[นิยายแปล WN] S級騎士の俺が精鋭部隊の隊長に任命されたが、部下がみんな年上のS級女騎士だった 21 【ราชาและเซคุโด】

Now you are reading [นิยายแปล WN] S級騎士の俺が精鋭部隊の隊長に任命されたが、部下がみんな年上のS級女騎士だった Chapter 21 【ราชาและเซคุโด】 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มุมมองเซคุโด

 

การล่าสิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จ และพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ ห้องบัลลังก์ พร้อมกับทั้งสามสาว

 

 

 

「『กองกำลังล่ามังกร』กลับมาแล้ว!」

 

 

 

พวกเราคุกเข่าลงต่อหน้าราชา

 

 

 

「อืมขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก เอาล่ะ พวกเรามาจับเข่าคุยกันดีกว่า ว่าไงแสดงให้เจ้าพวกนั้นได้เห็นกันรึยัง?」

 

 

 

ผมไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้

 

เพราะผมนั้นทำได้แค่รอที่ประตู

 

 

 

 โรเอะแสดงให้【อาณาจักรริงค์เรสต์】

 

 คาเทียแสดงให้【อาณาจักรออร์เบรฟ】

 

 ฟรันเบลแสดงให้【อาณาจักรอาร์คลุม】พวกเธอรับผิดชอบทั้งหมด ผมเลยไม่มีโอกาสได้ออกโรง

 

 

 

เมื่อพนักงานต้อนรับอธิบายให้ผมฟัง ตอนนั้นผมก็เบิกตากว้างและเตรียมสแตนด์บายในกรณีฉุกเฉิน

 

ราวกับว่าผมมาที่หน้าประตูทำไม? ไม่มีอะไรให้ทำเลยสักนิด

 

 

 

「มั่นใจได้เลยฝ่าบาทดิฉันได้แสดงความสามารถออกไปอย่างเต็มที่!」

 

 

 

โรเอะพูดแบบนั้น

 

 

 

「ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ด้วยเหตุนี้พวกนั้นคงจะฝึกหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะไม่อยากแพ้สาวๆที่ตัวเองดูถูกกันหรอก」

 

 

 

ขณะตรัสเช่นนั้น ราชาก็ทรงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง

 

 

 

「อย่าละเลยการฝึกของพวกเจ้าในทุกๆวัน แม้ว่าที่นี่จะสงบสุข แต่หากมังกรแรงค์ S บุกมาพวกเราก็ไม่อาจคาดการณ์ได้?」

 

 

 

「ฮ่ะ!」พวกเราตอบรับคำตรัสของราชา

 

 

 

「วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ ทุกคนยกเว้นเซคุโดกลับบ้านได้」

 

 

 

หะ เหลือแค่ผมคนเดียวเหรอ?

 

ทำไมอะ

 

นี่จะโดนเทศนาอะไรยังงั้นเหรอ?

 

ผมจำไม่ได้เลยว่าทำอะไรผิด

 

 

 

「ฮ่ะ」พวกโรเอะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแล้วจากไป

 

จากนั้นพวกเธอก็เดินออกจาก『ห้องบัลลังก์』ด้วยท่าทีสบายๆ

 

 

 

อา อยากกลับบ้านกับทุกคนจังเลย

 

 

 

「เซคุโด ฟอร์ส」

 

 

 

「ฮ่ะ!」

 

 

 

「เจ้าคิดยังไง? เจ้าคิดว่าจะใช้ชีวิตในฐานะหัวหน้าทีมได้รึเปล่า?」

 

 

 

「คะครับ ! ในตอนแรกก็คิดว่าโรเอะและคาเทียอาจจะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อแสดงฝีมือให้พวกนางได้เห็น พวกเธอก็ปฏิบัติต่อข้าพเจ้าดีขึ้น ตอนนี้ข้าพเจ้าได้รับการยอมรับจากทุกคนให้เป็นหัวหน้าประจำทีมพะยะค่ะ」

 

 

 

