[นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! 14 เถาหลัวและBK จากผึ้งเพชฌฆาต

Now you are reading [นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! Chapter 14 เถาหลัวและBK จากผึ้งเพชฌฆาต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

และแล้วก็เป็นไปตามที่หน่วยพิเศษได้คาดไว้ องค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต” ได้เข้าหากวนซานจริงๆ

 

“คนธรรมดา” คนนี้ที่ไม่มีการตอบสนองต่อระดับพลัง แต่สามารถฆ่าผู้ใช้พลังพิเศษระดับ D ได้สองคน จนดึงดูดสายตาที่ซ่อนเร้นจำนวนมากในคืนนั้น

 

บ้างก็รู้สึกน่าสนใจ อยากรู้ หรือประสงค์ร้าย

 

ส่วนตัวยาที่เรียกว่า “ลูกกวาดปลุกพลัง” ได้ถูกพัฒนาโดย “ผึ้งเพชฌฆาต”

 

มันเป็นยาที่ช่วยให้คนธรรมดาสามารถปลุกพลังพิเศษขึ้นโดยการดึงพลังชีวิตมาใช้ กล่าวคือ เป้าหมายจะต้องไม่มีการตอบสนองต่อระดับพลังนั่นเอง

 

“ผึ้งเพชฌฆาต” ต้องการตัวอย่างจำนวนมากเพื่อทดลองผลกระทบของมัน

 

และจ้าวหงกับภรรยาของเขาคือเหยื่อรายล่าสุด

 

ในครั้งนี้ พวกเขาได้เห็นตัวอย่างทดลองที่ดีและสมบูรณ์แบบกว่า—ซึ่งก็คือกวนซาน

 

สมาชิกสองคนของ “ผึ้งเพชฌฆาต” จึงถูกส่งมา

 

พวกเขามีนามว่า เถาหลัวและBK

 

เถาหลัวมีชื่อรหัสลับว่า “ผึ้งงานหมายเลขสี่” ส่วน BK คือ “ผึ้งงานหมายเลขสิบ”

 

ในองค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต” เฉพาะผู้ที่ฆ่าคู่ต่อสู้ หรือเอาชนะชื่อรหัสถัดไปเท่านั้นจึงจะสามารถสืบทอดชื่อรหัสนั้นได้

 

ซึ่งหมายความว่า เถาหลัวเก่งกาจเป็นอันดับสี่ในหมู่ผึ้งงาน

 

แต่…มันก็แค่ผึ้งงาน หากเขาเป็นผึ้งตัวผู้ก็คงไม่ได้มาเพื่อทำงานง่ายๆแบบนี้หรอก

 

ใช่ งานง่ายๆ

 

ในความเห็นของเถาหลัว งานนี้ช่างง่ายเสียจริง

 

ไม่ว่าจะมองยังไง อย่างมากเป้าหมายก็คือผู้ใช้พลังระดับ D นอกจากมีทักษะการสังเกตเหนือชั้น และความสามารถที่ต้องสงสัยว่าน่าจะเป็นการกลืนกินเนื้อผู้อื่นเพื่อรักษาตัวเอง ก็ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านี้

 

แต่มันยังไม่รู้ว่าเขาใช้อะไรในการปกปิดระดับพลัง

 

และหลังจากนั้น เขาก็สามารถฆ่าระดับ D ได้สองคน ถึงแม้จะฟังดูน่าทึ่ง

 

แต่ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยฆ่า?

 

เถาหลัวเพิ่งฝ่าคอขวดเข้าสู่ระดับ C เมื่อไม่นานมานี้ เขาจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขาเอง

 

จากการฝึกฝนด้วยตนเอง เขาจึงได้ตระหนักว่าระหว่างระดับ C และ D ถึงแม้พึ่งผ่านระดับ D มาหมาดๆ ก็เป็นการก้าวกระโดดทางขีดจำกัดพลังอย่างมาก!

 

“ไม่รู้ว่าหน้าหมอนี่จะเปลี่ยนไปมั้ยเมื่อเลาะหนังหน้าเขาออกมาน่ะ?”

