ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) 1.2

Now you are reading ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) Chapter 1.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อ๊ะ! นัตจัง อรุณสวัสดิ์”

“อรุณสวัสดิ์ครับ อาจารย์คาตากิริ”

“เอ๋~~ทำตัวเป็นทางการจังเลยนะตอนที่อยู่นอกโรงเรียนจะเรียกว่า {โอเน่จัง} ก็ได้นะ”

“แต่อาจารย์เป็นคนบอกเองหนิถ้าพวกเราอยู่ในเครื่องแบบ พวกเราจะอยู่ในฐานะครูกับนักเรียนไม่ใช่เหรอครับ”

“อาเระ เคยพูดด้วยเหรอไม่เห็นจะจำได้เลยบางทีตอนนั้นฉันอาจจะเมาอยู่ก็ได้”

ในขณะที่ผมเดินไปโรงเรียน คนที่พูดจาขวานผ่าซากข้างๆผมนั้นเธอก็คือ คาตากิริ คาสึมิ เธอทำงานเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียน โทเซ ที่ที่ผมเรียนอยู่ในตอนนี้และเธอยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมอีกด้วย

ในปีนี้เธอมีอายุ 24 ปี เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะตัวเล็กหน้าตาก็เหมือนเด็กที่ให้กลิ่นอายถึงความไร้เดียงสาออกมาเล็กน้อย ทรงผมของเธอนั้นยาวถึงระดับบ่าและร่างกายของเธอก็มีส่วนที่โค้งเว้าเป็นสัดส่วนที่ดูดีสมกับเป็นผู้หญิงเลยถ้าเธอไม่สวมชุดเต็มยศแล้วละก็เธอจะให้ความรู้สึกว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมเลยละ

“อยากได้วันหยุดฤดูใบไม้ผลิเพิ่มอีกซักสองสัปดาห์จังเลยน้าา มันจะเป็นของขวัญที่แสนจะยอดเยี่ยมสำหรับการที่ฉันอุทิศเวลาทั้งปีให้กับการทำงานเลยละ”

“ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอาจารย์ก็พูดแบบนี้หนิ”

“จริงดิเคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอ? ฉันละอยากให้มีวันหยุดซัก 4 วัน แต่ยังได้เงินเดือนเท่าเดิมแบบนั้นจะดีมากๆเลยละ”

ผู้หญิงคนนี้ถึงจะมีอายุเยอะแล้วก็เถอะแต่ยังทำตัวงี่เง่าอยู่เหมือนเดิมเธอมักจะมาบ่นเรื่องวันหยุดพักงานแบบนี้ให้กับผมฟังอยู่เป็นประจำ

ก็เธอเป็นซะแบบนี้เนี่ยก็ไม่แปลกหรอกที่จะเห็นผู้อํานวยการตำหนิเธออยู่บ่อยๆ แต่ว่า ผู้คนที่อยู่รอบข้างเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะตัวเธอนั้นเป็นคนที่มีรอยยิ้มร่าเริงสดใสและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเราจะใส่เครื่องแบบครบชุดแล้วก็เถอะ แต่ผมก็รู้สึกว่าพวกเราเป็นพี่น้องหรือเพื่อน มากกว่าจะเป็นนักเรียนกับอาจารย์ด้วยซ้ำ

ถึงเธอจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ผมก็เกลียดผู้หญิงคนนี้ไม่ลงจริงๆเพราะบุคลิกที่เป็นกันเองแบบนี้ของเธอได้ช่วยผมเอาไว้หลายครั้งเลยละ

“ดูเหมือนว่านัตจังจะชินกับการใส่ยูนิฟอร์มแล้วสินะ ต่างจากปีที่แล้วลิบลับตอนนั้นน่ะดูเรียบร้อยและสดใสเอามากๆเลย”

“พอผ่านไปซักพักทุกคนก็เป็นงี้กันหมดนั่นแหละ”

นัตสึโอมิใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนแบบเรียบๆต่างจากตอนที่เข้าเรียนในตอนแรกเพราะเกิดจากความเคยชินที่สวมใส่เกือบทุกวันจากนั้นนัตสึโอมิก็ได้สะพายกระเป๋าไว้ตรงไหล่ขวาของเขาโดยไม่รู้ตัวและเดินไปโรงเรียนอย่างคุ้นเคย

สิ่งต่างๆในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับนัตสึโอมิเลยคงจะเป็นเพราะความคุ้นชินและความสบายใจจากการอยู่มานานไม่เหมือนกับตอนที่เพิ่งเข้ามาแรกๆ

“อ๊ะ โทษทีฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นน่ะ โอเน่จังคนนี้กำลังจะบอกว่า นัตจังโตขึ้นมานิดหน่อยแล้วสินะ อะไรประมาณนี้น่ะ”

คาสึมิยิ้มให้กับนัตสึโอมิ พร้อมกับประสานมือทั้งสองเอาไว้ทางด้านหลัง

นัตสึโอมิเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะพยายามหลบสายตาสุดแสนจะซุกซนของคาสึมิที่บ่งบอกว่าตัวเธอนั้นรู้จักนัตสึโอมิในอดีตเป็นอย่างดี

คาสึมินั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมที่แก่กว่า6ปี ผมนับถือเธอเหมือนพี่สาวแท้ๆของผมเลยละ ถึงเธอจะดูแปลกๆไปหน่อยแต่เธอก็คอยช่วยเหลือผมมาโดยตลอดผมรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ

เธอนั้นเป็นคนที่แนะนำผมทั้งตอนที่ต้องเลือกแผนการเรียนต่อในตอนที่ผมยังอยู่มัธยมต้นปี3และรวมถึงเรื่องทุนการศึกษา

และนั่นก็เป็นช่วงที่ผมกับพ่อแม่สร้างข้อตกลงกันเรื่องย้ายออกมาอยู่คนเดียว

[ เป็นไปไม่ได้หรอกที่เด็ก ม.ปลาย จะออกไปอยู่คนเดียว ]

[ งั้นนัตจังมาอยู่กับฉันมั้ยล่ะ? มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะต้องให้นัตจังมาเรียนหนักเพื่อรักษาสัญญานั่น ]

ในตอนนั้นคาสึมิโกรธพ่อแม่ของผมแทนผมด้วยละ

นั่นเลยทำให้ผมอดเป็นห่วงเธอไม่ได้เลย และในตอนที่คาสึมิบอกว่าผมโตขึ้นมานิดหน่อย

พอได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นผมมั่นใจได้เลยว่าเธอกำลังแกล้งผมอยู่แน่ๆ

“เอ๋~ก็นะถ้าอาจารย์คิดว่า[ตัวเองสามารถเป็นผู้ใหญ่ได้ภายในหนึ่งปี]อะไรประมาณนี้เนี่ย ก็คงไม่ผิดอะไรหรอกครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองไม่เห็นจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเลยซักนิด”

“อ๊ะ แต่ถ้าดูอายุกับสถานะของ เน่-ซัง ในตอนนี้แล้วดูเหมือนว่าเน่ซังจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสินะ แต่ว่าก็ยัง…”

“ โธ่ นั่นมันไม่น่ารักเลยนะ ไม่น่ารักซักกานิดดด โม่~แย่ๆ ขอปฏิเสธค้าา ”

คาสึมิขมวดคิ้วพร้อมกับยกแขนมาไขว้กันทำท่าปฏิเสธสุดกำลังและมองไปยังนัตสึโอมิอย่างไม่พอใจ

ดูเหมือนว่าเธอจะจริงจังมาก แต่ผมคิดว่าเธอดูไม่สมกับการเป็นผู้ใหญ่เลยนั่นก็เพราะท่าทางแบบนี้เนี่ยแหละ พวกคุณคงจะเข้าใจกันใช่มั้ย?

