ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) 2.2

Now you are reading ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) Chapter 2.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

隣のクーデレラを甘やかしたら、ウチの合鍵を渡すことになった

 

[ตอนที่ 2.2: ข้าวกล่องครึ่งราคาและไก่คาราอาเกะ]

 

 

“ขอโทษที่ให้รอนะ”

นัตสึโอมิได้วางคาราอาเกะไว้บนโต๊ะเล็กๆและจากนั้นวิลเลียสก็โน้มตัวเล็กน้อยพร้อมกับกะพริบตาด้วยความสงสัย

นี่คือสะโพกไก่ชุบแป้งทอดที่นำมาผัดกับซีอิ๊วและขิงสดที่ได้รับการปรุงรสอย่างลงตัวส่วนด้านใต้ของคาราอาเกะก็เต็มไปด้วยกระหล่ำปรีฝอยที่ผ่านการแช่น้ำเอาไว้เลยทำให้ดูชุ่มฉ่ำ

และนอกจากนี้นัตสึโอมิได้อุ่นซุปมิโสะหมูรสเผ็ดและผักอีกมากมายที่เหลือจากเมื่อวานจากนั้นก็นำมาเสิร์ฟพร้อมกับต้มจืดผักโขมที่เหลือจากเมื่อตอนเช้า
(ผู้แปล : เปลี่ยนจาก ผักโขมต้ม มาเป็นต้มจืดผักโขมน่าจะดูดีกว่า)

โต๊ะในห้องของนัตสึโอมินั้นเป็นโต๊ะโคทัตสึเล็กๆสำหรับคนเดียวเพราะงั้นการที่จะมาใช้ร่วมกันสองคนมันจึงค่อนข้างที่จะแคบไปหน่อยแต่นัตสึโอมิก็สามารถเบียดจานเข้าไปได้
(ผู้แปล : โคทัตสึ-เป็นโต๊ะเล็กๆที่มักจะเอาไว้อุ่นขา )

จากนั้นนัตสึโอมิก็ได้หยิบตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้งคู่นึงออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับวิลเลียสที่กำลังนั่งหลังค่อมเหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆ

“วิลเลียสซังใช้ตะเกียบเป็นไหมครับ? ถ้าไม่เดี๋ยวผมจะไปเอาซ้อมมาให้”

“ค..ค่ะ..ฉันใช้ตะเกียบเป็น…ต..แต่ว่า”

“ถ้าอย่างงั้นก็เขิญกินตามสบายได้เลยครับ”

หลังจากที่ตักข้าวใส่ชามเรียบร้อยแล้ว นัตสึโอมิก็นำมือมาประกบกันแล้วพูดว่า “อิทาดาคิมัส” ก่อนที่จะเริ่มกิน

จากนั้นนัตสึโอมิก็ได้เริ่มจากมิโสะหมู่เป็นอย่างแรก ด้วยความที่ว่ามันถูกทิ้งเอาไว้ข้ามคืนจึงทำให้ส่วนผสมต่างๆได้ซึมซับเข้าไปในนำซุปและเนื้อหมู่อย่างเต็มที่เลยทำให้มันออกมาอร่อยมากเลยล่ะ

สิ่งต่อไปที่นัตสึโอมิเลือกก็คือคาราอาเกะ เขาได้นำตะเกียบไปคีบมาชิ้นนึงแล้วก็กัดลงไป จากนั้นก็มีน้ำที่ชุ่มฉ่ำที่ซ่อนอยู่ด้านในของเนื้อไก่ทอดกรอบทะลักออกมาก ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวกันอย่างซีอิ๊วกับขิงสด ทำให้สามารถพูดได้เลยล่ะว่าคาราอาเกะของวันนี้เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ

ปกตินัตสึโอมิมักจะใส่กระเทียมเพิ่มเข้าไป แต่เขาเกรงว่าวิลเลียสจะไม่ชอบเลยไม่ได้ใส่ลงไป

“เป็นอะไรไป? คุณไม่หิวงั้นเหรอหรือว่ามีอะไรที่ไม่ชอบ?”

นัตสึโอมิหันไปถามวิลเลียสที่กำลังจ้องมองไปที่โต๊ะพร้อมกับถือตะเกียบเอาไว้ในมือโดยที่ยังไม่ขยับ

“เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่เลือกกินหรอกค่ะ…”

“เอาเถอะ ในเมื่อคุณก็นั่งอยู่ที่นี่แล้วทำไมไม่กินก่อนที่มันจะเย็นล่ะ?นี่ไม่ใช่อาหารที่เอาไว้ดูเล่นหรอกนะ”

เมื่อนัตสึโอมิได้บอกเธอไปแบบนั้น เธอก็ได้พยักหน้าและทำตามในสิ่งที่นัตสึโอมิบอกถึงเธอจะมีความลังเลอยู่หน่อยๆก็เถอะ

“ได้ค่ะ งั้นฉันจะกินแล้วนะคะ…”

วิลเลียสได้ประกบมือแล้วพูด “อิทาดาคิมัส” อย่างที่นัตสึโอมิทำไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเธอก็ได้นำตะเกียบไปคีบคาราอาเกะมาโดยที่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่เล็กน้อย