 

เถาหลัวลอบคิดในใจ และเลียมุมปากของเขาด้วยความลุ่มหลง

 

เพราะสิ่งที่เขาโปรดปราน คือการรวบรวมใบหน้าของผู้แพ้และทำให้พวกเขากลายเป็นของสะสมชั่วนิรันดร์

 

แม้เถาหลัวจะเริ่มตื่นเต้นบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังต้องสวมบทบาทเป็น “คนขับ” ไปก่อน

 

วิธีอำพรางพวกคนในหน่วยรักษาความปลอดพิเศษ ย่อมเป็นปัญหาที่ทางองค์กรต้องจัดการเอง ส่วนเขาก็แค่เฝ้ารอโอกาสอย่างเงียบๆ

 

รอเจ้า BK ที่เชี่ยวชาญพลังจำพวกมิติ เคลื่อนย้ายเซี่ยเหล่ยไปยังเมืองที่อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร

 

เมื่อผู้ใช้พลังระดับ B คนนี้รีบกลับมา เขาก็จะเห็นแค่ศพลูกน้องของเขาเท่านั้นแหละเนอะ?

 

ยิ่งเถาหลัวคิดเรื่องนี้เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ฆ่าคนใต้จมูกของผู้ใช้พลังระดับ B แบบนี้

 

“ก๊อก ก๊อก”

 

เสียงเคาะกระจกหน้าต่างได้ดังขึ้นทางซ้าย และเถาหลัวก็รู้ว่าเป็น BK ที่เตือนตัวเขาว่ากำลังจะลงมือแล้ว

 

เถาหลัวเลื่อนสายตาไปยังเด็กซึ่งโผล่หัวออกมาจากหลังคารถ เนื่องจากร่างกายที่ผอมบางของเขา หัวของเขาจึงดูใหญ่เป็นพิเศษ และแววตาของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อยยามเมื่อจ้องมองผู้คน

 

นี่คือมนุษย์ทดลองกึ่งสมบูรณ์ล่าสุดจาก “ลูกกวาดปลุกพลัง” และเป็นหนึ่งในเด็กทดลองขององค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต”

 

เขาเป็นเด็กเร่ร่อนซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป และถูกสมาชิกในองค์กรจับได้ จากนั้นก็ให้กิน “ลูกกวาดปลุกพลัง” ดู

 

ผลที่ได้ช่างผิดคาดมาก เพราะเขาได้ปลุกความสามารถ “เคลื่อนย้าย” ซึ่งเป็นความสามารถรูปแบบมิติที่หายาก

 

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ “ลูกกวาดปลุกพลัง” ในขณะนี้ ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับเด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารเรื้อรัง

 

และในนาทีที่ BK ถูกปลุกพลังขึ้น พลังงานอันมหาศาลและซับซ้อนยังทำให้เขามีความแข็งแกร่งทางกายภาพใกล้เคียงกับพลังรูปแบบกายเนื้อระดับ D อีกด้วย

 

ผู้มีความสามารถทั้งพลังกายและเคลื่อนย้ายอาจฟังดูยอดเยี่ยม

 

แต่น่าเสียดายที่อายุขัยของ BK เหลือเพียงเดือนเดียวเท่านั้น

 

“ใช้ทุกอย่างที่มีจริงๆ….”

 

และแล้วเถาหลัวก็ได้ยินเสียงศีรษะของหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษตกกระแทกพื้นดังมาจากข้างหลัง และหัวเราะเบาๆออกมา

 

“เอาล่ะ เวลาจวนหมดแล้ว มันถึงเวลาส่งนักข่าวคนนี้สู่เส้นทางสัมปรายภพสักที”

 

เถาหลัวไม่เร่งรีบหยุดรถเพื่อลุกจากที่นั่งคนขับ เขาดึงถุงมือออกก่อน แล้วค่อยเดินไปทางกวนซาน ซึ่งกำลังหวาดกลัวและถอยหนี

 

ภายใต้แสงไฟรถเมล์ กวนชานได้มีสีหน้าซีดขาวและตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

 

“ฮ่าฮ่า…ใช่แล้ว สีหน้าแบบนั้น มาเพิ่มมันขึ้นอีกหน่อยดีกว่า”

 

เถาหลัวยกมือขึ้น และขจายจิตของเขาไปทั่วตัวรถ ทำให้โลหะทั้งหมดได้ถูกควบคุมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา

 

“ชั้นอยากรู้จังว่าเวลาคุณถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันจะงามเพริศพรายขนาดไหนกัน!”

 

BK ก็เริ่มลงมือเช่นกัน เขาใช้ดาบอาบยาพิษสอดเข้าไปในรอยต่อหลังคารถ และแทงกวนซานด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า

 

ว้าว~

 

เถาหลัวลอบโห่ร้องให้กำลังใจแก่ดาบนั้น

 

ดาบนี้ได้อาบไปด้วยสารทำลายระบบประสาท และแม้แต่พลังพิเศษสายกายเนื้อก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้

 

เพียงแค่ 3 วินาที สารพิษก็จะทำให้เส้นประสาทเป็นอัมพาต พูดได้ว่าเขาถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเรียบร้อยแล้ว

 

ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของกวนซาน เขาได้ยืนยันความคิดของเขา

 

ว่าผู้ชายคนนี้อย่างมากก็เป็นแค่ผู้ใช้พลังสายกายเนื้อระดับ D เอะอะทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปซะได้…..แต่แย่หน่อยนะที่ “ลูกกวาดปลุกพลัง” จะได้ผลก็ต่อเมื่อเป็นคนปกติธรรมดาที่กินมันเข้าไปน่ะ

 

เมื่อเถาหลัวกำลังจะเริ่มนับสามวินาทีในใจเพื่อเฝ้าดูการตายอย่างทรมานแสนสาหัสของนักข่าว

 

เขาก็เห็นเห็นกวนชานกลิ้งหลบอย่างทุลักทุเล จากนั้นจู่ๆเขาก็นำม้วนผ้าพันแผลจากไหนก็ไม่รู้ออกมา

 

“ผ้าพันแผล?”

 

เถาหลัวผงะไปชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

 

“นี่เขาจะใช้ผ้าพันแผลห้ามเลือดเหรอ?”

 

เถาหลัวรู้สึกไร้สาระและน่าขำ “หรือว่าเขากลัวจนเพี้ยนไปแล้ว? และไม่ใช่ว่าเขาบาดเจ็บที่ใบหน้านี่ เขากำลังจะพันหัวตัวเองหรือไงหว่า?”

 

แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้ ก็ไม่อาจใช้ผ้าพันหน้าได้ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ได้!

 

เถาหลัวได้แต่คาดเดาพฤติกรรมแปลกพิสดารของกวนชานว่าเป็นเพราะความหวาดกลัวและงี่เง่า

 

ดังนั้นเขาจึงเตรียมตัวดูว่ากวนชานจะทำอย่างไรด้วยความสนใจเต็มเปี่ยม มันคือหนึ่งในความสุขของเขาที่ได้ชมความอัปลักษณ์ก่อนตายของเหยื่อทั้งหลาย

 

แต่ทว่า กวนซานไม่ได้พันผ้าพันแผลบริเวณศีรษะของเขา

 

เขากลับพันไว้ที่มือ

 

เถาหลัวได้อึ้งไปอีกครั้ง และในที่สุดก็อดหัวเราะไม่ได้

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ชั้นชักจะไม่อยากฆ่าแกแล้วสิ แต่โทษทีนะที่มันเป็นภารกิจของชั้น”

 

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเมตตาว่า “เอาเถอะ ชั้นจะให้เวลาคุณตอนได้กิน ‘ลูกกวาดปลุกพลัง’ เพื่อจะได้ออกฤทธิ์นานขึ้น ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่แสดงตลกให้ชั้นดู—”

 

“จงปลาบปลื้มซะ จากนั้น…ก็ดิ้นรนเข้านะ”

 

——

 

เนื้อตัวกวนซานได้เต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ เขาเห็นสัตว์ประหลาดไร้หน้ากำลังโบกไม้โบกมือ และส่งเสียงพูดอู้อี้ซึ่งฟังไม่ได้ศัพท์

 

จากนั้นเขาก็หยิบวัตถุคล้ายลูกกวาดสีส้มออกมาแล้วแสดงท่าทีจะเดินมาหา

 

กวนซานรู้สึกว่ามันอาจเป็นกลอุบายบางอย่าง

 

ดังนั้นความเร็วในการผูกผ้าพันแผลบนมือ จึงเร่งเร็วขึ้นอีก

 

【ผ้าพันแผลปฐมพยาบาล】

 

【ผลลัพธ์: ฟื้นฟูพลังชีวิต 20% ทันที; บรรเทาสถานะผิดปกติ เช่น พิษ มึนงงเ และเชื่องช้า 】

 

[คำอธิบาย : ไม่ว่าใช้ภายนอกหรือภายใน ก็รักษาได้ทุกโรค 】

 

แน่นอนว่าคุณต้องพันกับร่างกายเท่านั้นถึงจะแสดงผลได้ รวมถึงเวลาใช้ยังมีการใช้ภายนอกหรือภายในอีกด้วย บอกได้เลยว่าระบบจำลองนี้ชั่วร้ายมาก!

 

ที่บอกว่ารักษาได้ทุกโรคน่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือของจริง

 

แม้พลังชีวิตกวนซานในตอนนี้จะยังไม่ลดลงมาก และการใช้ผ้าพันแผลปฐมพยาบาลก็ดูจะสิ้นเปลืองอยู่ แต่เขาไม่อาจทนต่อสถานะติด [พิษ] ได้

 

เพราะต่อให้พลังชีวิตเขาจะเต็ม 990 แต่อาจเป็นไปได้ว่ามอนสเตอร์เลเวล 10 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาจจะฆ่าเขาได้เพียงเวลาไม่กี่วินาที

 

นับประสาอะไรกับการเพิ่มสถานะติด [พิษ] อีก

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในเวลานี้มอนสเตอร์ได้หยุดลงอย่างไม่รู้สาเหตุ กวนซานจึงค้นพบไอเทมเดียวที่มีอยู่ในฉากนี้

 

ณ ตรงบริเวณคอของผู้โดยสารที่ถูกผนังเนื้อกลืนกิน คำว่า “ระเบิด” ได้ปรากฏขึ้น!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! 14 เถาหลัวและBK จากผึ้งเพชฌฆาต

Now you are reading [นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! Chapter 14 เถาหลัวและBK จากผึ้งเพชฌฆาต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

และแล้วก็เป็นไปตามที่หน่วยพิเศษได้คาดไว้ องค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต” ได้เข้าหากวนซานจริงๆ

 

“คนธรรมดา” คนนี้ที่ไม่มีการตอบสนองต่อระดับพลัง แต่สามารถฆ่าผู้ใช้พลังพิเศษระดับ D ได้สองคน จนดึงดูดสายตาที่ซ่อนเร้นจำนวนมากในคืนนั้น

 

บ้างก็รู้สึกน่าสนใจ อยากรู้ หรือประสงค์ร้าย

 

ส่วนตัวยาที่เรียกว่า “ลูกกวาดปลุกพลัง” ได้ถูกพัฒนาโดย “ผึ้งเพชฌฆาต”

 

มันเป็นยาที่ช่วยให้คนธรรมดาสามารถปลุกพลังพิเศษขึ้นโดยการดึงพลังชีวิตมาใช้ กล่าวคือ เป้าหมายจะต้องไม่มีการตอบสนองต่อระดับพลังนั่นเอง

 

“ผึ้งเพชฌฆาต” ต้องการตัวอย่างจำนวนมากเพื่อทดลองผลกระทบของมัน

 

และจ้าวหงกับภรรยาของเขาคือเหยื่อรายล่าสุด

 

ในครั้งนี้ พวกเขาได้เห็นตัวอย่างทดลองที่ดีและสมบูรณ์แบบกว่า—ซึ่งก็คือกวนซาน

 

สมาชิกสองคนของ “ผึ้งเพชฌฆาต” จึงถูกส่งมา

 

พวกเขามีนามว่า เถาหลัวและBK

 

เถาหลัวมีชื่อรหัสลับว่า “ผึ้งงานหมายเลขสี่” ส่วน BK คือ “ผึ้งงานหมายเลขสิบ”

 