「หืมมมม? แล้วไม่มีเลยเหรอเรื่องอะไรแบบนั้นอะ เรื่องราวสยิวกิ้วกับสาวๆไม่มีบ้างเรอะ?」

 

 

 

หะ

 

อย่างไรก็ตาม ราชากัดฟันกรอด

 

สนใจเรื่องแบบนั้นด้วยเรอะ

 

 

 

「เอ่อ จริงๆแล้วโรเอะซังทำอาหารเช้าในกับข้าพเจ้า อาจารย์ฟรันเบลเองก็ช่วยทำอาหารเที่ยงให้ข้าพเจ้า ส่วนคาเทียซังก็คอยดูแลมื้อเย็นให้ข้าพเจ้าพะยะค่ะ」

 

 

 

「เรื่องจริงยังงั้นเรอะ?」

 

 

 

「พะยะค่ะ กระผมคิดว่าพวกนางอาจจะใจดีเพราะตระหนักได้ว่ากระผมไม่มีบิดา มารดา」

 

 

 

「เข้าใจแล้ว แต่ว่าการที่เจ้าได้ลูกน้องที่ใจดีแบบนี้ เจ้าไม่ดีใจหรอกรึ?」

 

 

 

「กระผมพอใจมากจริงๆพะยะค่ะ」

 

 

 

นั่นเป็นเรื่องจริง สักวันนึงผมต้องตอบแทนพวกเธอกลับไป

 

 

 

「ถึงกระนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกนางได้เริ่มออกลายกันแล้ว เป็นเพราะเจ้าเป็นลูกของฟอเร็ดงั้นเหรอ」

 

 

 

เอิ่ม ผมเองก็ไม่คิดว่าชื่อพ่อผมจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้นะ

 

ไม่ใช่ว่าจะบอกให้ผมหุบพวกโรเอะซังไว้คนเดียวหรอกใช่ไหม

 

เอิ่ม

 

ไม่ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากสร้างฮาเร็มเป็นของตัวเองเหมือนท่านพ่อนั่นแหละ

 

 

 

「ฝ่าบาท ไม่ทราบว่ารู้จักบิดาของกระหม่อมดีเหรอพะยะค่ะ?」

 

 

 

「แน่นอน ก็พ่อของเจ้าเป็นวีรชนของอาณาจักรนี้เลยนะ?」

 

 

 

ใช่แล้ว~

 

 

 

「แถมยังเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญของข้าด้วย……ไม่สิ ต้องเรียกว่าเพื่อนชั่วมากกว่ามั้ง?」

 

 

 

เอ๋

 

พ่อของผมเป็นเพื่อนกับราชา

 

ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย

 

 

 

「เมื่อครั้นข้ายังเด็ก ข้ากับเจ้านั่นชอบหนีออกจากปราสาทแล้วไปเคล้าผู้หญิงด้วยกันบ่อยๆ」

 

 

 

「เออออออออออออออออ๋!?」

 

 

 

ฮะ ราชาไล่จีบสาวไปทั่วเลยงั้นเหรอ?

 

แถมยังจริงจังกับเรื่องแบบนั้นด้วยอะนะ?

 

ไม่อยากจะเชื่อเลย โกหกกันใช่ไหมเนี่ย?

 

 

 

「ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่สนุกในชีวิตของข้าเลยล่ะ ข้าน่ะได้แอ้มสาวไปหลายคนเลย แต่ที่สำคัญที่สุด ข้าว่าความเห็นของฟอเร็ดนั้นน่าสนใจมาก」

 

 

 

「เอ๋ ความเห็นงั้นเหรอพะยะค่ะ?」

 

 

 

「ใช่ เขากล่าวว่า『ไม่มีผู้ชายที่ไหนไม่ชอบผู้หญิงเพราะงั้นก็จงอ่อนโยนกับพวกนางซะ』ไม่ก็『พวกเราน่ะเป็นผู้ชาย พวกเรามีไข่และหรรม ถ้าไม่มีสาวๆให้เสียบ มันก็คงจะหงุดหงิดใช่ไหมล่ะ』ประมาณนั้น」