จากนั้นเธอก็ค่อยๆนำคาราอาเกะมาที่ริมฝีปากเล็กๆของเธอแล้วก็กัดลงไปโดยที่มีเสียงเคี้ยวเบาๆเล็ดลอดออกมา

“…”

ดวงตาสีฟ้าของวิลเลียสได้เบิกกว้างขึ้นนี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะที่นัตสึโอมิได้เห็นดวงตาของเธอเบิกกว้างขนาดนี้

เธอได้พยายามเคี้ยวไก่ในปากให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากนั้นเธอก็กลืนลงไปสีหน้าของเธอในตอนนี้ดูอ่อนโยนและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

“อะ..อร่อย..มันอร่อยสุดๆไปเลยค่ะ”

วิลเลียสได้พูดพลางเอามือปิดปากเอาไว้ จากนั้นเธอก็ได้นำคาราอาเกะอีกชิ้นเข้าปากต่อในทันที

นัตสึโอมิดูพึงพอใจมากเมื่อเห็นวิลเลียสพูดว่า “อร่อย” ทุกครั้งหลังจากที่ชิมอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซุปมิโสะ ต้มจืดผักโขม หรือแม้กระทั่งข้าว นั่นมันทำให้นัตสึโอมิรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

“ขอบคุณสำหรับอาหาร ครับ/ค่ะ”

เมื่อทั้งสองกินเสร็จ พวกเขาก็ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารพร้อมๆกัน

นัตสึโอมิได้ถามวิลเลียสว่า “จะเอาชามั้ยครับ” เธอก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลถึงจะมีท่าทีเกรงอกเกรงใจออกมาให้เห็นเล็กน้อยอยู่ก็เถอะ

เมื่อนัตสึโอมิได้เห็นวิลเลียสที่กำลังจิบชาอย่างเอร็ดอร่อยเขาก็พยายามกลั้นรอยยิ้มที่เกือบจะหลุดออกมาให้เห็นจากมุมปาก

การแสดงออกของวิเลียสในตอนนี้ดูจะผ่อนคลายขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับตอนแรกที่เข้ามา พอได้เห็นแบบนั้นใบหน้าของนัตสึโอมิก็ผ่อนคลายลงด้วยเช่นกัน

“งั้นผมจะไปล้างจานก่อนนะ ส่วนวิลเลียสซังก็นั่งพักไปเถอะครับ”

“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากจะช่วยคาตากิริซัง”

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็เอาจานไปใส่ไว้ในอ่างนะ เดี๋ยวผมจะเป็นคนล้างเอง”

“ได้ค่ะ”

นัตสึโอมิได้ล้างคราบที่ติดอยู่บนจานออกอย่างรวดเร็วด้วยน้ำยาล้างจาน ส่วนคราบที่ติดอยู่บนเตาก็เอาไว้ทำความสะอาดทีหลัง

ส่วนวิลเลียสก็ยื่นจานทีละใบจากบนโต๊ะให้กับนัตสึโอมิพร้อมกับมองไปที่มือของเขา

“…มีอะไรงั้นเหรอครับ?”

“คือ..ฉันต้องรอให้คาตากิริซังล้างจานให้เสร็จก่อนยื่นให้ใช่มั้ยคะ?”

วิลเลียสเอียงศีรษะด้วยความสงสัยพร้อมกับถือจานเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง

“ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกครับ แค่เอาวางซ้อนกันก็โอเคแล้วครับ”

“แต่ถ้าทำแบบนั้นคราบก็จะติดด้านหลังของจานด้วยไม่ใช่เหรอคะ?”

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะล้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่แล้วครับ”

วิลเลียสได้อ้าปากออกมาเล็กน้อยพร้อมกับสีหน้าประหลาดใจ

“อ๊ะ…ขอโทษนะคะ คือฉันไม่ค่อยชินกับเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่”

 

 

เธอขอโทษอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยใบหน้าที่เขินอาย

ถ้ามองผ่านๆเธอก็อาจจะเหมือนเด็กสาวมัธยมปลายธรรมดาๆที่พักอาศัยอยู่ห้องข้างๆ แต่ผมรู้ว่าภูมิหลังของเธอเป็นเจ้าหญิงเพราะงั้นเธออาจจะไม่คุ้นเคยกับงานแบบนี้

ดังนั้นผมจึงไม่หัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอ

“เรื่องแค่นี้เอง….คุณไม่ต้องขอโทษถึงขนาดนั้นก็ได้”

“เออ..ขอโทษค่ะ…..อ่ะ..ไม่ใช่สิ..คือฉันขอโทษเกี่ยวกับ..”

วิลเลียสที่พยายามจะหยุดขอโทษแต่เธอไม่รู้ว่าควรพูดยังไงถึงจะถูกเพราะงั้นมันจึงลงเอยด้วยการขอโทษอีกครั้ง

เธอมองไปที่นัตสึโอมิด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับขมวดคิ้ว ไหล่ของเธอก็หย่อนลงในขณะที่ประสานปลายนิ้วมือเข้าหากัน

พอนัตสึโอมิได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอ เขาก็หลุดหัวเราะออกมา

“หัวเราะอะไรกันคะ..?”

