้

 

ทันใดนั้น ก็สัมผัสได้ถึงมือที่วางอยู่บนหัว

「โอ๋ๆ เด็กดีๆ」แมรี่ลูบหัวฉันขณะพูดราวกับกล่อมเด็ก 「คราวหน้าต้องเป็นที่หนึ่งแน่ค่ะ」

「ช่วยเลิกทำเหมือนฉันเป็นเด็กได้มั้ยคะ!」 ฉันต่อต้านด้วยการยกหัวขึ้น

แต่แมรี่กลับยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วลูบหัวฉันต่อ

「เจ็บใจสินะ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ?」มาร์กาเร็ตยิ้มแกล้งๆ พร้อมพูดขึ้น

「แย่ที่สุดเลยค่ะ คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าตอนนี้แล้วละค่ะ」

「ไม่ร้องนะคะ ท่านลอร่า เอ้านี่ ลูกอมค่ะ」แคทเธอรีนพูดพร้อมส่งลูกอมมาให้ฉัน

เด็กคนนี้มักจะพกขนมติดตัวเสมอและมอบให้ฉันทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

「ไม่ได้ร้องสักหน่อยค่ะ!」

ถึงปากจะประท้วงไปก่อน แต่ฉันก็รับลูกอมมาแบบอิดๆ ออดๆ

เด็กพวกนี้มักจะหยอกล้อฉันทุกครั้งที่มีโอกาส และถึงฉันจะโต้ตอบเท่าไหร่ พวกเธอก็เอาแต่ยิ้มอย่างสบายใจ ช่างเปล่าประโยชน์อย่างกับชกลมยังไงยังงั้น

 

แต่ที่สำคัญ ตอนนี้ความสนใจของฉันอยู่ที่แอน ซัมเมอร์ส

ฉันหันไปรอบๆ เพื่อมองหาร่างของเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้อยู่ที่นี่

เดิมทีเธอก็มักจะอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่ มีแค่ระหว่างคาบเรียนที่จะได้เห็นเธอตัวเป็นๆ ส่วนเวลาว่างจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็แทบไม่เคยพบเห็นเธอเลย

ฉันสอบถามบรรดาเพื่อนๆ ว่าแอนอยู่ที่ไหน แต่ทุกคนพร้อมกันส่ายหน้า ฉันจึงกล่าวว่า 「ดิฉันขอไปตามหาเธอสักหน่อยนะคะ」แล้วออกมาจากตรงนั้น ขืนอยู่ตรงนี้ไปก็มีแต่จะโดนแกล้งต่อไปเรื่อยๆ แล้วฉันก็รู้สึกอยากลองคุยกับเธออยู่เหมือนกัน

ฉันเดินวกไปวนมาอย่างไม่มีจุดหมาย ระหว่างทางก็คอยถามนักเรียนคนอื่นว่าเห็นเธอบ้างไหม แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเธอหายไปไหนอยู่ดี

เธออยู่อย่างสันโดษมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียนที่สถาบัน จะบอกว่าเพราะเป็นสามัญชนเลยถูกเพิกเฉยก็ไม่น่าใช่ น่าจะมาจากนิสัยส่วนตัว ―― นิสัยไม่ไว้ใจคนอื่นของเธอมากกว่า เอาเป็นว่าเธอดูจะมีปมเลยหลีกเลี่ยงที่จะข้องเกี่ยวกับคนอื่นแบบสุดๆ

จะเป็นเพราะความใจดี ความสนใจอันใสซื่้อบริสุทธิ์ ―― หรือไม่ก็เพราะคิดว่าเธอจะได้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตเลยผูกมิตรไว้ก่อนดีกว่ารึเปล่าก็ไม่รู้ ―― ตอนแรกดูเหมือนจะมีคนที่สนใจและทักทายเธออยู่บ้าง แต่ทุกคนก็ล้มเลิกไปหลังจากถูกเธอเมินเฉย หรือจะว่าเย็นชาดีนะ

 

งดงามราวกับภาพวาดเลยจริงๆ ท่วงท่าที่อ่อนช้อย เรือนผมสั้นกว่าบ่าเล็กน้อย สายตาที่หลุบมองหนังสือบนฝ่ามือ ทำให้แพขนตางอนยาวเด่นชัดยิ่งขึ้น

―― คนอะไรสวยจัง

ราวกับคนรับบทเพศชายในละครเบอร์เลสค์หรือโอเปร่ายังไงยังงั้น แม้จะเป็นผู้หญิงแต่กลับมีเสน่ห์ยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก เพราะอย่างนั้นรึเปล่านะ ฉันจึงรู้สึกว่าตัวเองประหม่าอยู่นิดๆ เหมือนกัน

ฉันสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย หายใจออกแล้วทักขึ้นว่า 「การอ่านหนังสือในที่แสงน้อยแบบนี้ ไม่ดีต่อสายตานะคะ」

เธอตอบสนองกับเสียงนั้นด้วยการเหลือบสายตามาทางฉัน ในขณะที่ใบหน้ายังคงหันไปที่หนังสือ ฉันสบเข้ากับสายตายั่วยวนนั่น พลางหัวใจก็เต้นรัวขึ้นหนึ่งจังหวะ

「คุณคือแอน ซัมเมอร์สสินะคะ?」

「ค่ะ ก็ใช่แหละค่ะ ―― เอ่อ ――」แอนรับคำพูดของฉันด้วยการเบนสายตาขึ้นฟ้า ครู่หนึ่งจึงหันสายตากลับมาแล้วพูดต่อ 「―― เลดี้」

คำพูดของเธอทำให้ริมฝีปากของฉันบึ้งขึ้น เด็กคนนี้พยายามจะนึกชื่อของฉันแล้วก็ล้มเลิกไป ทั้งที่ตระกูลแอชลีย์เป็นขุนนางดีเด่นระดับที่ว่าในประเทศนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ฉันยังภูมิใจที่ความโด่งดังนั่นทำให้ฉันเป็นที่รู้จักแท้ๆ

อาจเป็นเพราะเธออาศัยอยู่ในชุมชนมาโดยตลอดเลยช่วยไม่ได้ที่จะไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวต่างๆ

แต่ยังไงก็เถอะ ในเมื่อเข้าเรียนที่สถาบันแห่งนี้ อย่างน้อยก็ควรจะรู้จักชื่อของฉันนะ

แต่จะโมโหกับเรื่องนั้นไปก็ใช่เรื่อง ที่ฉันตระเวนตามหาเธออยู่ตั้งนานสองนานไม่ได้เป็นเพราะจะมาหาเรื่องสักหน่อย ฉันมาเพื่อชื่นชมความเป็นเลิศของเธออย่างจริงใจต่างหาก

「ขอโทษที่มารบกวนระหว่างอ่านหนังสือนะคะ ดิฉันชื่อลอร่า แอชลีย์ค่ะ」 ฉันยกยิ้มแล้วพูดขึ้น 「ยินดีด้วยนะคะ ได้ยินว่าคุณได้อันดับหนึ่งในการสอบวัดระดับที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อนอย่างงดงาม บอกตามตรงว่าดิฉันตกใจอยู่นิดๆ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้น่ะค่ะ」

แอนยังคงมองฉันอย่างเคลือบแคลงเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด

「ก็วันนี้เริ่มประกาศผลสอบใช่มั้ยล่ะคะ」

「―― อ๋อ อย่างนั้นเองเหรอคะ」ในที่สุดแอนก็ทำหน้าเข้าใจ หรือจะเรียกว่ารับรู้ดีนะ เสร็จแล้วจึงพูดต่อ 「ฉันเพิ่งจะรู้ เพราะไม่ได้สนใจเลยน่ะค่ะ」

ฉันไม่สบอารมณ์กับท่าทีที่ไม่สนใจผลการสอบนั่นเลย แบบนี้ก็เหมือนกับว่าฉันทึกทักว่าแพ้ไปเองคนเดียวน่ะสิ

「ที่หนึ่งของชั้นปีเลยนะ ดีใจให้มากกว่านี้หน่อยก็ได้นี่คะ?」

「เพราะมีแต่คำถามที่รู้จัก เหมือนที่เคยทำในคอร์สเรียนต่อแหละค่ะ」

「คอร์ส…?」ฉันเอียงคอให้กับคำศัพท์ที่ไม่ชินหู คงเป็นศัพท์ที่ฮิตกันในสามัญชนมั้ง

แต่ที่สำคัญกว่านั้น ฉันยื่นมือขวาออกไปแล้วพูดขึ้น 「ยังไงก็ตาม คุณดูจะเป็นคู่แข่งที่ดีเลยนะคะ」

เด็กคนนี้เป็นเด็กฉลาด ถ้าพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับเด็กคนนี้ ก็น่าจะเติบโตขึ้นได้ ―― ทั้งที่คิดแบบนั้น

「ก็ไม่ได้อยากเป็นนะคะ ฉันเองไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้นด้วย」

สิ้นคำนั้น ฉันก็เริ่มมีน้ำโหกับเธอ 「นี่คุณหยามดิฉันอยู่เหรอคะ?」

「เปล่านี่คะ ก็แค่ไม่ได้สนใจเลยจริงๆ」แอนกล่าว

「ดิฉันไม่ชอบใจเลยค่ะ คุณชนะดิฉันคนนี้เลยนะคะ」

「ถึงจะพูดอย่างนั้น ฉันเองก็ไม่ได้รู้จักคุณหนูอยู่แล้ว」เธอเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา

คำโต้เถียงนั่นทำให้ฉันฟิวส์ขาดจนได้ ถึงการที่เธอไม่รู้จักฉันมันจะน่าโมโหแต่ก็ยังให้อภัยได้

แต่ฉันไม่ชอบเลยที่เธอพูดออกมาโดยที่ไม่พยายามจะทำความรู้จักฉันสักนิด

เด็กคนนี้ไม่แม้แต่คิดที่จะประนีประนอมตั้งแต่แรก เธอเอาแต่ปฏิเสธอย่างเยียบเย็นเท่านั้น

หรือบางที ในอดีตอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอ อย่างเช่นว่าโดนครอบครัวหรือเพื่อนฝูงทำร้ายจิตใจเลยหลีกเลี่ยงการคบหากับผู้คน

หรือไม่ก็ถูกบูชาว่าเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างกะทันหันเลยโดนโยนเข้ามาอยู่ในหมู่ขุนนาง เธอจึงดื้อแพ่งเล็กน้อย และแสดงออกมาโดยไม่พูดจาในรูปแบบของการไม่ยุ่งเกี่ยวกับขุนนาง

แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง ฉันก็คือฉัน ลอร่า แอชลีย์ ฉันไม่อยากจะถูกเหมารวมกับใครอื่น และต้องทำให้เด็กคนนี้รู้

「เข้าใจแล้วค่ะ  คราวหน้าดิฉันจะลากคุณลงมา และทำให้คุณรู้จักชื่อดิฉันให้ได้」ฉันมองนัยน์ตาอันเย็นชานั่นแล้วพูดอย่างเด็ดขาด

 

ช่วงสอบกลางภาคของสถาบันใกล้เข้ามาแล้ว แอนก็ยังทำตัวเหมือนเดิม เวลาไม่มีคาบเรียนก็จะอยู่คนเดียว และถ้ามีเวลาว่างมากๆ เธอจะไปอ่านหนังสืออยู่ที่สวนด้านหลังนั่น

แม้ฉันจะใช้เวลาพักส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่บางเวลาก็จะเดินมาหาแอนที่นี่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราอยู่ด้วยกันหรอกนะ ทันทีที่ฉันทักทายเด็กคนนั้น เธอจะตอบส่งๆ กลับมาเหมือนเอือมระอาเต็มทน

เพราะงั้นส่วนใหญ่แล้วจึงจบลงที่การทักทาย แล้วนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ข้างๆ เฉยๆ

ฉันก็คิดแหละว่าไม่เห็นจำเป็นต้องมาที่นี่เลย แต่มันก็เป็นสถานที่ที่เงียบสงบดี สมกับที่แอนชอบมานั่งแช่ละนะ กลิ่นธรรมชาติสดชื่นและไม่ค่อยมีคนสัญจรไปมา

นอกจากความรู้สึกอึดอัดตอนบังเอิญเจอหนุ่มสาวนัดพบกัน ก็นับว่าเป็นที่ที่เหมาะแก่การใช้เวลาเงียบๆ ดี

แต่วันนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมานั่งชิลๆ ในช่วงพักเหมือนอย่างเคย ฉันมาเพราะมีบางอย่างจะบอกเธอต่างหาก

ฉันปิดหนังสือเรียน กระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วทักแอนไปในที่สุด 「ใกล้จะสอบแล้วนะคะ คุณซัมเมอร์ส」

「เหมือนจะอย่างนั้นนะคะ」 แอนละสายตาจากหนังสือในมือแล้วพูดตอบ

เธอแสดงออกว่าไม่สนใจฉันเช่นเคย ฉันพูดต่ออย่างไม่คิดอะไรมาก 「ถ้าคุณมั่นใจนัก เรามาแข่งกัน ―― สักครั้งมั้ยคะ?」ฉันพูดขณะหันไปมองใบหน้าด้านข้างของเธอ ทั้งที่สวยขนาดนี้ แต่เหมือนจะไม่มีความน่ารักเลยสักนิด

「แข่งกันสอบน่ะค่ะ คุณซัมเมอร์ส ทุกครั้งหลังสอบ สถาบันนี้จะแปะคะแนนและอันดับทั้งหมดใช่มั้ยคะ เพราะงั้น คนที่อันดับต่ำกว่าในการสอบต้องฟังคำสั่งของคนที่อันดับสูงกว่าข้อนึง ว่ายังไงคะ」