ในขณะที่นัตสึโอมิกำลังจะก้าวเดินต่อพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คาสึมิก็ปรบมือของเธอพร้อมกับเปล่งเสียงว่า “อ๊ะ” ทำท่าทางราวกับว่าเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก

นัตสึโอมิได้หยุดเดินและเอียงศีรษะพร้อมกับมองไปที่คาสึมิ

“ฉันได้ข่าวมาว่าวันนี้จะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศมาที่ชั้นเรียนของพวกเราด้วยนะ”

“นักเรียนแลกเปลี่ยน?”

******

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อยุย เอลียาห์ วิลเลียส ค่ะ”

เป็นการแนะนำตัวที่แสนจะเรียบง่ายเสียงโมโนโทนของเธอนั้นเป็นเหมือนกับเสียงกริ่งที่สามารถทำให้ทั้งห้องอยู่ในความเงียบสงบได้ ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ(ผู้แปล : เสียงโมโนโทน = ไม่มีเสียงสูงต่ำ)

เด็กสาวที่นัตสึโอมิได้พบเจอในช่วงเช้าของวันนี้กำลังยืนอยู่หน้าชั้นเรียนของเขาใบหน้าของเธอไร้ความรู้สึกราวกับว่าไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นเลยเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้ทั้งห้องได้แต่มองหน้ากันอย่างประหม่า

ผู้หญิงคนนี้มีชื่อต่างชาติแปลกๆที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเธอมีผมที่ยาวดำเป็นประกายและผิวขาวใสไร้ที่ติ รูปร่างของเธอผอมเพรียวเหมือนกับนางแบบ และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอมีใบหน้าที่สวยงามเข้ารูปเป็นอย่างมากพร้อมกับดวงตาสีฟ้าครามที่ดูลึกลับนั่นเป็นเหมือนดั่งผลึกน้ำแข็งเลยละ

ความรู้สึกที่ดูเย็นชาและเปราะบางแบบนี้นี่มันใช่เลยเธอเป็นเพื่อนบ้านของผมอย่างไม่ต้องสงสัย

ดวงตาของนัตสึโอมิเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อได้เห็นเธอ

“ วิลเลียสซังน่ะเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอังกฤษนะจ๊ะ ส่วนเรื่องภาษาญีปุ่นของเธอก็ไม่มีปัญหาเลยจ้า แต่อาจจะมีบางเรื่องที่วิลเลียสซังไม่คุ้นเคยต่อจากนี้ก็ช่วยดูแลเธอด้วยนะทุกคน ”

ขณะที่คาสึมิกำลังพูดอยู่ข้างๆวิลเลียสซัง เสียงผู้คนในห้องก็ค่อยๆดังขึ้น

“ โรงเรียนของพวกเรามีสาวสวยเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วสินะ ”

คนที่อยู่ข้างหน้าของผมที่กำลังหัวเราะแล้วหันหน้ามาทางนี้ เขาก็คือเพื่อนสนิทของผม สึซูโมริ เคย์

ดูเหมือนว่าทุกคนในห้องจะเห็นพ้องด้วยกับสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี้นี้ เพราะทั้งห้องเรียนต่างมองไปที่ยุยด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็นและอิจฉาในเวลาเดียวกัน

แต่ยังไงก็ตาม ตัวเธอนั้นก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลยสายตาที่ดูเย็นชานั่นให้ความรู้สึกเหมือนกับเธอเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ บรรยากาศที่ดูลึกลับของเธอก็เพิ่มความงดงามขึ้นไปอีกในสายตาของทุกคน( ผู้แปล : 深窓の令嬢 ไม่รู้ว่าจะแปลไงดีซึ่งมีความหมายว่า เป็นเจ้าหญิงที่เกิดในตระกูลผู้ดี [ 深窓] = ที่อยู่ในส่วนลึกของหน้าต่าง หมายถึงอยู่ตัวคนเดียวหลังหน้าต่างบานนั้น งั้นเอาเป็น เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ละกันฮ่าฮ่า )

“นายคิดว่าไง นัตสึโอมิ”