 

 

 

โอ้ยพ่อนั่นมันโครตหยาบคายต่อราชาเลยนะ

 

ตามที่พ่อว่าเป๊ะ

 

ถึงแบบนั้นก็หมดความเชื่อถือไปเลยโว้ย

 

 

 

「ความคิดเห็นมากมายของเขา ทำให้ข้าได้เรียนรู้โลกภายนอก นั่นทำให้ข้าคิดถึงเขา ในโลกใบนี้น่ะ มีทั้งผู้ชายที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ เช่นเดียวกับผู้หญิง และแน่นอนว่าผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งน่ะมันหาได้ยากมากเลยใช่ไหมล่ะ」

 

 

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น ผมก็คิดว่าเขาพูดถูก

 

การล่ามังกรเป็นเรื่องที่ผู้ชายทุกคนควรทำ เพราะผู้ชายมีความสามารถทางกายภาพที่ยอดเยียม

 

อย่างไรก็ตามก็มีผู้ชายหลายคนที่ไม่ถนัดเรื่องแบบนั้น

 

 

 

และผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างสามสาวในสังกัดของผมก็มีเหมือนกัน

 

นั่นคือสิ่งที่เขาหมายถึง

 

 

 

จะบอกได้ว่า【อาณาจักรเอลกันดี】ให้ความเท่าเทียมทางเพศโดยไม่แก่งแย่งชายหรือหญิง ยอมรับผู้แข็งแกร่งโดยไม่สนเพศกำเนิด

 

 

 

เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ว่าราชาที่มีความคิดกว้างไกลและมีชื่อเสียงได้เพราะอิทธิพลจากพ่อของผม

 

 

 

「ไม่ใช่แบบนั้นเลย สิ่งที่ฟอเร็ดสอนข้าน่ะหาอะไรเปรียบมิได้ ข้าสามารถพูดได้ว่าสิ่งที่ฟอเร็ดได้สอนข้าเอาไว้มันทำให้ข้ามองโลกนี้ไม่เหมือนเดิมเลยทีเดียว」

 

 

 

「กระผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้น้อมรับคำชมแทนท่านพ่อ」

 

 

 

「ฮะฮะ…โอ้เมื่อข้ามาคิดดูแล้ว ยังอีกเรื่องหนึ่ง ที่ฟอเร็ดได้บอกกับข้า」

 

 

 

「เอ๋?」

 

 

 

「『เซคุโด ลูกชายข้าน่ะเป็นอัจฉริยะแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นถึงลูกชายของข้าและเซเรน(セレン)เลยนะ!』กล่าวมาเช่นนั้นล่ะ」

 

 

 

เอ๊ะ ผมไม่ได้ยินชื่อท่านแม่มานานมาก

 

ผมเองก็จำใบหน้าหรือเสียงของเธอได้ไม่มากนัก แต่แน่ใจว่าเธอจะต้องเป็นคนที่สวยงามอย่างแน่นอน

 

 

 

ผมอยากจะเจอเธอสักครั้ง ตอนที่ผมโตพอจะจำความได้

 

 

 

「เมื่อข้าถามว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะโดยพื้นฐานมาจากอะไรเขาก็ตอบ『เซคุโดน่ะอายุเพียง 4 ขวบ เขาก็สนใจในเรื่องวิชาดาบของข้าแล้ว? แค่นี้ก็เป็นอัจฉริยะแล้วจริงไหม?』เขาบอกแบบนั้น」

 

 

 

ขอโทษด้วยนะพ่อ

 

ไม่ใช่เพราะวิชาดาบหรอกที่ทำให้ผมสนใจ

 

ตอนนั้นผมสนใจแค่ว่าเรื่องที่พ่อบอก『ถ้าลูกแข็งแกร่ง ลูกก็จะเนื้อหอมในหมู่สาวๆ』ตอนนั้นผมสนใจแค่นั้น

 

 

「และที่น่าแปลกใจคือเซคุโด เจ้าเติบโตขึ้นมาแข็งแกร่งดั่งที่เขาบอกและในวัยเพียง 15 ปี คำทำนายของชายคนนั้นก็เป็นจริง」

 

 

 

อัจฉริยะเหรอ?