ฉันตั้งข้อเสนอที่ฟังดูน่าสนใจ

วินเทลไวส์มีนโยบายให้นักเรียนแข่งขันกันเองเพื่อความก้าวหน้า ด้วยเหตุนี้จึงมักจัดการแข่งสอบวัดระดับความสามารถหรือทักษะเวทและติดประกาศอันดับทุกครั้งไป เพียงแต่การที่ฉันแข่งกับเด็กคนนี้อยู่ฝ่ายเดียวมันไม่สนุก ถึงจะฝืนใจที่ต้องทำเหมือนท้าพนัน แต่ฉันคิดว่าการแข่งขันโดยกำหนดบทลงโทษง่ายๆ แบบนี้ จะทำให้เราทั้งคู่เติบโตไปด้วยกันมากกว่า

แต่ทว่า ――

「ขอปฏิเสธค่ะ」เธอตอบโดยไม่คิดแม้แต่น้อย แถมยังไม่มองมาที่ฉันเช่นเคย

「ทำไมถึงปฏิเสธล่ะคะ?」

「งั้นขอถามกลับนะคะ ทำไมฉันถึงต้องทำอะไรแบบนั้นด้วยล่ะ?」

ทั้งที่ฉันถามเธอ แต่เธอกลับตอบมาด้วยคำถามอย่างไร้เยื่อใย ฉันรู้สึกได้ว่าหางตาของตัวเองกระตุก ไม่ จะมาโกรธอยู่อย่างนี้ไม่ได้ ก็รู้อยู่เต็มอกไม่ใช่เหรอว่าเด็กคนนี้เป็นคนแบบนี้

ฉันถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น 「ก็ฟังดูตื่นเต้นกว่าเทียบคะแนนกันแบบง่ายๆ ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าตั้งเงื่อนไขแบบนี้ เราน่าจะเอาจริงกันทั้งสองฝ่ายด้วย」

แอนถอนหายใจเช่นเดียวกัน เธอตอบโดยไม่ละสายตาจากหนังสือ 「เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้น ก่อนอื่นช่วยฟังคำขอของฉันสักข้อได้มั้ยคะ?」

「ได้สิคะ เรื่องที่จะขอคือ?」ฉันพูดเสียงดี๊ด๊าโดยไม่รู้ตัว แต่ว่า ――

「ช่วยเลิกมาวุ่นวายกับฉันได้มั้ยคะ อย่างการมาเล่นพนันหรือบอกให้ฉันทำตามคำสั่งเนี่ย」

ช่างเป็นเด็กที่พูดจาได้น่าโมโหเหลือเกิน ฉันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ แม้จะอยากแย่งหนังสือที่เธออ่านอยู่แล้วเขวี้ยงทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด แต่ฉันพยายามกล่อมตัวเองอยู่ในหัวว่า 「เย็นเข้าไว้」ตั้งไม่รู้กี่รอบ

「คิดจะหนีจากดิฉันเหรอคะ? ไม่เชื่อในความสามารถของตัวเองเหรอคะ?」 ฉันจงใจพูดยั่วยุเธอ

แต่แอนทำท่าเหมือนกับว่าถึงจะรับคำท้าไปก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้น 「ยั่วยุไปก็เปล่าประโยชน์นะคะ เลดี้」 เธอพูดเหมือนรำคาญ 「แข่งเอย คำสั่งเอย ฉันไม่คิดจะทำอะไรยุ่งยากแบบนั้น เชิญไปท้าคนอื่นเถอะค่ะ」

สั่งให้ไปแข่งกับคนอื่นเนี่ยนะ เด็กคนนี้ได้ฟังที่ฉันพูดจริงๆ รึเปล่า

เพราะไม่มีเด็กคนไหนผลการเรียนดีกว่า ฉันถึงได้มาท้าเธออยู่แบบนี้ไง

ถึงจะพูดไปขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ขีดความอดทนฉันใกล้จะทะลุหลอดเต็มที

「เรื่องนั้นคงไม่ได้หรอกค่ะ กรุณามาแข่งกันฉันเถอะ」 ฉันเขยิบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ใบหน้าของแอน แล้วเปล่งเสียงดังขึ้นหนึ่งระดับ 「นี่คือคำสั่งค่ะ!」

เมื่อสิ้นคำ ในที่สุดแอนก็หันหน้ามาที่ฉัน พร้อมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคู่สนทนาช่างยุ่งยากน่ารำคาญด้วยความระอาเต็มทน

「แบบนี้ก็เท่ากับว่าสั่งก่อนจะเริ่มแข่งอีกไม่ใช่เหรอคะ」 แอนห่อไหล่แล้วจึงพูด

จากนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับเหนื่อยหน่ายเต็มที 「เข้าใจแล้วค่ะ มายเลดี้ผู้เอาแต่ใจ」

*****

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด