[นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta 11: ต่อรอง

Now you are reading [นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta Chapter 11: ต่อรอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 11 – ต่อรอง

 

ระหว่างพักกลางวัน ผมนั่งรอนิชิคาวะทานอาหารเสร็จเรียบร้อย จากนั้นผมกับฟูจิซากิก็เริ่มภารกิจเสี่ยงตาย

 

“ขอคุยด้วยหน่อยได้เปล่า นิชิคาวะซัง”

 

พอฟูจิซากิเรียก นิชิคาวะก็ตกใจเกินเหตุ

 

“วะ! ว่าไง! เธอทำให้ฉันตกใจนะ!”

 

ขณะพูดอย่างนั้น เธอตกใจเหมือนตัวละครในมังงะโดยยกมือสองข้างขึ้น

นิชิคาวะ คาอาเดะ หญิงสาวที่โด่งดังที่สุดในชั้นเรียนและเป็นเพื่อนคนเดียวของเอนามิซัง

เส้นผมเป็นลอน ติดขนตาปลอม ใส่คอนแทคเลนส์สีอ่อนและแต่งตัวฉูดฉาด ถ้าเดินไปไหนมาไหนในชุดธรรมดา คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะเป็นสาวมัธยมปลาย

 

“ไม่ใช่แค่ชิโอะจัง แต่นาโอจิด้วยเหรอ ว่าไงๆ? หัวหน้าระดับชั้นทั้งสอง”

 

เธอเบิกตาโพลงและเอาหน้ามาใกล้ผม ผมจึงกล่าวออกไป

 

“มีเรื่องจะขอร้องนิชิคาวะหน่อยน่ะ พอมีเวลาสักนาทีสองนาทีมากับเราได้ไหม?”

“เห….นาโอจิขอมาทั้งที? ได้สิๆ จะคุยที่ไหนล่ะ?”

“แถวจุดพักบันไดน่ะ ตรงหน้าทางเข้าดาดฟ้าไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่”

“ได้เลย”

 

นิชิคาวะเป็นคนชิวๆ และชอบช่วยคนอื่น พวกเราย้ายไปตรงจุดพักบันไดหน้าทางเข้าดาดฟ้า ความวุ่นวายคึกคักของคาบพักลางวันจึงเบาบางเล็กน้อย

 

“คงเป็นเรื่องริสะจังใช่มะ?”

 

นิชิคาวะถามทันทีเมื่อไปถึง คิดไว้แล้วว่าเธอต้องสังเกต

 

“แน่อยู่แล้ว มีเรื่องอยากให้ช่วยเกี่ยวกับเอนามิซังหน่อยน่ะ”

“หืม? ฉันโดนอาจารย์เรียกมาก่อนแล้วนะ และความรู้สึกนี้มันอะไรกันเนี่ย นั่นน่าจะเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากถามริสะจังว่าทำไมถึงมาสายหรือโน้มน้ามใจให้เปลี่ยนทัศนคติหรอกนะ”

 

ตามที่คาดไว้ สัญชาตญาณของเธอช่างเฉียบคม ถ้าจำไม่ผิด เธอมักจะทำคะแนนสอบได้เลขหลักเดียวล่ะมั้ง

ฟูจิซากิพยักหน้าหงึกๆ

 

“ได้ยินจากอาจารย์แล้วล่ะว่านิชิคาวะซังไม่รับคำขอไว้ ก็จริงที่อาจารย์อยากให้ดูแลเอนามิซัง แต่นี่ไม่ได้มาคุยเพื่อหาต้นตอว่าทำไมเอนามิซังถึงมาสายหรืออยากโน้มน้าวเธอหรอกนะ”

“งั้นเหรอ ค่อยโล่งอกหน่อย!”

 

ถึงจะสายไป แต่ก็ยังดีที่บอกให้เธอรู้ว่าพวกเราเองก็รู้เรื่องที่เธอปฏิเสธคำขอจากอาจารย์ ไม่อย่างนั้นคงถูกปฏิเสธโดยไม่ได้คิดอะไรแน่ๆ

 

“ไม่ใช่แค่อาจารย์ที่ขอให้ทำนะ แต่ฉันอยากทำความรู้จักกับเอนามิซังสักครั้งเพราะเราอยู่ห้องเดียวกันไงล่ะ”

“อ้อ จำได้ละ ตอนเทอมแรก เธอเองก็คุยกับริสะจังตั้งหลายครั้งใช่มะ? แต่ก็ถูกขับไล่อย่างเย็นชาสินะ”

“อื้ม….”

 

หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าฟูจิซากิเคยเข้าไปคุยกับเอนามิซังตั้งหลายครั้ง เธอก็มีเพื่อนกว้างขวางเช่นกันและอาจจะสนใจในตัวเอนามิซัง แม้จะพบกันที่ห้างด้วย

ฟูจิซากิพูดต่อ

 

“นอกจากนี้ ที่จริงแล้ว คะแนนของเอนามิซังออกมาไม่ค่อยดีใช่ไหม? เลยคิดว่าคงจะเป็นเรื่องดีถ้าให้เราช่วยติวหนังสือกันน่ะ”

“ติวหนังสือเหรอ”

“ก็สอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้วสิ”

 

นิชิคาวะครุ่นคิด เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวสำหรับฝ่ายเขาฝ่ายเรา อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้ว่าทำไมนิชิคาวะถึงไม่ให้ความร่วมมือแก่เอนามิซัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะยอมรับข้อเสนอของเรารึเปล่า

 

“แน่นอน คงจะช่วยได้มากถ้านิชิคาวะร่วมมือกับเราตอนติวนะ แล้วเราสามคนเรียนเก่งด้วย ก็เลยคิดว่าจะได้ดูแลเอนามิซังแบบสบายๆ กลุ่มติวมีไว้เพื่อสร้างมิตรภาพแน่นแฟ้นขึ้น ดังนั้นที่บอกไปก่อนหน้านี้ไม่ได้ตั้งใจจะบังคับหรอกนะ”

“อย่างงี้นี่เอง….นั่นสินะ ฉันก็ไม่ติดขัดอะไรด้วย”

 

เธอตอบราวกับลังเลอยู่

 

“เรื่องที่ขอคืออยากให้ฉันต่อรองกับริสะจังใช่ไหม? แม้ว่าจะขอแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าริสะจังจะทำตามนะ ถ้าไม่ว่าอะไร เดิ๋ยวฉันไปถามให้”

“ขอบคุณนะ ช่วยได้เยอะเลย”

 

พวกเราตกลงกันเรียนร้อย ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว

 

“แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง”

“เอ๊ะ?”

 

นิชิคาวะยกหางตาและมองมาทางเราอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ก็นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าฉันทำตามที่เธอขอแล้ว ทำไมจะฟังคำขอฉันไม่ได้ล่ะ?”

“อา อื้ม นั่นสินะ”

 

ผมว่าเธอน่าจะอยากให้ซื้อพวกอาหารหรืออาจยืมสมุดจดก็ได้ ถ้าแบบนั้นไม่มีปัญหา ผมให้นิชิคาวะยืมสมุดจดตั้งหลายครั้ง บันทึกของผมน่าจะอ่านเข้าใจง่ายและมักจะขอให้ลอกบ้าง

 

“ฉันจะทำให้ดีที่สุดถ้าทำได้นะ ไม่อยากให้นิชิคาวะรู้สึกกดดันอยู่คนเดียว แล้วคืออะไรล่ะ? เงื่อนไข….”

 

ดูเหมือนฟูจิซากิไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงื่อนไขอะไร เมื่อนิชิคาวะได้รับคำขอให้ทำอะไร เธอมักจะเห็นด้วยทันที ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงโด่งดังในชั้นเรียน

จากนั้นนิชิคาวะกล่าวว่า

 

“ถ้าจะติวหนังสือกับริสะจังล่ะก็ ฉันมั่นใจว่าริสะจังต้องทำอะไรสักอย่างให้หัวหน้าระดับชั้นขัดใจแน่ ช่วยอย่าโกรธถ้าทำอย่างนั้นทีนะ”

“เอ๊ะ? แค่นั้นเองเหรอ?”

 

แปลกแฮะ ผมคาดหวังกับคำขอนิชิคาวะมากไปซะเอง

 

“อื้ม แค่นั้นแหละ เป็นเหตุผลที่ฉันบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

 

นั่นสินะ เราแค่เข้าใจผิดเอง

 

“ก็ได้ ฉันจะไม่โกรธนะ”

“ฉันก็ด้วย”

 

พวกเราตอบรับทันที แต่นิชิคาวะยังย้ำอีกครั้งในตอนท้าย

 

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร….แต่มันค่อนข้างยากที่จะทำอย่างนั้นนะ จำไว้ด้วย”

 

นั่นฟังดูมีความหมายแฝงแฮะ

――――――――――――――――――――――――――――――

สามารถติดตามการอัพเดตได้ทางเพจ : Launchmind

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta 11: ต่อรอง

Now you are reading [นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta Chapter 11: ต่อรอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 11 – ต่อรอง

 

ระหว่างพักกลางวัน ผมนั่งรอนิชิคาวะทานอาหารเสร็จเรียบร้อย จากนั้นผมกับฟูจิซากิก็เริ่มภารกิจเสี่ยงตาย

 

“ขอคุยด้วยหน่อยได้เปล่า นิชิคาวะซัง”

 

พอฟูจิซากิเรียก นิชิคาวะก็ตกใจเกินเหตุ

 

“วะ! ว่าไง! เธอทำให้ฉันตกใจนะ!”

 

ขณะพูดอย่างนั้น เธอตกใจเหมือนตัวละครในมังงะโดยยกมือสองข้างขึ้น

นิชิคาวะ คาอาเดะ หญิงสาวที่โด่งดังที่สุดในชั้นเรียนและเป็นเพื่อนคนเดียวของเอนามิซัง

เส้นผมเป็นลอน ติดขนตาปลอม ใส่คอนแทคเลนส์สีอ่อนและแต่งตัวฉูดฉาด ถ้าเดินไปไหนมาไหนในชุดธรรมดา คงไม่มีใครคิดหรอกว่าจะเป็นสาวมัธยมปลาย

 

“ไม่ใช่แค่ชิโอะจัง แต่นาโอจิด้วยเหรอ ว่าไงๆ? หัวหน้าระดับชั้นทั้งสอง”

 

เธอเบิกตาโพลงและเอาหน้ามาใกล้ผม ผมจึงกล่าวออกไป

 

“มีเรื่องจะขอร้องนิชิคาวะหน่อยน่ะ พอมีเวลาสักนาทีสองนาทีมากับเราได้ไหม?”

“เห….นาโอจิขอมาทั้งที? ได้สิๆ จะคุยที่ไหนล่ะ?”

“แถวจุดพักบันไดน่ะ ตรงหน้าทางเข้าดาดฟ้าไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่”

“ได้เลย”

 

นิชิคาวะเป็นคนชิวๆ และชอบช่วยคนอื่น พวกเราย้ายไปตรงจุดพักบันไดหน้าทางเข้าดาดฟ้า ความวุ่นวายคึกคักของคาบพักลางวันจึงเบาบางเล็กน้อย

 

“คงเป็นเรื่องริสะจังใช่มะ?”

 

นิชิคาวะถามทันทีเมื่อไปถึง คิดไว้แล้วว่าเธอต้องสังเกต

 

“แน่อยู่แล้ว มีเรื่องอยากให้ช่วยเกี่ยวกับเอนามิซังหน่อยน่ะ”

“หืม? ฉันโดนอาจารย์เรียกมาก่อนแล้วนะ และความรู้สึกนี้มันอะไรกันเนี่ย นั่นน่าจะเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากถามริสะจังว่าทำไมถึงมาสายหรือโน้มน้ามใจให้เปลี่ยนทัศนคติหรอกนะ”

 

ตามที่คาดไว้ สัญชาตญาณของเธอช่างเฉียบคม ถ้าจำไม่ผิด เธอมักจะทำคะแนนสอบได้เลขหลักเดียวล่ะมั้ง

ฟูจิซากิพยักหน้าหงึกๆ

 

“ได้ยินจากอาจารย์แล้วล่ะว่านิชิคาวะซังไม่รับคำขอไว้ ก็จริงที่อาจารย์อยากให้ดูแลเอนามิซัง แต่นี่ไม่ได้มาคุยเพื่อหาต้นตอว่าทำไมเอนามิซังถึงมาสายหรืออยากโน้มน้าวเธอหรอกนะ”

“งั้นเหรอ ค่อยโล่งอกหน่อย!”

 

ถึงจะสายไป แต่ก็ยังดีที่บอกให้เธอรู้ว่าพวกเราเองก็รู้เรื่องที่เธอปฏิเสธคำขอจากอาจารย์ ไม่อย่างนั้นคงถูกปฏิเสธโดยไม่ได้คิดอะไรแน่ๆ

 

“ไม่ใช่แค่อาจารย์ที่ขอให้ทำนะ แต่ฉันอยากทำความรู้จักกับเอนามิซังสักครั้งเพราะเราอยู่ห้องเดียวกันไงล่ะ”

“อ้อ จำได้ละ ตอนเทอมแรก เธอเองก็คุยกับริสะจังตั้งหลายครั้งใช่มะ? แต่ก็ถูกขับไล่อย่างเย็นชาสินะ”

“อื้ม….”

 

หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าฟูจิซากิเคยเข้าไปคุยกับเอนามิซังตั้งหลายครั้ง เธอก็มีเพื่อนกว้างขวางเช่นกันและอาจจะสนใจในตัวเอนามิซัง แม้จะพบกันที่ห้างด้วย

ฟูจิซากิพูดต่อ

 

“นอกจากนี้ ที่จริงแล้ว คะแนนของเอนามิซังออกมาไม่ค่อยดีใช่ไหม? เลยคิดว่าคงจะเป็นเรื่องดีถ้าให้เราช่วยติวหนังสือกันน่ะ”

“ติวหนังสือเหรอ”

“ก็สอบกลางภาคใกล้เข้ามาแล้วสิ”

 

นิชิคาวะครุ่นคิด เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวสำหรับฝ่ายเขาฝ่ายเรา อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้ว่าทำไมนิชิคาวะถึงไม่ให้ความร่วมมือแก่เอนามิซัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะยอมรับข้อเสนอของเรารึเปล่า

 

“แน่นอน คงจะช่วยได้มากถ้านิชิคาวะร่วมมือกับเราตอนติวนะ แล้วเราสามคนเรียนเก่งด้วย ก็เลยคิดว่าจะได้ดูแลเอนามิซังแบบสบายๆ กลุ่มติวมีไว้เพื่อสร้างมิตรภาพแน่นแฟ้นขึ้น ดังนั้นที่บอกไปก่อนหน้านี้ไม่ได้ตั้งใจจะบังคับหรอกนะ”

“อย่างงี้นี่เอง….นั่นสินะ ฉันก็ไม่ติดขัดอะไรด้วย”

 

เธอตอบราวกับลังเลอยู่

 

“เรื่องที่ขอคืออยากให้ฉันต่อรองกับริสะจังใช่ไหม? แม้ว่าจะขอแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าริสะจังจะทำตามนะ ถ้าไม่ว่าอะไร เดิ๋ยวฉันไปถามให้”

“ขอบคุณนะ ช่วยได้เยอะเลย”

 

พวกเราตกลงกันเรียนร้อย ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็คงไม่มีทางเลือกแล้ว

 

“แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง”

“เอ๊ะ?”

 

นิชิคาวะยกหางตาและมองมาทางเราอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ก็นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะว่าฉันทำตามที่เธอขอแล้ว ทำไมจะฟังคำขอฉันไม่ได้ล่ะ?”

“อา อื้ม นั่นสินะ”

 

ผมว่าเธอน่าจะอยากให้ซื้อพวกอาหารหรืออาจยืมสมุดจดก็ได้ ถ้าแบบนั้นไม่มีปัญหา ผมให้นิชิคาวะยืมสมุดจดตั้งหลายครั้ง บันทึกของผมน่าจะอ่านเข้าใจง่ายและมักจะขอให้ลอกบ้าง

 

“ฉันจะทำให้ดีที่สุดถ้าทำได้นะ ไม่อยากให้นิชิคาวะรู้สึกกดดันอยู่คนเดียว แล้วคืออะไรล่ะ? เงื่อนไข….”

 

ดูเหมือนฟูจิซากิไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงื่อนไขอะไร เมื่อนิชิคาวะได้รับคำขอให้ทำอะไร เธอมักจะเห็นด้วยทันที ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงโด่งดังในชั้นเรียน

จากนั้นนิชิคาวะกล่าวว่า

 

“ถ้าจะติวหนังสือกับริสะจังล่ะก็ ฉันมั่นใจว่าริสะจังต้องทำอะไรสักอย่างให้หัวหน้าระดับชั้นขัดใจแน่ ช่วยอย่าโกรธถ้าทำอย่างนั้นทีนะ”

“เอ๊ะ? แค่นั้นเองเหรอ?”

 

แปลกแฮะ ผมคาดหวังกับคำขอนิชิคาวะมากไปซะเอง

 

“อื้ม แค่นั้นแหละ เป็นเหตุผลที่ฉันบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

 

นั่นสินะ เราแค่เข้าใจผิดเอง

 

“ก็ได้ ฉันจะไม่โกรธนะ”

“ฉันก็ด้วย”

 

พวกเราตอบรับทันที แต่นิชิคาวะยังย้ำอีกครั้งในตอนท้าย

 

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร….แต่มันค่อนข้างยากที่จะทำอย่างนั้นนะ จำไว้ด้วย”

 

นั่นฟังดูมีความหมายแฝงแฮะ

――――――――――――――――――――――――――――――

สามารถติดตามการอัพเดตได้ทางเพจ : Launchmind

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+