“เปล่า…ผมแค่คิดว่า วิลเลียสซังเนี่ยเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”

“…น่าสนใจ? ฉันก็คิดว่าคุณจะโกรธฉันซะอีก”

“กะอีเรื่องแค่เนี้ย ผมจะไปโกรธคุณได้ไง”

“ถ้านี่เป็นที่อังกฤษ ทุกคนในบ้านคงจะโกรธฉันแน่ๆค่ะ”

“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเติบโตมายังไง แต่ผมจะไม่โกรธเคืองคุณในเรื่องแบบนี้แน่นอน แล้วที่ผมหัวเราะนั่นก็เพราะว่าวิลเลียสซังน่ะน่ารักน่าเอ็นดูไงล่ะ”

“….น่ารักน่าเอ็นดู?..”

เมื่อนัตสึโอมิได้พูดแบบนั้นออกไปพร้อมกับหัวเราะ ดวงตาของวิลเลียสก็ได้เบิกกว้างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเอียงศีรษะที่กำลังสื่อว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่นัตสึโอมิพูด

พอได้ยินแบบนี้ผมก็รู้สึกโชคดีขึ้นมาในทันทีเลยล่ะที่ไม่ได้เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์แบบนั้นที่ทำอะไรผิดนิดๆหน่อยๆก็โดนต่อว่าแล้ว

และผมก็ได้ค้นพบความจริงอีกอย่างว่าในตอนที่วิลเลียสซังทำหน้ามุ่ยนั้น [มันโครตจะน่ารักเลย] ซึ่งนั่นทำให้ผมได้หลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก วิลเลียสซังไปนั่งพักดื่มชารอก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วครับ”

“…ค่ะ…ถ้าฉันอยู่ที่นี่ไปก็จะเกะกะซะเปล่าๆ”

วิลเลียสได้ไปนั่งตรงโต๊ะโคทัตสึอีกครั้งด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิดและเขินอาย นัตสึโอมิได้ล้างจานเสร็จอย่างรวดเร็วและยิ้มให้กับวิลเลียสที่กำลังนั่งก้มหน้าลงพร้อมกับแก้มที่แดงเล็กน้อย

✦✦✦✦✦✦

หลังจากที่ทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จ นัตสึโอมิก็ได้เดินไปส่งวิลเลียสที่หน้าประตูพร้อมกับถุงที่ใส่ซุปผัก,เนื้อ และ มันฝรั่ง

“พรุ่งนี้คุณจะต้องติดต่อบริษัทการไฟฟ้านะครับ แล้วคุณมีเบอร์ติดต่อรึยัง?

“ไม่ค่ะ คือฉันก็ทำเอกสารการใช้บริการเสร็จไปแล้วนะ แต่ว่าฉันก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เลย”

“ห้ะ?”

จู่ๆนัตสึโอมิก็ได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิดมาทำให้เขาได้อุทานออกไป

ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ติดต่อบริษัทการไฟฟ้า จากนั้นก็สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องทำเรื่องอะไรอีก 

จริงๆแล้วมันก็ควรใช้งานได้แล้วสิ จากนั้นจู่ๆก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวของนัตสึโอมิ

“แล้ววิลเลียสซังเปิดคัตเอาต์รึยังครับ?”

“ คัตเอาต์? “

(เป็นแบบที่คิดจริงๆด้วย) นัตสึโอมิได้เข้าใจถึงปัญหา

“ถึงคุณจะทำตามขั้นตอนเสร็จหมดแล้วก็เถอะ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้เปิดคัตเอาต์คุณก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้หรอกนะ”

นัตสึโอมิได้เปิดแผงไฟออกแล้วชี้ไปที่คัตเอาต์ที่อยู่ด้านบนของประตูทางเข้า

“ขอโทษค่ะ เป็นเพราะความไม่รู้ของฉันเองแท้ๆแถมยังต้องให้คุณมาเลี้ยงข้าวอีก”

วิลเลียสยักไหล่ขึ้นท่าทางของเธอในตอนนี้ดูตัวเล็กกว่าเดิมมากแถมยังดูเหมือนจะเป็นการขอโทษมากว่าที่จะเขินอาย 

พอเห็นท่าทางที่รู้สึกผิดแบบนี้ของเธอแล้วนัตสึโอมิก็ยิ้มแห้งๆพร้อมกับพูดออกไปว่า

“ก็อย่างที่บอกไป เรื่องแค่นี้มันธรรมดามากไม่มีใครหรอกที่รู้ทุกอย่างตั้งแต่เกิด คนที่ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหรอกครับ แต่การที่รู้แล้วเพิกเฉยนั่นน่ะมันควรละอายใจมากกว่า เพราะงั้นช่วยอย่ามองผมแบบนั้นได้มั้ยครับ”

“…คาตากิริซัง”

“แล้วอีกอย่างแค่คุณบอกว่าอาหารของผมอร่อยแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

นัตสึโอมิใช้นิ้วเกาสันจมูกพร้อมกับยิ้มอย่างเขินอาย

ช่วงเวลาก่อนที่ผมจะย้ายออกมานั้นผมไม่รู้อะไรเลย ทั้งวิธีการทำอาหาร การใช้เครื่องซักผ้า ถึงขั้นแยกแยะผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ออกเลยล่ะ

แต่พอผมได้เป็นนักเรียนทุนผมก็หลงระเริงว่าตัวเองนั้นสามารถทำทุกอย่างได้แต่ต้องมาพบกับความจริงที่ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกขอบคุณ พ่อแม่ พี่สาว และเคย์ที่ให้ความช่วยเหลือ

ผมได้มองเห็นอดีตของตัวเองซ้อนทับกับวิลเลียสซังเพราะว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวผมในอดีตดังนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วยเธอถึงแม้ว่าจะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่องก็ตาม

“อ่าแล้วอีกอย่างคือ ที่คุณมาเรียนที่นี่ด้วยตัวคนเดียวคุณคงจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองสินะ แต่ว่านั่นน่ะเป็นเรื่องที่สุดยอดมากเลยล่ะ”

“คาตากิริ….ซัง”

ดวงตาสีฟ้าของวิลเลียสได้เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับจับถุงพลาสติกในมือแน่นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นสีหน้าของเธอก็ค่อยๆคลายลงราวกับน้ำแข็งกำลังละลาย และเธอก็เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมาพร้อมกันนัยน์ตาสีฟ้าครามที่เป็นประกาย

“อาจจะจริงอย่างที่คุณว่า ถึงฉันจะยังไม่รู้อะไรมาก แต่ฉันก็ได้เลือกเส้นทางของตัวเองแล้วค่ะ”

วิลเลียสพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม คำพูดของเธอแฝงไปด้วยเจตจำนงที่แรงกล้า

เป็นรอยยิ้มเดียวกันที่เธอแสดงให้นัตสึโอมิเห็นที่โบสถ์ของเย็นวันนี้

(…เวลาเธอยิ้มเนี่ยโครตน่ารักเลยโว้ยย)

นี่ไม่ใช่รอยยิ้มที่เสแสร้ง แต่เป็นร้อยยิ้มที่อ่อนโยนและอบอุ่นเป็นอย่างมาก

มันไม่ได้ทำให้ผมหวั่นไหวหรือใจเต้นรัวเลยนะ นี่มันก็แค่รอยยิ้มที่จริงใจจนผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมแค่นั้นเอง

จากนั้นนัตสึโอมิก็ยิ้มแบบเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกันกับวิลเลียส

“แทนคำขอโทษสำหรับวันนี้ คาตากิริซังช่วยรับคำ “ขอบคุณ” ของฉันได้ไหม?”

“อื้ม ด้วยความยินดี”

ทั้งสองสบตากันพร้อมกับหัวเราะออกมา

สีหน้าและรอยยิ้มของเธอในตอนนี้ดูอ่อนโยนมากต่างจากตอนที่คุยกันในชั้นเรียนและในโบสถ์ราวกับว่าเป็นคนละคนเลย

ถึงยังไงก็เถอะ ด้วยสัญชาตญาณของผมผมสามารถบอกได้เลยว่าตัวตนในตอนนี้ของวิลเลียสซังเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธออย่างแน่นอน

“ถ้าคุณมีปัญหาอะไรละก็ สามารถเรียกผมได้ทุกเมื่อเลยนะ ยังไงก็เป็นหน้าที่ของผมด้วย”
 

“ค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ”

วิลเลียสโค้งคำนับนัตสึโอมิก่อนเดินกลับไปที่ห้องพร้อมกับผมยาวดำที่ปลิวไสวตามสายลมของเธอ

เมื่อนัตสึโอมิเห็นว่าเธอกลับไปแล้วเขาก็กลับเข้าไปในห้อง

นัตสึโอมิเดินไปปิดผ้าม่านที่ลืมปิดไปเมื่อตอนเช้า จากนั้นเขาก็ได้เห็นแสงไฟออกมาจากห้องข้างๆที่สว่างไปถึงดอกซากุระ

เธอคงจะเปิดไฟได้อย่างปล่อยภัยสินะ

“ เจ้าหญิงแปลกๆ ที่อยู่ข้างห้องงั้นเหรอ…”

ขณะที่นัตสึโอมิมองดูตัวเองจากเงาสะท้อนของกระจก ใบหน้าที่มีลอยยิ้มเล็กๆก็ออกมาให้เห็น จากนั้นเขาก็ได้พึมพำคำพูดสองสามคำไปทางดอกซากุระที่มีแสงสลัวๆจากห้องข้างๆก่อนที่จะนำผ้าม่านมาปิด
 

จบตอนที่ 2

 

 ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงเย็นชากับพ่อบ้านคุงขยับเข้ามาอีกก้าวแล้วสินะได้เป็นเพื่อนบ้านเต็มตัวแล้ว

 

เรามาเอาใจช่วยกับความสัมพันธ์ของทั้งสองไปพร้อมๆกันเถอะ

 

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya เลยค้าบบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) 2.2

Now you are reading ผมได้ดูแลคูเดอเรลล่าข้างห้องและลงเอยด้วยการให้กุญแจบ้านกับเธอไป(I Spoiled “Quderella” Next Door and I’m Going To Give Her a Key to My House) Chapter 2.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

隣のクーデレラを甘やかしたら、ウチの合鍵を渡すことになった

 

[ตอนที่ 2.2: ข้าวกล่องครึ่งราคาและไก่คาราอาเกะ]

 

 

“ขอโทษที่ให้รอนะ”

นัตสึโอมิได้วางคาราอาเกะไว้บนโต๊ะเล็กๆและจากนั้นวิลเลียสก็โน้มตัวเล็กน้อยพร้อมกับกะพริบตาด้วยความสงสัย

นี่คือสะโพกไก่ชุบแป้งทอดที่นำมาผัดกับซีอิ๊วและขิงสดที่ได้รับการปรุงรสอย่างลงตัวส่วนด้านใต้ของคาราอาเกะก็เต็มไปด้วยกระหล่ำปรีฝอยที่ผ่านการแช่น้ำเอาไว้เลยทำให้ดูชุ่มฉ่ำ

และนอกจากนี้นัตสึโอมิได้อุ่นซุปมิโสะหมูรสเผ็ดและผักอีกมากมายที่เหลือจากเมื่อวานจากนั้นก็นำมาเสิร์ฟพร้อมกับต้มจืดผักโขมที่เหลือจากเมื่อตอนเช้า
(ผู้แปล : เปลี่ยนจาก ผักโขมต้ม มาเป็นต้มจืดผักโขมน่าจะดูดีกว่า)

โต๊ะในห้องของนัตสึโอมินั้นเป็นโต๊ะโคทัตสึเล็กๆสำหรับคนเดียวเพราะงั้นการที่จะมาใช้ร่วมกันสองคนมันจึงค่อนข้างที่จะแคบไปหน่อยแต่นัตสึโอมิก็สามารถเบียดจานเข้าไปได้
(ผู้แปล : โคทัตสึ-เป็นโต๊ะเล็กๆที่มักจะเอาไว้อุ่นขา )

จากนั้นนัตสึโอมิก็ได้หยิบตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้งคู่นึงออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับวิลเลียสที่กำลังนั่งหลังค่อมเหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆ

“วิลเลียสซังใช้ตะเกียบเป็นไหมครับ? ถ้าไม่เดี๋ยวผมจะไปเอาซ้อมมาให้”

“ค..ค่ะ..ฉันใช้ตะเกียบเป็น…ต..แต่ว่า”

“ถ้าอย่างงั้นก็เขิญกินตามสบายได้เลยครับ”

หลังจากที่ตักข้าวใส่ชามเรียบร้อยแล้ว นัตสึโอมิก็นำมือมาประกบกันแล้วพูดว่า “อิทาดาคิมัส” ก่อนที่จะเริ่มกิน

จากนั้นนัตสึโอมิก็ได้เริ่มจากมิโสะหมู่เป็นอย่างแรก ด้วยความที่ว่ามันถูกทิ้งเอาไว้ข้ามคืนจึงทำให้ส่วนผสมต่างๆได้ซึมซับเข้าไปในนำซุปและเนื้อหมู่อย่างเต็มที่เลยทำให้มันออกมาอร่อยมากเลยล่ะ

สิ่งต่อไปที่นัตสึโอมิเลือกก็คือคาราอาเกะ เขาได้นำตะเกียบไปคีบมาชิ้นนึงแล้วก็กัดลงไป จากนั้นก็มีน้ำที่ชุ่มฉ่ำที่ซ่อนอยู่ด้านในของเนื้อไก่ทอดกรอบทะลักออกมาก ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวกันอย่างซีอิ๊วกับขิงสด ทำให้สามารถพูดได้เลยล่ะว่าคาราอาเกะของวันนี้เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ

ปกตินัตสึโอมิมักจะใส่กระเทียมเพิ่มเข้าไป แต่เขาเกรงว่าวิลเลียสจะไม่ชอบเลยไม่ได้ใส่ลงไป

“เป็นอะไรไป? คุณไม่หิวงั้นเหรอหรือว่ามีอะไรที่ไม่ชอบ?”

นัตสึโอมิหันไปถามวิลเลียสที่กำลังจ้องมองไปที่โต๊ะพร้อมกับถือตะเกียบเอาไว้ในมือโดยที่ยังไม่ขยับ

“เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่เลือกกินหรอกค่ะ…”

“เอาเถอะ ในเมื่อคุณก็นั่งอยู่ที่นี่แล้วทำไมไม่กินก่อนที่มันจะเย็นล่ะ?นี่ไม่ใช่อาหารที่เอาไว้ดูเล่นหรอกนะ”

เมื่อนัตสึโอมิได้บอกเธอไปแบบนั้น เธอก็ได้พยักหน้าและทำตามในสิ่งที่นัตสึโอมิบอกถึงเธอจะมีความลังเลอยู่หน่อยๆก็เถอะ

“ได้ค่ะ งั้นฉันจะกินแล้วนะคะ…”

วิลเลียสได้ประกบมือแล้วพูด “อิทาดาคิมัส” อย่างที่นัตสึโอมิทำไปก่อนหน้านี้ จากนั้นเธอก็ได้นำตะเกียบไปคีบคาราอาเกะมาโดยที่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่เล็กน้อย

จากนั้นเธอก็ค่อยๆนำคาราอาเกะมาที่ริมฝีปากเล็กๆของเธอแล้วก็กัดลงไปโดยที่มีเสียงเคี้ยวเบาๆเล็ดลอดออกมา

“…”

ดวงตาสีฟ้าของวิลเลียสได้เบิกกว้างขึ้นนี่เป็นครั้งแรกเลยล่ะที่นัตสึโอมิได้เห็นดวงตาของเธอเบิกกว้างขนาดนี้

เธอได้พยายามเคี้ยวไก่ในปากให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากนั้นเธอก็กลืนลงไปสีหน้าของเธอในตอนนี้ดูอ่อนโยนและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

“อะ..อร่อย..มันอร่อยสุดๆไปเลยค่ะ”

วิลเลียสได้พูดพลางเอามือปิดปากเอาไว้ จากนั้นเธอก็ได้นำคาราอาเกะอีกชิ้นเข้าปากต่อในทันที

นัตสึโอมิดูพึงพอใจมากเมื่อเห็นวิลเลียสพูดว่า “อร่อย” ทุกครั้งหลังจากที่ชิมอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซุปมิโสะ ต้มจืดผักโขม หรือแม้กระทั่งข้าว นั่นมันทำให้นัตสึโอมิรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก

“ขอบคุณสำหรับอาหาร ครับ/ค่ะ”

เมื่อทั้งสองกินเสร็จ พวกเขาก็ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารพร้อมๆกัน

นัตสึโอมิได้ถามวิลเลียสว่า “จะเอาชามั้ยครับ” เธอก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลถึงจะมีท่าทีเกรงอกเกรงใจออกมาให้เห็นเล็กน้อยอยู่ก็เถอะ

เมื่อนัตสึโอมิได้เห็นวิลเลียสที่กำลังจิบชาอย่างเอร็ดอร่อยเขาก็พยายามกลั้นรอยยิ้มที่เกือบจะหลุดออกมาให้เห็นจากมุมปาก

การแสดงออกของวิเลียสในตอนนี้ดูจะผ่อนคลายขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับตอนแรกที่เข้ามา พอได้เห็นแบบนั้นใบหน้าของนัตสึโอมิก็ผ่อนคลายลงด้วยเช่นกัน

“งั้นผมจะไปล้างจานก่อนนะ ส่วนวิลเลียสซังก็นั่งพักไปเถอะครับ”

“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากจะช่วยคาตากิริซัง”

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็เอาจานไปใส่ไว้ในอ่างนะ เดี๋ยวผมจะเป็นคนล้างเอง”

“ได้ค่ะ”

นัตสึโอมิได้ล้างคราบที่ติดอยู่บนจานออกอย่างรวดเร็วด้วยน้ำยาล้างจาน ส่วนคราบที่ติดอยู่บนเตาก็เอาไว้ทำความสะอาดทีหลัง

ส่วนวิลเลียสก็ยื่นจานทีละใบจากบนโต๊ะให้กับนัตสึโอมิพร้อมกับมองไปที่มือของเขา

“…มีอะไรงั้นเหรอครับ?”

“คือ..ฉันต้องรอให้คาตากิริซังล้างจานให้เสร็จก่อนยื่นให้ใช่มั้ยคะ?”

วิลเลียสเอียงศีรษะด้วยความสงสัยพร้อมกับถือจานเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง

“ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกครับ แค่เอาวางซ้อนกันก็โอเคแล้วครับ”

“แต่ถ้าทำแบบนั้นคราบก็จะติดด้านหลังของจานด้วยไม่ใช่เหรอคะ?”

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะล้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่แล้วครับ”

วิลเลียสได้อ้าปากออกมาเล็กน้อยพร้อมกับสีหน้าประหลาดใจ

“อ๊ะ…ขอโทษนะคะ คือฉันไม่ค่อยชินกับเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่”

 

 

เธอขอโทษอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยใบหน้าที่เขินอาย

ถ้ามองผ่านๆเธอก็อาจจะเหมือนเด็กสาวมัธยมปลายธรรมดาๆที่พักอาศัยอยู่ห้องข้างๆ แต่ผมรู้ว่าภูมิหลังของเธอเป็นเจ้าหญิงเพราะงั้นเธออาจจะไม่คุ้นเคยกับงานแบบนี้

ดังนั้นผมจึงไม่หัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอ

“เรื่องแค่นี้เอง….คุณไม่ต้องขอโทษถึงขนาดนั้นก็ได้”

“เออ..ขอโทษค่ะ…..อ่ะ..ไม่ใช่สิ..คือฉันขอโทษเกี่ยวกับ..”

วิลเลียสที่พยายามจะหยุดขอโทษแต่เธอไม่รู้ว่าควรพูดยังไงถึงจะถูกเพราะงั้นมันจึงลงเอยด้วยการขอโทษอีกครั้ง

เธอมองไปที่นัตสึโอมิด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับขมวดคิ้ว ไหล่ของเธอก็หย่อนลงในขณะที่ประสานปลายนิ้วมือเข้าหากัน

พอนัตสึโอมิได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอ เขาก็หลุดหัวเราะออกมา

“หัวเราะอะไรกันคะ..?”

