[นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! 8 กวนซานผู้มีไหวพริบและสุภาพ

Now you are reading [นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! Chapter 8 กวนซานผู้มีไหวพริบและสุภาพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเห็นท่านประธาน ทุกคนก็ต่างตกใจ

 

ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวเผิงเฟยก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและอธิบายว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรครับ ก็แค่เรื่องเกี่ยวกับไฟไหม้เมื่อคืนนี้ พี่เจียงเขาถามว่ามีใครคนไหนได้ภาพเด็ดบ้างก็เท่านั้นเอง”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาพูดแบบนี้เพื่อกวนชาน

 

เขาเปลี่ยนจาก “การถามแค่คนเดียว” เป็น “การถามทุกคน”

 

ในกรณีนี้ หากหลี่จือหยิงไม่ถามต่อ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปเป็นอย่างหลัง

 

เจียงซีหยานไม่กล้าใช้ประโยชน์จากประธานในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมถอยหลังให้

 

และเรื่องราวก็จะจบลงด้วยดี

 

อย่าเห็นว่าใบหน้าของผอ.เผิงนั้นดูซื่อสัตย์ แต่แท้จริงแล้วเขาเจ้าเล่ห์กว่าเจียงซีหยานซะอีก

 

น่าเสียดาย ที่หลี่จือหยิงไม่ได้ตั้งใจจะยอมรับข้อโต้แย้งนั้น

 

เธอมองไปรอบๆ และหยุดนิ่งที่เสินติงฮัวซึ่งกำลังยืนอยู่อย่างโมโหสักพัก และมองไปที่กวนซานกับเจียงซีหยาน ซึ่งบรรยากาศยังคงมีเค้าลางของความขัดแย้งอยู่

 

เธอพอเข้าใจคร่าวๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“แค่เรื่องพรรณนี้ คงไม่จำเป็นต้องเรียกเข้าไปซักถามรายตัวหรอกจริงมั้ย?”

 

หลี่จือหยิงเดินไปหาเจียงซีหยาน เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอได้ดังกังวานออกมา และแรงกดดันที่ไม่อาจมองเห็นก็ได้ถูกแผ่ออกมาจากนัยน์ตาเธอ

 

เจียงซีหยานรีบปั้นหน้าเป็นงานเป็นการทันที และกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า

 

“ผมก็แค่สั่งสอนพวกคนหนุ่มสาวที่ไม่หวังความก้าวหน้าน่ะครับ พวกเขาไม่จริงจังในการทำงานเอาซะเลยและก็ชอบพูดเถียงกลับ คนจำพวกนี้จะทำงานสำเร็จได้ยังไงใช่มั้ยครับ?”

 

ถึงแม้ตอนนี้จังหวะของเขาจะโดนทำให้แผ่วไป แต่เขาเชื่อมั่นว่ากวนชานจะไม่อาจหาภาพถ่ายจริงๆมาได้แน่

 

หากมีภาพเด็ดจริงๆ พวกที่ไล่กวดหาข่าวราวกับสุนัขป่าหาอาหารคงจะลงภาพพวกนั้นไปนานแล้ว

 

มันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีพยาน หรือไม่ก็ถูกสั่งห้าม

 

เขารู้เรื่องพวกนี้ดี ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะถามหามันทำไมล่ะ?

 

ตราบใดที่เรื่องนี้เป็นสิ่งแน่นอน เขาก็ไม่เชื่อว่ากวนชานจะพลิกฟ้าหามาได้หรอก

 

คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะสามารถเสกมันขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้เนอะ?

 

ในเมื่อไม่ไว้หน้ากันแล้ว กวนซานจึงเลือกที่จะไม่เสวนากับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป เขากล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมว่า

 

“ไม่ว่าผมจะตั้งใจหรือทำงานได้ดีเพียงใด ก็มีแค่ผู้อำนวยการเผิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการประเมินเรื่องนั้นได้ ”

 

“ส่วนคุณ……ประทานโทษนะครับ คุณชอบแอบดื่มชาในห้องตามลำพัง โดยที่ไม่คิดจะเปิดคอมพิวเตอร์เลย ผมว่าคุณไม่น่าจะเห็นว่าผมทำงานยังไงหรอก ถูกมั้ยครับ?”

 

เมื่อเจียงซีหยานได้ยิน เขาก็โกรธมาก “คุณกล้าเหน็บแนมชั้นเหรอ!”

 

กวนซานเหลือบมองเขาด้วยความแปลกใจ: “ไม่ ไม่ ไม่ ไม่แน่นอนครับ”

 

เจียงซีหยานคิดว่าเขาจะยอมถอย สีหน้าของเขาจึงค่อยๆผ่อนคลายลงบ้าง จนกระทั่งได้ยินกวนซานพูดอีกครั้งว่า “ผมแค่บอกความจริง มันจะเรียกว่าเหน็บแนมไปได้ยังไงกันครับ?”

 

เขาแสร้งปิดปากแล้วอุทานเสียงดังว่า “บางทีผมก็คิดว่าคุณน่าทึ่งมากนะ คุณไม่สามารถหาตัวเจอได้ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม คุณดูลึกลับและมีตัวตนผิดธรรมดาซะจริงเชียว”

 

กวนซานกล่าวว่า: “คุณไม่คิดว่ามันช่างเหมือนลมตดเลยเหรอ?”

 

ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานต่างก้มหน้ามองพื้นโดยพลัน ไหล่ของพวกเขาได้สั่นไหวอย่างรุนแรง และเสียง “พรูด” ก็ดังขึ้นทีละคน ราวกับว่าพวกเขากำลังเล่นเสียงสะท้อนกังวานกัน

 

เสินติงฮัวหัวเราะออกมาตรงๆ

 

ทันทีที่เธอเห็นกวนชานเปลี่ยนท่าที เธอก็ไม่กังวลใจอีกต่อไป

 

เวลาเสี่ยวซานคิดจะทำอะไร เมื่อเขาลงมือ เขาก็คงจะคิดถึงผลที่ตามมาและวิธีรับมือไว้เสมอ

 

เช่นนี้แล้ว เธอแค่สนับสนุนเขาและเฝ้ารอก็พอ

 

“คุณ!”

 

เจียงซีหยานเคยถูกต่อว่าในที่สาธารณะซะที่ไหนกัน จมูกของเขาได้ย่นขึ้นและหน้าขึ้นสีอย่างแรง เขาได้ชี้ไปที่กวนซาน พร้อมทั้งหันไปบ่นกับหลี่จือหยิงด้วยความโกรธว่า “ท่านประธาน ดู๊ดูสิครับ ว่านิสัยเขาเป็นยังไง! “

 

“ดูถูกหัวหน้าแบบนี้ ไม่รู้ว่าอนาคตจะกำเริบเสิบสานขนาดไหนกัน! คนพรรณนี้ไม่ควรเก็บไว้เลยครับ!”

 

กวนซานเหยียดยิ้มมุมปากและหัวเราะออกมา “ดูถูกงั้นเรอะ?”

 

“แม้คุณจะไม่รู้ถึงคุณภาพงานตามปกติของผม แต่ผมไม่เคยขาดงานเลยตั้งแต่เริ่มทำงานที่นี่ งานที่ต้องทำในแต่ละวันก็เสร็จแน่นอนแม้ว่าผมต้องทำงานถึงเที่ยงคืน สิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ทันทีเพียงแค่ตรวจสอบบันทึก”

 

“แต่เมื่อคุณพูดถึงผม ผมกลับเป็น ‘คนไร้ค่า ไม่มีความสามารถ ไม่เคยตั้งใจทำงานและเนื้องานก็ไม่ได้เรื่อง!”

 

ดวงตาของเขาตอนนี้แทบลุกเป็นไฟเลยทีเดียว

 

“ใครกันแน่ที่ดูถูก!”

 

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะทะเลาะกันอีก หน้าผากของเผิงเฟยก็มีเหงื่อซึมออกมา และเขามองไปมาด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

 

ถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีทางไกล่เกลี่ยได้แน่…

 

เฮ้อ

 

เผิงเฟยลอบถอนหายใจ เขานั้นให้ความคาดหวังต่อกวนชานมาก เพราะชายหนุ่มคนนี้สู้งานหนักและมีทัศนคติที่ดี อีกทั้งเขายังรู้หลักการอดทนกล้ำกลืนอีกด้วย

 

แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไร เขาดูเหมือนจะไม่สนใจหน้าที่การงานในอนาคตอีกแล้ว

 

‘ตอนนี้ พวกเราได้แต่ภาวนาให้ประธานทำอะไรสักอย่าง!’

 

“ตึก ตึก ตึก!”

 

หลื่จือหยิงทำบางอย่างจริงๆ เธอได้เคาะโต๊ะด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเธอ และพูดเสียงขรึมว่า “เงียบซะ พวกคุณคิดว่าอยู่ที่ไหนกัน?”

 

เจียงซีหยานโมโหกวนซานมากจนปอดของเขาแทบจะระเบิด เขาชี้ไปที่กวนซานและกำลังจะกระหน่ำด่าเสียงดัง แต่ดันถูกหลี่จือหยิงขัดจังหวะซึ่งทำให้เขาสำลักลมหายใจจนตาแทบถลน

 

คุณพูดตอนไหนก็ได้ แต่ทำไมต้องเลือกเวลานี้ห๊า!

 

เจ้าเด็กเวรพูดจบแล้ว แต่เขาดันไม่มีโอกาสได้โต้กลับ เขาทำได้เพียงแค่นเสียงเย็นชาแล้วชี้นิ้วไปที่กวนซานอย่างโมโห

 

จริงๆแล้ว หลังจากฟังคำพูดโต้เถียงของทั้งสองคนไปมา หลี่จือหยิงก็พอเข้าใจบ้างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

นิสัยและระดับความสามารถของเจียงซีหยาน หลี่จือหยิงย่อมรู้ดี

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ เหตุผลที่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ สาเหตุหลักก็เป็นเพราะพ่อของอีกฝ่ายมีชื่อเสียงในแวดวงหนังสือพิมพ์อยู่บ้าง

 

บวกกับมิตรภาพระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ หลี่จือหยิงจึงหาตำแหน่งงานให้

 

มีความเป็นไปได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือเจียงซีหยานกำลังหาเรื่อง

 

ช่วงเวลานี้ เธอได้มองดูกวนชานด้วยความรู้สึกผิดคาด

 

นักข่าวตัวน้อยคนนี้ ที่เพิ่งเปลี่ยนจากเด็กฝึกงานมาเป็นพนักงานประจำ ค่อนข้างก้าวร้าวทีเดียว… แต่ว่า การกระทำของเจียงซีหยานนั้นก็เกินไปอยู่

 

อันที่จริง เรายังหาวิธีกำราบเขาไม่ได้กัน

 

กวนซาน…จึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดี

 

แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขามีความสามารถพอรึเปล่า

 

หลี่จือหยิงครุ่นคิดอยู่แป๊ปนึง จากนั้นก็มองไปยังกวนซานและกล่าวว่า “คุณบอกว่าคุณสามารถหารูปถ่ายที่เกิดเหตุไฟไหม้ได้ใช่มั้ย?”

 

กวนซานพยักหน้า

 

หัวใจของเจียงซีหยานได้เต้นแรง นี่เป็นการปกป้องกวนซานชัดๆ!

 

ถ้าวันนี้ไอ้เด็กนี้รอด เขาต้องเสียหน้าโดยสิ้นเชิงแน่!

 

เจียงซีหยานอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบกล่าวว่า “เขาพูดเหลวไหลทั้งเพครับ แหล่งข่าวอื่นๆเค้าก็ไม่มีกัน แล้วนักข่าวตัวน้อยๆคนนึง จะมีปัญญาหามาจากไหนกันครับ?”

 

หลี่จือหยิงเพ่งมองเขาและตำหนิออกมา “พวกเรา ในฐานะคนของสื่อต้องพูดด้วยพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริง คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่มีความสามารถพอ?”

 

นี่เป็นคำพูดแนวเดียวกับที่กวนซานเหน็บแนมเขาเลย!

 

แต่คราวนี้ ฝ่ายตรงข้ามคือเจ้านายของเขาซะงั้น…

 

เจียงซีหยานจะพูดอะไรได้อีก ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่หุบปากอย่างโกรธเคืองและทำหน้าดำคร่ำเครียด

 

หลื่จือหยิงมองไปยังกวนซานแล้วพูดว่า

 

“ในวันส่งเสริมการป้องกันอัคคีภัยที่จะถึงนี้ ฉันกำลังจะเขียนสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัย หากคุณได้ภาพถ่ายจริงๆ ฉันจะรวมไว้ในตัวอย่างอัคคีภัยล่าสุด อีกทั้งคุณและเผิงเฟยจะได้ร่วมกันทำเนื้อหาสกู๊ปด้วย”

 

เธอหรี่ตาลง สายตาเธอได้เปลี่ยนไปเป็นเฉียบคมและกล่าวว่า  “แต่ถ้าคุณโกหก…”

 

กวนซานเหลือบมองเจียงซีหยาน และกล่าวอย่างขึงขังว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะลาออกเองครับ”

 

“ดีมาก”

 

หลี่จือหยิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ความรวดเร็วมีความสำคัญต่อข่าว ดังนั้นฉันจะให้เวลาคุณแค่วันเดียวเท่านั้น”

 

เรื่องราวได้ยุติลงในที่สุด

 

เจียงซีหยานได้กังวลขึ้นเมื่อหลี่จือหยิงบอกว่ากวนซานจะได้รับผิดชอบสกู๊ปพิเศษ แต่พอเขาคิดดูดีๆ กวนซานไม่น่าหารูปมาได้หรอก!

 

คลื่นนี้จะเป็นความตายของเขาเอง!

 

อ๊ะ นิ่งไว้นิ่งไว้!

 

เมื่อคิดได้ เจียงซีหยานก็ไม่วิตกกังวลอีกต่อไป เขามองไปรอบๆพร้อมกับแค่นเสียงเย็นชา และกลับไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อจิบชาต่อ

 

ยามที่เขานึกถึงชะตากรรมและการลาออกของกวนชาน เขาก็รู้สึกว่าชาเหมือนจะหวานขึ้นเล็กน้อยแฮะ

 

“เพดานก็ด้วย ที่ชั้นต้องหาคนมาจัดการกับมัน…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! 8 กวนซานผู้มีไหวพริบและสุภาพ

Now you are reading [นิยายแปล] I’m Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! Chapter 8 กวนซานผู้มีไหวพริบและสุภาพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเห็นท่านประธาน ทุกคนก็ต่างตกใจ

 

ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวเผิงเฟยก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและอธิบายว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรครับ ก็แค่เรื่องเกี่ยวกับไฟไหม้เมื่อคืนนี้ พี่เจียงเขาถามว่ามีใครคนไหนได้ภาพเด็ดบ้างก็เท่านั้นเอง”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาพูดแบบนี้เพื่อกวนชาน

 

เขาเปลี่ยนจาก “การถามแค่คนเดียว” เป็น “การถามทุกคน”

 

ในกรณีนี้ หากหลี่จือหยิงไม่ถามต่อ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปเป็นอย่างหลัง

 

เจียงซีหยานไม่กล้าใช้ประโยชน์จากประธานในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมถอยหลังให้

 

และเรื่องราวก็จะจบลงด้วยดี

 

อย่าเห็นว่าใบหน้าของผอ.เผิงนั้นดูซื่อสัตย์ แต่แท้จริงแล้วเขาเจ้าเล่ห์กว่าเจียงซีหยานซะอีก

 

น่าเสียดาย ที่หลี่จือหยิงไม่ได้ตั้งใจจะยอมรับข้อโต้แย้งนั้น

 

เธอมองไปรอบๆ และหยุดนิ่งที่เสินติงฮัวซึ่งกำลังยืนอยู่อย่างโมโหสักพัก และมองไปที่กวนซานกับเจียงซีหยาน ซึ่งบรรยากาศยังคงมีเค้าลางของความขัดแย้งอยู่

 

เธอพอเข้าใจคร่าวๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“แค่เรื่องพรรณนี้ คงไม่จำเป็นต้องเรียกเข้าไปซักถามรายตัวหรอกจริงมั้ย?”

 

หลี่จือหยิงเดินไปหาเจียงซีหยาน เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอได้ดังกังวานออกมา และแรงกดดันที่ไม่อาจมองเห็นก็ได้ถูกแผ่ออกมาจากนัยน์ตาเธอ

 

เจียงซีหยานรีบปั้นหน้าเป็นงานเป็นการทันที และกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า

 

“ผมก็แค่สั่งสอนพวกคนหนุ่มสาวที่ไม่หวังความก้าวหน้าน่ะครับ พวกเขาไม่จริงจังในการทำงานเอาซะเลยและก็ชอบพูดเถียงกลับ คนจำพวกนี้จะทำงานสำเร็จได้ยังไงใช่มั้ยครับ?”

 

ถึงแม้ตอนนี้จังหวะของเขาจะโดนทำให้แผ่วไป แต่เขาเชื่อมั่นว่ากวนชานจะไม่อาจหาภาพถ่ายจริงๆมาได้แน่

 

หากมีภาพเด็ดจริงๆ พวกที่ไล่กวดหาข่าวราวกับสุนัขป่าหาอาหารคงจะลงภาพพวกนั้นไปนานแล้ว

 

มันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีพยาน หรือไม่ก็ถูกสั่งห้าม

 

เขารู้เรื่องพวกนี้ดี ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะถามหามันทำไมล่ะ?

 

ตราบใดที่เรื่องนี้เป็นสิ่งแน่นอน เขาก็ไม่เชื่อว่ากวนชานจะพลิกฟ้าหามาได้หรอก

 

คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะสามารถเสกมันขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้เนอะ?

 

ในเมื่อไม่ไว้หน้ากันแล้ว กวนซานจึงเลือกที่จะไม่เสวนากับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป เขากล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมว่า

 

“ไม่ว่าผมจะตั้งใจหรือทำงานได้ดีเพียงใด ก็มีแค่ผู้อำนวยการเผิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการประเมินเรื่องนั้นได้ ”

 

“ส่วนคุณ……ประทานโทษนะครับ คุณชอบแอบดื่มชาในห้องตามลำพัง โดยที่ไม่คิดจะเปิดคอมพิวเตอร์เลย ผมว่าคุณไม่น่าจะเห็นว่าผมทำงานยังไงหรอก ถูกมั้ยครับ?”

 

เมื่อเจียงซีหยานได้ยิน เขาก็โกรธมาก “คุณกล้าเหน็บแนมชั้นเหรอ!”

 

กวนซานเหลือบมองเขาด้วยความแปลกใจ: “ไม่ ไม่ ไม่ ไม่แน่นอนครับ”

 

เจียงซีหยานคิดว่าเขาจะยอมถอย สีหน้าของเขาจึงค่อยๆผ่อนคลายลงบ้าง จนกระทั่งได้ยินกวนซานพูดอีกครั้งว่า “ผมแค่บอกความจริง มันจะเรียกว่าเหน็บแนมไปได้ยังไงกันครับ?”

 

เขาแสร้งปิดปากแล้วอุทานเสียงดังว่า “บางทีผมก็คิดว่าคุณน่าทึ่งมากนะ คุณไม่สามารถหาตัวเจอได้ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม คุณดูลึกลับและมีตัวตนผิดธรรมดาซะจริงเชียว”

 

กวนซานกล่าวว่า: “คุณไม่คิดว่ามันช่างเหมือนลมตดเลยเหรอ?”

 

ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานต่างก้มหน้ามองพื้นโดยพลัน ไหล่ของพวกเขาได้สั่นไหวอย่างรุนแรง และเสียง “พรูด” ก็ดังขึ้นทีละคน ราวกับว่าพวกเขากำลังเล่นเสียงสะท้อนกังวานกัน

 

เสินติงฮัวหัวเราะออกมาตรงๆ

 

ทันทีที่เธอเห็นกวนชานเปลี่ยนท่าที เธอก็ไม่กังวลใจอีกต่อไป

 

เวลาเสี่ยวซานคิดจะทำอะไร เมื่อเขาลงมือ เขาก็คงจะคิดถึงผลที่ตามมาและวิธีรับมือไว้เสมอ

 

เช่นนี้แล้ว เธอแค่สนับสนุนเขาและเฝ้ารอก็พอ

 

“คุณ!”

 

เจียงซีหยานเคยถูกต่อว่าในที่สาธารณะซะที่ไหนกัน จมูกของเขาได้ย่นขึ้นและหน้าขึ้นสีอย่างแรง เขาได้ชี้ไปที่กวนซาน พร้อมทั้งหันไปบ่นกับหลี่จือหยิงด้วยความโกรธว่า “ท่านประธาน ดู๊ดูสิครับ ว่านิสัยเขาเป็นยังไง! “

 

“ดูถูกหัวหน้าแบบนี้ ไม่รู้ว่าอนาคตจะกำเริบเสิบสานขนาดไหนกัน! คนพรรณนี้ไม่ควรเก็บไว้เลยครับ!”

 

กวนซานเหยียดยิ้มมุมปากและหัวเราะออกมา “ดูถูกงั้นเรอะ?”

 

“แม้คุณจะไม่รู้ถึงคุณภาพงานตามปกติของผม แต่ผมไม่เคยขาดงานเลยตั้งแต่เริ่มทำงานที่นี่ งานที่ต้องทำในแต่ละวันก็เสร็จแน่นอนแม้ว่าผมต้องทำงานถึงเที่ยงคืน สิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ทันทีเพียงแค่ตรวจสอบบันทึก”

 

“แต่เมื่อคุณพูดถึงผม ผมกลับเป็น ‘คนไร้ค่า ไม่มีความสามารถ ไม่เคยตั้งใจทำงานและเนื้องานก็ไม่ได้เรื่อง!”

 

ดวงตาของเขาตอนนี้แทบลุกเป็นไฟเลยทีเดียว

 

“ใครกันแน่ที่ดูถูก!”

 

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะทะเลาะกันอีก หน้าผากของเผิงเฟยก็มีเหงื่อซึมออกมา และเขามองไปมาด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

 

ถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีทางไกล่เกลี่ยได้แน่…

 

เฮ้อ

 

เผิงเฟยลอบถอนหายใจ เขานั้นให้ความคาดหวังต่อกวนชานมาก เพราะชายหนุ่มคนนี้สู้งานหนักและมีทัศนคติที่ดี อีกทั้งเขายังรู้หลักการอดทนกล้ำกลืนอีกด้วย

 

แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไร เขาดูเหมือนจะไม่สนใจหน้าที่การงานในอนาคตอีกแล้ว

 

‘ตอนนี้ พวกเราได้แต่ภาวนาให้ประธานทำอะไรสักอย่าง!’

 

“ตึก ตึก ตึก!”

 

หลื่จือหยิงทำบางอย่างจริงๆ เธอได้เคาะโต๊ะด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเธอ และพูดเสียงขรึมว่า “เงียบซะ พวกคุณคิดว่าอยู่ที่ไหนกัน?”

 

เจียงซีหยานโมโหกวนซานมากจนปอดของเขาแทบจะระเบิด เขาชี้ไปที่กวนซานและกำลังจะกระหน่ำด่าเสียงดัง แต่ดันถูกหลี่จือหยิงขัดจังหวะซึ่งทำให้เขาสำลักลมหายใจจนตาแทบถลน

 

คุณพูดตอนไหนก็ได้ แต่ทำไมต้องเลือกเวลานี้ห๊า!

 

เจ้าเด็กเวรพูดจบแล้ว แต่เขาดันไม่มีโอกาสได้โต้กลับ เขาทำได้เพียงแค่นเสียงเย็นชาแล้วชี้นิ้วไปที่กวนซานอย่างโมโห

 

จริงๆแล้ว หลังจากฟังคำพูดโต้เถียงของทั้งสองคนไปมา หลี่จือหยิงก็พอเข้าใจบ้างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

นิสัยและระดับความสามารถของเจียงซีหยาน หลี่จือหยิงย่อมรู้ดี

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ เหตุผลที่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ สาเหตุหลักก็เป็นเพราะพ่อของอีกฝ่ายมีชื่อเสียงในแวดวงหนังสือพิมพ์อยู่บ้าง

 

บวกกับมิตรภาพระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ หลี่จือหยิงจึงหาตำแหน่งงานให้

 

มีความเป็นไปได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือเจียงซีหยานกำลังหาเรื่อง

 

ช่วงเวลานี้ เธอได้มองดูกวนชานด้วยความรู้สึกผิดคาด

 

นักข่าวตัวน้อยคนนี้ ที่เพิ่งเปลี่ยนจากเด็กฝึกงานมาเป็นพนักงานประจำ ค่อนข้างก้าวร้าวทีเดียว… แต่ว่า การกระทำของเจียงซีหยานนั้นก็เกินไปอยู่

 

อันที่จริง เรายังหาวิธีกำราบเขาไม่ได้กัน

 

กวนซาน…จึงอาจเป็นตัวเลือกที่ดี

 

แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขามีความสามารถพอรึเปล่า

 

หลี่จือหยิงครุ่นคิดอยู่แป๊ปนึง จากนั้นก็มองไปยังกวนซานและกล่าวว่า “คุณบอกว่าคุณสามารถหารูปถ่ายที่เกิดเหตุไฟไหม้ได้ใช่มั้ย?”

 

กวนซานพยักหน้า

 

หัวใจของเจียงซีหยานได้เต้นแรง นี่เป็นการปกป้องกวนซานชัดๆ!

 

ถ้าวันนี้ไอ้เด็กนี้รอด เขาต้องเสียหน้าโดยสิ้นเชิงแน่!

 

เจียงซีหยานอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบกล่าวว่า “เขาพูดเหลวไหลทั้งเพครับ แหล่งข่าวอื่นๆเค้าก็ไม่มีกัน แล้วนักข่าวตัวน้อยๆคนนึง จะมีปัญญาหามาจากไหนกันครับ?”

 

หลี่จือหยิงเพ่งมองเขาและตำหนิออกมา “พวกเรา ในฐานะคนของสื่อต้องพูดด้วยพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริง คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่มีความสามารถพอ?”

 

นี่เป็นคำพูดแนวเดียวกับที่กวนซานเหน็บแนมเขาเลย!

 

แต่คราวนี้ ฝ่ายตรงข้ามคือเจ้านายของเขาซะงั้น…

 

เจียงซีหยานจะพูดอะไรได้อีก ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่หุบปากอย่างโกรธเคืองและทำหน้าดำคร่ำเครียด

 

หลื่จือหยิงมองไปยังกวนซานแล้วพูดว่า

 

“ในวันส่งเสริมการป้องกันอัคคีภัยที่จะถึงนี้ ฉันกำลังจะเขียนสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัย หากคุณได้ภาพถ่ายจริงๆ ฉันจะรวมไว้ในตัวอย่างอัคคีภัยล่าสุด อีกทั้งคุณและเผิงเฟยจะได้ร่วมกันทำเนื้อหาสกู๊ปด้วย”

 

เธอหรี่ตาลง สายตาเธอได้เปลี่ยนไปเป็นเฉียบคมและกล่าวว่า  “แต่ถ้าคุณโกหก…”

 

กวนซานเหลือบมองเจียงซีหยาน และกล่าวอย่างขึงขังว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะลาออกเองครับ”

 

“ดีมาก”

 

หลี่จือหยิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ความรวดเร็วมีความสำคัญต่อข่าว ดังนั้นฉันจะให้เวลาคุณแค่วันเดียวเท่านั้น”

 

เรื่องราวได้ยุติลงในที่สุด

 

เจียงซีหยานได้กังวลขึ้นเมื่อหลี่จือหยิงบอกว่ากวนซานจะได้รับผิดชอบสกู๊ปพิเศษ แต่พอเขาคิดดูดีๆ กวนซานไม่น่าหารูปมาได้หรอก!

 

คลื่นนี้จะเป็นความตายของเขาเอง!

 

อ๊ะ นิ่งไว้นิ่งไว้!

 

เมื่อคิดได้ เจียงซีหยานก็ไม่วิตกกังวลอีกต่อไป เขามองไปรอบๆพร้อมกับแค่นเสียงเย็นชา และกลับไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อจิบชาต่อ

 

ยามที่เขานึกถึงชะตากรรมและการลาออกของกวนชาน เขาก็รู้สึกว่าชาเหมือนจะหวานขึ้นเล็กน้อยแฮะ

 

“เพดานก็ด้วย ที่ชั้นต้องหาคนมาจัดการกับมัน…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+