ในองค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต” เฉพาะผู้ที่ฆ่าคู่ต่อสู้ หรือเอาชนะชื่อรหัสถัดไปเท่านั้นจึงจะสามารถสืบทอดชื่อรหัสนั้นได้

 

ซึ่งหมายความว่า เถาหลัวเก่งกาจเป็นอันดับสี่ในหมู่ผึ้งงาน

 

แต่…มันก็แค่ผึ้งงาน หากเขาเป็นผึ้งตัวผู้ก็คงไม่ได้มาเพื่อทำงานง่ายๆแบบนี้หรอก

 

ใช่ งานง่ายๆ

 

ในความเห็นของเถาหลัว งานนี้ช่างง่ายเสียจริง

 

ไม่ว่าจะมองยังไง อย่างมากเป้าหมายก็คือผู้ใช้พลังระดับ D นอกจากมีทักษะการสังเกตเหนือชั้น และความสามารถที่ต้องสงสัยว่าน่าจะเป็นการกลืนกินเนื้อผู้อื่นเพื่อรักษาตัวเอง ก็ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านี้

 

แต่มันยังไม่รู้ว่าเขาใช้อะไรในการปกปิดระดับพลัง

 

และหลังจากนั้น เขาก็สามารถฆ่าระดับ D ได้สองคน ถึงแม้จะฟังดูน่าทึ่ง

 

แต่ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยฆ่า?

 

เถาหลัวเพิ่งฝ่าคอขวดเข้าสู่ระดับ C เมื่อไม่นานมานี้ เขาจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขาเอง

 

จากการฝึกฝนด้วยตนเอง เขาจึงได้ตระหนักว่าระหว่างระดับ C และ D ถึงแม้พึ่งผ่านระดับ D มาหมาดๆ ก็เป็นการก้าวกระโดดทางขีดจำกัดพลังอย่างมาก!

 

“ไม่รู้ว่าหน้าหมอนี่จะเปลี่ยนไปมั้ยเมื่อเลาะหนังหน้าเขาออกมาน่ะ?”

 

เถาหลัวลอบคิดในใจ และเลียมุมปากของเขาด้วยความลุ่มหลง

 

เพราะสิ่งที่เขาโปรดปราน คือการรวบรวมใบหน้าของผู้แพ้และทำให้พวกเขากลายเป็นของสะสมชั่วนิรันดร์

 

แม้เถาหลัวจะเริ่มตื่นเต้นบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังต้องสวมบทบาทเป็น “คนขับ” ไปก่อน

 

วิธีอำพรางพวกคนในหน่วยรักษาความปลอดพิเศษ ย่อมเป็นปัญหาที่ทางองค์กรต้องจัดการเอง ส่วนเขาก็แค่เฝ้ารอโอกาสอย่างเงียบๆ

 

รอเจ้า BK ที่เชี่ยวชาญพลังจำพวกมิติ เคลื่อนย้ายเซี่ยเหล่ยไปยังเมืองที่อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร

 

เมื่อผู้ใช้พลังระดับ B คนนี้รีบกลับมา เขาก็จะเห็นแค่ศพลูกน้องของเขาเท่านั้นแหละเนอะ?

 

ยิ่งเถาหลัวคิดเรื่องนี้เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ฆ่าคนใต้จมูกของผู้ใช้พลังระดับ B แบบนี้

 

“ก๊อก ก๊อก”

 

เสียงเคาะกระจกหน้าต่างได้ดังขึ้นทางซ้าย และเถาหลัวก็รู้ว่าเป็น BK ที่เตือนตัวเขาว่ากำลังจะลงมือแล้ว

 

เถาหลัวเลื่อนสายตาไปยังเด็กซึ่งโผล่หัวออกมาจากหลังคารถ เนื่องจากร่างกายที่ผอมบางของเขา หัวของเขาจึงดูใหญ่เป็นพิเศษ และแววตาของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อยยามเมื่อจ้องมองผู้คน

 

นี่คือมนุษย์ทดลองกึ่งสมบูรณ์ล่าสุดจาก “ลูกกวาดปลุกพลัง” และเป็นหนึ่งในเด็กทดลองขององค์กร “ผึ้งเพชฌฆาต”

 

เขาเป็นเด็กเร่ร่อนซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป และถูกสมาชิกในองค์กรจับได้ จากนั้นก็ให้กิน “ลูกกวาดปลุกพลัง” ดู

 

ผลที่ได้ช่างผิดคาดมาก เพราะเขาได้ปลุกความสามารถ “เคลื่อนย้าย” ซึ่งเป็นความสามารถรูปแบบมิติที่หายาก

 

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ “ลูกกวาดปลุกพลัง” ในขณะนี้ ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับเด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารเรื้อรัง

 

และในนาทีที่ BK ถูกปลุกพลังขึ้น พลังงานอันมหาศาลและซับซ้อนยังทำให้เขามีความแข็งแกร่งทางกายภาพใกล้เคียงกับพลังรูปแบบกายเนื้อระดับ D อีกด้วย

 

ผู้มีความสามารถทั้งพลังกายและเคลื่อนย้ายอาจฟังดูยอดเยี่ยม

 

แต่น่าเสียดายที่อายุขัยของ BK เหลือเพียงเดือนเดียวเท่านั้น

 

“ใช้ทุกอย่างที่มีจริงๆ….”

 

และแล้วเถาหลัวก็ได้ยินเสียงศีรษะของหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษตกกระแทกพื้นดังมาจากข้างหลัง และหัวเราะเบาๆออกมา

 

“เอาล่ะ เวลาจวนหมดแล้ว มันถึงเวลาส่งนักข่าวคนนี้สู่เส้นทางสัมปรายภพสักที”

 

เถาหลัวไม่เร่งรีบหยุดรถเพื่อลุกจากที่นั่งคนขับ เขาดึงถุงมือออกก่อน แล้วค่อยเดินไปทางกวนซาน ซึ่งกำลังหวาดกลัวและถอยหนี

 

ภายใต้แสงไฟรถเมล์ กวนชานได้มีสีหน้าซีดขาวและตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

 

“ฮ่าฮ่า…ใช่แล้ว สีหน้าแบบนั้น มาเพิ่มมันขึ้นอีกหน่อยดีกว่า”

 

เถาหลัวยกมือขึ้น และขจายจิตของเขาไปทั่วตัวรถ ทำให้โลหะทั้งหมดได้ถูกควบคุมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา

 

“ชั้นอยากรู้จังว่าเวลาคุณถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันจะงามเพริศพรายขนาดไหนกัน!”

 

BK ก็เริ่มลงมือเช่นกัน เขาใช้ดาบอาบยาพิษสอดเข้าไปในรอยต่อหลังคารถ และแทงกวนซานด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า

 

ว้าว~

 

เถาหลัวลอบโห่ร้องให้กำลังใจแก่ดาบนั้น

 

ดาบนี้ได้อาบไปด้วยสารทำลายระบบประสาท และแม้แต่พลังพิเศษสายกายเนื้อก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้

 

เพียงแค่ 3 วินาที สารพิษก็จะทำให้เส้นประสาทเป็นอัมพาต พูดได้ว่าเขาถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเรียบร้อยแล้ว

 

ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของกวนซาน เขาได้ยืนยันความคิดของเขา

 

ว่าผู้ชายคนนี้อย่างมากก็เป็นแค่ผู้ใช้พลังสายกายเนื้อระดับ D เอะอะทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปซะได้…..แต่แย่หน่อยนะที่ “ลูกกวาดปลุกพลัง” จะได้ผลก็ต่อเมื่อเป็นคนปกติธรรมดาที่กินมันเข้าไปน่ะ

 

เมื่อเถาหลัวกำลังจะเริ่มนับสามวินาทีในใจเพื่อเฝ้าดูการตายอย่างทรมานแสนสาหัสของนักข่าว

 

เขาก็เห็นเห็นกวนชานกลิ้งหลบอย่างทุลักทุเล จากนั้นจู่ๆเขาก็นำม้วนผ้าพันแผลจากไหนก็ไม่รู้ออกมา

 

“ผ้าพันแผล?”

 

เถาหลัวผงะไปชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

 

“นี่เขาจะใช้ผ้าพันแผลห้ามเลือดเหรอ?”