“เปล่า…ผมแค่คิดว่า วิลเลียสซังเนี่ยเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”

“…น่าสนใจ? ฉันก็คิดว่าคุณจะโกรธฉันซะอีก”

“กะอีเรื่องแค่เนี้ย ผมจะไปโกรธคุณได้ไง”

“ถ้านี่เป็นที่อังกฤษ ทุกคนในบ้านคงจะโกรธฉันแน่ๆค่ะ”

“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเติบโตมายังไง แต่ผมจะไม่โกรธเคืองคุณในเรื่องแบบนี้แน่นอน แล้วที่ผมหัวเราะนั่นก็เพราะว่าวิลเลียสซังน่ะน่ารักน่าเอ็นดูไงล่ะ”

“….น่ารักน่าเอ็นดู?..”

เมื่อนัตสึโอมิได้พูดแบบนั้นออกไปพร้อมกับหัวเราะ ดวงตาของวิลเลียสก็ได้เบิกกว้างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเอียงศีรษะที่กำลังสื่อว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่นัตสึโอมิพูด

พอได้ยินแบบนี้ผมก็รู้สึกโชคดีขึ้นมาในทันทีเลยล่ะที่ไม่ได้เกิดในตระกูลที่สูงศักดิ์แบบนั้นที่ทำอะไรผิดนิดๆหน่อยๆก็โดนต่อว่าแล้ว

และผมก็ได้ค้นพบความจริงอีกอย่างว่าในตอนที่วิลเลียสซังทำหน้ามุ่ยนั้น [มันโครตจะน่ารักเลย] ซึ่งนั่นทำให้ผมได้หลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก วิลเลียสซังไปนั่งพักดื่มชารอก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วครับ”

“…ค่ะ…ถ้าฉันอยู่ที่นี่ไปก็จะเกะกะซะเปล่าๆ”

วิลเลียสได้ไปนั่งตรงโต๊ะโคทัตสึอีกครั้งด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิดและเขินอาย นัตสึโอมิได้ล้างจานเสร็จอย่างรวดเร็วและยิ้มให้กับวิลเลียสที่กำลังนั่งก้มหน้าลงพร้อมกับแก้มที่แดงเล็กน้อย

✦✦✦✦✦✦

หลังจากที่ทำความสะอาดทุกอย่างเสร็จ นัตสึโอมิก็ได้เดินไปส่งวิลเลียสที่หน้าประตูพร้อมกับถุงที่ใส่ซุปผัก,เนื้อ และ มันฝรั่ง

“พรุ่งนี้คุณจะต้องติดต่อบริษัทการไฟฟ้านะครับ แล้วคุณมีเบอร์ติดต่อรึยัง?

“ไม่ค่ะ คือฉันก็ทำเอกสารการใช้บริการเสร็จไปแล้วนะ แต่ว่าฉันก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เลย”

“ห้ะ?”

จู่ๆนัตสึโอมิก็ได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิดมาทำให้เขาได้อุทานออกไป

ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ติดต่อบริษัทการไฟฟ้า จากนั้นก็สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องทำเรื่องอะไรอีก 

จริงๆแล้วมันก็ควรใช้งานได้แล้วสิ จากนั้นจู่ๆก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวของนัตสึโอมิ

“แล้ววิลเลียสซังเปิดคัตเอาต์รึยังครับ?”

“ คัตเอาต์? “

(เป็นแบบที่คิดจริงๆด้วย) นัตสึโอมิได้เข้าใจถึงปัญหา

“ถึงคุณจะทำตามขั้นตอนเสร็จหมดแล้วก็เถอะ แต่ถ้าคุณยังไม่ได้เปิดคัตเอาต์คุณก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้หรอกนะ”

นัตสึโอมิได้เปิดแผงไฟออกแล้วชี้ไปที่คัตเอาต์ที่อยู่ด้านบนของประตูทางเข้า

“ขอโทษค่ะ เป็นเพราะความไม่รู้ของฉันเองแท้ๆแถมยังต้องให้คุณมาเลี้ยงข้าวอีก”

วิลเลียสยักไหล่ขึ้นท่าทางของเธอในตอนนี้ดูตัวเล็กกว่าเดิมมากแถมยังดูเหมือนจะเป็นการขอโทษมากว่าที่จะเขินอาย 

พอเห็นท่าทางที่รู้สึกผิดแบบนี้ของเธอแล้วนัตสึโอมิก็ยิ้มแห้งๆพร้อมกับพูดออกไปว่า

“ก็อย่างที่บอกไป เรื่องแค่นี้มันธรรมดามากไม่มีใครหรอกที่รู้ทุกอย่างตั้งแต่เกิด คนที่ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหรอกครับ แต่การที่รู้แล้วเพิกเฉยนั่นน่ะมันควรละอายใจมากกว่า เพราะงั้นช่วยอย่ามองผมแบบนั้นได้มั้ยครับ”

“…คาตากิริซัง”

“แล้วอีกอย่างแค่คุณบอกว่าอาหารของผมอร่อยแค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