“ฉันต้องพูดด้วยเหรอ? ฉันไม่สนอ่ะ”

“กะแล้วเชียว ว่านายต้องพูดอะไรแบบนี้ออกมา”

จากนั้นเคย์ก็ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของผมตั้งแต่ที่เข้ามาเรียยม.ปลายเลยละ

ถึงเขาอาจจะดูเป็นคนเจ้าชู้และใจง่ายไปหน่อย แต่จริงๆแล้วหมอนี่น่ะเป็นคนที่เอาใจใส่และอ่านบรรยากาศได้ดีมากเลยทีเดียว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สามารถเข้าสังคมโดยที่ไม่เกี่ยงอายุหรือเพศเลย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความสามารถด้านการสื่อสารของเคย์ทำให้นัตสึโอมิถูกใจเพราะแบบนั้นทั้งสองจึงได้เป็นเพื่อนกัน

วิลเลียสซังเนี่ยมีเสน่ห์จริงๆเลยนะ ขนาดผู้ชายอย่างเคย์ที่ [ไม่ได้มองคนที่หน้าตา] ก็ยังพูดถึงรูปลักษณ์ของเธอเลย

หลังจากที่คาสึมิสบตากับวิลเลียสซัง เธอก็ตอบรับด้วยลอยยิ้มที่งดงามราวกับเป็นรอยยิ้มจากเทพธิดา จากนั้นคาสึมิก็ยื่นมือชี้มาทางผมแล้วก็บอกวิลเลียสซังไปว่า

“ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามคาตากิริคุงที่นั่งอยู่ข้างๆของเธอดูนะ ถึงเขาจะดูซื่อบื้อและเงียบๆไปหน่อย แต่ถึงแบบนั้นเขาก็เป็นคนดีมากเลยละ ”

“ เข้าใจแล้วค่ะ ”

“ว..ว่าไงนะ….”

พอพูดเสร็จคาสึมิก็โบกมือให้กับผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ซุกซน

 ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) 1.2

Now you are reading ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) Chapter 1.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อ๊ะ! นัตจัง อรุณสวัสดิ์”

“อรุณสวัสดิ์ครับ อาจารย์คาตากิริ”

“เอ๋~~ทำตัวเป็นทางการจังเลยนะตอนที่อยู่นอกโรงเรียนจะเรียกว่า {โอเน่จัง} ก็ได้นะ”

“แต่อาจารย์เป็นคนบอกเองหนิถ้าพวกเราอยู่ในเครื่องแบบ พวกเราจะอยู่ในฐานะครูกับนักเรียนไม่ใช่เหรอครับ”

“อาเระ เคยพูดด้วยเหรอไม่เห็นจะจำได้เลยบางทีตอนนั้นฉันอาจจะเมาอยู่ก็ได้”

ในขณะที่ผมเดินไปโรงเรียน คนที่พูดจาขวานผ่าซากข้างๆผมนั้นเธอก็คือ คาตากิริ คาสึมิ เธอทำงานเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียน โทเซ ที่ที่ผมเรียนอยู่ในตอนนี้และเธอยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมอีกด้วย

ในปีนี้เธอมีอายุ 24 ปี เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะตัวเล็กหน้าตาก็เหมือนเด็กที่ให้กลิ่นอายถึงความไร้เดียงสาออกมาเล็กน้อย ทรงผมของเธอนั้นยาวถึงระดับบ่าและร่างกายของเธอก็มีส่วนที่โค้งเว้าเป็นสัดส่วนที่ดูดีสมกับเป็นผู้หญิงเลยถ้าเธอไม่สวมชุดเต็มยศแล้วละก็เธอจะให้ความรู้สึกว่าเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมเลยละ

“อยากได้วันหยุดฤดูใบไม้ผลิเพิ่มอีกซักสองสัปดาห์จังเลยน้าา มันจะเป็นของขวัญที่แสนจะยอดเยี่ยมสำหรับการที่ฉันอุทิศเวลาทั้งปีให้กับการทำงานเลยละ”

“ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอาจารย์ก็พูดแบบนี้หนิ”

“จริงดิเคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอ? ฉันละอยากให้มีวันหยุดซัก 4 วัน แต่ยังได้เงินเดือนเท่าเดิมแบบนั้นจะดีมากๆเลยละ”

ผู้หญิงคนนี้ถึงจะมีอายุเยอะแล้วก็เถอะแต่ยังทำตัวงี่เง่าอยู่เหมือนเดิมเธอมักจะมาบ่นเรื่องวันหยุดพักงานแบบนี้ให้กับผมฟังอยู่เป็นประจำ

ก็เธอเป็นซะแบบนี้เนี่ยก็ไม่แปลกหรอกที่จะเห็นผู้อํานวยการตำหนิเธออยู่บ่อยๆ แต่ว่า ผู้คนที่อยู่รอบข้างเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะตัวเธอนั้นเป็นคนที่มีรอยยิ้มร่าเริงสดใสและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเราจะใส่เครื่องแบบครบชุดแล้วก็เถอะ แต่ผมก็รู้สึกว่าพวกเราเป็นพี่น้องหรือเพื่อน มากกว่าจะเป็นนักเรียนกับอาจารย์ด้วยซ้ำ

ถึงเธอจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ผมก็เกลียดผู้หญิงคนนี้ไม่ลงจริงๆเพราะบุคลิกที่เป็นกันเองแบบนี้ของเธอได้ช่วยผมเอาไว้หลายครั้งเลยละ

“ดูเหมือนว่านัตจังจะชินกับการใส่ยูนิฟอร์มแล้วสินะ ต่างจากปีที่แล้วลิบลับตอนนั้นน่ะดูเรียบร้อยและสดใสเอามากๆเลย”

“พอผ่านไปซักพักทุกคนก็เป็นงี้กันหมดนั่นแหละ”

นัตสึโอมิใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนแบบเรียบๆต่างจากตอนที่เข้าเรียนในตอนแรกเพราะเกิดจากความเคยชินที่สวมใส่เกือบทุกวันจากนั้นนัตสึโอมิก็ได้สะพายกระเป๋าไว้ตรงไหล่ขวาของเขาโดยไม่รู้ตัวและเดินไปโรงเรียนอย่างคุ้นเคย

สิ่งต่างๆในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับนัตสึโอมิเลยคงจะเป็นเพราะความคุ้นชินและความสบายใจจากการอยู่มานานไม่เหมือนกับตอนที่เพิ่งเข้ามาแรกๆ

“อ๊ะ โทษทีฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นน่ะ โอเน่จังคนนี้กำลังจะบอกว่า นัตจังโตขึ้นมานิดหน่อยแล้วสินะ อะไรประมาณนี้น่ะ”

คาสึมิยิ้มให้กับนัตสึโอมิ พร้อมกับประสานมือทั้งสองเอาไว้ทางด้านหลัง

นัตสึโอมิเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะพยายามหลบสายตาสุดแสนจะซุกซนของคาสึมิที่บ่งบอกว่าตัวเธอนั้นรู้จักนัตสึโอมิในอดีตเป็นอย่างดี

คาสึมินั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมที่แก่กว่า6ปี ผมนับถือเธอเหมือนพี่สาวแท้ๆของผมเลยละ ถึงเธอจะดูแปลกๆไปหน่อยแต่เธอก็คอยช่วยเหลือผมมาโดยตลอดผมรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ

เธอนั้นเป็นคนที่แนะนำผมทั้งตอนที่ต้องเลือกแผนการเรียนต่อในตอนที่ผมยังอยู่มัธยมต้นปี3และรวมถึงเรื่องทุนการศึกษา

และนั่นก็เป็นช่วงที่ผมกับพ่อแม่สร้างข้อตกลงกันเรื่องย้ายออกมาอยู่คนเดียว

[ เป็นไปไม่ได้หรอกที่เด็ก ม.ปลาย จะออกไปอยู่คนเดียว ]

[ งั้นนัตจังมาอยู่กับฉันมั้ยล่ะ? มันไม่ยุติธรรมเลยที่จะต้องให้นัตจังมาเรียนหนักเพื่อรักษาสัญญานั่น ]

ในตอนนั้นคาสึมิโกรธพ่อแม่ของผมแทนผมด้วยละ

นั่นเลยทำให้ผมอดเป็นห่วงเธอไม่ได้เลย และในตอนที่คาสึมิบอกว่าผมโตขึ้นมานิดหน่อย

พอได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นผมมั่นใจได้เลยว่าเธอกำลังแกล้งผมอยู่แน่ๆ

“เอ๋~ก็นะถ้าอาจารย์คิดว่า[ตัวเองสามารถเป็นผู้ใหญ่ได้ภายในหนึ่งปี]อะไรประมาณนี้เนี่ย ก็คงไม่ผิดอะไรหรอกครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองไม่เห็นจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเลยซักนิด”

“อ๊ะ แต่ถ้าดูอายุกับสถานะของ เน่-ซัง ในตอนนี้แล้วดูเหมือนว่าเน่ซังจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสินะ แต่ว่าก็ยัง…”

“ โธ่ นั่นมันไม่น่ารักเลยนะ ไม่น่ารักซักกานิดดด โม่~แย่ๆ ขอปฏิเสธค้าา ”

คาสึมิขมวดคิ้วพร้อมกับยกแขนมาไขว้กันทำท่าปฏิเสธสุดกำลังและมองไปยังนัตสึโอมิอย่างไม่พอใจ

ดูเหมือนว่าเธอจะจริงจังมาก แต่ผมคิดว่าเธอดูไม่สมกับการเป็นผู้ใหญ่เลยนั่นก็เพราะท่าทางแบบนี้เนี่ยแหละ พวกคุณคงจะเข้าใจกันใช่มั้ย?

ในขณะที่นัตสึโอมิกำลังจะก้าวเดินต่อพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คาสึมิก็ปรบมือของเธอพร้อมกับเปล่งเสียงว่า “อ๊ะ” ทำท่าทางราวกับว่าเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก

นัตสึโอมิได้หยุดเดินและเอียงศีรษะพร้อมกับมองไปที่คาสึมิ

“ฉันได้ข่าวมาว่าวันนี้จะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศมาที่ชั้นเรียนของพวกเราด้วยนะ”

“นักเรียนแลกเปลี่ยน?”

******

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อยุย เอลียาห์ วิลเลียส ค่ะ”

เป็นการแนะนำตัวที่แสนจะเรียบง่ายเสียงโมโนโทนของเธอนั้นเป็นเหมือนกับเสียงกริ่งที่สามารถทำให้ทั้งห้องอยู่ในความเงียบสงบได้ ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ(ผู้แปล : เสียงโมโนโทน = ไม่มีเสียงสูงต่ำ)

เด็กสาวที่นัตสึโอมิได้พบเจอในช่วงเช้าของวันนี้กำลังยืนอยู่หน้าชั้นเรียนของเขาใบหน้าของเธอไร้ความรู้สึกราวกับว่าไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่นเลยเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้ทั้งห้องได้แต่มองหน้ากันอย่างประหม่า

ผู้หญิงคนนี้มีชื่อต่างชาติแปลกๆที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเธอมีผมที่ยาวดำเป็นประกายและผิวขาวใสไร้ที่ติ รูปร่างของเธอผอมเพรียวเหมือนกับนางแบบ และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอมีใบหน้าที่สวยงามเข้ารูปเป็นอย่างมากพร้อมกับดวงตาสีฟ้าครามที่ดูลึกลับนั่นเป็นเหมือนดั่งผลึกน้ำแข็งเลยละ

ความรู้สึกที่ดูเย็นชาและเปราะบางแบบนี้นี่มันใช่เลยเธอเป็นเพื่อนบ้านของผมอย่างไม่ต้องสงสัย

ดวงตาของนัตสึโอมิเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อได้เห็นเธอ

“ วิลเลียสซังน่ะเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอังกฤษนะจ๊ะ ส่วนเรื่องภาษาญีปุ่นของเธอก็ไม่มีปัญหาเลยจ้า แต่อาจจะมีบางเรื่องที่วิลเลียสซังไม่คุ้นเคยต่อจากนี้ก็ช่วยดูแลเธอด้วยนะทุกคน ”

ขณะที่คาสึมิกำลังพูดอยู่ข้างๆวิลเลียสซัง เสียงผู้คนในห้องก็ค่อยๆดังขึ้น

“ โรงเรียนของพวกเรามีสาวสวยเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วสินะ ”

คนที่อยู่ข้างหน้าของผมที่กำลังหัวเราะแล้วหันหน้ามาทางนี้ เขาก็คือเพื่อนสนิทของผม สึซูโมริ เคย์

ดูเหมือนว่าทุกคนในห้องจะเห็นพ้องด้วยกับสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี้นี้ เพราะทั้งห้องเรียนต่างมองไปที่ยุยด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็นและอิจฉาในเวลาเดียวกัน

แต่ยังไงก็ตาม ตัวเธอนั้นก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลยสายตาที่ดูเย็นชานั่นให้ความรู้สึกเหมือนกับเธอเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ บรรยากาศที่ดูลึกลับของเธอก็เพิ่มความงดงามขึ้นไปอีกในสายตาของทุกคน( ผู้แปล : 深窓の令嬢 ไม่รู้ว่าจะแปลไงดีซึ่งมีความหมายว่า เป็นเจ้าหญิงที่เกิดในตระกูลผู้ดี [ 深窓] = ที่อยู่ในส่วนลึกของหน้าต่าง หมายถึงอยู่ตัวคนเดียวหลังหน้าต่างบานนั้น งั้นเอาเป็น เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ละกันฮ่าฮ่า )

“นายคิดว่าไง นัตสึโอมิ”

“ฉันต้องพูดด้วยเหรอ? ฉันไม่สนอ่ะ”

“กะแล้วเชียว ว่านายต้องพูดอะไรแบบนี้ออกมา”

จากนั้นเคย์ก็ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ

ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของผมตั้งแต่ที่เข้ามาเรียยม.ปลายเลยละ

ถึงเขาอาจจะดูเป็นคนเจ้าชู้และใจง่ายไปหน่อย แต่จริงๆแล้วหมอนี่น่ะเป็นคนที่เอาใจใส่และอ่านบรรยากาศได้ดีมากเลยทีเดียว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สามารถเข้าสังคมโดยที่ไม่เกี่ยงอายุหรือเพศเลย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความสามารถด้านการสื่อสารของเคย์ทำให้นัตสึโอมิถูกใจเพราะแบบนั้นทั้งสองจึงได้เป็นเพื่อนกัน

วิลเลียสซังเนี่ยมีเสน่ห์จริงๆเลยนะ ขนาดผู้ชายอย่างเคย์ที่ [ไม่ได้มองคนที่หน้าตา] ก็ยังพูดถึงรูปลักษณ์ของเธอเลย

หลังจากที่คาสึมิสบตากับวิลเลียสซัง เธอก็ตอบรับด้วยลอยยิ้มที่งดงามราวกับเป็นรอยยิ้มจากเทพธิดา จากนั้นคาสึมิก็ยื่นมือชี้มาทางผมแล้วก็บอกวิลเลียสซังไปว่า

“ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามคาตากิริคุงที่นั่งอยู่ข้างๆของเธอดูนะ ถึงเขาจะดูซื่อบื้อและเงียบๆไปหน่อย แต่ถึงแบบนั้นเขาก็เป็นคนดีมากเลยละ ”

“ เข้าใจแล้วค่ะ ”

“ว..ว่าไงนะ….”

พอพูดเสร็จคาสึมิก็โบกมือให้กับผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ซุกซน

 ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+