 

เถาหลัวรู้สึกไร้สาระและน่าขำ “หรือว่าเขากลัวจนเพี้ยนไปแล้ว? และไม่ใช่ว่าเขาบาดเจ็บที่ใบหน้านี่ เขากำลังจะพันหัวตัวเองหรือไงหว่า?”

 

แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้ ก็ไม่อาจใช้ผ้าพันหน้าได้ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ได้!

 

เถาหลัวได้แต่คาดเดาพฤติกรรมแปลกพิสดารของกวนชานว่าเป็นเพราะความหวาดกลัวและงี่เง่า

 

ดังนั้นเขาจึงเตรียมตัวดูว่ากวนชานจะทำอย่างไรด้วยความสนใจเต็มเปี่ยม มันคือหนึ่งในความสุขของเขาที่ได้ชมความอัปลักษณ์ก่อนตายของเหยื่อทั้งหลาย

 

แต่ทว่า กวนซานไม่ได้พันผ้าพันแผลบริเวณศีรษะของเขา

 

เขากลับพันไว้ที่มือ

 

เถาหลัวได้อึ้งไปอีกครั้ง และในที่สุดก็อดหัวเราะไม่ได้

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ชั้นชักจะไม่อยากฆ่าแกแล้วสิ แต่โทษทีนะที่มันเป็นภารกิจของชั้น”

 

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเมตตาว่า “เอาเถอะ ชั้นจะให้เวลาคุณตอนได้กิน ‘ลูกกวาดปลุกพลัง’ เพื่อจะได้ออกฤทธิ์นานขึ้น ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่แสดงตลกให้ชั้นดู—”

 

“จงปลาบปลื้มซะ จากนั้น…ก็ดิ้นรนเข้านะ”

 

——

 

เนื้อตัวกวนซานได้เต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ เขาเห็นสัตว์ประหลาดไร้หน้ากำลังโบกไม้โบกมือ และส่งเสียงพูดอู้อี้ซึ่งฟังไม่ได้ศัพท์

 

จากนั้นเขาก็หยิบวัตถุคล้ายลูกกวาดสีส้มออกมาแล้วแสดงท่าทีจะเดินมาหา

 

กวนซานรู้สึกว่ามันอาจเป็นกลอุบายบางอย่าง

 

ดังนั้นความเร็วในการผูกผ้าพันแผลบนมือ จึงเร่งเร็วขึ้นอีก

 

【ผ้าพันแผลปฐมพยาบาล】

 

【ผลลัพธ์: ฟื้นฟูพลังชีวิต 20% ทันที; บรรเทาสถานะผิดปกติ เช่น พิษ มึนงงเ และเชื่องช้า 】

 

[คำอธิบาย : ไม่ว่าใช้ภายนอกหรือภายใน ก็รักษาได้ทุกโรค 】

 

แน่นอนว่าคุณต้องพันกับร่างกายเท่านั้นถึงจะแสดงผลได้ รวมถึงเวลาใช้ยังมีการใช้ภายนอกหรือภายในอีกด้วย บอกได้เลยว่าระบบจำลองนี้ชั่วร้ายมาก!

 

ที่บอกว่ารักษาได้ทุกโรคน่าจะเป็นเรื่องหลอกลวง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือของจริง

 

แม้พลังชีวิตกวนซานในตอนนี้จะยังไม่ลดลงมาก และการใช้ผ้าพันแผลปฐมพยาบาลก็ดูจะสิ้นเปลืองอยู่ แต่เขาไม่อาจทนต่อสถานะติด [พิษ] ได้

 

เพราะต่อให้พลังชีวิตเขาจะเต็ม 990 แต่อาจเป็นไปได้ว่ามอนสเตอร์เลเวล 10 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาจจะฆ่าเขาได้เพียงเวลาไม่กี่วินาที

 

นับประสาอะไรกับการเพิ่มสถานะติด [พิษ] อีก

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในเวลานี้มอนสเตอร์ได้หยุดลงอย่างไม่รู้สาเหตุ กวนซานจึงค้นพบไอเทมเดียวที่มีอยู่ในฉากนี้

 

ณ ตรงบริเวณคอของผู้โดยสารที่ถูกผนังเนื้อกลืนกิน คำว่า “ระเบิด” ได้ปรากฏขึ้น!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+