นัตสึโอมิใช้นิ้วเกาสันจมูกพร้อมกับยิ้มอย่างเขินอาย

ช่วงเวลาก่อนที่ผมจะย้ายออกมานั้นผมไม่รู้อะไรเลย ทั้งวิธีการทำอาหาร การใช้เครื่องซักผ้า ถึงขั้นแยกแยะผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ออกเลยล่ะ

แต่พอผมได้เป็นนักเรียนทุนผมก็หลงระเริงว่าตัวเองนั้นสามารถทำทุกอย่างได้แต่ต้องมาพบกับความจริงที่ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย

นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกขอบคุณ พ่อแม่ พี่สาว และเคย์ที่ให้ความช่วยเหลือ

ผมได้มองเห็นอดีตของตัวเองซ้อนทับกับวิลเลียสซังเพราะว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวผมในอดีตดังนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วยเธอถึงแม้ว่าจะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่องก็ตาม

“อ่าแล้วอีกอย่างคือ ที่คุณมาเรียนที่นี่ด้วยตัวคนเดียวคุณคงจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองสินะ แต่ว่านั่นน่ะเป็นเรื่องที่สุดยอดมากเลยล่ะ”

“คาตากิริ….ซัง”

ดวงตาสีฟ้าของวิลเลียสได้เบิกกว้างขึ้น พร้อมกับจับถุงพลาสติกในมือแน่นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นสีหน้าของเธอก็ค่อยๆคลายลงราวกับน้ำแข็งกำลังละลาย และเธอก็เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมาพร้อมกันนัยน์ตาสีฟ้าครามที่เป็นประกาย

“อาจจะจริงอย่างที่คุณว่า ถึงฉันจะยังไม่รู้อะไรมาก แต่ฉันก็ได้เลือกเส้นทางของตัวเองแล้วค่ะ”

วิลเลียสพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม คำพูดของเธอแฝงไปด้วยเจตจำนงที่แรงกล้า

เป็นรอยยิ้มเดียวกันที่เธอแสดงให้นัตสึโอมิเห็นที่โบสถ์ของเย็นวันนี้

(…เวลาเธอยิ้มเนี่ยโครตน่ารักเลยโว้ยย)

นี่ไม่ใช่รอยยิ้มที่เสแสร้ง แต่เป็นร้อยยิ้มที่อ่อนโยนและอบอุ่นเป็นอย่างมาก

มันไม่ได้ทำให้ผมหวั่นไหวหรือใจเต้นรัวเลยนะ นี่มันก็แค่รอยยิ้มที่จริงใจจนผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมแค่นั้นเอง

จากนั้นนัตสึโอมิก็ยิ้มแบบเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกันกับวิลเลียส

“แทนคำขอโทษสำหรับวันนี้ คาตากิริซังช่วยรับคำ “ขอบคุณ” ของฉันได้ไหม?”

“อื้ม ด้วยความยินดี”

ทั้งสองสบตากันพร้อมกับหัวเราะออกมา

สีหน้าและรอยยิ้มของเธอในตอนนี้ดูอ่อนโยนมากต่างจากตอนที่คุยกันในชั้นเรียนและในโบสถ์ราวกับว่าเป็นคนละคนเลย

ถึงยังไงก็เถอะ ด้วยสัญชาตญาณของผมผมสามารถบอกได้เลยว่าตัวตนในตอนนี้ของวิลเลียสซังเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธออย่างแน่นอน

“ถ้าคุณมีปัญหาอะไรละก็ สามารถเรียกผมได้ทุกเมื่อเลยนะ ยังไงก็เป็นหน้าที่ของผมด้วย”
 

“ค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ”

วิลเลียสโค้งคำนับนัตสึโอมิก่อนเดินกลับไปที่ห้องพร้อมกับผมยาวดำที่ปลิวไสวตามสายลมของเธอ

เมื่อนัตสึโอมิเห็นว่าเธอกลับไปแล้วเขาก็กลับเข้าไปในห้อง

นัตสึโอมิเดินไปปิดผ้าม่านที่ลืมปิดไปเมื่อตอนเช้า จากนั้นเขาก็ได้เห็นแสงไฟออกมาจากห้องข้างๆที่สว่างไปถึงดอกซากุระ

เธอคงจะเปิดไฟได้อย่างปล่อยภัยสินะ

“ เจ้าหญิงแปลกๆ ที่อยู่ข้างห้องงั้นเหรอ…”

ขณะที่นัตสึโอมิมองดูตัวเองจากเงาสะท้อนของกระจก ใบหน้าที่มีลอยยิ้มเล็กๆก็ออกมาให้เห็น จากนั้นเขาก็ได้พึมพำคำพูดสองสามคำไปทางดอกซากุระที่มีแสงสลัวๆจากห้องข้างๆก่อนที่จะนำผ้าม่านมาปิด
 

จบตอนที่ 2

 

 ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงเย็นชากับพ่อบ้านคุงขยับเข้ามาอีกก้าวแล้วสินะได้เป็นเพื่อนบ้านเต็มตัวแล้ว

 

เรามาเอาใจช่วยกับความสัมพันธ์ของทั้งสองไปพร้อมๆกันเถอะ

 

ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ แปลมังงะ By.Kiruya เลยค้าบบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+