 

กรีต้าและคนอื่นๆก็พูดใส่ผมแบบนี้เมื่อนานมาแล้ว

 

 

 

「เพราะงั้นเจ้าอาจจะเป็นอัจฉริยะด้านดาบจริงๆก็ได้เซคุโด」

 

 

 

「ฮะฮะ…กระผมเองก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นพะยะค่ะ」

 

 

 

ตอนนี้ผมเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธ และไม่ต้องทำอะไรแบบนั้น

 

ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ส่วนคนอื่นๆก็ห่วยแตกแค่นั้นเอง

 

อย่างไรก็ตามผมคิดผิดมาตลอด ผมมันก็แค่โชคดีที่ร่างกายแข็งแรงกว่าคนอื่น

 

 

 

ครั้งหนึ่งผมเคยทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

 

 

『แกมันก็แค่คนโชคดีเท่านั้น!』

 

 

 

ผมเคยโดนด่าแบบนั้นมาก่อน

 

ผมก็คิดว่าเป็นแบบนั้น แต่ว่าผมก็ทำอะไรไม่ได้

 

จะต้องให้ผมพยายามอ่อนแอลงให้เท่าพวกนั้นงั้นเหรอ?

 

 

 

มีหลายครั้งที่ผมเคยตอบโต้และก็กลายเป็นการทะเลาะกันยกใหญ่

 

ตอนนั้นผมรู้สึกว่าพวกเราจะทะเลาะกันมาโดยตลอด

 

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีก็ตาม(?)

 

 

 

「ถ้าเจ้ารู้ตัวก็ดีไป ดังนั้นจงพยายามมากขึ้นไปอีก อย่างที่เข้าใจในเหตุการณ์วันนี้เจ้าฝากฝังแผ่นหลังไว้กับอัศวินแรงค์ S ของอาณาจักรอื่นไม่ไหวหรอก มีเพียงอย่างเดียวที่เจ้าจะฝากฝังได้คือลูกน้องของเจ้าเอง」

 

 

 

「? พะยะค่ะ」

 

 

 

ราชาอยากจะพูดอะไรกันแน่

 

 

 

「ไม่เข้าใจยังงั้นเหรอ? ตอนนี้เจ้าเป็นอัศวินแรงค์ S ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้แล้ว เจ้าเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับมนุษย์ชาติ ในตอนนี้」

 

 

 

「รับทราบแล้วพะยะค่ะ」

 

 

 

อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับมนุษย์ชาติ เป็นอีกหนึ่งฉายาขนาดใหญ่ที่ถูกมอบให้ผม

 

 

 

「ไม่ใช่เรื่องเกินจริงทุกสิงทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเจ้า มังกรแรงค์ S หรือเราที่จะเป็นฝ่ายพินาศชะตากรรมนั้นอยู่ในมือของเจ้า」

 

 

 

「พะยะค่ะ!」

 

 

 

「นอนจากนี้ฟอเร็ดยังกล่าวว่า 『ถ้าเจ้าเซคุโดมันแข็งแกร่งขึ้นเมื่อไร เจ้าจงใช้งานลูกข้าได้ตามที่ต้องการเลย』ข้าได้รับอนุญาตจากพ่อเจ้าแล้ว ดังนั้นข้าจะไม่เกรงใจ」

 

 

 

「อะ เอ่อ ครับ……」

 

 

 

ไอ้พ่อเวรเอ้ย

 

ทำไมถึงมาอนุญาตให้ใช้แรงงานผมเยี่ยงทาสฟะ

 

ต่อจากนี้จะไม่ไปหลุมศพพ่อเด็ดขาด

 

 

 

เฮ้อ ช่างเหอะ

 

ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ผู้ให้กำเนิดผมมาด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งแบบนี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด